ฉากที่ 4

ไม่อาจฝืนหัวใจคะนึงถึง

 

3 วันผ่านไป

 

ตามนิสัยของเจย์เลนเขามักจะวางแผนการดำเนินชีวิตหรือแม้แต่ในแต่ละวันไว้เสมออย่างมีขั้นตอนว่าควรทำอะไรก่อนหรือหลัง จากนี้ไปจนถึงห้าปีข้างหน้าตอนนี้เจย์เลนก็มีแผนรับมือเอาไว้แล้ว ทว่ากับมีสิ่งหนึ่งที่ทำให้แผนการเหล่านั้นล่มไม่เป็นท่า เมื่อมีความผิดปกติกับร่างกายเกิดขึ้นหนุ่มอีโบนีหน้าสวยไม่สามารถกินอะไรได้เลย กลิ่นทุกอย่างที่รับรู้ได้ก็รุนแรงและทำให้เวียนหัวหน้ามืดอยากจะอาเจียนตลอดและแม้ป่วยหนักขนาดนี้ก็ยังไปทำงานแต่ทำงานก็ไม่ได้เพราะการพบเจอผู้คนมากมายที่คลับก็เหมือนได้ดมกลิ่นกรุน้ำหอมแตกมันรุนแรงจนถึงขั้นเป็นลมล้มพับไป นั่นทำให้เจย์เลนคิดลาออกอย่างไม่ลังเลอีกแล้วยิ่งมีสิ่งหนึ่งที่สำคัญเข้ามาในชีวิต การทำอาชีพกลางคืนที่ค่อนข้างล่อแหลมแบบนั้นเจย์เลนคิดว่าเขายิ่งไม่ควรทำ มาจนถึงตรงนี้คงเดาได้แล้วใช่ไหมว่าเจย์เลนเป็นอะไร ใช่เลย ที่คิดน่ะถูกแล้ว

"ท้องเหรอ หึ ฉันก็รู้ว่าตัวเองท้องได้ ทำไมถึงไม่คิดให้มันดีก่อนนะให้ตายสิ ฉันนี่มันแย่จริง ๆ" เจย์เลนพ่นขำประชดชีวิตนึกโมโหตัวเองที่คืนนั้นปล่อยให้อารมณ์พาไปจนเรื่องกลายมาเป็นแบบนี้ มือบางจรดแก้วนมอุ่นขึ้นมาที่ริมฝีปากดื่มมันแทนที่จะเป็นกาแฟดำผสมน้ำส้มยูซุอย่างที่เคยดื่มเป็นประจำ สายตาเหม่อมองไปที่วิวแม่น้ำฮันเบื้องหน้ามันงดงามพอที่จะทำให้จิตใจสงบลงได้เล็กน้อย จนถึงตอนนี้คุณคงมั่นใจได้แล้วว่าเจย์เลนกำลังตั้งท้องที่มีอาการเหมือนคนป่วยมาหลายวันนั่นคืออาการแพ้ท้อง

"เจย์กินข้าวเลยไหม พี่เอาข้าวต้มใส่ชามให้แล้ว" คังจุนโผล่หน้ามาถามคนท้องอ่อน รายนั้นยังไม่รู้เรื่องอะไรนะ

"อือ กินเลย หิวมาก พี่...ทำไมต้องเป็นเขาวะที่กำกับเรื่องนี้"

ร่างเล็กเดินออกมาจากระเบียงแล้วเดินตามรุ่นพี่ไปที่ห้องครัว คังจุนขมวดคิ้วเล็กน้อยก่อนจะตอบเพราะเจย์เลนที่ถามประโยคนี้มาห้ารอบได้แล้วเขาก็ตอบแบบเดิมทุกครั้ง

"ก็กียุลเป็นคนเริ่มทำหนังเรื่องนี้ไง เริ่มชวนทุกคน จะไม่ให้กำกับได้ไงหมอนั่นเตรียมบทมาเป็นปีด้วยแม้จะมีงานรัดตัวก็ตาม ฝีมือก็ไม่ใช่เล่น ๆ นายเคยดูไหมซีรีส์ดังช่องเอสบีเอที่ได้ลงในเน็ตฟลิกซ์ด้วย หมอนั่นทำนะ ไม่ผ่านตาเลย? ป้ายบิลบอร์ด ป้ายฮอโลแกรมเต็มเมือง"

คังจุนพูดไปเรื่อยไปเปื่อยพลางเลื่อนชามข้าวต้มให้เจย์เลน ส่วนคนเหม่อยังคงติดอยู่กับหลาย ๆ อย่างในหัว นอกจากจะต้องทำงานร่วมกับแฟนเก่าแล้วหนำซ้ำเขาคนนั้นยังเป็นพ่อของลูกในท้องอีก ไม่ปวดหัวให้มันรู้ไปสิมีแต่เรื่องกวนใจ

"ฮ่า ๆ ๆ ทำไมชีวิตฉันมันตลกขนาดนี้วะ ฮ่า ๆ โคตรตลกเลย" จู่ ๆ เจย์เลนก็ระเบิดหัวเราะออกมาให้คังจุนงงตาแตกจับต้นชนปลายไม่ถูก เครื่องหมายคำถามฉายอยู่บนหน้าหล่อเต็มไปหมด

"นายเป็นอะไรเนี่ย บ้าไปแล้วเหรอเจย์ พี่กลัวนะเว้ย อย่าเป็นแบบนี้สิ"

"ฮ่า ๆ ๆ พี่... ผมท้องว่ะ ฮ่า ๆ"

"ฮะ!!?"

"ผมท้อง ท้องกับแฟนเก่า ฮ่า ๆ ๆ ตลกปะ ฮ่า ๆ ๆ ตลกเหี้ย ๆ เลย"

"เดี๋ยวก่อนนะเจย์เลน ตั้งแต่เมื่อไหร่นานหรือยัง ทำไมพึ่งมาบอกพี่ มันเป็นใคร เกิดขึ้นได้ไง เฮ้ย! พี่ พี่ โอ๊ย! นี่มันบ้าไปแล้ว" คังจุนพูดไม่ออกยกมือขึ้นขยุมหัวตัวเองจนยุ่ง จะขอเล่าย้อนให้ฟังนะก็วันนั้นแหละสามวันก่อนที่บริษัทของกียุล คังจุนหามเจย์เลนไปส่งโรงพยาบาลแต่คังจุนไม่ได้อยู่ฟังผลด้วยเพราะมีงานด่วนเข้ามาเลยไม่รู้เรื่องนี้ แล้วที่เจย์เลนปวดท้องนั่นก็เพราะเครียดเรื่องกียุล คนท้องเขาห้ามเครียดใครก็รู้

“ตาย ๆ ๆ แบบนี้นายทำงานในกองถ่ายไม่ได้แน่ พี่จะคุยกับพี่จินกูให้นะ”

"ฮ่า ๆ ๆ ไม่เป็นไรพี่ผมทำได้ ผมอยากทำ ฮ่า ๆ" เป็นการขำประชดชีวิตที่ไม่รู้จะอธิบายยังไงเลย เจย์เลนไม่มีปัญหากับการเลี้ยงเด็กหรอกเขาพร้อม เขามีเงินมากมายพอที่จะใช้ทั้งชาติ พ่อกับแม่ทิ้งมันไว้ให้เขามากมายโดยที่ชาตินี้คงใช้ไม่หมดเขาไม่ต้องทำงานเลยยังได้ แต่มันสับสนในใจว่าควรทำยังไงดี อย่างแรกคงต้องบอกกียุลว่าเมื่อเดือนที่แล้วพวกเขามีเซ็กส์กันที่อีโบนีโฮสคลับแต่กียุลจำไม่ได้ แล้วตอนนี้เขาก็ท้องมาได้เดือนกว่าแล้ว

“เจย์ได้ยินพี่ไหมเนี่ย สติหน่อย ไม่เอาสิเจย์ อย่าทำเลยพี่เป็นห่วงไม่ต้องไปทำงานนี้ แล้วนี่มันกี่เดือนแล้ว ไอ้แฟนเก่านั่นมันเป็นใคร มันไม่รับผิดชอบเหรอ พี่จะไปเอาเรื่องมันให้” ใบหน้าคังจุนเริ่มแดงเมื่อนึกถึงพ่อของลูกเจย์เลนเขาเอาเรื่องมันตายแน่ถ้ามันไม่คิดรับผิดชอบน้องชายกับหลานของเขา พี่ชายต่างสายเลือดคนนี้พร้อมลุยให้

“เปล่าครับ เขายังไม่รู้ ผมยังไม่ได้บอก”

“พับผ่าสิวะ! แต่ยังไงพี่ก็ไม่เห็นด้วยนะเรื่องจะทำงานเป็นผู้ช่วยต่อ นายลืม ๆ ที่พี่พูดวันนั้นไปเถอะ แล้วถ้ากลัวผิดคำพูดพี่จะคุยกับพี่จินกูให้ บอกว่านายพึ่งรู้ว่าตัวเองท้องยังไงเขาก็เข้าใจ เขาเป็นคนใจดีนะ”

“ไม่ได้หรอกครับ ผมรับปากไปแล้วนั่นก็อีกเรื่อง แต่แค่ท้องเองผมทำงานได้ผมไม่ได้ป่วยนะพี่ อีกอย่างการได้มาทำงานนี้มันทำให้ผมมีพลังบางอย่างที่อยากจะต่อสู้กับความกลัวของผม พี่ยื่นโอกาสนี้ให้ผม ผมจะทิ้งมันไปได้ยังไง”
คังจุนยีหัวตัวเองอย่างหงุดหงิดอีกครั้งและอีกครั้ง เพราะรู้ว่าพูดอะไรไปเจย์เลนก็คงไม่ฟังแล้ว

“พี่ถามได้ไหมมันเกิดขึ้นได้ยังไง เรื่องนายกับแฟนเก่า”

“มันบังเอิญ เขาเป็นลูกค้าที่โฮสคลับ คืนนั้นเขาเมามากไม่รู้ว่าเป็นผม”

“ปกตินายแค่นั่งคุยเล่นกับแขกนี่”

“ผมรู้ว่าเป็นเขาก็เลยยอม ผมคิดถึงเขา” ประโยคท้ายแสนเบาหวิวแต่คังจุนก็ได้ยินเลยเข้าใจแล้วว่าอะไรเป็นอะไรที่แท้น้องชายเขาก็ยังวนอยู่ในรักครั้งเก่า นั่นยิ่งเครียดเลยเพราะหมายความว่าสองคนนี้ติดต่อกันไม่ได้แล้ว โดยที่เขาลืมไปสนิทว่าตัวเองไปรู้เรื่องอะไรของเจย์เลนมาเมื่อสามวันก่อนที่ห้องทำงานของกียุล พ่อหนุ่มหุ่นหมีนี่ซื่อบื้อเสียจริง

 

ปิ๊งป่อง ปิ๊งป่อง

 

"ใครแม่งมาตอนนี้วะ" คังจุนผุดลุกเดินไปเปิดประตูแทนเจย์เลนที่กำลังเถียงกับตัวเองในจิตใจ ในหัวคนท้องกำลังคิดว่าจะบอกหรือไม่บอกกียุลดี ควรบอกหรือไม่ควรบอก ไหนจะต้องตีกับความคิดที่ว่าจะเลี้ยงเด็กคนหนึ่งได้จริง ๆ เหรอ หากมองเรื่องฐานะนั้นคำตอบคือได้อยู่แล้วทว่าคนอย่างเขาสามารถเลี้ยงคนคนหนึ่งให้เติบโตขึ้นมาอย่างดีได้จริงหรือ เขาไม่มั่นใจตรงนี้เหนือกว่าสิ่งอื่นใด อีกปีเดียวอายุก็ใกล้เลขสามแล้วแต่เจย์เลนไม่เคยรู้สึกว่าตัวเองโตพอเลยสำหรับการเกิดมาใช้ชีวิตนี้

"ว้าววว กินข้าวกันอยู่พอดีเลย พี่ทำคิมบับปลาซาบะย่างกับเอาเครื่องเคียงมาให้นายด้วยนะเจย์เลน พี่ตื่นมาทำตั้งแต่เช้าเลย นายลองกินสิอร่อยมาก" มาถึงก็เอาใจเจย์เลนยกใหญ่ กียุลมาที่นี่ทุกวันหลังจากที่มาส่งเจย์เลนในคืนนั้นแม้สามวันก่อนได้ลั่นวาจาไว้ว่าจะเว้นระยะห่างกับเจย์เลนเขาก็ยังคงมาทุกวัน

"อะไรเยอะแยะวะเนี่ยกียุล แล้วนี่รู้จักที่อยู่เจย์เลนได้ไง"

"ฉันนี่ต้องถามว่านายรู้จักแฟนฉันได้ไง นายกับฉันต้องเคลียร์กันหลายเรื่องเลย"

"แฟนเก่า..." คนท้องอ่อนรีบสวนขึ้นมา นั่นทำให้มีหลอดไฟสว่างขึ้นก่อนจะมีเสียงติ๊งดังอยู่เหนือหัวคังจุน เขาอึ้งอีกรอบเมื่อรู้แล้วว่าเจย์เลนท้องกับกียุลเพื่อนเขาที่เป็นแฟนเก่ากับเจย์เลนอีกที? ตอนนี้คังจุนอยากแปลงร่างเป็นอะไรสักอย่างแล้วหายไปจากสถานการณ์ชวนงงปนอึดอัดตรงนี้เหลือเกิน เช้านี้มันเป็นวันอะไรวะเนี่ยคังจุนอยากตะโกนถามพระเจ้า

"เดี๋ยวนะ เออใช่! นายสองคนเป็นแฟนเก่ากันนี่หว่า ฉันลืมไปได้ยังไง แสดงว่ากียุลคือพอ-"

"กินข้าว พี่จุนนั่งลง ผมหิวแล้ว" เป็นอันรู้กันว่าเจย์เลนไม่อยากให้พูดอะไรคังจุนเลยนั่งลงเงียบ ๆ ลงมือกินปลาซาบะย่างกับข้าวปั้นที่กียุลทำมาฝากไป แล้วนี่เขาลืมได้ไงวันนั้นที่แอบฟังก็รู้แล้วนี่ว่าสองคนนี้เป็นแฟนเก่ากัน สงสัยต้องลดการทำงานลงบ้างแล้วสิคังจุนบ่นกับตัวเอง พลางคิดว่าพ่อของหลานเขาก็คงเป็นกียุลจริง ๆ ไม่งั้นเจย์เลนคงไม่แสดงอาการแบบนี้ "ก็แฟนเก่าที่จะมาเป็นแฟนปัจจุบันไง นั่ง ๆ กินข้าวกัน นายไม่อ้วกตอนเช้าแล้วใช่ไหมเจย์เลน พี่เอาผลไม้เปรี้ยวมาฝากด้วยนะ มันช่วยให้หายคลื่นไส้แม่พี่บอกพักนี้นายชอบกินด้วยนี่" ยังกียุลยังไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไร ยังหยอดไม่หยุดและดูเหมือนว่าเจย์เลนจะยังทำอะไรไม่ถูกนอกจากตักข้าวต้มขึ้นมากิน

"ไม่ค่อยแล้วครับ ไปหาหมอมาแล้ว"

"แล้วหมอว่ายังไง นายเป็นอะไร กินนี่สิกิมจินี่แม่พี่ทำเองเลยนะ ปลาก็กินเยอะ ๆ นะ"

"ขอบคุณครับ เป็นโรคเครียดลงกระเพาะเฉย ๆ ครับ" เจย์เลนเอ่ยเสียงเรียบก่อนจะใช้ตะเกียบคีบกิมจิที่กียุลคีบให้มากิน

"เหรอ ดีแล้วล่ะที่เป็นแค่นี้ นายก็อย่าไปเครียดมากสิ มีเรื่องอะไรในใจก็ปรึกษาพี่ได้นะ"

"ใช่ มีอะไรก็รีบบอกออกไป มันควรบอก" คังจุนเอ่ยลอย ๆ บอกรุ่นน้องถึงเรื่องที่จะปิดบังพ่อของลูก

"เรื่องบางเรื่อง มันก็พูดเลยไม่ได้นะครับพี่ ต้องรอดูไปก่อน" เจย์เลนก็พึ่งจะรู้ว่าตัวเองท้องขอเวลาคิดทบทวนกันหน่อยสิ อีกอย่างถ้าไม่ใช่แฟนเก่าที่เคยไปทำร้ายจิตใจเขาไว้เจย์เลนคงไม่คิดหนักขนาดนี้ แถมบอกไปจะเชื่อไหมก็ไม่รู้ เพราะคืนที่มีอะไรกันกียุลเมามากจนไม่น่าจำอะไรได้ นี่ถ้าจำได้ก็คงแสดงอะไรออกมาแล้วล่ะ เจย์เลนกำลังคิดไม่ตก

"คุยอะไรให้รู้เรื่องด้วยได้ไหมเนี่ย"

"..."

"..."

เงียบกันทั้งคู่ทีนี้กียุลเลยต้องเปลี่ยนเรื่องคุย

"คังจุนนายบอกฉันสิว่ารู้จักกับเจย์ได้ยังไง รู้จักนานยัง"

"ห้าปีแล้ว เจอที่โฮสคลับ"

"ฮะ!?"

"ก็ฉันไปเที่ยวที่อีโบนีโฮสคลับไงก็เจอเจย์เลน คุยกันถูกคอก็เลยคบกันมาจนป่านนี้" กียุลอยากให้ขยายความคำว่าคบกันกับอยากจะถามว่าไปเจอที่โฮสคลับนี่ไปเจอกันแบบไหน แต่เจย์เลนทำหน้าไม่โอเคเขาเลยเปลี่ยนเรื่องดีกว่า เขาไม่อยากถูกลูกแมวดุแต่เช้า

"พี่ดีใจนะเจย์เลนที่นายมาทำหนังเรื่องนี้ด้วยกัน งานนี้มันสำคัญมากพี่จะส่งประกวดที่เทศกาลหนังปูซาน ได้นายมาช่วยมันคงจะดีมาก พี่ว่าเราเข้ากันได้ดีมากเลยนะตอนทำงาน" เสียงทุ้มนุ่มอบอุ่นพูดพลางยิ้มบางส่งไปให้เจย์เลน แวบหนึ่งที่เจย์เลนคิดว่ากียุลโคตรหล่อเลย แต่ก็สลัดความคิดนั้นออกไปอย่างรวดเร็ว ส่วนคังจุนยังติดกับคำว่า (เข้ากันได้ดี) ของกียุลอยู่

แน่สิ เข้ากันได้ดีจนมีหลานเขาอยู่ในท้องเจย์เลนเลยนี่ไง -_-;

"หวังว่าผมจะช่วยพี่ได้จริง ๆ" เจย์เลนเอ่ยพลางคิดเรื่องอื่นในหัวคิดไปถึงการลาออกจากอีโบนีโฮสคลับ ลางานสี่เดือนเป็นไปไม่ได้อยู่แล้วยิ่งมาท้องแบบนี้ทำงานที่คลับไม่ได้อยู่แล้ว ลาออกไปเลยนั่นแหละดีที่สุดเขาจะทำตามที่ตัดสินใจวันนี้เลยจะส่งอีเมลไปหาเจ้านายว่าขอลาออกวันนี้ให้จบไป

"ช่วยได้สิ ก่อนอื่นนายต้องดูแลตัวเองให้ดี ๆ งานในกองถ่ายมันหนัก นายต้องกินเยอะ ๆ นะ พี่จะทำอาหารมาให้ทุกวันเลย"

"ก็ต้องกินเยอะ ๆ แหละไม่ได้ตัวคนเดียวแล้ว มีตัวเล็ก ๆ มาแย่งกิน"

"พี่จุนเงียบไปเลยนะ"

“พูดอะไรกัน ตัวเล็ก ๆ อะไร เจย์มีสัตว์เลี้ยงเหรอ ไหนอะ ลูกหมาปะ”

ลูกแกนั่นแหละไอ้ทึ่ม -_-; อันนี้คังจุนไม่ได้พูดออกไป

“ไม่มีไร นายกินไปเถอะ ฉันก็พูดไปเรื่อย” คังจุนตอบแบบนี้ไปแทนต่างหาก

อาหารมื้อนี้ก็เห็นมีแต่กียุลนั่นแหละที่มีความสุขกินเต็มคราบกว่าชาวบ้านเนื่องจากอารมณ์ดีเป็นพิเศษ เพราะนอกจากจะได้ทำงานกับเจย์เลนแล้ววันนี้คนดื้อก็ไม่ต่อต้านเขาเหมือนทุกวันดูอ่อนลงไม่ฉุนเฉียวใส่เขาเลยตั้งแต่มาถึง

"โอ๊ะ! แกล้งกันอีกแล้วนะเจ้าตัวเล็ก อยากอยู่ด้วยกันก็อย่าดื้อได้ไหม เดี๋ยวดุเลย" เสียงหวานอุทานปนบ่นคนในท้องที่ตอนนี้ยังเป็นก้อนน้อย ๆ อยู่เลยด้วยซ้ำ เป็นเพราะตัวเองหมุนตัวหันมาเก็บจานที่ล้างเสร็จแล้วเร็วเกินไปจนเกิดอาการหน้ามืดเองแท้ ๆ แต่ไปโทษคนในท้อง มือบางยกขึ้นนวดขมับที่ปวดตุบ ๆ นึกหงุดหงิดกับอาการของตัวเองไม่น้อย

"เจย์! เป็นไร พี่บอกแล้วว่าพี่จะทำเอง" กียุลรีบมาประคองคนท้องอ่อนหน้าตาตื่นหลังจากไปส่งคังจุนที่ประตู รายนั้นมีงานด่วนที่บริษัทก็เลยต้องรีบไป เพราะนอกจากคังจุนจะเป็นคนบันทึกเสียงแล้วยังทำหน้าที่มิกซ์เสียง ตั้งค่าระบบเสียงอีกซึ่งอาชีพนี้มีคนทำไม่เยอะเขาเลยเป็นที่ต้องการงานเลยชุมเป็นพิเศษ

"ผมเวียนหัวนิดหน่อยไม่เป็นไรครับ"

"ป่วยอยู่ก็อย่าดื้อสิ พี่พาไปนั่งที่ห้องรับแขก" ร่างเล็กลอยขึ้นกลางอากาศเพราะกียุลอุ้มขึ้นในท่าเจ้าสาวพาไปส่งถึงโซฟาเบด เกิดความตกใจเล็กน้อยก็นึกว่าจะประคองไปนั่งไม่คิดว่าจะอุ้มมาแบบนี้ เจย์เลนหัวใจเต้นแรงเพราะความเขิน ก้อนเนื้อที่อกข้างซ้ายเต้นระรัวราวกับกลองชุด กียุลยังคงเหมือนเดิมดูแลเขาอย่างดีมาตลอดขนาดทำร้ายจิตใจไปแบบนั้นกียุลก็ยังแสนดีกับเขา

"นั่งอยู่นี่ก่อนพี่จะไปเอามะม่วงมาให้กินเล่น มะม่วงนี่มาจากไทยเลยนะ ทีมงานพี่ที่เป็นคนไทยแนะนำพี่มาบอกว่าอร่อยมาก พี่ไปซื้อมาที่ตลาดทงแดมุนแต่เช้ามืดเลย" ตามทำคะแนนมาหลายวันจนรู้ว่าช่วงนี้เจย์เลนชอบกินมะม่วงเปรี้ยวมากเป็นพิเศษ รองลงมาก็กีวี สตอร์วเบอร์รี ที่รสชาติเปรี้ยวตาปิดพอกัน

"ผมไปเอาเองได้"

"นั่งลงเลยนะ" เสียงหล่อแอบดุเล็ก ๆ ไม่นานจานมะม่วงเปรี้ยวก็มาเสิร์ฟถึงมือ จากนั้นกียุลก็สวมบทพ่อบ้านกลับไปล้างจานต่อจนเสร็จ เมื่อทุกอย่างเรียบร้อยเขาก็กลับมานั่งดูทีวีกับเจย์เลนที่เคี้ยวมะม่วงกินจนแก้มตุ่ยและมันน่ารักสำหรับกียุลที่สุด เจย์เลนยังเหมือนเดิมทุกอย่างในสายตาของเขา น่ารักน่าทะนุถนอมราวตุ๊กตากระเบื้องเคลือบล้ำค่า กียุลไล่สำรวจใบหน้าหวานที่มีเส้นผมสีบลอนด์ ดวงตาเรียวสวยนัยน์ตาสีฟ้าอมเทาน่าค้นหาปากนิดจมูกหน่อย แก้มป่อง เลื่อนมาถึงลำคอระหงนวลเนียน ไหปลาร้าที่เห็นเพียงวับ ๆ แวบ ๆ ยามเจ้าของเรือนร่างขยับตัวหยิบมะม่วงขึ้นมางับกิน กียุลหลงใหลทั้งหมดที่เป็นเจย์เลน

"ไม่ได้เจอกันหลายปี นายดูอวบ ๆ ขึ้นนะ ดูอิ่ม ๆ มีออร่าอะไรก็ไม่รู้พี่พึ่งสังเกต" เสียงหล่อเอ่ยแล้วยิ้มไม่ยอมหุบสายตาก็ไม่ละไปจากเจย์เลนเลย ความสุขล้นออกตาจนสังเกตได้

"จะบอกว่าผมอ้วนขึ้นก็บอกมาเถอะ" ตาขวางถูกส่งมาให้เสียวสันหลังเล่นก่อนจะกลับไปมองจอทีวี เริ่มแล้วสิไอ้อารมณ์ขึ้น ๆ ลง ๆ

"ไม่ใช่ แค่มันแบบ มัน มัน..."

'สวย' นั่นคือคำที่กียุลอยากจะพูดแต่กลัวโดนด่า เขาเจอผู้คนมามากมายแต่เจย์เลนเป็นผู้ชายที่สวยที่สุดนับแต่ที่เห็นมาและมั่นใจว่าไม่มีใครจะสวยมากกว่าเจย์เลนอีกแล้วในสายตาเขา

"ช่างมันเถอะ พี่แค่จะบอกว่า...พี่ชอบ... แล้วคุณพ่อกับคุณแม่เป็นยังไงบ้างท่านสบายดีไหม" เปลี่ยนเรื่องคุยดีที่สุด กียุลไม่อยากจะทำให้บรรยากาศเสีย

"ท่านเสียแล้วทั้งคู่ตั้งแต่หกปีก่อน"

“......” แทบอยากจะฝังตัวเองลงพื้นแล้วหายไปเลยเสียเดี๋ยวนั้นเมื่อได้ยินคำตอบที่น่าหดหู่

"พี่เสียใจด้วยนะ" กียุลตกใจเพราะไม่รู้ข่าวคราวเลย เลิกกันไปก็ขาดการติดต่อทุกอย่าง กียุลถูกเจย์เลนบล็อกทุกช่องทางตั้งแต่เบอร์โทรศัพท์ไปจนถึงโซเชียลมิเดีย คิดดูสิว่าเจย์เลนใจร้ายกับกียุลขนาดไหน

"ขอบคุณครับ"

"นายมีพี่อยู่ตรงนี้เสมอนะ" เจย์เลนรู้เพราะแบบนี้ถึงไม่อยากกลับมาทำให้กียุลเจ็บอีก กียุลเป็นคนดีเกินกว่าที่คนเห็นแก่ตัวแบบเขาจะได้มาอยู่ข้างกาย

"แล้วอาการนอนไม่หลับของพี่เป็นยังไงบ้าง"

"ช่วงนี้โอเค ก็เพราะนายนั่นแหละ"

"บอกก่อนนะว่าต่อไปนี้ถ้าไม่อนุญาตอย่ามาแตะตัวผมเด็ดขาด เว้นช่องว่างกับผมด้วย พี่พูดเองนะวันนั้นจำได้หรือเปล่า ที่บอกจะเว้นระยะห่างกับผม" กียุลจำได้แต่ยอมรับอย่าคนใจหมาเลยว่าทำไม่ได้ แล้วยิ่งเห็นเจย์เลนไม่ว่าอะไร เขาก็เลยไม่ได้ทำอย่างที่พูดให้ทำฝืนใจตัวเองมันก็ลำบากสิใครจะไปทำ ห่างกันมาเกือบเจ็ดปีนั่นมันมากเกินพอแล้ว เขาไม่อยากห่างจากเจย์เลนอีกแล้ว

"พี่จะพยายามนะ แต่พี่ทำอะไรผิดอย่างนั้นเหรอ" เสียงทุ้มถามกลับเสียงอ่อนแต่เหมือนไม่ได้ถามถึงเหตุการณ์ปัจจุบันครั้นเหมือนจะถามถึงเรื่องราวเมื่อเกือบเจ็ดปีก่อนเสียมากกว่า

"..." คอตอบคือไม่ผิด คนที่ผิดคือเจย์เลนเอง กียุลไม่เคยทำอะไรผิดเลยสักนิดเป็นเขาเองที่คิดน้อยไปเห็นแก่ตัวเกินไปเลยเลือกที่จะทำแบบนั้น เจย์เลนคิดพลางขอโทษผ่านนัยน์ตาสีน้ำทะเล

"ตอบพี่สิ"

"พี่ไม่ได้ผิดอะไร พี่กลับไปเถอะ"

"นายกำลังป้องกันตัวเองจากอะไร บอกพี่หน่อยได้ไหม ทำไมถึงต้องผลักทุกคนออกไปจากตัวเอง" เพื่อทำโทษตัวเองไง เจย์เลนตอบด้วยสายตาอีกครั้งท่าทางจะร้องไห้อยู่รอมร่อแล้วและสุดท้ายก็กลั้นไว้ไม่อยู่เมื่อเหตุการณ์วันนั้นกลับมาตอกย้ำ

"พี่ไม่เข้าใจหรอก ฮึ่ก ฮือ ยิ่งพี่ทำดีกับผม ผมก็ยิ่งรู้สึกผิด แล้วก็หงุดหงิดความโง่ งี่เง่า เห็นแก่ตัวของตัวเอง ฮึ่ก พี่ไม่มีวันเข้าใจผม ฮือออ" ว่าจะไม่ร้องไห้แต่เจย์เลนไม่สามารถกลั้นมันเอาไว้ได้จริง ๆ ฮอร์โมนคุณแม่เล่นงานเอาเข้าแล้วกียุลไม่พูดอะไรต่อแต่เลือกที่จะคว้าคนตัวเล็กมากอดไว้แนบอก ลูบหัวลูบหลังให้อย่างปลอบโยนก่อนจะตบหลังเบา ๆ

"ไม่ร้องนะ ไม่ร้องนะเจย์เลน อย่าโทษตัวเองแบบนั้นเลยนะ ถ้าพี่ไม่เข้าใจ นายก็บอกให้พี่เข้าใจสิ พี่รับฟังนายเสมอนายก็รู้" เรื่องนั้นเจย์เลนก็รู้แต่มันกระดากกับตัวเองพูดไปก็เหมือนข้อแก้ตัวสู้อยู่คนเดียวแบบนี้มันดีกว่าตั้งเยอะ ชดใช้ความผิดไปแบบนี้เขาว่าสาสมแล้วกับเรื่องที่ตัวเองทำไว้

"ฮืออออ อึ่ก ฮือออ"

ปกติไม่ใช่คนที่ร้องไห้ง่ายเลยสงสัยเจ้าหนูในท้องกำลังแผลงฤทธิ์แล้วล่ะเจย์เลนคิดก่อนจะพยายามเก็บอาการ นัยน์ตาสีฟ้าอมเทาสวยช้อนมองใบหน้าหล่อจังหวะนั้นช่องว่างระหว่างพวกเขาก็ลดน้อยลงรู้ตัวอีกทีริมฝีปากของกียุลก็แนบลงไปที่กลีบปากอวบอิ่มสีชมพูระเรื่อที่ไร้การเติมแต่ง

ความอบอุ่นแนบลงไปมากขึ้น หัวใจเจย์เลนสั่นไหวแล้วหลับตาพริ้มในขณะที่กียุลเริ่มบดเบียดเข้าหาใช้ปลายลิ้นไล่เล็มเปิดปากอีกฝ่าย อีโบนีหน้าหวานผู้เป็นยารักษาชั้นดีของฮิปนอสที่กำลังตั้งท้องอยู่เปิดปากรับสัมผัสแต่โดยดีสองลิ้นร้อนเกี่ยวกระหวัดพาดพันกัน กียุลโน้มตัวเจย์เลนให้นอนแนบไปกับโซฟาตามเข้าไปคร่อมร่างไว้อย่างเผลอตัว ความอ่อนไหวทำให้เจย์เลนเผลอแยกเรียวขาเปิดรับให้ร่างสูงเข้าไปหาได้มากขึ้น

ต่างฝ่ายต่างหัวใจเต้นแรงด้วยความตื่นเต้น ลมหายใจกระหืดกระหอบกระชั้นถี่

สองมือของเจย์เลนโอบกอดลำคอหนาไว้ จูบตอบรับอย่างโหยหา มือหนาแทรกเข้าสาบเสื้อฮู้ดของเจย์เลนลูบไล้ผ่านหน้าท้อง เอว หน้าอก ความต้องการถูกจุดประกายขึ้นเรื่อย ๆ

"อื้ออ อื้มม"

เจ้าของริมฝีปากอวบอิ่มครางเครือในลำคอ มือไม้ปัดป่ายแผ่นหลังกว้างด้วยความเคลิบเคลิ้มเสียวซ่านในอารมณ์
กียุลถอนจูบดูดวิญญาณก่อนจะเข้าไปหาเป้าหมายใหม่อย่างซอกคอขาวหอมกรุ่นคล้ายดอกลิลลี่ ฮิปนอสกดจมูกโด่งลงดอมดมเต็มปอด กดจูบ ก่อนจะตวัดเรียวลิ้นเลียและดูดดึงจนเปียกชื้นเพิ่มสัมผัสหวามไหวให้เจย์เลนบดเบียดกายเข้าหาร้องครางครวญเงยหน้าเอียงคอเปิดรับสัมผัสมากขึ้น ลมหายใจมันขาดห่วงยามที่มือหนาแตะโดนตัวและบีบเคล้นเนื้อหนังของเขาอย่างมันมือ เสียววูบวาบที่ท้องน้อยราวกับผีเสื้อนับร้อยบินวนอยู่ในนั้น

เสื้อฮู้ดถูกถกขึ้นไปอยู่เหนืออกก่อนความเปียกชื้นและความร้อนจากโพรงปากจะเข้าครอบงำเม็ดเชอร์รีทั้งสองข้างสลับกัน เจย์เลนสมองขาวโพลนเมื่อความเสียวซ่านทวีคูณขึ้น เสียงจ๊วบจ๊าบดังอยู่ใต้คางชวนให้หัวใจไหวแรงราวกับยืนท่ามกลางคลื่นที่สาดซัดเข้ามาไม่หยุดหย่อนสักพักคงได้ล้มทั้งยืนแน่

"อ๊าา พี่ครับ อื้มมม"

เจย์เลนพึ่งหาเสียงตัวเองเจอ และเหมือนไม่รู้ว่ายิ่งพูดยิ่งเผลอครางกียุลก็ยิ่งมีอารมณ์ เสือซ่อนเล็บดูดดึงละเลงลิ้นระรัวฟัดหน้าอกบางจนแดงเถือกก่อนจะกดจูบไล่ลงไปจนถึงหน้าท้องแบนที่หากสังเกตดี ๆ ที่ท้องน้อยจะมีบางอย่างนูนขึ้นมาอยู่ราวก้อนไขมันเล็ก ๆ สัมผัสนั้นทำให้เจย์เลนได้สติ

"อื้มม พี่ครับ พี่กียุล หยุด หยุด! ผมทำไม่ได้! แฮ่ก แฮ่ก"

ร่างเล็กดันตัวหนีพาตัวเองออกจากท่าทางล่อแหลมเพราะนึกได้กับคำที่หมอบอกว่าช่วง 1-3 เดือนแรกนี้เป็นไปได้ให้หลีกเลี่ยงการมีเพศสัมพันธ์ไว้จะดีกว่าเพราะเสี่ยงจะทำให้ลูกในท้องมีอันตรายได้ "พะ พี่ ขอโทษ พี่ขอโทษนะ" พึ่งจะรับปากไปว่าจะเว้นระยะห่างแท้ ๆ แต่เกือบจะกินน้องซะแล้ว กียุลลูบหน้าตัวเองตั้งสติแล้วเสยผมสีดำของตัวเองไปด้านหลังลวก ๆ เขารุกคนน้องมากไปเขารู้ตัวแต่เขาห้ามใจไม่ได้ เพราะความคิดถึงมันโหยหาแต่นี่ไม่ใช่ข้ออ้างที่ดีเขารู้สึกผิดที่คุกคามน้อง

"พี่กลับไปเถอะครับ"

"พี่ขอโทษจริง ๆ พี่...คิดถึงนายมาก พี่ขอโทษนะมันจะไม่เกิดขึ้นอีก"

"ผมก็คิดถึงพี่เหมือนกัน ผมก็ต้องการพี่" เจย์เลนไม่ได้พูดออกไปเขาพูดในใจ

"กลับไป..."

"พี่มาอีกได้ใช่ไหม"

เจย์เลนเม้มปากพยักหน้าเป็นการบอกว่าได้ทว่าเสหน้าหนีเพื่อเป็นการยืนยันให้อีกฝ่ายออกไปเสียที เมื่อเสียงประตูงับปิดลงคนท้องอ่อนก็ร้องไห้ออกมาทุกความรู้สึกมันกระโจนเข้าหาเขาในคราวเดียวจนไม่รู้ว่าจะต้องรับมือกับมันยังไงหรือต้องเริ่มรู้สึกตรงไหนก่อนดีระหว่างเสียใจกับรู้สึกผิด

"ฮือออ ฮึ่ก ผมขอโทษพี่กียุล ผมขอโทษ ฮืออออ แต่ผมไม่ควรได้รับความรักจากพี่ ไม่ควร ฮืออ ไม่ควรได้รับจากใครทั้งนั้น ฮือออ"

ร่างเล็กสะอื้นไห้กอดตัวเองอย่างสั่นเทิ้มความเจ็บปวดกลั่นออกมาเป็นน้ำตามากมาย แผ่นหลังเล็กนั่นกำลังแบกรับทุกอย่างไว้คนเดียวเพราะบทเรียนที่ผ่านมาสั่งให้ทำ โดยที่เจ้าตัวไม่รู้ว่าสิ่งที่ทำมันไม่ถูกเอาเสียเลย

 

.

.

.

.

.

.

.

●—————◦◉◦—————●

 

โปรดติดตามตอนต่อไป...

มาคุยเล่นเม้านิยาย หวีดพี่กียุลกับน้องเจย์เลน ได้ที่แฮชแท็กในทวิตเตอร์ #อรุณสวัสดิ์ความรักของผม

รอคุยกับทุกคนอยู่นะคะ เหงาฝุด ๆ

เป็นไงกันบ้างคะ ฮือออ ขมแล้วค่าาา ก็หนูไม่ทำตามหัวใจตัวเองอะลูกเจย์ อ่ยยยย สงสารทั้งคู่ แต่เรามีหลานกันละค่ะท่านผู้โช๊มมมม น้องเจย์เลนเลยอารมณ์เหวี่ยงนิดนุง เข้าใจน้องน้าาาา

 

ฝากกดติดตาม กดหัวใจ เก็บเข้าชั้น คอมเมนต์ เป็นกำลังใจให้เราด้วยนะคะที่รัก

1 คอมเมนต์ = 1 กำลังใจ

จะตั้งใจเขียนออกมาให้ดีที่สุด เพื่อให้ทุกคนสนุกกับนิยายเรื่องนี้นะคะ

ปกติจะลงทุกวัน ศุกร์-เสาร์ นะคะ สายฟรีรอ 2 วันนี้เลยนะคะ

วันอาทิตย์จะลงเป็นตอนล่วงหน้าให้อ่านกันค่ะ (อันนี้ติดเหรียญน้าา)(เฉพาะreadawriteและDek-D)

ลงจบเรื่องแล้วจะติดเหรียญนะคะ มาอ่านไปพร้อม ๆ กันก่อนติดเหรียญนะคะ (เขียนจบแน่นอนค่ะเรื่องนี้เขียนตุนไว้เกือบจบแล้วค้าบ)

ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่าน เล่นแท็ก คอมเมนต์ไว้ล่วงหน้าเลยนะคะ รักนะคับ!

เจอกันศุกร์หน้านะฮะ สแว็กเกิร์ล หัวใจ คุณนักอ่าน