ฉากที่ 13 เด็ดปีกแห่งความโศกเศร้า

ยามวิกาลที่บ้านไร่แสนอบอุ่นกำลังมีโกลด์เดนต์ย่องเบามาพร้อมกับแก้วกาแฟรสส้มในมือ เขาไม่สนว่าคาเฟอีนแก้วนี้จะทำให้คนที่ดื่มตาค้างนอนไม่หลับหรือไม่ เพราะเขาจะเอามาหลอกล่อเท่านั้น ไม่มีทางให้คนท้องดื่มมันจริง ๆ หรอก ตอนนี้มันห้าทุ่มแล้วเขาจะให้แม่ของลูกดื่มได้อย่างไร

ความเงียบสงัดปกคลุมทั่วทั้งบ้านบ่งบอกว่าทุกคนได้หลับกันหมดแล้วซึ่งทางสะดวกมากสำหรับกียุล เขาค่อยๆ เปิดประตูห้องเจย์เลนที่ปิดสนิทอยู่แล้วแทรกตัวเข้าไปอย่างกับสายลับที่กำลังทำภารกิจอยู่ก็ไม่ปาน

เมื่อเปิดเข้าไปก็พบคนตัวเล็กที่กำลังก้มหน้าก้มตาพิมพ์บางอย่างลงที่โน้ตบุ๊กประจำตัวแน่นอนว่าทำงานอยู่และถึงจะรู้ว่ามีผู้มาเยือนก็ไม่สนใจเพราะกำลังจดจ่อกับงาน

“ไม่ได้อ่านข้อความพี่เหรอครับ พี่บอกว่าให้นอนได้แล้ว”

“ถ้าจะให้นอน เอากาแฟมาให้ทำไมล่ะครับ” เสียงหวานว่าทั้งที่ยังมองจอสี่เหลี่ยมอยู่กลิ่นหอมของกาแฟดึงดูดความสนใจของเล็กน้อย เขาสูดดมมันเข้าปอดแล้วเริ่มพิมพ์คีย์บอร์ดต่อ อยากจะแอบบอกว่าแท้จริงแล้วเจย์เลนกำลังรอ กียุลมาต่างหากแต่เอางานมาทำไปพลาง ๆ เท่านั้น

“นายอยู่กับกียุลเหรอเจย์เลน” จู่ ๆ ก็มีเสียงแว่วพูดขึ้นทั้งที่ไม่ได้มีใครอยู่ในห้อง ฮิปนอสแปลกใจเล็กน้อยเขาวางแก้วกาแฟไว้ที่หัวเตียงแล้วเข้าไปหาอีโบนีที่นั่งอยู่บนเตียง

“ครับพี่ซีค มีอะไรจะคุยกับเขาไหมครับ” มือบางแตะที่โทรศัพท์แล้วภาพฮอโลแกรมของซีคก็ปรากฏขึ้นมากียุลถึงเข้าใจว่าคุยงานกับซีคเพื่อนรักของเขาอยู่

“ไม่ล่ะ สงสัยมาตามนายให้ไปนอน พรุ่งนี้ค่อยตรวจกันใหม่นะ นอนเถอะ เดี๋ยวกียุลมันด่าพี่”

“เออ รู้ก็ดี ผัวเมียเขาจะนอนกอดกันวางไปได้แล้ว” ปากว่าไปร่างกายก็เข้าไปกอดเจย์เลนอย่างที่พูดจริง ๆ พร้อมแย่งโทรศัพท์มาตัดสายไปเลยอย่างถือวิสาสะ

“จะนอนหรือกินกาแฟ หื้ม?” หน้าหล่อถามพลางถูไถศีรษะกับอกเจย์เลนมือก็ลูบท้องที่เริ่มกลมอ้อนเสียคนท้องหวั่นไหวต่อความน่ารักพวกไทป์หมาโกลด์เดนต์นี่ขยันอ้อนให้ใจเต้นเสียจริงนะเจย์เลนคิดก่อนจะปิดโน้ตบุ๊กลงกำจัดไปให้พ้นทางแล้วหันมาสนใจพ่อของลูกแทน

“ดูก็รู้ว่าอยากให้ผมกินกาแฟเพราะอยากให้เลียไอติมให้”

“พี่แสดงออกชัดขนาดนั้นเลยเหรอ ว้า โดนจับได้ซะแล้ว” คำพูดดูใสซื่อทว่าตอนนี้ร่างหนาได้พลิกกายขึ้นมาคร่อมร่างเล็กไว้เป็นที่เรียบร้อย คืนนี้กาแฟแก้วที่เจย์เลนจะได้ดื่มไม่ใช่แก้วที่วางอยู่หัวเตียงหรอกแต่มันคือแก้วที่อยู่บนเตียงตอนนี้แล้วต่างหาก

“งั้นถือว่าผมให้รางวัลจากที่ทำตัวไม่น่ารักกับพี่มานาน พี่จะทำอะไรกับร่างกายผมก็ได้ ยกเว้นใส่นั่นเข้ามาในตัวผม” กียุลเตรียมใจมาแล้วว่าอาจโดนปฏิเสธแต่นี่ผิดคาดน้องมันสู้ ตอนนี้มือน้อย ๆ กำลังจับที่กลางกายเขาอยู่ด้วยเพื่อเป็นการยืนยันว่าที่พูดไปนั้นจริง

“แล้วใส่มันเข้าไปในนี้ได้ไหม” ก้านนิ้วยาวแตะลงไปที่ริมฝีปากอวบอิ่ม

“ได้” สิ้นสุดคำนิ้วยาว ๆ ก็ยัดเข้าไปในโพรงปากอุ่น คนรู้งานก็รับเข้ามาดูดเลียราวกับดูดสิ่งที่อยู่ข้างล่าง มันเซ็กซี่ขนาดที่ว่ากียุลอยากจะถอนมือออกแล้วเอาอันข้างล่างใส่ไปแทนซะเดี๋ยวนี้ทั้งที่พึ่งเอานิ้วเข้าไปได้ไม่ถึงนาทีดี

“จ๊วบ จะให้อมแค่นิ้วเหรอ อุตส่าห์พูดขนาดนั้น”

“นายถอดเสื้อผ้าให้พี่ดูได้ไหม” ดวงตาสีน้ำทะเลเริ่มแข็งทื่อ

“ตอนแรกเบบี๋ไม่ได้ห้ามพี่ไว้นะ ไหน ๆ จะให้รางวัลพี่แล้วก็ใจ ๆ หน่อยดิ”

“งั้นพี่ก็ต้องถอดด้วย”

“ใช่ปัญหาที่ไหน” ว่าจบเขาก็ถอยไปถอดเสื้อผ้าของตัวเองจนหมดแล้วยืนเท้าเอวอวดหุ่นให้เจย์เลนดูเต็มตา

“ไปทำอะไรมา ทำไมมันใหญ่ขึ้นขนาดนี้”

“เบบี๋พี่ถอดให้เอง ไม่รู้สิมันก็ใหญ่ขึ้นเอง ของนายยังเท่าเดิมนะ” เขากล่าวหยอกเอินเมื่อถอดกางเกงเจย์เลนออกไปได้

“ชิ แล้วไง คนเขาชอบกันเยอะแยะ”

“เฮ้! เยอะแยะแค่ไหน ตั้งแต่เลิกกัน พี่ไม่เคยมีใครเลยนะ” กียุลฉุนเล็กน้อยแล้วไล่จูบตั้งแต่ปลายเท้าเจย์เลนไปจนถึงขาอ่อนด้านใน

“อื้อออ อย่ามาโกหก คืนนั้นถ้าไม่บังเอิญเป็นผม ลูกคงไปเกิดในท้องคนอื่นแล้ว”

“พี่ถูกมอมเหล้าเผื่อนายลืม สาบานเลยว่าตั้งแต่เลิกกันพี่ไม่เคยมีใคร ไม่เคยไปเที่ยวใช้บริการที่ไหน มีแต่นายนั่นแหละเลิกกับพี่ไปมีใครมาแล้วกี่คนล่ะ”

“อ๊ะ ผมก็มีบ้าง แล้วไม่ถอดเสื้อผมเหรอ”

“แบบนี้เซ็กซี่ดี อื้มมม ชวนเปลี่ยนเรื่องเชียวนะ หึ”

“เซ็กซี่ในเสื้อสเวตเตอร์เนี่ยนะ อ๊ะ ตรงนั้นเสียวครับ” เสียงหวานสะดุ้งไหวเมื่อลิ้นร้อนกำลังเลียวนที่ขาอ่อนด้านในแล้วขบกัดดูดดึงจนเกิดเสียงน่าอายอาการร้อนวูบวาบเริ่มเกิดขึ้นทั่วร่างขนลุกขึ้นมาตั้งแต่ปลายเท้า

“ไม่ให้พี่เอามันเข้าไป งั้นเอาลิ้นเข้าไปได้ไหม”

“ได้ครับ อ๊า ใจเย็นได้ไหม บอกก่อนสิ” แม้จะเกร็งท้องน้อยรอแล้วก็ยังเสียวซ่านมากมายอยู่ดีเมื่อลิ้นร้อนเข้ามาทักทายโพรงอุ่น

“อย่าเกร็งเดี๋ยวเจ็บท้อง ปล่อยตัวสบาย ๆ พี่จะทำให้นายมีความสุข”

“อ๊ะ ตามจริงผมต้องทำให้พี่สิ ผมจะให้รางวัลพี่นะ”

“นี่ก็คือรางวัลของพี่ เดี๋ยวค่อยทำให้พี่นะ นายได้ทำอยู่แล้ว แต่นายต้องอย่าครางเสียงดัง พ่อกับแม่พี่จะได้ยิน”

“มันง่ายนักหรือไง อ๊ะ! อื้อ! ให้ตายสิ ผมเสียวจนจะคลั่ง อ๊า ลิ้นพี่มัน” ใบหน้าหวานเชิดขึ้นพยายามกลั้นความต้องการในขณะเดียวกันก็อ้าขาออกกว้างยกสะโพกเป็นพัก ๆ เปิดทางให้ลิ้นร้อนของคนหน้าหล่อได้ทำหน้าที่อย่างถนัดถนี่

ระหว่างที่กียุลมูมมามอยู่ที่ด้านล่างนานสองนานเจย์เลนก็ดิ้นพล่านยกสะโพกลอยเด่นแอ่นรับแรงลิ้นทุกจังหวะผสมกับเสียงหวานหูที่ครางอยู่แผ่วเบาเขากัดปากข่มเสียงจนเจ็บ

“ถ้ารู้สึกมากขนาดนี้ ทำไมไม่ให้พี่เข้าไป อนุญาตพี่เถอะนะเจย์เลน ให้พี่เข้าไปนะ พี่ปวดไปหมดแล้ว” ใบหน้าหล่อเงยหน้าขึ้นมาถามเสียงหงอยมืออีกข้างสาวรั้งให้ตัวเองอยู่อย่างเตรียมพร้อมถ้าเจย์เลนอนุญาตเขาจะจัดการทันที

“อ๊ะ ไม่ได้ ผมยังไม่พอใจพี่อยู่เรื่องหนึ่งแล้วก็มีเหตุผลของผมอยู่อีกเรื่องด้วย” นั่นคือเรื่องของโซฮีและเรื่องนี้เขาจะไม่พูดออกไปเด็ดขาดกียุลควรจะรู้ด้วยตัวเองสิเพราะเขาชัดเจนมากว่าไม่พอใจสิ่งนี้ ส่วนเหตุผลของเจย์เลนอีกข้อเรื่องนั้นบอกไปก็จะหาว่าน้ำเน่าค่อยรอดูต่อไปก็แล้วกันนะเดี๋ยวก็จะรู้เองและก็จะเข้าใจเจย์เลนด้วย หากถึงเวลานั้นเจย์เลนอาจมีความคิดใหม่เกี่ยวกับมันแล้วก็เป็นได้

“โถ่ เบบี๋ งั้นนอนตะแคงครับ หนีบขาไว้” กียุลรีบย้ายร่างไปนอนซ้อนหลังสอดแท่งอุ่นร้อนเข้าไปที่ช่องว่างระหว่างขา แรงเสียดสีที่อยู่ใกล้ช่องทางทำให้เจย์เลนปั่นป่วนในอารมณ์ไม่น้อยอยากจะปลดเปลื้องเปลือยกายของตัวเองให้หมดแล้วบอกให้คนหล่อหุ่นดีสอดแท่งแข็งเป็นลำใหญ่โตเข้ามาที่โพรงหวานแรง ๆ เสียเดี๋ยวนั้นแต่ต้องข่มใจไว้แล้วระบายทุกอย่างออกไปด้วยเสียงครางแทน

“อื้มม เจย์เลน พี่จะไม่ไหวแล้ว ซี้ดดด” ทั้งกลิ่นดอกลิลลี่แสนหอมที่ถูกปล่อยออกมาจากอีกคน ทั้งร่างกายสุดยั่วยวนกียุลจะต้านทานไม่ไหวอยู่แล้ว

“ผมก็ไม่ไหวแล้ว อ๊า”

ความซ่านอยากในกามพุ่งสูงเสียสิ้นสติทั้งคู่หากเจย์เลนไม่ท้องและอนุญาตให้สอดใส่เข้าไปข้างในกียุลคงทำตามใจจนเช้าแน่นอน ทุกสัมผัสที่เสียดสีแม้ไม่ใช่ภายในก็ยังเร้าความรู้สึกได้ถึงเพียงนี้ยิ่งคิดหนุ่มรูปงามแรงดีก็กระหน่ำสะโพกระรัวมือก็ประคองหน้าท้องเจย์เลนไว้ด้วยความระมัดระวัง ขณะเดียวกันหนุ่มหน้าหวานก็สาวรั้งความปรารถนาของตัวไปด้วยเช่นกัน จนในที่สุดทุกอย่างล้นทะลักออกมากระเซ็นสาดเปรอะเปื้อนแต่พวกเขาก็ไม่ได้รังเกียจมัน ฮิปนอสหุ่นดีกล้ามเป็นมัดพลิกตัวขึ้นไปด้านบนอีกครั้งกักขังอีโบนีคนสวยไว้ก่อนจะหอมและพรมจูบไปทั่วใบหน้าที่เขาหลงใหล หน้าผากสวยนี้เป็นของเขา ดวงตานี้เป็นของเขา พวงแก้มอิ่มนี้เป็นของเขา จมูกโด่งรั้นน่ารักนี้ก็ยังเป็นของเขา อีกทั้งริมฝีปากอวบอิ่มที่หวานล้ำนั่นก็ของเขา กียุลประกาศก้องในใจ

“ฮือออ ทำแค่นี้เหรอครับ” เสียงหวานถามแล้วจูบตอบอย่างน่ารักออดอ้อนเก่งเหมือนตอนที่ยังเป็นแฟนกัน

“พักก่อน พี่กลัวนายเหนื่อย”

“ผมไม่เหนื่อยนะ อยากเลียไอติมให้ละลายจะแย่แล้ว” กียุลหลุดขำเมื่อเจย์เลนพูดถึงรหัสลับที่พวกเขาพูดไว้เมื่อตอนกลางวัน

“ฮ่า ๆ นายน่ารักมาก ๆ พี่จะอดใจไหวเหรอ สงสารพี่บ้างสิ” ถึงแม้ว่าปากจะพูดแบบนั้นแต่ฝ่ามือใหญ่ก็จับมือน้อยมากอบกุมที่แท่งร้อนของตัวเองที่แข็งขึ้นมาแล้วเสียดื้อ ๆ และคนน้องก็รู้งานพอที่จะสาวรั้งมันอย่างเป็นจังหวะ

“คำพูดสวนทางนะครับ อ๊ะ ทำไรเนี่ย” จู่ ๆ กียุลก็มุดเข้าไปในเสื้อสเวตเตอร์ของเจย์เลน

“นายก็ทำหน้าที่ของนายไปสิ พี่ก็จะทำของพี่ หมอบอกว่าต้องกระตุ้นหน้าอกให้นายบ่อย ๆ เพราะนายเป็นผู้ชายน้ำนมอาจจะออกมาเองไม่พอให้ลูกกิน... อื้มม หวานมาก เจ็บไหม?”

“ไม่ครับ มัน อ๊า สะ เสียว ให้ตายสิครับ ผมจำได้ว่าหมอให้เอามือนวดนะ อื้ออ” มือก็สาวรั้งท่อนอุ่นปากก็คราง ร่างกายก็เสียวซ่านจากแรงดูดที่หน้าอก เจย์เลนกำลังมีความสุขจนล้นปรี่ร่างกายร้อนผ่าวขึ้นมาอีกรอบด้วยความต้องการที่ตีตื้นอีกครั้งเขาจะตายอยู่แล้วมันทรมานอยากให้สิ่งที่อยู่ในมือเข้ามาเติมเต็มเดี๋ยวนี้!

“อื้มม เม็ดเชอร์รีของนายหวานอร่อยมากรู้ไหม อยากรู้จังถ้ามีน้ำนมออกมาจะเป็นยังไง”

“อื้อ อ๊ะ จะแย่งลูกกินเหรอครับ”

“อื้มมมม นายให้ทั้งพี่ทั้งลูกกินได้ไหมล่ะ อ่า... เจย์เลนพี่จะตายแล้วพี่ต้องการนาย” เหมือนความอดทนพังลง
กียุลมุดออกมาจากเสื้อปล่อยปากออกจากหน้าอกหอมหวานกะทันหันจนเกิดเสียงแล้วกระโจมเข้าหาคนน่ารักราวสัตว์หิวกระหาย

“ผมก็ต้องการพี่ อ๊า ผมไม่ไหว อยากให้พี่ราดน้ำของพี่ใส่ผมไปทั้งตัว” สิ้นคำลามกจากคนน่ารักกียุลตะโบมจูบแม่ของลูกด้วยความกระหายอยากกว่าเดิม ร่างกายทั้งคู่เสียดสีกันยิ่งทำให้ต่างก็ดิ้นพล่านแรงราคะสุมทรวงแทบระเบิดจากอก “ให้พี่เอาเข้าไปเถอะนะ อ่า ซี้ดดด นายกำลังทำให้พี่คลั่ง พี่จะระวังไม่ให้ลูกเจ็บ”

“ผมก็คลั่งจะตายแล้ว ผมอยากให้พี่ใส่เข้ามาแล้วกระแทกผมแรง ๆ เอาแรง ๆ ให้ผมร้องครางจนเป็นบ้า อ๊า”

“งั้นจะรออยู่ทำไม” หมาโกลด์เดนต์ออกจากร่างกียุลไปตอนไหนก็ไม่ทราบได้ตอนนี้มีแต่เสือเท่านั้นที่อยู่ในร่าง เขาย้ายกายแข็งแรงไปด้านล่างรวดเร็วจ่อความแข็งขืนที่ปากทางหวานไม่รอรี ตอนนี้หน้ามืดเกินจะควบคุม

แต่เจย์เลนดึงสติทัน...

“เดี๋ยวครับ มะ มะ ไม่ครับ ไม่ได้ ผมยังให้พี่ไม่ได้ อ๊ะ! มานี่สิครับ มานี่นะครับ กอดผมสิ ༼☯﹏☯༽” แขนเรียวส่งไปหาอ้อนให้คนตัวโตมากอด เล่นเอารายนั้นต้องผ่อนลมหายใจควบคุมอารมณ์ไว้แล้วดึงเอ็นอุนออกมาทั้งที่ส่วนหัวเข้าไปได้นิดหนึ่งแล้ว กียุลทำใจเย็นทั้งที่ร้อนจนไฟลุกท่วมตัวเขาปวดหนึบกลางกายอย่างทรมาน

“นอนลงครับ พี่นอนเฉย ๆ ผมจะทำให้เอง” ตาเรียวสวยมีเสน่ห์ว่าอย่างนั้นก่อนจะจูบทิ้งไว้แล้วลงไปจัดการกับแท่งร้อนที่ชี้โด่อยู่มือน้อยจับมันขึ้นมาสาวไม่กี่ครั้งก็เอาเข้าปากอมเข้าไปจนสุดความยาวเท่าที่จะทำได้แล้วผงกหัวขึ้นลงดูดกลืนไอติมอุ่นอย่างช่ำชองสร้างเสียงครางเครือให้คนที่ถูกกระทำอยู่ตลอดเวลา ยิ่งตอนที่ลิ้นเล็กขยี้ลงที่ส่วนหัวมน กียุลยิ่งคลั่งหนักเชิดหน้าครางดุจเสือ สร้างความพึงพอใจให้เจย์เลนไม่หยุด

“เก่งมากเบบี๋ ซี้ดดด อย่างนั้นแหละ อย่างนั้น ลิ้นนายมันโคตรสุดยอด” ยิ่งชมโพรงปากอุ่นก็ยิ่งทำเอาใจทั้งดูด
ทั้งเลียไปทุกซอกทุกมุมเกิดเสียงจ๊วบจ๊าบราวกับสนุกและอร่อยกับการได้กินไอติมอุ่นแท่งนี้เหลือเกิน

“ฮือออ ผมเมื่อยปากแล้ว”

“อีกนิดเบบี๋พี่จะเสร็จแล้ว อื้มม แบบนั้นแหละ ตรงหัว ดีมากเจย์เลน พี่ใกล้แล้ว แตกในปากได้ไหม”

เจย์เลนตอบไม่ได้เพราะไอติมคาปากแต่พยักหน้าเบา ๆ ไปแทน และให้หลังไม่เท่าไหร่น้ำสีขาวขุ่นก็พวยพุ่งออกมาเต็มโพรงปากสวยเจย์เลนดูดกินเอาตายไม่ถอยหนี กียุลมองภาพนั้นแล้วอยากจะสบถคำหยาบออกมาเสียจริง เมียเขา
เซ็กซี่กว่านายเอก นางเอก หนังโป๊ทุกเรื่องบนโลกนี้เป็นไหน ๆ โชคดีฉิบหายเลยตัวเขาที่ได้มาเจอเจย์เลน

“อื้มมม น้ำพี่หวานเหมือนเดิม” ใบหน้าสวยเจ้าของเสียงหวานเอ่ยก่อนเลียริมฝีปากตัวเองปิดท้ายแล้วผละออกจากแท่งร้อนถอดเสื้อตัวเองทิ้งไปพลางเข้าไปนอนกอดคนหน้าหล่อด้วยความรัก ฮิปนอสผู้รู้งานหยิบผ้าห่มมาคลุมร่างพวกเขาทั้งสองทันทีเหตุเพราะกลัวว่าแม่ของลูกจะไม่สบาย

“ทำแบบนี้บ่อย ๆ ไม่ได้แน่ พี่อดใจไม่ไหวเจย์เลน พี่ตายได้เลยนะ นายทำพี่ทรมาน”

“ผมก็ทรมาน อื้อออ ผมง่วงแล้วพี่กียุล” น้ำเสียงที่งัวเงียบอกเพราะความอ่อนเพลียของคนท้อง

“งั้นนอนนะครับเบบี๋” ว่าจบก็จุมพิตหน้าผากมนแล้วหมายจะลุกออกไป

“ไปไหนครับ นอนด้วยกันสิ” ดวงตาปรือปอยอ้อนอย่างน่ารักมือก็รั้งเอวไว้

“ไปเอาผ้าอุ่นมาทำความสะอาดให้นายไง แบบนี้นอนไม่สบายตัว นอนเถอะ พี่นอนด้วยอยู่แล้ว” อีโบนีพยักหน้าทั้งที่หลับตาอยู่ก่อนจะเข้าสู่ห้วงนิทราอย่างว่องไวให้ฮิปนอสยิ้มเอ็นดูอยู่อย่างนั้นก่อนจะไปทำอย่างที่บอกแล้วกลับมานอนข้าง ๆ กอดเจย์เลนไว้ในอ้อมอกทั้งคืนให้กลิ่นดอกลิลลี่และกาแฟส้มเยียวยาซึ่งกันและกัน

รุ่งเช้าที่สดใสแสงแดดอ่อนครอบคลุมทั่วนภาหมู่มวลวิหคร่ายรำออกจากรังไปหาอาหารกินแต่สองร่างยังคงนอนกกกอดกันอย่างรักใคร่บนเตียงแสนอบอุ่น แพขนตาสวยกะพริบไหวก่อนจะลืมตาตื่นพอสัมผัสได้ถึงความอบอุ่นและกลิ่นกาแฟส้มก็ยิ้มออกมาโดยง่าย เจย์เลนมองหน้าอันหล่อเหลาในระยะใกล้แล้วยิ่งอุ่นในหัวใจ กียุลกำลังเข้ามาเด็ดปีกแห่งความโศกเศร้าให้เขาได้คลายทุกข์ เขาคล้ายคนกำลังจมน้ำแล้วได้กียุลโยนสายชูชีพเส้นเล็ก ๆ มาให้จับเอาไว้อีโบนีจึงพังทลายทุกอย่างลง ตอนนี้ได้ปล่อยหัวใจกลับไปคืนเจ้าของเต็มดวงอย่างไม่มีเงื่อนไข

“พี่ทำให้ผมอยากตื่นมาในเช้าวันใหม่อีกครั้ง”

“ส่วนนายคือเหตุผลที่ทำให้พี่อยากตื่นขึ้นมาในทุก ๆ วัน” ดวงตาสีน้ำทะเลเบิกกว้างเพราะไม่คิดว่าอีกคนจะตื่นขึ้นมาและดูเหมือนว่าจะตื่นอยู่นานแล้วเสียด้วย

“ตื่นแล้วก็ไม่ลุกล่ะครับ ผมจะไปล้างหน้าแล้ว”

“เดี๋ยวสิ นอนกอดกันก่อน”

“กอดมาทั้งคืนแล้วก็น่าจะพอแล้วนะครับ เดี๋ยวพ่อแม่พี่รู้ว่าเรามานอนด้วยกันจะโดนแบบเมื่อวานนะ”

“หึหึหึ ไม่กลัวหรอก ยังไงพี่ก็คุ้มได้นอนกอดคนตัวหอมแล้วโดนดึงหูจนยานพี่ก็ไม่กลัวหรอก ฟอด~ ฟอด~ ชื่นใจที่สุดเลยแก้มเมียพี่เนี่ย” เขาสูดกลิ่นดอกลิลลี่เข้าไปเต็มปอดงานนี้ฮิปนอสหลับสบายไปยันชาติหน้าแน่เลยไม่ต้องพึ่งยาไปอีกนานในเมื่อมียาใจไว้ข้างตัวขนาดนี้แล้วนี่

“โอ๊ะ ผมใส่เสื้อผ้าได้ไง” เจย์เลนเฉไฉกับคำว่าเมียทั้งที่เขิน เขาทำท่าทีตกใจกับเสื้อผ้าบนร่างกายตัวเอง

“พี่ใส่ให้เองกลัวนายไม่สบาย แต่พี่ไม่ได้ใส่นะ มานี่สิ นั่งตักพี่หน่อย” ร่างเล็กลอยขึ้นมานั่งบนตักกียุลทันทีด้วยฝีมือของคนพูด

“นั่งดี ๆ มันจะค้ำหน้าท้อง เหยียดขาด้วยครับ พี่จะกอดลูกด้วย” กียุลเองก็เหยียดขาให้เจย์เลนนั่งอยู่ระหว่างขาของเขาแนบอิงร่างเล็กลงมาที่อกแกร่ง

“หัวใจเต้นแรงนะครับ” เสียงหวานบอก

“นายเองก็เหมือนกัน” มือหนาแนบที่อกบางแล้วเอ่ยตอบไม่ให้น้อยหน้าก่อนจะเอ่ยเรียกเสียงเบาในเวลาต่อมาเมื่ออยากถามสิ่งที่คาใจ

“เจย์เลน...”

“ครับ”

“บอกพี่ได้ไหม ตอนที่เราไม่ได้อยู่ด้วยกัน หลายปีที่ผ่านมานายเจออะไรมาบ้าง” อีโบนีสะอึกกับคำพูดของฮิปนอสไม่ใช่น้อยเพราะหลายปีที่ผ่านมามันสาหัสกับเขามาก เผชิญกับความสูญเสียซ้ำแล้วซ้ำเล่า ติดอยู่ในโชคร้าย

“เราจำเป็นต้องคุยกันเรื่องนี้เหรอครับ” ศีรษะเจย์เลนอิงซบคนด้านหลังมากขึ้นจากสัมผัสที่มือหนาลูบหน้าท้องเขาอยู่จึงทำให้ผ่อนคลาย

“พี่แค่อยากรู้ว่าอะไรทำให้นายไม่สดใสเหมือนอย่างเคย ใครทำอะไรนาย บอกพี่ได้ไหม พี่เป็นห่วง พี่ไม่อยากให้นายจมอยู่กับความเศร้าหรือถ้าความเศร้านั้นคือพี่ พี่ก็อยากจะทำให้มันหายไป พี่ไม่เคยโกรธนายเลยเจย์เลน พี่รักนายมาก อะไรก็อภัยให้ได้และเข้าใจนายเสมอ ขอแค่นายบอกเหตุผลกับพี่ เราสัญญากันแล้วนะว่ามีอะไรเราจะบอกกัน” คนในอ้อมกอดกียุลชั่งใจไม่รู้ว่าจะเล่าดีไหมและไม่รู้ว่าถ้าเล่าจะเล่าเรื่องไหนก่อนดี

“ขอเวลาผมอีกสักนิดนะครับ แล้วผมจะเล่าให้ฟัง เรื่องพี่ผมไม่เศร้าแล้วล่ะ ตอนนี้ผมก้าวผ่านมันมาแล้ว ผมจะปล่อยวางลงแบบที่พี่บอก ขอบคุณที่พี่รักและให้อภัยผมไม่ว่าผมจะเลวแค่ไหนนะครับ”

“ไม่เลย อย่าพูดแบบนั้น พี่เข้าใจนายจริง ๆ ที่นายไป นายมีเหตุผล”

“ยังไงก็ขอบคุณครับ ขอบคุณที่รักผมและลูก ขอบคุณที่อยู่เคียงข้างผมมาตลอด ผมเองก็จะไม่มีทางไปจากพี่อีกแล้ว แต่ต้องให้เวลาผมก่อนนะค่อย ๆ .... เริ่มกันใหม่” เอ่ยจบใบหน้าหวานก็ช้อนตาขึ้นไปมองพ่อของลูกดวงตาใสเชื่อมทำท่าจะร้องไห้ทว่าโดนจูบหวานปลอบประโลมไว้เสียก่อน

“พี่จะรักนายกับลูกดูแลนายกับลูกให้ดีที่สุด”

“แฮ่ก แฮ่ก ผมเชื่อใจพี่ครับ จุ๊บ” จูบทิ้งท้ายพลางยิ้มหวานจนกียุลแทบละลายติดเตียง

“เอนตัวไปหน่อยสิครับ” แต่นี่สิจะละลายติดเตียงของจริง จู่ ๆ เจย์เลนก็ยกสะโพกขึ้นนั่งทับแท่งอุ่นร้อนแล้วบดกลึงร่อนเอวใส่อย่างเซ็กซี่ นี่คือวิธีให้รางวัลคนหล่อของอีโบนีคนสวยสินะ จับจุดได้ดีเสียจริง

“อื้มม เจย์ เจย์เลน ซี้ดดดด”

“จะทำให้เสร็จเลยแต่พี่ห้ามเอาเข้ามาเด็ดขาด ห้ามบีบก้นผมด้วย ผมจะทำเอง”

“นายแกล้งพี่แล้ว อ่า เบบี๋ อื้มมม เก่งมาก บดอีก ซี้ดดด พี่เสียวหัวไปหมดแล้ว”

กว่าสองคนนั้นจะได้ออกจากห้องนอนก็ปาไปแปดโมงเช้าได้ ลงมาทานข้าวด้วยใบหน้าสดใสกันทั้งคู่แล้วผู้ให้กำเนิดอย่างพ่อกับแม่จะไม่รู้ได้อย่างไรเพียงแค่ไม่พูดก็เท่านั้นแต่ยังส่งสายตากรุ้มกริ่มแซวเป็นระยะตลอดการทานข้าวนะ

“กลับกันดี ๆ นะลูก ไว้พ่อกับแม่จะไปหานะ จะทำอาหารไปฝาก แม่จะบำรุงเราให้หลานในท้องอ้วนเลย ฮ่า ๆ”

“ขอบคุณครับแม่ ขอบคุณครับพ่อ”

“มีอะไรก็มาหาพ่อกับแม่นะ พาหลานมาหาพ่อกับแม่บ่อย ๆ ล่ะ แล้วอย่าทำงานกันจนลืมว่ามีลูกอยู่ในท้องนะ”

“ผมไม่ลืมหรอกพ่อ เจย์เลนนั่นแหละดื้อจะทำงาน”

“เงียบไปเลยครับพี่กียุล ผมรู้ตัวน่า” พ่อกับแม่ต่างยิ้มให้กับทั้งคู่ที่น่าเอ็นดูเหลือเกินเถียงกันงุ้งงิ้งเสียน่ารัก

“แม่ฝากดูกียุลบ้างนะเจ้าเจย์ ลูกแม่โชคไม่ดีเป็นฮิปนอสต้องลำบากร่างกายแบบนี้ แล้วก็ดื้อด้วยบ้างานนัก แต่ก็ยังโชคดีที่มีเราอยู่ข้าง ๆ” หญิงมีอายุกล่าวก่อนจะแสดงความเอ็นดูด้วยการลูบหัวเจย์เลนแผ่วเบา

“ไม่ต้องห่วงครับแม่ ผมจะไม่ห่างพี่เขาเลย เขาจะได้นอนอิ่มแน่นอน” ใบหน้าหวานส่งยิ้มพลางจับมือคุณแม่ให้มั่นใจว่าเขาจะดูแลกียุลเป็นอย่างดี

“ดูแลกันดี ๆ นะลูก” จนสองพ่อแม่ป้ายแดงขึ้นรถขับออกไปแล้วพ่อกับแม่ของกียุลยังตะโกนบอกฝากฝังความห่วงใยและโบกมือส่งกลับไม่เลิกราแสดงให้เห็นว่าท่านทั้งสองรักและเป็นห่วงลูกทั้งสองคนมากแค่ไหน

หลายวันมานี้บาร์นเฮาส์หวานมดแทบขึ้นเลยรู้ไหมไม่เชื่อก็ดูจากการสนทนาของพวกเขาสิ นี่เป็นอีกวันที่หัวหน้าฝ่ายต้องมาประชุมกันเพื่อรายงานความคืบหน้าแต่ก็ไม่รู้ว่างานหรือความสัมพันธ์ของผู้กำกับและผู้ช่วยผู้กำกับอะไรมันคืบหน้ามากกว่ากัน

“ตั้งแต่กลับมาจากบ้านพ่อแม่ พี่สองคนดูน่ารักกันมากขึ้นนะครับ” เรียวตะทักเมื่อเห็นท่าทีของรุ่นพี่ทั้งสองคนเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิงทั้งที่ก่อนหน้าอึมครึมมาเป็นเดือน

“มัวแต่พล่ามของานด้วยครับเพื่อน ไฟฉากนี้จัดยังไง ผมจะได้จัดอาร์ตถูก” แทมินว่าก่อนจะใช้มือแตะรับไฟล์งานกลางอากาศมาจากเรียวตะ

“ขัดเก่งจริง ๆ นะ เดี๋ยวไม่ซื้อสตอร์วเบอร์รีให้กินนะเว้ย”

“ขู่อย่างกับหมา ลองไม่ซื้อดิจะไล่เตะทั่วไร่เลย”

“อะ ๆ วันนี้ก็โอเคแล้ว เลิกประชุม ไปทำงานกันต่อเถอะ ประสานงานทีมตัวเองกันด้วยนะ” สิ้นเสียงจินกูสองน้องเล็กก็ส่งเสียงดีใจก่อนจะหันไปหากียุลกับเจย์เลนอย่างมีแผน

“พี่ครับอยากปาร์ตี้อะ ฉลองให้ความรักพี่สองคนหน่อยดิ”

“พึ่งคุยเรื่องงบไม่พอให้ฟังยังจะปาร์ตี้ ไอ้เด็กพวกนี้นี่” จินกูบ่นขึ้นมาไม่จริงจังนักแล้วยกกาแฟดื่ม

“จัดกันเองไงพี่ ไม่เอางบบอ”

“ความรักอะไรกันเรียวตะ เพ้อเจ้อแล้ว พี่ก็เหมือนเดิม” เจย์เลนว่าหลังละจากเค้กส้มที่กินอยู่โดยมีกียุลคอยป้อนมาตลอดการประชุม

“แหมพี่ เห็น ๆ กันอยู่เนี่ย ยังจะ...”

“อ่า ๆ แม่ของลูกพี่เขาเขิน เลิกแซวได้แล้ว จริง ๆ ก็อยากปาร์ตี้แต่วันนี้ต้องเข้าโซลไปรับยาแล้วก็พาเจย์เลนเข้าไปดูชุดคลุมท้อง นัดจีมุนไว้จะไปเยี่ยมมันด้วยมันคลอดลูกมาหลายเดือนแล้ว”

“แล้วจะกลับกันวันไหนคะพี่” โซฮีถามพลางเก็บข้าวของตรงหน้า

“อยู่โซลสักสองคืน วันที่สามพี่จะไปเยี่ยมซีคแล้วก็จะกลับ ฝากทางนี้กับทุกคนด้วยนะครับ ถ้ามีอะไรเร่งด่วนก็รีบโทรมาได้เลยผมจะรีบกลับมา” กียุลยิ้มหวานบอกกับทุกคนก่อนจะรีบพาเจย์เลนไปทำธุระ ตอนนี้บ่ายโมงขับรถไปถึงโซลก็ตอนเย็นพอดีกับที่นัดทานข้าวไว้

“แล้วพี่ทำงานอยู่ที่สถานีกี่ปีครับถึงได้ออกมาเปิดบริษัทเอง”

“สี่ปีน่าจะได้นะ ตอนแรกพี่ทำอยู่ที่ช่องเอ็มบีอีแต่ไม่ค่อยเวิร์ค เจอพี่จินกูตอนนั้นพอมีช่องทางกันก็เลยไปทำที่ช่องเอสบีเออยู่ที่นี่นานสุดก่อนพี่จะออกมาทำฟรีแลนซ์”

“ได้คอนเน็คชั่นมาเยอะแน่เลยดิ”

“ใช่เลย ถึงพนักงานเงินเดือนจะไม่มีอิสระเท่าไหร่แต่งานสายนี้ถ้าได้เข้าไปตรงนั้น เก็บเกี่ยวคอนเน็คชั่นได้เยอะเลยนะ พี่มีบริษัทขึ้นมาได้ก็เพราะคอนเน็คชั่นส่วนหนึ่งเลยแหละ พี่จินกูเขาก็รู้จักคนเยอะด้วยเห็นพี่บ้างานมีแพชชั่นอยากเปิดบอ เขาก็ช่วย จริง ๆ เขาคือหุ้นส่วนบริษัทพี่เลยนะ งานบริหารพี่เขาถนัดมาก ส่วนพี่จะทำแต่งานโปรดักชัน” เจย์เลนพยักหน้าเข้าใจเพราะเห็นภาพออกตามที่กียุลเล่าให้ฟังขณะขับรถ

“รู้จักกันเพราะทำงานในสถานีเดียวกัน...ก็รู้จักกันมานานมากเลยนะเนี่ย”

“ใช่ อยู่ทีมเดียวกัน ทำละครเย็นโดนด่าหูชาด้วยกันมาตั้งหลายปี ฮ่า ๆ คังจุนก็เหมือนกันนะไปเจอกันที่สถานีเอสบีเอหมอนั่นน่ะทำอยู่นี่ก่อนที่พี่กับพี่จินกูไปเจอ”

“อ๋า แบบนี้นี่เอง แล้วสองน้องเล็กล่ะครับ เรียวตะกับแทมิน มาเจอกันได้ยังไง”

“สองคนนั้นเป็นเพื่อนเล่นเกมออนไลน์ด้วยกันมาหลายปี แล้วก็บังเอิญมาสมัครงานที่บริษัทพี่เหมือนกันอีก”

“บังเอิญจริงว่ะ แล้วสองคนนี้ชอบกันไหมครับ” อีโบนีกำลังเก็บข้อมูลเอาไปแซวสองคนนั้นบ้างเพราะโดนกระทำมาเยอะสองเด็กแสบขี้กวนจะตายต้องเอาคืนบ้าง

“เฟรนโซนมันค้ำคอน่ะ รู้ใจกันทั้งคู่นะแต่เป็นแฟนกันไม่ได้”

“กลัวเสียเพื่อนสินะครับ ปัญหาคลาสสิคของคนที่เป็นเพื่อนสนิทกัน”

“ไม่เหมือนเราสองคนเนาะ รู้ใจกัน รักกันเลย” กียุลได้ทีทำคะแนนส่งผลให้เจย์เลนยิ้มกับความขี้เล่นช่างพูดสร้างบรรยากาศก่อนจะยื่นมือไปหาคนที่ขับรถอยู่

“ขับรถมือเดียวอันตรายครับ” ไม่ใช่ว่าไม่อยากจับมือแต่เขาต้องรักษาความปลอดภัยให้ถึงสามชีวิตจะประมาทได้ยังไง

“เปิดโหมดขับอัตโนมัติสิครับ”

“ไม่เอาหรอก พี่ไม่ไว้ใจเทคโนโลยีเท่าไหร่ ขับเองปลอดภัยกว่า” เพราะเจย์เลนมาด้วยเขาเลยระวังเป็นพิเศษ

“งั้นยื่นแก้มมานิดหนึ่งสิครับ” ช้าอยู่ทำไมล่ะฮิปนอสเตรียมรับพลังใจจากอีโบนีด้วยความเร็วแสง

“ฟอด ~”

“เอาจริงนะ พี่จะเป็นลม อย่าน่ารักเยอะ ใจมันน้วยยยย”

“ฮ่า ๆ ๆ ๆ ปากหวานนะครับ >O<” มันจะมีช่วงเวลาไหนที่มีความสุขมากขนาดนี้อีกกียุลคิดเขาอยากให้ทุกอย่างผ่านไปด้วยดีอย่างนี้ตลอดไป

ขับรถอยู่นานในที่สุดก็มาถึงที่หมายทั้งสองคนได้รับการต้อนรับเป็นอย่างดีและตอนนี้ก็กำลังนั่งรับประทานอาหารกันอยู่ อย่างที่รู้ว่าจีมุนคือรุ่นน้องที่รู้จักกันของกียุลตอนทำงานในสถานีโทรทัศน์ติดต่อกันอยู่ตลอดแม้ไม่ได้ทำงานด้วยกันแล้วก็ตามพวกเขาเลยยังสนิทสนมกัน

“วางแผนมีคนที่สองกันหรือเปล่าพวกนายน่ะ” กียุลถามรุ่นน้องและสามีของเจ้าตัวที่นั่งอยู่ข้างกัน

“ยังนะครับพี่ คนแรกนี่ก็เหนื่อยแล้ว ฮ่า ๆ นี่ขนาดว่าพวกผมวางแผนมีลูกกันมาอย่างดีแล้วนะครับ ก็ยังรับมือแทบไม่ทัน” หนุ่มผมยาวเสียงแหบเสน่ห์บอกรุ่นพี่

“พอคุณเจย์เลนคลอด รุ่นพี่จะเข้าใจพวกผมเลยครับ” คังชอลสามีของจีมุนช่วยตอบอีกแรง

“ชักกลัวแล้วแฮะ ต้องขอคำแนะนำจากพวกนายเยอะ ๆ แล้ว ฮ่า ๆ ๆ”

พูดคุยกันอย่างสนุกสนานขณะทานข้าวไปนานสองนานจนตอนนี้ถึงเวลาเก็บกวาดสองคุณพ่อก็อาสาทำความสะอาดปล่อยให้จีมุนและเจย์เลนได้ไปเดินเล่นพูดคุยกันที่สวนหลังบ้าน

“เดินย่อยสักหน่อยนะครับพี่ แล้วเดี๋ยวเราไปลองชุดคลุมท้องกันผมทำไว้ให้หลายชุดเลยมีแต่เท่ ๆ ทั้งนั้นพี่กียุลบอกมาหมดแล้วครับว่าพี่ชอบเสื้อผ้าแนวไหน” ร่างที่เล็กกว่าเจย์เลนเล็กน้อยบอกพลางอุ้มลูกเดินเล่นไปด้วย สวนหลังบ้านของเขากว้างและถูกจัดไว้อย่างสวยงามเพื่อเป็นที่พักผ่อนของครอบครัว เล่นเอาเจย์เลนชอบจนอยากจะซื้อบ้านแบบนี้บ้าง เริ่มตัดสินใจได้แล้วว่าอยากได้บ้านแบบไหนกันแน่หลังจากปรึกษากับกียุลแล้วยังไม่ได้ความเสียที เรื่องบ้านนี่ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่จะตัดสินใจได้รวดเร็ว

“ขอบคุณนายมากนะ พี่ไม่อยากใส่ชุมคลุมท้องแบบที่แม่ ๆ เขาใส่จริง ๆ พี่ไม่ได้เหยียดอะไรพวกเขานะ แต่แค่..”

“ผมเข้าใจครับ พวกปากไม่ดีมันเยอะ เห็นผู้ชายท้องได้เป็นตัวประหลาดยิ่งเรามาใส่ชุดคลุมท้องยิ่งโดนมองโดนนินทา”

“ใช่เลย! ยิ่งตอนไปโรงพยาบาลนะ มองกันอย่างกับพี่เป็นเอเลี่ยน”

“จริงครับพี่ แรก ๆ ผมก็แคร์สายตาเก็บเอาคำพูดคนพวกนั้นมาคิดนะครับ แต่พอนาน ๆ ไปก็ช่างมัน คนมันจะคิดลบนะครับ ไปห้ามไม่ได้หรอก ผมทำงานในกองจนคลอดพวกคนในกองโดยเฉพาะผู้ชายด้วยกันนี่ปากกับความคิดโคตร
น่ารังเกียจ”

“นายก็โดนเหรอ อ่า สังคมเรานี่มันยังไงวะ พี่ก็เคยได้ยินคนในกองนินทาเหมือนกัน บอกว่าเป็นผู้ชายแล้วท้องโคตรน่าขนลุก”

“กองหนังพี่กียุลเหรอครับ โอ้โห ผมเดาว่าพี่ไม่ได้บอกพี่กียุลแน่เลย”

“ใช่สิ บอกไปได้เรื่องใหญ่แน่ เขาไม่ยอมให้ใครมาว่าพี่หรอก”

“พี่กียุลดูรักพี่มากเลยนะครับ ทั้งคำพูด สายตา การกระทำ เขาไม่ปิดบังเลยว่ารักพี่ ขนาดว่าผมพึ่งเคยเห็นพี่อยู่กับเขานะครับยังดูออกว่าเขารักพี่มาก” มันก็เขินอยู่เหมือนกันนะพอได้ยินแบบนี้จากคนอื่น รู้สึกขึ้นมาได้ชัดเจนกว่าเดิมเลยว่ากียุลรักตัวเขามากจริง ๆ เจย์เลนยิ้มขึ้นมาอย่างไม่ปกปิด

“สามีนายก็รักนายมากนะ พี่อิจฉานายเลยที่ทำตามสิ่งที่วางแผนไว้ได้ มีลูกตอนที่พร้อม ได้วางแผนอนาคตไว้ พี่น่ะไม่ได้วางแผนอะไรไว้เลยสักนิด ถ้าได้วางแผนก่อนอะไรคงจะดีกว่านี้”

“ผมเชื่อว่าอะไรที่เกิดขึ้นแล้วย่อมดีเสมอครับพี่ แต่ละทางที่เราเลือกแม้ต้นทางไม่เหมือนกัน ปลายทางอาจเหมือนกันก็ได้นะครับ เส้นทางหนึ่งอาจเต็มไปด้วยขวากหนามกว่าจะถึงเส้นชัย เส้นทางหนึ่งอาจเต็มไปด้วยกลีบกุหลาบ สุดท้ายปลายทางก็คือเส้นชัยเหมือนกัน” เจย์เลนไม่เคยคิดถึงมุมนี้เลยนะ คิดแต่ว่าอะไรที่ไม่เป็นดั่งหวังคือความผิดหวังและโชคร้ายเสมอ

“ก็อาจจะจริงอย่างนายว่านะ ขอบคุณมากจีมุน” ใบหน้าสวยฉีกยิ้มกว้างให้รุ่นน้องแล้วถอนหายใจออกมาอย่างปล่อยวาง เขาได้ปลดล็อกหนึ่งสิ่งในใจ

“เฮ้! คุณพ่อตัวเล็กทั้งสองคนกับเจ้าตัวน้อยเข้าบ้านมาได้แล้วครับ หมอกลงแล้วอากาศเย็นขึ้นแล้วด้วยเดี๋ยวจะไม่สบายกันนะ” คังชอลตะโกนมาจากชานหลังบ้านโดยมีกียุลยืนอยู่ข้าง ๆ ทั้งสองที่ถูกเรียกจึงต้องเดินกลับเข้าไปถึงจะยังคุยกันไม่หนำใจก็ตามทว่านั่นไม่ใช่ปัญหาเพราะได้มาตั้งเตาคุยกันต่อที่ชานหลังบ้านแทน

“เรียกพ่อหรือแม่ก็ได้ครับผมไม่ติดเลย ส่วนมากที่จะมีปัญหากันไม่ใช่พวกเราหรอกครับ แต่เป็นคนอื่น สำหรับผมน่ะไม่ว่าลูกจะเรียกผมว่าอะไรผมก็เป็นทั้งพ่อและแม่ให้เขาได้ทั้งนั้น”

“พี่ก็คิดแบบนั้นนะ เราเป็นทั้งพ่อและแม่ให้เขาได้อยู่แล้ว พี่ไม่เข้าใจเลยว่าไอ้พวกผู้ชายที่มันท้องไม่ได้มันมีปัญหาอะไรกับเรานักหนา”

“จริงครับพี่ ตอนผมท้องได้เจ็ดแปดเดือนแล้วไปโรงพยาบาลนะ มีพี่ ๆ ผู้หญิงเข้ามาคุยมาให้คำแนะนำมาเล่นกับผมกันทั้งนั้นน่ารักกันมาก ๆ เลย ส่วนพวกผู้ชายมองอย่างกับผมจะไปกินหัวพวกมัน ผมก็แค่ท้องนะเว้ย มีเด็กในท้องดีกว่ามีหมาในปากแบบพวกมันอีก”

“จริงมากจีมุน พูดแล้วมันก็น่าโมโหคนพวกนี้ ท้องได้แล้วไม่แมนอย่างนั้นอย่างนี้ อ่อนแอบ้างล่ะ เอาไรมาวัดคำว่าแมนไม่แมน พี่ว่าเราแมนกว่าพวกมันอีก พวกแม่ ๆ ผู้หญิงด้วยก็แมนกว่าพวกมัน”

“จริงที่สุดครับพี่ ที่ผมงงมากคือ ผมเจอในอินเทอร์เน็ตมีคอมเมนต์บอกว่าหน้าที่ของผู้หญิงคือการเกิดมาเป็นแม่คน แล้วผู้หญิงที่ท้องไม่ได้ก็มีไหมอะ งั้นเขาจะไม่มีคุณค่าเลยเหรอถ้าไม่ได้ทำหน้าที่แม่ ตรรกะแม่งป่วยจัดพวกผู้ชายที่คิดแบบนี้เนี่ย” ระหว่างที่ทั้งสองผู้ให้กำเนิดคุยกันอย่างออกรสชาติถึงปัญหาที่พบเจอสองคุณพ่อก็ได้แต่นั่งมองตากันปริบ ๆ นี่เขาสองคนกำลังโดนด่าด้วยหรือเปล่านะ มันเสียวสันหลังอย่างไรชอบกล

“นี่พวกเรากำลังโดนด่าอยู่ไหมวะ”

“ไม่หรอกครับพี่ เราไม่ได้ทำแบบไอ้ผู้ชายพวกนั้น แต่บางทีตรงนี้อาจไม่ใช่ที่ของพวกเรา เราไปคุยเรื่องของพวกเรากันไหมครับยังคุยไม่จบเลย” ตอนล้างจานช่วยกันได้คุยกันหลายประเด็นสำคัญเลย

“เรื่องของพวกเราอะไรครับ มีอะไรปิดบังเหรอ” จีมุนที่หูดีได้ยินสิ่งที่สามีพูดก็โพร่งออกมาเลย ว่าก็ว่านะระแวงว่าสามีจะไปแอบมีกิ๊กน่ะสิ ช่วงเวลานี้สุ่มเสี่ยงจะโดนนอกใจนักจีมุนเชื่ออย่างนั้น

“ไม่มีอะไรหรอกน่าจีมุน นายก็คุยกับเจย์เลนไปสิ” กียุลทำท่าทางลับ ๆ ล่อ ๆ จนเจย์เลนไม่ไว้ใจไปด้วยอีกคน

“ถ้าไม่ได้ปิดบังก็คุยกันตรงนี้สิครับ”

“นายสองคนจะอายนะ”

“ไม่อายหรอกครับ” เพราะเจย์เลนคิดไม่ถึงว่าอะไรจะทำให้อายได้เลยพูดไปอย่างไม่ทันคิด

“พวกพี่จะคุยอะไรกันเหรอครับ”

ยิ้มเหี้ยมพร้อมกันทั้งสองคนขนาดนี้สองคุณพ่อก็เลยต้อง...

“ท่าเซ็กส์ที่ไม่เป็นอันตรายต่อคนท้องน่ะ พี่อยากปรึกษาคังชอลไว้” กียุลพูดจบก็ยิ้มกรุ้มกริ่มไปหาคู่ตัวเองคังชอลก็เช่นกัน

O_O

O_O”

“ว่าไงคังชอลท่าไหนวะ”

“On Top สิครับพี่ ปลอดภัยแน่นอนให้เขาคอนโทรเอง” ก็เข้าใจว่าผู้ชายคุยกันเรื่องแบบนี้แหละไม่แปลกและ เจย์เลนกับจีมุนก็เป็นผู้ชายมันก็ไม่ได้เขินอะไรขนาดนั้นแต่...มันก็กระอักกระอ่วนจะอยู่ฟังไงทั้งสองคนเลยรีบหนีออกไปจากตรงนั้นทันทีด้วยท่าทีลุกลี้ลุกลนสร้างรอยยิ้มให้คุณพ่อทั้งสองไม่น้อย

“งั้นเรามาลองชุดคลุมท้องกันดีกว่าครับพี่ ผมพาน้องไปกินนมนอนก่อนนะครับ พี่รอแป๊บหนึ่งนะครับ” อยากจะรีบจ้ำเดินขึ้นบันไดหนีไปแต่ก็ทำไม่ได้เพราะคนหนึ่งท้องอยู่คนหนึ่งก็อุ้มลูกอยู่

“เดี๋ยว จีมุน พี่ขอไปดูนายให้นมน้องได้ไหม คือ...พี่อยากถามนิดหน่อยเรื่องน้ำนม”

“ได้สิครับ ผมจะแนะนำพี่เอง” ผู้ให้กำเนิดรู้ใจกันเร่งฝีเท้าด้วยความระมัดระวังจนในที่สุดก็มาถึงห้องนอนเล็กที่ตกแต่งไว้อย่างน่ารักเพื่อลูกสาวคนสวย

“น้องกินนมจากอกนายเลยเหรอ เราเป็นผู้ชายเราจะมีให้น้องกินพอเหรอ”

“บางคนก็ไม่ครับพี่ ผมโชคดีที่มีพอให้ลูก ตอนแรกก็กลัวแบบพี่ครับ แต่พอช่วงเจ็ดเดือนขึ้นไปหน้าอกผมจู่ๆ ก็ขยายใหญ่ขึ้นมามาก น้ำนมก็ไหลออกมาไม่หยุดต้องใช้แผ่นซับน้ำนมตลอดเลยครับ” เจย์เลยพยักหน้าเข้าใจตาก็มองทุกการกระทำของรุ่นน้องเพื่อเรียนรู้ไว้

“ง่าย ๆ ครับพี่ อุ้มแบบนี้แล้วเอาเข้าเต้าน้องก็จะดูดเองเลย” ปากน้อย ๆ ดูดนมจากอกอย่างน่ารักชวนให้เจย์เลนยิ้มไม่หยุด หากลิตเติ้ลเบบี๋ของเขากับกียุลออกมาลืมตาดูโลกแล้วคงจะน่ารักอย่างนี้แน่

“กินเก่งจังเลยน้า แล้วแบบนี้หน้าอกเราจะใหญ่แบบนี้ตลอดไปเลยหรือเปล่า”

“ก็จะลดลงเล็กน้อยครับพี่ ร่างกายเราไม่มีทางเหมือนเดิมเลยพอมีลูก แต่ผมก็ยอมเพราะอยากมีเขา ผมรู้สึกโชคดีมากเลยที่ผมท้องได้”

“พี่ก็เหมือนกันเพียงแต่ว่ามันเร็วไปหน่อย”

“แล้วพี่ดีใจไหมครับที่มีน้องอยู่ในท้อง”

“ตอนรู้ว่าตัวเองท้องพี่ดีใจไม่ออก พูดตามตรงเลยว่ามันกังวลไปหมดเพราะพี่ไม่พร้อมจริง ๆ ทุกอย่างมันไม่ใช่ในแบบที่พี่คิดไว้ แต่พอมองข้ามเรื่องอื่น ๆ ไปได้ พี่ก็ดีใจมากที่มีเขา มันมหัศจรรย์มากเลยนะที่มีหนึ่งชีวิตกำลังเติบโตในตัวเรา เลือดเนื้อเราหล่อเลี้ยงเขา”

“ใช่เลยครับพี่ ลองอุ้มดูไหมครับ ซ้อมไว้ก่อน” เจย์เลนลังเลปนประหม่าไม่กล้าที่จะอุ้มลูกของจีมุน

“ดูผมแล้วทำตาม พี่จะทำได้ด้วยสัญชาตญาณของพี่ครับ” ชั่งใจอยู่พักหนึ่งก็ยอมลองอุ้มดูความรู้สึกแรกที่ได้สัมผัสตัวทารกคลื่นความถี่แห่งความอบอุ่นก็กระทบเข้ามาในหัวใจเสียเผลอยิ้มออกมาไม่รู้ตัวและมีความมั่นใจขึ้นมากว่าจะเลี้ยงคนที่กำลังเกิดมาได้

“น้องหลับแล้ว” เจย์เลนไม่สามารถหยุดยิ้มได้เลย

“ปกติไม่หลับกับใครง่าย ๆ นะครับ นอกจากในอ้อมแขนผม กับพี่คังชอลยังไม่ยอมนอนง่าย ๆ เลย” ผู้มีประสบการณ์เอ่ยถึงสามีก่อนจะอุ้มลูกกลับคืนมาส่งเข้านอนที่เตียงเด็กเล็กแล้วพากันไปที่ห้องลองเสื้อผ้า เขาสองคนใช้เวลาลองชุดคลุมท้องและพูดคุยกันจนสนิทสนมรู้สึกเชื่อใจกันถึงขนาดที่จีมุนกล้าถามสิ่งที่สงสัยและเจย์เลนยอมเล่าเรื่องที่ติดอยู่ในใจให้ฟัง

“ทำไมพี่ไม่แต่งกับพี่กียุลล่ะครับ ผมขอถามได้ไหม ผมขอโทษนะครับที่ละลาบละล้วง”

“ไม่หรอก พี่เล่าได้ พี่โอเค ...ที่พี่ไม่ยอมแต่งงานกับพี่กียุลตอนนั้นเพราะเขาบอกว่าเขาจะดูแลพี่เอง พอได้ยินแล้วพี่กลัวมากเลย เพราะพี่วางแผนในอนาคตพี่ไว้หมดแล้วว่าเรียนจบพี่จะทำอะไร ทำงานกี่ปีพี่จะทำอะไรหลังจากนั้น แต่มันผิดแผนเพราะถูกขอแต่งงาน พี่ไม่พร้อมมีครอบครัว ไม่พร้อมมีลูก พี่อยากทำงานเพราะพี่มีความฝัน อยากประสบความสำเร็จตามที่ฝันไว้ พี่เห็นแก่ตัวเอง”

“ผมเข้าใจพี่นะครับ เข้าใจพี่ทั้งสองคนเลย ตอนนั้นพี่คงเจ็บปวดมากเพราะพี่ก็รักพี่กียุลอยู่”

“พี่รักพี่กียุลมากแต่พี่ต้องไป พี่ไม่สามารถแต่งงานมีครอบครัวมีลูกแล้วอยู่บ้านเลี้ยงลูกได้จริง ๆ นะ การทำแบบนั้นมันทำให้พี่คิดว่าพี่ไม่มีค่าอะไรเลย แค่ต้องท้อง คลอด เลี้ยงลูกอยู่บ้านให้สามีเลี้ยง พี่ทำแบบนั้นไม่ได้จริง ๆ พี่เลยปฏิเสธไม่ยอมรับคำขอแต่งงาน” เหตุผลในส่วนลึกสุดมันเป็นแบบนี้มันอาจเป็นความเห็นแก่ตัว แต่ในใจตอนนั้นมันมีมหาสมุทรความรู้สึกที่ท่วมท้นอยู่ในใจ รู้สึกรัก เสียใจ โลภ เห็นแก่ตัว เจ็บปวด... เมื่อเจย์เลนวางแผนทุกอย่างเพื่อประสบความสำเร็จในสิ่งที่ฝันไว้แล้วและถูกขอแต่งงานก็ทำให้เกิดความคิดที่ว่าจะต้องหนีไป แต่พอเวลาผ่านไปตั้งแต่ปีแรกที่เลิกกันเจย์เลนก็รู้แล้วว่าถึงไม่แต่งงานกับกียุลในวันนั้นก็ไม่ได้ทำให้เขาประสบความสำเร็จอย่างแผนที่วางไว้ ยิ่งตอกย้ำว่าเขาโคตรโง่เขลามาก ๆ ที่ตัดสินใจเลือกทางนี้และทำร้ายความรู้สึกของคนที่รัก ซ้ำยังคิดว่าตัวเองคือความโชคร้ายของคนที่รักเขา ใครรักเขาก็จะเจ็บปวดและหายไปกันหมดเหมือนอย่างกียุลที่ถูกเขาทิ้งไปโดยที่ไม่ได้ทำผิดอะไรต้องจมอยู่กับความเสียใจอยู่อย่างนั้นเป็นปี ๆ เช่นเดียวกับพ่อแม่เขาที่รักเขาและตายไปเพื่อเขาจะได้อยู่อย่างสุขสบาย....

“นายคงคิดว่าพี่ไม่เห็นค่าในตัวนาย เห็นนายเป็นแค่คนที่ท้องได้และต้องเลี้ยงลูกอยู่บ้านแค่นั้นเหรอ ไม่เลยนะ พี่ไม่เคยคิดแบบนั้นเลยสักนิด”

“พี่...กียุล” เจย์เลนแปลกใจที่จู่ ๆ กียุลก็โผล่มา ในตอนนั้นจีมุนก็รู้หน้าที่ปลีกตัวออกไปแล้วปล่อยให้ทั้งสองคนได้คุยกัน

“ตอนนั้นพี่น่าจะคุยกับนายก่อนเรื่องแต่งงาน ไม่น่าตัดสินใจปุบปับเซอร์ไพรส์นายแบบนั้น”

“พี่ไม่ผิดหรอกครับ พี่รักผม เชื่อใจในตัวผมมาก เลยขอผมแต่งงาน พี่อยากให้ผมมีความสุข พี่คิดว่าผมจะไม่ปฏิเสธเพราะเรารักกันมาก แต่ผมปฏิเสธพี่ ขอโทษครับ ฮือออ ผมขอโทษนะ ฮือออ”

“โถ่ เจย์เลน...” ร่างสูงโล่งใจปนความรู้สึกบางอย่างที่อธิบายไม่ถูก ได้แต่พาร่างตัวเองไปหาคนน้องอย่างรวดเร็วนั่งเคียงข้างก่อนจะกุมมือบางขึ้นมาแนบที่หัวใจตัวเอง

“ที่พูดว่าจะดูแลนายเอง พี่ก็หมายความตามนั้น แต่ไม่ใช่จะให้นายอยู่กับบ้านเลี้ยงลูกเป็นพ่อบ้านแล้วพี่ทำงานเลี้ยงนายฝ่ายเดียวเสียเมื่อไหร่ พี่รู้ว่านายเป็นยังไงพี่ไม่มีทางทำแบบนั้นกับนายหรอก พี่รู้ว่านายมันดื้อ หึหึหึ และนายก็มีความฝันแบบพี่ พี่เสียดายจริง ๆ พี่น่าจะถามนายเรื่องแต่งงานก่อน ไม่งั้นเราคงไม่ต้องแยกกันนานขนาดนี้ แต่ไม่เป็นไรนะ เรามีโอกาสแก้ตัวแล้ว ไว้ถ้าพี่จะขอนายแต่งงานอีกพี่จะบอกก่อนนะ หึหึหึ” เสียงหัวเราะในลำคอดังให้เจย์เลนที่ก้มหน้าคางชิดอกเงยหน้าขึ้นมายิ้มทั้งที่เปื้อนน้ำตาอยู่

“ตอนนั้นผมคิดน้อยเกินไป เราควรจะคุยกันจริง ๆ ก่อนที่ผมจะไป ผมน่าจะถามพี่ก่อนว่าพี่หมายความอย่างนั้นไหม ถ้าได้คุยกันก่อนป่านนี้เราอาจจะคบกันอยู่ก็ได้ พูดไปก็เหมือนแก้ตัวแต่ตอนนั้นผมยังเด็ก ผมรับมือไม่ทันสักอย่าง”

“พี่เข้าใจ เราทั้งคู่นั่นแหละที่ตัดสินใจปุบปับไม่ถามอีกฝ่ายก่อน เบบี๋ของพี่ มากอดหน่อยสิมา”

“ฮืออออ ผมร้องไห้เลยเนี่ย ฮึก บ้า ไม่ต้องกอดเลย ฮือออ”

“ฮ่า ๆ ๆ ลิตเติ้ลเบบี๋ทำออมม่าร้องไห้เหรอครับ ฮ่า ๆ”

“ฮืออ งั้นเราต้องคุยกันเยอะ ๆ แล้วล่ะ มีอะไรเราจะบอกกันปรึกษากัน เพราะการไม่คุยกันมันทำให้ทุกอย่างพังลงมาแล้ว เราจะไม่ทำผิดซ้ำเหมือนในอดีตกันนะครับ”

“ครับเบบี๋ บอกตัวเองไว้เถอะ พี่เคยบอกแล้วนี่ว่ามีอะไรให้บอกกันตั้งแต่ตอนอยู่ที่บ้านพ่อกับแม่”

“จริงด้วย ฮ่า ๆ งั้นมาวางแผนเรื่องลูกกันอย่างจริงจังเถอะครับ ผมรู้แล้วว่าจะซื้อบ้านแบบไหนดี เรามัวแต่ทำงานกันถ้าไม่คุยกันไว้เดี๋ยวก็ลืมเผลอแป๊บเดียวผมคลอดแล้วก็เตรียมอะไรไม่ทันสักอย่าง”

“ไม่ต้องมาหัวเราะเลยนะ ย้ำตัวเองไว้เลยเรื่องคุยกันเยอะ ๆ เนี่ย”

“ครับ ๆ รู้แล้วน่า แล้วเราจะคุยเรื่องลูกกันตอนไหนดี”

“คุยกันคืนนี้เลย คุยกันตอนที่พี่ทำตามคำแนะนำของคังชอล” สายตาเจ้าเล่ห์ฉายขึ้นมาบนใบหน้าหล่อตอนที่ผละออกจากกอดของกันและกัน

“คำแนะนำอะไรครับ” คนตาสวยถามอย่างใสซื่อ จมูกและตาที่แดงจากการร้องไห้ยิ่งทำให้น่ารักไปใหญ่ชวนให้
กียุลอดไม่ได้ที่จะหอมแก้มใสด้วยความมันเขี้ยวและกระซิบด้วยเสียงแหบพร่าว่า...

“คำแนะนำเรื่องท่าเซ็กส์สำหรับคนท้องไง พี่จำที่คังชอลบอกมาได้หมดเลยนะ” แทนที่เจย์เลนจะเขินจนม้วนกลับใจสู้สบตาแล้วลุกขึ้นมานั่งคร่อมตักอีกคนโดยที่หันใบหน้าเข้าหากียุลก่อนจะบดลูกพีชกลมกลึงลงกลางใจชาย

“ถ้าพี่ทนไม่แตกได้ ผมจะยอมพี่ เอาไหมล่ะ?” ในขณะที่ร่อนเอวเนิบนาบมือน้อยก็มีไหล่หนาเป็นที่พึ่งประคองร่างกาย

“ดะ-” จังหวะที่จะตอบตกลงทันควันอีโบนีก็ใช้นิ้วชี้ปิดริมฝีปากฮิปนอสไว้

“แต่ถ้าพี่แตกใส่ผม ห้ามแตะต้องตัวผมสามวันเลยนะ”

“ใครจะไปทนไหวล่ะ เสี่ยงจะตาย นายแกล้งพี่นี่” หนุ่มหล่อยู่ปากใส่อย่างแง่งอนแต่มันน่ารักมากสำหรับหนุ่มหน้าสวย

“ฮ่า ๆ ๆ งั้นก็อด” เจย์เลนกำลังลุกออกไปแต่ฝ่ามือใหญ่ก็จับสะโพกเอาไว้ให้นั่งลงตามเดิมลูกพีชกลมจึงถูกความแข็งขืนดุนดันอยู่อย่างนั้น

“ขอหนึ่งจูบสิ เติมพลังให้บูบูหน่อยครับเบบี๋” แน่นอนว่ามันไม่มีปัญหาเลยสักนิดกียุลได้ตามคำขอและถ้าหากไม่เกรงใจเจ้าของบ้านละก็พวกเขาคงได้ทำมากกว่าจูบเป็นแน่

.

.

.

.

โปรดติดตามตอนต่อไป...

หวานตัดขาทิ้งกันไปเเลยค่ะ เขาเข้าใจกันแล้วววววแงงงง พี่กียุลตอนนั้นก็ไม่เคลียร์ ส่วนน้องก็คิดเอาเองตายๆๆ

แต่ไม่เป็นไรเข้าใจกันแล้วน้าาา ฮืออออ

ฉากหน้าเตรียมยาดม ยาลม ยาหม่องเลยค่ะ หัวใจวายกันแน่นอน ร้อนแรงมาก!

มาคุยเล่นเม้านิยาย หวีดพี่กียุลกับน้องเจย์เลน ได้ที่แฮชแท็กในทวิตเตอร์ #อรุณสวัสดิ์ความรักของผม

รอคุยกับทุกคนอยู่นะคะ เหงาฝุด ๆ

ฉากต่อไปเตรียมใจก่อนนะคะ ยาดม ยาลม ยาหม่องต้องเข้าแล้ว เตรียมใจเลยค่ะ หัวใจรับไม่ไหวกันแน่นอนร้อนแรงมาก!

 

 

ฝากกดติดตาม กดหัวใจ เก็บเข้าชั้น คอมเมนต์ เป็นกำลังใจให้เราด้วยนะคะที่รัก

1 คอมเมนต์ = 1 กำลังใจ

จะตั้งใจเขียนออกมาให้ดีที่สุด เพื่อให้ทุกคนสนุกกับนิยายเรื่องนี้นะคะ

ปกติจะลงทุกวัน ศุกร์-เสาร์ นะคะ สายฟรีรอ 2 วันนี้เลยนะคะ

วันอาทิตย์จะลงเป็นตอนล่วงหน้าให้อ่านกันค่ะ (อันนี้ติดเหรียญน้าา)

ลงจบเรื่องแล้วจะติดเหรียญนะคะ มาอ่านไปพร้อม ๆ กันก่อนติดเหรียญนะคะ (เขียนจบแน่นอนค่ะเรื่องนี้เขียนตุนไว้เกือบจบแล้วค้าบ)

ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่าน เล่นแท็ก คอมเมนต์ไว้ล่วงหน้าเลยนะคะ รักนะคับ!

สแว็กเกิร์ล หัวใจ คุณนักอ่าน