24 ตอน Chapter 23
โดย T.mines
Chapter 23
Number nine My Sun
หมายเลขเก้าของดวงตะวัน
#IXMYSUN
ซ่า.... น้ำเย็นสาดไปที่คนที่โดนมัดอยู่ที่เก้าอี้ เรียกสติร่างโปร่งที่สลบอยู่ให้ตื่นขึ้นมา สภาพของไนน์ใบหน้าที่บวมแดงจากรอยหมัดที่ฝากไว้ก่อนหน้านั้นเริ่มมีรอยซ้ำให้เห็นจางๆ นี่ยังไม่รวมรอยแผลที่ได้จากการโดนรถชน
“แค่ก แค่ก ๆ ๆ ถุย!” เสียงไอจากการสำลักน้ำที่สาดเข้ามา สิ่งที่สำรอกออกเป็นน้ำลายเลือดปนออกมา ไนน์รับรู้ว่าเขาโดนมัดและออกแรงขยับร่างกาย สิ่งที่พบคือขาที่ยังไม่โดนมัด
เขากวาดตาไปรอบ สิ่งที่โดนสอนมาตั้งแต่เด็กคงได้ใช้วันนี้แหละ การฝึกกับของจริงไม่เหมือนกันอย่างที่หลายคนบอก แต่การฝึกฝนย่อมทำให้เรามีสติรับรู้ว่าเราจะต้องทำอะไร ห้องที่เขาโดนจับมาไม่มีหน้าต่าง อากาศหายใจอาศัยจากแอร์ มีประตูเปิดเข้าออกได้ทางเดียว ทางหนีโดนจำกัดไว้แค่ประตูเท่านั้น ในห้องมีคนเฝ้าอยู่สองคน
ประตูเปิดออกพร้อมกับร่างบางที่เดินเข้ามา ไนน์หันไปมองจ้องประสานสายตาที่มองด้วยความชิงชังระหว่างกัน รอยยิ้มที่แสยะออกมาจากใบหน้าสวยส่งตอบกลับมาให้กับเขา ใบหน้าที่คุ้นเคยของกันและกันดวงตาเรียวยาวมองเขาอย่างสำรวจ ก่อนจะตวัดไปหาสองคนที่ยืนอยู่ในห้อง
“ใครมัดมัน อยากให้มันหนีไปหรือไง! ให้พวกโง่ทำไม่ได้เรื่องสักคน” เสียงตวาดด่ากราดไปยังสองคนนั้น
“ปืนครับ” ชายวัยกลางคนรูปร่างสูงใหญ่ ไนน์คุ้นหน้าว่าจะเป็นบอดี้การ์ดคนสนิทของน้าสาวเดินเข้ามาด้านหลังส่งปืนให้แก่เจ้านาย
“ไปมัดมันใหม่สิ เดี๋ยว!” ชายคนดังกล่าวกำลังจะเดินมาแต่หยุดชะงักจากเสียงร้องทัก
ปัง! อ๊ากกกก! กระสุนหนึ่งนัดเจาะเข้าที่หน้าขาพร้อมกับเสียงร้องของไนน์ที่ตามมา
“เจ็บเหรอไนน์ แค่นี้เอง” เสียงถามที่น้ำเสียงความสมเพช “ที่นี่ไม่มีใครมาโอ๋นะ หรือน้าต้องโอ๋”
“...” เขากัดฟันด้วยความโกรธที่มากกว่าความเจ็บ
“แก้มัดมัน มันแยกแขนแยกขาติดกับเก้าอี้”
ชายคนนั้นพยักหน้าให้อีกสองคนเดินเข้าไปแก้มัดมือที่ไพล่หลังและจับมามัดใหม่ ไนน์รู้ว่าตอนนี้เขาการที่แยกมัดแบบนี้มันยากที่จะแก้ไขอะไรได้มันเหมือนการที่เราถูกตรึงยึดตัวไม่ให้ขยับได้
“เสร็จแล้วครับ”
เก้าอี้แบบเดียวกับเขาถูกยกมาให้น้าสาวเขานั่งตรงข้ามเขา ความเงียบปกคลุมไปชั่วขณะหนึ่งเงียบจนกระทุ้งได้ยินเสียงของหยดเลือดที่ตกกระทบพื้น หญิงสาวเพียงคนเดียวในที่นี้เลือกจะทำลายความเงียบด้วยคำพูดพร้อมกับรอยยิ้มที่แสนหวานแต่ตอนนี้ไนน์มองมันด้วยความขยะแขยง
“ทุกคนออกไป ฉันมีเรื่องต้องคุยกับหลานชายคนโปรดหน่อย”
อีกทางด้านหนึ่ง ณ.โรงพยาบาลเอกชนชื่อดัง
เสียงเข่นเตียงวิ่งไปตามทางเดินอย่างเร่งด่วน ตามมาด้วยคนที่นั่งอยู่บนรถเข็นที่มีผ้าพันที่หัวมุ่งหน้าไปยังห้องฉุกเฉิน ส่วนเตียงวิ่งตรงไปยังผ่าตัด เสียงฝีเท้าของทีมแพทย์เร่งตามเข้าไปอย่างเร่งด่วน.
“คุณค่ะไปทำแผลกับเอกซเรย์ก่อนค่ะ” เสียงพยาบาลสาว
“เจ้านายผมอยู่ไหน!!พวกคุณเอาเจ้านายผมไปไว้ไหน!!” เสียงคีนตวาดถามพยาบาล
“คะ คุณพูดอะไรคะ นอกจากพวกคุณแล้วทางเราไม่ได้ไปรับใครมาค่ะ” พยาบาลสาวตอบด้วยน้ำเสียงที่หวาดกลัว
“แม่งเอ๋ย!!” เสียงสบทดังลั่นจนพยาบาลสะดุ้งสุดตัวถอยหลังไปหลายช่วงตัวด้วยกลัวว่าคนป่วยจะเข้าทำร้ายเธอ
คีนหยิบกดโทรศัพท์หานายใหญ่สุดของเขา ก่อนหน้านี้เขาโทรไปรายงานเรื่องอุบัติเหตุก่อนหน้านั้นแล้ว แต่ตอนนี้ไม่มีเจ้านายเขาที่โรงพยาบาล ด้วยที่เขาโดนยึดกับที่นั่งและคนพวกนั้นเร่งรีบจะพาไปแต่เจ้านายเขาคนเดียว
“คุณมังกรครับ คุณไนน์โดนลักพาตัวไป”
“หนึ่งกับนานะกำลังไปหา” แล้วนายใหญ่แห่งตระกูลวางสายไป
“คีน” เสียงเรียกชื่อของเขาที่มาจากด้านหลัง พี่ชายคนโตและพี่สาวคนเล็กของเจ้านายวิ่งตรงมายังเขา พร้อมกับกลุ่มบอดี้การ์ดที่ตามมาราวกับเงาสีดำด้านหลัง
“เอาข้อมูลออกมาให้หมด” คำพูดที่สั้นราวกับเดาได้หมดว่าเกิดอะไรขึ้นว่าที่ผู้นำตระกูลอย่างนานะ
“พวกมันมากันทั้งหมดห้าคน ใช่ชุดกู้ชีพสีขาว พาคุณไนน์ขึ้นรถพยาบาลวิ่งออกไปเส้นทางเดียวกับที่มาโรงพยาบาลผมเลยไม่เฉลียวใจครับ ผมขอโทษครับ” คีนก้มหัวรู้รู้สึกผิด
“เออกูเข้าใจ พวกมึงได้ยินข้อมูลแล้วใช่ไหม ให้ไอ้สองตัวนั้นเข้าไปดูจราจรแล้วตามหารถว่าวิ่งไปเส้นทางไหน” หลานชายคนโตพูดประโยคแรกกับคนตรงหน้า ส่วนประโยคหลังคุยกับคนทั้งบ้านที่เชื่อมต่อกันทั้งหมด
“ผมขอไปด้วยครับ” ด้วยความที่ห่วงเจ้านายที่โดยพาตัวต่อหน้าและความรู้สึกผิดที่บ่งพร่องต่อหน้าที่เขาอยากจะไปช่วยเจ้านายของเขา
นานะจับตัวกดลงไปให้นั่งลงและชี้หน้าบอดี้การ์ดตัวโต “มึงไม่ต้องไป สภาพนี้ไปก็เป็นภาระคนอื่น มึงต้องอยู่นี่รักษาตัวให้หาย ดูบายด้วย ไม่ต้องห่วงเรื่องเจ้านายมึง กูต้องพาน้องกูกลับมาส่วนไอ้พวกที่เหลือถ้ามาเป็นๆ ไม่ได้ กูคงเอาซากมาฝากมึงแน่ พวกกูไปล่ะ”
พับหรูชื่อดังย่านกลางในเมือง แยกระดับชั้นการเข้าถึงแต่ละพื้นที่อย่างชัดเจน ชั้นบนสุดคือห้องทำงานของฝาแฝดเกาและนานะ จะบอกตรงนี้คือแหล่งควบคุมดูแลทุกอย่างของกิจการไม่ว่าจะผับ กาสิโน แต่ละที่ร่วมลงทุนสามารถนั่งดูจากที่นี่ได้ ตอนนี้มีบุคคลของตระกูลรวมตัวกันที่นี่หมด รอเพียงแค่หนึ่งกับนานะมาสมบทก็คบ
ทาซอทสั่งงานผ่านอินเตอร์คอมไปยังห้องข้างล่างที่มีบรรดาลูกน้องที่คอยรับคำสั่ง “รถต้องสงสัยเป็นรถพยาบาลจากโรงพยาบาลXXX มุ่งหน้าไปทางชานเมือง เข้าไปดูที่กล้องจราจรและตามหา เกาะรอยมือถือและGPS ที่ติดตัว ต้องการข้อมูลเร็วที่สุด ให้เวลาสิบห้านาที สิ่งที่ฉันต้องมากองตรงหน้า”
นานะและหนึ่งที่เดินเข้ามาในห้องหลังจากไปโรงพยาบาล ตลอดเวลาที่ผ่านมาพวกเข้าไม่ไปทำงานที่ต่างประเทศหรือถ้ามีจะรีบไปรีบกลับเลือกเฉพาะงานด่วนเท่านั้นที่เหลือสั่งเลขาให้จัดการ
“งานนี้ต้องเร่งด่วนสุด นับเวลาถอยหลังได้เลยยิ่งหาไนน์เจอช้าโอกาสที่ไนน์ยังจะมีลมหายใจยิ่งน้อยลงไปทุกที” นายใหญ่ของบ้านมีสีหน้าที่เคร่งเครียดอย่างเห็นได้ชัด ไม่ต่างจากคนอื่นที่มีความกังวล
นายรองคนที่สองอย่างกิเลนเดินเข้ามาหลังจากวางสายโทรศัพท์ “เรื่องทางตำรวจโทรคุยกับผู้การนิรันดร์ว่าจะเข้ามาตอนเรื่องจบแล้ว”
นายใหญ่พยักหน้ารับสิ่งที่น้องชายบอกมา และหันไปถามลูกชายคนเดียวของตัวเอง “คนของเราพาตัวซันมาหรือยัง แล้วส่งคนไปเฝ้าทางบ้านนั้นเรียบร้อยแล้วใช่ไหม”
“นานะจัดการเรียบร้อยหมดแล้วครับ”
“...” เขาตอบรับด้วยพยักหน้า ในใจก็คือว่าน้องแม่งยังได้เรื่องได้ราวกว่ามึงอีกไอ้ลูกชาย ดีแล้วที่ฝากการดูแลตระกูลให้กับคนนี้ ขืนฝากไว้กับมันคงไปไม่รอดวันเอาแต่เอาอกเอาใจเมีย แต่จะว่ามันก็ไม่ถูกของอย่างนี้มันสืบทอดผ่านDNA แต่ยังดีที่ลูกสะใภ้ที่น่ารักของเขาคอยดูแลบรรดาเมียแทนพวกเขาที่มานั่งอยู่ตรงนี้
สิบห้านาทีสำหรับงานที่สั่งไปก็มาเสิร์ฟตรงหน้า
“จากการที่เข้าไปดูกล้องวงจรปิด รถดังกล่าวหนีเข้าไปในห้างแห่งหนึ่งและไม่มีรถออกมา ผมเดาว่าคงมีการสับเปลี่ยนรถ สัญญามือถือหายไปตั้งแต่ช่วงแรกที่โดยจับตัวไป ส่วนGPSติดตามตัว หายไปแถบบริเวณนี้ครับ” เสียงการรายงานจบลง
คนที่ใจร้อนที่สุดอย่างทู กระแทกแก้วกาแฟลงโต๊ะอย่างหนัก “พวกมึงทำได้แค่นี้เหรอว่ะ!! ไม่ได้เรื่อง!!!”
ผู้เป็นพ่ออย่างกิเลนหันไปมองลูกชายอีกคนและชี้นิ้วสั่งให้เอาพี่ชายตัวเองไปสงบสติอารมณ์ซะ ทรัวและฮาจิเข้ามาล็อกแขนและลากออกไปพร้อมกับฝ่ามือที่ประทับลงบนศีรษะอย่างหนักคนล่ะที
ซันที่เข้ามาตอนที่อีกคนโดนลากตัวไป ยังไม่รู้เรื่องราวว่าคนรักของตัวเองโดนลักพาตัวไป ยอมนั่งลงและจับบรรยากาศได้ว่าต้องมีเรื่องผิดปกติกับแฟนเขาอย่างแน่นอน
บุตรชายคนสุดท้องของบ้านสิงห์ “งานนี้ต้องลงมือเองแล้วแหละ เพราะคนที่พาไนน์ไปคือคนที่รู้เรื่องนี้เป็นอย่างดี แล้วเราว่าไงมั่งนานะ”
นานะขมวดคิ้วและเดินไปยังหน้าจอที่แสดงจุดที่สัญญาณของน้องหาย “น้องหายไปตรงนี้ นะว่าน้าเขาต้องมีตัวบล็อกGPS ไม่ก็สร้างห้องบล็อกไว้แน่นอน ดึงประวัติข้อมูลGPSของน้าเบญออกมาว่าบริเวณรัศมีที่หายไป มีไปตรงจุดไหนไปบ้าง ค่อยๆ ขยายไปทีละห้ากิโลเมตร พร้อมกับย้อนไปกลับไปปีก่อนหน้านั้นด้วย พร้อมกับหาจุดที่ไม่มีสัญญาณโทรศัพท์ควบคู่ไปด้วย”
“ครับ!/ค่ะ!” เสียงขานรับของลูกน้อง
“สืบค้นข้อมูลการเรื่องสิ่งปลูกสร้างที่น่าสงสัย โรงงานร้าง บ้านร้าง ห้องแถวตึกแถวที่ร้างและห่างไกลผู้คนหน่อย เอามาให้หมด”
ซันที่ทนเงียบและอึดอัดใจมานานพอมีจังหวะที่จะแทรกได้ “ขอโทษครับ มีใครพอจะบอกผมได้ว่าเกิดอะไรขึ้นได้บ้าง และตอนนี้ไนน์อยู่ไหนและทำไมผมต้องมาอยู่ตรงนี้”
เสียงถามที่ดังออกมาจากคนนอกอย่างซัน บุคคลที่ไม่ค่อยพูดอย่างบุตรชายคนที่สามของบ้านที่มีนามว่าพยัคฆ์ จึงหันมาตอบเพราะกลัวจะไม่มีบทบาทอะไรเลย เขามีเพียงแค่คอยซัพพอตคนอื่นด้วยแรง ถ้าเป็นตอนที่พวกเขาห้าคนพี่น้องยังอยู่ในวงธุรกิจอยู่ เขานี่แหละเป็นคนจัดหาทุกอย่างตามที่พี่และน้องร้องขอ เช่น คนรวมถึงอาวุธและอุปกรณ์ต่างๆ เพราะธุรกิจการบินและโลจิสติกส์มันสะดวกสบายที่สุดในการเคลื่อนย้ายและจัดหา
“ไนน์โดนลักพาตัวไปเมื่อเช้าก่อนไปทำงาน ตอนนี้ทางเราเร่งมือหากันอย่างเร็วที่สุดและต้องได้ตัวภายใน24ชม.เท่านั้น ถ้านานกว่านั้นโอกาสที่จะมีลมหายใจริบหรี่เต็มทน และคุณต้องมาอยู่ตรงนี้เพราะถ้าคนรักของไนน์ตายไปแล้วไนน์รอดคนที่เจ็บปวดสุดคือหลานรักของฉันและคนอย่างมันทำได้ทุกอย่างแน่นอน”
กลับไปยังห้องใต้ดิน
“...” ไนน์จ้องมองไปยังน้าสาวด้วยสายตาที่เกลียดชังและเคียดแค้นมากๆ
“อย่ามองน้าด้วยสายตาแบบนี้สิ ไม่น่ารักเลยน่ะ คงรู้แล้วสินะว่าปู่แกตายยังไง ไม่คิดจะถามหาเหตุผลเหรอ” น้ำเสียงและท่าทีที่ดูสบายๆ ระหว่างการพูดคุยถึงเรื่องการตายของพ่อตัวเอง ยิ่งทำให้ไนน์กำมือแน่นพร้อมกับใบหน้าที่บูดเบี้ยวด้วยความโกรธ
“งั้นน้ารีบบอกว่าเถอะครับ เพื่อจะช่วยยับยั้งไม่ให้ผมฆ่าน้า” คำพูดที่ออกไรฟันที่เขากัดจนแน่น
“ฮ่า ฮ่า ฮ่า ๆ ๆ” หญิงสาวหัวเราะดังลั่นจนตัวงอ “โอ๊ยเจ็บหน้าท้อง” มือตบเข้าที่ช่วงท้องก่อนที่หยุดหัวเราะและแสยะยิ้ม “โดนจับมัดแกยังคิดว่าจะทำอะไรฉันได้ แต่ให้แกอยู่ในสภาพปกติกว่านี้คิดว่าจะทำอะไรฉันได้เหรอ เอาล่ะยังไงไนน์หลานรักอีกไม่นานคงได้ไปอยู่กับปู่สุดที่รักอยู่แล้ว ฉันจะเล่าให้แกฟัง” น้าสาวเขาหยุดพูดและมีท่าทางคิดหนัก “แต่ถ้าให้ฟังเฉยๆ มันจะสนุกอะไรล่ะ”
เธอเดินเปิดประตูออกไปและบอกกับคนที่อยู่ด้านนอกว่า “เอาของเข้ามา” สิ่งของที่เข้ามาอย่างแรกคืออุปกรณ์การบันทึกภาพ และตามด้วยไม้เบสบอลแบบเหล็กขนาดพอดีมือมาวางพิงตรงมุมห้อง
“กล้องติดตั้งเรียบร้อยแล้วครับ” คนที่ไนน์สาดน้ำใส่เขาบอกแก่คนที่สั่งการของที่นี่ ก่อนที่น้าสาวของไนน์จะโบกมือไล่ให้ออกไป
“อ๊ากกก...” มีดพับสวิตที่ไนน์เองก็มองไม่ทันว่าน้าสาวเขาปักลงที่แผลที่เขาโดนยิงก่อนหน้านั้นที่ต้นขา เลือกที่เริ่มจะหยุดไหลพุ่งออกมาอีกและหยดไหลลงไปหน้าขา ข้อมือบางๆ บิดด้ามมีดช้าๆ และดึงออกไป ไนน์กัดปากแน่นเขาไม่อยากให้อีกคนมีความสุขในการทรมานเขา
“รู้ไหมว่าทำไมต้องเป็นเรา คนที่ได้รับความรักจากคนในบ้านอย่างที่ไม่เคยร้องขอ ได้รับจนรำคาญแต่ก็ยังได้รับจากพวกมันทุกคน เวลามีไนน์อยู่ด้วยพวกมันทั้งหมดทำให้ฉันคือคนนอกทั้งๆ ที่ฉันก็ลูกคนหนึ่งของบ้าน เป็นน้องสาวพวกมัน เป็นน้าพวกมัน” มือที่เรียวยาวบีบแก้มชายหนุ่ม
“...”
“ได้ใช้นามสกุลนี้อย่างง่ายดาย ส่วนฉันพยายามแค่ไหนก็ไม่ได้ใช้ เพราะฉันเป็นแค่ลูกอีกคนที่ย่าแกเกลียดเท่านั้นเอง ลืมบอกว่าน้าคือลูกของปู่ไนน์หรือบางทีอาจจะรู้กันอยู่แล้วมั่ง แต่ไม่มีใครที่จะทำให้ฉันเห็นว่าฉันคือคนในครอบครัว ฉันได้ทุกอย่างทัดเทียมกับแค่หลาน ไม่เคยได้เท่าลูกเลย ย่าของแกเกลียดฉันมาตลอดแต่แสร้งว่ารักฉัน ทุกครั้งที่กอดฉันนี่แทบอยากจะอ้วก”
“อั๊ก!!” ไม้เบสบอลหวดเข้าที่ซี่โครงด้านขวา ข้างที่ชายหนุ่มเดาว่าคงจะหักตั้งแต่รถชนแต่คราวนี้เขามั่นใจว่าหักแน่แล้ว “แค่กๆ” เขาเริ่มไอและสำรอกเอาเลือดออกมาจากร่างกาย เขาปวดไปทั้งร่างกาย สติเริ่มพร่ามัว
“เอาล่ะคงต้องบอกสิ่งที่มึงอยากรู้ว่าปู่แกตายยังไง ฉันเป็นคนเพิ่มขนาดยาให้เองแหละ วันนั้นเราทะเลาะกัน คุณพ่อยังเข้าข้างหลานรัก ให้ฉันไปยอมรับผิดในสิ่งที่ทำกับท่านประธานที่เป็นหลานชายแล้วเขาจะยกโทษให้ ไม่เอาผิด ถ้าไอ้แก่ธานินไม่เลือกมาช่วยแกคิดว่าคนอย่างจะหาหลักฐานจากไหน นี่แหละคุณพ่อเก็บซ่อนความลับเก่งฉันไม่เคยระแคะระคายมาก่อนคิดว่ามันเป็นแค่เลขาธรรมดาทั่วไป ไม่ต้องห่วงนะฉันจะส่งมันไปต่อจากมึงอย่าคิดว่าพวกมึงเอาซ่อนแล้วกูจะหาเจอ ขนาดตัวมึงเองกูยังเอามาจากใต้จมูกได้เลย”
รอยยิ้มที่มีความสุขบนใบหน้าสวยหวาน แววตาที่ดูเยือกเย็นและน่ากลัวที่เห็นเขาเจ็บปวดต่อสู้กับการอดทนการกลั้นเสียงร้อง
ปัก! ปัก! ปัก! เสียงไม้ที่ฟาดเข้าที่หน้าอกชายหนุ่ม ตอนนี้ร่างกายของไนน์เริ่มอ่อนล้า แผลที่โดนยิงและแทงซ้ำด้วยมีด เลือดไม่มีท่าทีจะหยุดไหล เขากัดฟันที่จะไม่หลับและไม่ร้องออกมาตลอดเวลาที่ผ่านเกือบหลายชั่วโมง แต่เขาก็ไม่รู้ว่าผ่านกี่นาทีกี่ชั่วโมง ความหนาวเหน็บจากการเสียเลือดเสียดแทงเขา น้าสาวเข้าเรียกลูกน้องคนสนิทให้เข้ามาลงมือแทน ไม่ว่าจะชกหรือฟาดด้วยไม้ ทุกครั้งที่เขาจะหมดสติน้ำเย็นจะถูกสาดเข้ามา “ทำไมกูไม่ฆ่ามึงนะเหรอ กูอยากให้พวกมึงดูคนที่พวกมึงรักนักรักหนาค่อยๆ ตาย เสียดายปู่ของมึงไม่อยู่ดู” เสียงกระซิบที่ข้างหูหลังจากที่โดนยิง นั่นทำให้เขากัดฟันว่ายังไงก็ไม่ยอมตายและจะไม่ร้องออกมาให้น้าเบญสมหวัง
หลังจากโดนลักพาตัวผ่านมาเป็นเวลาหกชั่วโมง ข้อมูลที่ได้ชัดเจนว่ามีจุดที่เบญชญาไปถามสถานที่ต่างๆ แถวนั้นมีอยู่สี่จุดที่น่าสงสัย พวกเขารวมกันว่างแผนว่าต้องเข้าไปแต่ละจุดพร้อมกัน พี่ชายทั้งสี่ของหญิงสาวตัดสินใจว่าจะร่วมลงมือในปฏิบัติการนี้ด้วย หนึ่งได้รับหน้าที่สั่งการอยู่ส่วนกลางเพราะตอนนี้ทุกคนแทบจะอยากไปลากตัวน้าสาวสุดชีวิต นานะหนีบเอาซันติดไปด้วย คำพูดที่บอกตะโกนว่า “ถ้าคนรักของพวกคุณอยู่ในอันตรายจะทนดูนั่งเฉยๆ ได้ไหม อยากให้ผมพิสูจน์ไม่ใช่เหรอให้ผมไปด้วยสิจะได้รู้กันไปเลยว่าผมปกป้องไนน์ได้แค่ไหน” หวยเลยมาออกที่นานะเพราะน่าจะดูแลภาระชิ้นใหญ่ได้กว่าคนอื่น ส่วนตัวเธอเองได้แต่กลอกตายอมรับไป
จุดที่ตรวจพบสัญญาณของเบญตามGPS ติดตามตัวย้อนกลับไปถึงห้าปีก่อน เพียงแค่พบแค่จุดไม่เกินสี่ครั้ง จุดที่มากสุดคือจุดแรก ซึ่งห่างจากจุดที่สัญญาณหายสามสิบกิโลเป็นทีมของนายใหญ่จะไปเอง ในทีมจะร่วมด้วยฝาแฝดเกาและลูกน้องอีกสิบคน จุดที่สองห่างออกไปถึงหกสิบกิโลเป็นทีมนายคนรองกิเลนร่วมด้วยกับฮาจิ จุดที่สามห่างไปสามสิบกิโลทีมที่จะไปคือนายคนที่สามพยัคฆ์พร้อมลูกสาวโฟร์และทรัวหลานชาย ส่วนจุดสุดท้ายที่พวกเขาสงสัยนำทีมโดยน้องชายคนเล็กสิงห์พร้อมด้วยบุตรสาวอย่างนานะและตัวแถมอย่างซันห่างไปเพียงสิบกิโล ทั้งหมดมองว่าจุดนี้มันใกล้เกินไปและน่าสงสัยน้อยสุดรายละเอียดเกี่ยวข้องกับเบญน้อยสุดแต่พวกเขาไม่ทิ้งแม้แต่จุดเล็กๆ น้อย หากว่าถ้าไปตรงนี้แล้วไม่เจอสิงห์และนานะสามารถย้ายตัวเองไปยังจุดอื่นได้ง่าย
เตรียมคนเตรียมทีมเสร็จพวกเขาออกเดินทางโดยจะเลือกที่จะลงมือพร้อมกับเพื่อป้องกันการแจ้งเตือนไปยังจุดอื่นหากแต่ละจุดแสร้งเป็นตัวหลอก แต่ถ้าหากทั้งสี่จุดไม่มีไนน์อยู่สักที่พวกเขาคงต้องยอมรับชะตากรรมในสิ่งจะตามมา พวกเขารักไนน์ไม่น้อยกว่าลูกตัวเอง แต่ถ้าอะไรจะเกิดเขาก็ยังไม่อยากเสียใครไปเพิ่มแม้แต่คนเดียว
ใช้เวลาในการเดินทางไปยังจุดที่ไกลที่สุดหนึ่งชั่วโมง รวมทั้งหมดผ่านมาแล้วเจ็ดชั่วโมงในการหายตัวของไนน์ เมื่อทุกทีมเข้าจุดและให้เริ่มรายงานจำนวนคน ส่วนวิธีดำเนินการให้จัดการกันเอง ส่วนกลางแค่คอยรับรายงานและประสานต่อ
‘จุดหนึ่งรายงาน อาคารร้างสามชั้นมีคนอยู่ด้านนอกเจ็ดคน ชั้นหนึ่งมีคนอยู่สามคน ชั้นสองสี่คน ชั้นสามหกคน’
‘รับทราบ จุดที่สอง’
‘จุดสองโรงงานร้าง กล้องตรวจจับมีคนภายในสิบห้าคน’
‘รับทราบจุดที่สาม’
‘จุดสาม สถานที่เป็นบ้านร้าง มีคนกระจายอยู่ภายในประมาณยี่สิบคน’
‘รับทราบ จุดที่สี่’
‘จุกที่สี่ สภาพเป็นห้องแถวร้างสองชั้น มีคนกระจายแต่ละชั้นห้าคน’
‘รับทราบรายงานครบทุกจุดแล้ว สไนเปอร์แต่จะจุดประจำตำแหน่งเสร็จหรือยัง’
‘พอยต์เอ ประจำตำแหน่งเรียบร้อยครับ’
‘พอยต์บีประจำตำแหน่งได้แค่สอง จุดอัพสอง’
‘พอยต์ซีประจำตำแหน่งได้สองจุดอัพสองครับ’
‘พอยต์ดีไม่สามารถประจำตำแหน่งได้ครับ ต้นไม้ปกคลุมมากครับ’
‘รับทราบ สไนเปอร์คอยซับตำแหน่งต่างๆ’
‘จุดหนึ่งพร้อมลงบุก’
‘จุดสองพร้อมเช่นกัน’
‘จุดสามพร้อม’
‘จุดสี่พร้อมลุย’
‘ขอให้ทุกคนระวังตัว และช่วยเหลือคนสำคัญของเราออกมาอย่างปลอดภัย ลุย’ สิ้นเสียงนายใหญ่ที่ประกาศออกมา ทุกคนเดินหน้าเข้าประทะทันที
การปะทะจุดที่หนึ่ง [ตึกร้าง] (เหตุการณ์แต่ละจุดเกิดขึ้นพร้อมกัน)
ตุ๊บ ตุ๊บ ตุ๊บ เสียงล้มของกลุ่มคนติดริมหน้าต่างด้วยฝีมือการส่องจากสไนเปอร์ บอดี้การ์ดประจำกายนายใหญ่เป็นคนบุกลุยคนแรกเขาเข้าประชิดล็อกคอพร้อมกับกดปืนยิงเข้าที่หัวอย่างไม่ลังเลย ตามหลังมาด้วยฝาแฝดที่ตามมาติดพร้อมกับส่องปืนไปยังคนที่อยู่ในชั้นแรกที่หันมาพร้อมยิงปืนสวนมา พวกคนที่เข้ามาหลบลูกกระสุนและยิงผ่าเพื่อรับขึ้นไปยังชั้นต่อไป ปัง! ปัง! ปัง! เสียงปืนดังอย่างไม่ขาดสายพร้อมกับจำนวนคนที่ลงไปร่วงลงไปนอนกับพื้น ทาซอทและยอซอทก้าวเดินขึ้นไปตามบันไดค่อยไล่ขึ้นไปทีละชั้น
“เจอไหมว่ะ” เสียงตะโกนตามดังขึ้นมาเมื่อเริ่มควบคุมสถานการณ์ได้แล้ว
“ไม่เจอครับนาย ผมหาทั่วแล้ว”
“ผมก็ไม่เจอครับ”
ทาซอทกำลังจะสั่งการให้ค้นหาใหม่อีกครบ เสียงตะโกนดังมาจากหูฟัง “ทุกคนออกมาเดี๋ยวนี้!!!”
มังกรที่อยู่ด้านนอกเริ่มกังวลท่าทีที่กลุ่มคนของเขาเข้าไปข้างในโดยง่ายและจบมาได้อย่างรวดเร็ว และเมื่อมีรายงานว่าหาไม่เจอเขามั่นใจว่าไม่มีหลานชายเขาอยู่แน่นอน และนี่คือหลุมพรางหนึ่งหลุม
“ออกมาเดี๋ยวนี้!!!”
“ทาซอท!! ยอซอท!!” เสียงตะโกนดังสวนออกมาพร้อมกับเสียงระเบิดที่ดังออกมา
ตู้ม!!!!!! “ทาซอท!” เพล้ง!... ตุ๊บ ตุ๊บ!!. ตู้ม!!!! ตู้ม!!!!
ยอซอทที่ได้ยินเสียงระเบิดที่พวกเขาอยู่ชั้นบนสุดของตึก ชายหนุ่มวิ่งเข้าปะทะรวบเอวชายหนุ่มอีกคนที่รูปร่างและหน้าตาแบบเดียวกันที่บังเอิญยืนริมหน้าต่าง เอาตัวพี่ชายเป็นโล่กระแทกกระจกหน้าตาและตกลงไปใส่ต้นไม้ ไล่ลงถูไถก่อนจะตกลงสู่พื้นดินที่แข็งๆ ไม่นานก็มีเสียงตุ๊บเสียงของหนักหล่นใกล้ๆ พวกเขา
“โอ๊ะ! ไอ้ยอมึงเลิกกอดกูได้แล้ว สัด!!” ทาซอทผลักตัวน้องชายที่กอดเขาแน่นเอว
ยอซอทเงยหน้ามองพี่ชาย “มึงโอเคนะ เจ็บตรงไหนมั่งว่ะ” น้ำเสียงแสร้งถามด้วยความเป็นห่วง
“กูไม่เป็นไร แต่กูไม่โอเคที่มึงเลือกกูเป็นเบาะไงสัด เจ็บตัวน้อยกว่าเจ็บใจมากกว่า” น้ำเสียงที่ตอบน้องชายด้วยความขุ่นเคือง
“กูช่วยมึงนะ หึ หึ” น้ำเสียงตอบกลับมาด้วยความสะใจ
“เออ! ขอบใจมึงมาก!” คำพูดที่ลอดออกมาไรฟัน
“คุณทาซอท คุณยอซอทไม่เป็นไรใช่ไหมครับ” บอดี้การ์ดที่กระโดดตามลงมาถามแทรกเข้ามา กลัวว่าพี่น้องคู่นี้จะตีกัน
“อืม” ทาซอท
“อืม ไปหาลุงกันดีกว่า” ยอซอทลุกขึ้นและช่วยดึงพี่ชายที่หน้าตาบอกบุญไม่รับ ถ้าทำบาปโดยการกระทืบผู้มีพระคุณตรงหน้าพร้อม
แสงไฟที่สว่างวาบ พร้อมกับตึกสามชั้นที่พังลงมา แม้จะเวลาช่วงค่ำยังมองเห็นฝุ่นที่พุ่งกระจายอย่างหนา คนที่อยู่ชั้นหนึ่งรีบวิ่งออกมาอย่างเร็ว ส่วนคนที่ไม่ได้เข้าไปได้แต่ยืนมองอย่างใจหาย สไนเปอร์ที่อยู่ในมุมหยิบกล้องอินฟราเรดมาส่องจับความร้อนมองหาคนที่จะรอดชีวิต ไม่นานเสียงร้องโอดโอยขอความช่วยเหลือเริ่มดังออกมา นายใหญ่เตรียมตัวจะวิ่งเข้าไปหาลูกของน้องชายแต่โดยลูกน้องคว้าตัวไว้ก่อน
“เข้าไปไม่ได้ครับนาย!!” เมื่อคนแรกเข้ามาคว้าและตามมาด้วยอีกสองคน
“ปล่อยกู!!” นายใหญ่สะบัดลูกน้องที่เข้ามาจับตัวเขาไว้ “กูจะไปหาฝาแฝด!!”
เสียงสวบสาบที่ดังมาจากด้านข้างเรียกพวกเขาหันไป พร้อมกับปืนทุกกระบอกส่องไปยังต้นเสียง กลุ่มคนที่เดินเข้ามาทั้งห้าคน พอเห็นแสงจุดสีแดงบนตัวรีบยกมือสองข้างขึ้นอย่างเร็ว
การปะทะจุดที่สอง [โรงงานร้าง]
“ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ทูกับฮาจิต้องไม่เอาตัวไปเสี่ยงเกินไป กระผมรู้ว่าท่านทั้งสองรักน้องมาก แต่เราสองคนก็มีความสำคัญกับพ่อและลุงไม่แพ้น้องนะ ต้องกลับมาอย่างปลอดภัย เข้าใจที่พูดไหม” กิเลนพูดกับทูและฮาจิด้วยน้ำเสียงที่จริงจังก่อนจะปล่อยตัวให้ออกไปลุย
“เข้าใจครับ” ทู
“เข้าใจครับ” ฮาจิ
“งั้นไปช่วยน้องออกมา กระผมจะรอฟังข่าวดีครับ” กิเลนตบลงบนบ่าของทั้งสองคน
หลังจากเคลื่อนพลเข้าประจำตำแหน่ง โดยทางเข้ามาอยู่หลายจุด นับว่าโชคดีของพวกเขาที่โรงงานนี้จากที่ดูแล้วมีเพียงชั้นเดียวเป็นโถงโล่งไม่มีห้องแยก มีเพียงจำนวนเครื่องจักรเก่าที่วางตั้งระเกะระกะยากที่จะมองว่าเอาไนน์ไปไว้จุดไหน ทูพยักหน้าให้ฮาจิและลูกน้องอีกสองคนบอกว่าให้ลุยเข้าไป
ปัง! ปัง! คนที่ยืนอยู่อย่างไม่ระวังตัว และคนที่หลบได้ทัน เริ่มหยิบปืนขึ้นมายิงต่อสู้
ปัง! ปัง! ปัง! กลุ่มคนที่บุกเข้ามาแล้วกลุ่มคนที่อยู่ด้านในต่างฝ่ายหาที่หลบกัน และอยู่ตรงกันข้าม เสียงปืนที่ยังยิงสวนระหว่างกันไปมา
ทูที่หลบอยู่หลังตู้แผงวงจรไฟฟ้า ส่วนฮาจิที่หลบหลังเครื่องจักร ตะโกนตามมา “เอาไงว่ะไม่เห็นไนน์เลยว่ะ” ปากก็คุยส่วนมือก็ยังยิงสวนกัน
“มึงไปหาทางซ้าย ปัง! ส่วนกูไปทางขวาถ้าไม่เจอให้กลับออกไป ปัง! ปัง!” ทูตะโกนตอบกลับไป พร้อมกับมองซ้ายขวา “พวกมึงยิงคุ้มกันพวกกูด้วย” เขาหันไปสั่งลูกน้องที่อยู่ใกล้พวกเขา
“นายครับ” ลูกน้องที่วิ่งถลาล้มกลิ้งตัวมาพาฮาจิที่อยู่ใกล้สุดล้มตัวลงด้านข้างมีรอยโดนยิงมา “มีระเบิดครับ!”
“เชี่ย!!!” จังหวะที่ฮาจิหันหลังหมายที่จะไปประคองลูกน้องที่เจ็บอยู่หลังจากโดนยิง ปัง!! กระสุนเจาะเข้าเสื้อกันกระสุนด้านหลัง ฮาจิล้มลงหน้าทิ่มลงไปกับพื้น
“พรืด!” ทูที่มองตั้งแต่แรกที่ฮาจิตะโกนจนโดยยิงล้มลง ยิ่งท่าที่ทิ่มหน้าลงเขาต้องหลุดขำออกมา “มึง โอเคนะอุนจิ ฮ่า ฮ่า” เขาถามที่พร้อมกับขำไปด้วย ฮาจิตอบกลับมาด้วยการพยักหน้าเพราะเขาจุกจนไม่มีเสียงตอบกลับได้
ทูสูดลมหายใจกลั้นขำและออกคำสั่งทันที “ทุกคนออกไปจากที่นี่ทันที! ข้างในมีระเบิด!” เขารีบคว้าตัวลูกพี่ลูกน้องแบกขึ้นหลัง ส่วนลูกน้องที่อยู่รอบข้างรัวกระสุนให้นายมีเวลามากแบกอีกคนได้และอีกคนช่วยแบกคนที่โดนยิงและพากันวิ่งออกไปยังประตูที่อยู่ใกล้สุดทางด้านข้าง
ตู้ม!! ตู้ม!!
แรงอัดจากการระเบิด ส่งให้ร่างที่ผ่านพ้นประตูลอยออกไปอีกเกือบสองเมตรและหล่นลงไปกองรวมกัน นายใหญ่คนรองที่ดูสถานการณ์อยู่ภายนอกและฟังรายงานว่ามีระเบิดและตามมาด้วยเสียงระเบิดดังขึ้น พร้อมกับร่างที่ปลิวออกมาอีกหลายคน พวกเขากรูวิ่งไปกันทั้งหมดเพื่อช่วยเหลือเพราะกลัวว่าจะมีระเบิดตามมาอีก
เขาพยุงหลานชายที่นอนทับตัวลูกชายเขาขึ้นมา ทูหันมาบอกคนพ่อว่า ผมไม่เป็นอะไรครับ จิโดนยิงแต่ไม่เป็นไร และพวกต่างพวกพยุงคนเจ็บออกมาจากตรงโดยอย่างเร่งด่วน
การปะทะจุดที่สาม [บ้านร้าง]
บ้านร้างกลางป่าทึบ กลุ่มของนายใหญ่คนที่สามมีลูกสาวโฟร์และลูกชายของพี่ชายทรัวมีร่วมด้วย บรรยากาศที่ชวนขนลุกของสภาพบ้าน ตึกสองชั้นมีคนเดินรอบๆ บ้านอย่างไม่ขาดจากรายงานของสไนเปอร์ แต่คนที่คุ้มกันบ้านหลังนี้มีไม่มาเพียงแค่ยี่สิบกว่าคน คนทั้งหมดเดินไปประชิดรั้วบ้านที่ปิดล้อม โฟร์ปีนหลังทรัวและอีกหลายคนเตรียมตัวในท่าเดียวกัน หากทางสไนเปอร์ที่อยู่ด้านบนส่งสัญญาณพวกเขาพร้อมโดดข้ามไปทันที
“โดด!” ตุ๊บๆ เสียงฝีเท้าคนจำนวนเจ็ดคนโดดลงมาสู่พื้น ม้วนตัวพร้อมกับชักปืนที่อยู่ข้างตัวออกมาอยู่ในท่าตั้งเข่ากับพื้นเล็งปืนข้างหน้าพร้อมยิงทันที
ปัง! ปัง! เสียงปืนที่สาดมาจากระยะไกลพร้อมกับเสียงปืนของคนกลุ่มแรกที่ลุยลงไป และคนชุดที่สองหลังปีนกำแพงโดดลงมาพร้อมหลังได้ยินเสียงปืน ทีมทั้งหมดประจำตำแหน่ง
เมื่อเก็บคนที่อยู่ด้านล่างหมด โฟร์ชี้นิ้วให้ทีมตัวเองไปทางด้านซ้าย ส่วนทีมของทรัวไปทางด้านขวาและทยอยไล่ขึ้นทีละชั้น โดยมีพวกเขาสองคนนำหน้าตลอดและหันไปสลับยิงกับบอดี้การ์ดประจำตัวของตัวเอง
ปัง! ปัง! เสียงปืนมาเป็นระยะ จนในที่สุดก็จัดการเก็บได้ทั้งหมดจนไปถึงชั้นสอง
ทรัวที่เดินขึ้นมาชั้นสองพร้อมทีมอีกทีมต่างฝ่ายต่างยกปืนใส่กันพอเป็นพวกเดียวกัน ทรัวก็หันไปคุยกับอีกคน “ไม่เจอน้องเลยว่ะโฟร์”
“ไม่เจอเหมือนกันว่ะ” เธอหยักหน้าไปตอบพี่ชายและต่อสายไปหาพ่อ “ไม่เจอไนน์เลยพ่อ” เสียงโฟร์บอกผ่านหูฟัง
“ไม่เจอก็ออกมา ออกมาให้เร็ว!!” เสียงดังกร้าวจากหูฟัง
กริ๊ก! เสียงดังออกมาจากกล่องพลาสติกที่วางอยู่ในห้อง พร้อมกับเสียงปังดังมาจากด้านนอก “นายครับมีคนมากดรีโมทใกล้ๆ ครับ ผมไม่แน่ใจรีโมทอะไร” เสียงรายงานจากสไนเปอร์อีกฝั่ง
“ระเบิด!!” หนึ่งในลูกน้องที่ทรัวใช้ไปเปิดกล่องตอนนี้เวลานับถอยหลังเหลือแค่ห้าวินาที
“โดด!!!!” เสียงตะโกนดังลั่นของทรัวหลังสิ้นคำว่าระเบิดของลูกน้อง
โฟร์และเขาวิ่งไปยังขอบหน้าต่างปีเตรียมจะกระโดดลง ความสูงแค่นี้เกือบสิบเมตรสำหรับพวกเขาทั้งหมดที่ผ่านการฝึกฝนไม่ระคายร่างกายแน่นอน ขาพวกเขายังไม่ทันก้าวพ้นขอบ เสียงระเบิด ตู้ม!!! แรงอัดหอบร่างสิบสองชีวิตที่อยู่บนชั้นสองปลิวลอยกระจัดกระจายออก ทรัวที่ร่วงลงมาพร้อมกันพลาดเอาไหล่ลงจนไหล่หลุด พลิกตัวนอนหงายให้มืออีกข้างที่สมบูรณ์ดันตัวเองลุกขึ้นมา หันไปมองดูรอบตัวเห็นน้องสาวนอนคว่ำหน้า นอนกระอักเอาลิ่มเลือดออกมาจากการที่ตกลงมาหน้าอกกระแทกพื้น ส่วนร่างคนอื่นนอนกระจัดกระจายรอบๆ คนที่พบยังมีสติค่อยๆ ขยับตัวบ้าง ส่วนเด็กคนเข้าใช้ไปเปิดกล่องนอนนิ่งไม่ขยับ ตามตัวเต็มไปด้วยเลือดใบหน้าที่เละไปบางส่วน ส่วนคนที่อยู่ไกลออกไปจากเขามีแขนห้อยเต็มไปด้วยเลือด กลิ่นเลือดกลิ่นเนื้อไหม้เริ่มคละคลุ้งไปทั่วบริเวณ
พยัคฆ์พาลูกน้องที่อยู่ภายนอกเข้าไปยังบ้านร้างตามเสียงระเบิด ทรัวยกปืนไปยังกลุ่มคนที่มาใหม่ แต่พอเป็นน้าชายของเขาก็ลดปืนลงและนอนแผ่หลาลงไป
“พาออกไปให้หมด!!!” เสียงคำสั่งของนายที่ดังกร้าวไปยังลูกน้อง เพราะเขาไม่แน่ใจว่าอดีตน้องสาวแอบซ่อนอะไรไว้อีก ตอนนี้เขาไม่นับญาติกับคนนั้นอีกแล้ว
“ครับนาย!!”
เสียงขานจากลูกน้องและต่างพากันขนคนเจ็บออกไปอย่างทุลักทุเล คนที่พอจะลุกเดินไปเองได้ก็ลุกไป ลูกสาวของเขาอุ้มโดยคนสองคนที่พยายามจะไม่ให้มีการบาดเจ็บเพิ่มเติม ส่วนลูกน้องชายเขายกแขนมาพาดคอและพยุงตัวออกไปอย่างเร่งรีบที่สุด พยัคฆ์คิดว่าดีที่สไนเปอร์เก็บคนกดรีโมทไปไม่งั้นอาจจะมีระเบิดตามมาอีกลูก เพราะเขาว่าไม่น่าจะมีแค่ลูกเดียวที่ซุกซ่อนไว้แน่นอน
การปะทะจุดที่สี่ [ตึกร้างสองชั้น]
จุดนี้การนำทีมโดยนานะบุกเข้าไปยังประตูหน้าที่มีคนยืนเฝ้าอยู่สองคน นานะเดินเข้าไปอย่างมาดมั่น ปืน Combat Elite Commander ที่บรรจุกระสุน9มม. เล็งไปที่หัวของคนเฝ้าประตูอย่างไม่ลังเลเหนี่ยวไกลสองนัดห่างกันไปกี่นาที ก่อนที่เหยื่อจะล้มลงกองกับพื้น ผู้หญิงคนเดียวเดินนำหน้า บอดี้การ์ดพุ่งไปเปิดประตู นานะย่อตัวลงส่องลำปืนเข้าไปข้างใน และตามด้วยเสียง
ปัง! ปัง! อีกสองนัด ส่วนคนที่เหลือสาดกระสุนเข้าไปห้าหกนัด ภายในพื้นที่เต็มไปด้วยกลิ่นคาวเลือดที่โชยมากับคนที่ล้มนอนไร้เสียงร้อง กลุ่มคนที่บุกเข้ามาทีหลังก้าวเดินขึ้นบันไดไปยังขึ้นสอง
ปัง! ปัง! ปัง! เสียงสาดกระสุนสวนกันระหว่างสองฝ่าย คนของเขากลิ้งตกลงจากบันไดสองคน นานะก้าวตามคนของเธอไปติด โดยมีซันเดินตามอยู่ด้านหลัง
“นี่นายถ้ายิงได้ยิงอย่างลังเล ไม่ไหวให้หลบ ถ้าโดนยิงให้อยู่นิ่งและหลบไว้แล้วจะมีคนมาช่วย” นานะหยุดพูดสักพัก ก่อนจะพูดต่อ “ที่ไม่ใช่ฉัน” ซันพยักหน้ารับรู้
คนชุดหลังที่ไม่ตามขึ้นมาออกไปสำรวจพื้นที่ชั้นหนึ่งแต่ละห้อง ทีมสองไล่ตรวจสอบไปแต่ละห้องเช่นกัน การปะทะสิ้นสุดลงตั้งแต่พวกเขาไต่ขึ้นมายังชั้นบน หาน้องชายสุดที่รักไม่พบแม้แต่เงา
นานรับรายงานว่าไม่พบและออกคำสั่งให้คนของเขาออกไป ปฏิบัติการของทีมเขาเสร็จสิ้นเพียงแค่ครึ่งชั่วโมง เพราะทีมทำงานคุ้นเคยกันและพร้อมรับมือกับเรื่องพวกนี้อยู่แล้ว ต้องทำให้เร็วเพื่อพร้อมไปสบทบกับทีมอื่นที่จะเรียกมา
หนึ่งที่นั่งรอรับข้อมูลอยู่ส่วนกลาง คอยอย่างใจจดใจจ่อ ทีมสี่ที่จบเร็วสุดรายงานว่าไม่เจอไนน์ ผ่านไปอีกครึ่งชั่วโมง เขาได้รับรายงานติดๆ ว่าแต่ละพื้นที่มีระเบิดติดตั้งไว้
เมื่อหลังจากการรายงานว่าคนในตระกูลปลอดภัย ส่วนคนที่รับบาดเจ็บมีรถพยาบาลมารับและส่วนศพที่คนของพวกเขาจะพากลับบ้าน ส่วนคนเจ็บอีกฝ่ายคงไม่ต้องทนเจ็บอีกต่อไปเอาฝากไปส่งไปพร้อมกับมูลนิธิที่อยู่ภายใต้การดูแลจัดการเป็นซากศพที่เหลือให้กลายเป็นศพไร้ญาติและเอาไปฝังในป่าช้าสักที
สิ้นสุดการรายงานของแต่ละทีม นายใหญ่ของบ้านสั่งให้ทุกคนไปรวมตัวกันและวางแผนตามหาไนน์อีกรอบ นานะที่นั่งอยู่จับสังเกตได้ว่าจุดที่เธออยู่ไร้สิ่งผิดปกติเกินไป ซ้ำแต่ละทีมยังไม่มีใครเจอน้าสาวและบอดี้การ์ดคนสนิทด้วยซ้ำ หรือว่าจะไม่ใช่ทั้งสี่ที่พวกเรามาหากัน เธอนั่งใช้ความคิดว่าจะต้องทำไงต่อ หาน้องตรงไหน นี่ผ่านมากี่ชั่วโมงที่โดนจับไปแล้ว น้องอยู่ส่วนไหน ยิ่งนานลมหายใจยิ่งหดหายไปเรื่อยๆ แต่น้าสาวคงไม่คิดจะลงมือทันทีคงจะเล่นจนหมดสนุกคงปล่อยไปหาปู่แน่นอน
นานะแยกตัวออกมาขับรถเอง โดยให้ซันนั่งมากับเธอด้วย อ้างกับพ่อของเธอว่าต้องการขับให้หัวโล่งและจะตามไปที่ผับเร็วที่สุด รถที่เคลื่อนขบวนออกโดยมีคันนานะขับไปล่วงหน้าอย่างเร็ว ความเร็วของรถสปอร์ตที่เธอขับในป่าเร็วเท่ากับทางเรียบปกติ กิ่งไม้ฟาดกระจกตลอดทาง
นานะตีโค้งรถกลับมาที่เดิมโดยใช้เส้นทางในป่า หลีกหนีการขัดคำสั่งลุงมังกรและบิดาอย่างสิงห์ หากใช้แค่ลางสังหรณ์ย่อมไม่ได้รับความยินยอมให้ลงมือแน่นอน ชีวิตลูกๆ ทุกคนสำคัญหมดนั่นคือสิ่งที่ย้ำก่อนจะทำงานทุกครั้งรวมถึงครั้งนี้ด้วย
นานะที่ก้าวลงรถพร้อมกับซันที่มีสีหน้างัวงง ตากวาดไปรอบๆ เวลาสถานที่เริ่มปกคลุมไปด้วยป่าความมืดและเงียบสงัด เสียงนกการ้องระงมทั่วป่า เธอลากซันไปเดินเท้าไปยังที่พวกเขาเพิ่งจะออกมา ทีมงานจัดเก็บทุกอย่างเรียบหลงเหลือแต่ร่องรอยที่ทิ้งไว้เบื้องหลัง
“กลับมาทำไม” คำถามที่ซันอดจะถามออกไปไม่ได้
“เงียบแล้วนั่งลง”
นานะตอบกลับด้วยที่เบาและกดต่ำ สายตาจดจ้องไปยังในบ้านร้างที่ไร้ผู้คน ส่วนเครื่องสื่อสารเธอโยนทิ้งที่รถรวมถึงของอีกคน ซันมองไปที่นานะยังจ้องไปยังตรงนั้นมันมืดจนมองอะไรไม่เห็นแล้วมานั่งรออะไร
“ลุกแล้วตามมาเงียบ”
เสียงสวบสาบของรองเท้าผ้าใบลุยเข้าไปยังบ้านร้างอีกรอบ นานะก้าวนำหน้าพร้อมกับปืนที่มีไฟฉายส่องนำ ซันที่เดินตามไปอย่างไร้จุดหมาย เพียงแค่คิดว่าให้ตามก็ตามเขาไปไหนไม่ได้อยู่แล้วนิ ในใจคิดว่าทำไมต้องมาอยู่นี่ด้วย แล้วนานะไม่หวงน้องชายเลย
“เจอแหละ” น้ำเสียงเย้ยหยันมาพร้อมยิ้มที่ยกขึ้นมามุมปาก
“...”
นานะที่เฝ้ามองหาในสิ่งที่เขาเจอ ถ้าหากสิ่งนี้เจออยากจะยกความดีให้กับไอ้ลูกเจ้าพ่อห่าเหวนั่นที่สอนเธอมา ตึกที่มีชั้นใต้ดินจะมีประตูที่ซ่อนไว้ตามผนังห้อง ถึงจะสร้างมาแนบเนียนแค่ไหนมันต้องมีจุดในคนใช้งานสังเกตอยู่ดี ผนังสีขาวที่ไม่เรียบสม่ำเสมอมีรอยนูนขึ้นมาเป็นเส้นตรงอยู่ตรงกลาง บวกกับลมเย็นๆ ที่พัดออกมาที่ด้านล่าง ตอนที่นานะก้มลงไปเอาฝ่ามือสัมผัส
นานะจัดการระบบความปลอดภัยและผลักประตูก้าวลงไปตามทาง มองไปยังปลายทาง คนที่ยืนรออยู่ข้างในมีเกือบสิบคนตลอดทางเดิน เธอต้องจัดการอย่างเงียบและเร็วที่สุด มีดพับที่เหน็บด้านข้างคู่กับปืนชักออกมาถือด้านปลายมีดชี้ลงไปที่พื้น เธอหันมาพยักหน้าให้ซัน ขาเรียวเล็กวิ่งไปอย่างเร็ว ปลายมีดปักคอคนแรกก่อนจะหมุนตัวแทงเข้าที่คอหอยคนที่สอง แม้แต่จะอ้าปากร้องขอความช่วยเหลือยังไม่มี มีดที่มือคว้าโดนขึ้นเปลี่ยนการจับและออกแรงขว้างไปยังคนที่สามที่ต้นขนก่อนจะยิงปืนสวนมา ปิ้ว! กระสุนออกจากลำเพลิงปลายกระบอกเก็บเสียง ตึง! ร่างไร้วิญญาณล้มลง นานะวิ่งไปดึงมีดเลือดพุ่งสาดเปื้อนที่ต้นแขน วิ่งทะลวงเข้าไปจ้วงแทงไม่หยุด
พวกเขาไม่มีเวลามาร้องขอบคุณกันและกัน นานะบุกผ่าเข้าไป ส่วนซันที่คอยเก็บคนที่พอจะสอยได้อย่างแน่ชัด เพราะไม่อยากให้เสียงปืนดังขึ้นมานัก นานะกวาดไปเจ็ดส่วนซันได้แต่สอง ทั้งคู่ก้าวลงไปอย่างอีกชั้นอย่างระแวดระวัง นานะพยายามลดการปะทะกับตัวเองให้มากที่สุด ฆ่าให้เร็วต้องเซฟพลังงานให้มากที่สุดหากต้องไปเจออีกสองคนที่อันตรายเธอต้องมีแรงและสติ
ชั้นล่างสุดนานะเจอคนที่ต้องเจออย่างน้อยหนึ่งคนบอดี้การ์ดคนสนิท พร้อมกับลูกน้องอีกสองคน สามต่อสองฟัดกันพอจะสูสีอยู่นะ ชายร่างยักษ์แสยะยิ้มมายังพวกเขาทั้งสอง
นานะชักปืน ปัง! ปัง! ปัง! ตามาด้วยร่างที่ร่วงเหมือนคนเป็นลมไปสองร่าง ส่วนอีกคนม้วนตัวลงไปอยู่กับพื้น ซันที่ยืนด้วยมองไปทันตั้งแต่นานะหยิบปืนและออกแรงยิงในพริบตา
“ยังเร็วและแม่นไม่ตกเลยนะครับ” เสียงถามที่ราบเรียบราวกับเดาเรื่องนี้ไว้อยู่แล้ว
“น้องกูอยู่ไหน?!!” นานะถามแต่ปืนยังหันไปคนที่ถูกถาม
“มาถึงแล้วก็หาเองสิครับ แต่ผมไม่ออมมือให้นะครับ” น้ำเสียงที่สุภาพตอบกลับ แต่สีหน้าไม่ได้เข้ากับน้ำเสียงนั้นเลย
“ผมจัดการให้ นานะไปช่วยไนน์เถอะ” ซันพูดแทรกมาระหว่างคนทั้งสอง
“มึงเหรอ? กูไม่อยากเก็บศพ” นานะส่งสายตาดูถูกมองมา ระดับบอดี้การ์ดที่จะประจำกายความสามารถเทียบเท่ากับนักฆ่าระดับมืออาชีพ ถ้าให้คนที่ออกปากจะช่วยคงไม่เกิดสามนาที
อีกคนไม่รอให้พวกเขาเถียงกันจบ กระโจนใส่นานะโดนหมัดชกเข้าที่ใบหน้า มุมปากมีเลือดซิบ หมัดที่สองตามมาทันที ใบหน้าหวานเบี่ยงหลบตามสัญชาตญาณการป้องกันตัว สันมือสับลงไปลูกกระเดือกคนที่พุ่งเข้ามา หมุนตัวไปด้านหลังชกเข้าที่ท้ายทอย ถีบเข้าที่ข้อพับหัวเข่าจนล้มลงไป มีดที่เก็บไปหยิบขึ้นมาพุ่งเข้าไปแทง คนล้มหลบมีดและคว้าตัวนานะล็อกเข้าที่หลังจับทุ่มไปสุดแรง แผ่นหลังกระแทกลงพื้น บอดี้การ์ดร่างยักษ์กระโดดขึ้นคร่อมร่างบาง
ซันที่เห็นนานะเสียที พุ่งตัวยกขาฟาดไปที่หน้า เบอร์8หรือ26เซนคือความยาวของรองเท้าที่ทาบที่ต้นแขนชายร่างยักษ์ที่ยกขึ้นมากันไว้ พอดีกับจังหวะให้นานะกระแทกหมัดเอาที่ลิ้นปี่จนตัวงอ ซันถอดเท้าออกและออกแรงซ้ำอีกรอบจนล้มไปด้านข้าง พอจะให้นานะลงขึ้นมา
ต่างฝ่ายเฝ้าจดจ้องระวังกันและกัน ซันและนานะต่างลุยเข้าไปพร้อมกัน หมัดแลกหมัด ซันซัดหมัดขวา นานะตามด้วยเท้าขวาเข้าตัว คนที่โดนรุมได้แต่ยกมือกัน แม้การต่อสู้ของซันที่ไร้ประสบการณ์แต่ยังพอช่วยประคองและลดแรงปะทะไปพอสมควร นานะที่สบจังหวะกระโดดขึ้นปืนเอาขาตวัดหนีบเข้าที่คอล็อกพร้อมหมัดกระแทกที่ใบหน้า ซันกำหมัดซัดเอาที่อกอย่างหนัก สองแรงร่วมกันในที่สุดอีกคนทรุดและล้มลง
นานะและซันต่างเหนื่อยหอบ มองดูร่างยักษ์ที่นอนกองกับพื้น นานะหยิบปืนที่ตกมาจ่อหัวก่อนจะเหยี่ยวไกลสังหาร เลือดที่ไหลพร้อมกับมันสมองที่ไหลกองกับพื้นมันน่าสะอิดสะเอียน สำหรับนานะที่เห็นจนชินตาไม่สนใจ ส่วนซันต้องรีบหันหลบแต่ยังมีอาการอ้วกลมออกมา
“ไหวไหม ไนน์รออยู่” นานะหันมาถามที่โกร่งคออ้วกอยู่
“ไหว!!” ซันตอบกลับและปาดน้ำลายที่ปาก
พวกเขามาหยุดตรงห้องที่ปิดสนิทอยู่ห้องเดียวห่างจากที่เขาเดินมาแค่ห้าก้าวเท่านั้น นานะเลือกเป็นคนเปิดประตูเข้าไป
ปัง! ปัง! เสียงที่ดังขึ้นพร้อมกับร่างชายหนุ่มที่ร่วงไปกองกับพื้น
“พี่ซัน!!!!” เสียงร้องตะโกนจากคนที่ถูกจับมัด
TBC….