18 ตอน ตอนที่ 18
โดย ชูเบล
คนร่างสูงมีเพียงที่เขาอยากไปในช่วงนี้นั่นก็คือที่ที่จะได้เห็นคนรักของเขาสะดวกๆ ร้านใบไผ่มักเต็มไปด้วยผู้คนในช่วงนี้จนเวลาที่ได้คุยกันเหลือน้อยลง มันเป็นผลดีหรือไม่ดีกันนะ
“คุณยังไม่ได้เปิดร้านใช่ไหม” คนตัวสูงพูดขณะกำลังก้าวมาภายในร้าน
“กำลังจะเปิดพอดีเลยครับ” ใบไผ่พูด
“ค่อยเปิดได้ไหม”
“อย่ากวนเวลาผมทำงานสิครับ”
“แค่วันเดียว วันเดียวจริงๆ” คิมหันต์พูดขึ้นใบหน้าสีแดงระเรื่อเม้มปากเข้าหากันพลางหยุดคิดไปชั่วครู่ เขาควรทำตามที่อีกฝ่ายต้องการดีไหมนะ
“แค่แป๊บเดียวนะครับ” คนตัวสูงดีใจเผยสีหน้ายิ้มพร่า
“แม่ผมชอบคุณมากเลยรู้ไหม”
“จริงหรอครับ งั้นก็โล่งใจหน่อย ผมกลัวมากว่าจะเผลอทำอะไรผิดไป”
“แม่ผมบอกว่าคุณบอกว่า....”
“บอกว่าอะไรหรอครับ” ใบไผ่ถามด้วยความสงสัยแต่ใบไผ่ก็รู้ได้ทันทีว่าคิมหันต์หมายถึงอะไรเพราะหน้าตาของเขาตอนนี้มันแสดงออกมาอย่างชัดเจนซะเหลือเกิน
“แล้วคุณจะให้ผมปิดร้านไปทำไมครับ” ร่างเล็กรีบหาเรื่องอื่นมาพุดแทนใบหน้าที่แสนอ่อนโยนมีสีแดงฝาดขึ้นอย่างเห็นได้ชัด จู่ๆ เขาก็ดันนึกขึ้นมาได้เขาบอกชอบคุณคิมต่อหน้าแม่คุณคิมไปนี่หน่า
“ผมเคยบอกคุณว่าผมไม่ชอบคฤหาสน์ที่ตัวเองเพราะมันอ้างว้างและโดดเดี่ยว แต่ผมอยากอยู่ที่นั่นกับคุณนะ”
“คุณหมายถึง....”
“ไปเยี่ยมบ้านของผมสักครั้งเถอะนะ”
“......”
“อย่าได้ปฏิเสธผมเชียว”
“ก็ได้ครับ ผมก็อยากไปสักครั้งเหมือนกัน” เพราะอยากรู้จักอีกคนมากกว่านี้การได้ไปสถานที่ที่อีกฝ่ายใช้ชีวิตอยู่จะทำให้เขารู้จักคิมหันต์เพิ่มขึ้นอีกไหมนะ
ส่วนคิมหันต์ที่อยากให้คนตัวเล็กไปเยี่ยมบ้านของตัวเองสักครั้ง บางทีที่แห่งนั้นมันจะดีหรือไม่ดีก็คงขึ้นกับคนที่อยู่ด้วยนี่แหละ
จนมาถึงคฤหาสน์ของเขาคิมหันต์สั่งให้คนรับใช้ในบ้านไม่ต้องมาคอยรับใช้เพราะกลัวใบไผ่จะอึดอัด
เขาเริ่มจากนำอีกฝ่ายไปเดินดูรูปทายาทของตระกูล ผนังถูกตกแต่งไว้อย่างสวยงามเครื่องตกแต่งชิ้นหรูถูกวางไว้อย่างเป็นระเบียบ
เป็นที่ที่น่ามหัศจรรย์ใจจริงๆ
“นี่รูปคุณตอนเด็กหรอครับ”
“อือ หล่อตั้งแต่เด็กเลยใช่ไหมล่ะ”
“น่ารักดีครับ” ปากหยักเอ่ยเผยรอยยิ้มที่แสนอบอุ่นออกมา อยากจะบอกว่าน่ารักตั้งแต่เด็กจนโตเลยต่างหาก
ร่างสูงสวมกอดคนตัวเล็กจากด้านหน้าพลางเลื่อนใบหน้าวางไว้บนบ่าอีกคนและเอ่ย “ตอนผมเด็กๆ ผมมักจะไปอยู่ที่สวนหลังคฤหาสน์ คุณอยากไปเดินเล่นดูไหม”
“ถ้าคุณอยากจะพาผมไปก็จะไป” คนตัวเล็กเอ่ย
“แต่ผมอยากกอดคุณเอาไว้แบบนี้ไม่อยากไปไหนเลย” ใบหน้าของคนที่โดนสวมกอดอยู่แดงขึ้นระเรื่อด้วยความเขินอาย
“ใบไผ่ เรา...” เสียงเข้มเอ่ยพลางหลุบคิดเล็กน้อยถึงสิ่งที่เขากำลังจะพูด
“เราลองมาคบกันดูไหม”
“คุณคิม....”
“ผมอยากคบกับคุณจริงๆ นะใบไผ่”
อีกฝ่ายเผยเรายิ้มออกมาด้วยความดีใจแต่ในขณะเดียวกันความคิดที่ขัดแย้งกันบังเกิดขึ้นในหัว เขาควรทำอย่างไรดี
“ทำไมถึงคิดนานจัง”
“คุณคิมผมตอบรับไม่ได้...” คนตัวเล็กพูดพลางแกมืออีกฝ่ายออก
“ทะทำไม” คิมไม่เข้าใจมันเลยทั้งๆ ที่เมื่อกี้อีกฝ่ายยิ้มอย่างดีใจซะขนาดนั้น
“เพราะผมมีเหตุผลของผม”
“ผมคิดว่าเรารักกันซะอีก...”
“คุณคิมครับ เรื่องมันซับซ้อนมากกว่านั้น....”
“ทั้งสองคนอยู่นี่นี่เอง” แม่ของคิมเอ่ยแทรกทั้งสองคนที่เหมือนจะมีเรื่องผิดใจกัน
“ฉันอยากคุยกับใบไผ่หน่อย แกไปรอที่สวนจะได้ไหม”
“แม่มีอะไรกับใบไผ่หรอครับ”
“แค่อยากชวนใบไผ่ไปเดินดูคฤหาสน์กับฉัน แกไปเถอะ” เพราะความสับสนทางจิตใจและเขาคิดว่าเวลาควรไปสงบสติอารมณ์เสียจะดีกว่า ไม่ใช่ว่าเขาชอบอีกฝ่ายแล้วจะได้รับความรักนั้นกลับเสมอไป
“มีปัญหาอะไรบอกฉันได้นะ”
“ไม่มีอะไรหรอกครับ” ปากหยักเอ่ยพร้อมรอยยิ้มเจื่อน ใครมองก็รู้ว่ากำลังโกหกอยู่
“ดูก็รู้ว่านายกำลังเจอกับปัญหา”
“ผมไม่เป็นไรจริงๆ ผมอยากเดินเล่นในคฤหาสน์ต่อครับ” แม่ของคิมไม่เซ้าซี้ถามต่อเขารีบพาใบไผ่เดินเที่ยวชมไปเรื่อยๆ และพูดคุยด้วยกันเรื่อยเปื่อยจนกระทั่งคนเป็นแม่คิดว่าควรให้ทั้งสองคนเคลียร์ใจกันได้แล้ว
“ลูกชายฉันกำลังรอเธออยู่ ฉันจะปล่อยเธอตามสบายแต่ถ้าอยากจะเจอเขาก็หันหลังเดินไปหลังประตูใหญ่จะเป็นสวน”
“ขอบคุณครับ ขอบคุณที่ให้การต้อนรับผม” แม่ของคิมยิ้มให้ใบไผ่ก่อนจะเดินออกไป ใบไผ่ถอนหายใจก่อนจะเดินไปตามทางที่คุณแม่บอกเอาไว้ หลังเปิดประตูออกมาเขาก็เห็นคิมหันต์นั่งคิ้วขมวดอยู่ตรงนั้น
“คุยกับแม่เสร็จแล้วหรอ แม่พูดอะไรล่ะ” คนตัวสูงเอ่ยถามทันทีที่เห็นอีกฝ่ายเดินมาหาเขาเสียที
“ก็แค่พูดคุยกันไปเรื่อยน่ะครับ”
“ใบไผ่...ผมไม่อยากให้ความสัมพันธ์ของเราแย่ลงเพราะฉะนั้นลืมเรื่องที่ผมพูดวันนี้เถอะนะ” ใบไผ่ตอบรับพลางพยักหน้าให้
“ผมว่าวันนี้ผมกลับก่อนดีกว่านะครับ”
“ทำไมรีบนักละ ผมทำให้คุณเสียอารมณ์รึเปล่า”
“มะไม่ใช่นะครับ แต่ผมต้องไปทำงาน” คิมหันต์ถอนหายใจก่อนจะลุกขึ้นเดินและเดินนำหน้าใบไผ่ไปยังรถของตัวเอง
คิมหันต์ขับรถไปส่งใบไผ่ที่ร้านและเขาก็สัญญาว่าจะมาหาใบไผ่บ่อยๆ เหมือนเดิมไม่ว่าจะในฐานะอะไรก็ตาม
ใบไผ่เองก็ไม่ใช่ว่าเป็นคนไร้เหตุผลเขามีเหตุผลของตัวเองเสมอในการกระทำครั้งนี้เขาทำก็เพื่อปกป้องคิมหันต์ เขาตั้งใจจะปกป้องคิมหันต์จริงๆ