วันนี้ใบไผ่ตัดสินใจปิดร้านหนึ่งวันเพื่อพักผ่อนบ้างระหว่างทางเขาแอบเห็นคุณคิมหันต์เข้ามาที่แห่งนี้เหมือนกันแต่ดูเหมือนจะมาทำธุรกิจมากกว่า คุณคิมเดินเลือกสินค้าในร้านพลางติชมต่างๆ นานาเขาเองก็ได้ยินไม่ชัดเพราะไม่กล้าเข้าไปใกล้เท่าไหร่

“ยากจังแฮะ” ใบไผ่พูดราวกับตัดพ้อ

“ใบไผ่!!” หลังจากเดินออกมาไม่ไกลเสียงตะโกนที่แสนจะคุ้นเคยเรียกชื่อเขาดังขึ้นเขาจึงหันหลังกลับไปมอง

“มาคนเดียวหรอ ไม่เห็นผมหรอผมอยู่ด้านใน”

“เห็นครับ”

“ไม่คิดจะทักกันหน่อยหรือไง” คิมพูดขึ้นใบไผ่ไม่ตอบอะไรเพียงยิ้มออกมา “ร้านนั้นอะ แบรนด์ผมเอง เข้าไปดูกับผมไหม”

“ไม่เป็นไรดีกว่าคุณ ผมจะกลับแล้ว”

“งั้นรอผมแป๊บหนึ่งได้ไหม ผมจะไปส่งคุณ”

“ถ้าคุณยุ่งอยู่ก็ไปทำงานเถอะครับ ผมเอารถมา”

“อ้าว แบบนี้ผมค่อยไปหาคุณที่ร้านดีกว่า”

“ไปก่อนนะครับ” ใบไผ่รีบเดินตรงไปยังลานจอดรถที่ตัวเองจอดรถเอาไว้ คนตัวเล็กจัดแจงยัดของเข้าไปในตัวรถอย่างลวกก่อนจะนั่งกุมก้อนเนื้อตัวเองที่กำลังเต้นอยู่ ช่วงนี้เขาเป็นบ่อยมากจริงๆ หลังจากได้เจอกับคุณคิม

“เริ่มอันตรายแล้วสิใบไผ่”

ก๊อกๆ เสียงเคาะกระจกดังขึ้นคนตัวเล็กรีบลดกระจกทันทีที่เห็นคิมหันต์เดินตามเขามาตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้

“มีอะไรหรอครับ”

“ไปกินข้าวกัน” คุณคิมสร้างความสงสัยให้อีกคนอย่างมาก เขาทำงานอยู่ไม่ใช่หรอ

“?”

 

ใบไผ่ยอมไปหาร้านทานอาหารกับคุณคิม ระหว่างทางคุณคิมพยายามชวนเขาคุยหลายอย่างจนคนตัวเล็กเริ่มสนุกและหายเกร็ง

“วันนี้ผมเลี้ยงเอง” คิมพูดพร้อมเดินเข้าไปในร้านที่ใบไผ่อยากลองทาน

“คุณคิมคุณมีร้านเพชรกี่สาขาหรอครับ” ใบไผ่ถาม

“ไม่เยอะหรอก ประมาณ 8 สาขา”

“แบบนี้ต้องหัวหมุนแน่เลย”

“มากๆ เลยล่ะ ปัญหาบางอย่างก็ทำให้ผมนอนไม่หลับเครียดสะสมอีก เพราะฉะนั้นก็เลยต้องแก้ปัญหาให้เร็วที่สุด”

“เจ๋งจริงๆ” ใบไผ่มองหน้าคิมที่กำลังเปิดดูเมนูอาหารแต่เหมือนเขารู้ตัวเลยเงยหน้าขึ้นมาสบตากับใบไผ่

“คุณดูเกร็งๆ นะ”

“ผมเอาอะไรก็ได้นะ กินได้หมด คุณสั่งมาเลย” ใบไผ่พูดขึ้นคิมพยักหน้าเป็นการตอบรับพลางอมยิ้มออกมาเพราะท่าทางของใบไผ่ตอนนี้เหมือนคนกำลังเสียอาการไม่มีผิด

“เดี๋ยวกินเสร็จไปเดินเล่นกันไหม”

“ผมว่าผมคงไม่ไหว..”

“?”

“ผมหมายถึงต้องกลับไปทำงานที่ร้านน่ะครับ”

ใครจะไหวกันล่ะคนตรงหน้าทำเขาหัวใจแทบจะหลุดออกมาเต้นข้างนอกแทน

“งั้นหรอครับ” คิมหันต์พูดจบก็สั่งอาหารมาทันทีพวกเขานั่งกินด้วยกันพูดคุยอะไรด้วยกันไปเรื่อยเปื่อย จนกระทั่งคิมหันต์ได้รับสายจากคุณย่าเขาจึงขอโทษใบไผ่ที่อยู่ต่อไม่ได้และรีบออกมาทันที เมื่อมาถึงเขาก็เห็นคุณย่ามีสีหน้ากลุ้มอย่างเห็นได้ชัดเขาจึงรีบเดินเข้าถามคุณย่าทันที

“ย่าครับ มีอะไรรึเปล่าครับ คุณพ่อเขา..”

“มีคนมาหาพ่อเรา”

“ใครหรอครับ....” คุณย่ามองเข้าไปในบ้านด้วยความสงสัยคิมหันต์จึงค่อยๆ เดินเข้าไปหาพ่อของตัวเอง

“คิมยืนดูอยู่ห่างๆ ดีกว่านะ” ย่าพูดพร้อมดึงตัวคิมเอาไว้คิมได้แต่พยักหน้า เขามองเข้าไปในห้องนอนของพ่อเผยให้เห็นแม่ของตัวเองกำลังนั่งคุยกับพ่อไม่วายสายตาเหมือนคนจะร้องไห้ตลอดเวลา

“แม่รู้ได้ยังไง” คิมพึมพำกับตัวเอง

 

“คุณเป็นแบบนี้มานานแค่ไหนแล้ว” แม่คิมพูดขึ้นพ่อของคิมมองหน้าแม่ด้วยความเศร้าน้ำตาของเขาพลางค่อยๆ ไหลออกมา

“ฉันไม่ควรทิ้งพี่ไปแบบนั้น แต่พี่ก็รู้ว่าแม่ฉันเป็นคนยังไง เขาไม่ยอมรับพี่ ฉันทำอะไรไม่ได้” พ่อของคิมพยายามที่จะยิ้มออกมา

ในอดีตทั้งคู่เคยเป็นคู่ที่รักกันมากจนกระทั่งมีคิมหันต์ คุณยายของคิมไม่ชอบพ่อของคิมเขาเลยกีดกันทั้งสอง แม่ของคิมเชื่อฟังยายมากเขายอมตัดพ่อออกจากชีวิตเพราะยายขู่ว่าถ้าไม่ตัดยายจะตัดออกจากกองมรดก เขาไม่ได้สนใจมรดกพวกนั้นหรอกแต่เขาอยากให้คิมหันต์ได้มีชีวิตที่สุขสบาย

จนกระทั่งคิมหันต์ตามหาพ่อจนเจอแต่ไม่มีคนในครอบครัวเคยรู้เลยเขาซ่อนมันมาตลอด และเขาก็ไม่คิดว่าแม่ยังคงติดต่อกับพ่อด้วย

“หิวไหม” แม่ของคิมพูดพร้อมบีบมือพ่อ พ่อของคิมพยายามพยักหน้าเบาๆ

คิมยืนมองการกระทำของแม่ แม่ที่เปลี่ยนไปเป็นคนละคนเขาไม่เคยเห็นแม่อ่อนโยนขนาดนี้มาก่อนเลยยิ่งมองเขาก็ยิ่งปวดใจ ไม่เคยเลยสักครั้งที่เขาจะได้อยู่ด้วยกันแบบพ่อแม่ลูก

เขาตัดสินใจเดินออกมาจากตรงนั้นเพื่อให้พ่อกับแม่ได้ใช้เวลาร่วมกัน

“คุณย่าครับ แม่มาบ่อยไหมครับ”

“ไม่บ่อยหรอก พ่อเราคงคิดถึง”

“แล้วทำไมคุณย่าดูไม่ดีใจเลยล่ะครับ” ย่ามองคิมหันต์พลางถอนหายใจ

“เพราะย่ากับแม่เราไม่ค่อยลงรอยกันสักเท่าไหร่ ย่าไม่อยากให้แม่มาเจอพ่อเรา แต่ทำยังไงได้พ่อเราคิดถึงเขานิ”

“คงทะเลาะกันหนักเลยสินะครับ”

“อือ แล้วนี่กินอะไรมาหรือยัง”

“เรียบร้อยแล้วครับ”

“คิม..” แม่ของคิมพูดขึ้นทันทีที่เห็นคิมเขามีสีหน้าตกใจนิดหน่อย

“เสร็จแล้วหรอครับแม่”

“เห็นแล้วหรอ” แม่ของคิมหลุบตาต่ำพลางพูดออกมา

“มีอะไรจะถามผมไหมครับ” คุณแม่เงียบไม่ตอบอะไรคิมจึงถามขึ้นมา “ไม่ถามผมหน่อยหรอว่าเจอพ่อได้ยังไง”

“ฉันไม่รู้หรอกว่าแกเจอพ่อได้ยังไง แต่ฉันเจอพ่อแกได้เพราะแก”

“หมายความว่าแม่รู้มาตลอดหรอว่าผมเจอพ่อแล้ว”

“ฉันรู้..”

“ขอตัวก่อนแล้วกัน เข้าไปหาพ่อแกเถอะ”

“อยู่ต่อเถอะครับถ้าแม่อยากอยู่” คิมพูดทำให้แม่ชะงักก่อนจะมีเสียงดังมาจากในบ้านทุกคนจึงหันไปดู

“พ่อ!!!”

 

 

“พี่ไผ่แจกันในครัวดอกไม้เหี่ยวหมดแล้วนะ” เตทักขึ้นหลังจากสังเกตเห็นดอกไม้ในแจกัน เจ้าของร้านอย่างใบไผ่ต้องยุ่งแค่ไหนถึงไม่มีเวลาเปลี่ยนดอกไม้ในแจกัน

“พี่ไม่มีเวลาเปลี่ยน ค่อยเปลี่ยนแล้วกัน”

“พี่เหงาใช่ไหมอยู่คนเดียว ผมมาอยู่เป็นเพื่อนได้นะ”

“บ้านตัวเองมีก็อยู่บ้านตัวเองไปเถอะ”

“พี่อะ ขัดผมตลอด” เตพูดพลางถอนหายใจ

“ไม่ต้องมาบ่อยๆ ก็ได้นะพี่ทำคนเดียวไหว”

“หมุนเงินมาจ้างผมไม่ทันอะดิ”

“....”

“ทำไมต้องทำหน้าเครียดขนาดนั้น ผมพูดเล่น”

“ก็เราเป็นนักเรียน ตั้งใจเรียนหนังสือเหอะพี่ไม่อยากใช้แรงงานเด็ก”

“พี่ก็เป็นแบบนี้ตลอด บางทีผมก็เต็มใจไง”

“ก็พี่เกรงใจนิ นี่ก็ดึกแล้วรีบกลับเถอะพี่จะปิดร้านแล้ว” ใบไผ่พูดพลางมองออกไปนอกร้าน

“ก็ได้ งั้นผมไปก่อนนะ” เตพูดจบก็เดินออกจากร้านไปทันที

คนตัวเล็กรีบปิดร้านเพราะเลยเวลาที่เขาจะปิดร้านมานานแล้วแต่เมื่อเขากำลังจะปิดประตูก็เห็นคุณคิมยืนอยู่หน้าประตูพร้อมถือขวดเหล้าหน้าตาของเขาดูเศร้าผิดปกติใบไผ่จึงรีบเปิดประตูเพื่อเดินไปหาคุณคิม

“คุณคิม...เกิดอะไรขึ้น” ใบไผ่ถามขึ้นด้วยความเป็นห่วง

หมับ!!! คิมไม่พูดอะไรแต่กอดใบไผ่ไว้แน่น คนตัวเล็กไม่ถามอะไรถ้าเกิดคุณคิมอยากบอกเขาคงพูดออกมาเอง

“นายกินเหล้าไหม” คิมถามใบไผ่จึงพยักหน้า

“มากินเหล้าเป็นเพื่อนผมหน่อย”

“ได้สิ” คิมผละกอดออกจากใบไผ่พลางถือเหล้าที่อยู่ในมือเดินเข้าร้านไป

“ผมกินเยอะไม่ได้นะ”

“ผมซื้อมาไม่เยอะหรอกกินเท่าที่มีนี่แหละ”

“ถ้าคุณอยากเล่าผมพร้อมรับฟังนะ แต่ถ้าไม่อยากเล่าผมก็เข้าใจคุณ”

“คุณก้าวผ่านการสูญเสียยายมาได้ยังไง” สิ้นนคำพูดไผ่คิมโผลถามในทันที

“ก็ต้องทำใจให้ชิน ทุกวันนี้เวลาผมทำอาหารเสร็จผมยังเผลอเรียกคุณยายมากินข้าวด้วยเลย”

“.......”

“คุณถามแบบนี้มีอะไรรึเปล่า”

“ใบไผ่...พ่อผมเป็นอัมพาตทั้งตัวมาหลายปีตลอดเวลาที่ผ่านมาผมมีความสุขที่ได้ดูแลเขา วันนี้แม่ไปเยี่ยมพ่อ พ่อผมมีความสุขมากนะแต่...”

“แต่อะไรหรอครับ”

“พ่อผมเสียแล้ววันนี้น่ะ”

“คุณ...”

“อย่างน้อยเขาทั้งสองก็ได้เจอกัน อย่างน้อยพ่อก็ได้รู้ว่าแม่เองก็รักเขามาก”

“พ่อกับแม่คุณแยกกันอยู่สินะ” คิมพยักหน้า

“คืนนี้ผมจะอยู่เป็นเพื่อนคุณเอง” ใบไผ่พูดคิมแสร้งยิ้มขึ้นมาพลางยกแก้วเหล้าขึ้นมาดื่ม

“แต่ว่านะ” ใบไผ่เกริ่นขึ้นมา

“ถ้าคุณไม่ไหวก็ร้องไห้ออกมาได้นะ”

“ไม่หรอก คุณรู้ไหมว่าผมน่ะมีความสุขทุกครั้งที่อยู่กับคุณเพราะแบบนี้ไงผมถึงรีบมาหาคุณ”

“คุณก็พูดเกินไป” ใบไผ่พูด คิมหันต์ไปจ้องตาใบไผ่แต่ใบไผ่ดันกลอกตาไปมาเขาไม่กล้าที่จะจ้องตาคิมกลับด้วยซ้ำ

“พรุ่งนี้เปิดร้านไหม”

“เปิดครับ”

“ดีแล้วปิดร้านบ่อยๆ น่ะไม่ดี” คิมเอ่ย เขาลุกขึ้นพลางถือวิสาสะเดินไปดูรูปถ่ายทิวทัศน์ที่แปะไว้ตามผนัง

“อันนี้คุณถ่ายเองหรอครับหรือซื้อมา”

“ถ่ายเองครับ งานอดิเรกผมน่ะ”

“สวยดีนะครับ”

“ขอบคุณครับ”

ไม่รู้ว่าเวลาล่วงเลยไปนานแค่ไหนแต่ทั้งคู่ยังคงอยู่ด้วยกันอยู่แบบนั้นจนคุณคิมกลับบ้านไม่ไหวใบไผ่จึงให้คุณคิมนอนที่นี่ เพราะเป็นห่วงความปลอดภัย ใบไผ่ยังคงมีสติเขาจัดแจงเปลี่ยนเสื้อผ้าให้คิมเสร็จก็พาตัวล้มลงนอนด้วยความเหนื่อย และหันไปมองคนข้างๆ ที่นอนไร้สติอยู่จนในที่สุดก็ผล็อยหลับไป