วันต่อมาคิมหันต์แอบเข้ามาในบ้านคนตัวเล็กโดยไม่บอกก่อนเพราะไม่ได้หวังจะเจอหน้าอีกคนแต่อย่างใดเขาเพียงอยากปลูกกุหลาบขาว อยากให้ใบไผ่นึกถึงเขาทุกครั้งที่มองมัน

เพราะอีกฝ่ายบอกว่าชอบกุหลาบแล้วเขาเองก็ชอบอีกฝ่ายอย่างสุดหัวใจ

“คุณคิมเองหรอครับผมคิดว่าโจร ตกใจหมดเลย” แต่เขาดันทำให้อีกคนรู้ตัวเสียจนได้แต่ก็ไม่เป็นไรอีกฝ่ายจะได้รู้อย่างไรล่ะว่าคนที่เอาดอกไม้มาปลูกคือเขา

กุหลาบต้นนี้มันจะพิเศษกว่าต้นอื่นๆ เป็นร้อยเป็นพันเท่า

“ผมขอโทษ คิดว่าคุณหลับอยู่เลยไม่อยากกวนน่ะ”

“ไม่เป็นไรครับ ผมให้กุญแจกับคุณเองนิ แล้วคุณกำลังปลูกอะไรอยู่”

“กุหลาบขาวน่ะ” คนตัวเล็กที่ได้ยินเช่นนั้นจึงดึงแขนเสื้อขึ้นและร่วมปลูกต้นไม้ต้นนั้นไปพร้อมคิมหันต์

มันจะเบ่งบานเหมือนความรักของเรา

หรือสุดท้ายมันจะเหี่ยวเฉาจนไร้ความเสน่ห์หา

“เวลาคิดถึงผมก็มองดูดอกไม้พวกนี้นะ จะได้หายคิดถึง” คิมหันต์เอ่ย

“แล้วผมจะไปคิดถึงคุณทำไมเล่า”

“ไม่รู้สิก็เผื่อไว้ก่อน” ทันทีที่ปลูกดอกไม้เสร็จคิมหันต์จึงลุกขึ้น มองต้นไม้ต้นนั้นจะมุมของเขา มันคงดีมากเลยล่ะ แสนจะโรแมนติก

“มันออกดอกเมื่อไหร่บอกผมด้วยนะผมอยากมาดูกับคุณ”

“ให้มันรอดก่อนเถอะครับ”

“อย่ามาแช่งต้นไม้ผมสิ แล้วมีอะไรให้กินบ้าง ผมหิวแล้ว”

“วันนี้ผมมีนัดน่ะคุณ เกรงว่าคุณจะอยู่นานไม่ได้”

“นี่คุณไม่ได้หลบหน้าผมใช่ไหม” คิมหันต์ถามเพราะเขากลัวใจใบไผ่กลัวว่าใบไผ่จะไม่อยากอยู่กับเขาแล้ว

“ผมจะทำแบบนั้นไปทำไมล่ะ ผมมีนัดจริงๆ”

“งั้นจัดช่อดอกไม้ให้ผมหน่อยสิ” คนตัวเล็กเดินไปจัดช่อดอกไม้อย่างว่าง่ายร่างสูงได้แต่ยืนมองการกระทำที่จะหยิบจับอะไรก็ดูน่ารักไปหมดเลย อยากอยู่ด้วยนานกว่านี้จัง

“คุณไม่ได้แยกดอกไม้เลยหรอนี่มันเหี่ยวแล้วนะ” คิมหันต์พูดหลังจากเหลือบไปเห็นดอกไม้ที่เตรียมไว้ขายเริ่มเหี่ยวเฉา

“ผมลืมน่ะครับ”

“ไม่ใช่นิสัยนายเลย มาผมแยกให้เอง” ร่างสูงช่วยอีกคนแยกดอกไม้ที่เหี่ยวเฉาออกจากกลุ่มดอกไม้ที่ยังขายได้

“คุณเบลออะไรเนี่ยใส่ธูปไปในดอกไม้ผมทำไม”

“ผมหยิบผิดเฉยๆ” ใบไผ่พูดพลางหัวเราะกลบเกลื่อนแต่คิมหันต์กลับรู้สึกแปลกๆ

 

 

 

กริ๊ง

เสียงกระดิ่งร้านดังขึ้นเผยให้เห็นร่างชายดวงตาสีน้ำตาลเขามาพร้อมรอยยิ้ม ผมสีเทาสง่าสวมเสื้อเชิ้ตสีน้ำเงินเข้มปลดกระดุมออกสองเม็ด ชวนดูน่าหลงใหลและเหมือนจะไม่ใช่คนในพื้นที่

“ไอหมอมึงมาทำไมถึงนี่” คิมหันต์ทักขึ้นมาทันทีที่เห็นผู้ชายคนนั้น

“คุณคิมรู้จักหรอครับ”

“อือ หมอเพื่อนผมเอง” “แล้วมึงมาทำไม” เขาว่าพลางหันไปเอ่ยถามเพื่อนของตัวเองอีกรอบ

“ดีใจที่ได้เจอมึงนะคิมแต่กูมา...”

“มาซื้อดอกไม้หรอครับ” ใบไผ่พูดแทรกขึ้นมาคุณหมอก็เออออตามไป

“คุณคิมผมลืมหยิบดอกไม้ที่ตัดไว้แล้วมาอยู่ในสวนไปเอาให้หน่อยได้ไหมครับ” ร่างสูงเอ่ยตอบรับก่อนจะเดินไปหลังร้านเพื่อหยิบดอกไม้มาให้ใบไผ่

“คุณหมอเป็นเพื่อนสนิทคุณคิมหรอครับ”

“ไม่หรอก แค่เคยเรียนห้องเดียวกัน”

“วันนี้ผมคงไม่สะดวกแล้วไว้คุณหมอมาใหม่ได้ไหมครับ ส่วนเรื่องผมห้ามบอกคุณคิมจะได้ไหมครับ”

“ถ้าคุณไม่ให้บอกผมก็จะไม่บอก แต่อย่าลืมนะครับคนที่เจ็บสุดในเรื่องนี้ไม่ใช่คุณ”

“ใบไผ่ผมไม่เห็นเจอเลย”

“ผมน่าจะจำผิดมั้งครับ”

“คิมไปส่งกูหน่อยสิ กูไม่ได้เอารถมา”

“กูไม่ใช่คนขับรถ”

“นานๆ ที ไปส่งเพื่อนสักครั้งไม่ได้หรือไง”

“ไปเถอะครับ” ถึงแม้จะไม่เต็มใจเท่าไหร่นักแต่เขาก็ยอมไปส่งแต่โดยดีนั่นก็เพราะมีเรื่องที่จะถามด้วยล่ะมั้ง

“ทำไมต้องให้กูไปส่งด้วย” คิมหันต์ถามเชิงบ่นขณะกำลังขับรถ

“ก็อยากคุยในฐานะเพื่อนคนหนึ่ง”

“เรื่อง?”

“มึงกับเจ้าของร้านดอกไม้เป็นอะไรกัน”

“ก็ไม่ได้เป็นอะไรกัน กูขอเขาคบแต่เขาปฏิเสธ”

“......”

“มึงเงียบทำไม หรือว่าใบไผ่เป็นอะไร”

“ไม่ใช่..” เขาเอ่ยตอบเสียงแผ่วขณะกำลังก้มหน้า

“อะไรของมึง”

“เลี้ยวเข้าซอยข้างหน้านะ จะถึงแล้ว”

“มึงเหมือนมีอะไรปิดบังกูอยู่เลย” คิมเอ่ยตามจริง

“รักเขาก็แสดงออกเยอะๆ” คุณหมอพูดขณะที่รถจอดสนิทพอดีเขาเดินลงจากรถไว้ทิ้งคำพูดที่ชวนสงสัยนั้นเอาไว้ด้วย

 

หลังจากที่เตไม่ได้มาเยี่ยมใบไผ่นานแล้วจู่ๆ วันนี้เขามาหาอีกคนด้วยพร้อมถือกระเช้าผลไม้ติดไม้ติดมือมา น่าแปลกเสียจริง

“ผมซื้อผลไม้มาฝาก”

“ซื้อมาเยี่ยมคนป่วยรึไง”

“พี่ไผ่ไม่สบายหรอ เป็นอะไรหนักรึเปล่า หรือทะเลาะกับคุณลุงสีหน้าพี่ไม่ค่อยดีเลย”

“เปล่าพี่สบายดี”

“โกหกอยู่เห็นๆ”

“พี่พูดกับเราได้ไหม”

“พูดมาสิพี่” คนตัวเล็กว่าพลางถอนหายใจและอธิบายเรื่องที่เกิดขึ้นให้เตฟังยาวเหยียด คนอายุน้อยกว่าตั้งใจรับฟังเป็นอย่างดี

“คุณคิมขอพี่เป็นแฟน พี่ตอบปฏิเสธคุณคิมไป”

“ผมคิดว่าพี่ชอบเขาซะอีก”

“พี่ไม่รู้จะอธิบายให้เราฟังยังไง แต่พี่กลัว กลัวว่าพี่จะอยู่ดูแลคุณคิมไปไม่ได้ตลอด”

“หมายความว่ายังไง...”

“อย่าสนใจเลย”

“พี่ไผ่พี่แบกรับเรื่องอะไรอยู่ ทำไมไม่ยอมพูดออกมา”

“ไม่ต้องห่วงพี่จะต้องหายดี เดี๋ยวพี่มานะ” ร่างเล็กกึ่งเดินกึ่งวิ่งไปยังหลังบ้านโดยไม่ลืมจะหยิบมือถือของตัวเองไปด้วย

ใบไผ่เปิดแชทคุณคิมหันต์ดูก่อนจะพิมพ์ๆ ลบๆ ข้อความอยู่อย่างนั้นเขาไม่กล้าแม้แต่จะทักหาอีกคนเสียแล้ว

“คุณคิมอาจกำลังขับรถอยู่ หรือคุณหมอแอบบอกเรื่องของเราไปแล้วกันนะ”

ใบไผ่คิดไม่ตกก่อนที่มือถือจะเด้งสายเรียกเข้าขึ้นมาใบไผ่จึงรีบกดรับสายทันที

คิมหันต์โทรมาเพื่อบอกใบไผ่ว่าเขาคงไม่ได้เข้าหาใบไผ่แล้วเพราะมีงานด่วนเข้ามากะทันหันใบไผ่พูดตอบรับอย่างผิดหวังนิดหน่อยแต่มันคืองานเขาไม่ได้คิดอะไรมากมาย เขาเพียงอยากรู้แค่ว่าคิมหันต์รู้ความจริงแล้วหรือยังแค่นั้น...

“พี่ไผ่ผมกลับก่อนนะ” เตที่แอบเดินตามมากระซิบบอก

“จะกลับแล้วหรอ”

“อือ เพื่อนนัดไปเจอกะทันหันน่ะ”

“งั้นก็ไปเถอะ” ใบไผ่พูดอีกฝ่ายจึงเดินออกจากร้านไป

ใบไผ่เริ่มมีความรู้สึกที่รำคาญตัวเองเขาไม่กล้าพอที่พูดกับคนรอบข้างตรงๆ เขาไม่กล้าพอที่จะรักคุณคิมหันต์อย่างสุดหัวใจด้วยซ้ำ เขามีแต่ความกลัวกลัวทุกสิ่งทุกอย่าง

ความกล้าไม่ใช่เรื่องง่าย ใครก็ได้ช่วยบอกหน่อยว่าควรทำยังไงต่อไป ใครก็ได้..... ใบไผ่ได้เพียงแต่ภาวนาอยู่ในใจอยู่อย่างนั้น