กริ๊ง~

เสียงกระดิ่งร้านดังขึ้นเผยให้เห็นใบหน้าหล่อคมเข้มดวงตาสีน้ำตาลฉายแววเป็นประกายและเป็นใบหน้าที่แสนจะคุ้นเคยกับเจ้าของร้านอย่างใบไผ่เป็นอย่างดี เขาเดินเข้ามาด้วยสีหน้ายิ้มแย้มแล้วสั่งช่อดอกไม้เช่นเดิมเหมือนที่เขาเคยสั่งเป็นประจำ

"วันนี้คุณคิมดูหล่อจังเลยนะครับ วันสำคัญหรอครับ" ใบไผ่ถามคิมหันต์ขณะกำลังจัดช่อดอกไม้ไปด้วย

"เปล่าหรอกครับ วันนี้เขาโกรธผมอีกแล้ว ผมเลยจะขอแต่งงานเป็นการขอโทษ งั้นรบกวนใส่แหวนแต่งงานลงไปด้วยนะครับ" คิมหันต์พูดพร้อมยื่นกล่องที่ใส่แหวนแต่งงานไว้ให้ใบไผ่

"ได้เลยครับ คุณนายซิงโชคดีจริงๆ" ใบไผ่พูดพลางยิ้มให้กับอีกฝ่าย

"ผมโรแมนติกมากเลยใช่ไหมครับ" ร่างสูงยิ้มพลางหัวเราะเบาๆ อย่างเขินอาย

"ที่สุดเลยครับ ยังไงอย่าลืมส่งการ์ดแต่งงานให้ผมด้วยนะครับ" คิมหันต์พยักหน้าออกมาทำให้ทั้งคู่ต่างหลุดขำออกมา

"คุณไผ่ก็เป็นคนน่ารักมากเลย สงสัยมีคนมาจีบคุณไผ่เยอะมากๆ แน่เลย"

"คุณคิดงั้นหรอแต่ผมน่ะไม่มีหรอกครับ ผมไม่สนด้วยว่าใครจะชอบไม่ชอบผม" เขาพูดราวตัดพ้อ

"แบบนั้นเองสินะ คุณคงเคยเจ็บปวดเพราะความรักมาสินะครับ" ใบไผ่ส่ายหน้าพร้อมจ้องตาคิมหันต์ก่อนจะพูดออกมา

"เปล่าหรอกครับ แค่ใช้ชีวิตโดยไม่มีความทุกข์มันก็พอแล้วล่ะครับ ผมไม่อยากไปเป็นภาระใคร”

“อะ นี่ครับ ช่อดอกไม้ของคุณเสร็จแล้ว"

"อ่า..ครับ" คิมหันต์รับดอกไม้มาพร้อมคิดเงินเรียบร้อยขณะที่เขากำลังจะเดินออกจากร้านก็ฉุกคิดขึ้นมาได้จึงหยุดก่อนจะถอยหลังเอ่ยถามเจ้าของร้านด้วยสีหน้าจริงจัง

"ซิงเขามาที่นี่บ้างไหม"

"มานะครับ สองสามวันก่อน"

"มาซื้อแค่กุหลาบไปหนึ่งดอกครับ" ร่างสูงเผยแววตาสงสัยหลังจากได้ยินคำตอบแต่เขาก็ไม่อยากคิดอะไรให้มากมาย

"แค่ดอกเดียวหรอ" ใบไผ่พยักหน้าเพื่อยืนยันคำตอบจากนั้นคิมหันต์ก็เดินออกจากร้านไปทันทีโดยไม่พูดอะไรต่อ

"ไผ่ไม่มีลูกค้าแล้วมาช่วยยายตัดกุหลาบหน่อย" คุณยายตะโกนมาจากหลังร้านใบไผ่จึงเดินตามเสียงนั้นไปหาคุณยายทันที

"คุณยายตัดดอกกุหลาบยังไงให้ดินขึ้นไปอยู่บนหัวน่ะครับ"

"น่าจะตอนยายลูบหัวเมื่อกี้นะ" คุณยายพูดพร้อมหัวเราะออกมาและเอามือไปลูบผม

"พอเลยยิ่งลูบยิ่งเยอะ" ใบไผ่พูดพร้อมเดินไปปัดดินบนผมให้คุณยาย

"ออกไม่หมดแฮะคุณยายไปอาบน้ำสระผมเลย ที่เหลือผมจัดการต่อเอง"

"ไม่เป็นไรหรอกหลานยายแค่นี้เอง"

"ไปเถอะครับ แดดเริ่มร้อนแล้วด้วยคุณยายพักก่อนดีกว่าครับ" คุณยายยอมในที่สุดก็จัดการทำอย่างที่หลานบอก

ร้านของใบไผ่มีสองชั้นรอบนอกเต็มไปด้วยดอกไม้นานาชนิด ส่วนดอกไม้ที่หายากเขาจะซื้อต่อจากที่อื่นเพื่อเอามาขายต่อ เขาใช้เวลาอยู่กับร้านดอกไม้ตั้งแต่อายุ 18 จนกระทั่งตอนนี้เขาอายุ 28 แล้วเขายังคงมีความกับดอกไม้และสามารถทำได้เรื่อยๆ เขาพัฒนาจากร้านเล็กๆ กลายเป็นร้านที่โด่งดังที่สุดในย่านแห่งนี้

กริ๊งงง

"มีลูกค้าเข้าร้านหรอ" ใบไผ่หยุดงานทุกอย่างก่อนจะเดินออกไปหน้าร้านแต่ทันทีที่เขาจะลุกขึ้นเขากลับหน้ามืดจู่ๆ เขาก็ล้มลงไปในนอนราบบนพื้นดิน

(มีใครอยู่ไหมครับ) เสียงลูกค้าตะโกนในร้านนานสองนานทำให้คุณยายที่ได้ยินรีบลนลานลงมาจากด้านบนเพื่อต้อนรับลูกค้า ยายลงมายังชั้นล่างแต่ไม่เห็นใครคอยต้อนรับเขาจึงรีบไปทักทายลูกค้าก่อนหลังจากเสร็จเรียบร้อยหญิงชราเดินตามหาหลาน

เขาเกิดสงสัยว่าหลานตัวดีของเขาจะหายไปไหนได้เพราะเพิ่งแยกจากกันเพียงไม่กี่นาทีเท่านั้น และที่สุดท้ายที่ทั้งสองได้เจอกันคือข้างบ้านหญิงชราจึงรีบตรงไปที่นั่นทันที

"ไผ่!!!" หญิงชราตะโกนออกมาด้วยความตกใจ สภาพใบไผ่ในตอนนี้กำลังนอนจมบนดินเนื้อตัวของเขาเขลอะขละ หญิงชราที่กำลังตกใจพยายามรวบรวมสติโทรศัพท์ให้คนมาช่วยเหลือในทันที

 

ฝ่ายคิมหันต์หลังจากออกมาจากร้านร่างโปร่งสาวเท้าเดินเพื่อไปหาแฟนหนุ่มที่คอนโดของเขา เพราะว่าร้านดอกไม้ของใบไผ่อยู่ใกล้คอนโดแฟนหนุ่มของเขา และคนที่แสนจะโรแมนติกอย่างคิมหันต์ ได้ไปเจอร้านใบไผ่ราวกับเป็นสวรรค์

แต่ทว่าปลายเท้าสูงโปร่งจอดสนิทอยู่ด้านหน้าคอนโดทันทีที่เห็นแผ่นหลังคนรักของตัวเองกำลังกอดชายหนุ่มอีกคนอย่างสนิทสนม ในขณะนั้นเขาก็แทบไม่อยากเชื่อว่าจะได้ยินเรื่องที่น่าสะอิดสะเอียนจากปากคนรักตัวเอง

เขากล้าพูดแบบนั้นทั้งๆ ที่มีแฟนอยู่แล้วได้ยังไง

"พี่รักซิงนะ"

"อือ ผมรู้" ชายหนุ่มตอบมาโดยไร้ยางอาย

"เมื่อไหร่เราจะเลิกกับไอคิมสักที เราจะได้เป็นของพี่จริงๆ สักที"

"........" ร่างเล็กไม่พูดตอบในขณะเดียวกันคนที่ยืนอยู่ด้านหลังแค่ได้ยินคำพูดเพียงไม่กี่คำนั้น หัวใจก็แตกสลายเป็นเสี่ยงๆ

นี่น่ะหรอ สิ่งที่เขาได้ตอบแทนมาจากการซื่อสัตย์ต่อความรัก

"ซิง.." ร่างสูงเอ่ยเสียงสั่นช่อดอกไม้ที่อยู่ในมือก็ร่วงหล่น ขณะนั้นเขารู้สึกเจ็บใจเหลือเกิน และแล้วเจ้าของชื่อหันมาตามเสียงเรียกดวงตาเล็กเบิกโพลงฉายแววตกใจเป็นอย่างมาก

"คือพี่ฟังผมก่อนนะ ผม..."

"นานแค่ไหนแล้ว" คนตัวสูงเอ่ยเสียงเรียบแต่แฝงไปด้วยความโกรธ

"อะไรหรอครับ?"

"นอกใจพี่มานานแค่ไหนแล้ว" อีกฝ่ายใช้ความเงียบในการหนีปัญหา ทำให้คนที่ถามเริ่มหัวเสียขึ้นมา ทำไมกันล่ะ ทั้งๆ ที่เขาอยากได้ยินเรื่องราวที่อีกฝ่ายแก้ตัวซะขนาดนี้ แต่ทำไมถึงกลับเงียบและยอมรับมันง่ายๆ ขนาดนี้

ทำไมไม่แก้ตัว....

"ตอบมาดิ!!" ฟางเส้นสุดท้ายขาดสะบั้น ในเมื่ออีกฝ่ายไม่มีเรื่องแก้ตัวสิ่งเดียวที่ทำได้ตอนนี้คือบอกลา...

“เราเลิกกัน” คนตัวสูงเอ่ยเสียงเรียบก่อนจะรีบสาวเท้าหันหลังให้คนที่เขาเคยรัก

"พี่ขาดผมไม่ได้หรอก เดี๋ยวพี่ก็ต้องกลับมาง้อผมอยู่ดี" อีกฝ่ายตะโกนไล่หลังคนรักเก่าที่เพิ่งเลิกกันเมื่อครู่ คนตัวสูงได้ฟังก็หยุดชะงักแต่เขาก็คิดอะไรบางอย่างขึ้นมาได้

เขาจะไม่มีวันหันหลังกลับไปอีก

แต่ไม่ว่ายังไงเขาก็ไม่สามารถอยู่ได้หากไร้ซึ่งคนที่เขารัก เขาเลือกที่จะตัดขาดกับครอบครัวหลังจากเกิดปัญหาใหญ่ภายในบ้าน ตอนนี้เขาไม่สามารถรู้ได้เลยจริงๆ ว่าควรทำอย่างไรต่อไป

 

หลังจากเป็นลมไปคนตัวเล็กก็กลับมายังร้านของตัวเองเขากลับมาเพราะกะวนกะวายที่จู่ๆ ก็ต้องปิดร้านไปกะทันหัน ขณะกำลังจะเข้าร้านตัวเองมีเสียงเรียกที่แผ่วเบาเอ่ยเขาหันไปหาเสียงนั้นอย่างทันท่วงที ปรากฏให้เห็นภาพลูกค้าประจำของเขาที่มีสีหน้าต่างไปจากปกติ

"คุณซิง มีอะไรรึเปล่าครับ" ไผ่เอ่ยถามด้วยความเป็นห่วง

"ดอกไม้ของพี่คิม ฝากคุณคืนแทนผมหน่อยได้ไหม"

"เกิดอะไรขึ้นหรอครับ"

"คุณอยู่ที่ของคุณไปเถอะครับ ไม่ต้องมายุ่งเรื่องของผม" อีกฝ่ายทันทีที่พูดจบก็สาวเท้าออกไปจากตรงนั้นทันที

"อย่าไปสนใจเลยไผ่ลูก เข้าร้านกันเถอะ" มือหยาบของหญิงชราแตะบ่าหลานชายเพื่อเตือนสติ

"คุณยายครับ ผมสังหรณ์ใจไม่ดีเลย คุณคิมจะเป็นอะไรรึเปล่า"

"แต่ที่เด็กคนนั้นพูดมาก็ถูกนะ เราไม่ควรเข้าไปยุ่ง"

"นั่นน่ะสิครับ ผมว่าเขาทะเลาะกันหนักกันน่าดูเลย" คนตัวเล็กพูดขณะกำลังไขกุญแจแต่เรื่องคุณคิมก็เข้ามาป่วนในความคิดของเขาไม่ใช่น้อย "คุณยาย ผมว่าผมคงอยู่เฉยๆ ไม่ได้จริงๆ"

"หมายความว่ายังไง"

"ผมอยากไปดูคุณคิมเพื่อให้ผมสบายใจว่าเขาจะไม่เป็นอะไร คุณยายเขาร้านไปก่อนเลยนะครับ"

"แต่ไผ่..."

"อย่าห้ามผมเลยครับ"

"คราวที่แล้วเขาก็ทำร้ายตัวเองจนเกือบตายผมไม่อยากให้เป็นแบบนั้นอีก”

ที่ใบไผ่พูดแบบนั้นเพราะคิมหันต์เคยเข้าโรงพยาบาลเพราะทำร้ายตัวเอง เพียงเพราะความรักที่แย่ทำให้เขาทำร้ายตัวเอง ใบไผ่กลัวว่าจะเกิดเหตุการณ์แบบนั้นอีก สภาพคิมหันต์ตอนนั้นเขาไม่ชอบมันเลย

และใช่ที่เขากระวนกระวายใจมากขนาดนั้นเพราะเขาเองก็แอบมีใจให้อีกฝ่ายอย่างไม่แสดงออก นั่นก็เพราะว่าเขาให้เกียรติอีกฝ่ายที่มีคนรักอยู่แล้ว

แต่ทั้งนี้เขาก็แค่อยากห้ามไม่ให้เกิดเรื่องร้าย ไม่ได้หวังอะไรตอบแทน แค่นั้นก็เพียงพอแล้วล่ะ

"แล้วเราจะไปหาเขาเจอได้ยังไง”

"ผมรู้ที่อยู่คุณคิม ผมเคยไปส่งดอกไม้ให้เขาที่คอนโด ขอตัวนะครับ" ร่างเล็กพูดก่อนจะกึ่งเดินกึ่งวิ่งเพื่อหารถไปยังคอนโดคิมหันต์ เขามุ่งหน้าไปยังเร่งรีบไม่นานก็มาถึงภายในตัวคอนโด

"พี่ครับคุณคิมหันต์ที่อยู่ห้อง 1505 กลับมาหรือยังครับ"

"ขอโทษนะคะ เราเปิดเผยข้อมูลลูกค้าไม่ได้ค่ะ" พนักงานที่ยืนอยู่ตรงเคาน์เตอร์เอ่ยพร้อมกล่าวขอโทษ

"อ๋อ ผมเป็นพนักงานส่งดอกไม้ครับ นี่นามบัตรผม" ไผ่พูดพร้อมยื่นนามบัตรให้พนักงานและชูช่อดอกไม้ที่ตัวเองถือติดมือขึ้นมา

"คุณคิมบอกให้ผมขึ้นไปส่งดอกไม้ให้ถึงมือเขาเท่านั้นครับ"

"อ๋อ สักครู่นะคะ" พนักงานยกโทรศัพท์ขึ้นมาต่อสายหาห้องคิมหันต์แต่คิมหันต์ไม่มีท่าทีจะรับสายเลย

"เดี๋ยวค่อยมาส่งก็ได้ค่ะ คุณคิมคงจะไม่ว่าง"

"งั้น...ขึ้นไปหาข้างบนได้ไหมครับ คุณคิมเร่งผมมาให้รีบนำมาส่ง คุณนำผมไปก็ได้" พนักงานมองหน้าใบไผ่สลับกับครุ่นคิดอย่างหนักจนในที่สุดก็ยืนยันคำตอบ

"ก็ได้ค่ะ ตามฉันมา" พนักงานตัดสินใจเดินนำหน้าใบไผ่ไปยังห้องของคุณคิมพลางฝากเคาน์เตอร์ไว้กับพนักงานอีกคน ขณะเดินมาหยุดหน้าห้องคิมหันต์ พนักงานกดกระดิ่งอยู่ชั่วครู่แต่ไร้วี่แวว

"คุณคิมกลับมาแล้วใช่ไหมครับ"

"กลับมาแล้วค่ะ คุณเป็นคนยืนกรานจะมาส่งให้ถึงมือคุณคิมเองนะคะ แปลว่าคุณคิมก็ต้องอยู่สิ ใช่ไหมคะ?" พนักงานพูดราวกับประชดก่อนจะกดกระดิ่งย้ำอีกครั้ง

"คุณคะ..."

ตึง! เสียงดังสนั่นดังจากในห้องราวกับมีใครไปกระทำมันยังไงอย่างงั้นใบไผ่ตกใจอย่างมากก่อนจะพูดกับพนักงานอย่างลุกลี้ลุกลน

"พี่ครับเกิดเรื่องอะไรไม่ดีหรือเปล่าครับ ผมว่าเราต้องเปิดเข้าไปแล้วนะครับ คุณคิมอาจจะเป็นลมก็ได้นะครับ" พนักงานได้ยินแบบนั้นก็กระวนกระวายขึ้นมาเช่นกัน เขาต่อสายลงไปคุยกับนิติเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นให้ฟังเพื่อขอกุญแจสำรองมาเปิด

ไม่นานพนักงานอีกคนก็รีบเดินมาแตะคีย์การ์ดเพื่อเปิดประตู ทันทีที่ประตูถูกเปิดออกเผยให้เขาเห็นภาพที่เขาไม่อยากเห็นมากที่สุด คุณคิมกำลังดิ้นทุรนทุรายจากการผูกคอตัวเอง คุณคิมกำลัง....

"คุณคิม!!!" ทันทีที่ไผ่ดึงสติเข้ามาได้เขาก็รีบไปกอดขาคิมหันต์ไว้ไม่ให้มันสะบัด

"พวกคุณมาช่วยผมหน่อย" พนักงานรีบวิ่งเข้ามาก่อนจะรีบแกเชือกที่พันธนาการคิมเอาไว้อย่างร้อนรน ไม่นานนักเขาก็เลือกที่จะใช้คัตเตอร์ที่ติดตัวมาตัดมันจนขาดในที่สุด

คุณคิมล้มลงไปนอนกับพื้นโดยที่ไผ่สามารถรับหัวเขาไว้ทันเขาแกะเชือกที่เหลือของคุณคิมออก คุณคิมเหนื่อยล้ามากเขามองหน้าไผ่อย่างสะลึมสะลือก่อนจะสลบไปในที่สุด