คนตัวเล็กมุ่งหน้ามาเพื่อจัดการร้านตัวเองโดยมีคิมหันต์อาสามาช่วยด้วย เพราะได้ความช่วยเหลือจากคิมหันต์ทำให้ใบไผ่ดีขึ้นไม่น้อย

“คุณคิมพี่ไผ่มาแล้วหรอครับ” คนอายุน้อยกว่าเอ่ยถามเนื่องจากเห็นเพียงคิมหันต์แต่ไม่เห็นเจ้าของร้านเลย

“อือ”

“โชคดีที่ตัวบ้านไม่มีอะไรเสียหาย”

“ขอบใจมึงที่ช่วยเมื่อวาน”

“ไม่ต้องขอบคุณหรอก เห็นไฟไหม้แบบนั้นใครจะไปอยู่เฉยๆ ได้”

“นั่นน่ะสินะ”

“เวรกรรมอะไรของพี่ไผ่เนี่ย” เขาเอ่ยตัดพ้อในโชคชะตาแทนเจ้าของเคราะห์กรรมในขณะเดียวกันคนตัวเล็กก็เดินออกมากร้านพอดิบพอดี

“ดอกไม้เสียหายไปเยอะเลยครับ ส่วนในครัวด้านหลังก็โดนไฟไหม้โชคดีไม่ลามชั้นสอง ไม่งั้นผมแย่แน่ๆ”

“เรื่องค่าใช้จ่าย” ร่างสูงเอ่ยแต่ในขณะเดียวกันคนตัวเล็กพูดแทรกขึ้นมาซะก่อนราวกับรู้ว่าอีกฝ่ายอยากจะพูดอะไร

“ค่าใช้จ่ายผมพอไหวอยู่ครับผมมีเงินเก็บ”

“ยังไงก็ไม่ยอมให้ผมช่วยเลยสินะ”

“ก็ผมอยากเพิ่งตัวเองก่อน” “แล้วก็ขอบคุณมากนะเต”

“ไม่เป็นไรครับ”

“ไปกินข้าวกันไหมใบไผ่ ตั้งแต่เช้านายยังไม่กินเลย” ร่างสูงเอ่ยถาม “ได้สิ เตไปด้วยกันสิ”

“ไปเลยพี่ ผมกินข้าวมาแล้ว ขอตัวก่อนนะครับ” เขาพูดจบก็เดินออกไปในทันทีเพราะไม่อยากขัดเวลาของทั้งสองคนด้วยจึงเลือกที่จะไม่ไป

“เสียดายจัง”

“ไว้ค่อยพาเตไปคราวอื่น เราไปกันเถอะ”

หลังจากนั้นทั้งคู่จึงมุ่งหน้าไปร้านอาหาร ใบไผ่เลือกตามใจคุณคิมเพราะตอนนี้เขามีเรื่องให้คิดมากกว่านั้นเยอะมาก

หลังจากนั่งรับประทานอาหารด้วยกันไปสักพัก จู่ ๆ คนตัวเล็กก็วางช้อนลงพลางเอ่ยสิ่งที่คิดไว้ในใจ

“ผมตัดสินใจแล้วนะครับ”

“หือ?” คิมหันต์เงยหน้าขึ้นมองใบไผ่ด้วยความสงสัยที่พูดออกมาแบบไม่มีปี่มีขลุ่ย

“ผมจะไปอยู่ที่บ้านในต่างจังหวัดระหว่างที่รอร้านซ่อมจนเสร็จ”

“แล้วจะไปนานแค่ไหนหรอ...”

“ก็จนกว่าจะเสร็จน่ะครับ”

“อยู่คอนโดผมก่อนก็ได้นะผมไม่ถือ”

“แต่ผมถือ” อีกฝ่ายไม่ชอบการพึ่งพาคนอื่นจริงๆ เขาเลยตั้งใจว่าเขาจะไปบ้านต่างจังหวัด หวังเพื่อจะได้ไปพักผ่อนด้วย

“ปฏิเสธเก่งจริงๆ”

“ผมแค่อยากกลับไปดูบ้านเก่าบ้าง ปล่อยร้างจนปลวกขึ้นหมดแล้ว”

“ตามใจคุณแล้วกัน แต่ผมขอเรื่องหนึ่ง”

“?”

“ให้ผมไปส่งได้ไหม”

“คุณ...”

“ผมเต็มใจ ผมเคลียร์งานเสร็จหมดแล้วนะ” คิมหันต์เอ่ยขึ้นมาก่อนเพราะรู้ดีว่าใบไผ่อยากจะพูดอะไร เขาแค่อยากไปส่งอีกคนอยากมั่นใจว่าใบไผ่จะไม่มีปัญหาอะไร

“นานนะคุณ”

“แค่มีคุณอยู่ในรถ ขับรถไปรอบโลกผมก็ยอม”

“คุณนี่มัน..” ปากเรียวอมยิ้มเค้นเสียงหัวเราะออกมาเบาๆ ให้กับความเจ้าเล่ห์ของอีกฝ่าย

“เอาเถอะครับรบกวนด้วยนะครับ”

“รีบกินเถอะจะได้ไปกัน”

หลังจากรับประทานอาหารเสร็จทั้งคู่มุ่งหน้าไปบ้านต่างจังหวัดของคนตัวเล็กประเดี๋ยวนั้น

“คุณไหวแน่ๆ นะ มันไกล” คนตัวเล็กถามย้ำเพราะกลัวจะทำให้คิมหันต์เสียเวลา

“ไหว ผมขับรถทางไกลบ่อยนะ”

“ทำมาพูดคนขับรถคุณก็มี คุณไม่จำเป็นต้องขับรถทางไกลเลยด้วยซ้ำ”

“รู้ดีจริงๆ”

“คุณดีกับผมเกินแล้ว” เสียงหวานเอ่ย

“ผมบอกแล้วไงผมชอบคุณ” คนตัวเล็กแอบยิ้มก่อนจะหันไปมองหน้าอีกฝ่ายที่กำลังขับรถอยู่

“คุณหลับไปก่อนได้นะ ถึงแล้วผมจะปลุก”

“ไม่เอาล่ะผมจะถ่างตาเป็นเพื่อนคุณ”

“อย่าทรมานตัวเองสิ ง่วงก็นอน”

“เรื่องของผม ผมจะอยู่เป็นเพื่อนคุณ คุณรู้ทางหรอ เดี๋ยวก็หลงหรอก”

“ก็จริงของคุณ”

“คุณคิมครับ” ใบไผ่พูดในขณะที่กำลังมองไปทางอื่นคนตัวสูงกว่าขานรับพลางเหลือบมองใบไผ่อย่างสงสัยว่าต้องการพูดอะไรกันแน่

“คุณรู้ตัวไหมว่าคุณกำลังทำลายความตั้งใจของผม”

“ทำลาย ระเรื่อง...”

“ผมน่ะ” ใบไผ่พูดแทรกขึ้นมา “ผมบอกคุณแล้วใช่ไหมว่าผมไม่ได้ตั้งใจจะใช้ชีวิตอยู่บนโลกนี้นานนัก”

“ใบไผ่..”

ใบไผ่ถอนหายใจพลางหันไปสบตากับอีกฝ่าย “เพราะคุณ ผมถึงอยากใช้ชีวิตอยู่บนโลกใบนี้ไปอีกนาน ทั้งๆ ที่ผมไม่เคยคาดหวังอะไรกับโลกใบนี้ด้วยซ้ำ แต่ผมคาดหวัง คาดหวังที่จะได้อยู่เจอหน้าคุณในวันพรุ่งนี้”

ร่างสูงได้ยินแบบนั้นจึงตีรถเข้าข้างทางใบไผ่ตกใจเล็กน้อยแต่เขาก็อยากจะพูดในสิ่งที่เขาอยากพูดมาตลอด

“ผม อะอื้อ” คิมหันต์ไม่รอให้ใบไผ่พูดเขาโน้มลำตัวเข้าไปหาใบไผ่อย่างรวดเร็วเผยรสหวานในโพลงปากจากการจุมพิตกลิ่นหอมจากตัวอีกฝ่ายตลบอบอวลไปทั่วเสียงจากการโดนจุมพิตดังขึ้นเป็นระยะ จนเมื่อเริ่มหายใจไม่ออกมือเรียวจึงผละอีกฝ่ายออกช้าๆ

“ความรู้สึกนั้น ผมรับรู้แล้วนะใบไผ่” ร่างสูงเอ่ยขณะที่ยังคงยื่นหน้ามาใกล้ๆ ตัวอีกฝ่าย

“ออกรถเถอะครับ” คนตัวเล็กเอ่ยพลางก้มงุดลงมองด้านล่างแอบเม้มปากเบาๆ ไม่นานตัวรถก็เคลื่อนออกไปในทันที

“พูดต่อได้นะ” คิมหันต์พูด

“ผมไม่มีอะไรจะพูดแล้ว ผมอยากนอน”

“ไหนเมื่อกี้คุณบอกว่าจะไม่นอน จะอยู่เป็นเพื่อนผมไง”

“ตอนนี้ง่วง จะนอนแล้ว”

เขาแกล้งหลับตาลงไม่วายหันหน้าไปยังกระจกรถแอบยิ้มเงียบๆ ไม่ให้คนตัวสูงกว่าสังเกตเห็น

ใครจะไปรู้ล่ะว่าการได้จุมพิตกับคนที่ชอบมันจะรู้สึกดีขนาดนี้ตอนนี้เขารู้สึกโหยหามันแล้วล่ะ

“ใบไผ่”

“หะ อือ” ใบไผ่ขานรับด้วยความตกใจเพราะอยู่ๆ คิมหันต์ก็เรียกชื่อเขาขึ้นมา

“หนาวไหม ผมจะได้เบาแอร์ให้”

“ไม่ครับ พอดีแล้ว” ใบไผ่ตอบพลางเอียงตัวนอนหลับไปอีกครั้งคิมหันต์แอบมองใบไผ่เป็นระยะ พลางอมยิ้มไปเพราะเขามีความสุขและใจเต้นแรงที่ได้ใกล้ใบไผ่ขนาดนี้ และสิ่งที่เขาทำไปเมื่อกี้ด้วย ได้แต่หวังว่าใบไผ่จะไม่โกรธที่ไปล่วงเกินใบไผ่แบบนั้น