27 ตอน Chapter 26
โดย T.mines
Chapter 26
Number nine My Sun
หมายเลขเก้าของดวงตะวัน
#IXMYSUN
หลังจากส่งคลิปไปยังคนที่เธอเกลียดที่สุด วีว่าหญิงสาวที่เติบโตมาจากที่พ่อกับแม่เลี้ยงด้วยเงิน เอาใจทุกอย่างเพราะมีเวลาไม่มีเวลาที่จะคอยดูแลจึงใช้สิ่งอื่นมาทดแทน พ่อและแม่สัญญาไว้ว่าจะให้ทุกอย่างที่วีว่าร้องขอ แต่เพียงเรื่องเดียวที่พ่อและแม่ทำให้เธอไม่ได้คือการช่วยให้ได้ครอบครองซัน อาคิรา อัศวธาดานนท์ ผู้ชายคนเดียวที่เธอหลงรักตั้งแต่แรก ผู้ชายที่มีความเพียบพร้อมเหมาะสมกับเธอที่สุด ไม่ว่าจะหน้า ฐานะทางสังคม และความอบอุ่นที่ดูแลเธอเสมอ
เธอสารภาพว่าแอบชอบพี่ซันกับแม่ของเธอ หลังจากนั้นไปกี่วันเธอได้ข่าวเรื่องการแม่เธอเข้าไปคุยกับแม่ของพี่ซันอยากได้มาเป็นลูกเขย ทางฝั่งนั่นก็เห็นชอบด้วยแต่มีข้อแม้ว่าให้เต็มไปด้วยความสมัครของทั้งสองฝ่ายไม่อยากที่จะบังคับใครให้รักกัน เธอพยายามทุกอย่างไม่ว่าจะเรียนหนังสือให้เก่งขึ้น เรียนทำอาหารเพื่อเอาใจ เอาตัวเองเข้าไปอยู่ในสายตาและตัวซันเองก็ยอมทำตามที่เธอร้องขอตลอด ยอมไปไหนด้วยกันสองคนจนเพื่อนเอ่ยแซวไปต่างๆ นานาแต่ชายหนุ่มยังบอกว่าเธอเป็นแค่น้องสาว
แต่ระหว่างนั้นมีผู้หญิงเข้ามาหาพี่ซันตลอด เธอต้องทำทุกวิถีทางให้พวกนั้นออกไป และคนล่าสุดที่พี่ซันหลงรักเธอเป็นคนเขี่ยออกไปเองกับมือ พี่ซันเสียใจอย่างหนักจนประสบอุบัติเหตุเป็นเธอคนนี้ที่คอยเข้าไปดูแล หวังว่าความใกล้ชิดจะทำให้เกิดรักเธอขึ้นมาบ้าง จนถึงเวลาที่ไปเรียนต่อที่เมืองนอก เธอยังแวะเวียนไปหาระหว่างนั้นก็ให้คนตามสืบและคอยเขี่ยคนที่เข้ามาเรื่อยๆ แต่ชายหนุ่มก็ไม่มีท่าทีจะสนใจที่บรรดาผู้หญิงพวกนั้นหายไป
จนวันที่กลับมาอยู่ไทยถาวร เธอรับรู้ว่าพี่ซันแอบชอบผู้ชายคนหนึ่งเป็นแค่พนักงานในโรงงาน และมีข่าวเสียหายเยอะแยะมากมาย เธอเข้าใจว่าพี่ซันคงแค่ได้ลองสิ่งที่แปลกใหม่ และเธอเชื่อว่าความรักของคนเพศเดียวกันไม่ได้ยั่งยืน อาศัยแค่เรื่องเซ็กส์เท่านั้นเป็นเครื่องที่ผูกมัดกันไว้ ไม่ได้มีความรักมั่นคงแบบคนที่ต่างเพศ แต่เธอคิดว่าไม่น่าพวกเขาคงจะเลิกกันแบบที่ผ่านมา
จนวันที่ซันเข้ามาขอพบพ่อกับแม่เธอและตัดสินใจว่าคิดกับเธอแค่น้องสาวเท่านั้น ความเป็นผู้ใหญ่คงต้องยอมรับในสิ่งที่เคยตกลงไปก่อนหน้านี้ เธอร้องไห้เสียใจอย่างหนักพ่อและแม่เข้ามาปลอบ และเธอดึงคำมั่นสัญญาเอาออกมาใช้ที่จะให้ได้ในสิ่งที่ควรจะเป็นของเธอ
ความหวังก็พังทลายไปพร้อมกับความเชื่อมั่นในตัวของพ่อกับแม่ที่เคยสัญญากับเธอไว้ พ่อกับแม่เธอไม่กล้าเข้าไปยุ่งกับคนนั้นของพี่ซันเพราะตระกูลที่ใหญ่คับฟ้า มีอำนาจที่พอจะทำให้ธุรกิจของใครพังได้เลย
“แกเลิกยุ่งกับซันสะเถอะเรื่องนี้พ่อกับแม่ทำให้แกไม่ได้”
“ทำไมค่ะ ไหนพ่อกับแม่สัญญาไว้กับหนูว่าจะทำทุกอย่างให้หนูไงคะ”
“ทำไมแกไม่รู้จักโต ที่ผ่านมาพวกฉันก็ทำให้ทุกอย่างแล้ว แต่เรื่องนี้เรื่องเดียวที่ฉันทำให้ไม่ได้ และฉันสั่งห้ามไว้เลยว่าไปยุ่งหรือทำอะไรผู้ชายคนนั้นถ้าแกยังไม่อยากให้พ่อกับแม่แกเดือดร้อน”
หลังจากนั้นเธอจ้างนักสืบที่จะขุดคุ้ยเรื่องราวเน่าๆ ของคนนั้นออกมา ให้คนตามดูตามสืบแต่ไม่นานนักสืบคนแล้วคนเล่าก็โทรมายกเลิกงานและคืนเงินให้เธอทุกบาท เธอไม่เชื่อหรอกว่าคนเราจะทำเรื่องดีๆ ทั้งชีวิตมันต้องมีเรื่องไม่ได้บ้าง ค้นเท่าไร่ก็ไม่เจอในสิ่งที่เธออย่างได้ คล้ายเรื่องต่างๆ โดนซ่อนหรือกำจัดออกไป และเธอได้รับคำเตือนจากคนใครบางคน ว่าให้เลิกยุ่งวุ่นวายกับคนนั้นสะถ้ายังอยากมีชีวิตอยู่ เธอได้แต่เก็บและอดทนเอาไว้
แต่ความอดทนมันมีขีดจำกัด วันที่เธอตั้งใจเอาขนมที่ตั้งใจทำไปฝากซัน ในสถานะน้องสาวที่ไม่อยากได้ และได้ยินคุยโทรศัพท์เรื่องการถ่ายพรีเวดดิ้ง เธอกำลังจะสูญเสียผู้ชายคนนี้ไปจริง และเธอต้องพ่ายแพ้กับผู้ชายที่ไม่เคยทำอะไรเลยแต่กลับได้ครอบครองความรักจากคนที่เธอรักอย่างง่ายดาย ถึงขั้นจะแต่งงานกันเลย
เธอยืนฟังการพูดคุยจนจบและเริ่มวางแผนในใจ และเธอเลือกผับที่เป็นทางผ่านคอนโดของซัน เมื่อถึงเวลาเที่ยงคืนเธอให้บาร์เทนเดอร์ที่เธอจ้างโทรไปหาซันและพากลับบ้าน
“ครับวีว่า”
“ขอโทษครับ ผู้หญิงที่เป็นเจ้าของโทรศัพท์เมามากครับ เธอเอาแต่บอกว่านี่เบอร์คู่หมั้นเธอและให้ผมโทรตามรับที พี่ช่วยมาเร็วหน่อยนะครับ มีผู้ชายเข้าหาเธอเยอะเลยครับผมกลัวจะไม่ปลอดภัยและผมใกล้จะหมดกะแล้ว”
“รบกวนแชร์สถานที่มาด้วยครับ ผมจะรีบไป”
ธนบัตรใบสีเทาสามใบส่งไป เธอรับแก้วเหล้าพร้อมกับโทรศัพท์คืนมา รอไม่นานคนที่รอคอยก็มา เธอต้องแกล้งหลับที่โต๊ะ
“วีว่าครับกลับบ้าได้แล้ว เดี๋ยวพี่ไปส่ง”
“อื้อ..พี่ซันวีว่าไม่กลับ วีว่าอยากเมา เอาแก้วเหล้ามา” หญิงสาวคว้าแก้วเหล้าที่วางตรงหน้า
ซันแย่งและคว้ามาดื่มแทน “หมดแล้วกลับบ้านได้ครับ”
ชายหนุ่มพยุงหญิงสาวที่แกล้งมาออกมา เธอทำท่าเมื่อจะอ้วกและพลักชายหนุ่มออกและวิ่งตรงไปยังต้นไม้โก่งคออ้วกเพื่อรอเวลาให้ยาออกฤทธิ์ อย่างที่เธอต้องการมาแล้ว ชายหนุ่มเริ่มเวียนหัวเกาะมายังต้นไม้ที่เธอยืนอยู่
“พี่ซันเป็นอะไรคะ” วีว่าเข้ามาประคองชายหนุ่มไปให้ล้ม
“วีว่าในเหล้ามียาผสมอยู่ เรียกรถพาพี่กลับห้องที” ชายหนุ่มที่มีอาการมึนหัวและร้อนวูบวาบตามร่างกาย แก่นกายที่สงบเริ่มแข็งและปวดหนึบในกางเกง
“วีว่าหายเมาแล้วค่ะ เดี๋ยวขับรถให้นะคะ” เธอพยุงชายหนุ่มมายังรถและดันตัวให้นั่งข้างคนขับและพาขับรถออกไป
“ส่งพี่เสร็จเรารีบอยู่ห่างพี่นะ พี่กลัวพลาดทำในที่ไม่ดีกับเรา” เสียงที่แหบพร่าบอกกับเธอ พี่ซันยังคิดว่าเธอไม่ได้ใส่ยาในแก้วนั้น แต่คนอื่นที่ใส่ให้เธอแทน
เธอพาชายหนุ่มมายังคอนโดของเจ้าตัว เพราะมันคือที่ใกล้ที่สุดทำให้เหมือนว่าคล้ายไม่ตั้งใจ ระหว่างทางชายหนุ่มเอาแต่บ่นว่า ร้อน ๆ มือลูบไปยังเป้ากางเกงตลอดเวลา กว่าจะพาขึ้นมายังข้างบนได้เล่นเอาเธอเหนื่อยหอบอย่างมาก
ชายหนุ่มที่ไร้สิ้นสติเข้ามากอดและจูบเข้าที่ซอกคอ สูดกลิ่นน้ำหอมที่กลิ่นเดียวชายคนรักของตน นั่นคือสิ่งที่วีว่าตั้งใจเลือกมาประพรมบนร่างตัวเอง
“ไนน์ครับ พี่ไม่ไหวแล้วครับ” เสียงที่กระเส่ากระซิบเข้าที่หูของหญิงสาว
เธอแสยะยิ้มและตอบกลับไปด้วยเสียงที่ดัดให้แหบด้วยเช่นกัน “ครับไนน์ก็ไม่ไหว ไปที่เตียงนะครับไนน์จะทำให้พี่มีความสุขเอง”
เธอพลักชายหนุ่มให้ล้มลงบนเตียง ก่อนที่เธอจะหยิบโทรศัพท์มาตั้งกล้องบันทึกภาพการร่วมรักในครั้งนี้ เธอจัดการทุกอย่างเอง ชายหนุ่มยอมให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี คงเข้าใจว่าเธอคือคนที่เขารัก
สิ้นสุดคืนนั้นเธอโดนชายหนุ่มปู้ยี่ปู้ยำจนหนำใจ คราบน้ำกามเลอะเทะไปทั้งช่องทางด้านหน้าและด้านหลัง ร่างกายแทบร้าวไปหมด กว่าหญิงสาวจะได้นอนเกือบเช้า เธอเข้าใจแล้วว่าทำไมผู้หญิงที่เธอพยายามเขี่ยออกถึงติดใจพี่ซันนักหนา ถ้าไม่เอาแล้วขอเจออีกรอบนะ ผ้ชายแซ่บๆ แบบนี้หายากง่ะ
ครืด ครืด ครืด เสียงโทรศัพท์เข้ามา ปลุกคนที่นอนกอดเอวเธอตื่นขึ้นมา ชายหนุ่มลืมตาขึ้นมาพบว่าคนที่นอนเปลือยกายข้างๆ ไม่ใช่คนรักของเขา
“เฮ้ย!! วีว่าเมื่อคืน” ชายหนุ่มของหน้าหญิงสาวและดูสภาพห้องทั้งหมด
แต่เสียงโทรศัพท์ที่ดังอยู่เรียกสติเขาให้รับสายก่อน เขาเดินไปหยิบและเดินออกไปจากห้องและกดรับสายปล่อยให้หญิงสาวไว้บนเตียง
“ครับ”
[พี่ซันอยู่ไหนครับ] เขายังพูดจบประโยคเลย ปลายสายพูดโพล่งขั้นมาทันที
“อยู่ห้องอยู่เลยครับ พ พี่ลืมตั้งนาฬิกาปลุกครับ” เขาได้ยินเสียงถอนหายใจอย่างแรง
[โล่งอกไปที]
“รอพี่ก่อนนะครับ แล้วพี่จะรีบไปเดี๋ยวนี้แหละ”
[ได้ครับ งั้นไนน์จะได้ซื้อตั๋วใหม่เลยนะ]
“ครับแล้วเจอกัน”
[ครับแล้วเจอกัน]
“ไนน์”
[ครับ?]
“พี่รักไนน์นะครับ รักที่สุด รักยิ่งกว่าชีวิตพี่อีก”
เสียงหัวเราะขึ้นจมูกกลบเกลื่อนความเขินอาย [ครับไนน์ก็รักพี่ซัน]
ชายหนุ่มยืนถูหน้าและขยี้หัวตัวเองอย่างแรงก่อนจะเดินเข้าไปยังห้องนอนที่มีอีกคนอยู่ข้างใน ชายหนุ่มเดินเข้ามาเห็นหญิงสาวเอาผ้าห่อมมาคลุมตัวปกปิดร่างกายนั่งพิงบนเตียง
“เอ่อ...” ชายหนุ่มยังสับสนไม่รู้ว่าจะเริ่มพูดตรงไหนก่อนดี
วีว่าเห็นอาการลุกลี้ลุกลนที่จะพูด เธอจึงเลือกที่พูดออกมาแทน “พี่ซันค่ะ พี่ไม่ต้องใส่ใจเรื่องที่เกิดขึ้นนะคะ เมื่อคืนพี่ซันโดนยามาและวีว่าก็เมาด้วยเช่นกัน วีว่าเข้าใจมันคือเรื่องผิดพลาดของเราทั้งคู่ พี่ซันไม่ต้องใส่ใจนะคะ เรื่องที่เกิดขึ้นมันจะจบลงที่นี่ค่ะ พี่ซันไปตามนัดเถอะค่ะ เดี๋ยววีว่าขอนอนต่ออีกหน่อยแล้วก็จะกลับบ้านเองนะคะ”
“แต่...”
“ไม่มีแต่ค่ะ ไปเถอะค่ะอย่าปล่อยให้เขารอนานสิคะ” หญิงสาวไถลตัวล้มลงนอนพร้อมกับโบกมือไล่ให้ชายหนุ่มออกไปจากห้อง ทำเหมือนกับว่าเธอผ่านเรื่องแบบนี้มาเยอะแล้ว
“แต่ยังไงพี่ก็ต้องขอโทษสำหรับเรื่องที่เกิดขึ้นนะครับ”
เรื่องราวที่เกิดขึ้นระหว่างเขากับเธอมันยังไปจบแค่นี้ เมื่อเธอไม่ได้คนอื่นก็อย่าหวังที่จะได้ไปเลย เธอนั่งรอคอยจนถึงวันสุดท้ายจึงส่งคลิปไป และผลเป็นอย่างที่เธอหวัง คนนั้นวิ่งหนีออกมาจากร้านและมีเสียงทะเลาะกันตามขึ้นมาจากคลิปที่เธอจ้างวินมอไซด์ถ่ายส่งมาให้
สามเดือนต่อมา
ซันโดนกันให้อยู่ห่างจากไนน์โดยสิ้นเชิง เขาไม่ได้เข้าไปจัดการหรือพูดคุยกับวีว่าในเรื่องที่เกิดขึ้นเพราะเขากลัวว่าถ้าตัวเองเข้าไปเฉียดใกล้ผู้หญิงคนนี้เขาคงบีบคอให้ตายตรงหน้าอย่างแน่นอน ไนน์บินไปเรียนต่อที่ต่างประเทศเขาพยายามเข้าไปหาไม่ว่าจะพี่ๆ ของไนน์ รวมถึงเพื่อนไนน์ทุกๆ คน แต่ไม่มียอมบอกเขา รวมถึงข่าวการเลิกราของทั้งสองที่ปิดเงียบเพียงแต่บอกนักข่าวว่าไนน์ไปเรียนต่อเท่านั้น
วันนี้ดังเดิมเขาไปขอพบพี่ชายคนโตที่ตอนนี้เข้ามาช่วยดูแลบริหารงานแทนไนน์ ระหว่างที่รอพบแม่เขาโทรมาบอกว่าวีว่าและแม่ของเจ้าตัวมาพบและมีเรื่องสำคัญจะคุยด้วย นับตั้งแต่เกิดเรื่องบ้านเราทั้งสองที่เคยสนิทกัน ตอนนี้เข้าหน้ากันแทบไม่ติดเลย
ห้องส่วนตัวของอดีตท่านประธานปิดเงียบ ภายในห้องมีคนนั่งรออยู่กับเพียงสามคน คือแม่เขา วีว่าและแม่ของหญิงสาว
“ลูกชายฉันมาแล้วมีอะไรจะพูดก็พูดมา” น้ำเสียงที่แข็งกระด้างส่งไปยังอีกฝั่ง
“วีว่าท้อง”
“แล้ว?” มารดาของเขาเปรยตาไปมองหญิงสาวที่เอาแต่นั่งก้มหน้าและถามด้วยน้ำเสียงเอื่อยเฉื่อยไร้อารมณ์
“ลูกชายเธอต้องรับผิดชอบลูกสาวฉันด้วยการแต่งงาน!” น้ำเสียงที่แข็งกร้าวด้วยความโมโหตะโกนใส่เพื่อนรักที่อยู่ตรงหน้า ด้วยที่ไม่พอใจที่เพื่อนสนิทแสดงท่าทีแบบนั้นเช่นนั้นใส่ตนเอง
คนที่เป็นแม่ยอมจะต้องปกป้องลูกเสมอ ถึงแม้ลูกจะทำผิดแต่ก็ใช่เป็นความผิดที่เกิดจากลูกเธอก่อ แต่ลูกของอดีตเพื่อนรักของเธอที่สร้างขึ้นมาจะให้รับผิดชอบ เห้อ…ฝันไปเถอะ เธอโยนหลักฐานที่ลูกชายได้มาจากพี่ชายของคนรักของลูกชาย พี่ชายฝาแฝดหาหลักฐานมาได้อย่างรวดเร็ว แม่อย่างเธอเดาว่าทางนั้นคงหาหลักฐานว่ามีใครมีส่วนร่วมในการทำคนสุดที่รักในบ้านเสียใจจะได้จัดการให้หมด
“มอมยาลูกกชายฉันแล้วยังจะให้เขาแต่งงานด้วย ไม่หน้าด้านไปหน่อยเหรอ” เสียงที่กดต่ำที่พยายามระงับความโกรธของตัวเองของหญิงวัยกลางคนแม่ของลูกชาย
“ไม่แต่งครับ เอาเด็กออกจบเรื่องแล้วจะมาเรียกร้องทำไมไม่ทราบ” ชายหนุ่มที่นิ่งฟังอยู่นานพูดด้วยน้ำเสียงที่เบื่อหน่าย
หญิงสาวที่ก้มหน้าร้องไห้โฮเมื่อได้คำพูดจากชายหนุ่ม เงยหน้าขึ้นมาพูดด้วยน้ำเสียงสะอื้น “พี่ซันคะนี่มันลูกของเรานะคะ พี่จะฆ่าลูกได้ลงคอเลยค่ะ”
เธอรีบคว้ามือบุตรชายไว้แน่นเพราะกลัวว่าจะลุกไปทำร้ายหญิงสาวตรงหน้า เธอส่ายหน้าก่อนจะหันไปพูดกับบุตรชายด้วยน้ำเสียงที่นิ่ง “เดี๋ยวแม่จัดการเอง อดทนไว้นะครับ” พร้อมกับบีบมือย้ำไปอีกที
เธอหันไปพูดกับคนทั้งสอง “เรื่องแต่งงานจะไม่เกิดขึ้นเป็นอันขาด ถ้าคิดว่าจะเอาคลิปไปปล่อยแล้วทำให้ชื่อเสียงลูกชายฉันเสียหายว่าไม่รับผิดชอบในเรื่องที่เกิดขึ้น ทางเราก็จะเอาคลิปที่เธอจ้างบาร์เทนเดอร์ให้จัดฉากพร้อมกับทนายส่งฟ้องทันที ส่วนเด็กที่อยู่ในท้อง ป้าว่าหนูวีว่าตั้งใจจะเก็บเอาไว้มาอ้างเรื่องแต่งงาน ความจริงผู้หญิงที่เที่ยวเก่งอย่างเราประจำเดือนหายไปแค่เดือนเดียวก็น่าจะรู้ว่าท้องแล้ว แต่ปล่อยเอาไว้ตั้งนานขนาดนี้คงมีแค่เหตุผลเดียวนั่นแหละว่าไหม แต่มาถึงขั้นนี้แล้วคงต้องปล่อยให้เด็กคลอดออกมาเท่านั้น”
ทางนั้นมีท่าทีจะแย้งขึ้นมา แต่คุณแม่ยกมือห้าม “ยังพูดไม่จบค่ะ ทางเราจะไม่ขอข้องเกี่ยวใดกับทางคุณไม่ว่าจะทางไหนก็ตาม ถ้าไม่มีอะไรแล้วเชิญกลับไปค่ะ” พร้อมกับผายมือไปทางประตู
ทั้ งสองมีสีหน้าที่โกรธเกรี้ยวอยากจะอาละวาดที่สุด จนนี้พวกเธอไม่มีอะไรจะมาต่อสู้กับฝั่งทางนี้แล้ว ธุรกิจที่สร้างขึ้นมากำลังจะล้มละลายเพราะการกระทำอันโง่เง่าของลูกสาวตัวเอง พอจะเอามาอ้างเรื่องการแต่งงานทางนี้ก็ไม่ยอม ไม่ว่าจะยื่นมือขอความช่วยเรื่องทางไหน ก็ไม่มีใครกล้าเฉียดมาแม้แต่น้อย คู่ค้ารวมถึงและพันธมิตรทางธุรกิจเริ่มถอนชื่อออกกันเป็นแถวเพราะกลัวจะโดนหางเลขไปด้วยเพราะจะทำให้ธุรกิจขอตัวเองพังไปด้วย
“เดี๋ยวก่อนครับ” ชายหนุ่มร้องทักขึ้นมา “ผมรู้ว่าตอนนี้ทางคุณกำลังลำบาก ผมจะรับผิดชอบชีวิตเด็กที่อยู่ในท้องหลังจากคลอดออกมาแล้ว ผมจะให้เงินจำนวน 20 ล้านบาทแลกกับการที่วีว่าจะไม่มาวุ่นวายในชีวิตผมและเด็กคนนี้อีกเลย ผมแค่สงสารเด็กที่จะต้องเติบโตขึ้นมากับ...” เขาเลือกที่ไม่พูดต่อเอาไว้ในฐานะที่เข้าใจกันเอง
“วีว่ารับข้อเสนอค่ะ แต่ข้อแม้เดียวคือวีว่าของย้ายมาอยู่กับพี่ซันที่บ้านนะคะ”
“ตกลง”
หลังจากสองแม่ลูกคู่นั้นออกไป แม่ของเขาหันมาถามทันที “จะให้มาอยู่ด้วยจริงเหรอ แกคิดอะไรของแก แม่เนี่ยกันแทบตายแต่แกจะเอาเข้ามาอยู่ในบ้าน” แม่เขาบ่นออกมาเป็นชุดใหญ่
“เธอบอกว่าจะมาอยู่บ้านแต่ผมไม่ได้ตกลงว่าจะอยู่กับเธอนะครับ ผมยอมให้มาอยู่เพราะกลัวว่าเด็กในท้องต้องอยู่สภาพที่แย่ และถ้ามาอยู่ในสายตาเรายังคุมได้ง่ายกว่าครับ ส่วนผมจะบินไปตามง้อไนน์ครับแม่ เรื่องนี้ฝากแม่ดูด้วยนะครับ เรื่องเด็กผมแค่สงสารที่จะต้องเกิดมากับคนแบบนั้นครับ จะให้เอาเด็กออกตอนนี้คงทำไม่ได้แล้ว รบกวนคุณแม่อีกนะครับ”
รัฐเนวาด้า ลาสเวกัส ประเทศสหรัฐอเมริกา
“ในที่สุดพี่ก็รู้แล้วว่ารอยยิ้มของพี่อยู่ที่ไหน รอก่อนนะครับพี่จะไปหา”
ซันใช้เส้นสายของเพื่อนสนิทอย่างคุณชายช่วยตามสืบการเดินทางเข้าออกนอกประเทศของพี่ๆ ของไนน์ เส้นทางที่แต่ละคนมักจะแวะเวียนไปคือลาสเวกัส และยังมีข่าวที่ออกมามีการเข้าไปเทคโอเวอร์กาสิโนของสามพี่ตระกูลศิริกิจวัชรโชติแห่งธุรกิจสีเทา และเขารับรู้ว่าน้องบินกลับประเทศทุกเดือนแต่ไม่รู้ว่าที่แน่นอน บินแค่มาเซ็นเอกสารแล้วบินกลับทันที ลงเหยียบพื้นไม่ถึง24ชั่วโมงบินกลับทันที และเส้นสายของจัสตินช่วยสืบมาด้วยว่าไนน์พักที่ไหน
ไนน์ย้ายถิ่นฐานมาปักหลักที่นี่เพราะหนึ่งมาเรียนปริญญาโทสาขาบริหาร และมีเข้ามาทำงานร่วมกับฝั่งบ้านลุงสิงห์ที่มาเทคโอเวอร์กาสิโนที่นี่ ส่วนกิจการโรงแรมภายในไนน์ขอเข้ามาร่วมหุ้นด้วย เขาพยายามทำตัวให้ยุ่งที่สุด การหลับยิ่งยากที่สุด เขามักจะตื่นกลางดึกและวันนี้เหมือนเดิมที่สะดุ้งตื่น เขาย้ายตัวเองมายืนริมหน้าต่างเฝ้ามองการขึ้นของพระอาทิตย์ ดวงตะวันที่สดใสในทุกๆ เช้าแต่ช่วงสภาพอากาศแย่มาหลายวันแล้ว
เขายกยิ้มและพูดกับตัวเอง “วันนี้คงไม่เจอกันอีกแล้วนะครับพี่ซัน” เขาเงยหน้าที่มองยังท้องฟ้าที่ยังมืดครึ้มอยู่ถึงแม้จะเกือบจะเช้าแล้ว ด้านล่างคนที่ยืนริมถนนใต้แสงไฟที่สลัว หัวใจที่เต้นเรียบนิ่งมาหลายเดือนกลัวมาเต้นรัว เต้นรัวเจ็บไปหมดแล้ว เขาฝันไปหรือเปล่า คนที่ยืนอยู่ใช่คนที่ฝันถึงทุกค่ำคืนไหม ไนน์วิ่งไปหยิบโทรศัพท์โทรหาเบอร์ที่เขาไม่คิดจะโทรหาในรอบหลายเดือนที่ผ่านมา และไม่คิดที่รับสายมาตลอด
ตู๊ด ตู๊ด
[ไนน์ครับ] เสียงรับสายที่สั่นเครือ
“อึก” ไนน์ยกมือปิดปากกลั้นเสียงไม่ให้ได้ยินเสียงร้องไห้ น้ำตาแห่งความคิดถึง
[สบายดีไหมครับ] เขาถามด้วยน้ำเสียงที่เป็นห่วงเจือปนความโหยหา น้ำตาค่อยหยดลงไปยังพื้นถนนและเขาไม่คิดว่าน้องจะโทรมาหา เพียงได้เห็นว่าคนรักของเขาสบายดีเท่านั้นก็เพียงพอแล้ว
“กลับไปเถอะครับ มายืนตากลมเดี๋ยวจะไม่สบายเอาได้”
[ไม่เป็นไรครับ แค่พี่รู้ว่าไนน์ยังสบายดีพี่ก็ดีใจมากแล้ว]
“...”
[พี่รู้ว่าไนน์ยังโกรธพี่อยู่ แต่พี่ไม่รู้จะทำไงพอรู้ว่าไนน์อยู่ที่ไหนขามันรีบก้าวมาที่มาหาให้เร็วที่สุด เหมือนทุกครั้งไม่ว่าไนน์จะอยู่ไหนพี่จะไปหาจนเจอ]
เสียงถอนหายใจลอยเข้าไปในโทรศัพท์ “ผมขอพูดครั้งสุดท้ายนะครับ กลับไปเถอะครับใช้ชีวิตของพี่ อย่ามาจมอยู่ตรงนี้”
ปิ๊บ!! ไนน์กดวางสายไป
เขาอยากให้เราสองคนก้าวไปข้างหน้า ยังมีผู้คนที่ต้องฝากชีวิตไว้กับพวกเขา พี่ซันที่ตอนนี้แทบจะทิ้งการทิ้งงานออกตามหาเขา โชคดีที่ทางพ่อและแม่บ้านนั้นยังรักลูกและเข้าใจ เลยยอมปล่อยให้ทำตามใจตัวเองแต่มันหลายเดือนมากแล้ว คนเราต้องเดินต่อไปรวมถึงตัวเขาเองด้วย บางที่ยังไม่ถึงเวลาที่พวกเขาจะได้รักกัน
หลังจบบทสนทนาในวันนั้น ไนน์สั่งคีนเปลี่ยนเบอร์โทรศัพท์และย้ายที่อยู่ทันที เพราะสิ่งที่เขากลัวคือใจตัวเอง เขายังรักพี่ซันเต็มอย่างหัวใจแต่ถ้าต้องกลับไปอยู่กับคนรักที่ไม่สามารถเชื่อใจได้ มันยิ่งทำลายความรักระหว่างเรามากกว่า เขาหันมาสนใจการเรียนและเริ่มหันมาดำเนินการหาพื้นที่ในการขยายธุรกิจโรงแรมต่อในทวีปยุโรป ออสเตรเลีย และเข้าไปร่วมหุ้นโรงแรมที่ดูไบ ประเทศสหรัฐเอมิเรตส์ ส่วนในทางฝั่งเอเชียโรงแรมในเครือศิริกิจวัชรโชติสร้างขึ้นในแต่หัวมุมเมืองหลักของประเทศ จีน เกาหลี เวียดนาม สิงคโปร์ จะกล่าวได้ว่าโรงแรมในเครือมีกระจายอยู่ทุกทั่วมุมโลก
วีว่าที่ย้ายเข้ามาอยู่ที่บ้านซันอย่างเต็มตัว เธออยู่ในฐานะแม่ของลูกเท่านั้นไม่มีอย่างอื่น ซันที่ขยันบินไปต่างประเทศแทบทุกสองสัปดาห์
“พี่ซันค่ะ อาทิตย์หน้าคุณหมอนัดอัลตร้าซาวด์ดูความสมบูรณ์ของลูกพี่ซันจะไปด้วยไหมคะ” วีว่าเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงขอร้อง
“ให้คุณแม่พี่พาไปเถอะ พี่ไม่ว่างต้องไปต่างประเทศ” น้ำเสียงที่เย็นชาตอบกลับไป
“ค่ะ พี่ซันค่ะเป็นวีว่าไม่ได้เหรอคะ คนที่อยู่ข้างๆ พี่ วีว่ารักพี่มากกว่าคนนั้นด้วยซ้ำ” เธอพูดด้วยน้ำเสียงที่ตัดพ้อ
ซันแค่นหัวเราะในลำคอ “รักเหรอ? ความรักของวีว่าที่ทำร้ายพี่อยู่ทุกวันเนี่ยนะ! ยอมรับความจริงเถอะเราไม่ได้รักพี่แค่ไม่ได้ครอบครองสิ่งที่อยากได้เท่านั้น วีว่ารักแต่ตัวเอง”
ซันกำหมัดแน่นพยายามที่จะไม่กระชากคนผู้หญิงคนนี้ เธอที่พยายามทำตัวเองให้น่าสงสาร ดูเศร้าตลอดเวลาจนบางครั้งแม่ของเขายังมาแอบบ่นให้เขาฟัง และบอกให้เขาทำดีกับเธอเพื่อเห็นแก่ลูกบ้าง คนที่เห็นแก่ตัวเองเท่านั้นแหละที่จะเอาลูกของตัวเองมาสร้างประโยชน์ในเรื่องนี้ เขาไม่มีวันเชื่อผู้หญิงคนนี้อีกเป็นอันขาด
“เราต่างคนต่างอยู่เถอะ ตอนนี้วีว่าก็ไม่มีใครเหลือแล้ว อดทนและทำตามข้อตกลงก่อนที่มันจะไม่เหลืออะไรให้วีว่าอีกเลย” ซันพูดจบและหันไปเปิดประตูเข้าไปในห้องตัวเอง
วีว่าเดินขึ้นมาบนบ้านตรงกับที่แม่บ้านเข้ามาทำความสะอาดห้องของพี่ซันเพราะตั้งแต่ย้ายมาอยู่เจ้าของห้องลงไปนอนที่ห้องรับแขกด้านล่าง เธอได้ยินเสียงการต่อเติมห้องในช่วงสัปดาห์ก่อนระหว่างที่ซันบินไปต่างประเทศ เธอรู้อยู่ในใจว่าซันบินไปตามหาใคร เธอจึงแอบเข้าไปดูเพราะซันไม่อนุญาตให้เธอเข้าไป คนทั้งบ้านรับรู้เช่นกัน
เสียงพูดคุยกันของสาวใช้สองคนที่ขึ้นมาทำความสะอาดภายในห้องดังผ่านประตูที่เปิดไว้
“คุณซันท่าทางจะรักคนนี้มากนะคะ รูปถ่ายเต็มห้องไปหมดเลย เขาชื่ออะไรนะพี่” เสียงถามขึ้นมา
“ชื่อคุณไนน์ นี่จะบอกเลยนะหลานคนเล็กของศิริกิจวัชรโชติ สองคนรักกันมากเลยนะแก” เสียงอีกคนตอบกลับมาน้ำเสียงที่เสียดาย
“อ้าวเราเลิกกันเหรอพี่ ทำไมง่ะ” เสียงใคร่ถามด้วยความสงสัย
“เราเพิ่งมาทำงานใหม่ พี่เนี่ยรู้ตั้งแต่วันแรกที่คุณซันเจ้านายของพวกเราพามาบ้านครั้งแรกนะแก คุณซันเดินยิ้มหน้าบานเข้าบ้านแบบว่ามาแนะนำให้ตัวให้ที่บ้านอย่างงี้ หลังจากนั้นก็พามาเรื่อยฉันได้เห็นโมเม้นคุณซันจีบคุณไนน์แบบว่าตลอดเวลา ทั้งๆ พวกเขาเป็นแฟนกันแล้วนะโว้ย ป้าไพรแกยังบอกเลยเลี้ยงคุณซันมาไม่เคยเห็นคุณซันทำตัวแบบนี้ แล้วนี่แกฉันจะบอกอะไรอย่างหนึ่ง แกต้องเห็นตอนที่คุณไนน์แฟนคุณซันยิ้มนะแก....” เสียงร้องอันเวอร์วังก่อนจะพูดต่อ “ฉันเนี่ยแทบละลาย แบบว่าโลกทั้งใบดูสดใสแบบมีวิ้งๆ กระจายรอบตัวคุณไนน์เลยแก เข้าใจเลยว่าทำไมคุณซันถึงหลงคุณไนน์หลงแบบโงหัวไม่ขึ้นเลยนะ” เสียงถอนหายใจดังขึ้นมาคั่นกลางอีกครั้ง “เสียดายที่จะไม่ได้เห็นรอยยิ้มนั้นอีกไหม รวมถึงบรรยากาศในบ้านที่ไม่อึมครึมแบบนี้”
“อย่าบอกนะเลิกกันเพราะคุณวีว่า อุ๊บ!”
“แกอย่าพูดชื่อออกมาสิ เดี๋ยวเดินผ่านมาได้ยินจะได้โดนด่าเอาไง ฉันไม่รู้หรอกว่าเกิดอะไรขึ้น เพราะเจ้านายเราไม่มีใครพูดอะไร แต่ฉันไม่เชื่อว่าคนที่รักแฟนขนาดนั้นจะทำคนอื่นท้องได้ และที่สำคัญคุณซันกับคุณไนน์กำลังจะแต่งงานกันอยู่แล้ว ฉันรู้แค่เรื่องเกิดตอนที่คุณซันไปถ่ายพรีเวดดิ้ง เนี่ยรูปพวกนี้คือหลักฐานพวกเขากำลังมีความสุขกัน แต่คนที่ทำลายยังใช้ชีวิตแบบมีความสุข ยังมาทำตัวน่าสงสารใช้เด็กมาเป็นข้ออ้างสารพัด ไม่ดูตัวเองบ้างเลยว่าตัวเองนะไม่เหลืออะไรแล้ว พ่อกับแม่หนีไปคดีไปต่างประเทศ บ้านที่ซุกหัวนอนก็ไม่มีแล้วยังจะมาเรียกร้องต่างๆ นานา” หญิงสาวบ่นไปเบะปากไป
“มิน่าจะคุณซันกลับมาบ้านทีขังตัวเองอยู่แต่ในห้อง คุณไนน์คงเป็นความสุขอย่างเดียวที่ยังเหลืออยู่แน่เลย”
“คนอื่นเขาดูออกหมด เหลือแต่แม่นางแหละไม่เคยรู้ตัวเลย คนที่เขารักต่อให้ทิ้งไปหรือหายไปจากชีวิตเขาก็ยังรักอยู่ แต่คนที่เขาไม่รักถึงช่วยชีวิตมาจากความตายหรือพยายามแค่ไหนเขาก็ไม่รัก”
“ใช่ๆ พี่”
“พอแล้ว นินทาเจ้าเนี่ยเพลินเลย งานจะไม่เสร็จเอาเดี๋ยวคุณซันจะกลับมาแล้ว รอบนี้ไม่รู้ตามไปง้อคุณไนน์ประเทศไหนอีก เฮ้ย!”
วีว่าที่ยืนอยู่หน้าห้องกำมือแน่น เธออยากเดินเข้าไปกระชากหัวคนใช้ที่นั่งนินทาเธอแต่เพราะกลัวจะมีปัญหาตามมา ได้แต่ข่มความน้อยเนื้อต่ำใจเอาไว้ ความจริงอย่างหนึ่งคือตอนนี้เธอไม่เหลืออะไรแล้ว พ่อกับแม่ทิ้งเธอไปไม่สนใจเอาแต่โทษว่าเพราะเธอคือต้นเหตุเรื่องราวทั้งหมด หอบเงินและทรัพย์สินหนีไปใช้ชีวิตในต่างประเทศ
เสียงสาวรับใช้ที่มาทำความสะอาดลงไปด้านล่าง เธอแอบเข้ามาภายในห้องของชายหนุ่ม เธอพบว่าภายในห้องและเข้าใจทันทีว่าเธอไม่สามารถแทรกเข้ามาในใจซันได้เลย พรางนึกถึงคำที่สาวใช้ที่คุยกัน “คนที่เขารักต่อให้ทิ้งไปหรือหายไปจากชีวิตเขาก็ยังรักอยู่ แต่คนที่เขาไม่รักถึงช่วยชีวิตมาจากความตายหรือพยายามแค่ไหนเขาก็ไม่รัก” รวมถึงสิ่งที่ได้ยินจากพี่ซันก่อนหน้านี้ “ยอมรับความจริงเถอะเราไม่ได้รักพี่แค่ไม่ได้ครอบครองสิ่งที่อยากได้เท่านั้น วีว่ารักแต่ตัวเอง”
เธอตัดสินใจอย่างเด็ดขาดที่สุด หลังจากที่เธอคลอดเด็กคนนี้เลย เธอจะไปอยู่ต่างประเทศและใช้ชีวิตที่ไม่ต้องยึดติดกับซันสักที การที่พยายามอยากได้ยิ่งทำให้เธอเสียไปทุกครั้ง เธอเหนื่อยแล้วและพอแล้ว
“ฮัลโหลไนน์” เสียงเปิดประตูมาพร้อมกับคำทักทายเพื่อนสนิท ชายหนุ่มตัวเล็กทิ้งตัวลงนั่งกับโซฟา ก่อนจะไถลตัวลงไปพิงอย่างหมดแรง “เหนื่อยชะมัดนั่งเครื่องยาว 12 ชั่วโมง เมื่อยตูดสุดเลยง่ะ” บ่นไปเรื่อยพร้อมกับบิดตัวไปมาคลายความเมื่อยล้า
“มาได้ไง? สามีคุณปล่อยมาคนเดียวเหรอครับ? หนึ่งล่ะ?” ไนน์ที่นั่งตรงหน้าหันไปถามเพื่อน พร้อมกับโยกตัวมองไปยังประตูคิดว่าจะมีพี่ชายคนโตเดินเข้ามา
“ไม่มา มาคนเดียวไง แล้ววีก็บอกกับไนน์ตัวแต่สามวันที่แล้วนะว่าจะมาหา” เสียงเล็กๆ บ่นออกมาคล้ายว่าน้อยใจที่ไม่สนใจคำพูดของเขาเลย
ไนน์เลิกคิ้ว “ทะเลาะกัน?”
“ไม่แค่งอนนิดหน่อย แต่ช่างเถอะตอนนี้คงบินตามมาแล้วแหละ ส่งข้อความมายิกๆ เลย” พร้อมกับยื่นโทรศัพท์มาโชว์ของความที่ด้านซ้ายเป็นแถบๆ
“งั้นวันที่จะเที่ยวไหนไหม? อยากกินอะไร? หรือจะพักรอหนึ่งมา?”
“ขอนอนพักก่อนสักงีบก่อน ค่อยไปหาอะไรกินกัน”
“ได้ตามใจ จะไปเมื่อไหร่บอกนั่งทำงานรอนะ” ไนน์บอกกับคนที่ลงไปนอนกับโซฟาพร้อมหยิบหมอนมากอด เสียงเปิดกระดาษอ่านบันทึกการประชุมและเสียงลากปากกาเซ็นเอกสาร
วีที่นอนฟังเสียงที่คุ้นเคยประจำเพราะเขามักจะโดนลากให้มานั่งเฝ้าที่หนึ่งทำงาน ส่วนเขาจะขอไปทำด้วยก็ไม่เคยยอม บอกแต่ว่าเป็นเมียพี่ต้องสบายที่สุดในโลก เหลือแต่ป้อนข้าวกับล้างก้นแหละที่พี่ยังไม่ทำ
“ไนน์เมื่อไหร่จะกลับบ้าน พวกเพื่อนบ่นหานะ” เสียงถามที่ทำลายความเงียบ
“...”
“ก่อนจะบินมาหาไนน์เนี่ย พี่ซันมาหาด้วยนะ”
ชายหนุ่มตัวเล็กลุกขึ้นมานั่งเอียงคอมองเพื่อนที่แสดงอาการไม่สนใจ แต่สำหรับเขาปักธงไว้ในใจทันว่าอาการนี้คืออยากรู้ต่อ เขารู้ดีว่าถ้าเป็นเรื่องของอดีตคนรักไม่แน่ใจสิว่าเรียกว่าอดีตได้ไหม ทั้งๆ ที่ยังรักอยู่เต็มหัวใจยังจะกั๊กหัวใจตัวเองไว้ทำไม เวลาบินไปทำงานที่ไหนมักจะมองหาอีกคนเสมอ ตอนที่ตื่นมาทุกเช้าจะมายืนคุยกับพระอาทิตย์ที่เอาไว้แทนตัวของอีกคนที่ชื่อเหมือนกัน เขารู้สิบอดี้การ์ดรายงานทุกครั้งที่พี่ชายเจ้าตัวโทรมาถาม
“ว่า?” น้ำเสียงที่อยากรู้ดังขึ้นมา
วีหัวเราะในใจ นั่นไงว่าแล้ว “ก็เหมือนทุกครั้งแหละ มาถามว่าไนน์สบายดีไหม กินข้าวทุกมื้อไหม แต่รอบนี้พาลูกสาวตัวเล็กมาด้วยนะ” วียกยิ้มที่เพื่อนรักเขาครางรับในลำคอ ปกติจะเงียบคือคำตอบว่าไม่อยากรู้แล้ว
“ชื่อน้องอะไรก็ไม่รู้นะ แต่น่ารักมากเลยนะหน้าคล้ายพี่ซันเลย พูดจาเจื้อแจ้วสุดๆ”
“อืม นี่พูดขนาดนี้ไม่นอนแล้วใช่ไหม ไปหาอะไรกินไหม หิวแล้ว” ไนน์มองหน้าเพื่อนไล่ตามองขึ้นลงเพื่อเปลี่ยนเรื่อง
“ก็ได้ แต่วีขอไปล้างหน้าก่อนนะค่อยออกไปกัน ไนน์เย็นนี้ไปนั่งชิวกันไหม พาหนีพี่หนึ่งเที่ยวหน่อยนะ นะ น้า...” เขาพยายามเสียงอ้อนสุด และไม่ว่าใครย่อมแพ้ในการอ้อนของเขาและไนน์ก็เป็นหนึ่งในนั้นตั้งแต่สมัยเรียนด้วยกันแล้ว
“อืม”
ในคิดในใจ ผ่านมาตั้งหลายปีแล้วพี่ซันยังไม่เลิกทำแบบนี้อีก ครั้งล่าสุดเมื่อสี่เดือนก่อนที่เห็นผ่านตาตอนที่รถกำลังวิ่งผ่าน พี่ซันดูโทรมไปเยอะมากแค่ไม่กี่ปีคนที่หล่อ สดใสกลับปล่อยตัวไม่เหลือคราบที่จะทำให้หนุ่มๆ สาวๆ หลงใหลได้เลย แต่เขากลับมองแวบเดียวก็รู้ว่าคนนั้นคือพี่ซัน ส่วนคนที่อยู่กับเขาตลอดอย่างคีนและบายใช้เวลาสักพักว่าจะรู้ว่าคือใคร
ที่ผ่านมาเขาพยายามเปิดใจให้หลายๆ คน พอวันที่เริ่มจะทำความรู้จักและก้าวข้ามมากกว่าคนที่คนรู้จักมาเป็นคนคุย กลับเป็นเขาเองที่เบรกความสัมพันธ์นั้นและผลักออกไปให้ไกลตัว
เขาพาวีมานั่งดื่มที่เลานจ์ด้านบนของโรงแรม ที่นั่งติดริมมองวิวได้ทั่วลาสเวกัสที่เต็มไปด้วยสีสัน คีนกับบายและบอดี้การ์ดประจำเพื่อนอีกคนนั่งร่วมอยู่ที่โต๊ะหนึ่ง
“จัน! เกร็ง!” วียื่นแก้วคอกเทลมาชนกับแก้ววิสกี้ของเขา
“จันก็จัน” เขาชนแก้วตอบกลับ ช่วงนี้สงสัยดูซีรีย์เกาหลีอีกแน่เลย
“ห้าปีแล้วนะดีขึ้นยัง”
“...”
ไนน์รู้ตั้งแต่วีชวนมานั่งดื่มแล้วแหละ ว่าคงอยากถามไถ่เกี่ยวกับตัวเขาเอง แต่พอเปิดประเด็นมาแบบนี้ เขารู้สึกจุกที่อก หายใจไม่ทั่วท้องทันที คำว่าเพื่อนไม่ต้องพูดอะไรกันมากแต่ก็เข้าใจในที่สื่อออกมา
“พวกนั้นเป็นห่วงนะ รวมถึงพี่ๆ ด้วยไม่มีใครกล้าถาม”
“...”
“ถ้ายังรักพี่ซันอยู่ ทำไมไม่กลับไปล่ะจะทนทำไม จะทนทรมานตัวเองไปทำไม”
“...”
“ทุกคนอยากเห็นไนน์มีความสุขนะ ยิ่งวียิ่งอยากเห็น อยากให้ไนน์กลับมายิ้ม รอยยิ้มของไนน์คือความสุขของทั้งบ้านจำได้ไหม”
“วี...”
วียิ้มกว้างให้เพื่อนรัก “ไนน์กลับบ้านกันเถอะ”
ไนน์ยิ้มกว้างที่สุดเขาลืมไปแล้วว่ายิ้มแบบนี้ครั้งสุดท้ายเมื่อไหร่ เขาอยากกลับไปหลายครั้ง ในวันที่เหนื่อย ในวันที่คนรอบข้างแสดงความรักต่อกัน ในที่เขาเห็นคนรักกันยืนจูบกันที่กลางถนน เขาเอาแต่นึกถึงคนนั้นถ้ากลับหาเรายังจะทำได้ทำเหมือนคนอื่นไหม เขาแค่กลัวที่กลับไป แต่ทันทีมีคนมาชวนให้กลับบ้าน ใจที่เต้นราบเรียบไม่ได้เต้นแรงแบบนี้มานานขนาดไหน แค่คำว่า กลับบ้านกันเถอะ เขารับรู้ถึงรอยยิ้มของใครบางคนลอยขึ้นมา ใจมันอุ่นขึ้นมาทันที
“อืม กลับบ้าน กลับบ้านกัน”
TBC…
----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ประเด็นเกี่ยวกับไนน์ในตอนนี้นะ อาจจะรู้สึกว่าเรื่องแค่นี้ทำไมถึงไม่ยอมยกโทษให้ทั้งๆ ที่ไม่ใช่ความผิดชอบซัน อันนี้ทีใส่ความรู้ส่วนตัวไปค่ะ บางทีการโกหกที่บอกว่า โกหกสีขาวนะคะ เพื่อปกป้องไม่ให้เสียความรู้สึกแค่บอกว่าถ้ารู้แล้วจะไม่สบายใจ แต่สิ่งที่ทำร้ายกันมากกว่าความจริงคือการโกหกนี่แหละยิ่งมาจากคนที่เรารักคนที่เราไว้ใจ
ประเด็นเหยียดเกี่ยวกับความรักของเพศเดียวกันหรือ LGBT+ ทีตั้งใจเขียนเรื่องนี้ค่ะ ทีอยู่กับคนที่ฝังหัวเรื่องนี้หลายคน อ้างว่ามันไม่เหมือนกับ ญช.แค่เจอกันมีอะไรกันง่าย เราไม่ชอบเลยพยายามอธิบายให้ฟังหลายรอบเราเชื่อว่ายังมีหลายคนไม่ยอมรับในความรักรูปแบบที่ต่างออกไปค่ะ ทีแค่อยากบอกว่าไม่ว่าเพศไหนก็ควรจะรักกันได้ และการเลิกรักกันไม่ใช่ที่เพศแค่เขาสองคนไม่รักกันเท่านั้นเอง คงต้องปล่อยในความคิดเห็นเป็นส่วนบุคคลไปเน้อ
ฝากติดตามด้วยนะคะที่ TW @TYokmanee ตอนหน้าจบแล้วนะ รักรี๊ดที่เข้ามาอ่านนะ ขอบคุณมากสำหรับไรท์ตัวเล็กๆ ใกล้จะจบแล้วนะคะ เหลืออีกแค่ตอนเดียว ใครที่เข้ามาอ่านชอบกดหัวใจให้ด้วยน้าาาาา