13 ตอน ตอนที่ 13
โดย ชูเบล
กว่าสองชั่วโมงที่เขามุ่งหน้าขับรถมาเรื่อยๆ ระหว่างทางทำให้เขาและใบไผ่ได้พูดคุยกันกว่าปกติความห่างเหินในความสัมพันธ์เริ่มลดน้อยลงและความไว้วางใจและสนิทสนมยิ่งเพิ่มขึ้น
“คุณบอกปล่อยร้างไว้นานแล้วนิ ทำไมสะอาดจัง” คิมหันต์เอ่ยถามหลังจากลอบมองเข้าไปในตัวบ้านผ่านหน้าต่างสีใส
“ป้า ญาติห่างๆ ของผมเขามักจะมาอาศัยบ้านผมบ่อยๆ มันเลยสะอาด”
“อ้าว แล้วเขาไหนล่ะ”
“ไปต่างประเทศ เดี๋ยวก็กลับมา”
“แล้วทำไมไม่ขายบ้านหลังนี้ไปเลยล่ะ”
“เพราะผมยังอยากกลับมาบ้านหลังนี้อยู่ คุณนอนที่นี่ได้นะ จะให้คุณกลับรถกลับก็จะใจร้ายเกินไป”
“ผมรอคำนี้มานาน”
“ออกไปซื้ออาหารกันไหมใบไผ่” คิมพูดขึ้น ใบไผ่เองก็เห็นด้วย ทั้งคู่ช่วยกันจัดของแต่เนื่องจากมันใกล้จะเย็นแล้วคิมหันต์จึงชวนใบไผ่ออกไปซื้อของด้านนอก ใบไผ่ตอบตกลงเพราะยังมีของที่ยังไม่ได้ซื้อมาอีกเยอะแยะเลย
พวกเขาซื้อสิ่งของจำเป็นมาแล้วใบไผ่จึงอาสาทำอาหารให้เองขณะที่คุณคิมเข้าไปอาบน้ำชำระร่างกายให้เรียบร้อย
บ้านหลังนี้มีสามห้องนอนหนึ่งห้องน้ำใบไผ่จึงยกอีกหนึ่งห้องให้คุณคิมนอนไป ถึงแม้ว่าคุณคิมจะดื้อบ่นแต่อยากนอนห้องเดียวกับใบไผ่แต่สุดท้ายก็ยอมนอนอีกห้องเพราะคนตัวเล็กยืนกรานไม่ยอมท่าเดียว
“แปลกจังคุณดันเอาเสื้อผ้ามาด้วย” ใบไผ่ถามทันทีที่เห็นคิมหันต์กำลังหอบเสื้อผ้าตัวเองเข้ามาในบ้าน
“ผมมีเสื้อติดรถน่ะ เผื่อมีงานด่วนต้องนอนค้างนอกสถานที่”
“งั้นหรอครับ”
“ไม่อาบน้ำหรอ”
“เดี๋ยวค่อยอาบครับ ผมยังต้องแวะไปหาบ้านข้างๆ สักหน่อย”
“ผมไปด้วยสิ”
“ไปทำไมคุณ คุณอยู่นี่แหละ”
“เอางั้นก็ได้” คิมหันต์ที่เห็นใบไผ่เดินออกจากบ้านไปตนเองจึงทำความสะอาดบ้านให้เรียบร้อยตอนที่คนตัวเล็กกลับมาจะได้อาบน้ำนอนได้เลย
เช้าวันต่อมาคิมหันต์ผล็อยหลับไปโดยไม่รู้ว่าคนตัวเล็กกลับมาบ้านตั้งแต่ตอนไหนหรือยังไม่กลับเพราะขณะที่ตื่นขึ้นมา เขาเดินหาคนตัวเล็กไปทั่วแต่ก็ไม่เจอ
“ออกไปไหนของเขา” ร่างสูงเอ่ยบ่นกับตัวเองในขณะที่ได้ยินเสียงเรียกมาจากด้านหลังพอดิบพอดี
“อ้าวคุณตื่นแล้วหรอ” ใบไผ่เดินเข้ามาในบ้านพร้อมกับของในมือ
“ออกไปไหนมาแต่เช้าน่ะคุณ”
“เช้าอะไร นี่จะเที่ยงแล้วนะ ผมไปซื้ออาหารมาให้คุณนั่นแหละ”
“อ้าว ผมนอนนานไป”
“แล้วจะกลับเมื่อไหร่หรอ”
“อีกอาทิตย์หนึ่งครับ”
“ผมอยู่ที่นี่ได้ไหม”
“ไม่ได้!!!” คนตัวเล็กปฏิเสธอย่างเด็ดขาด
“งั้นผมจะกลับไป ช่วยหาคนมาซ่อมบ้านให้คุณด้วย”
“ขอบคุณครับ ไม่ได้คุณคงแย่จริงๆ”
“ผมแค่อยากจะตอบแทนคุณบ้าง”
“กินข้าวกันเถอะครับ” อีกฝ่ายเปลี่ยนเรื่องพลางยื่นถุงอาหารที่ถือติดตัวมอบให้คิมหันต์
ที่จริงคิมหันต์ยังอยากอยู่ต่อแต่ด้วยงานที่รัดตัวเขาต้องกลับไปทำงานก่อน
ทันทีที่กลับมาบ้านก็โดนเรียกเข้าบริษัทอย่างเร่งด่วนแต่ไม่มีใครยอมบอกอะไรเขาเลยว่าเกิดอะไรขึ้นจนน่าโมโห
“พี่คิม” เสียงเอ่ยเรียกจากน้องชายดังขึ้น สร้างความตกใจให้คนได้ยินไม่น้อย
“พี่ยุ่ง อย่าเพิ่งมากวน”
“พี่มาช้าไป 15 นาที ผมเลื่อนประชุมไปให้แล้วล่ะ”
“เคน ทำไมทำอะไรตามใจแบบนี้ นี่มันประชุมสำคัญนะ”
“ใช่ รู้ทั้งรู้ว่าประชุมครั้งนี้สำคัญแต่ก็ยังไปไหนต่อไหนไม่สนใจงานเลยสักนิด หลงผู้ชายคนนั้นจนหน้ามืดตามัว”
“อย่ามาพูดจาแบบนี้นะ พี่ไม่ชอบ”
“ผมไม่ได้ห้ามพี่มีแฟนหรอกนะ แต่พี่ก็รู้งานต้องมาก่อน ผู้บริหารที่เอาเรื่องส่วนตัวไปยำรวมกับธุรกิจแบบนี้” เคนพูดลากเสียงพลางมองหน้าคิมหันต์ “ยังสมควรเป็นผู้บริหารอยู่อีกหรอครับ” ผู้เป็นน้องชายทิ้งระเบิดไว้ก่อนจะหนีหายไป
คิมหันต์ไม่ตอบโต้อะไรพลางมองตามหลังผ็เป็นน้องชายไป เขารู้อยู่แล้วว่าเคนอยากนั่งที่ประธานมากแค่ไหนแต่เคนไม่เคยแสดงออกอย่างชัดเจนเลยสักครั้ง ครั้งนี้เขาโจ่งแจ้งเกินไปแล้ว
“นายครับ กลับมาแล้วหรอครับ” ธันเดินเข้ามาถาม
“อือ ประชุมโดนเลื่อน กูขอตัวไปพักก่อน”
“ครับนาย” คิมหันต์เดินสวนธันเข้าไปในห้องทำงานของตัวเอง ก่อนจะนั่งมองตารางงานของตัวเอง
ในใจเขาก็แอบกลัวว่าเคนจะคึกเหิมเกริมเกิดยึดอำนาจเขาขึ้นมาเพราะผู้ถือหุ้นแปรเปลี่ยนได้ตลอดเวลา แต่มันคงไม่ง่ายขนาดนั้นเพราะคิมหันต์เองก็ทำงานเก่งไม่เช่นนั้นคงไม่ได้มายืนตำแหน่งผู้บริหารแบบทุกวันนี้
คิมหันต์สลัดความคิดของเขาออกก่อนจะตั้งใจทำงานที่เหลือของตัวเองให้เสร็จ และถามไถ่ถึงเรื่องด่วนที่ต้องรีบมาวันนี้จากเลขาตัวเอง