ฉากที่ 21 ทุกทางเลือกมีผลที่ตามมา

 

“สิ่งเลวร้ายทุกอย่างที่ผมทำลงไปผมไม่ได้ตั้งใจจริงๆ นะครับ ผมทำทุกอย่างไปก็เพราะผมรักพี่ ผมเชื่อในรักของเรามาโดยตลอดตั้งแต่ที่พี่ขอผมแต่งงาน ผมทิ้งความฝันเพื่อความรัก...ยอมแลกทุกอย่างเพื่อที่เราจะได้สร้างครอบครัวด้วยกัน มีลูกด้วยกัน พี่มาอยู่กับผมที่นี่ได้ไหมครับ ผมพร้อมจะทำทุกอย่างเพื่อพี่ เจย์เลนคนนั้นเคยทำให้พี่เสียใจแล้วเขาจะต้องทำอีกแน่” กียุลแค่นยิ้มแล้วมองต่ำก่อนที่จะมองหน้าแล้วเริ่มพูดสีหน้ายิ้มแต่คำบาดลึก

“หึ นี่น่ะหรือวิธีของนาย พี่คิดว่าจะมีชั้นเชิงกว่านี้ เจย์เลนน่ะฉลาดกว่านี้เยอะ พี่ชักอยากจะกลับคำพูดแล้วว่าพวกนายคือคนเดียวกัน นายต่างกับเจย์ของพี่ลิบลับเลย อย่างน้อยก็เรื่องจิตใจนี่แหละที่ต่างกัน... พี่จะบอกอะไรให้นะ เริ่มใหม่ซะ มันยังไม่มีอะไรสาย นายจะเที่ยวโทษใครไปทั่วไม่ได้นะ ในโลกแห่งความเป็นจริง นายมีหน้าที่ทำให้ทุกอย่างในชีวิตตัวเองดีขึ้นไม่ใช่ไปเรียกร้องเอาจากคนอื่น นายเจ็บปวดแล้วต้องไล่ปาหินใส่ทุกคนเลยเหรอ” แทบไม่เชื่อหูตั้งแต่คำแรกจนถึงคำสุดท้ายที่ออกมาจากปากของคนที่รักตรงหน้า

“...แต่ผมรักพี่มากกว่าเขานะ ทั้งหมดนี่ยังพิสูจน์ไม่ได้อีกเหรอ ผมเชื่อในรักของเรา ผมยอมทิ้งทุกอย่างเลยนะ” พูดไปก็เหลือบมองเจย์เลนที่อยู่ด้านล่างเวทีไปด้วยแต่ไม่ได้กระโตกกระตากสติแตกให้เสียแผน

“นี่ไงสิ่งที่ต่างจากเจย์ของพี่... นายยังไม่เข้าใจอีกเหรอว่าทำไมพี่ถึงปฏิเสธ ขอร้องนะพี่หวังดีกับนายถึงได้พูดตรง ๆ และพี่ก็อยากปกป้องลูกเมียของพี่ ขอโทษถ้าพี่พูดแรงไป แต่ถ้านายไม่หยุด พี่ก็จะทำทุกอย่างเพื่อปกป้องพวกเขา พี่ทำได้เท่านี้ถ้าห้ามนายไม่ได้จริง ๆ ถึงพี่ตายพี่ก็ยอมเพื่อปกป้องคนที่รัก” คนหน้าเหมือนแม่ของลูกกียุลน้ำตาไหลอาบหน้าอย่างน่าสงสารแต่สายตาเคียดแค้นแดงก่ำ เขาพูดอะไรไม่ออกแล้วพยายามอดกลั้นความเสียใจ

“พี่เข้าใจนายไม่ได้ทั้งหมดเพราะสิ่งที่นายทำมันเลวร้ายมาก 7 ปี ที่นายทำให้เจย์เลนได้รับอันตรายตามก่อกวนจะเอาชีวิต พี่รับไม่ได้ นายเจ็บปวดแล้วทุกคนบนโลกต้องเจ็บไปกับนายเหรอ ทุกคนมีเรื่องทุกข์ใจของตัวเองอยู่แล้ว นายรู้ได้ไงว่าเขาไม่เจ็บปวด เอาอะไรมาวัดว่านายเป็นทุกข์กว่า นายโตแล้วนะ ลองเก็บคำพูดพี่ไปคิดดู พี่อยากให้นายเดินทางใหม่... เราคุยกันได้เสมอถ้านายอยากติดต่อมา ตอนนี้นายมีพี่ชาย มีพ่อแม่ มีพี่แล้วก็เจย์เลน มีเพื่อน ๆ พี่ด้วย ถ้านายรับปากว่าจะไม่ทำอันตรายกับเจย์เลนและจะใช้ชีวิตให้ดี ทุกคนที่พี่บอกไปจะอยู่ข้างนาย เราพร้อมจะสนับสนุนนาย อย่าลืมความฝันของนายสิ ใช้เวลานี้ทำมันเลย อย่าจมปรักอยู่กับอดีตอีกเลย นายเป็นคนเก่ง พี่เชื่อว่านายจะทำได้ ตั้งเป้าหมาย วางแผนแบบที่ชอบทำสิ เริ่มใหม่” ใช้ยาขมแล้วก็ต้องใช้ยาหวานคุยบ้างนั่นคือสิ่งที่กียุลกำลังทำกระทั่งคนตรงหน้ามีท่าทีอ่อนลง

“ครับ ฮือออ ผมจะไม่ทำแบบนั้นกับเจย์เลนอีก แต่ผมรักพี่ ฮืออ ได้โปรดมาอยู่กับผมเถอะ หรือให้ผมไปอยู่ด้วยก็ได้นะครับ ฮึก ฮือ”

“แต่พี่รักเจย์เลนคนนั้น พี่ขอโทษนะ แต่ทำยังไงพี่ก็รักใครไม่ได้อีกแล้ว ถึงแม้นายจะเป็นเจย์เลนก็ตาม นายสองคนอาจเป็นส่วนหนึ่ง หรืออีกครึ่งหนึ่งของกันและกันหรืออะไรก็ตาม แต่ในห้วงเวลานี้พี่รักเขาคนนั้นหมดหัวใจ ไม่เหลือให้ใครอีกแล้ว” เมื่อฟังจบความสับสนตีรวนในสมอง ได้แต่พยักหน้ารับด้วยความจำนน

“ผมเข้าใจแล้วครับ ผมเข้าใจแล้ว ผมจะทำตามที่พี่บอกทุกอย่าง จะใช้ชีวิตให้ดี เริ่มต้นใหม่ ขอบคุณมากนะครับ ขอบคุณ ฮือออ”

“พี่เป็นกำลังใจให้นะ นายจะทำได้”

นั่นคือบทสนทนาที่เหลือของพวกเขาสองคนในวันนั้น...

 

หลายวันผ่านไปราวกับว่าเจย์เลนและกียุลได้มีชีวิตใหม่เพราะหมดกังวลจากเรื่องกวนใจทั้งมวล เขาไม่เคยโล่งใจกันขนาดนี้มาก่อนเลยในชีวิต ทำงานกันอย่างมีความสุขในแต่ละวันและเป้าหมายของ
กียุลก็ได้เริ่มดำเนินการ เขามีไม่กี่อย่างในชีวิตที่อยากทำให้สำเร็จและสำเร็จไปเกือบหมดแล้ว เหลือแค่อีกหนึ่งความตั้งใจเท่านั้นคือการทำให้ความฝันของเจย์เลนเป็นจริง สนับสนุนคนรักทุกทางที่จะทำได้ หนังเรื่องนี้ดีไม่ดีเจย์เลนได้กำกับมากกว่ากียุลเสียล่ะมั้งถ้าวัดกันตามจริงแล้ว คนท้องก็เก่งน่าดูแปดเดือนแล้วยังสามารถทำงานได้ขยันขันแข็งเดินเหินในกองถ่ายทำได้สบายมาก

“ผมชะ ชอบ... ขอโทษครับผมลืมบท”

“Keep Roll[1]ก่อนครับ” เจย์เลนว่าก่อนที่กียุลจะเป็นคนเอ่ยคำสั่งด้วยตัวเองเสียอีกแล้วพาร่างอุ้ยอ้ายเดินเข้าไปหานักแสดงที่มีปัญหาไม่กี่นาทีก็เดินกลับมานั่งข้างผู้กำกับหน้าหล่อที่เอาแต่ยิ้มภูมิใจในตัวผู้ช่วย

“พี่สั่งสิครับ”

“เบบี๋สั่งเลย”

“แอนด์ แอคชั่น!”

ไม่มีอีกแล้วความอิดออดเขินอาย เจย์เลนมาดดีอย่างกับ
ผู้กำกับคนหนึ่งและกียุลก็ไม่ได้มองว่าน้องทำข้ามหน้าตัวเองเลยเพราะเขาอยากให้น้องได้ทำสิ่งนี้อยู่แล้ว

กระทั่งงานในวันนั้นก็ผ่านพ้นไป วันนี้เลิกกองไวในช่วงเย็นทั้งแปดคนกับทีมงานที่อยากอยู่จำนวนหนึ่งจึงอยู่ทานอาหารและดื่มด้วยกันเป็นปาร์ตี้ขนาดย่อม

“แล้วนายสองคนจะกลับบาร์นเฮาส์หรือกลับบ้านตัวเองกันล่ะ” คังจุนถามพลางยกแก้วดื่ม

“ว่าจะกลับบ้านตัวเองว่ะ พรุ่งนี้ต้องพาเจย์เลนไปหาหมอแล้วก็ต้องเอาของที่พวกนายทุกคนให้ไปเก็บที่บ้านด้วย พวกนายรู้ไหมฉันไม่ต้องซื้อของใช้ลูกเลย พวกนายซื้อมาให้ซะหมดแล้ว” กียุลบ่นอุบอิบพลางดึงผ้าห่มคลุมตัวเจย์เลนให้มิดชิดมากขึ้นเพราะกลัวแม่ของลูกจะหนาว ส่วนคนถูกดูแลก็อ้อนโดยการอิงศีรษะไปซบไหล่กว้างคลอเคลียไม่ห่าง

“หลานคนแรกของกลุ่มเลยนะ ไม่เปย์ได้ไง” จินกูกล่าว

“เกรงใจนะครับพี่ มันเยอะมาก” เจย์เลนบ่นอีกคนแล้วนำมือออกมาจากผ้าห่มหยิบขนมกินแล้วยังเผื่อแผ่มาป้อนกียุลด้วย

“ไว้ในกลุ่มใครมีลูกอีก พวกนายก็ต้องซื้อแบบพวกพี่นี่แหละ”

“แล้วจะมีคนสองเลยปะคะพี่” โซฮีถามแล้วยกเบียร์ดื่มโดยมีเรียวตะและแทมินมองอย่างไม่สบอารมณ์ที่เพื่อนสาวดื่มเอาเป็นเอาตาย

“ขอพี่พักกินเบียร์สักปีก่อนแล้วกันนะโซฮี”

“ขี้เมาเหรอครับพี่เนี่ย” แทมินถามขำขัน

“มันเมาหัวลาน้ำทุกวันแหละตอนยังไม่กลับมาเจอกียุล” เมื่อได้ทีคังจุนจึงแฉ

“ดื่มเก่งมาตั้งแต่สมัยเรียน คอแข็งกว่าพี่อีก” กียุลเสริม

“เก่งนะครับเนี่ย ไม่ดื่มมาเกือบปีแล้ว” เรียวตะพูดในความทึ่ง

“มีลูกแล้วก็ต้องทนได้สิ ไว้นายมีก็จะเข้าใจ” เจย์เลนพูดจบเรียวตะก็หันไปมองแทมินก่อนพวกเขาจะมองไปถึงโซฮีที่มองพวกเขาสองคนอยู่ก่อนแล้ว ท่าทางพิรุธจนพี่ชายขี้หวงแถวนี้จับสังเกตได้แต่ยังไม่เอ่ยอะไรออกมา จินกูจับผิดสามคนนี้มาสักพักแล้วเพียงแค่ยังจับไม่ได้

“พรุ่งนี้ออนโล[2]บ่ายโมงนะ พี่จะมาก่อนต้องไปคุยกับเจ้าหน้าที่ของอุทยานพัลกงซานอีกที เราต้องระวังความปลอดภัยกันให้มาก” โปรดิวเซอร์ย้ำตารางงานกับทุกคนเมื่อเห็นโอกาส

“รับทราบครับ ผมบอกในกรุ๊ปแชตแล้ว พรุ่งนี้งานจะราบรื่นแบบวันนี้ครับ” เจย์เลนเอ่ยก่อนหันไปสะกิดกียุล

“บูบู เบบี๋ปวดฉี่ -3-”

“อีกแล้วเหรอ ไปสิครับ” คู่รักดูแลกันดีจนเพื่อน ๆ ยิ้มมีความสุขกับทั้งคู่เมื่อเดินจากไปพวกเขาที่เหลือก็เริ่มบทสนทนาขี้สงสัย

“มีใครรู้ไหมครับว่าวันนั้นพี่กียุลคุยอะไรกับพี่เจย์เลนในโลก 66” แทมินเปิดประเด็นที่ทุกคนสงสัย

“ไม่รู้ เมียมันยังไม่รู้เลย เจย์เลนถามมันตลอด มันก็เฉไฉ”
คังจุนตอบเพราะเขาคุยกับคนท้องแล้ว ก็เล่นคุยกันพักใหญ่แถมเจย์เลนในโลกนั้นยังร้องไห้เป็นบ้าเป็นหลัง

“เมียมันมันยังไม่บอกพวกเราก็อย่าหวังเลย ทำใจเหอะ ไม่ได้รู้หรอก” จินกูว่าอย่างคนปลง

 

วันรุ่งขึ้น

 

“เฮ้ บอกกันได้หรือยัง ผมถามพี่มาสองอาทิตย์แล้วนะ พี่คุยอะไรกับเจย์เลนคนนั้น”

“ไม่มีอะไรหรอกน่า ฮะ? อะไรนะ ลิตเติ้ลเบบี๋บอกว่าอยากให้คุณป๋า จุ๊บ ๆ แก้มคุณแด๊ดเหรอคะ ได้เลยค่ะ แถมหอมให้ฟอดใหญ่ ๆ เลย จุ๊บ จุ๊บ ฟอด ฟอด หอมหนูด้วยเหรอคะ ได้เลยยย”

“ฮ่า ๆ ๆ ไม่ต้องมาเปลี่ยนเรื่องเลยนะ ฮ่ะ ฮ่ะ อย่าเกาพุงผมนะ มันจั๊กจี้” คุณป๋าทั้งจูบทั้งหอมทั้งกอดหยอกคุณแด๊ดอย่างน่ารักท่ามกลางทีมงานที่พักทานอาหารกลางวันอยู่ละแวกนั้น วันนี้พวกเขามาถ่ายทำกันในสถานที่ท่องเที่ยวอุทยานพัลกงซาน เลยได้ทีอาศัยช่วงเวลาก่อนเริ่มถ่ายมาปิกนิกกันที่หน้าผาวิวสวยจุดชมวิวหลักของที่นี่

“ฮืออ คนยิ่งอิ่มข้าวอยู่น่าา”

“หึหึ อ้วนเอ๊ย สู้แพ้พี่ก็เป็นงี้ทุกที”

“แหมคุณป๋า ผมท้องนะครับ จะเอาแรงไหนไปสู้คนออกกำลังกายทุกวัน กินอกไก่ปั่นเป็นอาหารอย่างคุณป๋าล่ะ ไหนกลางคืนจะถูกคุณป๋าสูบพลังอีก >0<”

“นั่นสิ แทนที่จะอยู่เฉย ๆ พักผ่อนตอนกลางวันในรถบ้านที่พี่เตรียมมาให้ก็ออกมาทำงานด้วย จะคลอดอยู่แล้วนะ จะทำงานจนคลอดเลยเหรอ จะคลอดในกองเลยหรือไง”

“ก็ดีนะครับ”

“ก็แย่แล้ว เจย์ลีนคนสวยของป๋าก็ลำบากแย่เลยสิเนาะ”

“มั่นใจจังว่าลูกจะเป็นผู้หญิง”

“ทำให้เกิดมาเองกับมือ ต่อแขนต่อขาให้ลูกอยู่ทุกวัน ทำไมจะไม่รู้ล่ะครับที่รัก”

“มันจะน่าประทับใจมาก ถ้าไม่พูดว่าต่อแขนต่อขาลูกออกมา อายใครบ้างไหม”

“ทำไมต้องอายครับเมีย” ว่าจบก็แสดงท่าทีภูมิใจแล้วหอมแก้มนิ่มไปเต็มปอด

“เมียเต็มปากเต็มคำเลยนะ กียุล” เป็นคังจุนที่ถือข้าวมานั่งกินด้วย เขาส่งเสียงมาแต่ไกลก่อนจะหย่อนก้นนั่งลงข้างเจย์เลนน้องที่รัก

“ก็เมียฉันอะ ทำไมวะ”

“เจย์เลนก็น้องฉันเว้ย นายอย่าให้เยอะมากกียุล ยังไม่ได้แต่งงานกัน”

“โห่ ไอ้พี่ชายปลอม พอรู้ว่าน้องเป็นน้องชายตัวเองในอีกโลกหน่อยก็เอาใหญ่เลย แล้วโทษนะนายมีหลานขนาดนี้แล้วจะมาอะไรกับคำว่าเมียของฉันวะ” คังจุนชะงักเล็กน้อยเมื่อถูกจี้จุดปมในใจ ภาพความเจ็บปวดพลันจะกลับมาทุกทีเมื่อถูกสะกิด ในที่นี้ไม่มีใครรู้ถึงความเจ็บปวดภายในของเขาเลยสักคน เพราะเขาไม่เคยบอกใครเลยนอกเสียจากแฟนของเขา

“เป็นอะไรหรือเปล่าครับพี่”

“ฉันพูดแรงไปเหรอ ขอโทษ ฉันล้อเล่นเพื่อน” เจย์เลนกับกียุลถามเมื่อจับสังเกตได้แต่คนถูกทักก็กลับมาขี้เล่นตามเดิมอย่างที่เขาชอบเป็น แสร้งว่าไม่เป็นอะไร

“เปล่าน่า นายกินหนมเปล่าพี่หยิบติดมือมา สอดไส้ส้มด้วย” ฝ่ามือใหญ่หยิบขนมให้น้อง

“กินอีกผมได้อ้วกแน่ครับ ฮ่ะ ฮ่ะ” ยิ้มน่ารักถูกส่งไปให้พี่ชายยิ้มตามแล้วแกะขนมไปยัดปากกียุลแทน เกิดเสียงหัวเราะลั่นมาจาก
เจย์เลนที่ชอบใจตบมือเสียงดังไปกับเสียงหัวเราะ

พวกเขานั่งเล่นอยู่ไม่นานก็ถูกเรียกตัวโดยโปรดิวเซอร์

“ครับ ๆ จะรีบไป พี่ก็มาหาผมไม่ได้แฮะ อยู่กับเมียเนี่ย”

“แป๊บเดียว คนเยอะแยะเจย์เลนไม่เป็นอะไรหรอก ให้ทีมงานช่วยดูไว้สิ อีกอย่างก็ไม่มีอะไรแล้วนี่ ปลอดภัยน่า”

“รู้ครับว่าไม่มีอะไรแล้ว แต่ติดเมียอะมีไรปะ ที่รักไปกับพี่ไหม?”

“พี่ไปกันเถอะครับ ผมลุกยาก อยู่ได้ครับ รีบไปรีบมา”

“หมั่นไส้นายสองคนจริง ๆ เลยว่ะ ไป ๆ จะได้รีบมา” คังจุนฉุดกระชากลากถูผู้กำกับติดเมียออกมาอย่างทุลักทุเล ท่าทางกียุลตลกเสียจนทีมงานพากันหัวเราะลั่นกับความน่ารักที่ผู้กำกับมีอารมณ์ขัน ชอบสร้างเสียงหัวเราะให้เสมอ

“เรียกผมมาดูนี่อะนะ งี้ก็ต้องให้เจย์เลนมาด้วยสิครับ ตัด
ดราฟแรกเลยนี่ จริง ๆ ส่งไฟล์มาก็ได้ โห่ พี่อะ” กียุลงอแงเมื่อจินกูเรียกเขามาดูการตัดต่อของฉากแรกโดยที่ไม่ให้เจย์เลนมาด้วย

“ให้เดินไปเดินมาบ่อยๆ หลานฉันไหลออกมาทำไง”

“พูดซะเห็นภาพเลย” คังจุนทำหน้าสยองใส่แฟนตัวเองเมื่อเห็นภาพเจย์เลนคลอดหลานเขากลางกองถ่ายหนัง และพวกเขาก็ติดลมดูการตัดต่ออยู่นานสองนาน

 

┴┬┴┬┴┬┴┬┴┬┴┬┴┬┴┬┴┬┴┬┴┬┴┬┴┬┴

 

ในม่านหมอกทึบยามค่ำคืน ลมหนาวพัดมาโฉบกายให้เย็นยะเยือกเท้าเปลือยเปล่าเยื้องย่างไปตามผืนหญ้าต้นสั้นที่มีความชื้นคงที่ ชายร่างเล็กเดินอุ้มท้องไปเบื้องหน้าอย่างระมัดระวังที่สุด ปลายทางมีแสงสว่างมันคือจุดหมายที่เขาจะเดินไป ยิ่งเดินเข้าไปใกล้ก็เห็นว่ามันคือประตูที่เปิดรอรับอยู่ เท้าเรียวของผู้ชายก้าวข้ามประตูไปยังอีกสถานที่หนึ่ง

แกร๊ก!

เสียงปิดประตูไล่หลังทำให้หันไปมองตามไม่กี่วินาทีแล้วหันไปสนใจเบื้องหน้าตามเดิมจึงเห็นบันไดสูงชัน

เจย์เลนเดินขึ้นไปยังแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์อีกครั้งเสียงเอี๊ยดอ๊าดดังทุกครั้งที่ย่างเท้าเหยียบลงไปที่ขั้นบันได

“เจย์เลน... มาเจอฉันสิ”

“ฉันกำลังไป...เจย์เลน”

ร่างอุ้ยอ้ายเดินไปตามใจนึกจนถึงบันไดขั้นสุดท้าย ประตูอีกบานอยู่เบื้องหน้า เจย์เลนไม่รีรอที่จะเปิดเข้าไปแต่คราวนี้ไม่ได้ก้าวข้ามเขาหยุดมองไปเบื้องหน้าที่ปรากฏเป็นภาพคนที่หน้าเหมือนกัน

“นายรู้ไหม ฉันไม่สามารถปล่อยวางได้เลย นายอยู่ในหัวฉันตลอดเวลา ตั้งแต่วันนั้นที่เราได้คุยกันฉันว่ามันก็จริงหลายอย่าง ที่ว่าฉันต้องเริ่มใหม่ หยุดจมอยู่กับอดีต พอมองที่ปัจจุบันมันยิ่งตอกย้ำว่านาย...แย่งพี่กียุลที่แสนดีไปจากฉัน ขโมยชีวิตที่ดีของฉันไป” สายตาเจย์เลนเปลี่ยนไปเพราะคิดว่าคนตรงหน้าจะเข้าใจทุกอย่างดีแล้วแต่กลับกลายเป็นว่าตรงกันข้าม

“ฉันไม่ได้แย่ง ไม่ด้ขโมยอะไรไปจากนายทั้งนั้น”

“ก็เห็นๆ อยู่ว่านายทำ นายได้อยู่กับพี่กียุลอย่างมีความสุข ทำไมฉันถึงไม่ได้บ้างล่ะ? เพราะนายขโมยชีวิตของฉันไปไง”

“มันคือทางที่เราเลือกกันเองนะ นายเชื่อฉันสิ ไม่ว่าเส้นทางชีวิตไหน สุดท้ายก็มีเส้นทางของตัวเอง”

“ก็เส้นทางของฉันมันไม่ดีเหมือนนายไง”

“สุดท้ายมันจะดีแน่นอน ขอแค่รอคอยอย่างมีหวังและตั้งใจ ฉันก็เจอเรื่องที่ไม่ดีมาเหมือนกัน เพียงแค่ตอนนี้มันถึงเวลาของฉันแล้ว นายก็จะมีเวลาที่ดีของนายเหมือนกัน นายจะมีความสุขเชื่อสิ” คนตรงหน้ามีท่าทีใจเย็นลงให้เจย์เลนโล่งใจ

“ฉันจะเชื่อนายก็ได้ ขอจับมือได้ไหม? ฉันอยากสัมผัสนายสักครั้ง” คนท้องชะล่าใจเล็กน้อย

“นายไม่ไว้ใจฉันเหรอ”

“...”

ในขณะเดียวกันที่กียุลและคังจุนกลับมาก็พบว่าเจย์เลนกำลังเดินไปที่หน้าผาอย่างเหม่อลอย ทั้งสองต่างวิ่งเข้าหาเจย์เลนอย่างไม่คิดชีวิต…

“มาสิ จับมือฉัน ฉันไม่ทำอะไรนายหรอกน่า”

“...”

มือบางของผู้ชายโอบอุ้มท้องของตัวเองไว้แน่นส่งผลให้อีกคนมองการกระทำตาม ดวงตาวูบไหวเมื่อมองเด็กที่อยู่ในท้อง แต่ก็สายไปกับความรู้สึกผิดเมื่อเจย์เลนเอื้อมมือไปหาที่เส้นแบ่งมิติเวลา

 

“เจย์เลน!!! อย่า!!!

“เจย์เลน!!! อย่า!!!”

 

เสียงจากสองโลกดังขึ้นพร้อมกัน…

 

“นายทำอะไรของนาย!!” คังจุนเดินเข้ามาปิดอุปกรณ์เชื่อมต่อทั้งหมดออกแล้วเข้าไปกระชากร่างน้องชายอย่างรุนแรง ด้วยความเดือดดาลคาดไม่ถึงว่าน้องชายจะทำได้ถึงขนาดนี้ทั้งที่คุยกันไว้แล้วว่าจะไม่ทำอะไรสิ้นคิดอีก

“พี่คังจุน!!! ฮืออออ พี่!! พี่กียุลช่วยพี่คังจุนด้วยครับ ช่วยเขา ฮือออ” สองพี่น้องหันไปสนใจจอภาพที่ฉายเรื่องราวของคนจากโลกตรงข้าม แววตาสั่นไหวจากสิ่งที่ทำ และพูดอะไรไม่ออก

“ฮืออออ พี่ครับ ฮือออ โอ๊ย!! ผมเจ็บท้อง พี่ครับ ฮือออ โอ๊ยยย” เจย์เลนคนนั้นร้องไห้จนตัวโยนคร่ำครวญเสียขวัญที่คังจุนตกหน้าผาไปแล้วเกิดเจ็บท้องขึ้นมาทรมานแทบทนไม่ไหว

“เลือด!เจย์เลน!ไม่นะ!มองพี่ มองที่พี่ อย่าหลับนะ” กียุล
ตะโดนลั่นสีหน้าซีดเผือดราวกับคนตายเมื่อเห็นเลือดจากตัวเจย์เลนและยังตั้งตัวไม่ได้ที่เพื่อนพลัดตกหน้าผาไปต่อหน้าต่อตา ในตอนที่เข้าไปช่วยแม่ของลูกเขาเอาไว้

“โอ๊ยยย ฮือออ ละ ละ ลูก...ไม่นะ ไม่ ๆ อยู่กับแด๊ดก่อนนะ ไม่!!อึ่ก ผมเจ็บท้อง พี่กียุล โอ๊ย!”

“เจย์เลน!! ฮือออออ ไม่!!!! อ๊ากกกกกกก” กียุลกรีดร้องสุดเสียงปล่อยโฮออกมาอย่างไม่อายใครเมื่อเจย์เลนสลบไปในอ้อมแขน

พรึ่บ!

เป็นคังจุนที่ปิดจอภาพลง แล้วหันไปหาน้องชายที่ยังตัวแข็งทื่ออีกครั้ง ไหล่บางสั่นไหวเป็นลูกนก ทุกอย่างอลหม่านตีกันอยู่ในสมอง

“ไม่ใช่เพราะฉัน ไม่ใช่” เขาพูดทวนคำอย่างไม่มั่นใจ

“เพราะนายนั่นแหละ นายทำเกินไป นายทำให้คังจุนคนนั้นตาย เจย์เลนกับลูกก็อาจจะตายไปด้วย...เลือดออกขนาดนั้น นายก็เป็นคนที่ท้องได้ เคยมีลูกและรู้ว่าเจ็บปวดแค่ไหนถ้าสูญเสียลูกไป ทำไมนายถึงทำแบบนั้นกับเจย์เลน จิตใจนายทำด้วยอะไร! ฮะ?!”

“กะ กะ ก็... มันขโมยชีวิตผม”

“นายทำคนตายถึงสามคน สมใจนายที่พยายามมาตลอดเจ็ดปีแล้วสินะ ครั้งนี้พี่จะไม่อยู่ข้างนายอีกแล้ว นายมันเยือกเย็น ไร้หัวใจ” คนโดนต่อว่าตั้งท่าจะคัดค้านแต่ก็ชะงักไว้

“ไหนล่ะ? พอเจย์เลนในโลกนั้นไม่มีความสุขแล้วชีวิตนายดีขึ้นไหม? หันดูรอบตัวสิ ทุกอย่างยังเหมือนเดิม ที่เปลี่ยนไปก็มีแต่นาย”

เจย์เลนยังคงว่ายวนอยู่ในความสับสนพักใหญ่ก่อนน้ำตาจะไหลออกมาเงียบ ๆ ไร้เสียงสะอื้น เมื่อตกผลึกได้แล้วว่ามันไม่ได้มีอะไรดีขึ้นเลย แม้เจย์เลนคนนั้นจะเผชิญกับความทุกข์ทรมานอย่างสาหัสก็ตาม...

 

 

 

.

.

.

.

.

.

.

โปรดติดตามตอนต่อไป...

 

ทุกอย่างเกิดขึ้นแบบไม่ทันตั้งตัวเลยนะคะ ฮืออ จะเป็นอะไรกันมั้ย อะไรเนี่ยย 

อาทิตย์หน้าก็จบแล้วนะคะ จากนั้นไรท์จะปล่อยอีบุ๊กออกมาค่ะจะมีตอนพิเศษอยู่ในนั้น แล้วก็จะมาเปิดพรีออเดอร์ของสะสมในนิยายด้วย

รอติดตามนะคะมีแต่ของน่ารักทั้งนั้นเลย

 

ขอบคุณคุณนักอ่านที่น่ารักที่เข้ามาอ่านและคอมเมนต์ให้นะคะ แงงง

รักทุกคนเลย มันเป็นกำลังใจสำคัญของไรท์มาก ๆ เลยค่ะ

 

มาคุยเล่นเม้านิยาย หวีดพี่กียุลกับน้องเจย์เลน ได้ที่แฮชแท็กในทวิตเตอร์ #อรุณสวัสดิ์ความรักของผม

รอคุยกับทุกคนอยู่นะคะ เหงาฝุด ๆ

 

 

ฝากกดติดตาม กดหัวใจ เก็บเข้าชั้น คอมเมนต์ เป็นกำลังใจให้เราด้วยนะคะที่รัก

1 คอมเมนต์ = 1 กำลังใจ

จะตั้งใจเขียนออกมาให้ดีที่สุด เพื่อให้ทุกคนสนุกกับนิยายเรื่องนี้นะคะ

ปกติจะลงทุกวัน ศุกร์-เสาร์ นะคะ สายฟรีรอ 2 วันนี้เลยนะคะ

วันอาทิตย์จะลงเป็นตอนล่วงหน้าให้อ่านกันค่ะ (อันนี้ติดเหรียญน้าา)

ลงจบเรื่องแล้วจะติดเหรียญนะคะ มาอ่านไปพร้อม ๆ กันก่อนติดเหรียญนะคะ (เขียนจบแน่นอนค่ะเรื่องนี้เขียนตุนไว้เกือบจบแล้วค้าบ)

ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่าน เล่นแท็ก คอมเมนต์ไว้ล่วงหน้าเลยนะคะ รักนะคับ!

สแว็กเกิร์ล หัวใจ คุณนักอ่าน

 

 

 

 

เชิงอรรถ

  1. ^ Keep Roll คือการทำหน้าที่นั้นต่อไปโดยที่ผู้กำกับไม่สั่ง cut เช่น นักแสดงพูดผิด ก็พูดใหม่ได้ทันที โดยไม่ต้องให้กล้องกดบันทึกใหม่นั่นเอง จะใช้คำสั่งนี้เมื่อการถ่ายทำไม่ได้เกิดข้อผิดพลาดอะไรมากจนต้องสั่งถ่ายให้
  2. ^ ออนโล = On Location เป็นคำศัพท์ที่ใช้ในกองถ่ายทำ