8.- Cigarette

 

 

                ยิ่งนานวันนานคืน ความสัมพันธ์ที่แสนจะเกินเลยของเราก็ยิ่งจะถลำลึกและยากที่จะหยุด

            การไปกลับที่ห้องของเขานั้นก็กลายเป็นเพียงเรื่องธรรมดาที่สุดแสนจะถวิลหาอย่างคนไร้สติ

            ข้าวของบางสิ่งที่เคยมีเพียงคู่(ที่ว่างเปล่า) ก็กลายเป็นมีอีกชิ้นมาเพิ่มเติม

            บางอย่างเริ่มผิดแผกไปจากครั้นในอดีต แต่บางสิ่งก็คาดว่ายังคงเฉกเช่นเดิม

            การรู้จักคุณ  รับรู้ตัวตนของคุณ และรสนิยมความชอบของคุณก็เริ่มง่ายขึ้น

            แต่กลับกัน คุณกลับไม่ยอมรับรู้สิ่งใดเลยจากตัวตนของผม จะมีก็เพียงแค่เรื่องนี้เรื่องเดียว...

            ฮ่า.. หวานเขาผละออกจากจูบที่มอบมันให้กับผม พร้อมกับอาการมุ่นหัวคิ้วเล็กน้อยกับรสชาติที่ไม่คุ้นเคยจากปากของผม

            พอดีก่อนมาถึงนี่ผมทานอะไรหวานๆ มาน่ะครับ ต้องขอโทษด้วย ถ้าคุณไม่ชอบมัน ไว้คราวหน้าผมจะไม่กินก่อนมาแล้วกันครับผมพูดด้วยความรู้สึกผิด และความกลัวว่าเขาจะรังเกียจในรสชาติของมันจากปากของผม

            ไม่ต้องขนาดนั้นหรอก แค่ไม่ชินน่ะเขาตอบกลับอย่างราบเรียบ แต่นั่นก็ยังไม่อาจกลบความกังวลที่ยุ่งเหยิงของผมได้ จนเมื่อเขาคว้าสติผมไปด้วยริมฝีปากที่ทาบทับลงมาใหม่โดยที่ลิ้นผมไม่ทันจะได้เข้าไปข้างในเขาก็ผละมันออกอีกครั้ง

            จูโตะซัง...ผมร้องเรียกให้เขาหยุดการกระทำเชิงล้อกันเล่นนี้ เขาหัวเราะในลำคอเป็นคำตอบราวกับอ่านความคิดของผมออก และมอบจูบสัมผัสที่จริงจัง ลึกซึ้งให้ผมแทน

            แรงปรารถนาของเขาที่ผมรับรู้ได้ในเวลานี้มันช่างรุนแรงจนครอบงำผมไปในทุกขณะ เสียงครางตอบแทรกผ่านลำคอเขา เมื่อผมชำแรกแทรกนิ้วเข้าไปกวาดสำรวจมันอย่างถี่ถ้วนคล้ายเป็นการแสร้งตรวจเช็คความสะอาดที่ทำไปอย่างเอาคืน

            แต่ผมรู้ดีว่าแค่นี้มันไม่เคยทำให้เขายอมแพ้ และการตอบโต้ของเขาก็เป็นอะไรที่ผมสามารถคาดเดาได้ โดยที่ผมเองก็ยินยอมด้วยความยินดี

            ผมมองการกระทำของเขาด้วยความคุ้นเคยคละความตื่นเต้นที่ไม่คุ้นชิน ซึ่งเขาก็รับรู้ได้เป็นอย่างดีถึงได้จงใจขยับท่วงท่าอ้อยอิ่งเช่นนั้น โดยที่ผมต้องนั่งนิ่งทำเป็นเชื่อฟังเขา

            รอยยิ้มเล็กๆ ของเขาผุดขึ้นเมื่อเขาเพียงแค่เริ่มจับประคองผมก็เผลอกระตุกสั่นออกไปเล็กน้อย จนผมอดที่จะบ่นไม่ได้

            อย่าล้อกันสิครับ

            เปล่าล้อซะหน่อยเขาปฏิเสธเสียงแข็ง ทั้งที่เมื่อครู่เพิ่งยิ้มเยาะเย้ยกันอยู่ชัดๆ

            อึก!”

            ในช่วงที่ผมกำลังเผลอไผลอยู่นั้น ปลายนิ้วที่แสนชั่วร้ายก็ค่อยๆ ปลดเปลื้องเปลือกผิวลงจนพอดีสุด ชโลมด้วยน้ำอุ่นก่อนจะตามด้วยสบู่อ่อนๆ ของเขา ละเลงลูบมันอย่า

เบาบางที่สุด

            ผมมองการกระทำที่แสนซาบซ่านและทรมานสำหรับผม แต่ช่างดูแสนสนุกสนานสำหรับเขา ก็อดหาทางระบายการหยอกล้อกับเขาไม่ได้ ส่งมือข้างที่ยังไม่ได้สำรวจภายในร่างกายของเขาไปจับประคองคางของเขา และใช้นิ้วโป้งตัวเองนวดคลึงกับริมฝีปากได้รูปของเขา เขาเงยมองการกระทำของผมด้วยความสนอกสนใจ ก่อนจะอ้าปากเผยอให้พอลิ้นตัวเองออกมาเลียตอบนิ้วมือผมได้ และรับมันพาเข้าไปในโพลงปากของตัวเขาเองด้วยความสนุกสนาน

            เขายังคงละเลงเล่นกับบรรดานิ้วมือข้างนั้นของผมด้วยปากของเขา ขณะล้างคราบสบู่ที่เขาได้ละเลงบนอย่างประณีตด้วยน้ำอุ่นๆ จากฝักบัว แล้วจึงใช้ผ้าซับให้เพื่อรั้งมันกลับเข้าที่เดิม เขาจึงได้ยอมปล่อยนิ้วที่เปรอะเปื้อนไปด้วยคราบน้ำลายของเขาให้เป็นอิสระ

            แม้ในหัวผมจะเคยเต็มไปด้วยคำถาม แต่เวลานี้ผมก็ได้ปล่อยปละมัน และยอมปล่อยให้ตัณหาควบคุมไปพร้อมกับมนต์กามที่เขากำลังร่ายใส่ผม

            ซองถุงยางถูกฉีกทิ้งไปอย่างรวดเร็ว หลังผมถูกฉุดย้ายให้ไปอยู่ในอ่างที่มีน้ำเพียงครึ่งสะโพก แล้วสวมมันให้กับผมเมื่อถึงจุดที่พอดี

            เขาวางน้ำหนักฝ่ามือลงบนบ่าของผม เพื่อขยับยกสะโพกแกร่งให้กดน้ำหนักรับส่วนที่ตื่นตัวของผมเข้าไปจนสุดในคราเดียว

            เขาผ่อนลมหายใจออกมาแรงๆ ที่หนึ่ง ก่อนจะเริ่มต้นยกสะโพกของเขาด้วยท่วงท่าลีลาที่เขาคุ้นชิน มือข้างหนึ่งที่ไม่ได้จับประคองบ่าผมของเขาก็ไม่ได้ปล่อยว่าง  มันกลับทำหน้าที่บีบเค้นจุดอ่อนไหวช่วงบนนั่นตรงหน้าผม และเมื่อเห็นแบบนั้นผมก็อดไม่ได้ที่จะโน้มตัวไปละเลงมันด้วยปากของผม

            เราทั้งคู่แทบไม่ต่างกับคนสิ้นสติ ต่างพากันบีบเค้น เร่งรัด รับและสนองความสุขสนุกจากร่างกายกันและกัน โดยยากจะนับครั้ง

 

            อืม น่าแปลกที่เขาเตรียมวัตถุดิบไว้เยอะแบบนี้

            เอ่อ.. จูโตะซัง วันนี้มีใครมาหรอครับ

            หืม? อ่อ เพื่อนน่ะ ทำไมหรอเขาหันมาถามหลังจัดวางอะไรเรียบร้อยแล้ว

            เอ่อ เปล่าครับ แค่เห็นว่าวันนี้มันดูมีวัตถุดิบเยอะแปลกๆ น่ะครับ

            เพราะทั้งผมทั้งคุณก็ไม่ใช่คนกินเยอะอะไรมากมมายอยู่แล้วด้วย

            อ่อ เดี๋ยวฉันมาล่ะดปโปะ ฝากห้องไว้แป๊บนึงนะ ต้องการอะไรเพิ่มมั้ยเขาเอ่ยถามหลังจากก้มดูจอมือถือของตัวเอง

            ไม่ครับ ขอบคุณครับพอผมตอบไปแบบนั้นเขาก็พยักหน้ารับและออกไปจากห้อง

 

            ดปโปะ ไม่ดื่มหน่อยหรอเขาหันมาถาม พร้อมกับขยับมือมาแตะเบาๆ ที่ก้นแก้วเบียร์ในมือผม เพื่อเรียกสติที่ล่องลอยให้กลับเข้าที่เข้าทาง

            อ่ะ! อะ ครับ ขอโทษครับ ดื่มครับผมพูดอย่างร้อนรนก่อนจะยกกระดกมันลงคอรวดเดียว ภายใต้สายตาคู่หนึ่งที่จ้องมองการกระทำของผมอยู่ตลอด จนพอเห็นว่าผมดื่มหมดแล้วจึงค่อยเบนสายตาไปจากผม

            เจ้าพนักงานนี่ดื่มเก่งนี่ซามาโทกิเพื่อนของเขาหันมาพูดกับผมด้วยความพออกพอใจ ก่อนจะเทเติมแก้วที่เพิ่งว่างเปล่าของผมด้วยเบียร์ขวดใหม่

            ขอบคุณครับ...ผมที่ไม่ทันและไม่กล้าจะปฏิเสธอะไรเขา จึงต้องยอมโค้งศีรษะลงเล็กน้อย และกล่าวขอบคุณไป ทั้งที่ไม่ได้ต้องการมันเพิ่ม

            แต่ปฏิกิริยาตอบรับธรรมดาทั่วไปนี้ของผมกลับถูกใครสักคนดูออกอย่างง่ายดาย

            ถ้าไม่ต้องการก็ปฏิเสธไปสิเขากระซิบบอก หรืออาจจะเป็นการกระซิบสิ่งที่หวังให้ผมทำตาม แม้ว่าเขาจะรู้อยู่แล้วว่าผมคงไม่กล้าพอที่จะทำตาม เพราะความเกรงใจที่ติดนิสัยของผม

            จริงๆ เลยนะครับเขาจงใจ กลายร่างจากคนธรรมดาไปเป็นปีศาจพ่อมดที่คิดจะวางท่าล่อลวง หรืออาจจะหาทางกลั่นแกล้งผม-

            เฮ้ จูโตะ แกกระซิบอะไรกันวะแต่ไม่ทันที่ปีศาจพ่อมดรายนั้นจะได้เริ่มกรกระทำอะไร ผมและเขาก็ถูกดึงความสนใจไปที่เพื่อนของเขา

            ก็แค่บอกดปโปะไปว่าถ้าไม่กล้าปฏิเสธ ก็ให้ลุกไปต่อยนายเลยก็ได้ล่ะมั้งจูโตะซังตอบทีเล่นกวนๆ กลับไปแทนผมที่ยังคงได้แต่อ้ำอึ้ง ตามด้วยความเลิ่กลั่กร้อนรนของผมจากคำตอบของเขา...

            จะ จูโตะซัง...

            ครับ?”เขาขานตอบเสียงเบา พร้อมกับไล่ปลายนิ้วกดเคาะช้าๆ บนหน้าขาของผมที่ต่างพากันหลบซ่อนจากสายตาคนอื่นใต้โต๊ะ ผมสูดรับอากาศหายใจเข้าไปเต็มปอด เม้มปากเบาๆ ข่มอารมณ์บางอย่างเอาไว้ขณะที่ถูกปีศาจพ่อมดยั่วยุ

            ว่าไงนะแก!”

            ...!”

            เสียงตะโกนจากซามาโทกิซังทำเอาผมหลุดจากภวังค์ต้องห้าม ผมรีบยกแก้วเบียร์แก้วนั้นกระดกมันจนหมด ก่อนจะวางมันลงกับโต๊ะเสียงดังจนเรียกความสนใจไปจากทั้งคู่

            อะ เอ่อ.. คือ ขอโทษครับ! ขอตัวไปเข้าห้องน้ำนะครับ!”ผมลุกขึ้นตามข้ออ้างที่ว่าไป ปิดประตู เปิดก๊อกน้ำ กวาดโกยเอาน้ำสาดใส่ใบหน้าตัวเองที่ไม่รู้แล้วว่ามันเห่อร้อนจากอะไร แต่ยังดีที่ส่วนนั้นของร่างกายมันยังไม่ได้ตื่นขึ้นมา

            เฮ้อ...ผมถอนหายใจ เตรียมใจจะกลับไปนั่งร่วมวงต่อ...

            ห๊ะ? ทำไมไม่บอกกันก่อนวะ!”

            หืม?

            เออ! หนวกหูน่า ปกติแกก็ไม่เห็นจะโวยวายขนาดนี้นี่ ทำอย่างกับซ่อนอะไรไว้เลย

            อึก!

            เออ! ตามใจเขาสางผมตัวเอง ก่อนจะเหลือบมองมาทางผม

            เอ่อ...

            ไปสูบบุหรี่ด้วยกันหน่อยสิ ดปโปะ

 

            อ่ะ

            เขายื่นซองบุหรี่ของเขามาทางผม ผมไม่ได้ปฏิเสธ และรับมามวนหนึ่ง ผมคาบมันไว้ในปากแล้วรอรับไฟแช็คจากมือของเขา แต่แทนที่เขาจะยื่นมันมาให้หลังเขาจุดมวนตัวเองเสร็จ ก็กลายเป็นว่าเขาเก็บไฟแช็คเข้ากระเป๋าไปและตัวผมถูกกระชากดึงไปหาเขาแทน...

            Cigarette kiss

            หน้าแดงเชียวเขาเอ่ยแซวผม หลังจากพ่นควันบุหรี่ออก

            ผมรับรู้ดี ว่าตอนนี้ผมมีปฏิกิริยายังไงต่อการกระทำที่แสนเจ้าเล่ห์และเผลอไผลของเขา แต่มันก็ไม่เคยเลยที่จะเก็บอาการไว้อยู่

            เขาที่สูบบุหรี่วางพาดแขนกับระเบียงห้อง กลิ่นบุหรี่กับลมที่พัดโชยมาเบาๆ การกระทำท่าทีและสีหน้าที่เหม่อลอยเรียบเฉยนั่น

            ขนาดแค่ได้มอง ผมก็ยังคงเผลอหลงใหลมันอยู่ร่ำไป

            ไม่ต่างอะไรกับแมลงที่หวังสูงจะบินเข้าหากองไฟเลยแฮะ

            ดปโปะ

            คะ ครับ? มีอะไรหรอครับผมกระชากสติตัวเองกลับมา หลังจากตกไปอยู่ในภวังค์

            เปล่าหรอก แค่รู้สึกอยากลองจูบนายตอนนี้ดูน่ะเขาพูดอย่างหน้าตาเฉย

            คะ ครับ?!”

            เดี๋ยวสิ! ตอนนี้? แต่เพื่อนของคุณยังอยู่ไม่ใช่หรอ

            แค่นิดหน่อยไม่มีใครรู้หรอกนี่...เขาพักจังหวะชั่วครู่ให้ผมได้ตรองคำตอบ

            ผมชั่งใจ มองไปทางห้องรับแขกหลังประตูกระจกบานเลื่อนและม่านทึบที่เป็นฉากกั้นความลับของเรา ก่อนจะตัดสินใจสบกับตาสีมรกตคู่นั้น

            ครับ ผมเองก็.. อยากครับ

            ผมตอบกลับไปด้วยใจที่ว้าวุ่น แต่ไม่กี่วินาทีต่อมา ความสับสนวุ่นวายก็ได้ละลายหายไป โดยที่มีกลิ่นบุหรี่ที่เข้มข้นกว่ารสขมสัมผัสถึงผิวเนื้อจากในโพลงปาก ผลัดวนกันด้วยความบรรจง และผละออกจากกันก่อนที่เราทั้งคู่จะหมดลมหายใจ

            กลิ่นบุหรี่ล่ะเขาเอ่ยแซวพร้อมรอยยิ้มที่ดูขี้เล่น และแววตาที่แสนเจ้าเล่ห์...

            ลงตัวชิบหาย!

            เลิกแกล้งผมสักทีเถอะครับผมว่าทั้งที่ใจจริงผมไม่ถือสา

            ก็ได้ อ่อ ดปโปะเขาเรียกผมก่อนจะสูบรับควันเข้าปอดไปที

            ครับ?”

            คือเพื่อนฉันมันว่าจะค้างคืนน่ะ นาย.. ช่วยไปนอนที่ห้องรับแขกทีได้มั้ย

            ครับ?”ผมเผลอขานรับด้วยความไม่พอใจ และพอรู้ตัว แทนที่ผมจะได้ขอโทษเขา กลับกลายเป็นว่าผมได้รับสัมผัสจูบไวๆ มาแทน

            ไม่ได้จะให้นายนอนนั่นตลอดทั้งคืนหรอก นายแค่ไปนอนเนียนๆ พอมันหลับแล้วนายค่อยเลือก เอาเป็นว่าถ้ายังไม่เลยตีหนึ่งฉันจะยังไม่หลับแล้วกันเขาพูดกล่อมผมด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยนลง แต่ไม่ลดความน่าดึงดูด จากที่ตอนแรกนั้นผมรู้สึกไม่พอใจ ก็ยอมเข้าใจ และ...

            เอ่อ จูโตะซัง...

            ครับ?”เขาหันกลับมาตามเสียงเรียกที่ฝืนทนของผม

            สำหรับคุณ.. ผมเป็นอะไรหรอครับ

            มันอดไม่ได้จริงๆ  ความอดทนผมฟอนแฟบเมื่ออยู่ต่อหน้าคุณ

            ...!”

            ผมขอโทษครับ จูโตะซัง

            อ่า.. แขกคนพิเศษ ล่ะมั้งครับเขาตอบอย่างเหม่อลอย ราวกับคำตอบที่ผมได้รับ มันไม่ใช่สำหรับผม แต่เป็นเพียงสำหรับเขา

            ความเงียบกลบทับเราสองคนที่ระเบียง คำพูดลอยหายไปกับควันบุหรี่ทั้งสองมวน จนกระทั่งบุหรี่มวนข้างผมถูกดับลง

            จูโตะซัง ผมขอ.. จูบอีกทีได้มั้ยครับ

            ผมพูดมันในครั้งนี้อย่างมั่นใจ ไม่ใช่เพราะผมต้องการมัน แต่มันเป็นทางเดียวในตอนนี้ที่จะทำให้ความรู้สึกและความคิดไร้สาระของผมจางหายไป พร้อมๆ กับควันบุหรี่ที่เหลืออยู่ของผม

            เพียงไม่กี่วินาทีต่อมา คำถามของผมก็ได้คำตอบเป็นสัมผัสที่แนบชิดที่เย้ายวนและร้ายกาจของเขาที่ถูกใช้แทนคำพูด

            เสียงจากแรงดึงดูดของเราดังผ่านหูของเราทั้งคู่ รสชาติหยาดเยิ้มแต้มติดลิ้นของผมและเขาสลับกันไปมา มือและแขนรอบเกี่ยวตวัดร่างกายกันและกันอย่างไร้ที่ยึดเหนี่ยว

            แสงไฟที่เล็ดลอดผ่านผนวกรวมเข้ากับแสงไฟรอบๆ ที่ๆ เราอยู่ และแสงจันทร์ ทั้งหมดพอมันรวมกันแล้ว มันช่างแสนแสบสว่าง สว่างเจิดจ้าเกินไปสำหรับเรา

            ทั้งที่ความมืดน่าจะเป็นสิ่งที่เราปรารถนา เพราะไร้ซึ่งแสงใดที่จะเปิดโปงความสัมพันธ์ของเรา เพื่อที่มันจะคอยบดบังเรา พาให้เราสามารถไปซ่อนกายภายในนั้น หลบเลี่ยงสายตาจากทุกคน และเหลือทิ้งไว้เพียงผมกับคุณ

            ไม่อาจทราบได้อย่างแน่นอน ว่าสิ่งนี้คืออะไร

            ไม่อาจกล่าวได้ว่ามันเป็นความรัก อาจเป็นความหลง หรือเพียงความติดใจ

            แต่ช่างมัน ช่างแม่งเถอะ เรื่องนั้นน่ะสำหรับตอนนี้ ไม่ว่าจะนึกหาคำตอบยังไงก็ไม่มีทางให้คำตอบกับตัวเองได้

            ตอนนี้สิ่งที่สามารถรับรู้ได้มีเพียงสัมผัสจากคุณเท่านั้น เพียงแค่คุณที่จจะสามารถหล่อหลอมความคิดของผมได้จนร้อนผ่าวดั่งไข้ป่า

            ลืมเลือน.. เราต่างจะพากันลืมสิ้นให้หมดทุกอย่าง

            คุณจะลืมอดีต

            ผมจะลืมอนาคต

            และเราจะเสพสุขปัจจุบันมันไปด้วยกัน...

           

            เช้าที่แสนน่ารำคาญ กับคุณที่หายไปจากเตียง จากห้องนอน ห้องน้ำ และแม้แต่ ห้องนี้

            หรือจะมีงาน?”

            แต่ก็ไม่ใช่แค่จูโตะซัง เพื่อนของเขาก็ไม่อยู่แล้วเช่นกัน

            ผมยกแก้วน้ำส้มที่คาดว่าจะถูกวางไว้ตั้งแต่ก่อนผมจะตื่น ด้วยฝีมือเพียงคนเดียวเท่านั้น...

            หวาน

            แกร๊ก

            ทันทีที่เสียงกลอนประตูดังขึ้น สายตาและความสนใจของผมก็ถูกดึงไปที่ประตูบานนั้น และพอเห็นว่าเป็นคนที่ผมกำลังบ่นถึงอยู่ในใจ รอยยิ้มที่ไม่สมควรก็ผุดขึ้นมาอย่างลืมตัวเฉกเช่นเคย

            อะ อรุณสวัสดิ์ครับ!”ผมลั่นคำทักทายออกไปก่อนด้วยความตื่นเต้น เขาที่เพิ่งเปิดประตูเข้ามาถึงกับสะดุ้ง คงเพราะคาดไม่ถึงว่าผมจะเอ่ยคำทักทายยามเช้าออกไปก่อน หรืออาจจะไม่คิดว่าผมจะตื่นแล้วในตอนนี้

            อรุณสวัสดิ์ครับ

            ...

            มีอะไรหรือเปล่าเขาถามขึ้นเพราะเห็นถึงความผิดปกติเล็กน้อยบางอย่างจากผม และผมเองก็เช่นกัน...

            คุณต่างหาก เกิดอะไรขึ้นหรอครับผมบีบกำแก้วในมือด้วยความกลัว ว่านี่อาจจะเป็นความจุ้นจ้านเกินตัวของผมหรือเปล่า

            ...งั้นหรอ ช่างสังเกตดีจังนะครับคุณพูดตอบโต้กลับอย่างประชดประชัน แต่ผมก็ไม่ได้โกรธหรือหงุดหงิดไม่พอใจอะไร เพราะผมรับรู้ได้ว่านั่นเป็นเพียงการแสดงออกโดยปิดบังของคุณ

            และบางที นี่อาจจะเป็นเสน่ห์ที่คุณสร้างขึ้นโดยไม่รู้ตัวก็ได้

            เขาเดินมาทรุดตัวลงนั่งบนขอบเตียงข้างๆ ผม กลิ่นบุหรี่ที่น่าจะจางไปตั้งแต่ที่กลิ่นเหงื่อและกลิ่นคาวกามนั้นได้กลบก็กลับมาชัดเจนและรุนแรงขึ้นอีกครั้ง เขาเอนศีรษะพิงพาดมาทางผมอย่างเงียบงัน ผมที่ทั้งไม่รู้และไม่เข้าใจถึงสถานการณ์ในตอนนี้จึงทำได้เพียงยกแก้วน้ำส้มที่ยังคงเหลืออยู่ครึ่งหนึ่งขึ้นจิบเอง ก่อนจะลองยื่นส่งไปทางเขาบ้าง

            ขอบใจเขาเอนตัวกลบมานั่งตัวตรง รับแก้วน้ำส้มจากมือของผมไปดื่มบ้าง ก่อนจะส่งกลับมาให้ผมหลังจากพอแล้ว

            หิวยังจู่ๆ เขาก็โพล่งขึ้น

            ครับ? ..ครับ

            งั้นจะกินอะไร

            อะไรก็ได้ครับ ตามใจคุณเลยผมตอบไปตามปกติ เพราะปกติเขาก็มักจะไม่ได้ถามก่อนจะทำให้กิน เพียงแค่ถามเฉยๆ ให้พอเป็นมารยาท แต่ถ้าหากผมกินอะไรไม่ได้จริงๆ เขาถึงจะยอมเปลี่ยนเมนูให้ใหม่

            ...อยากกินอะไร เดี๋ยวทำให้กิน

            ...!”

            นี่มันแปลก ไม่เคยเลยสักครั้ง ที่เขาจะถามผมก่อน

            ไม่ใช่ว่าทั้งคุณและผมต่างก็ไม่มีสิทธิ์ถามรสนิยมความชอบของกันและกันนอกจากเรื่องเซ็กส์หรอครับ

            ผมจำได้ ถึงกฎที่คุณตั้งไว้เป็นอย่างดี หนึ่งในกฎนั้น คือต่างห้ามถามความชอบส่วนตัวไร้สาระนอกจากรสนิยมเรื่องเซ็กส์ หรืออะไรที่สมควรจริงๆ

            มันฟังดูจะเป็นกฎที่ดูคลุมเครือ แต่ผมก็พอจะเดาได้ว่าอะไรที่สมควรหรือไม่สมควรสำหรับความสัมพันธ์ของเรา เพราะยังไงนี่ก็เป็นเพียงความสัมพันธ์ที่ปิดซ่อน และคุณก็ไม่ได้อยากจะสานสัมพันธ์อะไรไปมากกว่าที่เป็นอยู่นี้ สำหรับคุณ มันเป็นที่แน่ชัดอยู่แล้วว่าผมเป็นเพียงคนบรรเทาเหงาให้คุณก็เท่านั้น

            แต่ในครั้งนี้ เขากลับเปลี่ยนล้มกฎมันซะเอง เพราะอะไรกัน อะไรที่ทำให้คุณตัดสินใจผิดพลาดแบบนี้

            จูโตะซัง

            เอ่อ.. ข้าว.. ห่อไข่ครับ...ผมที่ทั้งยังไม่แน่ใจและไม่เข้าใจในความคิดความรู้สึกของเขา จึงได้แต่เผลอตอบกลับไปอย่างคนไร้เรี่ยวแรง ที่แสนจะเบาหวิวและอื้ออึงในลำคอ

            หืม? เมื่อกี้ว่าอะไรนะเขาย้ำขึ้น เติมฟืนความมั่นใจที่หายไปให้กับผม

            ข้าวห่อไข่ครับ ผมชอบข้าวห่อไข่

            ...หึ โอเค ได้สิ งั้นไปอาบน้ำก่อน เดี๋ยวฉันไปทำให้กินเขาหลุดพ่นลมหายใจคล้ายกับกำลังกลั้นหัวเราะกับของชอบของผมที่คงจะฟังดูน่ารักสำหรับเขา ก่อนจะรีบกลบด้วยคำพูดบิดเบือน

            สันดารเสียจริงๆ คนๆ นี้

            ...แล้วคุณล่ะผมถามกลับอย่างดูกำกวน

            หืม? ฉันอาบแล้ว นายไปอาบเถอะ อาบเสร็จก็จะได้กินข้าวเลยไงเขาอธิบายราวกับกำลังพูดจาหลอกล่อให้เด็กเล็กๆ ไปอาบน้ำ

            แต่ที่ผมจะหมายถึงมันไม่ใช่แบบนั้นนะครับ

            คุณไปอาบ.. ด้วยกันมั้ยครับผมก้มหน้ากับความใจกล้าปากกล้าของตัวเองที่นับวันมันชักจะเพิ่มมากขึ้น เขามองผมอึ้งๆ สักพักก่อนจะหัวเราะออกมา ทำอาใจที่เคยกล้าบ้าบิ่นของผมยิ่งเหือดแห้งลงกว่าเก่า

            ก็ได้ แต่ถ้างั้นนายจะได้กินข้าวช้านะเขาแกล้งขู่ผม

            ไม่เป็นไรหรอกครับ ยิ่งหิวยิ่งอร่อยไม่ใช่หรอครับ

            นายนี่เปลี่ยนไปเยอะอยู่นะ

            ไม่ใช่ว่าคุณก็ด้วยหรอครับ

            คิดว่าคงติดมาจากคนแถวนี้ล่ะมั้งครับ

 

            คิดดีแล้วหรออวะ จูโตะเสียงเพื่อนของเขาทักขึ้น หลังจากปล่อยเวลาเงียบงันให้ล่วงเลยมานานอย่างน่าอึดอัด

            เรื่องอะไรเขาแสร้งทำเป็นว่าไม่รู้ และถามกลับด้วยความเรียบเฉย

            อย่าทำเป็นไม่รู้หน่อยเลยว่ะ ก็เรื่องไอ้เจ้าพนักงานนั่นไง แกจะเอายังไงกันแน่วะจูโตะซามาโทกิว่าอย่างหงุดหงิด ปกติการพูดคุยแบบนี้มักจะจบลงด้วยการกระชากคอเสื้อเหวี่ยงหมัดใส่กันสักหมัดสองหมัดให้ต่างฝ่ายต่างรู้สึกดีขึ้น แต่ครั้งนี้มันกลับไม่เป็นเช่นนั้น ทุกอย่างดูอึมครึม เต็มไปด้วยความเงียบและพอสิ้นเสียงพ่นควันบุหรี่ก็จึงค่อยมีคำตอบให้กลับมา

            ...ไม่รู้ว่ะ อาจจะปล่อยให้เป็นแบบนี้ล่ะมั้ง

            เขาให้คำตอบด้วยความไม่แน่นอนปนคละความสงสัยกับตัวเอง เขารู้ รู้ถึงความเป็นห่วงและความหวังดีจากส่วนลึกของมัน แต่เขาก็ไม่สามารถชั่งใจให้เลือกคำตอบที่แน่นอนได้ในตอนนี้

            แต่แกก็น่าจะรู้นี่ ว่าถ้าแกยังเป็นแบบนี้อยู่มันจะแย่ไปหมด ฉันว่าแกควรเลือกได้แล้วนะ รีบเลือกใครสักคนเถอะว่ะ ก่อนจะไม่เหลือใครให้เลือกซามาโทกิดับบุหรี่ด้วยความหงุดหงิดกับเพื่อนตัวดีของตัวเอง

            ที่จริงมันก็น่าสงสัยมาได้สักพักแล้วล่ะ ที่จูโตะมันทำเหมือนกับว่าไอ้เจ้าพนักงานนั่นจะมีอะไรมากกว่าคำว่า คนรู้จัก แต่มันกลับยิ่งชัดเจนในคืนนั้น ความผิดพลาดที่บังเอิญไปเปิดม่านหวังเพียงจะขอสูบบุหรี่ด้วยสักมวน แต่กลับกลายเป็นว่าดันได้เห็นภาพสองคนนี้กำลังจูบกันอย่างดูดดื่มจนไม่รับรู้หรือสนใจอะไรรอบตัวพวกมันกันเลย พอมันตื่นขึ้นมาก็ทำเนียนไม่รู้ไม่ชี้ไล่เขากลับไป จนพอซักมันไปสักพักมันถึงจะยอมบอกความจริง

            เอาจริงๆ ตัวเขาเองก็ไม่ได้อยากจะไปยุ่งเรื่องของมันนักหรอก แต่ทำไงได้ล่ะ เขาที่รู้อดีตของมันก็ไม่ได้อยากจะให้มันเป็นบ้าอะไรอีก และเขาจะดีใจมาก ถ้ามันเลือกที่จะเลิกกับสามีบ้างานอะไรนั่นของมันได้สักที

            เอาเถอะว่ะ เรื่องของแกฉันจะไม่ยุ่งก็ได้ แต่อย่ามาให้เห็นว่าร้องไห้งอแงที่หลังละกัน ไปล่ะ ไอ้ตำรวจเวรพอพูดจบประตูก็ถูกปิดลง ทิ้งให้เขานั่งค้างในห้องสำนักงานนี่ต่อ

            ไม่ร้องหรอกเฟ้ย.. ไอ้บ้า