“พี่ลืมสัญญาผมได้ยังไง”

ถ้าหากไม่สัญญาตอนเมา แสนดีก็คงจะพอนึกออกอยู่หรอกนะ นี่สัญญาอะไรไม่รู้กับคนที่เมาไม่รู้เรื่องอีก แสนดีถึงกับเกาหัวด้วยความงงงวย ขณะที่สถานการณ์กำลังตึงเครียดเพราะคำสัญญาของเด็กน้อย คนที่ไม่คิดว่าจะมาก็ปรากฏตัวขึ้น เสียงแกล้งไอในลำคอเรียกความสนใจคนที่บังอาจกุมมือแฟนของเขาอยู่ มะยมที่เห็นคนแปลกหน้ามาเยือน เขาก็สงสัยไม่มีใครในหมู่บ้านที่เขาไม่รู้จัก เด็กตัวโตเลยหันไปถามคนที่ตัวแอบรัก

“นี่ใครอะพี่”

“คือพี่เขาชื่อ...อนาธิป”

“แล้วเป็นเพื่อนพี่เหรอ”

ไม่ทันได้ตอบอะไรอนาธิปก็ชิงตอบก่อนทันที

“ไม่ได้เป็นเพื่อนครับ เป็นแฟน...รักกันมากด้วย”

อนาธิปเน้นชัดคำว่าแฟนกว่าทุกสิ่งด้วยรอยยิ้มของคนที่ชนะ มะยมที่ได้ยินคนแปลกหน้าพูดังนั้นก่อนรีบหันไปถามหาความจริงจากแสนดีที่กำลังยิ้มแหย ๆ อยู่

“คบ? พี่คบกับคนแบบนี้เหรอ”

อนาธิปที่ได้ยินว่าคนแบบนี้แล้วอยากจะตบปากเด็กน้อยคนนี้จริง ๆ

“ก็ใช่...เขาเป็นแฟนพี่นั่นแหละ”

มะยมที่ได้ยินคำตอบก็ทำเอาพูดไม่ออก มองหน้าแสนดีสักพักก่อนจะเดินจากไปไม่ลาสักคำเดียว...สงสัยคงเศร้าจริง หลังจากเด็กน้อยไปแล้ว อนาธิปก็เดินมาแล้วนั่งลงข้าง ๆ แสนดี เขารู้สึกแล้ว...คำว่าหึงมันชัดเจนออกมาทางสีหน้าขนาดนั้น มันคงเหมือนกับตอนที่แสนดีหึงแล้วงอนที่โรงแรมเมื่อคราวนั้น

“เป็นยังไงล่ะ ทำน้องเขาเสียใจเลย”

แสนดีเอ่ยแซว

“สุดท้ายก็ต้องรู้อยู่แล้วหรือหนูแสนดีอยากเก็บกิ๊กเด็กเอาไว้คะ?”

“ได้เหรอ”

แสนดีแกล้งทำตาวาวแต่มีหรืออนาธิปจะยอม!

“ข้ามศพพี่ไปก่อนแล้วกัน แค่มีคนหล่อ ๆ อย่างพี่ก็พอแล้วค่ะ”

“รู้สึกมั่นใจจังเลยเนอะ”

“แน่นอน พี่มั่นใจว่าหนูคลั่งรักไม่ต่างจากพี่หรอกค่ะ”

“ก็จริง...”

ขณะที่ทั้งสองคนกำลังอินเลิฟกันอยู่นั้น ก็ดันถูกขัดจังหวะด้วยเสียงของใครบางคนเข้า

“พี่แสนดี แม่เรียกให้ไป...”

แสนหล่อขี่จักรยานคันโปรดของตัวเองมาเรียกพี่ชายของตัวเองที่เถียงนา...ตั้งแต่ปิดเทอมแสนหล่อก็กลับมาที่เพชรบูรณ์ก่อนแสนดีจะกลับมา ตอนแรกสองพี่น้องจะกลับมาพร้อมกัน แต่เพราะงานที่เร่งด่วนและเด็กน้อยดูคิดถึงแม่เหลือเกินแสนหล่อเลยถูกส่งตัวกลับมาที่บ้านก่อน และแสนหล่อก็ยังไม่เคยเจอพี่เขยตัวเป็น ๆ แบบนี้

และมันเป็นการเผชิญหน้าครั้งแรกของแสนหล่อและอนาธิป

“ถ้าอย่างนั้น...ผมกลับก่อนดีกว่า”

แสนหล่อที่กำลังจะกลับไปก่อนเพราะไม่กล้าเผชิญหน้ากับอนาธิปเพราะวีรกรรมเมื่อที่ทำอยู่คราวนั้นยังคงตราตรึงแต่ทว่าน้ำเสียงเรียบนิ่งของอนาธิปก็เอ่ยเรียกให้น้องชายของแฟนหยุดก่อน

“แสนหล่อใช่ไหม มาหาพี่หน่อย”

แสนหล่อกลับหันหลังมาอีกครั้ง แล้วขอความช่วยเหลือจากพี่ชายแต่ทว่าพี่ชายของเขาก็ดูเหมือนจะสนับสนุนคนรักของตัวเอง แสนดีคิดว่าอนาธิปคงไม่ทำอะไรเด็กตัวแค่นี้ อาจจะแค่ตบกบาลแหละ แสนหล่อก้มหน้าแล้วเดินเข้ามาหาคนที่ตัวเองปากแจ๋วใส่เมื่อครั้งอดีต

“ครับ...”

“เราเป็นคนพิมพ์ใช่ไหมเมื่อตอนนั้น”

อนาธิปคิดว่าแสนหล่อรู้ว่าเหตุการณ์ แสนหล่อก้มหน้างุดแต่ก็พยักหน้าและขานรับเป็นคำตอบ

“ครับ...”

“แล้วรู้ใช่ไหมว่าพี่ของเราลำบากมากแค่ไหน ตอนนั้น”

แสนหล่อไม่แน่ใจกับเรื่องเมื่อตอนนั้นมากนัก รู้เพียงแต่ว่าแสนดีไม่คุยเล่นกับเขาอยู่พักหนึ่งเลย เขาเห็นพี่ชายนั่งเครียดและนอนไม่หลับมาหลายคืน แต่แสนหล่อก็พอที่จะสถานการณ์ออกมาต้นเหตุมาจากตน เขารู้สึกผิดแต่กลับช่วยอะไรพี่ชายของตัวเองไม่ได้เลยสักนิด...ทั้งที่ปัญหามันเกิดขึ้นเพราะเขาเองแท้ ๆ

“ครับ...”

ขานรับด้วยน้ำเสียงที่แทบจะไม่ได้ยิน...เพราะความกลัว

“พี่ไม่แน่ใจว่าแสนหล่อทำมันไปเพราะอะไร แต่พี่อยากให้จำเรื่องนี้ให้เป็นบทเรียนเวลาที่จะพิมพ์หรือว่าด่าใคร เราต้องดูว่าสมควร พูดได้แต่ก็ต้องรับผลที่ตามมาด้วย พี่มองว่าคนเราสามารถตำหนิกันได้ด้วยเหตุผล ติเพื่อก่อ ไม่ใช่ติหรือด่าไปเพื่อระบายอารมณ์หรือเหตุผลใด ๆ ก็แล้วแต่”

แสนหล่อเงยหน้ามองคนที่ตัวเองเคยด่าด้วยอารมณ์ เป็นครั้งแรกที่แสนหล่อมองใบหน้าของอนาธิปใกล้มากขนาดนี้

“พี่...เป็นคนเล่นเกมนั้นเหมือนกันนะ รู้ไหม ถ้าหากย้อนดูสตรีมก่อน ๆ ที่พี่เคยเล่น แต่รู้ไหมพี่ถึงพูดแบบนั้นออกไป”

“ไม่รู้ครับ”

“เพราะพี่คิดว่าพี่เป็นคนเล่น พี่เสียตังค์ไปมากกับเกมพวกนี้ แล้วในฐานะของผู้เล่น พี่คิดว่าเราสามารถติเขาเพื่อให้เขาพัฒนาไปในด้านที่ดี ไม่ใช่เพื่อพี่แต่เพื่อผู้เล่นทุกคนที่ต่างกันก็เรียกร้องกันมานาน แล้วก็นะ ต่อให้เราไม่ใช่คนสร้างเกมหรือสร้างเกมขึ้นมาได้หรือไม่...เราก็ติเขาได้นะ”

อนาธิปมักนึกถึงคำพูดที่ว่า ถ้าไม่พอใจ ก็สร้างเกมเองเลยสิ เป็นคำพูดที่มักหลุดจากปากคนเห็นแก่ตัวมานาน

“ครับ”

“ถ้าอย่างนั้น จะชดใช้แทนพี่ชายยังไงดี พี่เขาเสียตังค์ไปเยอะกับการโดนฟ้องนะ”

แสนดีหลุดขำ เขาแทบไม่ทรัพย์สินสักบาทเพราะคนที่ฟ้องเขาออกค่าใช้จ่ายให้ทั้งหมด แสนหล่อหันมามองหน้าผู้เป็นพี่ชายเหมือนจะขอความเห็น แสนดีก็นึกขอเสนอหนึ่งออก แล้วแกล้งพูดออกมา

“ถ้าอย่างนั้น ก็ให้บำเพ็ญจิตอาสาทำความสะอาดดูแลวัดที่บ้านเราก็แล้วกัน”

“จำเอาไว้นะ ทุกคำพูดต่างมีสิ่งที่ต้องจ่ายกันทั้งนั้น”

“ครับ...”

เมื่อได้ข้อสรุปแบบนั้น อนาธิปก็ลูบหัวทุย ๆ ของเด็กน้อยด้วยความเอ็นดู แสนดีที่เห็นแบบนั้นก็กลั้นยิ้มไม่ไหว...ก็แค่รู้สึกรักผู้ชายคนนี้มากขึ้นเรื่อย ๆ เท่านั้นเอง เขาอาจไม่ได้คลั่งเพราะความหล่อ แต่คลั่งความแสนดีของเขาต่างหาก

 

“ดาว...ยังคงสวยเหมือนเดิมเลย”

แสนดีพูดจากใจจริง แค่มองดวงดาวจากพื้นโลกแล้วจินตนาการถึงนอกอวกาศมันอาจเป็นความสุขอยู่อย่างหนึ่ง เขาเดินมาที่ระเบียงของบ้าน แล้วมองดูจากตรงนี้ มันเป็นนิสัยติดมาตั้งแต่เด็กที่ชอบมามองดาวจากตรงนี้ มักจะเป็นช่วงก่อนนอน ก่อนที่จะไม่ได้รับความรู้สึกเมื่อเติบโตขึ้น...จนถึงช่วงทำงานเขาก็ยังมักเป็นแบบนี้อยู่ตลอด

“หนูแสนดี”

เสียงของอนาธิปเรียกชื่อของเขา แสนดีหันกลับหลังไปมองผู้ชายที่ยังคงอยู่บ้านของแสนดี เขาเดินเข้ามาหาแสนดีแล้วหย่อนตัวนั่งลงข้าง ๆ คนรักของเขา มองดูท้องฟ้าที่มีดวงดาวหลายนับสะพรั่งอยู่บนนั้น

“ไม่แปลกใจเลย ทำไมชอบมอง มันก็สวยเหมือนที่หนูบอกเลย”

“นึกว่าพี่นอนไปแล้ว”

แสนดีพูดขึ้นเพราะหลังทานอาหารเสร็จคนที่เดินทางมาเหนื่อย ๆ ก็หลับปุ๋ยทันทีตั้งแต่สองทุ่ม

“ก็หลับแล้ว แต่ไม่เห็นหนูแสนดีก็เลยตื่นขึ้นมา”

“ทำไมพี่บอกว่าดาวสวย แล้วมองมาที่หน้าของผมล่ะ”

“ก็หนูสวยเหมือนดาวยังไงคะ ต่อให้มีอะไรมาแลกพี่ก็ไม่ยอมเสียหนูไป”

แสนดีอดยิ้มไม่ได้ ก่อนจะยืนมาจับกุมมือของอนาธิปเอาไว้ ดวงตาคู่สวยยังคงจ้องมองที่บนท้องฟ้านั้น แล้วเอ่ยบางคำถามออกมา...เป็นคำถามที่พอมองดวงดาวนับล้านก็นึกขึ้นมาได้

“พี่คิดว่าความรักของเรามันจะยังคงอยู่ตลอดไปไหม”

“พี่ตอบคำถามนี่ไม่ได้หรอก แต่ว่าเราสามารถทำทุกอย่างให้มันดีขึ้นทุกวันมันก็เพียงพอแล้ว เราต่างดูแลซึ่งกันและกัน เป็นทั้งผู้รับและผู้ให้ ต่อให้ความรักของเราไม่คงอยู่แต่ความทรงจำดี ๆ ของเราสองคนมันจะติดตราตรึงไปนานเท่านาน สิ่งนั้นถึงเรียกว่าตลอดกาลจริง ๆ”

แสนดีหันมาสบตาอนาธิป...แล้วคิดว่าสายตาอนาธิปมันก็งดงามและพรั่งพราวเหมือนกับดวงดาวที่อยู่บนฟากฟ้าและรอยยิ้มเจิดจ้าเป็นเหมือนพระอาทิตย์และพระจันทร์ที่นำทางให้เรามาเจอกัน แม้ค่ำคืนเพียงคืนเดียวแต่มันก็นำทางมาให้เราได้รักกันมากขนาดนี้...ไม่มีเหตุและผลเลยสักนิด แต่ใครกันเล่าที่จะปฏิเสธหัวใจของกันและกันได้

และทั้งสองคนก็รู้แล้วว่าต่อจากนี้เขาจะทำให้ตลอดกาลนั้นมีจริงขึ้นมาหรือเปล่า?

________________________________________________________________________________________________

จบแล้วในที่สุดฮ่า ๆ เรื่องนี้ใช้เวลาเขียนพักหนึ่งเลย ส่วนตัวไม่ถนัดเขียนเรื่องยาว ๆ มากนนัก และไรท์พยายามเขียนให้ออกมาดีที่สุด เป็นเรื่องที่เขียนพักหนึ่งคือนานมากจริง ๆ สำหรับไรท์ และใช่ ตัวละครที่ไรท์แอบโปรยไว้ใส่ตอนต่าง ๆ อาจจะไปโผล่หรือมีบทในเรื่องราวเซ็ตต่อไป เรื่องจะดำเนินด้วยตัวละครที่ชื่อบุพเพ และอาจมีน้องมะยมเข้ามาแจมด้วยแน่ ๆ อยากให้ทุกคนรอติดตามกันด้วยน้า!