7 ตอน ตอนที่ 7
โดย ชูเบล
วันนี้ใบไผ่ตัดสินใจปิดร้านหนึ่งวันเพื่อพักผ่อนบ้างระหว่างทางเขาแอบเห็นคุณคิมหันต์เข้ามาที่แห่งนี้เหมือนกันแต่ดูเหมือนจะมาทำธุรกิจมากกว่า คุณคิมเดินเลือกสินค้าในร้านพลางติชมต่างๆ นานาเขาเองก็ได้ยินไม่ชัดเพราะไม่กล้าเข้าไปใกล้เท่าไหร่
“ยากจังแฮะ” ใบไผ่พูดราวกับตัดพ้อ
“ใบไผ่!!” หลังจากเดินออกมาไม่ไกลเสียงตะโกนที่แสนจะคุ้นเคยเรียกชื่อเขาดังขึ้นเขาจึงหันหลังกลับไปมอง
“มาคนเดียวหรอ ไม่เห็นผมหรอผมอยู่ด้านใน”
“เห็นครับ”
“ไม่คิดจะทักกันหน่อยหรือไง” คิมพูดขึ้นใบไผ่ไม่ตอบอะไรเพียงยิ้มออกมา “ร้านนั้นอะ แบรนด์ผมเอง เข้าไปดูกับผมไหม”
“ไม่เป็นไรดีกว่าคุณ ผมจะกลับแล้ว”
“งั้นรอผมแป๊บหนึ่งได้ไหม ผมจะไปส่งคุณ”
“ถ้าคุณยุ่งอยู่ก็ไปทำงานเถอะครับ ผมเอารถมา”
“อ้าว แบบนี้ผมค่อยไปหาคุณที่ร้านดีกว่า”
“ไปก่อนนะครับ” ใบไผ่รีบเดินตรงไปยังลานจอดรถที่ตัวเองจอดรถเอาไว้ คนตัวเล็กจัดแจงยัดของเข้าไปในตัวรถอย่างลวกก่อนจะนั่งกุมก้อนเนื้อตัวเองที่กำลังเต้นอยู่ ช่วงนี้เขาเป็นบ่อยมากจริงๆ หลังจากได้เจอกับคุณคิม
“เริ่มอันตรายแล้วสิใบไผ่”
ก๊อกๆ เสียงเคาะกระจกดังขึ้นคนตัวเล็กรีบลดกระจกทันทีที่เห็นคิมหันต์เดินตามเขามาตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้
“มีอะไรหรอครับ”
“ไปกินข้าวกัน” คุณคิมสร้างความสงสัยให้อีกคนอย่างมาก เขาทำงานอยู่ไม่ใช่หรอ
“?”
ใบไผ่ยอมไปหาร้านทานอาหารกับคุณคิม ระหว่างทางคุณคิมพยายามชวนเขาคุยหลายอย่างจนคนตัวเล็กเริ่มสนุกและหายเกร็ง
“วันนี้ผมเลี้ยงเอง” คิมพูดพร้อมเดินเข้าไปในร้านที่ใบไผ่อยากลองทาน
“คุณคิมคุณมีร้านเพชรกี่สาขาหรอครับ” ใบไผ่ถาม
“ไม่เยอะหรอก ประมาณ 8 สาขา”
“แบบนี้ต้องหัวหมุนแน่เลย”
“มากๆ เลยล่ะ ปัญหาบางอย่างก็ทำให้ผมนอนไม่หลับเครียดสะสมอีก เพราะฉะนั้นก็เลยต้องแก้ปัญหาให้เร็วที่สุด”
“เจ๋งจริงๆ” ใบไผ่มองหน้าคิมที่กำลังเปิดดูเมนูอาหารแต่เหมือนเขารู้ตัวเลยเงยหน้าขึ้นมาสบตากับใบไผ่
“คุณดูเกร็งๆ นะ”
“ผมเอาอะไรก็ได้นะ กินได้หมด คุณสั่งมาเลย” ใบไผ่พูดขึ้นคิมพยักหน้าเป็นการตอบรับพลางอมยิ้มออกมาเพราะท่าทางของใบไผ่ตอนนี้เหมือนคนกำลังเสียอาการไม่มีผิด
“เดี๋ยวกินเสร็จไปเดินเล่นกันไหม”
“ผมว่าผมคงไม่ไหว..”
“?”
“ผมหมายถึงต้องกลับไปทำงานที่ร้านน่ะครับ”
ใครจะไหวกันล่ะคนตรงหน้าทำเขาหัวใจแทบจะหลุดออกมาเต้นข้างนอกแทน
“งั้นหรอครับ” คิมหันต์พูดจบก็สั่งอาหารมาทันทีพวกเขานั่งกินด้วยกันพูดคุยอะไรด้วยกันไปเรื่อยเปื่อย จนกระทั่งคิมหันต์ได้รับสายจากคุณย่าเขาจึงขอโทษใบไผ่ที่อยู่ต่อไม่ได้และรีบออกมาทันที เมื่อมาถึงเขาก็เห็นคุณย่ามีสีหน้ากลุ้มอย่างเห็นได้ชัดเขาจึงรีบเดินเข้าถามคุณย่าทันที
“ย่าครับ มีอะไรรึเปล่าครับ คุณพ่อเขา..”
“มีคนมาหาพ่อเรา”
“ใครหรอครับ....” คุณย่ามองเข้าไปในบ้านด้วยความสงสัยคิมหันต์จึงค่อยๆ เดินเข้าไปหาพ่อของตัวเอง
“คิมยืนดูอยู่ห่างๆ ดีกว่านะ” ย่าพูดพร้อมดึงตัวคิมเอาไว้คิมได้แต่พยักหน้า เขามองเข้าไปในห้องนอนของพ่อเผยให้เห็นแม่ของตัวเองกำลังนั่งคุยกับพ่อไม่วายสายตาเหมือนคนจะร้องไห้ตลอดเวลา
“แม่รู้ได้ยังไง” คิมพึมพำกับตัวเอง
“คุณเป็นแบบนี้มานานแค่ไหนแล้ว” แม่คิมพูดขึ้นพ่อของคิมมองหน้าแม่ด้วยความเศร้าน้ำตาของเขาพลางค่อยๆ ไหลออกมา
“ฉันไม่ควรทิ้งพี่ไปแบบนั้น แต่พี่ก็รู้ว่าแม่ฉันเป็นคนยังไง เขาไม่ยอมรับพี่ ฉันทำอะไรไม่ได้” พ่อของคิมพยายามที่จะยิ้มออกมา
ในอดีตทั้งคู่เคยเป็นคู่ที่รักกันมากจนกระทั่งมีคิมหันต์ คุณยายของคิมไม่ชอบพ่อของคิมเขาเลยกีดกันทั้งสอง แม่ของคิมเชื่อฟังยายมากเขายอมตัดพ่อออกจากชีวิตเพราะยายขู่ว่าถ้าไม่ตัดยายจะตัดออกจากกองมรดก เขาไม่ได้สนใจมรดกพวกนั้นหรอกแต่เขาอยากให้คิมหันต์ได้มีชีวิตที่สุขสบาย
จนกระทั่งคิมหันต์ตามหาพ่อจนเจอแต่ไม่มีคนในครอบครัวเคยรู้เลยเขาซ่อนมันมาตลอด และเขาก็ไม่คิดว่าแม่ยังคงติดต่อกับพ่อด้วย
“หิวไหม” แม่ของคิมพูดพร้อมบีบมือพ่อ พ่อของคิมพยายามพยักหน้าเบาๆ
คิมยืนมองการกระทำของแม่ แม่ที่เปลี่ยนไปเป็นคนละคนเขาไม่เคยเห็นแม่อ่อนโยนขนาดนี้มาก่อนเลยยิ่งมองเขาก็ยิ่งปวดใจ ไม่เคยเลยสักครั้งที่เขาจะได้อยู่ด้วยกันแบบพ่อแม่ลูก
เขาตัดสินใจเดินออกมาจากตรงนั้นเพื่อให้พ่อกับแม่ได้ใช้เวลาร่วมกัน
“คุณย่าครับ แม่มาบ่อยไหมครับ”
“ไม่บ่อยหรอก พ่อเราคงคิดถึง”
“แล้วทำไมคุณย่าดูไม่ดีใจเลยล่ะครับ” ย่ามองคิมหันต์พลางถอนหายใจ
“เพราะย่ากับแม่เราไม่ค่อยลงรอยกันสักเท่าไหร่ ย่าไม่อยากให้แม่มาเจอพ่อเรา แต่ทำยังไงได้พ่อเราคิดถึงเขานิ”
“คงทะเลาะกันหนักเลยสินะครับ”
“อือ แล้วนี่กินอะไรมาหรือยัง”
“เรียบร้อยแล้วครับ”
“คิม..” แม่ของคิมพูดขึ้นทันทีที่เห็นคิมเขามีสีหน้าตกใจนิดหน่อย
“เสร็จแล้วหรอครับแม่”
“เห็นแล้วหรอ” แม่ของคิมหลุบตาต่ำพลางพูดออกมา
“มีอะไรจะถามผมไหมครับ” คุณแม่เงียบไม่ตอบอะไรคิมจึงถามขึ้นมา “ไม่ถามผมหน่อยหรอว่าเจอพ่อได้ยังไง”
“ฉันไม่รู้หรอกว่าแกเจอพ่อได้ยังไง แต่ฉันเจอพ่อแกได้เพราะแก”
“หมายความว่าแม่รู้มาตลอดหรอว่าผมเจอพ่อแล้ว”
“ฉันรู้..”
“ขอตัวก่อนแล้วกัน เข้าไปหาพ่อแกเถอะ”
“อยู่ต่อเถอะครับถ้าแม่อยากอยู่” คิมพูดทำให้แม่ชะงักก่อนจะมีเสียงดังมาจากในบ้านทุกคนจึงหันไปดู
“พ่อ!!!”
“พี่ไผ่แจกันในครัวดอกไม้เหี่ยวหมดแล้วนะ” เตทักขึ้นหลังจากสังเกตเห็นดอกไม้ในแจกัน เจ้าของร้านอย่างใบไผ่ต้องยุ่งแค่ไหนถึงไม่มีเวลาเปลี่ยนดอกไม้ในแจกัน
“พี่ไม่มีเวลาเปลี่ยน ค่อยเปลี่ยนแล้วกัน”
“พี่เหงาใช่ไหมอยู่คนเดียว ผมมาอยู่เป็นเพื่อนได้นะ”
“บ้านตัวเองมีก็อยู่บ้านตัวเองไปเถอะ”
“พี่อะ ขัดผมตลอด” เตพูดพลางถอนหายใจ
“ไม่ต้องมาบ่อยๆ ก็ได้นะพี่ทำคนเดียวไหว”
“หมุนเงินมาจ้างผมไม่ทันอะดิ”
“....”
“ทำไมต้องทำหน้าเครียดขนาดนั้น ผมพูดเล่น”
“ก็เราเป็นนักเรียน ตั้งใจเรียนหนังสือเหอะพี่ไม่อยากใช้แรงงานเด็ก”
“พี่ก็เป็นแบบนี้ตลอด บางทีผมก็เต็มใจไง”
“ก็พี่เกรงใจนิ นี่ก็ดึกแล้วรีบกลับเถอะพี่จะปิดร้านแล้ว” ใบไผ่พูดพลางมองออกไปนอกร้าน
“ก็ได้ งั้นผมไปก่อนนะ” เตพูดจบก็เดินออกจากร้านไปทันที
คนตัวเล็กรีบปิดร้านเพราะเลยเวลาที่เขาจะปิดร้านมานานแล้วแต่เมื่อเขากำลังจะปิดประตูก็เห็นคุณคิมยืนอยู่หน้าประตูพร้อมถือขวดเหล้าหน้าตาของเขาดูเศร้าผิดปกติใบไผ่จึงรีบเปิดประตูเพื่อเดินไปหาคุณคิม
“คุณคิม...เกิดอะไรขึ้น” ใบไผ่ถามขึ้นด้วยความเป็นห่วง
หมับ!!! คิมไม่พูดอะไรแต่กอดใบไผ่ไว้แน่น คนตัวเล็กไม่ถามอะไรถ้าเกิดคุณคิมอยากบอกเขาคงพูดออกมาเอง
“นายกินเหล้าไหม” คิมถามใบไผ่จึงพยักหน้า
“มากินเหล้าเป็นเพื่อนผมหน่อย”
“ได้สิ” คิมผละกอดออกจากใบไผ่พลางถือเหล้าที่อยู่ในมือเดินเข้าร้านไป
“ผมกินเยอะไม่ได้นะ”
“ผมซื้อมาไม่เยอะหรอกกินเท่าที่มีนี่แหละ”
“ถ้าคุณอยากเล่าผมพร้อมรับฟังนะ แต่ถ้าไม่อยากเล่าผมก็เข้าใจคุณ”
“คุณก้าวผ่านการสูญเสียยายมาได้ยังไง” สิ้นนคำพูดไผ่คิมโผลถามในทันที
“ก็ต้องทำใจให้ชิน ทุกวันนี้เวลาผมทำอาหารเสร็จผมยังเผลอเรียกคุณยายมากินข้าวด้วยเลย”
“.......”
“คุณถามแบบนี้มีอะไรรึเปล่า”
“ใบไผ่...พ่อผมเป็นอัมพาตทั้งตัวมาหลายปีตลอดเวลาที่ผ่านมาผมมีความสุขที่ได้ดูแลเขา วันนี้แม่ไปเยี่ยมพ่อ พ่อผมมีความสุขมากนะแต่...”
“แต่อะไรหรอครับ”
“พ่อผมเสียแล้ววันนี้น่ะ”
“คุณ...”
“อย่างน้อยเขาทั้งสองก็ได้เจอกัน อย่างน้อยพ่อก็ได้รู้ว่าแม่เองก็รักเขามาก”
“พ่อกับแม่คุณแยกกันอยู่สินะ” คิมพยักหน้า
“คืนนี้ผมจะอยู่เป็นเพื่อนคุณเอง” ใบไผ่พูดคิมแสร้งยิ้มขึ้นมาพลางยกแก้วเหล้าขึ้นมาดื่ม
“แต่ว่านะ” ใบไผ่เกริ่นขึ้นมา
“ถ้าคุณไม่ไหวก็ร้องไห้ออกมาได้นะ”
“ไม่หรอก คุณรู้ไหมว่าผมน่ะมีความสุขทุกครั้งที่อยู่กับคุณเพราะแบบนี้ไงผมถึงรีบมาหาคุณ”
“คุณก็พูดเกินไป” ใบไผ่พูด คิมหันต์ไปจ้องตาใบไผ่แต่ใบไผ่ดันกลอกตาไปมาเขาไม่กล้าที่จะจ้องตาคิมกลับด้วยซ้ำ
“พรุ่งนี้เปิดร้านไหม”
“เปิดครับ”
“ดีแล้วปิดร้านบ่อยๆ น่ะไม่ดี” คิมเอ่ย เขาลุกขึ้นพลางถือวิสาสะเดินไปดูรูปถ่ายทิวทัศน์ที่แปะไว้ตามผนัง
“อันนี้คุณถ่ายเองหรอครับหรือซื้อมา”
“ถ่ายเองครับ งานอดิเรกผมน่ะ”
“สวยดีนะครับ”
“ขอบคุณครับ”
ไม่รู้ว่าเวลาล่วงเลยไปนานแค่ไหนแต่ทั้งคู่ยังคงอยู่ด้วยกันอยู่แบบนั้นจนคุณคิมกลับบ้านไม่ไหวใบไผ่จึงให้คุณคิมนอนที่นี่ เพราะเป็นห่วงความปลอดภัย ใบไผ่ยังคงมีสติเขาจัดแจงเปลี่ยนเสื้อผ้าให้คิมเสร็จก็พาตัวล้มลงนอนด้วยความเหนื่อย และหันไปมองคนข้างๆ ที่นอนไร้สติอยู่จนในที่สุดก็ผล็อยหลับไป