คนร่างสูงมีเพียงที่เขาอยากไปในช่วงนี้นั่นก็คือที่ที่จะได้เห็นคนรักของเขาสะดวกๆ ร้านใบไผ่มักเต็มไปด้วยผู้คนในช่วงนี้จนเวลาที่ได้คุยกันเหลือน้อยลง มันเป็นผลดีหรือไม่ดีกันนะ

“คุณยังไม่ได้เปิดร้านใช่ไหม” คนตัวสูงพูดขณะกำลังก้าวมาภายในร้าน

“กำลังจะเปิดพอดีเลยครับ” ใบไผ่พูด

“ค่อยเปิดได้ไหม”

“อย่ากวนเวลาผมทำงานสิครับ”

“แค่วันเดียว วันเดียวจริงๆ” คิมหันต์พูดขึ้นใบหน้าสีแดงระเรื่อเม้มปากเข้าหากันพลางหยุดคิดไปชั่วครู่ เขาควรทำตามที่อีกฝ่ายต้องการดีไหมนะ

“แค่แป๊บเดียวนะครับ” คนตัวสูงดีใจเผยสีหน้ายิ้มพร่า

“แม่ผมชอบคุณมากเลยรู้ไหม”

“จริงหรอครับ งั้นก็โล่งใจหน่อย ผมกลัวมากว่าจะเผลอทำอะไรผิดไป”

“แม่ผมบอกว่าคุณบอกว่า....”

“บอกว่าอะไรหรอครับ” ใบไผ่ถามด้วยความสงสัยแต่ใบไผ่ก็รู้ได้ทันทีว่าคิมหันต์หมายถึงอะไรเพราะหน้าตาของเขาตอนนี้มันแสดงออกมาอย่างชัดเจนซะเหลือเกิน

“แล้วคุณจะให้ผมปิดร้านไปทำไมครับ” ร่างเล็กรีบหาเรื่องอื่นมาพุดแทนใบหน้าที่แสนอ่อนโยนมีสีแดงฝาดขึ้นอย่างเห็นได้ชัด จู่ๆ เขาก็ดันนึกขึ้นมาได้เขาบอกชอบคุณคิมต่อหน้าแม่คุณคิมไปนี่หน่า

“ผมเคยบอกคุณว่าผมไม่ชอบคฤหาสน์ที่ตัวเองเพราะมันอ้างว้างและโดดเดี่ยว แต่ผมอยากอยู่ที่นั่นกับคุณนะ”

“คุณหมายถึง....”

“ไปเยี่ยมบ้านของผมสักครั้งเถอะนะ”

“......”

“อย่าได้ปฏิเสธผมเชียว”

“ก็ได้ครับ ผมก็อยากไปสักครั้งเหมือนกัน” เพราะอยากรู้จักอีกคนมากกว่านี้การได้ไปสถานที่ที่อีกฝ่ายใช้ชีวิตอยู่จะทำให้เขารู้จักคิมหันต์เพิ่มขึ้นอีกไหมนะ

ส่วนคิมหันต์ที่อยากให้คนตัวเล็กไปเยี่ยมบ้านของตัวเองสักครั้ง บางทีที่แห่งนั้นมันจะดีหรือไม่ดีก็คงขึ้นกับคนที่อยู่ด้วยนี่แหละ

 

 

จนมาถึงคฤหาสน์ของเขาคิมหันต์สั่งให้คนรับใช้ในบ้านไม่ต้องมาคอยรับใช้เพราะกลัวใบไผ่จะอึดอัด

เขาเริ่มจากนำอีกฝ่ายไปเดินดูรูปทายาทของตระกูล ผนังถูกตกแต่งไว้อย่างสวยงามเครื่องตกแต่งชิ้นหรูถูกวางไว้อย่างเป็นระเบียบ

เป็นที่ที่น่ามหัศจรรย์ใจจริงๆ

“นี่รูปคุณตอนเด็กหรอครับ”

“อือ หล่อตั้งแต่เด็กเลยใช่ไหมล่ะ”

“น่ารักดีครับ” ปากหยักเอ่ยเผยรอยยิ้มที่แสนอบอุ่นออกมา อยากจะบอกว่าน่ารักตั้งแต่เด็กจนโตเลยต่างหาก

ร่างสูงสวมกอดคนตัวเล็กจากด้านหน้าพลางเลื่อนใบหน้าวางไว้บนบ่าอีกคนและเอ่ย “ตอนผมเด็กๆ ผมมักจะไปอยู่ที่สวนหลังคฤหาสน์ คุณอยากไปเดินเล่นดูไหม”

“ถ้าคุณอยากจะพาผมไปก็จะไป” คนตัวเล็กเอ่ย

“แต่ผมอยากกอดคุณเอาไว้แบบนี้ไม่อยากไปไหนเลย” ใบหน้าของคนที่โดนสวมกอดอยู่แดงขึ้นระเรื่อด้วยความเขินอาย

“ใบไผ่ เรา...” เสียงเข้มเอ่ยพลางหลุบคิดเล็กน้อยถึงสิ่งที่เขากำลังจะพูด

“เราลองมาคบกันดูไหม”

“คุณคิม....”

“ผมอยากคบกับคุณจริงๆ นะใบไผ่”

อีกฝ่ายเผยเรายิ้มออกมาด้วยความดีใจแต่ในขณะเดียวกันความคิดที่ขัดแย้งกันบังเกิดขึ้นในหัว เขาควรทำอย่างไรดี

“ทำไมถึงคิดนานจัง”

“คุณคิมผมตอบรับไม่ได้...” คนตัวเล็กพูดพลางแกมืออีกฝ่ายออก

“ทะทำไม” คิมไม่เข้าใจมันเลยทั้งๆ ที่เมื่อกี้อีกฝ่ายยิ้มอย่างดีใจซะขนาดนั้น

“เพราะผมมีเหตุผลของผม”

“ผมคิดว่าเรารักกันซะอีก...”

“คุณคิมครับ เรื่องมันซับซ้อนมากกว่านั้น....”

“ทั้งสองคนอยู่นี่นี่เอง” แม่ของคิมเอ่ยแทรกทั้งสองคนที่เหมือนจะมีเรื่องผิดใจกัน

“ฉันอยากคุยกับใบไผ่หน่อย แกไปรอที่สวนจะได้ไหม”

“แม่มีอะไรกับใบไผ่หรอครับ”

“แค่อยากชวนใบไผ่ไปเดินดูคฤหาสน์กับฉัน แกไปเถอะ” เพราะความสับสนทางจิตใจและเขาคิดว่าเวลาควรไปสงบสติอารมณ์เสียจะดีกว่า ไม่ใช่ว่าเขาชอบอีกฝ่ายแล้วจะได้รับความรักนั้นกลับเสมอไป

“มีปัญหาอะไรบอกฉันได้นะ”

“ไม่มีอะไรหรอกครับ” ปากหยักเอ่ยพร้อมรอยยิ้มเจื่อน ใครมองก็รู้ว่ากำลังโกหกอยู่

“ดูก็รู้ว่านายกำลังเจอกับปัญหา”

“ผมไม่เป็นไรจริงๆ ผมอยากเดินเล่นในคฤหาสน์ต่อครับ” แม่ของคิมไม่เซ้าซี้ถามต่อเขารีบพาใบไผ่เดินเที่ยวชมไปเรื่อยๆ และพูดคุยด้วยกันเรื่อยเปื่อยจนกระทั่งคนเป็นแม่คิดว่าควรให้ทั้งสองคนเคลียร์ใจกันได้แล้ว

“ลูกชายฉันกำลังรอเธออยู่ ฉันจะปล่อยเธอตามสบายแต่ถ้าอยากจะเจอเขาก็หันหลังเดินไปหลังประตูใหญ่จะเป็นสวน”

“ขอบคุณครับ ขอบคุณที่ให้การต้อนรับผม” แม่ของคิมยิ้มให้ใบไผ่ก่อนจะเดินออกไป ใบไผ่ถอนหายใจก่อนจะเดินไปตามทางที่คุณแม่บอกเอาไว้ หลังเปิดประตูออกมาเขาก็เห็นคิมหันต์นั่งคิ้วขมวดอยู่ตรงนั้น

“คุยกับแม่เสร็จแล้วหรอ แม่พูดอะไรล่ะ” คนตัวสูงเอ่ยถามทันทีที่เห็นอีกฝ่ายเดินมาหาเขาเสียที

“ก็แค่พูดคุยกันไปเรื่อยน่ะครับ”

“ใบไผ่...ผมไม่อยากให้ความสัมพันธ์ของเราแย่ลงเพราะฉะนั้นลืมเรื่องที่ผมพูดวันนี้เถอะนะ” ใบไผ่ตอบรับพลางพยักหน้าให้

“ผมว่าวันนี้ผมกลับก่อนดีกว่านะครับ”

“ทำไมรีบนักละ ผมทำให้คุณเสียอารมณ์รึเปล่า”

“มะไม่ใช่นะครับ แต่ผมต้องไปทำงาน” คิมหันต์ถอนหายใจก่อนจะลุกขึ้นเดินและเดินนำหน้าใบไผ่ไปยังรถของตัวเอง

คิมหันต์ขับรถไปส่งใบไผ่ที่ร้านและเขาก็สัญญาว่าจะมาหาใบไผ่บ่อยๆ เหมือนเดิมไม่ว่าจะในฐานะอะไรก็ตาม

ใบไผ่เองก็ไม่ใช่ว่าเป็นคนไร้เหตุผลเขามีเหตุผลของตัวเองเสมอในการกระทำครั้งนี้เขาทำก็เพื่อปกป้องคิมหันต์ เขาตั้งใจจะปกป้องคิมหันต์จริงๆ