25 ตอน บทส่งท้าย
โดย swaggirlleb
บทส่งท้าย
หลังจากกวาดรางวัลจากงานเทศกาลมาถึงสี่รางวัล นั่นก็คือ รางวัลผู้กำกับยอดเยี่ยม รางวัลเขียนบทยอดเยี่ยม รางวัลขวัญใจกรรมการ และรางวัลขวัญผู้ชม
กียุลและเจย์เลนก็ได้ใช้เวลาพักผ่อนอยู่ด้วยกันที่ปูซานนอนอาบแดดกอดกันอยู่อย่างนั้น ณ ริมสระที่ทอดสายตาไปก็เห็นวิวทะเลสวย ในขณะที่ลูกสาวตัวน้อยนอนหลับอยู่ในบ้านพักกับแมดดี้
“มีความสุขไหมครับ” เสียงหวานเอ่ยแล้วกระชับกอด
“ที่สุดเลยที่รัก เหมือนฝัน”
“จริงครับเหมือนฝันเลย ทำไมถึงมีความสุขได้ขนาดนี้นะครับ ไม่คาดฝันเลยสักนิดเดียว”
“เพราะเราอยู่ด้วยกันไงครับ” กียุลว่าก่อนจะหอมหน้าผากมนอย่างรักใคร่
“พอมองกลับไป แทบไม่เสียใจเลยครับที่เลือกทางนี้”
“ถ้าเราแต่งงานกันตอนนั้น พี่ก็จะทำเบบี๋เสียใจ” ทั้งสองคิดถึงเส้นทางในอีกด้านที่เจย์เลนในเอิร์ธ 66 ต้องเจอ
“เจย์เลนกับพี่กียุลในโลกนั้นน่าสงสารนะครับ น่าสงสารมากเลย ถ้าเจอพี่ใจร้ายกับผมแบบนั้นผมคงอยู่ไม่ได้”
“แค่คิดว่าตัวเองทำให้เบบี๋เสียใจพี่ก็รับไม่ได้แล้ว หวังว่าจากนี้พวกเขาจะมีความสุขนะ”
“ใช่ครับ ผมก็ภาวนาอย่างนั้น”
“แต่ว่านะเรามาทำน้องให้เจย์ลีนกันดีกว่า (っ ͡❛ ͜ʖ ͡❛) っ?”
“ลืมเหรอผมฝังยาคุม ก็บอกว่าขอกินไวน์กินเบียร์ก่อนดิ”
“ตอนนี้ก็กินไม่ได้หรือเปล่าอ่าา ให้นมลูกอยู่ ༼☯﹏☯༽ ”
“จุ๊บ อย่างอแงสิครับคุณป๋า เดี๋ยวเบบี๋ให้รางวัลปลอบใจนะครับ” มือซุกซนถอดเสื้อคนข้างกายออกพร้อมขึ้นมานั่งที่หน้าท้องแกร่ง เป็นท่าประจำที่เจย์เลนมักจะใช้เอาใจกียุล
“จะไม่อายใครเหรอกลางวันแสก ๆ ในที่โล่งแบบนี้”
“เราอยู่ในที่ของเรานี่ครับ จะกลัวอะไรหรือพี่กลัว?”
แน่นอนว่าคำตอบคือไม่กลัวน่ะสิ ต่อให้ผู้คนเกิดมาเดินพลุกพล่านตอนนี้ก็ไม่ยอมพลาดโอกาสทำ (น่า) รักแบบนี้ไปง่าย ๆ แน่ แล้วทุกอย่างมันก็เกิดขึ้นเร็วมากราวกับแม่เหล็กที่ดึงดูดกัน กามกิจเป็นสิ่งที่เขาสองคนสู้ตายเอาอะไรมาฉุดให้หยุดก็ไม่อยู่
“อื้อ! ถ้าผม อ้ะ ขอพี่แต่งงานพี่จะแต่งกับผมไหมครับ สะ เสียว อย่าสวนสิครับ” เสียงหวานถามปนเสียงครางน่ารักขณะที่กำลังบดสะโพกเข้าสู้กับความแข็งขืนที่เด้งสวนขึ้นมาจากเตียงอาบแดด ใบหน้าสวยเหยเกจากแรงอารมณ์ชวนคนใต้ร่างเสียวกระสันไม่ต่าง แต่หูดันได้ยินไม่ชัดบวกกับไม่แน่ใจในคำถามของน้องนักจึงไม่ได้ตอบกลับเป็นคำพูดมีเพียงเสียงคำรามที่ดังเท่านั้น
“ไม่แต่งเหรอครับ จะเอาคืนผมเหรอ อื้อ!”
“ฮะ เบบี๋ว่าไงนะครับ อื้มมม”
“แต่งงานกับผมไหม อ้ะ! จุกนะครับ” กียุลไม่คาดคิดกับสิ่งที่ได้ยินแล้วจึงวางสะโพกตัวเองลงส่งผลให้คนด้านบนถูกทิ้งลงมาเต็มแรงความแข็งขืนกระทุ้งสุดถึงภายใน
“แต่งงานเหรอ ขอพี่แต่งงาน?”
“ครับ แต่งไหม อีกสามเดือนนับจากนี้เราจะเตรียมงานกัน จัดงานกันที่สวนหลังบ้านเรา มีแต่คนในครอบครัวของเรามาร่วมงาน”
“เจย์เลน...”
“แต่งไหมครับ?”
“ไม่ครับ”
“?”
“ไม่ให้พี่ขอล่ะครับ มาขอพี่ทำไม” เจย์เลนจรดหน้าผากที่อวัยวะเดียวกันอีกทั้งยิ้มหวานก่อนจะถูไถจมูกโด่งคลอเคลียอย่างน่ารักกับพ่อของลูกแล้วมอบจูบหวานให้กันนานสองนานจนกลิ่นอุ่นไอรักคละคลุ้งอยู่รอบกาย
ครืดดดดดด ครืดดดด
“อ๊ะ อย่าพึ่งขยับผมรับสายก่อน พี่จินกูโทรมา”
“เบบี๋แน่ใจนะว่าจะรับสายตอนนี้” กียุลหน้ามืดตามัวอยากฉลองที่ตัวเองถูกขอแต่งงานโดยการจับน้องเปลี่ยนท่าเป็นผู้คุมเกมเอง
“ต้องรับครับ น่าจะมีเรื่องสำคัญ อื้อ! จะแทงใหม่ก็บอกสิ้!” เล่นเอาขาเรียวสั่นพั่บ ๆ
“เก็บเสียงให้ดีล่ะ” มือหนาจับสะโพกอวบอิ่มแน่นเป็นหลักยึดก่อนจะกระแทกสะโพกเข้าใส่ใม่เบาแรงให้คนน้องที่กดรับสายรุ่นพี่ไม่ทันได้ตั้งตัว เผลอทักทายไปด้วยเสียงครางหวิว
“อ๊ะ! ครับ พี่จินกู มีอะไรเหรอครับ อ๊า”
“ทำไมเสียงแปลก ๆ พี่ไม่ได้โทรมาผิดเวลาใช่ไหม เออ ๆ ช่างมันก่อน พี่มีข่าวดีมาบอก” เจย์เลนพยายามทรงตัวด้วยแขนหนึ่งข้างที่ค้ำยันเตียงอาบแดด มืออีกข้างถือโทรศัพท์และกัดปากจนห้อเลือดเพื่อสยบเสียงเสียวที่จะหลุดลอดออกไปให้อาย
“เรื่องอะไรครับพี่ อื้อ” กียุลเห็นช่องได้แกล้งน้อง จึงเร่งจังหวะจนหัวน้องสั่นครอน แก้มก้นขาวอวบกระเพื่อมไหวสู้แรงกระแทกเขาบีบขยำอย่างเอาแต่ใจ
“มีคนมาซื้อหนังเราไปฉายแล้วโว้ย โรงภาพยนตร์ 2 บริษัทเลย อันนี้ในประเทศนะ ฉายในนอกประเทศอีก พวกเราทำได้แล้ว”
“อ๊าา จริงเหรอครับ อื้อ! พี่คุยกับพี่กียุลนะครับ” ได้จังหวะดีที่จะส่งโทรศัพท์ไปให้คนตัวดีขี้แกล้ง คนสวยแอ่นอัดสะโพกใส่ศีรษะอยู่ต่ำกว่าก้น ก้มหน้าครางเสียวแทบขาดใจไม่สนอะไรอีกแล้ว
“จริงเหรอพี่ อ๋อ เจย์เลนดีใจครับ แต่ไม่ว่าง จะเปิดกล้องเหรอ ที่รัก... พี่จินกูขอเปิดกล้องได้ไหม อื้มม” คนน้องได้ทีเอาคืนกระแทกสะโพกอวบของตัวเองสวนกลับท่อนอุ่นเสียงดังลั่นให้คนพี่เสียวหัวแทบคลั่งแล้วยิ่งบีบเอวน้องแน่นจนเป็นรอยมือ
“พี่กียุลตีสิ” เจย์เลนเงยหน้าขึ้นมาเอี้ยวตัวไปบอกพลางส่ายร่อนสะโพกยั่วอย่างน่ารักทำให้กียุลทนไม่ไหวตีก้นดุ๊กดิ๊กตามคำขอ เมื่อนั้นแหละคนปลายสายถึงได้รู้แล้วว่าตัวเองโทรมาโคตรจะผิดเวลา
“ไอ้พวกลามกแล้วมารับสายฉันทำไม”
“ซี้ดดด โทษทีครับพี่ พี่นัดทุกคนมาฉลองเลยครับ พรุ่งนี้ผมสองคนจะกลับจากปูซาน แล้วก็... อ่าา อีก 3 เดือนข้างหน้า ผมจะแต่งงานกับเจย์เลนนะครับ ไว้คุยกันพี่ ขอเอาเมียก่อนกำลังมัน”
“ฮะ!? แต่งงาน ติ๊ด” คงเดาไม่ยากว่าหลังวางสายไปทั้งสองคนจะสนุกสุดเหวี่ยงกันแค่ไหนนะ
“พี่ซีคครับ ยกเก้าอี้กับโต๊ะพวกนี้ไปไว้ทางนี้ด้วยครับ แทมิน เรียวตะ แท่นพิธีล่ะ เอาไปวางด้วย พี่จินกูครับ บาทหลวงพี่นัดให้ผมแล้วใช่ไหม ขาดไม่ได้นะครับ ผมไม่ได้แต่งงานเลยนะ โซฮีเครื่องดื่มกับอาหารเป็นไงบ้าง พี่กียุลครับโต๊ะกินข้าวยัยหนูซ่อมเสร็จหรือยัง” เจย์เลนสั่งงานกับทุกคนเพราะเป็นแม่งาน จัดแจงทุกสิ่งทุกอย่างเองจนหัวหมุน แต่ที่หัวหมุนกว่าคือคนถูกสั่งงานต่างหาก
“ทราบแล้วครับพี่ กำลังยกครับ”
“จัดการให้อยู่ครับ พี่ยกคนเดียวเลยนะเก้าอี้เนี่ย”
“บาทหลวงพี่ก็คุยเรียบร้อยแล้วน่า นายได้แต่งงานแน่นอน”
“ซ่อมจะเสร็จแล้วที่รัก รออีกหน่อยครับ”
“ใช้แต่ปากทำงานนะนายอะ ใช้แต่แรงงานคนอื่น”
“ผมไม่ใช้พี่ก็ดีเท่าไหร่แล้วครับ ให้เลี้ยงหลานนี่งานเบาแล้ว”
“เพราะพี่ป้อนข้าวเจย์ลีนได้คนเดียวต่างหาก ใช่ไหมคะ คนสวยของลุง อ้าม หม่ำ ๆ เร็ว อีกสองคำจะหมดแล้ว”
“อ้า อ้า คิกคิกคิก แปะ แปะ แปะ” เด็กน้อยวัย 9 เดือนที่เริ่มพูดได้บ้างอ้าปากรับข้าวจากคุณลุงอย่างอารมณ์ดี ส่งผลให้แด๊ดดี้ต้องนั่งลงที่เก้าอี้ตัวยาวกับสองลุงหลานด้วยเพราะมันเขี้ยวเด็กน่ารัก
“คนสวยขาอิ่มหรือยังคะ” ไม่มีคำตอบกลับเป็นคำพูดมีแต่รอยยิ้มกับเสียงหัวเราะสดใสเท่านั้นที่คอยตอบโต้
“ไหนลองมานั่งโต๊ะที่ป๋าซ่อมให้หน่อยสิคะคนสวย” กียุลยกเก้าอี้ประจำตำแหน่งมาให้ลูกสาวตัวน้อย เขาลงมือซ่อมเองกับมือหลังจากที่ยัยหนูเองก็เป็นคนลงมือพังมันเองตอนที่โมโหหิว
“อย่าทำพังอีกนะคะ แด๊ดจะทำโทษหนูจริง ๆ ด้วย” เจย์เลนว่าก่อนจะเช็ดปากให้ลูกแล้วอุ้มไปนั่งที่เก้าอี้เด็ก ลูกน้อยที่เริ่มรู้ภาษาและรับรู้อารมณ์คนรอบข้างได้แล้ว ตั้งใจฟังอย่างสลดจนคนเป็นพ่อและลุงเข้ามาโอ๋โดยเร็ว
“ป๋าไม่ยอมให้แด๊ดทำโทษหนูหรอกค่ะ”
“ลุงก็ไม่ยอมเด็ดขาดเลย”
“โอ๋กันเข้าไปครับ โตขึ้นได้ดื้อแน่เพราะมีป๋ากับลุงให้ท้าย”
“คิ คิ ปา ปา ปา ปา” หนูน้อยเอื้อมมือขึ้นขอกอดแล้วเอ่ยคำที่คล้ายคำว่าป๋าออกมาซึ่งเดาได้ไม่ยากว่าอยากจะอ้อนคุณป๋า แหม ฉลาดเสียจริงเด็กคนนี้
“โอ๋ ๆ ป๋าอยู่ข้างลูกครับ รักหนูจะตาย ฟอด ~ ฟอด ~” กียุลหอมแก้มยุ้ยไปสองฟอดอย่างชื่นใจ
“ไม่รักออมม่าแล้วมั้ง ชิ” เจย์เลนแกล้งงอนลูกสาวเล่นเอาคุณลุงต้องปลีกตัวออกไปให้พ่อแม่ลูกเขามีเวลาส่วนตัวกัน
“ง้อออมม่ายังไงกันดีน้าา”
“น่ารักนะครับ ผมดีใจที่ได้เห็นภาพนี้มากเลย” คังจุนเอ่ยกับคนรักที่กำลังง่วนช่วยน้องสาวชิมเครื่องดื่มในงาน
“คิดเหมือนกัน มีความสุขกันสักที” จู่ ๆ ทั้งคู่น้ำตาก็รื้นขึ้นมาเสียอย่างนั้น
“อย่างกับเห็นลูกชายกำลังได้แต่งงานแล้วดีใจจนร้องไห้เลยนะคะพวกพี่ เวอร์มาก” ไม่ว่าโซฮีจะพูดอะไรคู่รักก็ไม่ได้ฟังกลับร้องไห้กอดกันมองดูเจย์เลน กียุล และหลานสาวหยอกล้อกันอยู่ไกล ๆ เป็นภาพวาดแห่งความสุขที่จะคงอยู่ในความทรงจำ
SATURDAY,11 DECEMBER 3030
พวกคุณเคยรอคอยอะไรมานานแสนนานแล้ววันหนึ่งก็ได้มาครอบครองไหมครับ ที่ผมถามก็เพราะว่ามันเหมือนฝันจนไม่อยากจะเชื่อ ไม่รู้ว่าจะต้องรู้สึกยังไงผมควรดีใจแล้วยิ้มไม่หุบสิ ไม่ใช่จะร้องไห้แบบนี้
เสียงบรรเลงเปียโนเพลง Turning Page โดย Sleeping At Last ดังขึ้นตามที่เจย์เลนเป็นคนเลือกเอาไว้ เมื่อโน้ตตัวแรกเปล่งเสียง ผมพยายามมองหาคนที่ผมรักสุดหัวใจ ทว่าหมู่มวลดอกไม้สีขาวที่ประดับตกแต่งอยู่นับหมื่นดอกและกลิ่นหอมอวบอวนดึงความสนใจผมได้ชั่วขณะดอกลิลลี่ถูกร้อยเป็นมาลาห้อยระย้าลงมาจากต้นไม้ใหญ่ ริบบิ้นสีชมพูที่ผูกคู่ไว้ราวกับตัวบ่งบอกว่าผมกับน้องจะไม่มีวันแยกจากกัน อีกแค่นิดเดียวเจย์เลนก็จะเดินมาหาผมที่แท่นพิธีใต้ซุ้มดอกไม้สวย
ไม่กี่อึดใจชายร่างบางในชุดสูทสีขาวที่ถูกดีไซน์ให้มีชายกระโปรงอยู่ด้านหลังอย่างงดงามมันยาวลากพื้นตามมาทุกครั้งที่เยื้องย่าง คนสวยของผมปรากฏตัวขึ้น ขอบตาชวนร้อนผ่าวอย่างไม่รู้สาเหตุเพียงแค่เห็นเจย์เลนเดินมา ก่อนจะระบายยิ้มขึ้นเมื่อเห็นลูกสาวตัวน้อยของเราเดินจูงมือเจย์เลนมาด้วยราวกับนางฟ้าตัวน้อย ๆ ที่ลงมาจากสวรรค์ มีความสุขมากเหลือเกิน ที่สองสิ่งที่ล้ำค่านี้ได้มาอยู่ข้างกายผม คิดอย่างนั้นได้ก็ยิ่งร้องไห้ออกมาอย่างสะอึกสะอื้นตื้นตัน ทว่ารอยยิ้มไม่ได้จางหายไปจากใบหน้าแม้แต่เสี้ยววินาที
พ่อกับแม่ผมที่อยู่ใกล้ ๆ คอยบีบไหล่ลูบหลังให้ผมผ่อนคลายแต่ก็ไม่ได้ช่วยอะไรมากเมื่อน้ำตาไหลอาบหน้าอย่างไม่มีทีท่าว่าจะหยุด ไม่สามารถกักเก็บความดีใจนี้ไว้ได้เลยสักนิด นี่คือสิ่งที่ผมรอมานาน เป็นสิ่งตอกย้ำว่าผมกับเจย์เลนทำสำเร็จแล้ว ผมจะได้เป็นของเขาตลอดไป
คังจุนรับหน้าที่พาเจ้าบ่าวคนสวยมาหาผม เขาคุยบางอย่างกันแล้วยิ้มมองมา สงสัยจะขำที่ผมร้องไห้ไม่หยุด ผมหลุดยิ้มเมื่อลูกสาวที่ยังเดินไม่มั่นคงทำให้พวกเขาสะดุดไปเล็กน้อย
“เจ้าลูกชายคนนี้อายเขาหมดแล้ว ร้องไห้เป็นเด็ก ๆ หึ หึ”
“พ่ออย่าแซวสิครับ ฮึก ฮืออ” มือหนาหยิบผ้าเช็ดหน้าขึ้นมาซับน้ำตาให้ตัวเอง ร้องไห้ไปยิ้มไปโดยไม่รู้จะต้องสงบสติอารมณ์อย่างไรหายใจเข้าออกลึก ๆ ก็ไม่ได้ช่วย เหมือนจะเป็นลมเสียมากกว่าเมื่อความประหม่ากัดกินจนสั่นไปทั้งหัวใจและร่างกาย แทบไม่อยากเชื่อว่าผมกำลังจะได้แต่งงานกับคนที่สบตาอยู่ ผู้ชายคนนี้คือคนที่ผมจะมอบทั้งชีวิตให้ ทั้งหัวใจให้ และพร้อมมาตลอด พร้อมมาตั้งแต่ 8 ปีที่แล้ว
“หายใจลึก ๆ เดี๋ยวก็เป็นลมหรอกลูก จะมีเมียต้องดีใจขนาดนี้เลยหรือ?”
“แม่ครับ... ฮึก เจย์เลนสวยมากครับ แล้วดูลูกสาวผมสิ แกน่ารักมาก ฮือออ เหมือนฝันเลยครับ พ่อกับแม่”
“จดจำช่วงเวลานี้ไว้นะลูก”
“มองเจ้าเจย์อย่าให้คาดสายตาแล้วบอกกับตัวเองว่าลูกจะรักเขาไปตลอดชีวิตนับจากนี้”
“ฮึก ฮืออ ครับ แน่นอนครับพ่อ ฮืออ”
แม่ของลูกผมเดินมาพร้อมรอยยิ้มผมสัมผัสได้ผ่านดวงตาที่สบกันเราโหยหากัน ถ้าคังจุนไม่เกาะแขนเจย์เลนไว้และพ่อไม่เตือนสติผมเราคงวิ่งเข้าไปกอดกันแล้ว ในที่สุด... ในที่สุด น้องก็มาถึงผมเสียที น้ำตาล้นทะลักหนักกว่าเดิมจนคนตัวเล็กกว่าต้องเช็ดน้ำตาให้แล้วจูบแก้มแผ่วเบาเพื่อปลอบประโลมให้หัวใจเบิกบานยิ่งกว่าเก่า
“ร้องไห้ทำไมครับ ผมอยู่นี่แล้ว”
“พี่ดีใจ ฮึก ฮืออ”
“ร้องไห้แล้วน่าเกลียดมากกียุล รับน้องไปซะสิ ฉันเอามาส่งให้แล้ว หยุดร้องเลยไอ้บ้า” คังจุนแซวมันกอดผมแล้วส่งมือเจย์เลนให้วางบนมือผมที่รออยู่ก่อนแล้ว พอดีกับที่พ่อแม่เข้ามาอวยพรเรา กอดเราสองคนแน่นก่อนจะเอ่ย
“ฝากลูกพ่อกับแม่ด้วยนะเจ้าเจย์ มันขี้แย”
“พ่อครับ” ผมปรามอย่างงอแงทั้งที่เลิกร้องไห้แล้วยังไม่วายล้ออีกนะ ยิ่งหันไปหาบรรดาเหล่าเพื่อนสนิทที่นั่งอยู่แถวแรกยิ่งถูกมองด้วยสายตาขำขัน ผมพลาดให้เจ้าพวกนี้เอาไปแซวอีกหลายปี
“รักกันให้มาก ๆ มีอะไรก็คุยกันนะลูก คุยกันทุกเรื่อง ทะเลาะกันยังดีกว่าเงียบใส่กันนะ แล้วก็คิดถึงเจย์ลีนให้มาก ๆ” คุณย่ากล่าวเสร็จแล้วจึงหอมแก้มหลานสาวที่ตอนนี้ถูกอุ้มมาไว้แนบอก
“พ่อรู้ว่าเราสองคนรักกันมาก จากนี้พ่อกับแม่ก็ขอให้ลูกสองคนมีความสุขในชีวิตรักอย่างที่รอมานานนะ แล้วก็ขอหลานให้พ่ออีกสัก 4-5 คน ด้วย พ่อกับแม่เหงา”
“เลี้ยงไม่ไหวหรอกครับพ่อ” เจย์เลนว่าปนตลกเราหัวเราะกันน้อย ๆ ก่อนพ่อกับแม่จะถอยออกไปนั่งที่เก้าอี้ด้านหน้าสุดที่ฝั่งขวา ให้เราสองคนยืนอยู่ต่อหน้าบาทหลวงผู้จะประกาศความรักของเราให้ประจักษ์แก่ทุกคนตามพิธีที่สืบกันมา
“พี่ขอพูดก่อน”
“เอาสิครับ” ผมสูดลมหายใจเข้าแล้วเอ่ย
“...เหมือนพี่รอคอยนายมาเป็นร้อยปีเลยรู้ไหม แต่ต่อให้รออีกเป็นพันปี แสนปี ล้านปี พี่ก็ยอมรอเพื่อให้มาถึงวันนี้... พี่จดจำวันนั้นได้เสมอเพียงแค่ได้เห็นรอยยิ้มนายในวันแรกที่เราพบกันเมื่อสิบกว่าปีก่อน พี่ก็รู้ตัวเลยว่ารักนายตั้งแต่แรกเห็น นายเหมือนกระดาษหน้าสุดท้ายที่มีแต่ถ้อยคำหวานตรึงใจ ที่พี่เฝ้าฝันให้ได้เปิดไปพบเจอโดยเร็ว นายเป็นหนังสือเล่มเก่าที่พี่รักและจะเปิดมาอ่านเสมอ นายเหมือนบ้านที่ทำให้พี่อบอุ่นหัวใจ ฮึก ฮืออ พี่รักนายอะไรก็ให้ได้ทั้งหมด ปรารถนาให้นายมีความสุข พี่จะทำให้นายเป็นคนที่โชคดีที่สุดในโลก นายจะไม่อายใครที่มีพี่เป็นสามี พี่จะทะนุถนอมนายเป็นอย่างดี ดูแล ให้เกียรติ เทิดทูน ซื่อสัตย์ รักนายคนเดียว นายจะเป็นคนเดียวและคนแรกที่พี่พบหลังตื่นนอนตลอดไป จะรักนายไปชั่วนิรันดร์ ตราบไปจากนี้หัวใจพี่เป็นของนายแต่เพียงผู้เดียว
เจย์เลน”
“ผมได้รับโอกาสครั้งที่สองในชีวิต ผมก็ไม่รู้ว่าทำไมถึงได้รับโอกาสนี้ ราวกับว่าโชคชะตากำหนดให้เราอยู่ด้วยกันเสมอ จักรวาลพาเรามาพบกันเพราะมีเหตุผล มันคือโอกาสแก้ตัวที่ผมได้รับ ที่จะชดเชยความเจ็บปวดทรมานที่ผมก่อไว้ พี่ทำให้ผมรู้ว่าการมีชีวิตอยู่ที่จริงแล้วมันเป็นยังไง ตอนเราสัมผัสกันผมรับรู้ได้ถึงทุกอย่างในหัวใจของพี่ที่รักผมมากเหลือเกิน ผมก็อยากจะบอกว่าผมรักพี่มาก ๆ เช่นกัน ฮึก ฮือออ พี่คือลมหายใจ เลือด และจิตวิญญาณของผม ผมไม่มีทางขาดพี่ไปได้เด็ดขาด ผมจะรักและเทิดทูน ให้เกียรติ ซื่อสัตย์ต่อพี่ จะรักพี่ไปชั่วนิรันดร์ ตราบไปจากนี้หัวใจผมเป็นของพี่แต่เพียงผู้เดียวพี่กียุล”
เราต่างฉีกยิ้มกว้างให้กันอยากจะเข้าไปจูบด้วยความรักแต่พิธีต้องดำเนินต่อไปก่อน ท่านสาธุคุณกล่าวในส่วนของท่าน ส่วนจิตวิญญาณของเราสองคนกอดรัดกันแน่นไม่ได้สนใจพิธีมากนักเพราะไม่มีสมาธิมากพอเมื่ออยู่ต่อหน้าคนที่รักในวันสำคัญเช่นนี้ กระทั่งถึงเวลาที่จะต้องตอบรับคำที่ผมเฝ้ารอมาตลอดทั้งชีวิต
“รับครับ” เจย์เลนเอ่ยคำสาบานอย่างหนักแน่นด้วยรอยยิ้มแจ่มใสและดวงตาสีฟ้าที่เจิดจ้า
“รับครับ” ผมเปล่งเสียงออกไปอย่างสั่นเครือเล็กน้อยเพราะก้อนสะอึกในลำคอตีตื้นขึ้นมาจะทำร้องไห้อีกหน
ผู้ทำพิธีประกาศให้เราเป็นสามีของกันและกัน วินาทีนั้นผมรอไม่ได้อีกแล้วที่จะประคองใบหน้าหวานไว้อย่างทะนุถนอมดุจกลีบลิลลี่สีขาวที่พลิ้วไหวอยู่เหนือศีรษะเรา ดวงตาสีฟ้ารื้นไปด้วยน้ำสีใสไม่ต่างจากผม ไม่น่าเชื่อว่าเราได้แต่งงานกันแล้วผู้ชายคนนี้คือสามีของผมที่ผมจะรักไปตลอดชีวิต ผมจูบเจย์เลนอย่างรักใคร่ ลืมเลือนทุกสิ่งรอบกาย ปล่อยหัวใจนำทางให้รสจูบแทรกซึมเข้าไปในส่วนลึกให้เรารับรู้ความรู้สึกของกันและกัน ความรักที่ท่วมท้นไหลผ่านกายเราสอง เจย์เลนเกาะกอดผมแนบแน่นก่อนจะพยายามดันออกเมื่อเริ่มได้ยินเสียงหัวเราะคิกคักและเสียงกระแอมไอมาจากพ่อแม่ของผม สุดท้ายมือเรียวสวยก็จับใบหน้าของผมให้หยุดลง
จุมพิตดูดดื่มถึงได้หยุด เรายิ้มให้กันไม่ได้สนผู้ใดเป็นความสุขล้ำลึกที่เราสัมผัสมันได้ร่วมกัน ผมคว้าตัวเจย์เลนมาแนบกอดอีกครั้ง เสียงปรบมือดังก้องจากแขกในงาน แล้วจึงพาเจย์เลนเดินเข้าไปหาอ้อมกอดจากเพื่อน ๆ และครอบครัวของเรา พ่อกับแม่ถึงตัวพวกเราก่อนใครด้วยใบหน้าที่เปรอะเปื้อนหยาดน้ำตา
เราผ่านกอดคนหนึ่งไปหาอีกคนหนึ่งวงแขนที่อ่อนโยนโอบล้อมเราสองจากเพื่อนและครอบครัว ผมมองภาพที่เจย์เลนกอดพวกเขาแล้วพานจะร้องไห้อีก จากนี้เจย์เลนจะไม่โดดเดี่ยวอีกแล้ว นั่นคือสิ่งที่ผมดีใจอย่างหาที่สุดไม่ได้ เพื่อน ๆ ของผมรักเขา พ่อแม่ของผมรักเขามากกว่าผมเสียอีกมั้ง ฮ่า ฮ่า ซึ่งนั้นเป็นเรื่องที่ดีมาก ผมต้องการให้เจย์เลนได้รับความรักจากทุกคนมากที่สุด เพราะเขาสมควรได้รับ
“คนสวยขามาหาคุณป๋าหน่อยค่ะ หนูมีความสุขไหมเอ่ย” ผมอุ้มเด็กน้อยตาสีฟ้าผมบลอนด์ขึ้นมาหอมฟอดใหญ่พลางมองแม่ของลูกโอบกอดทุก ๆ คน ผมหยุดยิ้มไมได้เลยจริง ๆ
พิธีแต่งงานเปลี่ยนไปเป็นปาร์ตี้ฉลองงานวิวาห์อย่างสมบูรณ์แบบ บรรยากาศผ่อนคลายเป็นกันเองเพราะมีเพียงเพื่อนสนิทและคนในครอบครัว
“ยินดีด้วยนะครับพี่” จีมุนเอ่ยแสดงความยินดีและแน่นอนว่าหมอนี่มากับคังจุนสามีตัวเอง
“ขอบคุณมากนะที่มา ไปหาพี่เจย์เลนไหม พึ่งพาเจย์ลีนไปนอน เข้าไปในบ้านสิเผื่ออยากคุยกันเงียบ ๆ”
“เดี๋ยวรอพี่เขามาก็ได้ครับ”
“มานู่นพอดี” พยักพเยิดหน้าให้รุ่นน้องสองคนหันไปดูก่อนจะเอื้อมมือไปรับเจ้าบ่าวคนสวยของผมมาแนบกายก่อนจะจุมพิตที่กลุ่มผมสีสว่างอย่างเคยชิน
“พี่สองคนเหมาะกันมากเลยนะครับ”
“ก็เหมือนนายสองคนนั่นแหละ” เสียงหวานตอบกลับอย่างอารมณ์ดีพลางหันมาหอมแก้มผมคืน
“แล้วซารังล่ะ ไม่มาด้วยเหรอครับ” เจย์เลนถามหาลูกสาวของทั้งสองคน
“ไม่ได้มาครับ อยู่บ้านคุณยาย”
“วันหลังพามาเล่นกับเจย์ลีนนะ จะได้สนิทกันไว้”
“ได้เลยครับพี่ พามาแน่นอนครับ”
“ดีเลย เราไปหาอะไรดื่มกันดีกว่าจีมุน ไปกับพี่” ทั้งสองคนเดินจากไปอย่างว่องไวเมื่อพูดถึงของมึนเมา
“ดีนะไม่ได้ให้ลูกกินนมตัวเองกันแล้ว หึ หึ”
“สองคนเข้ากันได้ดีมากเลยนะครับรุ่นพี่”
สองพ่อบ้านยิ้มเอ็นดูให้กับคู่ชีวิตของตัวเอง เรามันคลั่งรักกันทั้งคู่ครับ เลยได้คุยกันหลายอย่างกว่าจะกลับเข้าไปในงานได้ แต่เมื่อเข้าไปก็ต้องตกตะลึงที่เพื่อน ๆ เมากันแทบสติหลุด เต้นกันอย่างกับถูกไฟดูดอย่างไรอย่างนั้น ที่หนักสุดคือเมียผมที่อยู่กลางฟลอร์เต้นรำ นี่เมาก่อนถึงเวลาให้เพื่อน ๆ อวยพรแล้วจะทำอย่างไรล่ะ แม่งานดันทำแผนพังเสียเองด้วยสิ “ที่รักเมาแล้วเหรอ หืม?”
“ม่ายเมาสักหน่อยยย กินไวน์ไปแก้วเดียวเอง” พูดไปเต้นไป เห็นเจย์เลนได้ปล่อยตัวสนุกขนาดนี้แล้วผมจะไปขัดได้ยังไง
“แก้วเดียวแล้วจะเมาได้ไงครับ”
“เติมหลายทีไงครับ คิกคิก” เสียงหัวเราะเหมือนลูกสาวตัวน้อยไม่มีผิดเลยสักนิด ผมยิ้มกว้างก่อนจะเต้นไปกับคนตัวเล็ก สักพักจังหวะดนตรีก็เปลี่ยนไปเป็นเพลงหวานซึ้ง กลายเป็นว่าเราต้องเต้นรำกันท่ามกลางสายตาของทุกคนในงาน ซึ่งผมก็ไม่ได้ขัดขืนออกจะอยากอวดเสียด้วยซ้ำ เมียผมถึงเป็นผู้ชายแต่ก็สวยตะลึงนะครับ
“บูบู เบบี๋อยากนอนแล้วอะ มึนหัว”
“น่าจะดื่มไปเยอะมากนะเนี่ย แล้วเพื่อน ๆ ของเราจะทำยังไงล่ะ” ผมครุ่นคิดหนักเพราะเจย์เลนเริ่มทิ้งตัวมาที่ผมมากขึ้นคาดว่าอีกไม่นานร่างเล็กได้ร่วงแน่ถ้าผมไม่ประคองเอาไว้
“ม่ายรู้สิ ผมมึนหัวมากเลย อุ้มหน่อยสิครับ (◕‿◕✿) ” สายตาวิบวับมองมาทำให้รู้สึกว่ากำลังเสียรู้บางอย่างแต่ก็ไม่รู้ทันคน
เจ้าเล่ห์ได้ ผมดำเนินการโดยการไปบอกเพื่อน ๆ ให้เลื่อนเวลาส่งตัวพวกเราสองคนขึ้นมา
“หืม? เมาเหรอ ไม่เห็-”
“พี่คังจุนผมดื่มไปเยอะพี่ก็เห็น ผมมึนหัวมากเลย”
“อ๋อ ใช่ กียุล ไปเลย ฉันจัดการให้ จินนี่ครับจัดการแขกเดี๋ยวผมไปเอารถให้สองคนนี้ก่อน”
เราสองคนยืนอยู่ที่เชิงบันไดหน้าบ้านแขกในงานตั้งขบวนเป็นสองแถวยืนรอส่งเราสองคน
“พ่อกับแม่ครับ พวกเราฝากเจย์ลีนด้วยนะครับ”
“ไม่ต้องเป็นห่วงน่า ฮันนีมูนให้สบายใจ เอาน้องมาฝาก
เจย์ลีนสักคนสองคนนะ” แม่กับพ่อไม่ล้มเลิกความคิดที่จะให้พวกเรามีหลานให้เพิ่มในเร็ววันนี้ “ผมจัดให้ครับ” เสียงทุ้มกระซิบบอกเอาใจผู้เป็นพ่อให้ทำไงได้ล่ะครับ เดี๋ยวก็ไม่ได้ไปกันพอดีหากมัวยืนเถียงอยู่
“เบบี๋ ไปกันครับ”
“ไปครับ” เจย์เลนส่งมือให้ผมก่อนเราจะวิ่งฝ่าข้าวสารที่ถูกขว้างมาจากแขกในงาน มันเป็นการอวยพรอย่างหนึ่งของประเพณีเมื่อเจ้าบ่าว เจ้าสาวจะออกไปจากโบสถ์หรือไปฮันนีมูน ผมไม่ค่อยเข้าใจนักหรอกเพราะเจย์เลนเป็นคนจัดงานและรู้ประเพณีดี
ผมใช้ตัวเองกำบังข้าวสารให้คนรักที่เดินโงนเงนจากความมึนเมาเพราะมันเจ็บใช่เล่นหากถูกเพื่อนไม่รู้ประสาพวกนี้ปาข้าวสารใส่ด้วยความขำขัน ระหว่างหาทางหนีทีไล่สายตาของผมมองไปเห็นรถถูกแต่งด้วยดอกไม้จำนวนมากและแน่นอนว่าหนึ่งในนั้นต้องมีดอกลิลลี่ที่ผมชื่นชอบเพราะมันเป็นกลิ่นฟีโรโมนของเจย์เลน ต้องขอบคุณเพื่อน ๆ ที่ช่วยกันตกแต่งรถหรูคันนี้ให้ ถึงแม้ว่ามันจะดูเวอร์ไปสักนิดก็เถอะนะ ผมเปิดประตูให้เจย์เลนเข้าไปในรถก่อนแล้วรีบตามเข้าไปติด ๆ ฝนเมล็ดข้าวสารถึงได้หยุดลง เจย์เลนเปิดกระจกรถแล้วกล่าวลาพวกเขาอีกครั้ง
“ขอบคุณทุกคนอีกครั้งนะครับ” ภาพที่เห็นคือพ่อและแม่ผมที่ยืนกอดกัน คังจุนและพี่จินกูที่โอบเอวกันโดยมือข้างที่ว่างโบกมือให้เราสองคน เลื่อนสายตาไปอีกหน่อยก็พบเจอสามน้องเล็กที่ยิ้มให้กันอยู่สลับกับมองมาที่เราด้วยความยินดี ส่วนซีคที่ควงคุณหมอมางานด้วยก็แววตาเปี่ยมล้นไปด้วยความรัก ความรักหลากหลายรูปแบบก่อเกิดขึ้นที่บ้านของผมชวนเป็นภาพที่มีความสุขเมื่อได้เห็น ผมดีใจที่คนในครอบครัวของผมกำลังมีความสุขทั้งในเรื่องของพวกเขาเองและมีความสุขกับผมและ
เจย์เลน
“พี่รักเบบี๋นะ”
“เบบี๋ก็รักบูบูครับ เรามามีความสุขกันเถอะ” ว่าจบคนน่ารักก็อิงมาซบแขนผมและผมอดไม่ได้ที่จะมอบจูบให้ก่อนจะออกรถเร่งเครื่องเพื่อไปยังที่หมายของเราและเราจะได้ใช้เวลาร่วมกันในค่ำคืนนี้ ขอบคุณเจย์เลนที่ทำให้ผมมีวันนี้ได้ ผมมีความสุขมากเหลือเกิน
รถสปอร์ตสีดำคันหรูเลี้ยวเข้าสู่เกาะเชจูเพื่อมุ่งเข้าสู่ที่พักของการฮันนีมูนในครั้งนี้ เจย์เลนเป็นคนเตรียมการทุกอย่างไว้เอง โดยที่กียุลไม่ได้รู้เรื่องมาก่อนว่าสถานที่นั้นคือที่ไหน เป็นอย่างไร
“ใกล้ถึงแล้วครับ ข้างหน้าก็ถึงแล้ว” เสียงหวานบอกสามีในขณะที่รถกำลังขับขึ้นภูเขาซึ่งมีบ้านพักหลังใหญ่บนนั้นรออยู่
“ว่าแต่ไม่เมาแล้วเหรอ?”
“อ่า แค่อยากมาที่นี่เร็ว ๆ น่ะครับ แต่ว่าถ้าไม่รีบออกมา ผมคงเมาอ้วกอยู่ในงานไม่ได้มาที่นี่จริง ๆ” ไม่ผิดจากที่กียุลคิดเท่าไหร่นักเพราะเจย์เลนคอแข็งจะตาย
“แสบนักนะ ถึงแล้วล่ะ นั่นใช่ไหม” เมื่อเห็นแสงไฟจากในบ้านกียุลจึงให้สัญญาณ
“ใช่เลยครับ นี่แหละบ้านที่ผมซื้อไว้ให้เรา”
“อ่า แอมซื้อ ทำไมไม่คนละครึ่งล่ะครับ”
“ของขวัญวันแต่งงานเราจากผมไงครับ รถนี่พี่ก็เป็นคนซื้อนี่ผมรู้นะว่าพ่อกับแม่ไม่ได้ซื้อให้” เจย์เลนบอกอย่างรู้ทัน
“รู้ทันพี่จริง ๆ” เขาจอดรถแล้วอ้อมไปเปิดประตูอุ้มเจย์เลนเดินเข้าบ้านอย่างว่องไว ไม่สนข้าวของเครื่องใช้หรือเสื้อผ้าที่อยู่หลังรถเลยสักนิดเพราะพวกเขาไม่คิดจะใช้มันตลอดทั้งอาทิตย์ที่อยู่ด้วยกันนี้อยู่แล้ว
“บ้านสวยไหมครับ” เจย์เลนถามเมื่อตอนเข้ามาในบ้าน
“สวยมากครับ เปิดโล่งเป็นกระจกทั้งหลัง ตอนมีอะไรกันคนคงจะเห็นกันหมด น่าตื่นเต้นดีนะ” กียุลเริ่มเข้าจู่โจมกลายร่างเป็นเสือล่าเหยื่อทันควัน
“รอบข้างเป็นป่าด้านหลังเป็นน้ำตก ด้านหน้าเป็นทะเล ใครจะมาเห็นครับ ʕノ) ᴥ (ヾʔ”
“งั้นอาบน้ำเลยไหมครับเบบี๋ พี่อาบให้”
“พาไปหน่อยสิครับ” กียุลไม่รอช้าให้เรื่องแบบนี้อยู่แล้วเขาจัดการรวบคนน้องขึ้นมาอุ้มแนบอกเดินเข้าไปตามทางที่น้องบอก
เสียงครางหวานและทุ้มดังสลับกันอยู่ในห้องน้ำเป็นระยะ เต็มไปด้วยแรงอารมณ์ที่ยากจะฉุดอยู่ ก่อนจะสงบลง ร่างสูงอุ้มคนตัวเล็กกว่าออกมาวางลงที่เตียงสีขาวนุ่มซึ่งโรยกลีบดอกกุหลาบสีแดงไว้ต้อนรับคู่แต่งงานใหม่ เจย์เลนนอนหมดแรงหอบหายใจจนอกกระเพื่อมล่อสายตา
“ไม่ไหวแล้วเหรอครับ พี่ยังไม่ได้เริ่มเลย” เสียงมีเสน่ห์ของ
ฮิปนอสบอกก่อนจะเข้าไปคร่อมร่างอีโบนีบนเตียง กักขังอย่างหมดทางรอดหากคิดหนี แต่แน่นอนเจย์เลนมีแต่จะพลีกายให้อย่ากังวลว่าจะขัดขืน
“สองยกเลยนะครับเมื่อกี้ แฮ่ก แฮ่ก ขอพักก่อนนะครับ”
“เบบี๋ไม่เห็นเหรอว่าของพี่ตั้งขนาดไหน จะหนีนอนจริงเหรอ” แววตาลูกหมาส่งไปอ้อนแมวตัวเล็กที่ตาปรือปอยอย่างหมดแรง
“ตาผมจะปิดแล้วนะครับ”
“ที่รักครับ คืนแต่งงานเลยนะ T__T”
“ลองตอนผมหลับไหมล่ะครับ ถ้าบูบูทำเบบี๋เสียวได้ก็ทำ”
เจย์เลนว่าน้ำเสียงอ่อนลงเรื่อย ๆ สุดท้ายก็หลับไปจริง ๆ ปล่อยกียุลค้างเติ่งอยู่อย่างนั้น คราวแรกก็ใจอ่อนจะให้น้องพักผ่อน แต่เมื่อน้องพูดเองแบบนี้มันก็ต้องลองเสียหน่อยแล้ว ลองลักหลับเมียตัวเองหน่อยจะเป็นไรไปในเมื่อได้รับความยินยอมเรียบร้อย
เจ้าของใบหน้าหล่อจัดแจงท่าทางให้คนใบหน้าสวยนอนตะแคงแล้วย้ายร่างไปนอนซ้อนอยู่ด้านหลัง ริมฝีปากบางเริ่มเข้าจู่โจมที่ซอกคอหอมดอกลิลลี่ดอมดมให้ลมหายใจเป่าลดผิวกายจนขนลุกซู่ ก่อนความเปียกชื้นจะเลียวนและดูดดึงจนเกิดรอยสีกุหลาบ ทว่าร่างเล็กก็ยังหลับอยู่ มือหนาจึงเริ่มซุกซนลูบไล้บีบเคล้นกายขาวอมชมพูมากขึ้น ปากก็พรมจูบไปทั่วร่างตั้งแต่คอมาจนถึงไหล่มนสวยแล้วไม่พลาดที่จะโน้มไปจูบที่หน้าอกของชอบที่กินอยู่ทุกคืนก่อนนอน
“อื้ออ”
เริ่มมีเสียงเล็ดลอดออกมาเมื่อกียุลเริ่มดูดกินอย่างมูมมาม แต่เขาพยายามที่สุดแล้วที่จะอ่อนโยนราวกับกลัวน้องตื่นทั้งที่อยากจะให้ตื่นขึ้นมา เพราะความตื่นเต้นเขาจึงเลือกที่จะทำแบบนี้ให้รสกามมันกลมกล่อมมากขึ้น ภารกิจของเขาตอนนี้ก็คือทำให้น้องเสียวทั้งที่หลับแต่ต้องไม่กระโตกกระตากจนเกินไป
“ไม่ตื่นจริงเหรอที่รัก พี่ไม่รอช้าแล้วนะ” เขาว่าแล้วจับความแข็งขืนถูที่ช่องทางสีหวานฉ่ำแฉะ
“อื้มมม พี่จะเอาเข้าไปแล้วนะครับ จะหลับได้อีกเหรอ”
“...”
ไม่มีเสียงตอบกลับแต่หารู้ไม่ว่ามือน้อยใต้หมอนกำเก็บความรู้สึกจนซีด ความรู้สึกที่ไม่รู้ว่าอีกฝ่ายกำลังทำอะไรกับตัวเองมันตื่นเต้นจนมีอารมณ์มากกว่าตอนปกติเสียอีก
“พี่เอาเข้าแล้วนะ” เครื่องเพศที่จ่ออยู่กำลังค่อย ๆ ชำแรกเข้าไปอย่างเชื่องช้า ฝ่ายคนถูกเสียบก็พยายามข่มเสียงครางของตัวเองไว้สุดกำลัง
“อ่า จะสุดแล้ว อื้มมม” เมื่อดันเข้าไปจนสุดสะโพกสอบขยับเข้าหาอย่างแผ่วเบา
“ซี้ดดด ที่รัก” มือแข็งแรงบีบเอวคอดเร้าความรู้สึก
“อ้ะ อ๊า สะ เสียว อื้อ!!”
“ตื่นแล้วเหรอ”
“ใครจะหลับได้ครับ อื้อ จูบหน่อย” กียุลป้อนจูบให้ตามคำขอสะโพกก็กระแทกเข้าหาให้เสียดเสียวท้องน้อย ซ่านอยากมากกว่าเดิม
“แฮ่ก รุนแรงได้เลยครับ ผมอยากให้ทำแรง ๆ”
“เหลี่ยมจัดนักนะ วางแผนให้ลักหลับ วางแผนแกล้งเมา ต้องลงโทษแล้ว”
“อ้ะ ลงโทษผมเลย อื้อออ”
เสียงเนื้อกระทบกันเริ่มดังขึ้นเรื่อย ๆ ประสานกับเสียงครางหวานและครางกระเส่าคำรามของกียุล ค่ำคืนหวานกลับเร่าร้อนเต็มไปด้วยไฟรักของพวกเขา
ใบหน้าสวยเอี้ยวมารับจูบดูดดึงกลีบปากให้เผยออ้าออกเพื่อสอดแทรกเรียวลิ้น อณูแห่งความอยากและไฟรักเริ่มคุกรุ่นจนฉุดไม่อยู่ จังหวะหัวใจของทั้งคู่เต้นเร็วและแรง ยิ่งกียุลดึงท่อนเนื้อออกมาเกือบสุดแล้วกระแทกกลับไปใหม่ ริมฝีปากอวบอิ่มจึงหลุดจากจูบออกมาครางหวีดหวิว ส่งผลให้สามีผ่อนแรงขยับสะโพกช้า ๆ แต่เน้น ๆ เขาขบสันกรามจนมันขึ้นนูนเคลื่อนไปมา สะโพกอวบขยับสวนเข้ามาให้ร่างสูงเสียวซ่านถึงสุดขีดจึงเผลอสบถคำหยาบ
“อ่าา เหี้ยเอ๊ย เสียวฉิบหาย อื้ม!เอามันอะไรขนาดนี้”
“อ้ะ มากกว่านี้ครับพี่กียุล เอาเบบี๋แรง ๆ อ๊า”
วงแขนกล้ามแน่นเป็นมัดรั้งร่างบางเข้าประชิดแนบแน่น ถอนแล้วกระแทกเข้าไปใหม่มิดด้ามให้ความเสียวซ่านแผ่ขยาย ครวญครางไม่ได้ศัพท์แค่นี้ก็จะตายอยู่แล้ว แต่กียุลดันยกขาสวยขึ้นอีกท่าทางเซ็กซี่ยวนใจจนยั้งแรงตัวเองไม่อยู่กระแทกเข้าหาน้องไม่เบาแรง สงสารเตียงที่ต้องรับแรงจากทั้งคู่ มันดังเสียน่าสงสารกลัวเสียจริงว่าจะหักหรือไม่
เสียงหวานหูครางเหมือนจะขาดใจตาย เร่งสาวแก่นกายตัวเองตามอารมณ์เสียดเสียวท้องน้อยเหมือนจะถึงฝั่งฝันในเร็ว ๆ นี้
“ร้องออกมาดัง ๆ เลยเบบี๋ ครางชื่อพี่ ฮึ่มม”
“พี่กียุล อ๊า เอาอีก เอาเมียอีก อ๊ะ อ๊ะ”
พั่บ พั่บ พั่บ พั่บ
“ตอดพี่ถี่เลยนะ”
“ก็พี่เอาเก่ง อื้ออ ตรงนั้นครับ อ้ะ!ผมเสียวไม่ไหวแล้ว ฮือออ” ริมปากอวบอิ่มละล่ำละลั่กบอกปากคอสั่นเพราะเสียวปานจะขาดใจ
“ตรงนี้เหรอ ทำเองเลยสิครับ” ว่าจบก็ยกตัวเจย์เลนขึ้นมานอนหงายบนตัวของเขา ประคองเอวไว้อย่างระมัดระวังโดยคนรู้งานก็จัดแจงท่าทางแล้วเริ่มกดสะโพกเข้าสู้กับแรงด้านล่างที่กระทุ้งขึ้นมา
“มัน ละ ละ ลึก อื้อออ เสียว เสียว”
“เอาเลยที่รัก ขย่มให้เสร็จ เดี๋ยวพี่จะพาดูวิวทะเลรอบห้อง”
เจย์เลนหยัดแขนมั่นคงขึ้นเกร็งลำตัวสู้กับแรงกระทุ้งเอวสวนที่ทำให้เสียดเสียวไม่สิ้นสุด เชิดหน้าครวญครางเต็มเสียงแม้เห็นแต่เพดานเสียงกระเส่าที่ครางทุ้มก็ทำให้ร่านอยากจนจะเป็นบ้า ช่างเป็นการร่วมรักที่เร่าร้อนบ่งบอกถึงแรงปรารถนาที่เปี่ยมล้น
“จะเสร็จแล้วครับ อื้ออ”
“อื้มมมมม พร้อมกันเบบี๋ อ่าา”
น้ำกามที่อัดอั้นไว้นานกระฉุดราวเขื่อนแตก ร่างเล็กกรีดร้องอีกทั้งเนื้อตัวสั่นเกร็งกระตุก ก่อนจะทิ้งตัวนอนทับคนใต้ร่างที่ยังเชื่อมต่อกันอยู่ แรงหอบหายใจ กลิ่นฟีโรโมนของฮิปนอสและอีโบนีคลุ้งหอมไปทั่วห้อง เหงื่อที่เคลือบอาบกายแวววับสะท้อนกับแสงจันทร์ กียุลพรมจูบต้นคอแล้วรวบน้องมานอนกอดในท่าตะแคงขยับสะโพกเข้าหาให้น้ำทุกหยาดหยดเข้าไปในตัวน้องทั้งหมดเท่าที่จะทำได้
“อื้มม หอมกาแฟกับส้มจังครับ” คนสวยว่าอย่างพึงพอใจยิ้มพริ้มแม้หลับตา ฟีโรโมนของกียุลหอมที่สุดสำหรับเขา
“จุ๊บ จุ๊บ เบบี๋ก็หอมมาก” จมูกโด่งซุกไซ้ดอมดมกลิ่นกายอันหอมกรุ่นจากซอกคอขาวไม่หยุดราวเสพติดกลิ่น
“อ้ะ เสียวนะครับ เอาออกก่อนสิ อยากหันไปกอดบูบู”
พรวด!
“เอาออกก็บอกก่อนสิครับ ฮือออ เสียวจนสั่นไปหมดแล้ว”
“หึ หึ พี่ชอบให้เบบี๋คราง น้ำออกมาเยอะเลย” กียุลมองลูก ๆ ของเขาที่ล้นทะลักออกมาแล้วยิ้มก่อนจะพลิกกายน้องให้มาเผชิญหน้า สิ่งแรกที่ทำคือหอมและจูบ จูบชนิดที่ว่าเจย์เลนสมองเบลอ จูบดูดวิญญาณเป็นแบบนี้อีโบนีรู้ดี รู้มาตลอดว่าสามีคนนี้จูบเก่ง
“ผมมีความสุขมากเลยครับ จุ๊บ” ฉกจูบริมฝีปากคนพี่แล้วยิ้มน้อยยิ้มใหญ่สบตากันจนเห็นตัวเองในตาของอีกคน
“พี่มีความสุขจนบรรยายออกมาไม่ได้เลย” สายตาเจย์เลนก็บอกอย่างนั้นเช่นกัน ก่อนจะถามเรื่องคาใจของวันนี้
“ทำไมถึงร้องไห้ในพิธีล่ะครับ” เสียงหวานถามมือก็ลูบไล้ใบหน้าหล่อไปด้วย พรมหอมพรมจูบอย่างรักใคร่หวงแหน
“พี่ดีใจ มันหลายความรู้สึกน่ะ มันตื้นตัน เบบี๋ขอพี่แต่งงานเองเลยนะ พี่รอที่จะแต่งงานกับเบบี๋มาทั้งชีวิต พอได้แต่งกันจริง ๆ แล้วมันเหมือนฝัน ภาพตอนเบบี๋เดินมาหาพี่นายสวยมาก แถมลูกสาวเรายังอยู่ในงานแต่งงานของเรา อยู่ในวันสำคัญของเรา พี่จะไม่ร้องไห้ได้ยังไงพี่มีความสุขมาก ขอบคุณนายที่ทำให้พี่มีความสุขมากขนาดนี้”
“พูดแล้วก็คิดถึงลูกนะครับ มันดีจริง ๆ ที่เรามีเขา แล้วเขาก็ได้อยู่ในวันแต่งงานของเรา ผมก็ขอบคุณพี่ที่ทำให้ผมมีความสุขเหมือนกัน ผมไม่เคยมีความสุขขนาดนี้มาก่อนเลยในชีวิต” ความอิ่มเอมในใจทำให้พวกเขามอบจูบหวานให้กันอีกครั้งและผละออก
“ทำไมถึงรักผมล่ะครับ อยากรู้มานานแล้ว”
“ทำไมน่ะเหรอ? อืมมม เพราะว่าเบบี๋ดื้อ”
“เหตุผลแย่มาก T_T”
“หึ หึ ก็มันจริงนี่ครับ เบบี๋ดื้อแต่น่ารัก จะว่าไงดี ถ้าให้หาเหตุผลจริง ๆ พี่ก็ตอบไม่ถูกนะ รู้แค่ว่าชอบทุกอย่างที่เป็นเบบี๋ รูปร่าง หน้าตา นิสัยขี้ดื้อ มุ่งมั่น มีฝัน สู้คน ทำงานเก่ง โกรธง่ายหายเร็ว ชอบหมดเลย อยากมีเบบี๋มาอยู่ใกล้ ๆ อยากดูแล อยากทำให้เบบี๋มีความสุข เห็นเบบี๋ครั้งแรกพี่ก็ตกหลุมรักเลย แล้วก็บอกตัวเองว่าจะต้องจีบคนนี้ให้ได้” ในสมองฉายหนังในอดีตของพวกเขา กียุลจำได้ทุกฉาก
“เจอกันครั้งแรกบูบูเตะบอลใส่หัวเบบี๋ คนงงอยู่ก็มาขอเบอร์”
“ฮ่า ฮ่า ก็บอกแล้วไงว่าต้องจีบให้ได้”
“เบบี๋ก็ชอบบูบูเหมือนกัน เพราะว่าหล่อ ถ้าเป็นคนอื่นมาเตะบอลใส่แรงขนาดนั้นด่ามันไฟแลบแล้ว พอเห็นบูบูเดินมาก็เลยอ่อยสักหน่อย”
“ร้ายนะ แล้วทำไมถึงรักพี่ล่ะครับ ตอบบ้างสิ”
“เพราะว่าหล่อไงครับ ตัวก็ขาวดี ผิวสวย”
“พี่ต้องขอบคุณแม่ใช่ไหมเนี่ย ไม่งั้นเบบี๋คงไม่รักแล้ว”
“คิกคิก ใช่ครับ นอกจากหล่อก็รอยยิ้มของพี่ ผมรักรอยยิ้มของพี่ที่มันสดใส แล้วก็ใจดี พี่ดูเป็นคนที่ใจดีมาก แล้วก็เหมือนต้นไม้ใหญ่ที่น่าอยู่ด้วย มันสบายใจปลอดภัยเวลาอยู่ใกล้ครับ พี่ใจเย็น ใส่ใจคนรอบข้าง รักเพื่อนพ้อง เก่งรอบด้าน ผมเห็นพี่โผล่ไปที่ชมรมนู้นชมรมนี้ตลอดเลยสมัยเรียน”
“พี่ไปแอบดูเบบี๋ไง”
“เบบี๋ก็แอบดูพี่เหมือนกัน พยายามเอาตัวเองไปให้พี่จีบ”
“เอ้า ไหงกลายเป็นพี่ที่เสียรู้ล่ะ”
“พี่ตามผมไม่ทันหรอก คิกคิก”
“ร้ายนักเหรอครับ?” กียุลพลิกตัวไปอยู่ด้านบนจับน้องกดลงกับเตียงพร้อมเริ่มรักเร่าร้อนบทต่อไป แต่ก็หยอกล้อกันอย่างน่ารักนานสองนานก่อนจะเริ่ม
“ตอนนี้ผมเชื่อสุดหัวใจเลยครับว่า... สิ่งใดที่เกิดขึ้นแล้ว สิ่งนั้นดีเสมอ” กล่าวจบก็จุ๊บปากคนพี่อย่างมันเขี้ยว
“พี่ก็เชื่ออย่างนั้นครับ หลังจากที่ทุกอย่างเกิดขึ้น มันเป็นอย่างนั้นจริง ๆ ”
“ผมรักพี่นะครับ”
“พี่รักนายมากกว่า”
“ผมรักพี่ที่สุด”
“พี่รักนายสุดหัวใจ”
สิ้นคำหวานสองร่างจึงบดเบียดเข้าหากัน เสียงคำรามต่ำแข่งกับเสียงครวญครางหวานของอีกฝ่ายดังไปทั่วทุกมุมห้องตามที่กียุลได้บอกไว้ว่าจะพาน้องชมวิว เตียง โต๊ะ เก้าอี้ บานกระจก ทุกที่ที่จะมีเซ็กส์ได้พวกเขาทำมันไม่มีละเว้น กว่าครึ่งค่อนคืนเกือบเช้าที่ทั้งสองบรรเลงเพลงรักดุเดือด ไม่รู้ว่าไปหิวโหยกันและกันมาจากไหน แต่ก็เข้าใจได้เพราะพวกเขารักกัน หลงใหลในอีกฝ่ายมาก รักกันปานจะกลืนกิน
แม้ว่าจะใช้แรงไปเยอะ แต่เมื่อแสงอาทิตย์ลอดผ่านขอบฟ้า
ฮิปนอสก็ตื่นขึ้นมามองดูอีโบนีคนสวยหลับพริ้มอยู่ตรงหน้าอย่างที่เขาชอบทำเสมอ เช้าแรกของวันหลังผ่านงานแต่งงานมันยิ่งดีกว่าวันไหนที่ได้มองหน้าเจย์เลนหลังตื่นนอน ฝันร้ายได้จากกียุลไปตลอดกาลแล้ว เขาจูบที่
ริมฝีปากอวบอิ่มอย่างรักใคร่สุดหัวใจ เปลือกตาสีมุกเริ่มขยับราวกับรู้ว่ามีคนจ้องมองอยู่ ดวงตาสีน้ำทะเลลืมขึ้น กียุลมองด้วยรอยยิ้มอบอุ่น ฉากหลังมีทะเลและตะวันแรกแย้มเป็นพยานการเริ่มต้นชีวิตคู่อย่างแท้จริง พวกเขาเอ่ยประโยคหวานซึ้งให้แก่กัน เป็นคำพูดที่เฝ้ารอมานานและจะพูดกับคนตรงหน้าตลอดของวันที่ชีวิตเหลืออยู่
“อรุณสวัสดิ์ความรักของพี่”
“อรุณสวัสดิ์ความรักของผม”
-The End-
กียุล & เจย์เลน
ปิดเรื่อง 16/09/2023
ตอนพิเศษ อ่านได้ที่ E-BOOK เท่านั้น
แด่นักอ่านทุกท่าน
ขอให้พวกคุณมีช่วงเวลาที่ได้เบ่งบานเช่นดอกไม้งามดั่งใจฝัน
ขอให้ความรักและความสุขจงอยู่กับทุกคนตลอดไป