ฉากที่ 5

อยู่เคียงข้างแม้นยามฝัน

 

"แหวะ แหวะ ฮือออ พอได้แล้วน่าเจ้าตัวเล็ก อย่าแกล้งกันเลย อ้วกก แหวะ จะอยู่ด้วยกันก็ต้องไม่แกล้งแบบนี้สิ ห้ามทำให้เป็นแบบนี้นะ ฮือออ หยุดเลยนะ แด๊ดจะงอนแล้วนะครับ" เจย์เลนปล่อยโฮออกมาพร้อมกับน้ำใส ๆ ที่พากันมาจุกอยู่คอหอย ร่างเล็กเหนื่อยล้ากอดชักโครกเพื่อนรักอย่างหมดสภาพกับอาการแพ้ท้องของตัวเองที่เป็นหนักถึงกินยาแก้แพ้ก็ไม่ช่วยสักนิด

"อ่าา เวียนหัวเป็นบ้า" เจย์เลนเกาะผนังห้องเป็นที่พึ่งพยายามพาร่างตัวเองออกมาจากห้องน้ำอย่างทุลักทุเลเมื่อเห็นว่าตัวเองไม่ได้อยากอาเจียนแล้วพลางมองท้องฟ้าด้านนอกที่ยังมืดอยู่ก่อนจะเหลือบไปเห็นนาฬิกาที่หัวนอนบอกเวลาตีห้าครึ่งไม่ขาดไม่เกิน เขาจึงตัดสินใจที่จะนอนต่อเพราะเรี่ยวแรงราวกับถูกสูบให้เหือดหาย เมื่อหัวถึงหมอนก็หลับไปเลยโดยไม่เสียเวลา

กระทั่งช่วงสายไม่ว่านาฬิกาที่ตั้งปลุกไว้จะแผดเสียงร้องเท่าไหร่เขาก็ไม่ยอมตื่นจนมีใครคนหนึ่งมากดกริ่งที่หน้าห้อง กดเรียกซ้ำ ๆ จนต้องลุกขึ้นมาจนได้แต่การลุกเร็วไปทำให้คนตัวเล็กเวียนหัวต้องทรุดร่างลงไปนอนตามเดิม ปล่อยให้เสียงน่ารำคาญดังอยู่แบบนั้นพักใหญ่จึงออกไปเปิดประตู

"จะกดจนมันพังเลยหรือไงฮะ! มาทำไมแต่เช้า!" เจย์เลนตะโกนถามเสียงเขียวโดยไม่ทันมองให้ดีว่าคนตรงหน้าคือใคร "เอาซุปกับนมมาฝาก วันนี้มีประชุมกองพี่ก็เลยมารับไง เมื่อคืนส่งข้อความบอกแล้วนะ"

พอได้ยินเสียงทุ้มที่คุ้นหูเจย์เลนถึงได้ลืมตาตื่นเต็มตาพร้อมกับคังจุนที่กำลังจะก้าวเข้ามาในห้องวินาทีนั้นอาการคลื่นเหียนก็ตีขึ้นมาทันใด ร่างเล็กวิ่งเข้าไปในห้องตรงไปห้องน้ำไวสุดเท่าที่จะไวได้แล้วปล่อยน้ำใส ๆ รสขมออกมาจู่ ๆ ภาพก็มืดลงกะทันหัน ร่างสูงที่วิ่งตามเข้ามาทำอะไรไม่ถูกได้แต่ลูบหลังลูบไหล่ให้ แต่เจย์เลนก็ผลักอีกฝ่ายหนีปัดป่ายมือพยายามทุกทางที่จะให้คังจุนออกไปไกลตัวแม้ภาพตรงหน้าโอนเอนรุนแรงก็ปฏิเสธการช่วยเหลือ

"แหวะ อ้วกกก ออกไป เหม็น อ่อก ออกไปนะพี่จุน!"

"เหม็นอะไร ทำไมอะ พี่อาบน้ำมาแล้วนะ"

"อึ่ก ออกไปพี่!! ผมเหม็นพี่เนี่ย อ้วกกก แสบจมูกฉิบหายเลย อ้วกกกก"

"..."

คังจุนหนุ่มแก้มบุ๋มรับสถานการณ์ไม่ถูกทำได้เพียงถอดเสื้อตัวเองโยนทิ้งไปแล้วเข้าไปประคองรุ่นน้องที่ร่างกายกำลังทรุดลงกับพื้นจากอาการหน้ามืด กระนั้นคนท้องก็ไม่วายทั้งผลักทั้งทุบรุ่นพี่คนสนิทให้ออกไปไกลตัวเพราะกลิ่นน้ำหอมมันยังคงหลงเหลืออยู่

"บอกกียุลมันไปเถอะน่า จะมาปิดบังมันทำไม มันเป็นพ่อก็ให้มันดูแลนายกับลูกสิ ถ้านายไม่ยอมให้พี่มาอยู่ด้วยก็ต้องเป็นมันแล้วล่ะ นายอยู่คนเดียวไม่ได้หรอกเป็นลมเป็นแล้งหัวฟาดพื้นตายทั้งกลมเฮี้ยนนะเว้ย พี่กลัวผี"

ใบหน้าซีดเซียวสลบไสลอยู่ในอ้อมอกของคันจุน ตาลืมแทบไม่ขึ้นด้วยซ้ำไม่มีแรงมาขำให้มุกฝืดหรอก T__T

"ก็ไม่ได้จะปิดเขานะพี่ อึ่ก แค่ยังไม่มีจังหวะบอก ผมไม่ได้งี่เง่าขนาดนั้น ไม่ใช่นางเอกซีรีส์ที่จะหอบลูกหนีพระเอกซะเมื่อไหร่ไม่ได้อยากน้ำเน่าเลยเว้ย แค่ก แค่ก"

เสียงหวานเอ่ยแหบแห้ง เขาคิดมาดีแล้วว่าจะต้องบอกกียุลเรื่องที่เขาท้องแต่ว่าจะต้องไม่มีอะไรในความสัมพันธ์ของพวกเขานอกจากการเป็นผู้ปกครองของลูกร่วมกัน คนตัวโตส่ายหัวเหนื่อยใจก่อนจะจับคนตัวเล็กกว่าไว้มั่นคง ล้างหน้าล้างตาเช็ดปากให้แล้วอุ้มไปส่งถึงเตียง ดูแลอย่างดีแม้จะทำอะไรไม่ค่อยเป็นก็พยายามจะช่วยรุ่นน้องที่รักเหมือนน้องชายสายเลือดเดียวกัน

"พี่สามารถโทรหามันแล้วบอกเรื่องนายท้องได้ตอนนี้เลยนะ ไม่ได้ยาก นายทำให้ยากทำไม"

"ไม่เอาพี่ เดี๋ยวผมบอกเขาเอง เขากำลังยุ่งกับงาน"

เมื่อคืนตอนตีหนึ่งเจย์เลนแอบส่องดูแอคเคาท์ทวิตเตอร์ของกียุลแล้วพบว่าผู้กำกับหนุ่มกำลังหนักใจเรื่องบทหนังที่กำลังทำส่งผลให้เจย์เลนเป็นห่วงจนไม่อาจข่มตาให้นอนหลับได้

 

MGYWorld : แก้บทอีกแล้ว

(ภาพหน้าจอคอมพิวเตอร์ที่เบลอเนื้อหาในจอไว้)

 

เขาลงมือแก้บทอยู่ คงจะเหนื่อยไม่น้อยเจย์เลนเลยไม่คิดจะบอกเรื่องลูกในช่วงนี้ อย่างน้อยก็ให้เปิดกล้องถ่ายทำภาพยนตร์ไปสักพักก่อนนั่นแหละเขาถึงจะบอก เขาไม่อยากให้กียุลต้องเครียดหนักกว่าเดิม นึกแล้วก็บ้าดีเหมือนกันทำไมไม่คิดส่องชีวิตกียุลผ่านโซเชียลตลอดหลายปีที่ผ่านมานะ ทำไมถึงทรมานใจตัวเองแล้วก็อดทนเก่งขนาดนี้หัวคิ้วย่นขึ้นเล็กน้อยเมื่อครุ่นคิด นั่นสิทำไมเจย์เลนต้องทำถึงขนาดนี้คงไม่มีใครเข้าใจเขาได้นอกจากเขาเองซึ่งดูแล้วก็เหมือนว่าเขายังไม่เข้าใจตัวเองด้วยซ้ำ

"นายจะไม่ยอมใช่ไหม เฮ้อ อยากกินอะไรไหม"

"ขออะไรเปรี้ยว ๆ ได้ไหมพี่ อ่าา ผมขอนอนก่อนดีกว่า พี่ตัวเหม็นมากด้วยไปไกล ๆ"

"ถ้าหลานไม่อยู่ในท้องจะเบิ้ดกะโหลกสักที ดื้อ!"

คังจุนเท้าเอวมองคนบนเตียงก่อนจะดึงผ้าห่มมาคลุมร่างน้องไว้แล้วถือวิสาสะเดินไปหาเสื้อผ้าตัวเองในตู้เสื้อผ้าของเจย์เลนเพื่อไปอาบน้ำ ไม่ต้องแปลกใจพ่อหนุ่มหุ่นหมีมานอนพักที่เพนต์เฮาส์เจย์เลนบ่อยครั้งและที่ต้องไปอาบน้ำก็เพราะตัวดีบนเตียงบอกว่าเขาตัวเหม็น แต่ในระหว่างที่กำลังอาบน้ำอยู่ก็มีแขกมากดกริ่งที่หน้าห้องจึงทำให้คังจุนต้องนุ่งผ้าเช็ดตัวลวก ๆ ไปเปิดประตูอย่างรีบร้อน ร่างสูงดูจอฮอโลแกรมข้างประตูแวบหนึ่งก่อนจะเปิดรับผู้มาเยือน

"ไงกียุล"

"เจย์- อ้าว เจย์เลนล่ะ -_-"

กียุลสำรวจร่างกายคังจุนแล้วใจแป้ว ผ้าขนหนูที่พันรอบเอวอย่างหมิ่นเหม่รีบร้อน ร่างกายที่ชื้นแฉะเต็มไปด้วยเหงื่อ (คิดไปเองเป็นตุเป็นตะ) และมีรอยข่วนพร้อมจ้ำแดง ๆ ทำให้มนุษย์แฟนเก่าหน้าเหวอไปเลย หวังว่าสองคนนี้จะสนิทกันในฐานะรุ่นพี่รุ่นน้องเฉย ๆ นะ กียุลภาวนา เขาจะคุยนอกรอบกับคังจุนเรื่องเจย์เลนหลายครั้งแล้วแต่งานเขาเยอะจนไม่มีเวลา แล้วไอ้เพื่อนคนนี้มันก็งานเยอะเหมือนกัน สงสัยเขาปล่อยไว้ไม่ได้แล้วล่ะต้องเคลียร์ให้รู้ดำรู้แดงสักที

"น้องมันหลับอยู่ เข้ามาดิ เอาไรมาเยอะแยะ ไปวางไว้บนโต๊ะในครัวเลย จานอยู่ชั้นล่างหยิบมาใส่อาหารซะ ฉันไปแต่งตัวก่อน พึ่งอาบน้ำมา"

ท่าทีของคังจุนที่รู้ทุกซอกทุกมุมในห้องเป็นอย่างดีทำให้กียุลไม่สบายใจกลัวว่าสิ่งที่คิดในหัวจะเป็นจริง แต่ไม่ ๆ ต้องไม่ใช่ เขาปลอบใจตัวเองพลางสงบสติ

ไม่นานคังจุนก็กลับมาพร้อมท่าทีหิวโหย เขาถูฝ่ามือเตรียมพร้อมทานอาหารแต่โดนขัดซะก่อนจะได้ลงมือกิน

"เจย์เลนล่ะ ฉันเอามาให้น้องเขากินนะ ไม่ใช่ให้นาย"

"มันกินไม่ได้หรอก มันไม่สบาย ทีหลังนายติดมะม่วงไม่ก็ผลไม้เปรี้ยว ๆ มาจะดีกว่า อาหารก็พวกซุปแล้วก็เครื่องเคียงแบบนั้นเจย์เลนกินได้เยอะ แต่อย่าให้กินเยอะนะพวกเครื่องเคียงรสมันจัดไป" คังจุนศึกษามาแล้วเป็นอย่างดีเรื่องที่คนท้องควรจะกินอะไร แต่โทษทีกียุลก็รู้ว่าเจย์เลนชอบกินอะไรผู้กำกับหนุ่มยิ่งค้อนตาขวางที่เพื่อนตัวดีทำรู้ดีกว่าเขา

"นายดูรู้เรื่องเจย์เลนดีนะ ไม่คิดว่าจะสนิทกันขนาดนี้ นี่มาแต่เช้าหรือเมื่อคืนอยู่นี่ล่ะ?" กียุลเอ่ยเสียงเย็นแต่ใบหน้ายิ้ม นั่นทำคังจุนขนลุกขึ้นมาเลยจากที่กำลังกินอาหารอย่างเอร็ดอร่อยถึงกับต้องยกน้ำมาดื่มแทน กียุลเป็นผู้ชายลุคอบอุ่นใจดีก็จริงอยู่ แต่ถ้าได้โกรธฟิวส์ขาดละก็... คังจุนเคยเห็นมาแล้วก็เลยขยาดกลัว

"อ่าา เอ่อ ฉันมาตอนเช้าเอาอาหารมาให้เจย์เลน พึ่งนึกได้เลย ฉันมีธุระพอดีต้องรีบไปว่ะ วันนี้ประชุมกองบ่ายโมงด้วยใช่ไหม ฉันไปก่อนนะเดี๋ยวกลับไปประชุมไม่ทัน ฝากอยู่กับเจย์เลนก่อนนะ พามันไปประชุมด้วยเลยละกัน ฉันไปแล้ว" ทุกอย่างเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วคังจุนออกไปจากห้องโดยเวลาไม่ถึงห้านาที ปล่อยให้กียุลกับเจย์เลนอยู่ในห้องกันสองคน

"โอ้กกก อ้วกกก พี่จุน แหวะ พี่จุนช่วยผมหน่อย อ้วกกก"

อย่างกับมีคนปล่อยคิวแสดงเสียงคนแพ้ท้องลุกขึ้นมาขันแทนไก่ดังอีกครั้งให้กียุลต้องรีบเข้าไปดู ร่างเล็กน้ำหูน้ำตาไหลพรากจากการอาเจียนติดต่อกันหลายครั้ง ลำคอแสบหนักและเหนื่อยจนเกินร่างกายจะรับไหวมันโอนเอนไร้หลักยึดเหนี่ยว

"เจย์!!" พ่อของลูกวิ่งเข้ามารับร่างได้ทันท่วงที

"พี่กียุลเหรอ อึ่ก ผมจะอ้วก"

"ค่อย ๆ นะ"

อ้อมแขนแกร่งกอดเอวคนตัวเล็กกว่าไว้เพื่อประคองให้อีกคนอาเจียนที่อ่างล้างหน้า ใบหน้าซีดเซียวที่สะท้อนอยู่ในกระจกทำให้กียุลเป็นห่วงจับใจ

"ไปโรงพยาบาลไหม" เจย์เลนเงยหน้าขึ้นหลังจากบ้วนปาก เขาหลับตาส่ายหน้าเบา ๆ

"ผมเวียนหัว ขออยู่แบบนี้ก่อนนะ" ร่างเล็กทิ้งร่างหันหน้าเข้าหาซบอกคนตัวโตกว่าอย่างอ่อนแรงหาที่พึ่ง กียุลประคองกอดอีกคนด้วยความอ่อนโยนพลางลูบศีรษะปลอบกลิ่นกาแฟผสมส้มที่ได้กลิ่นมาจากฮิปนอสทำให้อีโบนีผ่อนคลายขึ้นเยอะพอ ๆ กับกลิ่นดอกลิลลี่ที่ฟุ้งออกมาจากตัวเจย์เลนให้กียุลได้กลิ่น ทั้งคู่กำลังรักษากันและกันต่างเติมเต็มความรู้สึกที่โหยหา

"พี่พาไปที่เตียงนะ นายจะได้นอนพัก"

ไม่มีการปฏิเสธก็หมายความว่าอนุญาตร่างเล็กถูกช้อนขึ้นอุ้มตรงไปที่เตียงอย่างง่ายดาย ถูกวางลงเตียงอย่างนุ่มนวลและในจังหวะที่กียุลกำลังเดินจากไปหลังที่ห่มผ้าห่มให้อีกฝ่ายแล้ว มือเล็กก็ฉุดมือหนาเพื่อรั้งเอาไว้

"อยู่กับผมก่อนได้ไหม" เสียงอ่อนแรงร้องขอตาปรือปอยอ่อนเพลีย เขาบอกกับตัวเองว่าไม่ควรทำแบบนี้แต่ใจมันไม่ฟังมันอยากอยู่กับกียุล

"ได้สิ พี่จะอยู่ตรงนี้ นายนอนพักเถอะ พี่ไม่ไปไหนหรอก"

"จับมือผมไว้จนกว่าผมจะหลับนะ" ใบหน้าหล่อพยักหน้ารับปากพร้อมส่งรอยยิ้มอบอุ่นไปให้เจย์เลนได้มั่นใจว่าเขาจะไม่ไปไหน ผู้กำกับหนุ่มนั่งลงที่พื้นข้างเตียง จับมือที่เล็กกว่ามือผู้ชายทั่วไปด้วยมือทั้งสองข้างด้วยความรักที่ไม่เคยจางหาย ไม่นานเลยที่เปลือกตาสีมุกและแพขนตาสวยจะปิดลงพร้อมเข้าสู่ห้วงนิทรา

นี่เป็นครั้งแรกหลังจากได้กลับมาพบกันอีกที่ทั้งสองคนได้อยู่ด้วยกันเงียบ ๆ ทว่าไม่รู้สึกโดดเดี่ยวอย่างที่เผชิญมาตลอดหลายปี เหมือนวันเก่า ๆ มันหวนคืนมา กียุลไม่สามารถหยุดนึกถึงวันวานได้

"พี่ดีใจที่นายกลับมาหาพี่นะ พี่สัญญาว่าพี่จะทำครั้งนี้ให้ดีที่สุด ให้เจย์มั่นใจว่าพี่ดูแลเจย์ได้ พี่ไม่ใช่ไอ้กียุลที่เอาแต่เที่ยวเล่น ดีแต่พูด ไม่มีอนาคตแบบเมื่อก่อนอีกแล้ว"

ประโยคสุดท้ายเบาหวิวเล็กน้อยไม่ใช่ว่าคนพูดไม่มั่นใจในสิ่งที่พูด แต่ฮิปนอสเมื่อได้รับยาดีจากอีโบนีร่างกายก็ผ่อนคลายหลับลงได้ ปกติจะไม่เป็นแบบนี้ใช่ว่าได้สัมผัสจากอีโบนีแล้วฮิปนอสก็จะหลับกลางอากาศเลยมันไม่ใช่แบบนั้น แต่กียุลอยากจะหลับไปพร้อมกับเจย์เลนต่างหาก อยากจะเคียงข้างไปด้วยกันแม้ในห้วงฝันก็ตาม…

"ครับพี่ ได้ครับเอาตามนี้ ผมซีเรียสกับสถานที่นี้มาก ยังไงผมก็ต้องได้ถ่ายทำที่นี่ ไปเจอกันที่บริษัทนะครับ ครับ ขอบคุณครับพี่"

เจย์เลนได้ยินเสียงแว่วจึงค่อย ๆ ลืมตาขึ้นเพื่อหาสาเหตุและต้องพบว่าสัมผัสอุ่นที่มือยังคงอยู่เหมือนกับแรกหลับใหลมือหนาของกียุลยังคงจับมือบางไว้ตามคำขอส่งผลให้ใบหน้าหวานของผู้ชายฉีกยิ้มจางไม่รู้ตัวพวงแก้มที่แต่เดิมซีดขาวผุดสีแดงขึ้นมาระเรื่อ

"ตื่นแล้วเหรอ พี่ทำนายตื่นหรือเปล่า ขอโทษนะ พี่คุยงานดังไปหน่อย^^" คนหน้าหล่อใจดีมีสีหน้ากังวลเล็กน้อยแล้วยิ้มตามสไตล์ก่อนจะวางโทรศัพท์ลงแล้วเลื่อนมือไปอังหน้าผากเช็กอุณหภูมิร่างกายคนที่ตัวเองเข้าใจว่าป่วยก่อนจะลูบศีรษะอย่างอ่อนโยนผสมไปด้วยความห่วงใย

"เปล่าครับ" ยิ้มอบอุ่นถูกส่งมาให้ครั้งแล้วครั้งเล่าจนเจย์เลนใจกระตุกไหวได้แต่ยิ้มแก้เขิน

"พี่ต้องไปดูสถานที่กับทีมงาน นายอยู่คนเดียวได้ไหม ไหวหรือเปล่า?"

"ไหวครับ แต่ผมต้องไปด้วยสิ ผมเป็นผู้ช่วยของพี่นะ แล้วนี่ไม่ประชุมกันแล้วเหรอครับ"

"เลื่อนประชุมน่ะ ต้องไปดูสถานที่ก่อนที่นี่สำคัญ ถ้านายไหวก็ไปกับพี่เลย"

"ปล่อยมือก่อนสิครับ"

"ก็คนแถวนี้บอกให้จับไว้"

"ตอนนี้ไม่แล้วครับ...บอกให้ปล่อย >_O"

กียุลตามไม่ทันอารมณ์ของเจย์เลนจริง ๆ นะ แต่มันก็น่ารักดีเหมือนแมวน้อยที่ขี้โมโห ไม่ได้มีพิษภัยอะไรออกจะน่ารักด้วยซ้ำ ชวนให้หมาโกลด์เดนต์อย่างเขาเข้าไปหยอกอีกด้วย

หลังจากนั้นทั้งคู่ก็ไปที่บริษัทเพื่อขึ้นรถตู้ไปดูสถานที่กับทีมงาน โดยจะมีตำแหน่งที่ต้องตัดสินใจเกี่ยวกับการใช้สถานที่ไปก็คือจินกูโปรดิวซ์เซอร์ กียุลผู้กำกับ เจย์เลนผู้ช่วยผู้กำกับ แทมินอาร์ตไดเร็กเตอร์ เรียวตะผู้กำกับภาพ ต่อด้วย สเกาท์โลเคชันบุคคลสำคัญที่คอยลาดตระเวนหาสถานที่ถ่ายทำมาเสนอทีมงาน ตำแหน่งหลักที่ต้องมาดูสถานที่ก็มีเท่านี้ แต่มีอีกหนึ่งตำแหน่งที่ขอติดสอยห้อยตามมาด้วยนั่นก็คือผู้บันทึกเสียงอย่างคังจุน

"มาทำไมก็ไม่รู้เปลืองอากาศในรถ ทำซาวด์มาดูโลทำห่าอะไรวะ"

กียุลเหน็บแนมคนหุ่นหมีที่นั่งอยู่ข้าง ๆ เจย์เลนแทนที่จะเป็นเขา และยิ่งต้องหงุดหงิดหนักกว่าเดิมเพราะสองคนนั้นหัวเราะกันคิกคักจนน่าหมั่นไส้

ระหว่างนั้นรถตู้ก็มุ่งหน้าเข้าสู่จังหวัดคังวอนโดเพื่อไปที่หาดจุนมุนจินสถานที่ถ่ายทำสำคัญใช้เวลาสองชั่วโมงเท่านั้นโดยยิงรถตรงยาวมาจากถนนสายสามหนึ่งสี่และอีกไม่กี่กิโลเมตรก็จะถึงแล้ว

"หน้าหงิกเป็นตีนไก่เลยกียุล เป็นอะไรวะ" จินกูหันมาถามจากที่นั่งข้างคนขับ ส่วนคนถูกถามยังเอาแต่จ้องมองคู่นั้นที่นั่งอยู่ด้านหลัง อีกคู่ก็น่าหมั่นไส้ไม่แพ้กันหลับซบไหล่กันอยู่ได้

"ดูแต่ละคู่สิ มาฮันนีมูนกันหรือไง (T_T) "

"มันแปลกตรงไหนก็สนิทกันทั้งนั้น หมอนี่เป็นประสาท"

รถเริ่มเคลื่อนตัวเข้าสู่ถนนเลียบชายหาด ความงดงามของทะเลสีฟ้าครามตัดกับขอบฟ้าประจักษ์แก่สายตาทุกคนให้ตื่นเต้นเว้นแทมินกับเรียวตะที่ยังหลับอยู่ นอร์มาอย่างแทมินหลับไม่แปลกนะแต่เรียวตะนี่สิหลับได้หลับดีโดนกียุลด่าประจำว่าเป็นฮิปนอสปลอม

"โอ้โห สวยมากเลยพี่จุน ผมไม่ได้มาทะเลนานมาก อุ่ก! พี่! พี่จอดรถทีครับ อึ่ก!"

ยังนึกแปลกใจที่เจย์เลนนั่งรถมาได้นานขนาดนี้โดยที่ไม่มีอาการอะไรเลยได้ยังไง คงเป็นจังหวะที่หันลีหันขวางดูทะเลเมื่อกี้เป็นแน่ที่ทำให้อาการแพ้ท้องกำเริบ

"แหวะ แหวะ อ้วกกกกก โอ๊ยย เหนื่อยแล้วนะ ฮือออ"

ร่างเล็กโก่งคออาเจียนที่ริมถนนจนหมดก๊อก พยายามสุดกำลังที่จะประคองร่างตัวเองแต่คนรู้งานทั้งสองคนก็รีบเข้าไปช่วยเอาไว้ กียุลกับคังจุนมองหน้ากันว่าใครจะเป็นคนพาเจย์เลนกลับขึ้นไปบนรถ จู่ ๆ หมีใหญ่กับหมาโกลด์เดนต์ก็จะกัดกันซะงั้น

"คังจุนปล่อยเจย์เลน"

"อะไร อย่างี่เง่าน้องมันป่วยอยู่"

"รู้ไง แต่ฉันจะช่วยเจย์เลนเอง"

ยื้อยุดร่างเล็กกันไปกันมา จนสุดท้ายเจย์เลนก็ไม่ไหว

"โอ๊ย!! รำคาญ! เป็นอะไรกันเนี่ยฮะ ห้ามมายุ่งกับผมกันเลยนะ! เป็นบ้ากันหรืองะ-"

"เจย์เลน!"

"เจย์!"

จนแล้วจนรอดการมาดูสถานที่นั้นก็ไม่ประสบความสำเร็จเพราะต้องพาคนป่วยมาส่งโรงพยาบาลแทน และนั่นทำให้ทุกคนรู้ความจริงเกี่ยวกับสาเหตุการป่วยของผู้ช่วยผู้กำกับคนใหม่

"พี่ก็ว่าพี่คุ้นหน้าน้องเขามาก เป็นโฮสที่พี่จ้างมาให้นายนี่เอง นี่มันบังเอิญมากนะกียุล"

"ผมนึกว่าผมฝัน คิดว่าตัวเองเมาจนมองคนอื่นเป็นเจย์เลน ผมไม่คิดเลยว่าจะได้เจอเจย์เลนอีกก็เลยคิดว่าไม่ใช่น้องเขา"

"แล้วจะเอายังไงไหน ๆ ก็รู้แล้ว จริง ๆ เจย์เลนจะบอกนายเองอยู่แล้วนะไม่ได้จะปิดบัง"

"ฉันโคตรดีใจคังจุน ฉันจะมีลูกแล้ว นี่มันฝันชัด ๆ มีความสุขโว้ยยยย"

"เบา ๆ น้องเขานอนอยู่ เดี๋ยวลูกนายก็นอนไม่พอหรอก"

เสียงคนคุยกันดังมาให้ได้ยินขาด ๆ หาย ๆ ไม่ได้ใจความนัก ทำเจย์เลนขมวดคิ้วหงุดหงิดที่มีคนมารบกวน

"เจย์เลนจะตื่นแล้ว"

คังจุนบอกกียุล แพขนตาเริ่มขยับกะพริบก่อนจะเห็นภาพเป็นวุ้นสีขาวและใบหน้าของใครบางคนที่ก้มมองเขาอยู่ก็ชัดขึ้น คนท้องพยายามตั้งสติและต้องเบ้หน้าทันทีเมื่อรับรู้ได้ถึงกลิ่นไม่พึงประสงค์กลิ่นนี้อีกแล้วกลิ่นโรงพยาบาลอยากอ้วกชะมัดแต่ดีหน่อยที่มีกลิ่นกาแฟที่ชอบอยู่ด้วย

"เจย์เลน เป็นยังไงบ้าง พี่ดีใจมากเลยรู้ไหม พี่ดีใจที่สุดเลย" กียุลโถมตัวกอดเจย์เลนอย่างลืมตัวใบหน้ายิ้มแย้มจนตาเหลือสองขีดพูดพร่ำดีใจไม่หยุดเล่นเอาเพื่อน ๆ ที่อยู่ในห้องด้วยพากันส่ายหัวเอ็นดูให้กับคุณพ่อป้ายแดง

"พี่จะดูแลเจย์กับลูกให้ดีที่สุดพี่สัญญาเลย ให้ตายสิพี่ดีใจมากจริง ๆ"

คนท้องเริ่มจับต้นชนปลายถูก โอเคทุกอย่างคงถูกเปิดเผยแล้ว คังจุนทำหน้าแบบนั้นใส่แล้วหลบตาก็หมายความว่าเขาเป็นคนเล่าเรื่องทั้งหมดให้กียุลฟัง เจย์เลนก็ไม่ได้โกรธเคืองอะไรอย่างที่บอกไปเขาไม่ได้จะปิดบังทว่าตอนนี้ขอตั้งสติก่อนก็เลยยังเงียบ

"เจ้าตัวเล็กมาอยู่กับป๊ะป๋านะลูก ป๋ารักหนูที่สุดเลย จุ๊บ จุ๊บ"

กียุลจูบหน้าท้องเจย์เลนผ่านผ้าห่มและสาบเสื้อไม่หยุดในขณะที่เจย์เลนยังนิ่งเงียบเพราะไม่รู้จะต้องทำตัวอย่างไรและนึกอายกับพฤติกรรมไม่รู้จักโตของกียุล นี่เหรอพ่อของลูกเขา ไม่รู้คิดถูกหรือคิดผิดที่ไม่หอบลูกหนีกันนะเจย์เลนอยากจะบ้าตาย น่าจะทำตัวเป็นนางเอกละครน้ำเน่าให้รู้แล้วรู้รอดไป ʕ – _ – ʔ

 

 

.

.

.

.

.

.

●—————◦◉◦—————●

 

โปรดติดตามตอนต่อไป...

มาคุยเล่นเม้านิยาย หวีดพี่กียุลกับน้องเจย์เลน ได้ที่แฮชแท็กในทวิตเตอร์ #อรุณสวัสดิ์ความรักของผม

รอคุยกับทุกคนอยู่นะคะ เหงาฝุด ๆ

เป็นไงกันบ้างคะทุกคน ในที่สุดพี่กียุลก็รู้สักที55555 จะเป็นไงต่อไปล่ะคะเนี่ยน้องเจย์ดื้อขนาดนี้

มารอติดตามกันนะคะ

(แวะกรี๊ดอีกทีค่ะ ปกใหม่มาแล้วววว แต่ไทโปชื่อเรื่องยังไม่เสร็จฮะ เดี๋ยวเสร็จแล้วจะเอามาอวดแบบจัดเต็มเยย)

 

ฝากกดติดตาม กดหัวใจ เก็บเข้าชั้น คอมเมนต์ เป็นกำลังใจให้เราด้วยนะคะที่รัก

1 คอมเมนต์ = 1 กำลังใจ

จะตั้งใจเขียนออกมาให้ดีที่สุด เพื่อให้ทุกคนสนุกกับนิยายเรื่องนี้นะคะ

ปกติจะลงทุกวัน ศุกร์-เสาร์ นะคะ สายฟรีรอ 2 วันนี้เลยนะคะ

 

ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่าน เล่นแท็ก คอมเมนต์ไว้ล่วงหน้าเลยนะคะ รักนะคับ!

เจอกันศุกร์หน้านะฮะ สแว็กเกิร์ล หัวใจ คุณนักอ่าน