Content Warning

Harassment / Abusive

 

 

ริมฝีปากของเลิศร้อน มันแผ่ซ่านไออุ่นกับกลิ่นลูกอมรสโหระพาไปทั่ว มนพัทธ์ตัวสั่น เขากลายเป็นลูกนกที่ถูกนักล่าต้อนแม้หลังติดอยู่กับกรงทอง เลิศถอนจุมพิต เขาคลายพันธนาการที่บีบรัดแก้มตอบของมนพัทธ์ออกพร้อมจ้องลึกเข้าไปในดวงตา มนพัทธ์พรั่นพรึง ชายหนุ่มตรงหน้าไม่เหลือเค้าโครงคนดีของแตงอีกต่อไปแล้ว

เพี๊ยะ!

ฝ่ามือผอมบางตบเข้าที่พวงแก้มชายหนุ่ม เลิศกัดกรามข่มอารมณ์ครุกรุ่นภายในใจจนแก้มเกร็งเครียด

เขาไม่ควรจูบมนพัทธ์

หัวโตๆ ของเขาคิด

แต่...

มันไม่มีวิธีอื่นไว้สั่งสอน ไอ้เด็กนี่ หลงเหลืออยู่แล้ว เลิศยืดตัวขึ้นจากพื้นเล็กน้อย เขารั้งปลายคางที่เชิดขึ้นอย่างถือดีให้เข้ามาใกล้จากนั้นจึงบดเบียดริมฝีปากเข้าประกบเป็นหนที่สอง ครั้งนี้เขาตั้งใจให้มันเนิ่นนาน เนิบนาบ จนคนถูกรุกรานต้องเผ่นหนีไปเหมือนเขาเป็นโรคระบาด

“อื้ม!”

มนพัทธ์ประท้วงด้วยเสียง เขาดีดดิ้นเท่าที่พอจะทำได้จนหัวเหวี่ยงไปด้านหลัง กระนั้นเลิศก็ยังขยับตาม เขาใช้ประโยชน์จากร่างกายสูงใหญ่โน้มตัวเข้าประชิด มาขบมาเม้มริมฝีปากบางคล้ายกับขู่ไม่ให้ส่งเสียง คนถูกกระทำไร้ทางสู้ เรี่ยวแรงหดหายจนร่างไหลลงไปพิงกับพนัก

"แฮ่ก...พอ"

คุณหนูคนเก่งของแก้วเหนื่อยหอบ เขาใช้แขนข้างที่ไม่ถูกผ้าพันยันอกสามศอกของชายหนุ่มเอาไว้

"ถ้าคุณตบผม ผมก็จะจูบคุณอีก"

เลิศผละออกจากร่างเล็กพร้อมหรี่ตามองตุ่มเนื้อกลางหน้าอกของมนพัทธ์ที่กำลังแข็งเป็นไต

"ไอ้ทุเรศ"

เด็กหนุ่มยกมือขึ้นบดบังหน้าอกเปลือยเปล่าของตัวเอง

"คุณก็ทำตัวทุเรศกับผมเหมือนกัน"

"กูทำอะไร!"

มนพัทธ์ขึ้นเสียง ดวงตาที่เคยสะท้อนแสงไฟวาววับแข็งกร้าวในฉับพลัน

"คุณตบหน้าผม"

"ก็มึงมาโดนตัวกูก่อน"

เด็กหนุ่มจิกเล็บกับเบาะรองแขน ใจอยากเหวี่ยงกำปั้นเสยคางคนสวนคนใหม่ให้ล้มหงาย ส่วนเลิศกลับทำหน้านิ่ว เขาหลุบตามองต่ำพลันย้อนภาพอดีตในหัว

อ่อ ชายหนุ่มนึกออก ที่แท้เขาก็เผลอไปสะกิดโลกทั้งใบของคุณชายมนพัทธ์

"ผมไม่ได้ตั้งใจ มันเป็นอุบัติเหตุ"

ชายหนุ่มตอบด้วยความสัตย์จริง นิ้วมือของเขานั้นยาวเก้งก้างพอๆ กับขา ซึ่งบางครั้งมันมักจะนำปัญหามาให้อย่างเช่นเวลานี้

"ผมแค่จะช่วยคุณเปลี่ยนเสื้อผ้า"

"ทีหลังบอกก่อนสิ ขออนุญาตน่ะทำเป็นมั้ย"

"ทำเป็น"

"แล้วทำไมไม่ทำ"

"มันช้า"

คล้ายกับมีเส้นบางอย่างขาดผึ่งอยู่ข้างหูของมนพัทธ์ เด็กหนุ่มหายใจหอบ ริมฝีปากสบกับฟันจนเลิศหวั่นว่าจะห้อเลือด

"แม่!"

จู่ๆ มนพัทธ์ก็แผดเสียงลั่นทำเลิศสะดุ้งโหยง

"แม่!!!"

มนพัทธ์ตะโกนให้ดังขึ้นแต่ก็ไร้วี่แววของรัศมี

"ร้องไปเขาก็ไม่มาหรอก เขาตั้งใจทิ้งคุณไว้กับผม"

เด็กหนุ่มทำปากยื่น นึกเกลียดสถานการณ์ห่วยแตกนี้ขึ้นมาจับใจ เขาไม่สมควรโดนคนสวนในบ้านของตัวเองจูบ หรือใครก็แล้วแต่ที่เขาไม่ได้เต็มใจจะจูบด้วย มันคือการล่วงละเมิดทางเพศและซ้ำร้ายที่แม่ของเขาเองก็ดันไม่สนใจ

"ถอดกางเกง" เลิศสั่ง

"บ้ารึไง"

"เอาแค่ปลดตะขอก็ได้ คุณไม่น่ายกตัวเองไหว"

"ไปเรียกให้แม่มาทำสิ"

มนพัทธ์พูดจบก็สะบัดหน้าไปอีกอย่าง

"คุณนายอายุตั้งปูนนั้นแล้วคุณไม่สงสารเธอหรือ เธอต้องมาเทียวพยุงคุณ ยกคุณที่หนักเป็นสิบๆ กิโลคนเดียว แค่นั้นยังไม่พอ ยังต้องให้เธอมารู้ไซซ์ไอ้หนูของลูกชายตัวเองอีกเนี่ยนะ แค่คิดเล่นๆ ผมก็หดหู่แล้ว"

เด็กหนุ่มกัดฟันกรอด คำที่คนสวนสาธยายออกมานั้นเสียดแทงในใจเหมือนเข็มแหลม

"งั้นหลับตา"

"ใคร ผมหรือ ให้ผมหลับตาเกิดผมคว้าอะไรผิดขึ้นมาคุณคงว่าผมอีก"

ก็ถูกของมัน มนพัทธ์คิดในใจ

"หรือคุณจะเป็นคนหลับตาเสียเอง" เลิศเสนอแต่เด็กหนุ่มรีบแหว

"บ้าสิ"

เป็นตายร้ายดียังไงมนพัทธ์ก็ไม่ยอมปล่อยให้ ไอ้เลิศ ยุ่มย่ามกับร่างกายโดยที่เขาไม่ได้อ่านสีหน้าของมัน

"แล้วจะเอายังไง"

มนพัทธ์อึกอัก หัวเขาหมุนติ้วเป็นลูกข่าง เลือกทางนั้นก็ไม่ดี เลือกทางนี้ก็ไม่ได้ สุดท้ายคนเป็นนายจึงพยักพเยิดหน้า ยอมให้บุรุษพยาบาลจำเป็นปลดเปลื้องผ้าของตัวเองทีละชิ้น

"กะ ก็ได้"

"ก็ได้คืออะไร"

"จะให้ทำ หมายถึงให้ถอด" คุณหนูของป้าแก้วแก้ตัวพัลวัน "แต่ห้ามเอาหน้าเข้ามาใกล้"

"ผมไม่ได้อยากจูบคุณนักหรอก"

เลิศยียวน หากบนโลกนี้เหลือเพียงสองสิ่ง หนึ่งคือสุนัข สองคือมนพัทธ์ เลิศก็จะเลือกจูบสุนัขที่ทั้งชีวิตไม่เคยสีฟันเลยสักครั้งเดียว

"แล้วจูบทำไม"

ชายหนุ่มยืดตัวขึ้นยืน เขาปัดฝุ่นที่ติดอยู่บนกางเกงสแล็คสีดำพอเป็นพิธี ก่อนเอ่ยคำตอบที่ทำให้มนพัทธ์หน้าชา

"เพราะมันจะทำให้คุณรู้สึกเสียใจที่ตบหน้าผม"

แหงล่ะ มนพัทธ์ก่นด่าในใจ

เลิศเดาได้ถูกต้องว่ามนพัทธ์นึกเสียใจที่ตบคนสวนคนใหม่จนหน้าหัน แต่นั่นมันหลังจากที่เขาถูกเอาคืน เอาคืนด้วยสัมผัสไร้ยางอายของผู้ชายที่เขาไม่ได้รัก เฉียบแหลม แต่ก็แสนโง่เง่า นายเลิศช่างขาดเขลาสมองเบากว่าที่มนพัทธ์คาดเอาไว้มาก

"เตรียมหางานใหม่ได้เลย" เด็กหนุ่มขู่

"จะไล่ผมออกหรือ"

"แหงสิ"

"ข้อหาอะไร จูบคุณหรือ"

"นะ แน่สิ"

มนพัทธ์อึกอัก ใจจริงเขาไม่กล้าบอกใครหน้าไหนทั้งนั้นว่าถูกนายเลิศจูบ โดยเฉพาะรัศมีผู้เป็นแม่

"งั้นผมคงต้องไปแจ้งความเรื่องที่ถูกนายจ้างทำร้าย ทีนี้คนคงได้เห็นกันทั้งจังหวัดว่าคนบ้านนี้นิสัยใจคอเป็นยังไง"

"แล้วยังไงล่ะ พวกเขาต้องพึ่งบ้านผมอยู่ดี"

"แน่ใจหรือ"

มนพัทธ์กัดริมฝีปาก เขาไม่แน่ใจ ต้นตระกูลของเขาค้าขายวัสดุก่อสร้างมาช้านาน ปู่ยาตาทวดก็รู้จักคนไปทั่วทั้งจังหวัดกว่าจะสร้างเนื้อสร้างตัวจนขยับขยายมาสู่ธุรกิจอสังหาฯ ได้เหล่าญาติพี่น้องก็บากบั่นมาไม่น้อย หากภาพลักษณ์อันดีงามที่สั่งสมมาต้องเสียไปเพราะอารมณ์หุนหันพลันแล่นของเขา มนพัทธ์จึงคิดว่ามันอาจไม่คุ้มค่า

"ถอดกางเกงซะเถอะ ผมขี้เกียจต่อล้อต่อเถียงกับคุณแล้ว"

เลิศถือวิสาสะวางมือลงบนเอวคอด เตรียมช่วยคนดีของป้าแก้วถอดผ้าผ่อนชั้นสุดท้าย

"ไอ้เลิศ!"

มนพัทธ์รีบตะครุบมือคู่หนา เขาออกแรงหยิกจนเนื้อเหนียวของชายหนุ่มแทบหลุดติดกับนิ้ว

"โอ๊ยๆๆ เจ็บๆๆ"

เลิศร้องโอดโอย ความเจ็บปวดรวดร้าวไปทั้งแขน แต่กระนั้นชายหนุ่มก็ยังอดกลั้น เขาไม่มีทางชกหน้าของมนพัทธ์คืน เขาไม่มีทางเลวกับเด็กอายุยี่สิบสามได้มากมายขนาดนั้น

"เจ็บสิดี เจ็บเยอะๆ เลย"

"ยอมแล้วๆ ปล่อยเถอะ"

"ยอมแน่นะ" มนพัทธ์ย้ำให้แน่ใจ

"อื้ม" เลิศโกหก

ทันทีที่นิ้วเรียวเล็กผละจากฝ่ามือหนาเลิศก็ยกปีกเด็กหนุ่มขึ้นพาดบ่าและช้อนขาทั้งสองข้างขึ้นจากรถเข็น เด็กหนุ่มเบิกตาโพลง ลำตัวโคลงคล้ายจะร่วงหล่น

"จับแน่นๆ" คนสวนออกคำสั่ง

มนพัทธ์ตัวแข็งทื่อ เขาไม่กล้าดีดดิ้นเหมือนปลาขาดน้ำอย่างที่ชอบทำ

"อะ ไอ้เลิศ"

คุณคนเล็กอับจนปัญญา แม้แต่เสียงด่ายังเบาลงกึ่งหนึ่ง

"ปวดฉี่ไม่ใช่เหรอ จะพาไปฉี่นี่ไง"

ชายหนุ่มไม่พูดพร่ำ ก้าวขาฉับๆ เข้าไปในห้องน้ำที่กว้างกว่าห้องนอนของเขาถึงสองเท่าพร้อมวางเด็กเจ้าปัญหาลงบนชักโครก

"ผมจะไปดูว่าคุณนายได้พลาสติกสำหรับคลุมขาคุณหรือยัง ส่วนคุณก็..."

คนสวนหลุบตาต่ำ เพ่งพินิจกางเกงยีนขาสั้นที่ตะขอหลุดออกจากกัน "จัดการธุระของคุณไป"

มนพัทธ์ไม่ทันได้อ้าปากโต้เถียงคนสวนคนใหม่ก็จรลีออกไปจากบริเวณห้อง เด็กหนุ่มหายใจฟึดฟัด เขาตะแคงตัวซ้ายทีขวาทีรูดรั้งให้กางเกงหลุดออกจากขาด้วยมือข้างเดียว

"บัดซบเอ๊ย" มนพัทธ์สบถ

ต่อให้เขาพยายามมากกว่าเดิมเป็นเท่าตัวผ้าเนื้อหนาก็แทบไม่ขยับไปไหน ยิ่งออกแรงดึงมากเท่าไหร่เขาก็ยิ่งเจ็บแสบผิวกายมากขึ้นเท่านั้น สุดท้ายเด็กหนุ่มผู้โชคร้ายจึงนั่งคอตกอยู่บนคอห่าน ใจเฝ้ารอคอยให้ใครสักคนผลักประตูเข้ามาช่วย

ตึก ตึก ตึก

มนพัทธ์ได้ยินเสียงฝีเท้า มันดังสนั่นไปทั่วห้อง คล้ายเป็นของไอ้ตีนโตไร้มารยาทเดินปึงปังเข้ามาใกล้ มันหยุดยืนอยู่หน้าประตูประเดี๋ยวประด๋าว ไม่เอ่ยทัก ไม่เคาะเรียก มันหมุนลูกบิดสุดแรงและสอดขายาวแทรกระหว่างประตู

"ถอดได้มั้ย"

ที่แท้ก็เป็น ไอ้เลิศ

มนพัทธ์สะบัดหน้าไปอีกทาง ปากบุ้ยใบ้คำหยาบคายสารพัดเพราะเหม็นขี้หน้าชายหนุ่มเต็มทน

"ผมได้ถุงพลาสติกมาแล้ว เห็นแม่คุณบอกว่าต้องพันไว้ให้รอบ ห้ามให้ผ้าที่หมอพันไว้โดนน้ำ"

มนพัทธ์ถอนหายใจ เขาเหนื่อยเกินกว่าจะออกแรงและใช้สมองโต้เถียง ลำพังแค่ขยับร่างกายได้เพียงซีกเดียวก็อเนจอนาถมากพออยู่แล้ว

"อยากทำอะไรก็ทำเถอะ"

เลิศสะบัดหัว เขาแทบไม่เชื่อสิ่งที่ตัวเองกำลังได้ยิน

"คุณพูดจริงหรือ"

เด็กหนุ่มไหล่ตก จ้องมองใบหน้าคมอย่างเหม่อลอย

"อืม...ผมเหนื่อยแล้ว"

"รวมถึงถอดกางเกงด้วยรึเปล่า"

เลิศเย้าแหย่แต่มนพัทธ์ไม่เต้นตาม

"เออ จะเห็นก็เห็นไปเหอะ เห็นไปก็ไม่ได้เอาอยู่ดี" เด็กหนุ่มพูดต่อด้วยใบหน้าเรียบตึง "หรือเลวขนาดนั้น"

เลิศสูดอากาศเข้าเต็มปอด ใจไม่นึกโกรธที่เจ้านายตัวน้อยจะคิดว่าเขาเป็นอาชญากรต่ำทราม เพราะเขาเลือกปฏิบัติตนให้เป็นที่กังขาตามที่เด็กหนุ่มว่าเอาไว้

"..."

ชายหนุ่มไม่ตอบโต้ เขาก้าวเท้าฉับๆ เข้าไปหามนพัทธ์ ก่อนย่อตัวลงจนเข่าติดพื้น จัดการพันพลาสติกใสในมือกับเฝือกอ่อนที่คุณหมอใช้รักษา จากนั้นก็เลื่อนมือขึ้นหาไปสะโพกผาย เขาช้อนตัวของมนพัทธ์ขึ้นเล็กน้อยพลางดึงขากางเกงออกทางเท้าอย่างเบามือ

"จะถอดกางเกงในเองมั้ย" เลิศถามเมื่อเจอเข้ากับปราการชิ้นสุดท้าย

มนพัทธ์หน้าชายิบเพราะลมหายใจอุ่นรดอยู่บริเวณท้องน้อย

"ถะ...ถ้าถอดเองได้ก็ถอดไปนานแล้ว"

เลิศเข้าใจได้ในทันทีว่านั่นคือคำอนุญาต เขาดันด้านหลังของเด็กหนุ่มจนลุกขึ้นเป็นท่ายืน จากนั้นก็รูดผ้ายืดสีขาวชิ้นแค่หนึ่งคืบไปตามแนวขา

"ถ้าทรงตัวไม่อยู่ก็เกาะหลังผมไว้แล้วกัน"

มนพัทธ์เขินอายเกินกว่าจะตอบรับ เด็กหนุ่มยืนนิ่งเป็นรูปปั้น เขาจะขยับตัวเป็นครั้งคราวก็ต่อเมื่อคนสวนคนใหม่สั่งการ

"ผมจะช่วยพาคุณไปที่อ่าง จะถอดฝักบัวเอาไว้ให้ด้วย พวกครีมอาบน้ำก็จะจัดไว้ให้ใกล้มือ ถ้าอาบน้ำเสร็จค่อยเรียกผม ผมจะรออยู่ข้างนอก แล้ว...ขยับไปหยิบผ้าเช็ดตัวเองได้มั้ย"

มนพัทธ์ส่ายหัว คนทั้งคู่พยายามเบนสายตาไปจับจ้องสิ่งอื่นเพื่อไม่ให้ความเป็นชายของมนพัทธ์เป็นจุดสนใจ

"เดี๋ยวผมหยิบไว้ให้ แล้วอย่าขยับไปไหนมาไหนเองเด็ดขาด"

"อืม"

เลิศพยักหน้า เขาพูดเสียงเบาว่า ดี ก่อนเดินออกไปรอด้านนอกตามที่บอกเอาไว้ เด็กหนุ่มชะเง้อมอง เมื่อเห็นว่าชายหนุ่มพ้นจากขอบประตูไปแล้วก็ทอดถอนใจ

น่าสมเพช

มนพัทธ์ด่าทอร่างกายที่กลายเป็นท่อนไม้ เขาเกลียดสังขารที่สะท้อนภาพกับกระจกเงาบานโตขึ้นมาจับใจ

ร้อน

แม้เจ้าคนมารยาททรามจะไม่อยู่ในสายตามนพัทธ์ก็ยังรู้สึกร้อนรุ่มเหมือนมีใครเอาไฟมาสุม มันร้อนที่แขน ร้อนที่ขา โดยเฉพาะที่ริมฝีปากที่เลิศเคยทิ้งสัมผัสเอาไว้

"ระยำ"

มนพัทธ์ยกแขนขึ้นถูปากไปมาจนกว่าความร้อนที่เนื้อขาวเสียดสีจะแทนที่ไออุ่นจากริมฝีปากหนา