กว่าสองชั่วโมงที่เขามุ่งหน้าขับรถมาเรื่อยๆ ระหว่างทางทำให้เขาและใบไผ่ได้พูดคุยกันกว่าปกติความห่างเหินในความสัมพันธ์เริ่มลดน้อยลงและความไว้วางใจและสนิทสนมยิ่งเพิ่มขึ้น

“คุณบอกปล่อยร้างไว้นานแล้วนิ ทำไมสะอาดจัง” คิมหันต์เอ่ยถามหลังจากลอบมองเข้าไปในตัวบ้านผ่านหน้าต่างสีใส

“ป้า ญาติห่างๆ ของผมเขามักจะมาอาศัยบ้านผมบ่อยๆ มันเลยสะอาด”

“อ้าว แล้วเขาไหนล่ะ”

“ไปต่างประเทศ เดี๋ยวก็กลับมา”

“แล้วทำไมไม่ขายบ้านหลังนี้ไปเลยล่ะ”

“เพราะผมยังอยากกลับมาบ้านหลังนี้อยู่ คุณนอนที่นี่ได้นะ จะให้คุณกลับรถกลับก็จะใจร้ายเกินไป”

“ผมรอคำนี้มานาน”

“ออกไปซื้ออาหารกันไหมใบไผ่” คิมพูดขึ้น ใบไผ่เองก็เห็นด้วย ทั้งคู่ช่วยกันจัดของแต่เนื่องจากมันใกล้จะเย็นแล้วคิมหันต์จึงชวนใบไผ่ออกไปซื้อของด้านนอก ใบไผ่ตอบตกลงเพราะยังมีของที่ยังไม่ได้ซื้อมาอีกเยอะแยะเลย

พวกเขาซื้อสิ่งของจำเป็นมาแล้วใบไผ่จึงอาสาทำอาหารให้เองขณะที่คุณคิมเข้าไปอาบน้ำชำระร่างกายให้เรียบร้อย

บ้านหลังนี้มีสามห้องนอนหนึ่งห้องน้ำใบไผ่จึงยกอีกหนึ่งห้องให้คุณคิมนอนไป ถึงแม้ว่าคุณคิมจะดื้อบ่นแต่อยากนอนห้องเดียวกับใบไผ่แต่สุดท้ายก็ยอมนอนอีกห้องเพราะคนตัวเล็กยืนกรานไม่ยอมท่าเดียว

“แปลกจังคุณดันเอาเสื้อผ้ามาด้วย” ใบไผ่ถามทันทีที่เห็นคิมหันต์กำลังหอบเสื้อผ้าตัวเองเข้ามาในบ้าน

“ผมมีเสื้อติดรถน่ะ เผื่อมีงานด่วนต้องนอนค้างนอกสถานที่”

“งั้นหรอครับ”

“ไม่อาบน้ำหรอ”

“เดี๋ยวค่อยอาบครับ ผมยังต้องแวะไปหาบ้านข้างๆ สักหน่อย”

“ผมไปด้วยสิ”

“ไปทำไมคุณ คุณอยู่นี่แหละ”

“เอางั้นก็ได้” คิมหันต์ที่เห็นใบไผ่เดินออกจากบ้านไปตนเองจึงทำความสะอาดบ้านให้เรียบร้อยตอนที่คนตัวเล็กกลับมาจะได้อาบน้ำนอนได้เลย

 

 

 

เช้าวันต่อมาคิมหันต์ผล็อยหลับไปโดยไม่รู้ว่าคนตัวเล็กกลับมาบ้านตั้งแต่ตอนไหนหรือยังไม่กลับเพราะขณะที่ตื่นขึ้นมา เขาเดินหาคนตัวเล็กไปทั่วแต่ก็ไม่เจอ

“ออกไปไหนของเขา” ร่างสูงเอ่ยบ่นกับตัวเองในขณะที่ได้ยินเสียงเรียกมาจากด้านหลังพอดิบพอดี

“อ้าวคุณตื่นแล้วหรอ” ใบไผ่เดินเข้ามาในบ้านพร้อมกับของในมือ

“ออกไปไหนมาแต่เช้าน่ะคุณ”

“เช้าอะไร นี่จะเที่ยงแล้วนะ ผมไปซื้ออาหารมาให้คุณนั่นแหละ”

“อ้าว ผมนอนนานไป”

“แล้วจะกลับเมื่อไหร่หรอ”

“อีกอาทิตย์หนึ่งครับ”

“ผมอยู่ที่นี่ได้ไหม”

“ไม่ได้!!!” คนตัวเล็กปฏิเสธอย่างเด็ดขาด

“งั้นผมจะกลับไป ช่วยหาคนมาซ่อมบ้านให้คุณด้วย”

“ขอบคุณครับ ไม่ได้คุณคงแย่จริงๆ”

“ผมแค่อยากจะตอบแทนคุณบ้าง”

“กินข้าวกันเถอะครับ” อีกฝ่ายเปลี่ยนเรื่องพลางยื่นถุงอาหารที่ถือติดตัวมอบให้คิมหันต์

ที่จริงคิมหันต์ยังอยากอยู่ต่อแต่ด้วยงานที่รัดตัวเขาต้องกลับไปทำงานก่อน

 

ทันทีที่กลับมาบ้านก็โดนเรียกเข้าบริษัทอย่างเร่งด่วนแต่ไม่มีใครยอมบอกอะไรเขาเลยว่าเกิดอะไรขึ้นจนน่าโมโห

“พี่คิม” เสียงเอ่ยเรียกจากน้องชายดังขึ้น สร้างความตกใจให้คนได้ยินไม่น้อย

“พี่ยุ่ง อย่าเพิ่งมากวน”

“พี่มาช้าไป 15 นาที ผมเลื่อนประชุมไปให้แล้วล่ะ”

“เคน ทำไมทำอะไรตามใจแบบนี้ นี่มันประชุมสำคัญนะ”

“ใช่ รู้ทั้งรู้ว่าประชุมครั้งนี้สำคัญแต่ก็ยังไปไหนต่อไหนไม่สนใจงานเลยสักนิด หลงผู้ชายคนนั้นจนหน้ามืดตามัว”

“อย่ามาพูดจาแบบนี้นะ พี่ไม่ชอบ”

“ผมไม่ได้ห้ามพี่มีแฟนหรอกนะ แต่พี่ก็รู้งานต้องมาก่อน ผู้บริหารที่เอาเรื่องส่วนตัวไปยำรวมกับธุรกิจแบบนี้” เคนพูดลากเสียงพลางมองหน้าคิมหันต์ “ยังสมควรเป็นผู้บริหารอยู่อีกหรอครับ” ผู้เป็นน้องชายทิ้งระเบิดไว้ก่อนจะหนีหายไป

คิมหันต์ไม่ตอบโต้อะไรพลางมองตามหลังผ็เป็นน้องชายไป เขารู้อยู่แล้วว่าเคนอยากนั่งที่ประธานมากแค่ไหนแต่เคนไม่เคยแสดงออกอย่างชัดเจนเลยสักครั้ง ครั้งนี้เขาโจ่งแจ้งเกินไปแล้ว

“นายครับ กลับมาแล้วหรอครับ” ธันเดินเข้ามาถาม

“อือ ประชุมโดนเลื่อน กูขอตัวไปพักก่อน”

“ครับนาย” คิมหันต์เดินสวนธันเข้าไปในห้องทำงานของตัวเอง ก่อนจะนั่งมองตารางงานของตัวเอง

ในใจเขาก็แอบกลัวว่าเคนจะคึกเหิมเกริมเกิดยึดอำนาจเขาขึ้นมาเพราะผู้ถือหุ้นแปรเปลี่ยนได้ตลอดเวลา แต่มันคงไม่ง่ายขนาดนั้นเพราะคิมหันต์เองก็ทำงานเก่งไม่เช่นนั้นคงไม่ได้มายืนตำแหน่งผู้บริหารแบบทุกวันนี้

คิมหันต์สลัดความคิดของเขาออกก่อนจะตั้งใจทำงานที่เหลือของตัวเองให้เสร็จ และถามไถ่ถึงเรื่องด่วนที่ต้องรีบมาวันนี้จากเลขาตัวเอง