คำถามที่ 5

ถ้าเธอได้เป็นคุณครูประถม เธอจะสอนอะไรงั้นเหรอ

-

 

-ฉัน-

เทียบกับเธอแล้ว ฉันน่าจะไม่ใช่ครูที่ดีเท่าไรล่ะมั้ง คิดว่านะ

เพราะว่าฉันไม่ได้เรียนเก่งเท่าไรนี่นา คนที่เรียนไม่เก่งก็คงไม่เหมาะจะเป็นครูนักหรอก ฉันเองก็ไม่ได้ตั้งเป้าจะเป็นครูด้วย เรื่องเรียนไม่เก่งคงไม่เป็นอะไรหรอกเพราะมันแค่เรื่องสมมตินี่นา

แต่ฉันยืนยันนะ ถ้าเป็นเรื่องจริง ฉันจะเป็นครูก็ต่อเมื่อฉันเรื่องเก่งมากพอ

เอาล่ะ เข้าเรื่องคำตอบของเรา

ถ้าได้เป็นคุณครูละก็ ฉันอยากจะสอนวิชาศิลปะแหละ อย่างแรกก็เพราะฉันชอบวาดรูป อย่างที่สองเป็นเพราะฉันคิดว่ามันคงจะดี ถ้าเราได้มีครูที่พร้อมจะชอบทุก ๆ รูปของนักเรียนทุก ๆ คนน่ะ

เพราะฉันคิดว่าอะไรแบบนี้น่ะ มันสำคัญสุด ๆ ไปเลย ตอนที่เราทำการบ้าน ไม่ว่าใครก็อยากจะได้ยินคำว่า ว้าว ทำได้ดีเลยนี่นา กันทั้งนั้นใช่ไหมล่ะ ฉันเองก็เหมือนกัน เพราะคิดแบบนั้นก็เลยคิดว่า ถ้าจะเป็นครูละก็ อยากจะเป็นคนแบบนั้นจังเลยนะ

แต่ว่าการจะเป็นคุณครูสอนศิลปะก็คงจะเหนื่อยน่าดูเลยนะ ดูอย่างคุณครูแก้วสิ ครูแก้วต้องสอนเราตั้งหลายห้องวาดรูป อะไรแบบนั้นต้องเหนื่อยสุด ๆ แน่เลย

เพราะฉะนั้นฉันเลยคิดว่า การที่เราบางคนจะไม่ได้รับคำชมเป็นเรื่องที่ช่วยไม่ได้ เพราะว่าไม่มีใครคอยช่วยครูนี่นา แต่ไม่ใช่ว่ามันไม่น่าเสียดายนะ

จนถึงวันนี้ฉันก็ยังเสียดายอยู่เลยที่เธอไม่ได้รับคำชม ทั้ง ๆ ที่ดอกไม้ที่เธอวาดสวยออกขนาดนั้น

แล้วก็นะ ถ้าจะเป็นครูได้ก็แปลว่าฉันต้องเรียนจบพวกวาดรูปอะไรพวกนี้ใช่ไหมนะ หวา แค่คิดก็น่าตื่นเต้นแล้วล่ะ

นี่ พอเป็นสิ่งที่ชอบเราจะอยากไปเรียนไหมนะ

ตอนนี้ฉันคิดว่า ฉันคงจะอยากแหละ เพราะว่ามันยังไม่ถึงตอนนั้นจริง ๆ นี่นา แต่บางทีพอถึงตอนนั้นก็คงไม่ค่อยจะอยากแล้วหรือเปล่านะ เหมือนกันกับตอนนั้นไง ตอนที่พอปิดเทอมแล้ว เราก็จะอยากให้เปิดเทอมไว ๆ แต่พอวันเปิดเทอมมาถึงจริง ๆ ก็รู้สึกขี้เกียจจนแทบจะทนไม่ไหว

อืม พอเรารู้สึกแบบนี้ บางคนก็อาจจะคิดว่าตัวเองไม่ได้ชอบมันมากขนาดนั้นก็ได้ล่ะมั้ง ไม่รู้สิ แต่ฉันไม่คิดว่าความรู้สึกชอบของฉันตอนนี้มันน้อยเกินไปหรือว่าไม่พอ หรืออะไรหรอกนะ

เพราะต่อให้เป็นของที่ชอบก็ไม่ได้หมายความว่าจะชอบตลอดนี่นา ถ้าถึงวันไหนรู้สึกเหนื่อย เราก็คงต้องพักบ้าง แบบนั้นแหละ

หรือว่านะ ถ้าเกิดโตขึ้นไปแล้วไม่ได้ชอบแล้ว จนถึงตอนนั้น ฉันก็จะไม่คิดว่าที่ตัวเองเคยชอบตอนนี้ไม่มีจริงหรอก แต่ก็แค่เราโตจนไปชอบอย่างอื่นแล้วก็เท่านั้นเอง

เอ๋ พอลองอ่านประโยคเมื่อกี้ก็เริ่มจะงงแล้วล่ะ ฮ่า ๆ ฉันหลงมาจากคำถามไกลมากเลย แบบว่า ถ้าชะโงกหัวมองจากตรงนี้คงไม่เห็นจุดเริ่มต้นเลยล่ะ

แต่ว่าไม่เป็นไรหรอกเนอะ เพราะกว่าจะไปถึงฉันในอนาคต การได้เดินทางบ้างก็คงไม่แย่หรอก

(อุหวา เท่สุด ๆ คำพูดแบบนี้น่ะเท่สุด ๆ)

แต่ว่านะ พอได้ลองเขียนก็คิดถึงมาเหมือนกันว่า อ๋า ตัวฉันที่ยังเป็นเด็กไม่รู้เรื่องรู้ราวแบบนี้ก็คิดภาพตัวเองตอนเป็นครูไว้แบบนั้น แล้วคุณครูตอนเด็ก ๆ จะเคยคิดภาพตัวเองเป็นคุณครูแบบที่เขากำลังทำไหมนะ

ถ้าเคยละก็ ถ้ามันเหมือนกันได้ก็คงจะดีนะ แต่ถึงไม่เหมือน ถ้าตอนนี้มันดีสำหรับคุณครูแล้วก็คงจะดี

อืออ นึกถึงในการ์ตูนล่ะ ที่แบบว่าหลังเลิกงานแล้วทุกคนก็พูดว่า ขอบคุณที่เหนื่อยค่าาา! อะไรแบบนั้น แต่เวลาที่ขอบคุณครูหลังเลิกเรียน ฉันไม่รู้สึกถึงความรู้สึกทำนองนั้นสักเท่าไร มันจะดีกว่าหรือเปล่านะ ถ้าเราได้พูดขอบคุณเพราะขอบคุณจริง ๆ แบบเต็มเสียง ไม่ใช่เพราะบอกว่าเลิกเรียนแล้วน่ะ

อะไรแบบนี้ก็เขียนลงในนี้มาแบบไม่มีปี่มีขลุ่ย อีกแล้วสิ ฮ่า ๆ

แต่นั่นแหละ โรงเรียน ๆ เรื่องเกี่ยวกับครู แล้วก็โรงเรียนน่ะนะ!

ฉันจะรออ่านคำตอบของเธออย่างตั้งใจเลยนะ

 

-เธอ-

คำถามรอบนี้ของเธอดูจริงจังกว่าปกติหรือเปล่านะ แต่ไม่หรอก เธอเองก็เป็นเด็กที่ล้นไปด้วยจินตนาการและคำถามคนเดิมนั่นแหละ เพราะฉะนั้น ฉันจะไม่พยายามหาคำอธิบายให้กับอะไรอีกแล้วล่ะ

ถ้าได้เป็นครู ฉันจะสอนวิชาอะไรงั้นเหรอ คำถามแบบนี้ ใจความสำคัญมันอาจจะไม่ได้อยู่ที่วิชาที่สอนก็ได้ แต่เป็นคำถามว่า เราเห็นภาพตัวเองเป็นครูแบบไหนมากกว่า เธอจะนึกถึงขนาดนี้หรือเปล่า ฉันเองก็ไม่รู้เหมือนกัน

แต่ยังไง ฉันก็ต้องตอบคำถามก่อนล่ะนะ สอนวิชาอะไรงั้นเหรอ เดาว่าคงจะเป็นวิชาภาษาไทยล่ะมั้ง ความจริงฉันไม่ได้ชื่นชอบอะไรในภาษาไทยเป็นพิเศษหรอก มันก็แค่ในบรรดาทุก ๆ วิชาที่นึกออก วิชาที่ทำได้ดีที่สุดก็น่าจะเป็นวิชานี้ล่ะนะ จะเป็นวิชาอื่นไปได้ยังไง

ถึงเวลาพูดถึงคะแนนแล้วละก็ มันจะไม่ได้ห่างกันเยอะ แต่การเตรียมตัวก่อนสอบวิชาภาษาไทยไม่ได้เข้มข้นเท่ากับคณิตหรือวิทยาศาสตร์เลย เพราะฉะนั้นเลยคิดว่า ถ้าจะต้องสอนละก็นะ ยังไงก็ต้องภาษาไทย

คำถามต่อมา แล้วฉันจะเป็นคุณครูแบบไหนกันล่ะ ฉันเองก็ตอบไม่ได้

ภาพของตัวเองที่เป็นครูน่ะ ไม่เคยมีในสมองเลยล่ะ การที่จะต้องเป็นคนที่คอยดูแลและใส่ใจนักเรียนทุกคนอยู่ตลอด หาความรู้ใหม่ ๆ มาให้ตัวเองอยู่เรื่อย ๆ จะได้ไม่แพ้ใคร อะไรทำนองนั้น ดูจะเหนื่อยเกินไปหน่อยสำหรับฉันน่ะนะ

อาชีพแบบนี้น่ะ ต้องเป็นคนที่เก่งแล้วก็ได้เงินเดือนสูง ๆ เท่านั้นแหละ ไอ้คำพูดทำนองว่าเสียสละหรืออะไรแบบนั้น ฉันไม่ชอบมันเท่าไรเลย

เพราะว่าเด็กอย่างพวกเราจะชอบหรือว่าเกลียดวิชาไหน ก็มาจากเรียนเข้าใจไหม เรียนสนุกไหม ใช่ไหมล่ะ

พอเป็นแบบนั้นก็กลายเป็นว่า คุณครูก็คือคนที่คอยกำหนดอนาคตของเราเลยนะว่าจะชอบหรือเกลียดอะไร แล้วสุดท้ายเราจะอยากเป็นอะไรบ้าง

เพราะฉะนั้นมันไม่ใช่อาชีพที่เหมาะจะให้เงินเดือนน้อย ๆ จนทำให้คุณครูเหนื่อยกว่าค่าแรงหรอก ฉันคิดแบบนั้นนะ

เอาเข้าจริง ๆ ฉันก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเงินเดือนของคุณครูที่สอนพวกเราเยอะหรือเปล่า แต่ถ้าคุณครูจะไม่ต้องเหนื่อยมากเกินไปแล้วทำงานได้เต็มที่ก็คงจะดีนะ

อ่า ถ้าแบบนั้นอาจจะตอบว่า ฉันอยากจะเป็นครูที่ทำงานได้อย่างเต็มที่โดยที่ไม่เหนื่อยล่ะมั้ง

แบบว่า ถ้าเกิดเหนื่อยมาก ๆ นอนไม่ค่อยพอแล้วต้องมาสอนละก็ บางทีอาจจะเผลอโมโหใส่นักเรียนไปก็ได้ พอเป็นแบบนั้นคงรู้สึกผิดแย่เลย ฉันไม่อยากจะเป็นครูแบบนั้น เพราะถึงมันจะเข้าใจได้ แต่ก็ไม่ได้ทำให้สิ่งที่ทำพลาดไปแล้วกลายเป็นสิ่งที่ถูกนี่นา อะไรทำนองนั้นแหละ

การเป็นครูคงยากน่าดูเลยน้า

ไม่ไหวอะ ยังไงก็ไม่ไหว

แต่ไม่แน่นะ ถ้าเป็นเธออาจจะดีก็ได้ ไม่สิ ถ้าเป็นเธอคงจะดีนะเลยล่ะ

 

-

อะไรกัน ตาฉันคิดคำถามอีกแล้วเหรอ

เอาเข้าจริง ๆ อะไรทำนองนี้ มันก็ยากเอาเรื่องเหมือนกันนะ แต่คิดว่าเอาเป็นอันนี้ก็แล้วกัน

นี่ ถ้าสามารถรู้อนาคตได้หนึ่งอย่าง เธออยากจะรู้อะไรงั้นเหรอ ไม่ได้จำกัดแค่เรื่องของตัวเองด้วยนะ

ง่ายดีใช่ไหมล่ะ เพราะว่าฉันเหนื่อยแล้วนี่นา แต่ยังไงก็จะรออ่านนะ

 

#ถ้าวันนึงเธอหยิบมันมาอ่านอีกทีคงดีนะ