Chapter 4

Number nine My Sun

หมายเลขเก้าของดวงตะวัน

#IXMYSUN

20.00 น.

รถยนต์สุดหรูเซราติเข้ามาจอดยังโซนจดรถวีไอพีของผับหรูชื่อดังอันดับหนึ่งของประเทศ ผับที่มีขนาดใหญ่แบ่งพื้นที่เป็นสัดส่วนแยกโซนจัดเจน การตกแต่งอย่างหรูหรา นักท่องราตรีส่วนใหญ่ที่มาจะเป็นเซเลบ ไฮโซชื่อดังทั้งนั้น ที่นี่มีกฎอย่างหนึ่งคือการห้ามถ่ายคลิปหรือรูปในโซนที่เป็นวีไอพีและวีวีไอพี และแน่นอนความปลอดภัย ความเป็นส่วนตัวสูงย่อมแลกมาด้วยราคาที่ตามมาด้วย แต่ใครจะสนในเมื่อพวกเขามีเงินที่จับจ่ายซื้อในสิ่งสิ่งนั้นทั้งหมด

 

ชายหนุ่มร่างโปร่งก้าวลงจากรถโดยมีคีนเป็นผู้ขับรถมาเช่นเดิน เขาเดินไปยังทางหน้าร้านที่จะเข้าไปยังร้าน ทั้งๆ ที่เพิ่งเริ่มเปิดไปถึงชั่วโมง มีคิวยื่นรอที่หน้าร้านแถวยาวเหยียดแล้ว เมื่อการ์ดของร้านเห็นเขากับคีนเดินมาก็ผายมือให้เข้าไปยังในร้านทันที

 

พี่ไนน์ พี่ไนน์” เสียงเรียกดังออกมาจากแถวที่คนรอต่อคิวเข้าร้าน เขาหยุดและหันไปมอง และเห็นกลุ่มเด็กวัยรุ่นยืนโบกมือให้เขา ก่อนที่หันไปพยักหน้าให้การ์ดไปพาตัวเด็กๆ กลุ่มนั้นมา

พี่ไนน์มาเที่ยวเหรอพี่ ดีใจว่ะพี่จะได้ไม่ต้องยืนรอนาน” เจ้าโฟมเด็กฝึกงานทักทายและยกมือไหว้

อืม ไม่ได้จองโต๊ะกันเหรอ”

ใช่แล้วพี่ นี่พวกมึงรุ่นพี่ที่กูกับไอ้ปลากัดฝึกงานด้วย” พอแนะนำจบ ทั้งกลุ่มก็พากันยกมือไหว้

มากันกี่คน”

ทั้งหมดก็7คนพี่ ยังไม่มาอีก2คน” เจ้าปลากัดเป็นคนตอบ

งั้นพวกมึงเข้าไปเลย เดี๋ยวให้เขาหาโต๊ะให้ งานนี้พี่เลี้ยงแล้วกัน ตามสบายเลยนะ” เขาพูดเสร็จสับพร้อมกับเอามือไปตบที่บ่าน้องฝึกงานทั้งสองคน ก่อนจะหันมาสั่ง “คีนจัดการให้ด้วย”

ขอบคุณครับ/ขอบคุณพี่” น้องทั้ง5คนประสานเสียงขอบคุณ

ครับคุณไนน์ ผมจะดูให้” คีนโค้งคำนับให้แก่นายที่เดินเข้าไปในร้าน

 

 

เขาและน้องๆ ก้าวเท้าเข้ามาในร้าน เสียงเพลงที่เปิดคลอไปกับบรรยากาศ ชายหนุ่มแยกตัวเดินออกไปยังโซนวีวีไอพี ซึ่งวันนี้พี่ชายฝาแฝดเกาเขาลงทุนปิดโซนดังกล่าวเพื่อนความเป็นส่วนตัว เจ้าของผับทั้งสามคนที่ยืนรอเขาอยู่บนชั้นสอง เขาเงยหน้าขึ้นไปมอง ทั้งสามต่างวิ่งกรูมาทันที และแน่นอนว่าคนที่มาถึงก่อนย่อมเป็นสาวสวยและแข็งแกร่งที่สุดในบ้าน

ซูก้าจ๋า” นานะโถมตัวเข้ามากอดเขาเต็มแรง และเขาเองก็รู้ด้วยทุกครั้งที่มาว่าจะโดนจู่โจมแบบนี้ ถึงได้แต่ยืนตั้งรับเอาไว้

ปล่อยน้องได้แล้ว กูกอดมั่ง” ฝาแฝดเกา อันนี้เป็นชื่อเรียกของทุกคนในครอบครัว ที่ฝาแฝดและมีชื่อเล่นที่เป็นภาษาเกาหลีแงะน้องสาวออกไป ก่อนที่เขาทั้งสองจะรวบกอดคนน้องพร้อมกัน แต่ทั้งสามเอามือดันหัวกันและกันออกเพื่อที่ตัวเองจะได้ใกล้ชิดน้องชายสุดที่รักมากที่สุด

“...” กลับกลายว่าตอนนี้เขาโดนทั้งสามคนยื้อแย่งกันกอด โดยมีการ์ดของร้านยืนดูอยู่ห่างเพื่อดูแลความปลอดภัยของนายทั้งสี่คน

มึงออกไปได้แล้ว น้องอึดอัด” ทาซอท

มึงนั่นแหละปล่อย” นานะ

นานะมึงอย่าคิดว่าเป็นผู้หญิงกูไม่กล้านะ” ยอซอท

พวกมึงปล่อยน้องของกู กูจะพาขึ้นไปข้างบน”

กูพาไปเองน้องกู ปล่อยโว้ย!!!

ทั้งสามยังคงเถียงและผลักหน้ากันออกจากตัวน้องชายที่ยืนนิ่ง ส่วนตัวของเขาเองกำลังนับเลขอยู่ในใจ ถ้าพวกมันทั้งสามยังไม่เลิกวอแวเขา เตรียมตัวได้เลย

ปล่อยครับ ไนน์อึดอัดและเริ่มจะรำคาญแล้ว” เขาพูดน้ำเสียงที่นิ่งและชัดเจน และแน่นอนสำหรับคนที่กำลังกอดต้องได้ยินมันแน่นอน

มึงทั้งสองตัวปล่อยก่อน น้องหงุดหงิดแล้ว”

มึงแหละปล่อย ไอ้เชี่ยยอ”

พวกมึงแหละปล่อยน้องไอ้แฝดเกา”

...ยังไม่ปล่อยอีก ไม่ไหวแล้วนะโว้ยไอ้พวกนี้...

 

คนน้องสะบัดตัวแงะผู้พี่ออกทีละคน แต่คนที่โดนคือยอซอทแงะออกไปก่อน จะเอามากอดอีก เขาตวัดสายตาดุใส่ ขึ้นล่าถอยออกไป ส่วนอีกสองคนไนน์ต้องออกแรงอีกรอบ กว่าจะได้ขึ้นไปยังชั้นสองเขาต้องเสียเหงื่อไปไม่น้อยเลยทีเดียว

 

 

อีกทางด้านของร้าน

ไอ้โฟม ไอ้กัด พี่มึงเป็นใครวะ มึงรู้จักพี่เขาได้ไง” หนึ่งในเพื่อนของเด็กฝึกงานถาม

ใครวะ?” ปลากัดเป็นตอบ ระหว่างที่มือก็ชงเหล้าไปด้วย

พี่ไนน์ของพวกมึงไง”

ทำไมว่ะ รุ่นพี่คณะที่มหาลัยไงมึง”

เหรอว่ะ พี่มึงนี่ดังมากไหมว่ะ นามสกุลไรมึงพอรู้ไหม”

มึงอยากรู้อะไรนักหนาว่ะ อ้าววชนนนน....” ปลากัดขมวดคิ้วมองหน้าไอ้เพื่อนที่ถามซกซอกจังเลย และเริ่มรำคาญเลยให้ไปชวนคนอื่นชนแก้ว

มึงตอบกูมาก่อนดิว่ะ กูอยากรู้จริงๆ” เพื่อนตัวดียังเซ้าซี้ไม่เลิก

กลุ่มพี่มันดังพอสมควร แต่พี่มันไม่ค่อยชอบวุ่นวายเท่าไหร่เลย กูรู้แค่นี้แหละ ทำไมว่ะ”

คือมึง เมื่อกี้คนที่เข้ามากอดพี่ไนน์ของพวกมึง คือเจ้าของผับแห่งนี้”

แล้วไง?” ปลากัดเอียงคอถามต่อ

แปลกตรงที่ทั้งสามคนมารุมกอดพี่ของพวกมึงพร้อมๆ กันนะสิ”

คนรู้จักมั่งมึง กูไม่ค่อยรู้เรื่องพี่เค้าเท่าไหร่ เพียงแต่อาจารย์แนะนำว่าพี่มันเก่งมากๆ”

แต่นั่น ทั้งสามคนนั้นเป็นระดับคนดังที่ไม่มีใครจะไม่รู้จักนะโว้ย” เพื่อนคนที่ถามถึงกับกลืนน้ำลายอึกใหญ่แล้วพูดต่อ “สามคนนั้นนามสกุลศิริกิจวัชรโชติเลยนะมึง จะเรียกว่ามาเฟียเมืองไทยก็ได้มั่งมึง ผับนี่แทบจะมีหุ้นไปทั่วประเทศแล้วมั่ง สนามรถแข่งอีก ยังไม่รวมพวกกาสิโนในต่างประเทศอีก”

“...” ทั้งกลุ่มถึงกับเงียบพร้อมกัน หันไปดูตรงที่เพื่อนชี้ และพยักหน้าเห็นด้วยกับเพื่อนคนที่พูด พวกเขาถึงต่างพากันกระดกเหล้าที่เดียวหมดแก้วทั้งโต๊ะ

 

 

 

น้องชายคนเล็กและพี่ๆ ทั้งสามเดินมายังห้องจัดเลี้ยงงานวันเกิด มีคนที่นั่งรออยู่สองคนที่กำลังโอบกอดกันอยู่ นั่นคือพี่ชายคนโตและแฟนหนุ่มซึ่งคือเพื่อนสนิทของเขาอีกคน เหล้านอกดีกรีแรงวางรออยู่บนโต๊ะและยังมาอาหารวางอยู่สามสี่อย่าง

โว้! นัวกันขนาดนี้ มึงพาน้องขึ้นไปข้างบนไหมไอ้หนึ่ง” คนที่ซุกอยู่ตรงซอกคอแฟนเงยหน้าออกมา ส่วนแฟนของเจ้าตัวหน้าแดงก่ำ ซุกเข้าไปที่อกแฟนหนุ่มหลับสายตาที่ตาพากันจ้องมอง

อิจฉากูหรือไง แฟนกูทั้งน่ารักและตัวก็หอมด้วย” หนึ่งยักไหล่ คล้ายๆ ว่าเรื่องปกติ ส่วนที่กำลังอายอยู่แทบจะมุดเข้าไปในตัวพี่มันอยู่แล้ว

คนเก่งมาแล้ว น้องวีครับเพื่อนเรามาแล้ว” หนึ่งก้มลงกระซิบที่หู ก่อนจะกดจูบไปที่ขมับอีกหนึ่งที

“...” ไนน์เดินลงไปนั่งตรงโซฟาที่ว่าง ก่อนจะหยิบเหล้ามาเทใส่แก้วแล้วกระดกเข้าปาก

มาถึงก็กระดกเลยเหรอมึง ไปอดอยากมาจากไหนวะ” เพื่อนผู้หลงแฟนเอาหน้าออกจากอกแล้วหันมาทักทาย

เมื่อกี้กูเสียเหงื่อมาก กว่าจะแงะออกเหนื่อย สัส” เขาเปรยตาไปมองพี่ๆ ทั้งสามที่ทิ้งตัวลงนั่งอยู่ข้างๆ

แล้วพวกเจ๊กับเฮียจะมาตอนไหน” เขาหันไปถามถึงพี่คนที่เหลือที่ยังไม่มา

ไม่รู้”

ไม่สนใจ”

เฮียไม่รู้ ถ้าถึงคนเก่งก็เห็นพวกมันแหละ แต่ถ้าพวกมันไม่มาจะดีมากเลย”

สุขสันต์วันเกิดครับคนเก่ง รักไนน์นะครับ” หนึ่งเขามาอวยพรวันเกิดและกดจมูกหอมไปที่หัวของคนน้อง

ครับ” เขาพยักหน้าหงึกๆ และหันไปสนทนากับเพื่อนสนิท ปล่อยให้พี่ๆ ที่เหลือจัดการตัวเองไปแทน

 

21.00น.

ตอนนี้กลุ่มเพื่อนและเจ๊ เฮียของเจ้าของวันเกิดก็มาจนครบ พี่ๆ เขาเข้ามาหอมหัวตามลำดับที่มาถึง และพร้อมกับคำอวยพรตามมา และแน่นอนวันนี้เขาเตรียมตัวมาสนุกและเมาเต็มที่ เขาต้องการใช้เหล้าล้างภาพคนๆ ออกจากหัว

.

.

.

.

.

.

ซันมีนัดเพื่อนกับเพื่อนกลุ่มเดียวกันที่กลับมาจากอเมริกาหลังจากเขา พวกเขาจึงนัดออกไปผ่อนคลายกัน เขาไม่ค่อยอยากออกไปไหนเท่าไหร่ เพราะยังไม่อยากไปเจอใครที่จะมากวนใจในตอนนี้ เขาหงุดหงิดใจที่พยายามตามหาไนน์มาตลอดเกือบๆ เดือน ไม่มีวี่แววจะเจอสักที ช่วงวันหยุดเขาไปเดินตามห้างสรรพสินค้าเป็นวันๆ พยายามสอดส่งสายตาไปทั่ว หวังว่าจะคงบังเอิญเจอ แต่มันก็กลายเป็นความหวังลมๆ แล้งๆ เท่านั้น แต่วันนี้ที่เพื่อนๆ ต้องการให้เขาผ่อนคลายลงบ้าง

 

เขายังไม่รู้ถึงสาเหตุที่ทำให้รอยยิ้มของเข้าเดินหนีเขาไปอีกครั้ง ทั้งๆ ที่เขาพยายามทำให้ดีที่สุดในการกลับมาเจอกัน เขาทุ่มเทอย่างมากในตลอดเวลาที่อยู่บนเกาะ ทำในสิ่งที่เขาไม่เคยทำให้ใครมาก่อนในชีวิต พูดในสิ่งที่จะทำให้รับรู้ว่าเขาจริงใจและอยากอยู่ข้างๆ กาย ถึงแม้ถ้าเกิดว่าไนน์ไม่มีใจหรือรับรักเขา แต่ขอแค่ให้เขาอยู่ในชีวิตก็เพียงพอแล้ว มันแปลกไปตั้งแต่ก่อนกลับไม่กี่ชั่วโมง อะไรที่ทำให้เปลี่ยนไป มันจะดีอยู่แล้ว

 

เขานึกย้อนกลับไปเมื่อ4ปีก่อน ในวันที่เขาเจอรอยยิ้มของเขา ใช่มันคือรอยยิ้มของไนน์ วันนั้นเป็นวันที่เขาโดนแฟนสาวบอกเลิก เธอเป็นรุ่นน้องที่คณะมหา’ลัยเดียวกับเขา อายุห่างจากเขาถึงสามปี เธอเป็นหญิงสาวที่สวย มีความมั่นใจสูงและเพียงพร้อมในทุกๆ ด้วย ทั้งสองคบกันมาได้ปีกว่าๆ หลังจากเรียนจบแล้ว เตรียมบินไปเรียนต่อที่อเมริกา ทุกอย่างได้จัดเตรียมไว้หมดแล้วตั้งแต่เขายังไม่เรียนจบด้วยซ้ำ

 

เธอไม่อยากให้เขาไป เธอกลัวระยะห่าง และความแตกต่างที่ช่วงเวลาทำให้เลิกกัน เขาพร่ำบอกเธอว่า ถ้าเรารักกันมาพอระยะห่างและเวลาไม่สามารถทำให้เราเลิกกันได้ และเขายังเสนอว่าถ้าอยากไปหาเมื่อไหร่ก็ได้ เขาพร้อมจะออกจากค่าใช้จ่ายทั้งหมด เธอเป็นผู้หญิงที่เขาอยู่ด้วยแล้วสบายใจ เขายอมทิ้งนิสัยแย่ๆ ปรับปรุงให้ดีที่จะเหมาะสมกับเธอ เมื่อที่เรามีความรักย่อมอยากจะเป็นคนที่ดีขึ้นให้เหมาะกับคนที่เรารัก แต่ความจริงมันตรงข้ามที่เธอเข้าหาเพราะเพียงแต่อยากเอาชนะคำท้าของเพื่อนที่อยากให้เธอคว้าหนุ่มที่เนื้อหอมที่สุดมาครอง แต่ส่วนเขากลับคิดว่าจุดประสงค์ที่เข้าหาคืออะไรมสำคัญของเพียงเรารักกันก็เพียงพอแล้ว

แต่เธอก็ยังไม่ฟังและโวยวายต่างๆ นานา จนมันลามไปเรื่องที่มีคนเข้ามาจีบและกล่าวหาว่าเขาจะนอกใจสักวัน เขาไม่ชอบการดูถูกความรู้สึกแบบนี้ มันทำให้เขารู้สึกว่าที่ผ่านมาไม่เคยเชื่อใจกันเลยใช่ไหม และเธอยื่นคำขาดว่าถ้าไปเรียนต่อ งั้นเลิกกันไปก่อน ถ้ากลับมาค่อยคบกันใหม่ ปล่อยให้เราไปเจอคนที่ดีกว่าแล้วกัน ด้วยความเสียใจพอทันทีเธอพูดจบเขาก็เดินออกไปตรงนั้นไปหาเหล้าดื่มที่ผับ

 

หลังจากดื่มจนพอประมาณถึงเขาจะไม่เมามายแต่สติก็ไม่เต็มร้อยเปอร์เซ็นต์ เมื่อถึงเวลาร้านใกล้ปิดเขาจึงขับรถออกมา ขับรถออกมาได้ระยะหนึ่งแต่ด้วยความซวยมีมอไซด์ขับออกมาจากซอยตัดหน้ารถของเขา ทันทีหักหลบรถเกิดการพลิกคว่ำหลายตลบ แขนขารู้สึกปวดร้าว กลิ่นคาวเลือดเหม็นคละคุ้มทั่วทั้งรถ เลือดที่ไหลอาบใบหน้า เขานอนติดอยู่ภายในรถเป็นเวลานาน เขารู้สึกว่าเวลามันผ่านไปอย่างเชื่องช้า แต่ละนาทีมันแทบเป็นชั่วโมง เขารับรู้ความรู้สึกที่การใกล้ตายหรือการถูกทิ้งให้ตายคนเดียวมันเดียวดายสุดๆ

 

ขณะที่เขาหลับตายินยอมรับความตายที่คืบคลานมานั้น ได้ยินเสียงเรียกฉุดขึ้นมาจากปรโลก

คุณ คุณยังหายใจอยู่ไหม คุณตอบผมที” เสียงของชายหนุ่มที่มีความวิตกกังวล

“...”

คุณ หมดสติหรือเปล่าว่ะ รอแป๊บนะ เดี๋ยวผมช่วยคุณออกมา คุณอย่าเพิ่งตายนะโว้ย” ชายหนุ่มหยิบโทรศัพท์เปิดไฟฉายส่องเข้ามายังภายในรถ แต่พอแสงส่องมาที่หน้าเขา เขายี้ตาหลบแสง

“...”

พอรับรู้ว่าคนข้างในยังมีสติอยู่ชายหนุ่มในชุดนักแข่งรถมุดเข้ามาภายในรถที่ตอนนี้ เขาหนุ่มส่งยิ้มให้เขา และพูดด้วยว่าน้ำเสียงดีใจ “อดทนก่อนนะ ผมจะช่วยคุณออกไป” เขาเอาตัวเอามารองก่อนที่พยายามปลดสายเข็มขัดนิรภัย อัก! คนเจ็บหลบลงมาทับบนตัวนักแข่งถึงตัวคนเจ็บจะใหญ่กว่าแต่ก็ไม่มีเสียงบ่นออกมาแต่น้อย จากนั้นชายหนุ่มค่อยๆ ลากคนบาดเจ็บออกจากตัวรถมานอนอยู่ตรงถนน เขาเอาหัวหนุนนอนอยู่บนตักของชายหนุ่ม

คุณนอนรอก่อนนะ ผมจะโทรแจ้งให้คนมาช่วยแล้ว” ชายหนุ่มหยิบโทรศัพท์มือถือแจ้งไปยังศูนย์ช่วยเหลืออุบัติเหตุ

เลือดที่ไหลจากกระแทกเริ่มไหลออกมาเรื่อยๆ ตอนนี้หาขากางเกงชุดนักแข่งถูกย้อมไปด้วยสีแดง และเขารู้สึกว่าตอนนี้จนเจ็บเริ่มไม่ไหวแล้ว เสียงหายใจหอบแรงขึ้น ชายหนุ่มหยิบเสื้อยืดที่ติดมาในกระเป๋ามาช่วยกดแผลห้ามเลือดที่หัว

คุณ อยู่กับผมนะ อย่าไปนะ อยู่ด้วยกัน เจ้าหน้าที่แจ้งว่ามีอุบัติเหตุใหญ่จะมาถึงช้า” ระหว่างที่พูดออกไปสายตาของชายหนุ่มก็มองออกไปยังทิ้งถนน ในใจหวังว่าจะมีรถมาสักคันก็ยังดี ชายหนุ่มเอามือที่ว่างไปจับมือคนเจ็บ

คุณจับมือผมไว้นะ ผมอยากให้คุณบีบมือผมตลอดนะ จะเบาหรือแรงบีบมานะ อย่าไปนะ อยู่ด้วยกันนะ” ชายหนุ่มคนนั้นพูดย้ำกับเขาตลอดว่าอยู่ด้วยกันนะ และเขาได้ออกแรงสัมผัสที่มือบางๆ ของชายหนุ่มคนแข่งรถ สิ่งที่ได้ตอบแทนมาคือยอมยิ้มที่ให้กำลังใจ

อยู่ด้วยกันนะ ผมดีใจที่คุณไม่ถอดใจจากกัน สู้ๆ นะคุณ ผมจะอยู่กับคุณจนกว่าคุณจะปลอดภัย” และชายหนุ่มก็ยิ้มให้เขาอีกครั้ง

ปู่บอกว่ารอยยิ้มของผม มันเป็นรอยยิ้มที่ทำให้ปู่มีกำลังใจเสมอ คุณช่วยมีกำลังใจจะอยู่ต่อนะ ถ้าคุณสู้ต่อนะ ผมจะนั่งรออยู่หน้าห้องจนกว่าคุณจะออกมามองรอยยิ้มของผมอีกครั้ง โอเคไหม” หมับ “บีบมือแบบนี้ถือว่าดีลแล้วนะ”

แม่งเอย!!! เมื่อไหร่จะมาว่ะ คนเจ็บจะไม่ไหวแล้วนะโว้ย” เสียงสบทอีกหลายคำ แต่อีกคนได้แต่บีบมือให้เขาใจเย็นลง

ระหว่างที่รอ เรามาคุยกันนะ”

 

คนเจ็บไม่รู้ว่าเวลามันผ่านไปนานขนาดไหน เขาได้แต่ฟังอีกคนเจื้อยแจ้วเรื่องราวต่างๆ เรื่องที่หนีปู่เขามาแข่งรถที่สนามพี่ชายและทุกคนช่วยกันปกปิดเพราะเขาคือน้องรัก เรื่องเรียนของแต่ละวัน ดินฟ้าอากาศต่างๆ ทั้งๆ ที่เจ้าตัวออกปากว่าเป็นคนที่คุยไม่เก่งแต่เขาก็พยายามหาเรื่องคุยให้เยอะที่สุด ส่วนตัวเขาเองก็พยายามฝืนลมหายใจและลืมตา สัมผัสที่มืออุ่น แรงที่เขาพยายามเค้นบีบให้มากที่สุด .

 

แสงไฟจากรถกู้ชีพที่มาพร้อมกับเสียงไซเรนเริ่มเข้าใกล้ ทำให้แรงบีบมือที่จับกันไว้แรงขึ้น ชายหนุ่มไม่เคยดีใจจนแทบจะลุกขึ้นมาเต้นต้อนรับด้วยจังหวะแทงโก้ด้วยซ้ำ

เขามาช่วยเราแล้ว คุณปลอดภัยแล้วนะ” ชายหนุ่มตะโกนสุดเสียงพร้อมกับรอยยิ้มแห่งความดีใจ

 

เจ้าหน้าที่มาถึงช่วยปฐมพยาบาลคนเจ็บอย่างเร่งด่วน มีเพียงคนเจ็บที่ไม่ยอมปล่อยมือออกอีกคน คนเจ็บถูกยกขึ้นไปอยู่บนเตียงสนาม ช่วยกันยกขึ้นบนรถพยาบาล มือที่ไม่แยกจากกันและไม่ยอมปล่อย

ผมจะรอคุณที่ส่งคุณให้ถึงมือหมอ ผมจะไม่ทิ้งคุณไปไหน ผมสัญญา คราวนี้ปล่อยมือผมก่อนนะครับ ผมจะขับรถตามไปนะครับ” เขาจ้องเข้าไปที่ดวงตาคู่นั้น และชายหนุ่มพยักหน้าให้คำมั่นสัญญาพร้อมออกแรงบีบที่มือไปด้วย และคนเจ็บยอมปล่อยมือออกให้เจ้าหน้าที่ยกขึ้นรถไป

 

 

คนเจ็บถูกลำเลียงออกจากเปลสนามขึ้นมายังเตียงฉุกเฉิน สภาพคนเจ็บที่พันผ้าด้วยผ้าก็อตอย่างหนาและเจ้าหน้าที่กดแผลที่หัวคนป่วย พยาบาลตัวเล็กขึ้นไปอยู่บนเตียงผู้ป่วยและออกแรงปั๊มหัวใจ คนเจ็บหยุดหายใจไปชั่วขณะ ชายหนุ่มวิ่งตามเข้าไปช่วยเข่นเตียงพร้อมกับตะโกนบอกคนเจ็บตลอดทางจนไปถึงห้องฉุกเฉิน “คุณผมจะรอคุณนะ คุณอยู่กับผมนะ ผมจะรอคุณนะ มีชีวิตต่อไปนะคุณ” นั่นเป็นเสียงสุดท้ายที่ตัวเขาเองได้ยิน และหลังจากนั้นเขาได้รับการส่งตัวมารักษาที่โรงพยาบาลเอกชนอันดับหนึ่งกับหมอที่เก่งประดับประเทศเพื่อยื้อชีวิตกลับมา และเขาได้รับการรักษาอยู่สี่เดือนเต็มและกายภาพบำบัดอีกปีกว่าๆ จนไปเรียนต่อต่างประเทศ เขาส่งคนไปถามหาแต่ได้รับคำตอบว่า ทันทีที่เขาย้ายมารักษายังอีกที เขาคนนั้นก็ไม่ได้กลับไปโรงพยาบาลนั่นอีกเลย

 

 

 

 

ว่าไงครับ ท่านรองประธาน หน้าเครียดมาเชียวนะมึง” ไอ้จัสตินหนุ่มลูกครึ่งไทย-อิตาลี พูดเมื่อเขาเดินเข้ามายังโต๊ะ มันนี้แหละเพิ่งจะกลับมาจากอเมริกาคนสุดท้ายในกลุ่ม และมันก็เป็นคนออกมาชวนผมมาด้วย

“...” เขาไม่โต้ตอบและเลือกจะนั่งลงที่โซฟาเฉยๆ

อ่ะ ไอ้พอร์ซมึงชงเหล้าให้มันสิ เอาแบบเข้มเลยนะมึงจะได้หายหน้ายักษ์สักที หน้ามึงเนี่ยเด็กกูหายหมด” เสียงบ่นจากคุณชาย เพื่อนของเขาที่มีเชื้อสายจากในรั้วในวัง

มึงกลับมาตั้งแต่วันไหนแล้วนี่จะอยู่ยาวหรือกลับไปอีกว่ะ” เขารับแก้วเหล้ามาจากพอร์ชและยกดื่ม เหล้ารสขมช่วยดับความหงุดหงิดและรุ่มร้อนของเขาได้อย่างดี

แม่กูให้อยู่ยาวว่ะ ให้มาลองบริหารที่สาขาเมืองไทยไปก่อน”

มึงกูออกไปสูบบุหรี่ก่อน พวกมึงไปด้วยเปล่า” คุณชายออกปากชวน

ป่ะ กูไปด้วย จะออกไปหาสาวๆ สักหน่อย” และจัสตินเดินออกไปกับคุณชายไปสูบบุหรี่ แต่เหตุผลหลักๆ คือพวกเขาออกไปหาสาวๆ นั่นเอง และแน่นอนพวกเขาจะได้มาเสมอ

สรุปมึงหงุดหงิดอะไรวะซัน กูชวนออกมาเที่ยวตั้งหลายครั้งก็ไม่ออกมาเที่ยวกับกูเลยนะ” พอร์ชถาม

กูกำลังตามหาคนอยู่”

ตามหาคน? ใครวะ?”

รอยยิ้มของกูไงมึง”

“!!!!???” พอร์ชทำหน้างุนงงใส่ เลิกคิ้วสูง “เดี๋ยว ๆ มึงพูดอีกทีดิ น้องยิ้มของมึง ที่มึงเพ้อหาง่ะนะ”

ไนน์” น้ำเสียงทุ้มบอกชื่อคนที่เป็นรอยยิ้มสำหรับเขา

ห๊ะ ไนน์คือ?”

น้องเขาชื่อไนน์และกูเจอเขาแล้ว” เขาตอบด้วยน้ำเสียงราบเรียบ พลางยกแก้วเหล้าจิบไปด้วย

เจอแล้ว? ยังไง? มึงเล่ามาเดี๋ยวนี้ เล่ามาให้ละเอียดเลย” ตอนนี้พอร์ชนั่งอยู่อีกมุมของโซฟาขยับเข้ามาใกล้สุดเพื่อจับเข่าคุยกับเขาให้ละเอียด “มะกูพร้อมฟังแล้ว”

เดี๋ยว” เขายกมือทำท่าห้าม “มึงเรียกไอ้พวกเหี้ยนั่นมาก่อนจะได้ทีเดียว”

เออ” พอร์ชรีบต่อสายถึงเพื่อนที่ออกไปสูบบุหรี่กัน แต่ผลคือพวกมันไม่มีใครเอาโทรศัพท์ไปสักคน เขาเลยนั่งมองหน้าอาคิราตาเป็นประกาย “มึงเล่าให้กูก่อน อยากเสือกใจจะขาดแล้วโว้ย” แถมส่งสายตาวิ้งๆ ให้เขาอีกด้วย

 

เพื่อนทั้งสามคนเป็นเพื่อนที่สนิทกันมาก เรียนที่เดียวกันตั้งแต่มัธยมต้น และต่างแยกย้ายไปเรียนตามสาขาที่ชอบ ก็มีแต่พอร์ชที่ยังคงเรียนที่เดียวกันจึงทำให้สนิทกันมากที่สุด ส่วนเพื่อนคนอีกสองคนก็ติดต่อกันเสมอ ทั้งสี่คนกลับมาอยู่ด้วยกันอีกทีก็ตอนที่ไปเรียนต่อโทที่อเมริกา กลุ่มเขาจึงกลับมารวมกันอีกครั้ง และพวกเขาทั้งสี่ก็รับรู้เรื่องราวซึ่งกันและกันด้วย

 

หลังจากที่หายไปนานนับชั่วโมง เพื่อนเขาทั้งสองกลับมาพร้อมกับหญิงสาวอีกสี่คน แต่ละคนดูสวย เซ็กซี่และเร่าร้อนไปพร้อมๆ กัน เขาและพอร์ชขยับตัวแบ่งที่นั่งให้สาวๆ ที่มาเพิ่มและเริ่มแนะนำตัว

นี่เพื่อนพี่ครับ นั่นไอ้พอร์ช และนี่ไอ้ซันครับน้อง”

สวัสดีค่ะ” น้องๆ ทั้งสี่คนยกมือไหว้เขาทั้งสอง

นี่น้องขวัญ น้องเค้ก น้องพีชและน้องลันเตา น้องตามสบายนะครับ อยากนั่งตรงไหนนั่งเลยครับ” จัสตินแนะนำแขกที่มาด้วย ก่อนจะโอบเอวหนึ่งในหญิงสาวที่ชื่อพีชลงไปนั่งด้วย ส่วนที่เหลือก็กระจายไปนั่งกับคนอื่น น้องเค้กเลือกที่มานั่งใกล้ๆ กับเขา และชวนคุยด้วยท่าทีสนใจ

พี่ซันมาเที่ยวที่นี่บ่อยไหมคะ เค้กไม่เคยเจอพี่เลย”

เพิ่งเคยมาครับ”

น้องเค้กดูแลเพื่อนพี่หน่อยนะครับ สงสัยช่วงนี้ทำแต่งานไม่ค่อยได้เจอสาวๆ มันเลยอารมณ์ไม่ค่อยดี” คุณชายเป็นคนบอก

ได้ค่ะ เค้กจะดูแลอย่างดี” น้องตอบและหันไปยิ้มให้แก่คนพูดก่อนที่จะหันมายังชายหนุ่ม “พี่ซันอยากให้เค้กดูแลแบบไหนคะ เค้กจะทำให้ถึงใจ” พอพูดจบหญิงสาวก็ปีนขึ้นไปนั่งบนตักและซลงที่อกทันที ด้วยความที่เป็นผู้ชายเมื่อหญิงสาวร่างบางนั่งบนตัก เขาให้มือไปโอบที่เอวประคองทันที

โว้ววว น้องแม่งได้ว่ะ ไอ้ซันอย่ายอมนะโว้ย” เพื่อนๆ ทั้งสามต่างพากันส่งเสียงเชียร์

พี่ซันดื่มค่ะ เดี๋ยวเค้กป้อนให้นะคะ” หญิงสาวเอาแก้วเหล้ามาป้อนยังชายหนุ่ม

 

หญิงสาวนั่นสนใจเขาตั้งแต่มาถึงที่โต๊ะทันที และชายหนุ่มทั้งสี่นั่นบุคลิกแตกต่างกัน คุณชายบุคลิกแบบคุณชายหล่อสมาทผู้ดีเก่า พอร์ชหล่อแบบหนุ่มเจ้าสำอาง จัสตินหล่อบุคลิกออกไปทางหนุ่มเจ้าชู้ ส่วนซันหล่อแบบนิ่ง มีความสุขุม น่าค้นหา และเป็นแบบที่หญิงสาวอย่างเค้กต้องการ

 

 

 

ส่วนอีกคนที่อยู่ในโซนวีวีไอพี่มองไปดูบรรยายกาศภายในร้าน เห็นคนที่หน้าคุ้นเหมือนภาพหลอนที่มีหญิงสาวนั่งอยู่บนตัว แต่ด้วยฤทธิ์แอลกอฮอล์ที่สาดเข้าร่างกาย เขาจึงคิดว่าตาฝาดมากว่า

แม่งเอย!!!!” เสียงสบทอย่างดังออกจากปาก จนทำให้เพื่อนๆ และพี่ๆ ของเขา หันมาเลิกคิ้วด้วยความสงสัย เขาลุกขึ้นยืนและก้าวออกไปสูบบุหรี่ทางด้านหลังที่จัดให้เป็นพื้นที่สูบบุหรี่ส่วนตัว และสายตาเขายังจ้องมองไปยังโต๊ะที่ด้านนอกนั่งอยู่ เมื่อเห็นคนน้องมอง คนพี่ก็หันไปดูด้วย

น้องมองใครวะ คิว! โต๊ะนั่นมีเด็กไนน์ไหมว่ะ น้องกูมองตาขวางเลย” ทาซอทหันไปถามคิวด้วยความงุนงง

คิวหันไปมองตามที่พี่ชายเพื่อนถาม “ไม่นะเฮีย คนอย่างมันจะสนใจใคร สนแต่เรื่องรถอย่างเดียว ส่วนผู้หญิงก็ดีลตามข้อตกลงแค่นั้น” คิวหันมาตอบพร้อมไหวไหล่เหมือนมันคือเรื่องปกติของพวกเขา

 

หลังจากการสูบบุหรี่ ไนน์เดินกลับมานั่งที่เดิน คว้าขวดเหล้าที่เพิ่งเปิดมาดื่ม อึกๆ เสียงเหล้าที่ถูกเร่งสปีดลงคออย่างรวดเร็ว ในใจเขาไม่รู้ว่าคนที่อยู่ตรงหน้านั่นคือตัวจริงหรือภาพหลอนที่ติดตา เพียงแต่มีหญิงสาวที่นั่งคลอเคลีย ซุกลงบนอกหนาๆ นั่นใจเขาร้อนรน โกรธ โมโหคนที่อยู่ตรงหน้า ความรู้สึกตีรัวอยู่ภายในใจ เขาเพียงรับรู้ว่าเหล้าเท่านั้นที่ช่วยได้

 

เฮ้ยๆๆ เบา ไนน์เบามึงเบา แดกแบบนี้เดี๋ยวก็ตายห่ากันพอดี” เจโอรีบเข้ามาคว้าขวดเหล้าที่เขากำลังดื่ม “อ้า หมดขวดแล้ว”

แม่ง เอามาอีกดิ” เขาหันไปมองหาขวดเหล้าที่วางอยู่บนโต๊ะ

คนเก่งครับ พอก่อนไหม เดี๋ยวเมานะครับ” หนึ่งเริ่มตะลอมคุยกับคนน้องอย่างกล้าๆ กลัว ไอ้ที่กลัวคือกลัวน้องงอน ส่วนคนอื่นได้แต่มองดู

เอามา! จะกินตอนนี้! เที่ยงคืนปลุกมาเป่าเค้กด้วย” ตวัดสายของหน้าหนึ่งอย่างดุๆ

ครับ เอาเหล้ามาให้คนเก่งดิ” พี่ชายคนโตรีบยื่นขวดเหล้าให้น้องสุดที่รักทันที ส่วนวีแฟนหนุ่มเพื่อนรักของน้องชายเขา ก็ได้แต่พยักหน้าให้ บ่งบอกว่าตามใจไนน์ปล่อยให้มันเมาเถอะ

ร่างโปร่งดื่มต่อไปจนขวดที่สองหมดลง เขายกมือปาดเช็ดคราบเหล้าที่ไหลมาเปื้อน สติที่มีละลายหายไปพร้อมๆ กับเหล้าที่หมดไปด้วย เขาสะบัดหัวไล่ความมึนเมา ก่อนจะเอนหัวลงไปซบยังบ่าเพื่อนสนิทและหลับไป

ไนน์ ไนน์” วีเรียกเพื่อนพร้อมทั้งเขย่าแขน “พี่หนึ่งครับไนน์หลับไปแล้ว เอาไงต่อครับ” วีหันไปถามแฟนหนุ่ม แต่ยังปล่อยให้หลับลงบนบ่าเขาต่อ

 

 

ซันมองตรงไปยังห้องวีวีไอพี่ที่เป็นโซนแยกออกไปและตอนนี้มีกลุ่มนั่งดื่มเพียงกลุ่มเดียว และเห็นคนที่เขาตามหานั่งหลับซบอยู่ที่บ่าผู้ชายตัวเล็ก เขาเพ่งมองเพื่อให้แน่ใจว่านั่นคือไนน์จริงๆ พบมองจนแน่ใจ เขาลุกพรวดและพลักหญิงสาวที่นั่งอยู่บนตักให้ไปพ้นตัว ก้าวไปยังห้องนั้นทันที

 

ไอ้ซันไปไหนวะ” เพื่อนทั้งสามรีบกุลีกุจรลุกตามออกไป ทิ้งหญิงสาวทั้งสี่คนไว้ที่โต๊ะและมองตามไปอย่างสงสัย

 

คุณครับเข้าไม่ได้ครับ” เสียงการ์ดที่รักษาความปลอดภัยยกมือกันเอาไว้

ผมจะเข้าไปทักทายคนรู้จัก คุณจะมาขวางผมทำไม” เขาพยายามแหวกการ์ดที่กันเขาไว้ทั้งสามคน

เข้าไม่ได้ครับ ถ้ายังทำตัวมีปัญหาอยู่ พวกผมจะโยนคุณออกไปนอกร้าน” หนึ่งในการ์ดเริ่มออกคำสั่ง

ไอ้ซันมึงใจเย็น มึงจะเช้าไปหาใครวะ” พอร์ชดึงตัวเพื่อนไว้ ที่พยายามพุ่งเข้าไปในห้องให้ได้

น้องอยู่ในนั้น ไนน์อยู่ในนั้น”

ไนน์? ใครคือไนน์?” เพื่อนทั้งสองที่ขมวดคิ้วด้วยความสงสัยยกเว้นพอร์ชที่พอจะรู้เรื่องบ้างแล้ว ส่วนการ์ดทั้งสามใบหน้ากระตุกทันทีที่ได้ยินชื่อไนน์

ก็เรื่องนี้กูกะจะให้มันเล่าให้ฟัง แต่พวกมึงดันพาหญิงมาก่อน มันเลยไม่ได้เล่าให้ฟังไง” พอร์ชเป็นคนอธิบายให้เพื่อนคนอื่นฟัง

ผมว่าพวกคุณออกไปเถอะครับ พวกผมว่าพวกคุณคงไม่อยากมีปัญหากับเจ้านายผมหรอกใช่ไหม” การ์ดคนที่พูดจบและหันไปพยักหน้าให้อีกคนเดินเข้าไปในห้องและกระซิบให้หนึ่งในเจ้านายฝาแฝดฟัง

ผมต้องเข้าไป ผมมีเรื่องจะต้องคุยกับเค้า ขอร้องล่ะครับ” ซันยังคงยืนกดดันที่เข้าไปให้ได้ เพราะเขายังไม่อยากให้ไนน์จากไปอีกแล้ว

 

ประตูเปิดออกมาพร้อมกับชายหนุ่มฝาแฝดทั้งสอง ทั้งคู่มีความเป็นผู้นำตั้งแต่อายุยังน้อย สามารถครอบครองหนึ่งในอาณาจักรของศิริกิจวัชรโชติ ความเด็ดเดี่ยวและความมุ่งมั่น จัดการปัญหาที่เกิดขึ้นได้อย่างรวดเร็ว และแน่นอน ด้วยอำนาจ เงินทองและชื่อเสียงที่สะสมมาตั้งแต่รุ่นพ่อจึงกลายเป็นที่เกรงกลัวและไม่อยากมีปัญหาด้วย

 

มีปัญหาอะไร” ยอซอทแฝดผู้น้องเอ่ยถามการ์ดที่อยู่ด้านนอก

คือกลุ่มคนพวกนี้พยายามจะเข้าไปในห้องครับ” แฝดทั้งสองเปรยตามองกลุ่มคนที่ยืนร่วมอยู่ด้วย

ข้างในเป็นพื้นที่ส่วนบุคคลและงานที่จัดเชิญคนเฉพาะที่รู้จักและตอนนี้แขกครบหมดแล้ว ผมว่าพวกคุณไม่ใช่หนึ่งในแขกแน่นอน เพราะฉะนั้นอย่ามารบกวน เชิญไปนั่งที่โต๊ะพวกคุณเถอะครับ ผมเตือนได้แค่นี้” ยอซอทแฝดผู้พี่เป็นคนออกปากเตือน ตอนนี้อากาศโดยรอบแทบจะเย็นยะเยือกไปหมด ด้วยสีหน้าและแววตาของฝาแฝดที่นิ่งและดุดัน

ผมแค่อยากเข้าไปคุยกับไนน์ครับ ผมมีเรื่องต้อ..”

ไม่ได้!!! มึงเป็นอะไรกับไนน์!!!” ยังที่จะพูดจบ เสียงคำรามของแฝดผู้พี่ก็ดังสวนกลับมา

ไอ้ซัน” คุณชายเริ่มมองสถานการณ์ออกและเขารู้จักฝาแฝดทั้งสองอย่างดี เพราะเขาคือกลุ่มลูกค้าวีโอพี คุณชายพยายามดึงแขนกึ่งลากเพื่อนออกมา

คุณยอซอท ทาซอทครับ เพื่อนผมมันอาจจะจำคนอื่นนะครับ” คุณชายยังพยายามแก้ต่างให้เพื่อนอยู่

จำผิดที่ไหน ไอ้สัด กูจำได้แม้แต่เงา ไม่ผิดคนแน่นอนซันหันมาตวาดใส่เพื่อนที่พยายามลากเขาออกมา

งั้นคุณต้องทำความเข้าใจใหม่แล้วล่ะครับ ถ้าไนน์คนที่คุณกำลังพูดถึงคือแฟนผม และผมไม่อนุญาตให้คุณเข้าไปคุยกับคนของผม” เป็นยอซอทที่ออกปากพูดออก “ส่งแขกไปที่โต๊ะด้วย”

แฟนมึง?” แฝดผู้พี่หันมาถามแฝดผู้น้องด้วยสีหน้าเกรี้ยวกราด

มึงหุบปากไปก่อน!!!!” เสียงน้องฝาแฝดตะโกนใส่หน้า ก่อนที่พละเดินเข้าไปให้ห้อง และอีกคนก็เดินตามไปอีกคน

ส่วนการ์ดทั้งสามโค้งคำนับ และผายมือไปยังทั้งสี่คนให้ออกเดินกลับไปยังโต๊ะ เขายังคงจ้องมองอย่างไม่ละลายไปตายังคนที่นอนหลับคอพับซบไหล่อีกคนอยู่ ยอซอทหันมามองดูก่อนที่จะกดจมูกไปที่หน้าผากคนเมาและมายักคิ้วใส่อย่างกวน แสดงความเป็นเจ้าของด้วยการลงไปนั่งข้างๆ และย้ายหัวของอีกคนลงมาซบที่ไหลของเขาแทน เขากัดฟันเสียงดังกรอดๆ ข่มอารมณ์ที่อยากจะพุ่งเข้าห้องแล้วตะบันหมัดใส่อีกคน

พอทันสี่กลับมาที่โต๊ะหญิงสาวทั้งหมดก็หายไปทันที จริงๆ พวกหล่อนหนีไปตั้งแต่พวกเขาพุ่งเข้าไปหาเรื่องคนให้ห้องวีวีไอพี ทั้งสี่นั่งลงที่โซฟาและหยิบเหล้ามาเทลงแก้ว ต่างพากันกรอกลงคออย่างหายใจหายคอกันแทบไม่ทัน เป็นคุณชายที่ทำลายความเงียบด้วยการถาม

ไอ้ซัน มันเกิดอะไรขึ้นว่ะ มึงไปหาเรื่องทำไมว่ะ แล้วมันเกี่ยวอะไรกับคนที่ชื่อไนน์ พวกกูงงไปหมดแหละ”

“...” ซันเลือกที่จะเงียบไม่พูดโต้ตอบอะไร เอาแต่จ้องคนของเขาอย่างเอาเป็นเอาตาย

ไอ้ซันได้โปรดเถอะ มึงเล่ามาให้พวกกูฟังก่อน จะพาพวกกูมาตายห่าก่อนได้เมีย” เป็นพอร์ชที่พูดต่อด้วยความเหนื่อยใจแกมขอร้อง

“...”

มึงต้องเล่า ไม่งั้นพวกกูไม่ช่วยนะมึง” จัสตินเริ่มพูดด้วยอารมณ์หงุดหงิดแล้ว

 

เสียงถอนหายใจก่อนที่เล่าทุกอย่างที่เกิดขึ้นให้ฟังตั้งแต่ต้นจนจบ นับตั้งแต่เมื่อย้อนเมื่อเดือนก่อนที่ได้เจอน้องที่สมุย ระหว่างที่เล่าไปตาของเขาคอยชำเลืองมาไปทางน้องตลอดเวลา ยิ่งเห็นอีกคนจับหัวน้องมาซบลงที่บ่า ใจเขายิ่งอยากไปอุ้มน้องกลับบ้านทันที แต่ตอนนี้เขารู้ว่าไม่มีสิทธิทำแบบนั้น เอาแต่แค่แอบมองไปเรื่อยๆ อย่างจำใจ เพื่อนทั้งสามต่างมองเขาและถอนหายใจที่เข้าไปยุ่งกับคนที่เจ้าของและเจ้าของที่ว่าดุและน่ากลัวอีกต่างหาก

 

จนผ่านไปเป็นเวลาเที่ยงคืน เจ้าของวันเกิดโดนปลุกขึ้นมาเป่าและลงไปหลับต่อ พวกพี่เขาต่างถกเถียงกันว่าใครจะเป็นคนแบกน้องไปส่งที่รถ เพราะหน้าที่ขับรถและเอาน้องไปยังบ้านน้องยกให้เป็นหน้าที่คีน พวกเขาบางที่ก็อดหมั่นไส้คีนบอดี้การ์ดไม่ได้ที่ได้อยู่กับน้องตลอดเวลา เวลามารวมตัวทีไรคีนมักจะหลีกหนีไปห่างๆ ด้วยสายตาที่อาฆาตต่างจ้องเขาแทบพรุนทุกครั้ง ปล่อยเวลาเถียงกันอยู่นานคนที่มีหน้าที่ส่งแขกที่เป็นเพื่อนสนิทคือสะใภ้ใหญ่ของบ้าน

 

บทสรุปคือให้ยอซอทแบกน้องสุดรักลงไปด้วยที่สมอ้างว่าน้องคือแฟนเขา ด้วยความไม่พอใจของหลายๆ คนแต่ก็ต้องยอมเมื่อพวกเขายังเห็นว่าคนที่อยู่ข้างนอกยังคงนั่งมองอยู่ ทันทียอซอทแบกน้องรักออกมา อีกคนแทบจะพุ่งตัวไปหาทันที แต่โดนการ์ดกันไว้ไม่ให้ใกล้แม้แต่น้อย

ไนน์ ไนน์ครับ พี่ซันเองนะ ได้ยินมาพี่” เขาพยายามตะโกนไล่หลังกลุ่มคนที่เดินออกไป ส่วนพวกพี่ๆ เขาต่างส่งยิ้มเยาะใส่ด้วยความหมั่นไส้ที่บังอาจกล้าตอแยบุคคลที่เป็นที่หวงห้ามของตระกูลพวกเขา

 

ส่วนคีนที่กำลังจะขึ้นมาแบกเจ้านายตัวเอง เมื่อเห็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเขาจึงล่าถอยลงไปรอยังรถ แกล้งทำเป็นยืนสูบบุหรี่รอแทน

ไอ้คีน!!!!” ไม่รู้ว่าเสียงนั้นเป็นของใครคีนเริ่มขนหัวลุกเรียวทันที เสียวสันหลังตามมา อากาศรอบแทบจะจับตัวเป็นน้ำแข็งทั้งๆ มันคือเมืองไทย

คะ ครับผม” เสียงตอบออกไปยังตะกุตะกัก

มีคนมายุ่งวุ่นวายกับน้องกู มันคือใคร มันชื่ออะไรวะ” ทูเป็นถาม

ชื่อซันว่ะ กูเห็นมันตะโกนบอกมา” เป็นทรัวที่ตอบมาให้

คีนเรารู้ใช่ไหมว่าคือใคร เรากับคนดีมีอะไรปิดบัง บอกมาซะดี” โพร์ไล่ถามต่ออีกคน

ไอ้คีน มึงจะบอกดีหรือให้ต้องใช้กำลัง” นานะหักนิ้วและเดินเข้ามาเอามือกดลงที่บ่า ความปวดร้าวเล็กๆ ที่บ่าของคีน ทำให้เขานิ่วหน้าทันที

คือ คือ เขาแค่มาตามจีบคุณไนน์ตอนอยู่สมุยนะครับ แต่คุณไนน์บอกว่าไม่มีอะไรไม่ต้องบอกพวกคุณๆ นะครับให้กังวลนะครับ” คีนรีบตอบเอาตัวรอดทันที ใช่อันนี้คือสิ่งที่เจ้านายเขาสั่งไว้ให้ตอบแบบนี้ไว้ แต่ถ้าโดนซักมากกว่านี้เขาคงไม่รอดแน่ๆ ยิ่งรุมมาแบบนี้

...ตายแน่ไอ้คีนเอ้ยยยย คุณซันนะคุณซันมาเจอตอนไหนไม่เจอดันมาเจอตอนครบทีมแบบนี้…

“…” ดวงตาทั้งหมด 16คู่จับจ้องมาที่คีนคนเดียว สายตาที่ประกอบด้วยหรี่ด้วยความสงสัย จ้องเขม็งราวต้องหาคำตอบ สายตาเชือดเฉือนที่บ่งบอกว่าเขาโกหก สายตาที่กดดันกับคำตอบที่ได้รับ คีนถึงกับกลืนน้ำลายที่ตอนนี้เหนียวหนืดราวกับตังเมอย่างยากลำบาก

คีนกลับบ้านกูง่วง” คนเมาตื่นมาจากภวังค์บนหลังที่ชายและออกคำสั่งด้วยเสียงอันยืดยางบอดี้การ์ดคนสนิท เรียกสติทุกคนกลับมา

...ขอบคุณพระเจ้าไนน์ที่ช่วยชีวิตไอ้คีน...

ครับ” คีนช่วยประคองเจ้านายจากหลังพี่ชายแฝดผู้น้องเข้าไปนั่งที่รถยนต์และปิดประตู ก่อนจะโค้งคำนับให้เจ้านายที่เหลือแล้ววเดินไปนั่งประจำตำแหน่งคนขับและขับรถไปส่งเจ้านายกลับบ้าน

หลังจากรถออกไป ต่างคนหยิบโทรศัพท์โทรหาคนสนิทและสั่งให้ไปสืบประวัติคนที่บังอาจมาจีบน้องสุดรักสุดหวง และพวกที่เหลือต่างพากันกลับไปยังที่พักของตัวเอง กลับคอนโดบ้าง กลับบ้านใหญ่มีแค่หนึ่ง ทู และโฟร์ เพราะที่เหลือต้องเคลียร์งานกันต่อ ส่วนสามพี่น้องเจ้าของผับก็กลับไปทำหน้าที่ตามเดิม

 

ซันที่ตามมาถึงลานจอดรถ คีนขับรถออกไปทันที เขาตามน้องไม่ทันอีกแล้ว น้องหายจากเข้าที่อีกครั้งและนี้คือครั้งที่สามนับตั้งแต่น้องมีตัวตนในชีวิตของเขา

มันจะไม่มีครั้งที่สี่แน่นอนไนน์ รอพี่ก่อนนะ พี่จะคว้าเรามาให้ได้”

 

Tbc…