“ติดประกาศเรียบร้อยแล้วนะไผ่”

“ขอบคุณนะมึง”

“มีป้าข้างๆ ถามเรื่องร้านแกเยอะเลย”

“ก็คงเป็นห่วงแหละ”

“ว่าแต่...กับคุณคิมเป็นไงบ้างเมื่อวานน่ะ” เบสถามขึ้นใบไผ่ก้มหน้าพลางอมยิ้มออกมาด้วยความเขิน

“อะไรยังไงเล่าสิ”

“ไม่มีอะไรหรอก แต่ที่เราพูดกันเมื่อวานคุณคิมได้ยินหมดเลย”

“ตายจริง แล้วเขาพูดอะไรไหม”

“คุณคิมก็อยากให้เราไปเจอแม่เขาเหมือนกัน แต่เรายังไม่พร้อม...”

“อ้าว”

“เบสคือความจริงเรา..” ใบไผ่พูดเสียงเบาและหลบตาเบส “มีอะไรหรอ” เบสถามขึ้นมาหลังจากเห็นใบไผ่มีสีหน้ากังวลอย่างเห็นได้ชัด

“กูรักมึงนะ”

“อะไรเนี่ย จู่ๆ เป็นอะไรไป”

“เปล่าแค่อยากบอกเฉยๆ แกไปทำงานเถอะเราทำธุระให้เสร็จจะได้กลับมาเปิดร้านตามเวลา”

“งั้นก็ได้ เดี๋ยวเราไปส่งนะ”

“ไม่ต้องหรอกเดี๋ยวเราไปเองได้ แกรีบไปเถอะเดี๋ยวจะสาย” “อือ ก็ได้” เบสตอบรับก่อนจะเดินออกจากร้านไป

ใบไผ่มองตามหลังเบสก่อนจะถอนหายใจออกมาน้ำตาของใบไผ่จะค่อยๆ ไหลออกมาเพราะเขากำลังจะเผชิญกับปัญหาที่เขาเองก็ไม่รู้ว่าจะมีทางแก้ไขมันได้หรือไม่

 

 

หลายชั่วโมงต่อมา ใบไผ่กลับมาจากด้านนอกเมื่อเปิดประตูเข้ามาในร้านก็ต้องตกใจเพราะเจอคิมนั่งอยู่ในร้าน

“คุณคิม...”

“คุณให้กุญแจผมเองนะ ผมแค่อยากลองใช้ดู”

“กลัวสนิมเกาะรึไงคุณ”

“แล้วคุณไปไหนมาหรอ”

“ทำธุระน่ะครับ” ใบไผ่พูดพลางเดินไปเดินไปใส่ผ้ากันเปื้อนเพื่อเตรียมเปิดร้าน

“วันนี้ผมเคลียร์งานเสร็จหมดแล้ว ผมขออยู่เป็นเพื่อนคุณนะ”

“ได้สิครับ ผมหิวจัง”

“คุณเปิดร้านเถอะ ผมไปทำอะไรให้คุณกินเอง” คิมหันต์พูดก่อนจะเดินเข้าไปในห้องครัว ใบไผ่จึงแอบยิ้มตามหลังเพราะความน่ารักของคิมหันต์

 

คุณคิมใช้เวลาอยู่กับใบไผ่ทั้งวันจนกระทั่งฟ้ามืดลงใบไผ่จึงตัดสินใจปิดร้าน วันนี้เปิดร้านวันแรกลูกค้าไม่ได้เยอะอะไรมากมายขนาดนั้น

“คุณควรกลับไปได้แล้วนะครับ” ใบไผ่พูด

“ก็ผมไม่อยากกลับนี่”

“คุณอยู่ที่นี่บ่อยกว่าอยู่คอนโดตัวเองอีก พรุ่งนี้ก็มีงานไม่ใช่หรอครับ”

“ผมนอนที่นี่ได้ไหม”

“เอาอีกแล้วนะครับ”

“นะครับ ใบไผ่..” คิมหันต์พูดพลางทำหน้าอ้อนใบไผ่

“ก็ได้ๆ ครับ ครั้งนี้ครั้งเดียวนะ” คิมหันต์รีบรับปากทันที

“คุณขึ้นไปนอนก่อนเถอะครับ ผมจะตามไปทีหลัง”

“ผมช่วยคุณดีกว่า” ร่างสูงพูดพลางเดินไปช่วยอีกคนเก็บร้านในทันที

“ถ้าคุณไม่นอนผมก็ไม่นอน” คิมหันต์พูด

“งั้นก็ไม่ต้องนอนครับ”

“ไม่นอนแล้วจะทำอะไร” คิมหันต์พูดเสียงลากยาวพลางมองหน้าใบไผ่ด้วยสายตาเจ้าเล่ห์

“คุณอะ! พูดอะไรไม่รู้ไปยืนตรงนู่นเลย”

“ละจะให้ผมไปยืนตรงนู้นทำไม”

“.....”

“ไม่ตอบ งั้นก็ไม่ไป”

“จริงสิคุณคิม แหวนคุณยังอยู่ที่ผมอยู่เลย คุณจะไม่เอามันกลับไปจริงๆ หรอ”

“ผมไม่อยากได้แหวนวงนั้นแล้วนิ”

“แต่มันคงจะไม่ดีถ้าผมจะเก็บมันไว้ คุณเอามันกลับไปได้ไหม”

“งั้นพรุ่งนี้ก็เอามาให้ผม ผมจะเอามันไปจัดการเอง” “ผมขอตัวไปนอนก่อนนะ” คิมหันต์พูดก่อนจะเดินขึ้นไปบนตัวบ้านดื้อๆ ใบไผ่มองตามหลังคิมไปจนสุดสายตาหลังจากนั้นเขาจึงไปหยิบกล่องใส่แหวนที่เก็บไว้ออกมาและเดินตามหลังคิมขึ้นไปบนบ้าน

“คุณคิม...”

“คุณจะให้ผมนอนเตียงเดียวกับคุณใช่ไหม” ร่างสูงเอ่ยถาม

“ครับ เพราะมีแค่เตียงเดียว...” “นี่แหวนคุณครับ”

“คุณวางไว้บนหัวเตียงเลย พรุ่งนี้เช้าผมจะเอาไป” ใบไผ่เอาวางไว้บนหัวเตียงตามคำสั่ง คิมหันต์เห็นแบบนั้นก็ค่อยๆ เดินไปนั่งบนเตียงของใบไผ่

“มานอนด้วยกันสิ” คิมหันต์พูดชวน

“ผมคงไม่ใจดีนอนนอกห้องแล้วปล่อยให้คุณนอนบนเตียงสบายๆ หรอกครับ”

“งั้นก็ขึ้นมานอนบนเตียงกับผมสิครับ ไม่ได้มองหน้าคุณผมนอนไม่หลับ”

“เว่อร์ไปแล้วคุณอะ!” “ผมยังไม่ง่วงเดี๋ยวมานะครับ” ใบไผ่พูดก่อนจะเดินลงไปชั้นล่าง คุณคิมเรียกชื่อใบไผ่ตามหลังแต่ใบไผ่ไม่หันมาตอบสนองเลยสักนิด

“แค่แกล้งนิดหน่อยเอง” คนตัวสูงบ่นพึมพำพลางล้มตัวลงนอน

ใบไผ่รอนานหลายชั่วโมงเพื่อให้แน่ใจว่าคิมหลับไปแล้วเขาจึงแอบย่องขึ้นไปบนห้องและล้มตัวลงนอนข้างๆ คิมหันต์พลางดึงผ้าห่มขึ้นมาปิดหน้าตัวเองครึ่งหน้าเพราะทำตัวไม่ถูก มันต่างจากคราวที่แล้วที่พวกนอนด้วยกันเยอะมากนักเพราะครั้งนั้นใจเขาเองไม่ได้สั่นระรัวเท่าตอนนี้ตอนนั้นมันยังควบคุมได้แต่ตอนนี้เสียงหัวใจคงดังจนเขาได้ยินมันแล้วเป็นแน่

“ไผ่...” คุณคิมลืมตามองหน้าใบไผ่ด้วยความเหนื่อยล้าน้ำเสียงแหบซ่าน คุณคิมทันทีที่รู้สึกตัวเขาก็ขยับตัวเข้าไปใกล้ใบไผ่เพื่อกอด

เขากอดโดยไม่รู้เลยว่าอีกคนกำลังมีความสุขแค่ไหนใบไผ่ได้แต่นอนตาแป๋วไม่กล้าขยับตัวไปทางไหนเพราะกลัวคุณคิมจะรู้สึกตัวและตื่นมาแกล้งเขาอีก

“นอนแบบนี้ก็ได้...” ใบไผ่พูดกับตัวเองพลางพยายามข่มตาหลับจนเช้า..

 

เช้าวันต่อมาใบไผ่ตื่นพลางเหลือบมองด้านข้างกลับไม่เห็นคุณคิมเขาหยิบมือถือขึ้นมาก็เห็นข้อความแสดงบนหน้าจอว่าคุณคิมขอกลับบ้านก่อนเพราะมีธุระด่วน

ใบไผ่จึงเก็บที่นอนให้เรียบร้อยก่อนจะเดินลงชั้นล่างหวังจะทำงานแต่ต้องมาสะดุดตากับอาหารที่วางเรียงรายไว้บนโต๊ะอาหารและส่งกลิ่นหอมฟุ้ง

“ทำอาหารไว้เยอะขนาดนี้แต่ไม่ยอมอยู่กินด้วยกัน” ใบไผ่พูดก่อนจะเดินไปนั่งทานอาหารคนเดียว เขาเหลือบไปเห็นโพสอิทที่แปะไว้บนโต๊ะ ‘ทานให้อร่อยนะครับ’ ใบไผ่ยิ้มก่อนจะเก็บโพสอิทและชิมอาหารที่คุณคิมทำไว้ทีละอย่าง