9 ตอน Chapter 8
โดย T.mines
Chapter 8
Number nine My Sun
หมายเลขเก้าของดวงตะวัน
#IXMYSUN
ติ่ง ติ่ง เสียงการแจ้งเตือนข้อความจากแอฟสีเขียว
เรียนวิดวะมาทำงานบริหาร (6)
Q : ใครว่างเจอกันที่ผับ XXX ตอนสองทุ่มนะพวกมึง
Q : Location**
IX : ร้านแถวมอ มึงไปแดกไรแถวนั้น
J-O love Ice: ไอ้คิวกะไปแดกเด็กเหรอมึง
Q : ใครจะมา กูจองโต๊ะแล้ว
IX : กูว่างนะไปได้ เจอกันสามทุ่มนะมึง
Q : แล้ว? @VEE @J-O love Ice @Jasmin @ MaAple
Jasmin : กูออกทริปปั๊มลูกอยู่ ตอนนี้อยู่ฝรั่งเศสกลับไปได้มั่งมึง
Jasmin : กูบอกพวกมึงไปตั้งแต่ก่อนเดินทางแล้ว @Q ไอ้ควาย
VEE : กูอยู่เชียงใหม่ มาทำงาน
J-O love Ice: เมียเลิกกองดึก รอรับกลับบ้านพร้อมกัน ไม่ไป
Q : สัด เพื่อนกู ไอ้วีอยู่กับผัว ไอ้เจโอเฝ้าเมีย
Q : เมเปิลจ๋ามาไหมคะเธอ
Maple : ไม่ว่าง ช่วงนี้ต้องออกต่างจังหวัดบ่อย
Q : สรุปมีกูกะไอ้เชี่ยไนน์เนี่ย พวกมึงแม่งทิ้งเพื่อน
IX : พน.กูต้องไปOuting แต่กูสงสารหมาตัวนึงไปคนเดียว
IX : หรือว่าเสือที่หุ้มหนังแกะรอกินแฮมเตอร์
Q : สัส มึงมาเจอกูเลยไอ้ไนน์ กูรอนะมึง
IX : กูรู้นะ.... เออเจอกัน
ไนน์กลับจากที่ทำงานจัดกระเป๋าเดินทางของวันพรุ่งนี้ เสร็จแล้วเขาก็ไปอาบน้ำแต่งตัวออกไปเที่ยวผับตามที่นัดไว้กับเพื่อน ผับที่เขามาคุ้นเคยเป็นอย่างดีสำหรับเด็กที่เรียนมหาลัยที่นี่ อย่างน้อยถ้าเป็นเด็กที่เที่ยวต้องมาอย่างน้อยสักครั้ง แต่สำหรับพวกเขาเด็กวิศวะ นับครั้งไม่ถ้วน เขาไม่ได้บอกคีนเอาไว้ว่าจะไปเที่ยวต่อ เขาขับรถคันโปรดไปยังที่นัดหมาย หยิบโทรศัพท์หาคิวทันที
“กูถึงแล้ว”
(ชั้นสอง วีไอพี ขึ้นมาเลยกูชงเหล้ารอ)
เขาเดินขึ้นมาถึงลงนั่งตรงข้ามเพื่อนสนิท รับแก้วเหล้ายกมาจิบ ยืดคอมองกวาดสายตาไปรอบ และจบลงด้วยการหันมามองหน้าเพื่อนอีกที คิวที่เห็นอาการกวนตีนของเพื่อนสนิทจึงเอ่ยถาม
“มองหาใครวะ?” คิวถามขึ้นและหันมองตามเพื่อน
“มองหาคนที่มึงจะมาเฝ้าไง ยังไม่มาเหรอว่ะ” เขายกแก้วเหล้าขึ้นมาดื่มจนหมด และส่งให้มันชงต่ออีกแล้ว
“กูมาเที่ยว มาเฝ้าใครไม่มี…” คิวตอบเทเหล้าใส่ลงในแก้ว
“แล้วไป” ไนน์ไหวไหล่แบบไม่ใส่ใจ “ช่วงนี้งานเป็นไงมั่ง ขึ้นมาบริหารเต็มตัวแล้วนิ”
คิวยกขาขึ้นมาพาดที่โต๊ะ “ยังไม่เท่าไหร่ ตอนนี้พ่อกูย้ายตัวเองไปเป็นที่ปรึกษาตามหน้าที่ มีอะไรให้ไปถามได้ แต่ไม่เคยอยู่ให้ถามเลยมึง หนีไปเที่ยวกับแม่กูตลอด แว่วๆ ว่าหลังจากจบไตรมาสปลายปีจะปล่อยให้กูทำและไปทัวร์รอบโลกกันสองคน” คิวยังทำเหม็นเบื่อ “แล้วมึงล่ะ”
“กูคงอาจจะออกเร็วๆ นี้แหละ โดนสั่งให้ไปเปลี่ยนนามสกุลมา ก็เหมือนเร่งกูทางอ้อมว่ะ”
“จริงดิ แต่ว่าไอ้พวกที่ด่ามึง ถ้ารู้ว่ามึงเป็นใคร จะทำหน้ายังไงวะ” คิวหัวเราะหึหึอย่างชั่วร้าย
“ช่างมันเถอะมึง มันแค่วงแคบๆ ไม่ได้ออกไปถึงข้างนอก กูขี้เกียจวุ่นวาย น่ารำคาญจะตาย”
“เป็นคนดีว่างั้น” คิวมองหน้าเพื่อนสนิทอย่างแปลกใจ
“ไม่ กูแค่รำคาญเท่านั้น” เขายกมือโบกปัดไป “อ่ะ คนที่กูมองหามาสักที ไม่เจอตั้งนาน ยังน่ารักเหมือนเดิมเลยว่ะ” เท้าที่พาดอยู่บนโต๊ะ เกือบยันเข้าที่หน้าของเขาด้วยความที่รู้จักกันมานานทำให้เบี่ยงตัวหลบทัน “คีย์ คีย์ทางนี้ครับ” ไนน์ตะโกนเรียกหนุ่มน้อยหน้าใส ตัวเล็กน่ารัก แก้มตุ๋ยๆ เหมือนเจ้าแฮมเตอร์ตัวน้อยให้มาหา
“เรียกมาทำไมว่ะ” คนที่ยังอยู่ด้วยกันถลึงตาใส่
คนที่โดนเรียกหันมาพยักหน้าตอบรับ หันไปคุยกันภายในกลุ่มและชี้มาทางพวกเขา พากันยกโขยงมากันหมด เขาและคิวหันมองหน้ากันอย่างงุนงงว่ามากันทำไมหมด
“สวัสดีครับพี่คิวพี่ไนน์” คีย์ยกมือไหว้เขาทั้งสอง ขมวดคิ้วด้วยความสงสัยที่เจอพวกเขา “นี่สายรหัสผมครับพี่” ที่เหลือไหว้ “พี่คิวพี่ชายคีย์เอง ส่วนพี่ไนน์เพื่อนสนิทพี่คิวครับ” พวกเขารับไหว้รุ่นน้องร่วมสถาบัน
เขาและคิวรับรู้แล้วว่าทำไม สายรหัสทั้งหมดถึงมาทั้งหมด หญิงสาวที่มาด้วยส่งสายตาหวานหยาดเยิ้มมาให้พวกเขา ชายหนุ่มส่งสายตาให้คิวเพื่อนรักที่รู้ใจเห็นชาติกัน สนใครวะ คิวรีบส่งสัญญาณให้ทันทีว่า อย่าเพิ่งมากวนเขาต้องการคุยกับน้องชายผู้น่ารัก
เขาส่งยิ้มอ่อนให้คนที่เหลือ “คีย์อยู่คุยกับพวกพี่ก่อน เดี๋ยวสักพักผมจะปล่อยให้คีย์ตามไปที่โต๊ะนะครับ” เป็นการบอกว่าต้องการแค่น้องชายเพื่อนคนเดียว คนที่เหลือพากันยกมือไหว้ขอบคุณและพากันกลับไปที่โต๊ะ หญิงสาวยังทำหน้าเสียดายที่ไม่ได้นั่งร่วมโต๊ะให้แก่ไนน์
“คีย์หนูมานั่งกับพี่นี่ อย่าไปนั่งใกล้ไอ้ไนน์ มันคนไว้ใจไม่ได้” มือหนาๆ คว้าแขนเล็กของน้องชายลงไปนั่งข้าง
“ทำไมพวกพี่มาเที่ยวที่ล่ะครับ” คีย์ขมวดคิ้วกับปากที่ยู้เล็กน้อย ส่วนไอ้พี่ชายทำหน้าเหมือนอยากจะเข้าไปกัดปาก
“เอ่อ..” คนที่ถูกชวนมากำลังจะพูด แต่กลับโดนเพื่อนตัวดีพูดดักก่อน
“ไอ้ไนน์มันชวนพี่มา มันบอกว่าอยากหาอาหารตามันมั่ง ช่วงนี้มันหิวไม่มีอะไรตกถึงท้อง” เขาที่โดนกล่าวหา ยักคิ้วใส่พร้อมสวนกลับบ้าน
“พี่ก็ชวนทั้งกลุ่มแหละ มีแต่ไอ้คิวคนเดียวที่มันสนองทันที” ...เอาสิมึงคิดว่าเล่นกูได้คนเดียวหรือไง...
คิวอาศัยจังหวะที่น้องชายเผลอชี้หน้าเพื่อนรัก ขยับปากด่าไม่ออกเสียงว่า เชี่ย “ว่าแต่หนูจะกลับตอนไหน แล้ววันนี้กลับบ้านหรือนอนคอนโด” มือลูบหัวน้องชายไปพลาง หันมองซ้ายมองขวากวาดสายตาไปมองบรรดาหมาป่าที่จ้องจะคาบเจ้าแฮมเตอร์น้อยตัวนี้
“นอนคอนโดครับ วันนี้น่าจะดึกและเมาด้วยครับ” เจ้าแฮมเตอร์น้อยตอบมา
ส่วนคนที่ส่วนเกินตอนนี้ได้แต่นั่งเบะปาก ...พวกมึงมั่นใจนะว่าพี่น้องกัน คนอื่นจะมองว่าแฟนกันแน่ๆ ...
“ผมขอตัวก่อนนะครับ เดี๋ยวคนอื่นจะว่าเอา” คีย์เตรียมตัวลุกขึ้น พี่ชายที่แสนจะดีคว้าข้อมือ
“จะกลับเรียกพี่นะ พี่นั่งรออยู่ตรงนี้แหละ จะได้กลับคอนโดพร้อมกันนะโรม” คิวมักจะเรียกคีย์ด้วยชื่อเก่าและห้ามให้คนอื่นเรียก แบบว่าเรียกกันแค่สองคนพี่น้องเนี่ย
“อืม...” เจ้าหนูแฮมเตอร์น้อยพยักหน้ารับและเดินออกไป
“แม่งน่ารักว่ะ” เสียงสบทเบาๆ จากเพื่อนคิว เขาถึงกับนวดหัวคิ้ว
“คิว กูรู้ว่าคีย์ไม่ใช่น้องแท้มึง อย่าให้มันมากนะคนอื่นจะมองน้องไม่ดี กูเตือนไว้ก่อน” เขาจ้องหน้าเพื่อนด้วยแววตาที่จริงจัง
“เออ รู้แล้ว ว่าแต่น้องนั่นพี่รหัสโรมส่งยิ้มให้มึงตลอดเลยนี่ สนไหมวะ” ไนน์หันกลับไปมองยังโต๊ะพร้อมกับยกแก้วเหล้าให้
เขาและคิวนั่งคุยกับสัพเพเหระต่างๆ เรื่องงาน เรื่องเก่าสมัยเรียน จวบจนเวลาเลยมาถึงสี่ทุ่ม ไนน์รู้ว่าต้องกลับแล้ว เขาหันไปมองหญิงสาวที่เป็นพี่รหัสน้องชายเพื่อน น้องเขายังส่งยิ้มมาให้ตลอด
“กูไปเข้าห้องน้ำก่อนนะ ที่เหลือมึงเคลียร์ให้หมด โทษฐานที่ให้กูเป็นข้ออ้าง แล้วเจอกันเพื่อน” เป็นอันเข้าใจกันว่าถ้าลุกไปแล้วคงไม่กลับมาแล้ว
“...” คิวพยักหน้าให้และเข้าใจว่าเพื่อนเขาคงไปต่อกับหญิงสาวแน่นอน เขาลอบมองอยู่ระหว่างที่เพื่อนเขาเดินลงไป ไม่นานนักหญิงสาวคนนั้นก็หยิบกระเป๋าและเดินตามออกไป
ชายหนุ่มเปิดประตูรถคันหรูให้หญิงสาวเข้าไปนั่งและขับตรงไปยังโรงแรมหรูสุดในย่างนี้ และต้องไม่ใช่โรงแรมในเครือของเขาแน่นอน
แกร็ก ประตูปิดสนิท หญิงสาวเข้ามาจูบปลุกเร้าอารมณ์เขา เขายิ้มกริ่มในใจก่อนจะจูบตอบกลับ หญิงสาวอ้าปากเล็กน้อยให้เขาสอดแทรกลิ้นเข้าไป รสจูบที่ห่างหายไปตั้งแต่กลับจากไปเที่ยว เขาหวนคิดถึงการจูบกับอีกคนรสที่หอมหวาน ไนน์หลับตาไล่ความคิดถึงนั้นออกไป พยายามกดจูบกับคนตรงหน้าต่อ สองมือลูบไล้ลงไปยังสะโพกค่อยไต่ขึ้นมาคลึงสองเต้าอันอวบอิ่มตะปบจับด้วยมือทั้งสอง เขาขมวดคิ้วแทบจะผูกเป็นปม ทำไมไอ้ลูกชายตัวดีไม่ยอมตื่นขึ้นมาสักที หญิงสาวดันสะโพกเข้ามาเบียดแต่เจ้าสิ่งนั้นยังนิ่งสนิท อีกฝ่ายดันตัวเขาให้ไปนั่งลงบนโซฟาคุกเข่าตรงหว่างขา คลายหัวเข็มขัดออกก่อนจะใช้ปากรูดซิปกางเกงลง
เขาใช้มือดันหัวไว้ก่อนจะเกินเลยไปมากกว่านี้ “ยะ หยุดก่อนครับน้องแพร” ถ้าเขาจำไม่ผิดน้องน่าจะชื่อนี้แหละ
“...” หญิงสาวเงยหน้าช้อนตาขึ้นและกันริมฝีปากเล็กน้อย อย่ายั่วยวน
“ผมนึกขึ้นได้ว่ามีธุระด่วนนะครับ ขอโทษด้วยนะ” เขาดันหัวคนที่นั่งอยู่ข้างล่างออก ลุกขึ้น เปิดกระเป๋าเงินและส่งเงินให้จำนวนหนึ่งแก่เธอ “ค่าเสียเวลากับค่ารถนะครับ” ก่อนจะเดินหนีไปยังระเบียงออกไปสูบบุหรี่
“ไอ้บ้าเอย!!” หญิงสาวตะโกนด่าตามหลังที่เขาเดินออกมา เสียงส้นสูงกระทืบพื้นแต่เขาเลือกที่จะไม่สนใจ
ควันสีขาวลอยฟรุ้งในอากาศนี่เป็นมวนที่สองแล้ว เขายังคิดถึงซันอยู่ คิดถึงสัมผัส คิดถึงรสจูบ คิดถึงดวงตาเจ้าเล่ห์ คิดถึงอ้อมกอดที่อบอุ่น เขาหยิบโทรศัพท์โทรไปหาคิวเพื่อนรัก
(มีไร) เสียงปลายสายติดหงุดหงิด
“มึงเคยคิดถึงใคร ตอนนี้กำลังจะมีเซ็กส์กับอีกคนไหมว่ะ”
(ไม่ว่ะ อารมณ์ตอนนั้นแค่อยากปลดปล่อยท่านั้น ทำไมว่ะ)
“คือกูเผลอคิดถึงใครคนหนึ่ง แล้วลูกชายกูแม่งไม่ยอมตื่น”
(เชี่ย! แต่น้องนั่นเอ็กซ์ขนาดนั้นนะมึง มึงไม่มีอารมณ์ได้ไงว่ะ หรือว่ามึง..)
“มีอะไร?”
(ชอบคนคนนั้นว่ะ ไอ้เชี่ยเพื่อนกูมีความรัก)
“ห๊ะ!!! อย่ากูเนี่ยนะ ตลกแหละมึง” ไนน์ถึงกับทำหน้าเลิกลักในสิ่งที่เพื่อนบอกมา
(งั้นกูถามหน่อย ตอนนี้มึงกำลังคิดถึงใครอยู่หรือเปล่า คนนั้นหรือน้องที่เพิ่งออกไป)
“...”
(ไม่ตอบ แต่ถ้าคิดถึงคนนั้นก็แสดงว่ามึงอาจจะรู้สึกดีกับคนนั้นนะ)
“คิว กูไม่ได้คิดถึงใครทั้งนั้น กูคิดถึงแต่ลูกชายกูว่าทำไมมันไม่ทำงาน” เขาโกหกเพื่อน ตอนนี้ในหัวเขามีความสับสนและที่แน่ๆ ยังมีใบหน้าของซันอยู่เต็มๆ
(อ่ะๆ ถ้างั้นกูว่ามึงคงเครียดแหละทำงานเยอะไป ความเครียดมีผลต่อสมรรภาพทางเพศ)
“เฮ้ย...คงเครียดแหละมึง” ไนน์ยกมือมานวดหน้าผาก
(แค่นี้นะมึง กูจะพาโรมกลับแล้ว น้องเริ่มเมามาก หมาข้างถนนแม่งเยอะสัด)
“เออ ขับรถกลับดีๆ ล่ะมึง”
(ไอ้ไนน์ ถ้าพรุ่งนี้เช้าลูกชายมึงไม่ตื่นมาเคารพธงชาติโทรหากูเลยนะ กูจะพาไปหาหมอ เสื่อมแน่ ไม่งั้นก็รีบไปสารภาพรักกับคนนั้นซะ ฮ่า ฮ่า) เขากำลังจะอ้าปากด่ากลับ ไอ้เพื่อนตัวดีดันรีบตัดสายซะก่อน เสียงหัวเราะแบบสะใจของคิวยังติดอยู่ที่หู
เข้าวันรุ่งนี้เขาให้คีนบอร์ดีการ์ดขับรถมาส่งที่บริษัทตอน 7โมงเช้า เตรียมตัวไปทริป outing ครั้งสุดท้ายมุ่งหน้ายังปราณบุรี ออกเดินทางด้วยจำนวนรถบัสทั้งหมด 10 คัน ทริปของบริษัทจะแบ่งเป็นสองรอบ เพื่อไม่ให้งานต้องหยุดชะงัก และถ้าหาใครเลือกที่ไม่มาทางบริษัทจะจ่ายค่าแรงให้สองเท่าเป็นค่าตอบแทน
นั่งรถใช้เวลาสองชั่วโมงครึ่งมาถึงยังจุดหมาย พนักงานต่างพากันแยกย้ายไปรับกุญแจห้องและนำสัมภาระไปเก็บยังห้องพักตามที่กำหนดและลงชื่อไว้ ห้องพักจะพักห้องล่ะสามคน เขาได้อยู่ร่วมกับไอ้เด็กฝึกงานสองคนปลากัดกับโฟม ความจริงพวกมันฝึกจบแล้ว แต่ด้วยความอยากเที่ยวและกินฟรีมัน พวกมันยอมกอดขาและคุกเข่าอ้อนวอนพี่เกื้อผู้จัดการแผนกของมาด้วย อยากเที่ยวร่ำลากับพวกพี่ก่อนจะไม่ได้เจอกันอีก
“พี่ไนน์เอาเตียงไหนพี่ เลือกเลยพี่ เตียงเสริมพวกผมนอนเอง” โฟม
“พี่นอนเตียงเสริมเอง กูจะทิ้งตัวนอนได้ง่ายเวลาเมา ขี้เกียจลากตัวเดินไปไกล” ไนน์เดินลงไปนั่งที่เตียงเสริมทันที
“แต่พี่...” เจ้าเด็กฝึกงานทั้งสองคนทำหน้าแบบรู้สึกผิด
“เออ เอาตามนี้แหละ กูว่าบางทีอาจจะไม่ได้นอนด้วยซ้ำ รวมทั้งพวกมึงด้วย”
ปลากัด “ใช่พี่ คงเมาเละกันน่าดู” และเจ้าโฟมก็พยักหน้าเห็นด้วย
ไนน์ทิ้งตัวลงไปนอน หยิบโทรศัพท์มาเล่นเกม “กิจกรรมเริ่มกี่โมงว่ะ”
ปลากัดกับโฟมที่กำลังจะรื้อของออกกระเป๋า “เริ่มบ่ายโมงพี่ แต่เขาให้ลงไปกินข้าวก่อนเปิดงานนะ” โฟมที่ตอบมา
“เออจะลงไปเรียกกูด้วย กูเล่นเกมรอแล้วกัน” พูดจบเขาก็กลับไปจดจ่อกับเกมต่อ
หลังจากกินข้าวเที่ยงเสร็จทุกคนมารวมตัวกันยังลานกว้าง ยืนแยกกันไปตามความสนิท เขายืนสูบบุหรี่รวมตัวอยู่กับแผนกวิศวกรรมและฝ่ายช่าง เนื่องจากที่บริษัทเหมาโรงแรมไว้จึงไม่มีแขกอื่นมาปนอยู่ในกลุ่ม
“พี่เกื้อครับ ที่ผมคุยกับพี่ไว้คราวก่อน เรื่องที่ผมจะลาออก ผมต้องยื่นเรื่องเลยเปล่าครับ” เขาเดินเข้ามาคุยกับผู้จัดการแผนก และแน่นอนเขาเลือกจะออกก่อนที่กำหนดไว้กับที่บ้าน2เดือน
“เฮ้ คนทำงานเก่งจะออกอีกคนเหรอว่ะ ไอ้ไนน์มึงจะไปทำงานที่ไหน” พี่เชาว์หัวหน้าฝ่ายซ่อมบำรุงเขามาถามและกอดคอเขา
“ไม่ได้ไปทำที่ไหนพี่ ผมต้องไปทำเข้าไปทำงานของที่บ้านครับ” เขาเลือกตอบแบบขอไปที
“ที่บ้านมึงทำอะไรวะ?”
“จำพวกอสังหาริมทรัพย์ สร้างคอนโด โรงแรมประมาณนี้แหละครับ” และนี้เป็นอีกครั้งที่เขาเลือกตอบความจริงแต่ไม่บอกทั้งหมด
“รับเหมาก่อสร้างเหรอว่ะ อย่างนี้ที่บ้านก็รวยอ่ะดิ” พี่เกื้อหันมาแซวพร้อมกับตบไหล่เขา “กลับไปก็เขียนใบลาออกมาเลย พี่จะได้รีบหาคนมาให้เราสอนงานก่อนออก”
“ขอบคุณครับพี่” เขายกมือไหว้เกื้อกูล
พนักงานเริ่มเข้ามารวมตัวกันมากขึ้น พิธีกรเดินขึ้นไปบนเวที พร้อมกล่าวทักทายพนักงาน
“สวัสดีค่ะ ชาวTNT มารวมตัวกันตรงนี้ครบกันหรือคะ”
“ครับสวัสดีครับ ผมเดย์กับคุณน้ำค้างขึ้นมารับหน้าที่เป็นพิธีกรในวันนี้”
“ทุกคนมาพร้อมกันหรือยังค่ะ”
“ก่อนจะเริ่มกิจกรรมในวันนี้ ผมขอเรียนเชิญคุณอาคิรา อัศวธาดานนท์ รองประธานฝ่ายบริหารขึ้นมากล่าวเปิดงานในวันนี้ ปรบมือหน่อยค่ะ” เสียงปรบมือต้อนรับคนที่เชิญขึ้นบนเวที
“สวัสดีครับพนักงาน TNT ทุกคนผมอาคิรา อัศวธาดานนท์ รู้สึกเป็นเกรียติมากที่ได้ขึ้นมากล่าวเปิดงานในวันนี้ ก่อนอื่นผมต้องขอขอบคุณพนักงานทุกท่านที่ทำงานกับอย่างเหน็ดเหนื่อยให้แก่บริษัทของพวกเรา ถึงผมจะเข้ามาทำงานได้ไม่นานผมรับรู้ถึงความพยายามของพนักงานทุกคน ในฐานะผู้บริหารคนหนึ่งผมขอสัญญาว่าจะทำให้บริษัทเราเติบโตยิ่งขึ้นไป ได้เวลาอันสมควรผมขอเปิดงาน Outing TNT ครั้งที่X ประจำปีXX ครับ” หลังจากที่พูดจบตามสคลิปที่เข้าได้รับมาเดินลงไปยังด้านล่างทันที เขาไปยืนรวมกลุ่มและกล่าวคำทักทายผู้จัดการแผนกต่างๆ ยังรวมไปถึงกรรมการบริหารคนอื่นๆ
ระหว่างที่รองประธานบริหารขึ้นกล่าวเปิดงาน ไนน์จ้องคนพูดอย่างไม่ละสายตาจากเวที คนที่เขาเพิ่งจะขึ้นถึงเมื่อคืนกลับมาโพล่งอยู่ตรงหน้า คนที่เขาพยายามหนี คิดว่าคงจะไม่เจอแต่ถ้าจะเจอคงไม่ใช่แบบนี้ ใจเต้นแทบจะหลุดออกจากอก จนอยากจะเดินเข้าไปหาเดินเข้าไปทัก ยิ้มทักทาย
แต่กลับมีอีกเศษเสี้ยวความกลัวปรากฏขึ้นมา สิ่งที่เขาทำในวันนั้นมันอาจจะทำลายความรู้สึกดีๆ ระหว่างเราไปจนหมดแล้วก็ได้ ความรู้สึกผิดกัดกินหัวใจ เขาเลือกที่จะหลบหนีอีกครั้ง เขากลัวว่าจะทำลายความรู้สึกดีนั้นอีกครั้ง ไนน์คิดเข้าข้างตัวเองว่าคนนั้นยังคงมีความรู้สึกดีคงเหลืออยู่ มันเป็นเหตุผลที่โคตรงี่เง่าในตอนนี้เลย
ไนน์หันไปบอกกับเกื้อว่าไม่ขอร่วมกิจกรรมช่วงบ่าย เพราะเกิดปวดหัวขึ้นมากะทันหันและขอไปนอนพักในห้อง เดินเลี่ยงออกไปอย่างเงียบๆ ซันมองตามคนที่หนีการร่วมกิจกรรม แน่นอนเขาเห็นตั้งแต่เดินเข้ามาในลานกิจกรรม เขาจำได้ถึงแม้จะอยู่ในกลุ่มคนแต่อย่างที่มีคนเคยพูดไว้ ถ้าเราสนใจใครเราจะจำและเห็นภาพคนนั้นตลอดเวลาแม้เขาจะอยู่ท่ามกลางคนมากมายแต่เราก็ยังเห็นเขาอยู่เสมอ
...อยู่ใกล้แค่นี้ แล้วปล่อยให้พี่วิ่งตามหาไปทั่ว น่าจะมาตีก้นนักนะเรา...
ซันหันไปสั่งหนุงหนิงเลขาส่วนตัวอยู่จัดการและร่วมกิจกรรมกับพนักงานแทนเขา และอ้างว่าอากาศร้อนเขาไม่ค่อยคุ้นชินและขอตัวไปพักผ่อน เดินเลี่ยงไปตามคนที่พยายามหลบหน้ากันทันที
ไนน์ก้าวเดินกำลังจะเข้าประตูโรงแรม หมับ!!!
“จะหนีไปไหนครับ?” แขนของไนน์โดนมือหนาๆ คว้าไปอย่างแน่นราวกับคีมคีบอันใหญ่
“เฮ้ย..” ไนน์ร้องโวยวายขึ้นมาทัน ตาเลิกขึ้นหน้าซี้ดราวกับเห็นผี เขาไม่คิดว่าอีกคนจะตามมา ไม่สิไม่คิดว่าอีกคนจะรู้หรือเห็นเขาด้วยซ้ำถึงรีบหนีออกมาก่อน
“ห้ามโวยวายและตามมาครับ” ซันก้าวเข้าไปชิดและกระซิบที่ห้างหูด้วยอีกประโยค ใบหน้าที่ซี้ดตอนแรกกลายเป็นสีแดง ก่อนที่หันมาถลึงตาใส่ร่างสูง
ร่างสูงลากอีกคนมายังสวนเล็กทางด้านทางของโรงแรม ตอนนี้ว่างร้างผู้คน มีเพียงแต่พนักงานเดินอยู่ไกล ซันปล่อยมือที่ลากร่างโปร่ง หันมามองหน้าใช้มือข้างที่ถนัดกดที่ท้ายทอย ส่วนอีกข้างตวัดรวบเข้าที่เอว ก่อนจะประกบปากลงบนริมฝีปาก บดจูบอย่างหิวโหยสัมผัส ลิ้นที่สอดเข้ามาเลาะเลียทั่วโพรงปาก ไนน์เอียงหน้าปรับองศาให้การจูบดูดดื่มขึ้น เขายกขึ้นไปคล้องคอคนผู้พี่ ความรู้สึกคิดถึงและโหยหาของกันและกัน ไม่รู้ว่าทั้งสองจูบกันไปนานขนาดไหน ทั้งคู่พละจูบออกจากกัน ยกสายตามองสบกัน รอยยิ้มที่อีกคนส่งมายังชายหนุ่ม แววตาที่ดีใจเจือปนความน้อยใจ ส่วนเขาเองยกมือขึ้นมาปาดน้ำลายที่เลอะที่มุมปาก
ซันกดหัวลงมาซบที่ไหล่ของร่างโปร่ง “พี่คิดถึงเราที่สุด” คำว่าคิดถึงไม่ใช่มีเพียงแค่ซันคนเดียวเท่านั้นแต่รวมถึงไนน์ด้วยอีกคน เขาอยากกอดคนตรงหน้า แต่สิ่งที่กลัวว่ามันจะเลยเถิดไปมากกว่านี้ แต่ในส่วนลึกเขาอยากทำตามใจตัวเอง ถ้าอยากครอบครองคนนี้เขาจะเป็นไง จะมีความสุขไหม จะทำให้คนนี้เสียใจไหมจะทำร้ายความรู้สึกอีกคนอีกไหม
แต่เขากลับเลือกที่พูดประโยคนี้ออกไป “ไม่ใช่พี่ซันคนเดียวที่คิดถึง ผมก็คิดถึงพี่ซันเหมือนกันครับ” คนที่ตัวโตกอดอีกคนให้แน่นอีก เขากลัวว่าจะหนีหาไปอีก
“อย่าหายไปอีกนะ พี่ขอร้อง” สัมผัสเปียกชื้นบนไหล่ของไนน์
“ครับ” เสียงรับปากที่เบารับรู้แค่สองคน แต่มันหนักแน่นของเขาทั้งคู่
“ไปข้างในเถอะพี่มีเรื่องจะถามเราหลายเรื่องเลย รู้ไหมว่ามีความผิดติดตัวอยู่นะ” เสียงกดเข้มกึ่งหยอกเย้าคนน้อง
“...”
ซันเดินจูงมือนิ้วที่สอดประสานกันทั้งห้านิ้ว ตั้งแต่ไหนแต่ไรเวลาที่พวกเขาจับจูงมือก็จะเป็นแบบนี้ตลอดอยู่แล้ว ซันตั้งใจจะพาอีกคนขึ้นไปยังห้องพักของเขาแบบห้องสวีตขึ้นอีกสองชั้นที่แยกส่วนออกจากพนักงาน
“พี่ซัน...” เสียงหวานจากหญิงสาวที่ตะโกนเรียกมาทางด้านหลัง เขาทั้งคู่หันไปตามเสียงเรียก ไนน์มีสติมากกว่ารีบชักมือออกทันที
วีว่าหรือวีรดา บุตรสาวของคุณหญิงรำไพ วรพงษ์วานิช เพื่อนสนิทของแม่ชายหนุ่มตัวโต ที่แม่ของเขาหมายหมั่นปั้นมือว่าอยากได้เป็นลูกสะใภ้ เธอเป็นผู้หญิงที่เพียงพร้อมด้วยหน้าตาและการศึกษา สิ่งที่เสียอย่างเดียวของเธอถึงการเอาแต่ใจ ด้วยความที่เป็นคนเล็กของบ้านเลยดูตามใจจนเคยตัว
“...”
“มาทำอะไรแถวนี้ค่ะ ไหนบอกเลขาว่าจะไปพักค่ะ วีว่าขึ้นไปหาบนห้องก็ไม่อยู่เลยเดินลงมาตามหาข้างล่างค่ะ” วีว่าทำปากยู้ใส่ร่างสูง ก่อนจะหันมาเห็นบุคคลอื่นอยู่ร่วมในบทสนทนาครั้งนี้ด้วย “นี่ใครคะ” ตวัดสายตาอย่างไม่พอใจให้แก่ไนน์
...อ้า แต่นี่ก็ไม่ชอบแล้วเหรอ ยังไม่ทำอะไรให้เลย...
“วีว่ามาได้ไงครับ” เขาเลี่ยงไม่ตอบคำตาม
“ที่บ้านมาส่งค่ะ แล้วนี่ใครพี่ซันยังไม่บอกวีว่าเลยนะคะ มาเกาะแกะพี่ซันหรือเปล่าคะ” หญิงสาวรีบเขามาแทรกตรงกลางระหว่างเขาทั้งคู่ ยกมือมาเกาะแขนเขาแสดงความเป็นเจ้าของทันที
ชายหนุ่มรับรู้ถึงบรรยากาศและรังสีความหึงหวงที่แผ่ออกมา “ผมไนน์ครับ เป็นพนักงานบริษัท TNT พอดีว่าผมไม่ค่อยสบายกำลังจะไปพักแล้วเจอคุณซัน..คุณอาคิราพอดีครับ”
“เหรอคะ ฉันวีว่าค่ะ เป็นว่าที่คู่หมั้นพี่ซัน” หญิงสาวประกาศกร้าวออกมาด้วยความมั่นใจ
...ว่าที่คู่หมั้นเหรอ...
ความสุขที่มีก่อนหน้าหายไปราวกับลมที่พัดผ่าน ใบหน้าเขาถูกปรับให้เรียบนิ่ง ส่วนอีกคนได้แต่ส่ายหน้าไปมา ในใจแต่พร่ำบอกอีกคนว่าไม่ใช่คู่หมั้นพี่นะ เพราะว่าทั้งสามอยู่ตรงหน้าทางเข้าโรงแรม มีคนอยู่บ้าง เขากลัวว่าถ้าบอกว่าไม่ใช่จะกลายไปหักหน้าหญิงสาว
“ถ้าไม่มีอะไรงั้นผมของตัวนะครับ” ร่างโปร่งหันหลังเดินหนีไปอย่างเร็ว จนคนอีกอยากจะคว้าตัวก็ไม่ทันซะแล้ว
คล้อยหลังจากคนที่เดินจากไปหญิงสาววีว่าลากว่าที่คู่หมั้นของเธอมายังลานกิจกรรมที่พนักงานกำลังรวมตัวกันอยู่
“พี่ซันค่ะ ดูพวกพนักงานเค้าทำกิจกรรมกันเถอะค่ะ น่าสนุกดี” วีว่าเดินควงซันไปจุดพักที่กลุ่มทางบอร์ดบริหารยืนรวมตัวกันอยู่
“สวัสดีค่ะ คุณุลุงเซน สบายดีไหมคะ” หญิงสาวรีบยกมือไหว้ประธานบริษัทหรืออีกนักหนึ่งคือพ่อของซันนั่นเอง
“อ้าว สวัสดีลูก วีว่ามายังไงเนี่ย ช่วงนี้ลุงไม่ค่อยได้เจอเรากับแม่เราเลย แม่เราสบายดีไหม” เซนกล่าวทักทายหลานสาว
“คุณแม่สบายดี ท่านบ่นอยู่ว่าตั้งแต่พี่ซันกลับมาไปไม่ยอมไปเยี่ยมบ้างเลย วีว่ากะเสร็จงานนี้จะลากกลับไปเยี่ยมพร้อมเลยค่ะ” วีว่าส่งยิ้มหวานให้แก่ชายหนุ่มที่ยืนควงอยู่
“แล้วเราหายไปไหนมา พ่อถามหากับเลขาบอกว่าเราไปพักไม่ใช่เหรอ” เซนมองหน้าลูกชายที่ตอนนี้เหม็นเบื่อเต็มทน แค่บังคับให้มาร่วมกิจกรรมและขึ้นกล่าวเปิดงานแทบจะตีกันบ้านแตก แล้วยังจะมาโดนแม่ตัวเองพยายามจับคู่ให้อีก เขาน่ะเห็นใจลูกแต่จะขัดคนเป็นเมียก็ยากอีกแหละ
“พอดีอาการมันร้อนนะครับ เลยหนีไปหาที่เย็นๆ พักหน่อย” ซันตอบด้วยน้ำเสียงเรียบๆ แต่ใจกลับร้อนอยากจะไปง้อคนที่งอนเดินหาไป จะไปถามหาว่าพักอยู่ห้องไหนเขาก็กลัวว่าจะทำให้น้องดูไม่มี คงปล่อยให้งอนไปก่อนแล้วค่อยง้อ
ตั้งแต่แยกจากอีกคนมา ไนน์หัวเสียอย่างมาก แทบอยากจะลงไปกระทืบไอ้คนหลอกลวงสิ้นดี มีว่าที่คู่หมั้นอยู่ยังจะมาตามจีบอีก เขาไม่เคยให้ใครก้าวข้ามเข้ามาใกล้เฉียดความรู้สึกดีๆ แบบนี้ นี่เป็นคนแรกและครั้งแรก
“โถ่โว้ย!! ไอ้บัดซบอย่าให้พ่อเจอนะ แม่งจะจัดหักกระดูกเลย หน็อยมีคู่หมั้นยังจะมายุ่งกับกู” ไนน์ยกมือขย้ำทั่วอย่างแรงระบายความหงุดหงิด นั่งหลับตาไล่เรื่องรกสมองออกจากหัน
ห้องบอลรูมของโรงแรมถูกจัดตกแต่งสำหรับงานเลี้ยงของพนักงาน บนเวทีมีการจัดเซ็ตอุปกรณ์ของวงดรีที่ถูกจ้างมาให้เล่นในวันนี้ ตรงลานกว้างชุดโต๊ะเก้าอีกจัดวางอย่างเรียงราว ไนน์โดนเด็กฝึกงานลูกคู่ลากไปยังซุ้มที่อยู่ทางด้านหลัง ที่จัดเตรียมไว้อาหารและเครื่องดื่มจัดไว้คอยบริการ พวกเขาทั้งสามหยิบอาหารและเครื่องดื่มติดไม้ติดมือหลายอย่าง
เกื้อเห็นลูกน้องทั้งสามเดินถือของกินมากวักมือเรียกให้มานั่งรวมโต๊ะ ส่วนคนอื่นมีพนักงานกำลังเริ่มทยอยตามมา “เฮ้ย พวกมึงสามตัวมานิ นั่งกับกูเลย กูหาเด็กชงเหล้าอยู่” ว่าแล้วพลางตบลงที่บ่าไนน์
“นี่ไอ้ไนน์ ไม่ชงครับ กระดกเพียงอย่างเดียว” ตบอกด้วยความภาคภูมิใจ
โฟม “เรื่องชงไว้ใจผมได้เลยพี่”
“ไอ้ไนน์มึงนี่อดอยากมาจากไหน ยัดซาลาเปาทีละเป็นเกือบสิบลูกแล้ว ไหนจะขนมจีบ ฮะเก๋าอีก มึงนี่กะไม่แดกอย่างอื่นเลยเหรอว่ะ” เกื้อทักขณะที่เขากำลังยัดซาลาเปาลูกที่เท่าไหร่ไม่รู้ ...มันกินเข้าไปขนาดนั้นได้ไงว่ะ... ตอนแรกเขากะว่าจะไม่ทักแต่พอหมดรอบแรกที่เอามา มันเดินไปหยิบมาอีกเท่าตัว ทำเอาทั้งสามคนที่ร่วมโต๊ะตั้งแต่แรกถึงกับอ้าปากค้างในการกินของเจ้าตัว
“พอดีชอบกิน รสชาติเหมือนเจ้าประจำที่กินกรุงเทพเลยพี่” ยกมือเกาแก้มแก้เขิน ยังมิวายยัดซาลาเปาไปอีกลูก
“ไอ้ไนน์แดกขนาดนี้มึงต้องไปขอบคุณ คู่หมั้นท่านรองประธานแล้วแหละ” เสียงตะโกนแทรกมาจากโต๊ะข้างๆ
“คุณวีว่านะ? ทำไมเหรอพี่?” ไนน์ขมวดคิ้วหันถาม
“กูได้ยินพวกออฟฟิชคุยกันว่า คุณอาคิราโทรไปสั่งพวกติ๋มซำมาเอง เลือกเจ้าที่อร่อยที่สุด พวกนั้นเลยชอบคุณเจ้านายยกใหญ่เลย แต่เสียงที่ตอบกลับมาอีกว่า ไม่ต้องขอบคุณหรอก พอดีคนที่ผมชอบเขาชอบกินผมเลยสั่งมาเผื่อ แล้วที่นี่มึงเข้าใจแล้วใช่ไหมว่าทำไมเกี่ยวกับคู่หมั้นเจ้านาย”
แค่ก แค่กๆ ซาลาเปากินติดคอขึ้นมาทันที “เอ้า ไอ้กัดเอาน้ำให้ลูกพี่มึงกินดิ แดกเยอะจัดติดคอเลยเล่า” ไนน์รับน้ำมาดื่มพร้อมกลืนเจ้าก้อนซาลาเปาที่มีปัญหาลงคอ ความอยากกินของชอบลดลง มันดูไม่น่าอร่อยแล้ว
“สวัสดีครับทุกคน เจอกันอีกรอบช่วงเย็นครับ แค่ไม่มีอะไรมาก สนุกให้เต็มที่นะครับ” เฮ้.... เสียงคนภายในห้องตะโกนตอบรับ “วันนี้ผมขอร้องเพลงง้อใครบางคนนะ ถึงเสียงผมจะไม่เพราะเท่าไหร่ ทนฟังเอาหน่อยนะครับทุกคน” ตามด้วยเสียงเป่าปาก เสียงกรี๊ด และสุดท้ายคือเสียงปรบมือ
เสียงเพลงบรรเลงพร้อมกับเสียงร้องของคนบนเวที เรียกให้ทุกคนหันขึ้นไปมอง รวมถึงไนน์ด้วย เพลงที่คุ้นหูของหลายๆ คนอย่าง Until you แต่สำหรับคนสองคนมันมีความหมาย ซันมองร่างโปร่ง ส่วนไนน์หันขึ้นไปสบตากับคนบนเวที ถึงแม้เวทีจะอยู่ไม่ไกลมากเขายังเห็นรอยยิ้มส่งมาให้เขาตลอดเวลา เขาทำแค่เพียงเงยหน้าสบตาเป็นพักๆ ความโกรธเมื่อช่วงบ่ายค่อยๆ หายไปอย่างช้าๆ ตามทำนองของเพลง
“เจ้านายเราแม่งน่ารักว่ะ ร้องเพลงให้คู่หมั้นฟังด้วย คุณวีว่าก็ยืนอยู่หน้าเวทีเลยมึง”
“อุ้ยยยย คนคลั่งรักว่ะ อิจฉาสุดๆ”
“อยากได้ผู้ชายแบบนี้มั่ง แบบนี้ไม่ควรมีคนเดียวบนโลก”
ไนน์ยกยิ้มกับบรรดาสาวๆ และหนุ่มๆ ที่ต่างพากันกรี๊ดร่างสูงบนเวที เป็นอย่างงี้ตลอดแหละ ช่วงที่เคยอยู่ด้วยกัน สาวๆ มองแต่สนใจที่ไหน เพลงกำลังจะจบ เสียงโทรศัพท์เขาดังขึ้นมา
RRRR สายเรียกเข้า ปู่สุดที่รัก
ไนน์รีบเดินเลี่ยงออกมายังด้านนอกที่ปลอดคน
“สวัสดีครับ เจ้าสัวชัช” เสียงหยอกเย้าจากหลานสุดที่รัก ทำให้คนเป็นปู่อดยิ้มไม่ได้
(อยู่ในงานเลี้ยงหรือเปล่าลูกสะดวกคุยไหม)
“ไนน์เดินออกมาข้างนอกแล้วครับ คุยได้งานเพิ่งจะเริ่มเองครับ”
(ปู่จะคุยเรื่องโครงการคอนโดของเรา ปู่เห็นเมลที่เราส่งไปให้ทางฝ่ายอินทีเรียลว่าให้รื้อแบบตกแต่งใหม่เหรอ)
“ครับปู่ พอดีไนน์เห็นว่าแบบเรามันดูไม่เข้ากับชื่อโครงการ THE TOUCH เลยสั่งให้ออกแบบใหม่ครับ และอยากฉีกแนวให้ต่างจากแบบเดิม ขนาดห้องที่มี 40 ตรว. จะให้ออกแบบสัก3ถึง4แบบครับ พอจะให้มีตัวเลือกเพิ่ม แล้วส่วนที่เหลือลองให้ออกแบบมาเพิ่มอีกสัก4ถึง5แบบ ไว้เป็นตัวเลือกให้เจ้าของห้องว่าจะออกแบบเองหรือให้ทางเราตกแต่งให้ครับ ส่วนที่เป็นเพนเฮ้าส์หรือห้องที่มีขนาดใหญ่จะต้องคุยกับทางเจ้าของอีกทีว่าจะให้ทำไง ไนน์อยากให้ออกแบบตามใจผู้อยู่นะครับ ปู่คิดว่าแบบนี้ดีไหม”
(ปู่ว่าก็ดีมาการตกแต่งหลายแบบ มันช่วยตอบไสต์ของแต่ละคนดี ห้องขนาดเล็กตกแต่งไปเลย เหลือไว้แต่เพนเฮ้าส์ที่เราจะจัดตกแต่งให้ทีหลัง)
“ครับ งั้นผมจะทำตามที่ปู่บอก ไว้ว่างผมจะโทรไปคุยกับหัวหน้าทีมอินทีเรียลใหม่อีกทีวันจันทร์แล้วกันครับ” สิ่งปู่สอนเขาไม่เคยคิดเลย คิดแต่ว่าจะเอาแบบตามใจผู้อยู่ให้มากที่สุด ลืมมองถึงคนที่ต้องทำงานร่วมด้วย
(แล้วเราได้แวะเข้าไปดูโครงการบ้างไหม อย่ารอแต่ฟังรายงานอย่างเดียว ตอนนี้กี่เปอร์เซ็นแล้ว)
“ไปดูมาเมื่อวันเสาร์อาทิตย์ที่แล้ว โชคดีเจอคุณธนชาติด้วยครับ ตอนนี้เกิน20เปอร์เซ็นต์แล้วครับปู่ เป็นไปตามเป้าอยู่นะครับ”
(งานทางนั้นเป็นไงบ้าง แล้วที่ปู่ของเลื่อนกำหนดมาเร็วเรามีปัญหากับทางนั้นหรือเปล่า ปู่เคลียร์ให้เอาป่าว)
“โหถ้าระดับเจ้าสัวชัชออกหน้าแล้ว ใครจะกล้าว่าอะไร แต่ไนน์ว่าจะเลื่อนมาเร็วอีกนิดสักสองเดือนครับ” ตอนแรกที่เขาคิดไม่ได้เร็วขนาดนี้แต่พอรู้ว่าซันเป็นถึงรองประธานบริษัท เขาคงทำงานได้อีกไม่นานความลับรั่วแน่นอน
(หื้อ?)
“พอดีไนน์อยากเข้าไปดูโครงการนี้เร็วหน่อยนะครับ อยากทำให้มันสำเร็จตามที่ปู่คาดหวังและไม่อยากมีอะไรให้มันผิดพลาดด้วยครับ” เขาบอกปู่ด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่น
(ปู่คาดหวังไปกับโครงการของเรามาก มันคือข้อพิสูจน์เราในตำแหน่งรองประธาน)
“ห๊ะ ตำแหน่งรองประธานอะไรกันปู่ ไนน์ไม่เอา มันใหญ่ไป”
(ถ้าปู่ไม่ยกให้เราแล้วจะให้ใครที่ไหนวะ ไอ้หลานคนนี้ รีบๆ รับไปได้แล้ว ไหนบ่นนักหนาว่าอยากให้ปู่พัก ที่จะยกให้ดันไม่เอา) ปู่สุดที่รักได้ที่บ่นหลานคนโปรดคืนบ้าง
“โอเคครับ งั้นไนน์จะทำให้เต็มที่ ถ้าไม่มีอะไรแล้วไนน์เข้ากินเหล้า เฮ้ยไปร่วมงานนะครับ ครั้งสุดท้ายแล้ว”
(ครับ อย่าเมาให้เมานักนะเรา)
“ครับปู่ รักปู่นะครับ”
ขาเรียวก้าวเดินไปยังห้องจัดเลี้ยง จู่ๆมีคนเข้ามารวบกอดเข้าที่เอว ด้วยที่เขาได้รับการฝึกฝนศิลปะป้องกันตัวตั้งแต่เด็ก มือบางคว้าเข้าที่ข้อมือเตรียมบิด มืออีกข้างเตรียมง้างหมัดกะใส่เต็มแรง พอสัมผัสกลิ่นน้ำหอมที่คุ้นเคย รับรู้ว่าเป็นอีกคนพี่ที่เข้ามากอด เขาจึงแค่บิดข้อมือให้ปล่อยจากการโอบกอด
“อะ โอ๊ะ เจ็บครับ” เสียงร้องโอดครวญจากร่างสูง
“แล้วใครบอกให้ทำแบบนี้ ไนน์ไม่ชกหน้าก็บุญเท่าไหร่แล้วเนี่ย” เขาปล่อยมือคนผู้พี่ เขาโมโหอีกคนถ้าเขาเผลอชกไปมีหวังหน้าแหกแน่
ซันยังไม่ยอมเลิกวอแวคนน้อง ดึงเข้ามากอดอีกรอบจนได้ “พี่มาง้อเรานะ พี่กับวีว่าไม่ได้เป็นอะไร พวกผู้ใหญ่พยายามจับคู่ให้กับพี่เพราะพี่ไม่มีแฟนสักที ตอนนี้มีแล้วคงต้องพาไปแนะนำตัวจะได้เลิกจับคู่สักที” ซันโยกตัวระหว่างที่กอดคนน้อง
“แฟน?” คิ้วเริ่มขมวด ก่อนหันมาเสียงเข้มใส่ “ปล่อยได้แล้ว เลิกกอดสักที!”
คนพี่ปล่อยคนน้อง ยกมือสองข้างทำท่ายอมแพ้ “ยอมแล้วครับ พี่ว่าเราไปหาที่คุยกันหน่อยนะ นะครับ” เจอเสียงอ้อนแบบนี้ คนน้องก็ต้องใจอ่อน
“ก็ได้” คนพี่ยิ้มกระหยี่ในใจ เดินจูงมือคนน้องไปขึ้นลิฟต์ไปยังห้องพักของตัวเอง
ไนน์เดินตามคนพี่เข้าไปห้องนั่งลงที่โซฟา ปล่อยให้อีกคนยืนตรงหน้า “จะพูดอะไรก็รีบพูดมาเลย เดี๋ยวแฟนของพี่จะมาก่อน เอะ!หรือว่าจะเป็นว่าที่คู่หมั้นจะมา พอดีผมไม่อยากมีปัญหา” คนพี่ขมวดคิ้วถึงสรรพนามที่เปลี่ยนไป
เสียงถอนหายใจดังขึ้น ก่อนที่คนพี่จะพูดตามมา “อยากที่พี่บอกไปว่าพี่กับวีว่าไม่มีอะไร ไนน์ไม่เชื่อพี่เหรอครับ พี่ตามจีบเรา ตามหาเราไปทั่วจนจะเป็นบ้าอยู่แล้ว กว่าพี่จะได้เจอเราอีกครั้งพี่ไม่ยอมให้ใครมาแทนที่เราแน่นอน” น้ำเสียงที่หนักแน่น แววตาสั่นไหว อย่างที่บอกว่าเขาหลงรักดวงตาคู่นี้ พอได้จ้องเข้าไปเขาต้องยอมทุกครั้ง
“...” ไนน์กัดริมฝีปากแน่น เขาไม่รู้ว่าจะตอบยังไง
ซันคุกเข่าตรงหน้าก้มหัวซุกไปบนบ่า ใช้มือโอบเอวหลวมๆ “พี่ต้องทำยังไงเราจะเชื่อ พี่ต้องทำไง”
ไนน์เอาแขนกอดตอบคนพี่ “ครับ ไนน์เชื่อครับ ลุกขึ้นมาคุยกันก่อน” ไนน์ดึงตัวคนพี่ให้มานั่งข้างๆ “ไม่รู้ว่าต้องพูดอะไรก่อนดี เรื่องระหว่างเรามันดูสับสนไปหมดเลยครับ”
ซันยกยิ้มให้แก่คนน้อง “งั้นเรามาเริ่มรู้จักกันใหม่ไหมครับ เริ่มจากบอกว่าเรากับเจ้าสัวชัช” ซันหรี่ตามองคนที่ทำหน้าตกใจอย่างแรง
“คะ คือไนน์ จะบอกพี่ซันตอนกลับไปกรุงเทพได้ไหมครับ” เขาไม่คิดจะปกปิดแต่เขาอยากพาคนคนนี้ไม่รู้จักตัวตนของเขา ความแปลกในตัวเองที่ยอมให้คนหนึ่งก้าวเข้ามาในชีวิตขนาดนี้ ทำไมเขาถึงมั่นใจกับคนนี้ เขาไม่อธิบายไม่ได้แค่รู้สึกถึงความปลอดภัยและอุ่นใจที่สัมผัสได้
“ได้ครับ”
“...”
“แต่ตอนนี้พี่ขอจูบเราได้ไหมครับ”
“อื้อ”
TBC…