19 ตอน ตอนที่ 19
โดย ชูเบล
วันต่อมาคิมหันต์แอบเข้ามาในบ้านคนตัวเล็กโดยไม่บอกก่อนเพราะไม่ได้หวังจะเจอหน้าอีกคนแต่อย่างใดเขาเพียงอยากปลูกกุหลาบขาว อยากให้ใบไผ่นึกถึงเขาทุกครั้งที่มองมัน
เพราะอีกฝ่ายบอกว่าชอบกุหลาบแล้วเขาเองก็ชอบอีกฝ่ายอย่างสุดหัวใจ
“คุณคิมเองหรอครับผมคิดว่าโจร ตกใจหมดเลย” แต่เขาดันทำให้อีกคนรู้ตัวเสียจนได้แต่ก็ไม่เป็นไรอีกฝ่ายจะได้รู้อย่างไรล่ะว่าคนที่เอาดอกไม้มาปลูกคือเขา
กุหลาบต้นนี้มันจะพิเศษกว่าต้นอื่นๆ เป็นร้อยเป็นพันเท่า
“ผมขอโทษ คิดว่าคุณหลับอยู่เลยไม่อยากกวนน่ะ”
“ไม่เป็นไรครับ ผมให้กุญแจกับคุณเองนิ แล้วคุณกำลังปลูกอะไรอยู่”
“กุหลาบขาวน่ะ” คนตัวเล็กที่ได้ยินเช่นนั้นจึงดึงแขนเสื้อขึ้นและร่วมปลูกต้นไม้ต้นนั้นไปพร้อมคิมหันต์
มันจะเบ่งบานเหมือนความรักของเรา
หรือสุดท้ายมันจะเหี่ยวเฉาจนไร้ความเสน่ห์หา
“เวลาคิดถึงผมก็มองดูดอกไม้พวกนี้นะ จะได้หายคิดถึง” คิมหันต์เอ่ย
“แล้วผมจะไปคิดถึงคุณทำไมเล่า”
“ไม่รู้สิก็เผื่อไว้ก่อน” ทันทีที่ปลูกดอกไม้เสร็จคิมหันต์จึงลุกขึ้น มองต้นไม้ต้นนั้นจะมุมของเขา มันคงดีมากเลยล่ะ แสนจะโรแมนติก
“มันออกดอกเมื่อไหร่บอกผมด้วยนะผมอยากมาดูกับคุณ”
“ให้มันรอดก่อนเถอะครับ”
“อย่ามาแช่งต้นไม้ผมสิ แล้วมีอะไรให้กินบ้าง ผมหิวแล้ว”
“วันนี้ผมมีนัดน่ะคุณ เกรงว่าคุณจะอยู่นานไม่ได้”
“นี่คุณไม่ได้หลบหน้าผมใช่ไหม” คิมหันต์ถามเพราะเขากลัวใจใบไผ่กลัวว่าใบไผ่จะไม่อยากอยู่กับเขาแล้ว
“ผมจะทำแบบนั้นไปทำไมล่ะ ผมมีนัดจริงๆ”
“งั้นจัดช่อดอกไม้ให้ผมหน่อยสิ” คนตัวเล็กเดินไปจัดช่อดอกไม้อย่างว่าง่ายร่างสูงได้แต่ยืนมองการกระทำที่จะหยิบจับอะไรก็ดูน่ารักไปหมดเลย อยากอยู่ด้วยนานกว่านี้จัง
“คุณไม่ได้แยกดอกไม้เลยหรอนี่มันเหี่ยวแล้วนะ” คิมหันต์พูดหลังจากเหลือบไปเห็นดอกไม้ที่เตรียมไว้ขายเริ่มเหี่ยวเฉา
“ผมลืมน่ะครับ”
“ไม่ใช่นิสัยนายเลย มาผมแยกให้เอง” ร่างสูงช่วยอีกคนแยกดอกไม้ที่เหี่ยวเฉาออกจากกลุ่มดอกไม้ที่ยังขายได้
“คุณเบลออะไรเนี่ยใส่ธูปไปในดอกไม้ผมทำไม”
“ผมหยิบผิดเฉยๆ” ใบไผ่พูดพลางหัวเราะกลบเกลื่อนแต่คิมหันต์กลับรู้สึกแปลกๆ
กริ๊ง
เสียงกระดิ่งร้านดังขึ้นเผยให้เห็นร่างชายดวงตาสีน้ำตาลเขามาพร้อมรอยยิ้ม ผมสีเทาสง่าสวมเสื้อเชิ้ตสีน้ำเงินเข้มปลดกระดุมออกสองเม็ด ชวนดูน่าหลงใหลและเหมือนจะไม่ใช่คนในพื้นที่
“ไอหมอมึงมาทำไมถึงนี่” คิมหันต์ทักขึ้นมาทันทีที่เห็นผู้ชายคนนั้น
“คุณคิมรู้จักหรอครับ”
“อือ หมอเพื่อนผมเอง” “แล้วมึงมาทำไม” เขาว่าพลางหันไปเอ่ยถามเพื่อนของตัวเองอีกรอบ
“ดีใจที่ได้เจอมึงนะคิมแต่กูมา...”
“มาซื้อดอกไม้หรอครับ” ใบไผ่พูดแทรกขึ้นมาคุณหมอก็เออออตามไป
“คุณคิมผมลืมหยิบดอกไม้ที่ตัดไว้แล้วมาอยู่ในสวนไปเอาให้หน่อยได้ไหมครับ” ร่างสูงเอ่ยตอบรับก่อนจะเดินไปหลังร้านเพื่อหยิบดอกไม้มาให้ใบไผ่
“คุณหมอเป็นเพื่อนสนิทคุณคิมหรอครับ”
“ไม่หรอก แค่เคยเรียนห้องเดียวกัน”
“วันนี้ผมคงไม่สะดวกแล้วไว้คุณหมอมาใหม่ได้ไหมครับ ส่วนเรื่องผมห้ามบอกคุณคิมจะได้ไหมครับ”
“ถ้าคุณไม่ให้บอกผมก็จะไม่บอก แต่อย่าลืมนะครับคนที่เจ็บสุดในเรื่องนี้ไม่ใช่คุณ”
“ใบไผ่ผมไม่เห็นเจอเลย”
“ผมน่าจะจำผิดมั้งครับ”
“คิมไปส่งกูหน่อยสิ กูไม่ได้เอารถมา”
“กูไม่ใช่คนขับรถ”
“นานๆ ที ไปส่งเพื่อนสักครั้งไม่ได้หรือไง”
“ไปเถอะครับ” ถึงแม้จะไม่เต็มใจเท่าไหร่นักแต่เขาก็ยอมไปส่งแต่โดยดีนั่นก็เพราะมีเรื่องที่จะถามด้วยล่ะมั้ง
“ทำไมต้องให้กูไปส่งด้วย” คิมหันต์ถามเชิงบ่นขณะกำลังขับรถ
“ก็อยากคุยในฐานะเพื่อนคนหนึ่ง”
“เรื่อง?”
“มึงกับเจ้าของร้านดอกไม้เป็นอะไรกัน”
“ก็ไม่ได้เป็นอะไรกัน กูขอเขาคบแต่เขาปฏิเสธ”
“......”
“มึงเงียบทำไม หรือว่าใบไผ่เป็นอะไร”
“ไม่ใช่..” เขาเอ่ยตอบเสียงแผ่วขณะกำลังก้มหน้า
“อะไรของมึง”
“เลี้ยวเข้าซอยข้างหน้านะ จะถึงแล้ว”
“มึงเหมือนมีอะไรปิดบังกูอยู่เลย” คิมเอ่ยตามจริง
“รักเขาก็แสดงออกเยอะๆ” คุณหมอพูดขณะที่รถจอดสนิทพอดีเขาเดินลงจากรถไว้ทิ้งคำพูดที่ชวนสงสัยนั้นเอาไว้ด้วย
หลังจากที่เตไม่ได้มาเยี่ยมใบไผ่นานแล้วจู่ๆ วันนี้เขามาหาอีกคนด้วยพร้อมถือกระเช้าผลไม้ติดไม้ติดมือมา น่าแปลกเสียจริง
“ผมซื้อผลไม้มาฝาก”
“ซื้อมาเยี่ยมคนป่วยรึไง”
“พี่ไผ่ไม่สบายหรอ เป็นอะไรหนักรึเปล่า หรือทะเลาะกับคุณลุงสีหน้าพี่ไม่ค่อยดีเลย”
“เปล่าพี่สบายดี”
“โกหกอยู่เห็นๆ”
“พี่พูดกับเราได้ไหม”
“พูดมาสิพี่” คนตัวเล็กว่าพลางถอนหายใจและอธิบายเรื่องที่เกิดขึ้นให้เตฟังยาวเหยียด คนอายุน้อยกว่าตั้งใจรับฟังเป็นอย่างดี
“คุณคิมขอพี่เป็นแฟน พี่ตอบปฏิเสธคุณคิมไป”
“ผมคิดว่าพี่ชอบเขาซะอีก”
“พี่ไม่รู้จะอธิบายให้เราฟังยังไง แต่พี่กลัว กลัวว่าพี่จะอยู่ดูแลคุณคิมไปไม่ได้ตลอด”
“หมายความว่ายังไง...”
“อย่าสนใจเลย”
“พี่ไผ่พี่แบกรับเรื่องอะไรอยู่ ทำไมไม่ยอมพูดออกมา”
“ไม่ต้องห่วงพี่จะต้องหายดี เดี๋ยวพี่มานะ” ร่างเล็กกึ่งเดินกึ่งวิ่งไปยังหลังบ้านโดยไม่ลืมจะหยิบมือถือของตัวเองไปด้วย
ใบไผ่เปิดแชทคุณคิมหันต์ดูก่อนจะพิมพ์ๆ ลบๆ ข้อความอยู่อย่างนั้นเขาไม่กล้าแม้แต่จะทักหาอีกคนเสียแล้ว
“คุณคิมอาจกำลังขับรถอยู่ หรือคุณหมอแอบบอกเรื่องของเราไปแล้วกันนะ”
ใบไผ่คิดไม่ตกก่อนที่มือถือจะเด้งสายเรียกเข้าขึ้นมาใบไผ่จึงรีบกดรับสายทันที
คิมหันต์โทรมาเพื่อบอกใบไผ่ว่าเขาคงไม่ได้เข้าหาใบไผ่แล้วเพราะมีงานด่วนเข้ามากะทันหันใบไผ่พูดตอบรับอย่างผิดหวังนิดหน่อยแต่มันคืองานเขาไม่ได้คิดอะไรมากมาย เขาเพียงอยากรู้แค่ว่าคิมหันต์รู้ความจริงแล้วหรือยังแค่นั้น...
“พี่ไผ่ผมกลับก่อนนะ” เตที่แอบเดินตามมากระซิบบอก
“จะกลับแล้วหรอ”
“อือ เพื่อนนัดไปเจอกะทันหันน่ะ”
“งั้นก็ไปเถอะ” ใบไผ่พูดอีกฝ่ายจึงเดินออกจากร้านไป
ใบไผ่เริ่มมีความรู้สึกที่รำคาญตัวเองเขาไม่กล้าพอที่พูดกับคนรอบข้างตรงๆ เขาไม่กล้าพอที่จะรักคุณคิมหันต์อย่างสุดหัวใจด้วยซ้ำ เขามีแต่ความกลัวกลัวทุกสิ่งทุกอย่าง
ความกล้าไม่ใช่เรื่องง่าย ใครก็ได้ช่วยบอกหน่อยว่าควรทำยังไงต่อไป ใครก็ได้..... ใบไผ่ได้เพียงแต่ภาวนาอยู่ในใจอยู่อย่างนั้น