[KNY FF] - In Time With You

Special Chapter 07 - Endless Dream (I)

 

TW/CW :

Death | Non-Explicit Sex Activities

 

ปล. เนื่องจากบทนี้ยาว เลยขออนุญาตแบ่งลง 3 ตอนนะคะ

 

1st Published : 24 JAN 2022

Rewrite : 08 JUN 2022

===========

เหตุการณ์ต่อเนื่องจาก Special Chapter 06.2 ค่ะ และหลัง Day 7 ค่ะ

 

เวลาเป็นดั่งสายน้ำ...

 

สายน้ำบ้างก็ไหลเชี่ยวกราก บ้างก็ไหลเอื่อย บ้างก็หมุนวน...

 

แต่สายน้ำไม่เคยทวนย้อนกลับ...

 

เหมือนกับเวลาที่ไม่อาจหวนคืนมา...

 

แสงสว่างของรุ่งอรุณสาดส่องยังนัยน์ตาทั้งสองข้างของโทมิโอกะ กิยู ให้ปรือตื่นขึ้น สายลมเย็นที่พัดโชยต้องกายช่วยพัดพาความเหนื่อยล้าของเขาให้จางหาย หลงเหลือแต่ความเหนื่อยอ่อนที่เขาคุ้นชินมาตั้งแต่จบศึกสุดท้ายครานั้น

 

ชายหนุ่มกะพริบตาไปมา ไม่แน่ใจว่าเวลาผ่านพ้นไปนานแค่ไหนนับตั้งแต่เขาตื่นมาครั้งสุดท้าย หากดูจากอาการกระหายน้ำและลำคอที่แห้งผาก เขาคงเผลอหลับไปนาน... นานพอ ๆ กับเรื่องราวที่ผ่านพ้นในห้วงฝันอันแสนยาวนาน

 

ฝันถึงพ่อแม่ผู้ตายจากไปตั้งแต่เขายังเล็ก... ฝันถึงท่านพี่ผู้เสียสละชีวิตปกป้องเขา... ฝันถึงซาบิโตะ เพื่อนคนสำคัญผู้เอาชีวิตของตนแลกไว้กับการปกป้องเหล่านักดาบที่เข้ารับการคัดเลือกครั้งสุดท้าย...

 

และเจ้าของนัยน์ตาสีม่วงคู่นั้น... คู่ที่จำรัสอยู่ในความทรงจำมาตั้งแต่ครั้นเขาจำความได้

 

นัยน์ตาสีครามปิดลงอย่างเหนื่อยอ่อน กระนั้นริมฝีปากแตกระแหงหากร้อนผะผ่าวด้วยพิษไข้แย้มรอยยิ้มน้อย ๆ เมื่อนึกถึงห้วงเวลาที่เขาเฝ้ารอที่ใกล้จะมาถึงทุกขณะ ห้วงเวลาที่เขาใกล้จะได้พบกับเธอคนนั้นโดยที่ไม่ต้องรอเพียงช่วงเวลาที่เขาหลับฝัน

 

เรี่ยวแรงที่เขาเคยมีเสื่อมถอยไปตามสภาพสังขารที่ทรุดโทรมลงอย่างเห็นได้ชัด ผลพวงจากการเปิดปานอสูรเพื่อดึงพลังงานชีวิตมาใช้ช่วงศึกสุดท้ายเมื่อหลายปีก่อน... สิ่งที่เขาทุ่มเทหมดหน้าตัก ทั้งที่รู้อยู่แก่ใจว่านั่นจะทำให้อายุขัยของเขาเหลือเพียงไม่กี่ปี

 

แต่มันไม่เคยสลักสำคัญสำหรับตัวเขาเลย... แม้แต่นิดเดียว...

 

ชายหนุ่มหลับตาลงอย่างช้า ๆ ปล่อยให้สายลมหนาวเหน็บพัดผ่านผิวกายของเขาไปอย่างเลื่อนลอย หากสัมผัสเย็น ๆ จากผ้าสะอาดชุบน้ำที่วางโปะลงบนหน้าผากแล้วไล้ลงตามซอกคออันร้อนระอุของเขาอย่างแผ่วเบา น้ำหนักมือและกลิ่นดอกฟูจิที่ต้องจมูกมันช่างเคยคุ้นจนเกินกว่าจะเป็นภาพฝันของเขาแต่ฝ่ายเดียว

 

อดีตเสาหลักวารีรวบรวมแรงทั้งหมดเพื่อปรือตาตื่น แสงสีส้มของยามตะวันลับขอบฟ้าขับนัยน์ตาสีม่วงที่ตราตรึงอยู่ในความทรงจำทั้งยามหลับและยามตื่นให้ส่องพราวระยับ นัยน์ตาของคนที่ดวงใจเขาเฝ้าคะนึงหามาตลอดเวลา

 

ชิโนบุ... เหรอ”

 

“ได้สติแล้วเหรอคะกิยูซัง”

 

ริมฝีปากบางของเธอผู้นั้นแย้มรอยยิ้มอ่อนโยน รอยยิ้มที่ไม่ใช่เพียงยิ้มว่างเปล่าอย่างที่เป็นมาตั้งแต่เธอผู้นี้สูญเสียตัวตนไปเมื่อหลายปีก่อน หากเป็นรอยยิ้มของสตรีที่จำรัสอยู่ในห้วงฝันของเขามาตั้งแต่จำความได้

 

“...นี่ยังไม่มืดเลยนะ”

 

“ทำไมหรือคะ?”

 

“ข้าฝันอยู่หรอกหรือ”

 

“แหม ๆ ทำไมคิดแบบนั้นล่ะคะ” เธอผู้นั้นหัวเราะเสียงใส ก่อนจะเอื้อมมือขวามาดึงแก้มของเขาออกอย่างมันเขี้ยว “ถ้ายังไม่เชื่อ ให้ฉันลองจิ้มตาคุณแทนดีไหมกิยูซัง”

 

“ไม่เป็นไร” กิยูพึมพำเบา ๆ พลางใช้มือซ้ายที่เหลืออยู่คลึงแก้มบัดนี้ระบมแดง “หรือนี่เป็นโลกหลังความตายกันแน่...”

 

คำพูดของเขาถูกหยุดด้วยแรงหยิกของสตรีสาวร่างเล็กที่แหนบเข้าอย่างจังตรงสีข้าง... ความเจ็บปวดที่ชัดเจนเกินกว่าจะเป็นเพียงความฝัน พร้อมกับน้ำเสียงเสียดสีอย่างที่เจ้าหล่อนมักใช้เย้าแหย่เขามาตลอดเวลา

 

“แหม ฉันอยู่ตรงนี้ทั้งคน กิยูซังคิดว่าที่นี่เป็นนรกหรืออย่างไรคะ”

 

“...นะ เมื่อเทียบกับที่เจ้าสาดยาตอนฟื้นฟูสมรรถนะละก็...”

 

“เพราะแบบนี้ไงคะ ทุกคนถึงได้เกลียดคุณกันหมด”

 

โคโจ ชิโนบุ ว่าพลางดึงจมูกของเขาอย่างมันเขี้ยว อากัปกิริยาทีเล่นทีจริงที่เขาได้แต่วาดฝันไว้นับตั้งแต่คืนนั้น... คืนที่ทั้งสองได้รับรู้ถึงความรู้สึกของแต่ละฝ่ายที่ซ่อนเร้นใต้ก้นบึ้งของหัวใจ วาดฝันถึงอนาคตที่จะมีเธอผู้นี้เคียงข้าง แม้จะเป็นช่วงเวลาสั้น ๆ ในบั้นปลายชีวิตของเขาก็ตาม

 

หากคำถามหนึ่งยังคอยรบกวนจิตใจ คำถามที่เขาหลุดออกถามไป ราวกับเป็นคำถามที่ติดอยู่ใต้จิตใต้สำนึกของเขามานานแสนนาน

 

“แล้วนี่เจ้ารอดมาได้...”

 

“คุณอยากให้ฉันตายขนาดนั้นเลยเหรอคะ กิยูซัง” เธอว่าพลางหยิกสีข้างของเขาอีกครั้ง ก่อนจะเอื้อมมือลูบไล้ศีรษะที่ระอุด้วยพิษไข้ไปมา “คุณถามฉันหลายรอบแล้วนะคะ และฉันก็ตอบคุณไปแล้วไม่รู้กี่สิบครั้งนะ”

 

“ข้าจำไม่ได้...”

 

นัยน์ตาสีม่วงอ่อนแสงลง ก่อนจะฉวยมือซ้ายที่เหลือเพียงข้างเดียวของเขาขึ้นกอบกุม แล้วตอบด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา

 

“อย่างที่ฉันเคยเล่าค่ะ ฉันบังเอิญเปิดปานได้ทันก่อนที่คานาโอะและอิโนะสุเกะคุงจะมาถึงพอดี แล้วเซรุ่มที่ฉันพัฒนาร่วมกับทามาโยะซังก็บังเอิญได้ผลค่ะ มันได้ผลดีกว่ายาพิษที่ฉันใช้ยามปกติถึงหนึ่งร้อยเท่า” เธอว่าพลางลูบศีรษะของเขาที่พาดอยู่บนตักของเธอไปมา “เจ้าอสูรที่ฆ่าพี่สาวของฉันเลยไม่ทันที่จะกินฉันได้ ขณะที่ฉัน คานาโอะ และอิโนะสุเกะก็ใช้แรงที่มีทั้งหมดบั่นคอมันได้สำเร็จค่ะ... แต่ถึงอย่างนั้นฉันก็บาดเจ็บจนสิ้นสติจนไม่อาจร่วมศึกสุดท้ายได้อยู่ดี”

 

คำตอบที่เหมือนจะไขข้อสงสัยของอดีตเสาหลักวารี หากจิตใจเบื้องลึกของเขาก็รู้สึกว่าสิ่งที่ได้ยินนั้นมันช่างขัดกับสิ่งที่เขารับรู้... เช่นเดียวกับหัวใจของเขาที่บีบระรัวด้วยความเจ็บปวดบางอย่าง

 

ความเจ็บปวดจากการสูญเสียคนสำคัญ ที่เจ็บปวดจนแทบจะสิ้นชีวีตาม...

 

ความเจ็บปวดที่เขาเฝ้าภาวนาให้เป็นแค่ฝันร้ายที่ผ่านมาอีกครั้งหนึ่ง...

 

“แล้วคนอื่น...”

 

“นี่สมองของคุณคงกระทบกระเทือนจนความจำเสื่อมหรอกเหรอคะ” เธอเอ่ยอย่างอ่อนใจ หากกิยูก็ปล่อยให้เธอผู้นั้นเชื่อตามนั้น “บรรดาเสาหลักที่ร่วมรบแล้วรอดกลับมา ก็มีเพียงคุณ ฉัน แล้วก็ซาเนมิซังนี่แหละค่ะ”

 

“ถ้าเช่นนั้น...”

 

มุอิจิโร่คุงและเกนยะคุงเสียชีวิตหลังจากสู้กับอสูรข้างขึ้นที่หนึ่งค่ะ” น้ำเสียงของเธอสั่นสะท้านยามพูดชื่อคนที่ล่วงลับไป “คันโรจิซัง อิงุโระซัง และเกียวเมซัง ก็จบชีวิตลงหลังจากสู้กับมุซันค่ะ... โชคดีนะคะที่คุณ ซาเนมิซัง คานาโอะ ทันจิโร่คุง เนซึโกะจัง อิโนะสุเกะคุง และเซนอิทซึคุงรอดชีวิตมาได้”

 

“งั้นเหรอ...”

 

กิยูพึมพำ หากไม่ได้ตกใจกับคำตอบของเธอ ราวกับนั่นเป็นสิ่งที่เขาล่วงรู้อยู่แล้ว กระนั้นหัวใจของเขาก็ยังถูกบีบรัดด้วยมือที่มองไม่เห็น

 

สิ่งที่เธอบอกนั้น ช่างขัดกับความรับรู้ของเขา...

 

ความรับรู้ที่ว่าเขาสูญเสียสิ่งที่มีค่ายิ่งชีวิตไปในการศึกนั้น...

 

ก่อนที่กิยูจะได้ทันคิดต่อ นิ้วของเธอก็แตะริมฝีปากของเขาเบา ๆ พร้อมกับแย้มยิ้มที่เขาเฝ้าคะนึงหามาตั้งแต่วันที่พี่สาวของเธอคนนี้ล่วงลับไป รอยยิ้มที่เต็มเปี่ยมด้วยความสุขสมหวังอย่างที่เขาเฝ้าปรารถนาจะได้เห็นมันอีกครั้ง... อีกแค่เพียงครั้งหนึ่งในชีวิตของเขาเท่านั้น

 

“รู้ไหมคะ รู้ไหมว่าฉันเฝ้ารอให้คุณตื่นแค่ไหน...” เสียงใสเอ่ยทีเล่นทีจริง หากนัยน์ตาที่พราวระยับไม่แพ้แสงดาราในคืนเดือนมืดบ่งบอกว่าเธอหมายความตามคำที่พูด “ถึงจะรู้ดีว่าคุณปลอดภัย แต่ฉันก็กังวลอยู่ดี”

 

“งั้นเหรอ...”

 

อดีตเสาหลักวารีพึมพำก่อนหลับตาลงด้วยความอ่อนล้า ถึงจะสงสัยว่านี่เป็นความจริงหรือภาพฝัน หากเขาเลือกที่จะลืมเลือนความสงสัยที่ผุดขึ้นมาในห้วงคำนึง พร้อมปล่อยใจไปกับสัมผัสจากเจ้าของมือที่ไล้ไปตามเส้นกรอบหน้าของเขาอย่างแผ่วเบา

 

ความสงบสุขที่เขาวาดฝันไว้นับแต่คืนวันนั้น... จนตอนนี้เขาเลือกจะไม่สนใจสิ่งอื่น นอกจากปล่อยกายใจให้อยู่กับสิ่งที่อยู่ตรงหน้า อยู่กับหญิงสาวที่เขาเฝ้าฝันถึง อยู่กับคนที่เขาไม่อาจปล่อยให้หลุดมือไปอีกครั้งหนึ่ง...

 

ไม่สนใจว่านี่อาจจะเป็นภาพฝันของเขาฝ่ายเดียว... ไม่สนใจว่าภาพฝันที่เขาสูญเสียเธอไปซ้ำแล้วซ้ำอีก มันคือความจริงที่แสนเจ็บปวดที่เขาต้องเผชิญมานับแรมปี...

 

เมื่อลืมตาตื่นอีกครั้ง ท้องฟ้าข้างนอกก็มืดสนิท มีเพียงแสงจันทราของคืนวันเพ็ญที่ทอแสงนุ่มละมุนไม่ต่างจากคืนที่อยู่ในความทรงจำ เว้นแต่ข้างกายที่บัดนี้ว่างเปล่า... ความรู้สึกอ้างว้างจนสุดขั้วหัวใจที่เคยคุ้นทำเหงื่อผุดพรายเต็มหน้า ด้วยกลัวว่าสิ่งที่เขาเห็นมาทั้งหมดจะเป็นเพียงภาพฝันอีกครั้ง

 

ชายหนุ่มถอนหายใจอย่างโล่งอก เมื่อเห็นภาพอดีตเสาหลักแมลงแหงนหน้าชมจันทร์อย่างเลื่อนลอย ภาพซึ่งดูงดงามยิ่งกว่าภาพฝันตลอดกาลของเขา กิยูค่อย ๆ ประคองร่างของตนออกมาทรุดตัวนั่งเคียงข้างเจ้าหล่อน แล้วเอ่ยถามอย่างแผ่วเบา

 

“ไม่หนาวเหรอ...”

 

“ไม่เลยค่ะ” คำตอบที่กิยูได้แต่มุ่นคิ้วกับสายลมเหน็บหนาวของกลางเหมันต์ที่ต้องกาย ก่อนจะใช้แขนที่เหลืออยู่ข้างเดียวปลดฮาโอริตัวหนาออกจากร่างแล้วคลุมร่างเล็กของเธอผู้นั้นไว้ ไม่สนใจเสียงดุของเธอที่ตำหนิการกระทำของเขา “เดี๋ยวเถอะค่ะ คุณเพิ่งหายไข้หวัดเองนะ”

 

“สวมเถอะ”

 

“กิยูซังนี่ดื้อไม่เคยเปลี่ยนนะ” เธอยิ้มจนตาปิด ก่อนจะขยับร่างเข้ามาเบียดชิด ปลดเสื้อคลุมบนตัวออกแล้วคลี่มาคลุมร่างเขาทั้งสองแทน “แบบนี้อุ่นกว่าไหมคะ”

 

ไออุ่นที่แผ่ซ่านจากร่างที่อิงแอบแนบกาย ศีรษะที่เอนซบบ่าของเขา และมือเล็กที่เกาะกุมมือซ้ายของเขาไว้แน่น ช่วยคลายความหนาวเหน็บจากสายลมยามดึกไปได้มาก

 

ความสุขสงบมาพร้อมกับความสบายใจอย่างที่เขาไม่เคยได้สัมผัสมาตั้งแต่เสียพี่สึทาโกะไป แม้จะมีค่ำคืนที่เขาได้ใช้ร่วมกับเธอก่อนศึกสุดท้าย หากความเปราะบางของคนในอ้อมแขนทำให้เขาหวั่นว่าเธอผู้นั้นพร้อมจะแหลกสลายได้ทันทีที่เขาเผลอลับสายตา สองมือของเขาในคืนนั้นจึงทำได้เพียงโอบกอดร่างเล็กไว้แน่นหนา

 

หากในวันนี้ แม้เหลือเพียงแขนเดียวที่จะโอบกอดและรั้งเธอไว้ กิยูก็วางใจว่าเขาจะยังมีเธออยู่เคียงข้างกันไปอีกพักใหญ่...

 

จนกว่าเวลาที่คำสาปปานจะทำงาน...

 

“คืนนี้พระจันทร์สวยนะคะ”

 

“นั่นสินะ...” กิยูพึมพำ ก่อนคำถามหนึ่งจะผุดขึ้นมา คำถามที่เธอทิ้งท้ายไว้ในคืนนั้น “แล้ว... คำนี้หมายความว่าอะไรกันแน่”

 

“จนถึงตอนนี้คุณก็ยังไม่รู้คำตอบเหรอคะ”

 

ชิโนบุยิ้มกว้าง พลางยกนิ้วจิ้มแก้มของเขาเหมือนที่เคยทำสมัยพวกเขาทั้งสองยังเป็นเพียงเพื่อนร่วมงานกัน หากเป็นยามนั้น เขาคงได้แต่ถอนใจแล้วเบือนหน้าหนีไปอีกทาง พร้อมกับสะกดเสียงหัวใจที่เต้นระรัวจนแทบทะลุออกมานอกอกให้สงบลง

 

แต่ในวันนี้ เขาได้แต่ใช้มือที่เหลืออยู่ลูบไล้ใบหน้างามงดของเธอ นัยน์ตาสีครามสบนัยน์ตาคู่สวยด้วยประกายคมกล้า ทวงถามคำตอบของเธอที่ค้างคามานับแต่คืนนั้น

 

รอให้เฉลยน่ะ”

 

“สมกับเป็นคุณจริง ๆ”

 

ชั่วขณะหนึ่งที่เขาเห็นเงารื้นในนัยน์ตาสีม่วงคู่งามพร้อมกับรอยยิ้มแสนเศร้าจนใจหาย ชวนให้นึกถึงรอยยิ้มของเธอที่ให้ไว้ก่อนแยกจากกันหน้าคฤหาสน์ผีเสื้อในเช้าวันนั้น หากเพียงชั่วพริบตาเดียว ชิโนบุก็เขยิบดวงหน้าของเจ้าหล่อนมาแนบชิด พร้อมกับยกมือบอบบางประคองใบหน้าของเขาเอาไว้

 

ก่อนเอื้อนเอ่ยคำตอบของคำถาม... และถ้อยคำที่เขาเฝ้ารอมาตลอด

 

“ฉันรักคุณค่ะ”

 

เสี้ยววินาทีหนึ่งที่กิยูรู้ตัวว่าเขารู้ความหมายคำนี้ดี ราวกับเป็นคำตอบที่เขาเคยได้ยินจากปากของชิโนบุมาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว กระนั้น หัวใจของเขาก็ยังคงเต้นระรัวกับคำบอกรักที่เขารู้ทั้งรู้อยู่แก่ใจ แต่ก็ยังอยากได้ยินจากปากของเธอผู้นี้

 

“ขอโทษนะคะที่ฉันไม่ได้บอกออกไปในคืนนั้น” ชิโนบุกระซิบขณะซบดวงหน้าแนบแผงอกกว้างของเขา ขณะปล่อยหยาดน้ำร้อนรินหยดลงเสื้อของเขา “ฉันไม่รู้ว่าทั้งฉันและคุณจะรอดมาได้ไหม ขอโทษนะคะที่ไม่ได้ให้คำตอบกับคุณไป”

 

“ไม่เป็นไร ไม่มีอะไรที่ต้องขอโทษ”

 

เขากระซิบกลับพร้อมเชยคางของเจ้าหล่อนขึ้นมา บรรจงจูบซับน้ำตาที่รินไหลไม่ขาดสาย ขบไล้ไปตามปลายจมูก แล้วมาจรดอยู่ยังริมฝีปากสีชาดที่ยังคงสั่นระริก

 

“ข้าบอกเองนี่ว่าจะรอน่ะ ต่อให้นานแค่ไหน ข้าก็รอได้เสมอ... ชิโนบุ”

 

มุมปากของเธอยกขึ้นเล็กน้อยแม้นัยน์ตาจะยังคงแดงก่ำ หากเป็นเขาที่ไม่อาจทนกักเก็บความปรารถนาไว้ได้ ลืมสิ้นทั้งอาการป่วยไข้ของตน ลืมสิ้นทั้งสายลมหนาวเหน็บของกลางเหมันต์ ลืมสิ้นทั้งคำถามที่คาค้างในจิตใจ ลืมสิ้นทั้งจิตใต้สำนึกที่พร่ำเตือนถึงบางสิ่งที่ขาดหายไปในห้วงความทรงจำ...

 

ริมฝีปากร้อนระอุด้วยพิษไข้ขบไล้ไปตามริมฝีปากบางที่เผยอรอรับสัมผัสอันอ่อนโยนหากก็เร่าร้อนในที นุ่มนวลหากก็แฝงซึ่งความหนักแน่นในอารมณ์ของคนทั้งสองที่ถูกจุดติดด้วยเพลิงเสน่หา เมื่อไม่เหลืออะไรมากั้นขวางความรู้สึกที่ต้องกักเก็บเพียงเพราะหน้าที่ของเสาหลักที่ต้องดำรงไว้อีกต่อไป

 

คงเหลือแต่ความรู้สึกของคนสองคนที่จมอยู่ในห้วงรัก และปรารถนาจะใช้ช่วงเวลาที่เหลืออยู่ร่วมกันให้ได้นานที่สุดเท่านั้น

 

แขนที่เหลือเพียงข้างเดียวกระชับร่างเล็กที่นอนซุกแนบอกไว้แน่น นิ้วมือสากกร้านไล้ตามเส้นผมสีดำเหลือบม่วงที่ยาวระอกของเขาอย่างเบามือ แม้ไม่เหลือแขนสองข้างที่จะโอบกอดเธอผู้นี้ได้เหมือนในคืนนั้น หากความสุขที่ได้รับก็มากพอที่จะมองข้ามสิ่งที่ขาดหายไป

 

กระนั้น ใบหน้างดงามของชิโนบุยังคงเต็มไปด้วยความเศร้าหมอง จนกิยูอดไม่ได้ที่จะกระซิบถามเบา ๆ

 

“มีอะไรรบกวนใจหรือ...”

 

“ไม่มีอะไรค่ะ”

 

“ชิโนบุ...”

 

กิยูกดเสียงต่ำพร้อมรั้งร่างของเธอไว้แน่นกว่าเก่า ก่อนที่เธอจะหันหลังหนีเขาอีกครั้งดั่งเช่นคืนวันนั้น ทั้งที่รู้อยู่เต็มอกว่าเธอมีอะไรที่ปิดบังเขาอยู่ ทั้งที่เห็นหยาดน้ำตาที่ไหลรินอาบใบหน้าที่ซ่อนไม่ให้เขาได้เห็น หากเขาไม่อยากจะเซ้าซี้เธอ เพราะเป็นคืนแรกที่ทั้งเขาและเธอต่างรู้ความในใจของแต่ละฝ่าย

 

แต่ในวันนี้ วันที่เขาทั้งสองเหลือเวลาต่อกันอีกไม่กี่ปี วันที่เขาเกือบต้องเสียเธอไปในศึกครั้งสุดท้าย เขาไม่อยากปล่อยให้มีอะไรค้างคาระหว่างพวกเขาสองคนอีกต่อไป

 

“นะ... ชิโนบุ” น้ำเสียงทุ้มของเขาฉายแววเว้าวอน “ให้ข้าได้รู้เถอะ”

 

“ฉัน...” เสียงใสของเธอสั่นเครือเล็กน้อย ด้วยความที่ไม่คุ้นชินกับการเปิดเผยความรู้สึกที่แท้จริงมานานนับตั้งแต่สูญเสียพี่สาวคนเดียวไป “...ฉันแค่อยากให้ทุกคนได้มีชีวิตอยู่ต่อค่ะ... โดยเฉพาะคันโรจิซังและอิงุโระซัง”

 

“นั่นสินะ...”

 

“ไม่ใช่แค่นั้นหรอกค่ะ... ฉันโกรธตัวเองที่ไม่อาจร่วมสู้ในศึกสุดท้ายได้ ถ้าฉันได้ร่วมสู้ บางทีคันโรจิซังและอิงุโระซังอาจจะยังมีชีวิตอยู่ต่อก็ได้นะคะ”

 

ชิโนบุว่าพลางยิ้ม... หากนัยน์ตาทั้งสองข้างของหญิงสาวคลอหน่วยด้วยหยาดน้ำตาที่เริ่มรินไหลอาบแก้มทั้งสอง ความรู้สึกที่กิยูรู้ดียิ่งกว่าใคร เพราะมันคือความรู้สึกที่กัดกร่อนหัวใจของเขามาตั้งแต่สูญเสียพี่สาวคนเดียวไปเช่นกัน

 

“แต่... ฉันที่ตัวเล็กแค่นี้ ขนาดเปิดปานแล้วและใช้พิษสู้ได้ยังต้องให้คานาโอะและอิโนะสุเกะคุงช่วยตัดคออสูรให้อีก แถมบาดเจ็บจนไม่อาจสู้ต่อได้ หากฉันฝืนสู้ต่อ ฉันก็คงได้แต่เป็นตัวถ่วงของทุกคนแทนก็ได้...”

 

ใครบอกว่าเจ้าเป็นตัวถ่วง!” กิยูได้ยินเสียงตัวเองพูดโพล่งออกไปแทบจะทันที “เจ้าไม่เคยเป็นตัวถ่วงของใคร สิ่งที่เจ้าทำ ทั้งยานั่น! ทั้งพิษนั่น! ล้วนแล้วแต่ช่วยให้พวกเราเอาชนะมาได้”

 

“แต่ฉัน... ไม่ได้ช่วยพวกคุณตอนสู้กับมุซัน”

 

“มันสำคัญตรงไหน...” เขาว่าพลางใช้แขนโอบศีรษะของเธอแนบอกไว้แน่น รับรู้ถึงหยาดน้ำตาที่ไหลอาบแผ่นอกของเขา “ถ้าไม่มีสิ่งที่เจ้าและอสูรผู้นั้นทำ เราคงไม่มีวันเอาชนะมุซันมาได้”

 

ร่างเล็กที่เขาโอบกอดไว้แน่นหนาสั่นสะท้านด้วยแรงสะอื้นยามนึกถึงเหล่าคนที่จากไปโดยไม่มีโอกาสได้เห็นโลกที่สวยงามและสงบสุขเช่นนี้ หลายชีวิตที่ต้องดับสูญก่อนที่จะมีโอกาสได้ใช้ชีวิตอย่างที่เขาและเธอได้ใช้อยู่

 

ถ้าฉันตัวใหญ่กว่านี้ ถ้าฉันมีแรงมากกว่านี้ คงจะ... ช่วยทุกคนไว้ได้”

 

เสียงของเธอขาดห้วนเป็นช่วง ๆ ด้วยความเจ็บปวดที่กัดกินขั้วหัวใจของเธอมาตั้งแต่รับรู้ว่าตนไม่อาจฟันคออสูรให้ขาดได้ ความเจ็บปวดที่ฝังลึกอยู่ในจิตใต้สำนึกเช่นเดียวกับที่เขาเป็นมาโดยตลอด

 

ต่อให้ใช้เวลาที่เหลือทั้งชีวิต... เขาก็จะทำทุกอย่างเพื่อลบเลือนบาดแผลในใจของเธอให้ได้มากที่สุด

 

“สำหรับข้า... เจ้าเก่งที่สุด” กิยูกระซิบแผ่วเบา บรรจงจรดริมฝีปากทาบกลุ่มผมดกดำนั้นอย่างนุ่มนวลและทะนุถนอม “เจ้าทำดีที่สุดแล้ว อย่าได้โทษตัวเองอีกเลย”

 

มือที่เหลืออยู่เพียงข้างเดียวลูบไล้แผ่นหลังเล็กบางนั้นไว้ แผ่นหลังเล็กที่แบกรับภาระหน้าที่แสนยิ่งใหญ่ ทั้งหน้าที่ในฐานะหมอของหน่วยพิฆาตอสูร ทั้งหน้าที่ในฐานะเสาหลักของหน่วยพิฆาตอสูร และหน้าที่ในฐานะพี่สาวคนรองแห่งคฤหาสน์ผีเสื้อแห่งนี้

 

ภาระอันแสนหนักอึ้ง หากเธอผู้นี้ก็ไม่เคยปล่อยให้อุปสรรคทางกายภาพมาเป็นข้อจำกัด หรือคิดถอดใจยอมแพ้ต่อหน้าที่ที่ต้องแบกไว้ภายหลังการจากไปของโคโจ คานาเอะ อดีตเสาหลักบุปผาคนนั้น

 

เขาถึงได้รักและภูมิใจคนเก่งของเขาผู้นี้... ตั้งแต่ก่อนที่จะรู้ใจตนเองด้วยซ้ำ

 

“กิยูซัง...” เนิ่นนานกว่าที่คนในอ้อมแขนจะหยุดสะอื้นไห้ หากสีหน้าของเธอยังเต็มเปี่ยมด้วยความเจ็บปวดที่ไม่อาจกลบไว้ด้วยรอยยิ้มแสนเศร้านั้น มือของชิโนบุลูบไล้ยังกรอบหน้าของเขาไปมา “มีอีกเรื่องที่ฉันต้องบอกคุณค่ะ...”

 

กิยูเลิกคิ้วขึ้น พร้อมกับฟังอีกหนึ่งสิ่งที่เธอเพียรซ่อนเร้นจากเขามาตลอด และเป็นเหตุผลหลักที่นำมาสู่การกระทำอันแปลกประหลาดของชิโนบุในคืนนั้น...

 

สิ่งที่รับรู้ทำเลือดในตัวของเขาเย็นเฉียบ ริมฝีปากขบเม้มสะกดอารมณ์ความรู้สึกหลากหลายที่พร้อมจะปะทุ หากสิ่งเดียวที่เขาทำได้ คือการโอบร่างของเธอไว้แนบแน่นกว่าเดิม สัมผัสที่เป็นดั่งคำสัญญาที่เขาจะมีให้แด่เธอผู้เป็นที่รัก

 

จนกว่าเวลาที่พิษดอกฟูจิกัดกร่อนร่างของเธอจนหมดสิ้น เขาจะไม่ปล่อยให้เธอผู้นี้คลาดสายตาไปได้อีก แม้แต่เพียงครั้งเดียว...

 

เวลาที่เขามีเหลือทั้งหมด เขาจะขอยกมันไว้ใช้กับคนที่เขารัก จวบจนลมหายใจสุดท้ายของเธอที่จะมาเยือนในอีกไม่ช้านาน...

 

[TBC]

 

===========

Author's Talk 24 JAN 2022

จบไปแล้วนะคะกับตอนพิเศษ 7.1 ค่ะ แหะ ๆ หายไปนานกว่าที่บอก 1 สัปดาห์ พอดีหลังเปิดปีใหม่มา งานประจำก็วุ่นวายยิ่งกว่าที่คาดอีกค่ะ ^^"

บทนี้สำหรับเรา ขอเรียกว่าหินด้วยค่ะ ไม่แน่ใจว่าเพราะเราค่อนข้างหัวร้อนกับงานประจำที่ทำอยู่ช่วงนี้ไหม ทำให้มีช่วงนึงถึงกับต่ออารมณ์ตัวละครไม่ได้เลยค่ะ

ว่าไป มีคนตกใจไหมคะว่าทำไมบทนี้ถึงเป็นแบบนี้ สรุปมันเป็น what if หรือเปล่า หรือว่าเรากำลังเล่นอะไรอยู่ : D อาจจะมีคนงง ๆ ว่า "มันต่อเนื่อง" จากเนื้อเรื่องที่เราเขียนมาทั้งหมดไหม หรือมันเป็นอะไร...

อุอิ เชื่อว่าหลายคนอาจจะเดาได้จากนิสัยเรานะคะ ว่าเราชอบ spoil จากชื่อบทหรือจาก hint อะไรต่าง ๆ ที่เขียนมาเสมอ และบทนี้เป็นบทที่เราต้องอ่านเนื้อหาเก่า "ทุกตอน" ทั้งหมดเลยค่ะ ทั้งส่วนใน In Time With You แล้วก็ทั้งส่วนของ In The Remembrance of Her ค่ะ

น่าจะเป็นการใบ้กลาย ๆ ว่า มันคงไม่ใช่อะไรที่เราใส่มาเล่น ๆ แน่ค่ะ : ) แต่ผลลัพท์สุดท้ายจะออกมาในรูปแบบไหน ก็มาลุ้นกันไปนะคะ

เริ่มเห็นความจริงกับการปิดเล่มนี้ซักทีค่ะ ต้องขอโทษที่ดีเลย์กว่ากำหนดนะคะ แต่ถ้าใครยังอยากสนใจเก็บเล่มนี้ไว้ ยังสามารถสั่งได้อยู่ค่า รายละเอียด จิ้มดูรายละเอียดและกรอกแบบฟอร์ม ได้ที่นี่ เลยค่ะ

ถ้าหมดงวดนี้ คงต้องรอพรีพร้อมกับ KNY FF - In The Remembrance of Her อีกรอบเลยนะคะ

แต่ใครที่งบจำกัด อยากให้เซฟงบสำหรับโปรเจค Anthology Days Rise, Nights Fall ที่เราทำร่วมกับคุณสายป่าน (Saiparnn) คุณอันย่า (Rukaetcetera) และคุณฟ้า (FAHSKY) นะคะ โดยคงจะเปิดพรีช่วงปลายเดือนมีนาคม 2565 ค่ะ

ฝากติดตามรายละเอียดได้ที่ twitter : @butterflyantho หรือในทวิตเตอร์ของพวกเราได้ค่ะ โดยพวกเราจะค่อย ๆ ปล่อยรายละเอียดออกมาทุกวันเสาร์ เวลา 20.55 น. ไปจนส่งรายละเอียดเล่มเลยนะคะ ^^

ตอนพิเศษ 7.2 น่าจะเจอกันอีกทีช่วงวันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2565 เลยค่ะ สัปดาห์หน้าเรามีเลือกตั้งซ่อม แล้วก็เตรียมไหว้ตรุษจีนค่ะ แล้วก็เตรียมเอาเคสเข้าที่ประชุมด้วย เลยไม่กล้ารับปากว่าจะมาลงได้มากน้อยแค่ไหน

กับเราอยากโฟกัสการจัดรูปเล่มก่อนส่งโรงพิมพ์ด้วยค่ะ ^^

ท้ายสุดนี้ เราต้องขอขอบคุณทุกการสนับสนุน ทุกกำลังใจ ไม่ว่าจะทางเมนต์ ทางหน้าไมค์ ทางหลังไมค์นะคะ ขอบคุณที่คอยห่วงสุขภาพเรากันค่ะ ^^ ขอบคุณที่ให้กำลังใจกันเสมอ และไล่เราไปนอนนะคะ ^^ แหะ ๆ ต้องขอโทษจริง ๆ กับความล่าช้าของเราค่ะ

แล้วพบกันกับตอนพิเศษ 7.2 ในวันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2565 นี้ค่า ^^

Author's Talk 08 JUN 2022

สวัสดีค่า วันนี้ก็เป็นคิวลงฉบับ Rewrite สำหรับรวมเล่มนะคะ เพื่อให้เนื้อหาออกมาสมบูรณ์ที่สุดเท่าที่เราจะทำได้ค่ะ

สำหรับบทที่เจ็ด เป็นอะไรที่มีปรับสำนวนและคำผิดเยอะไม่แพ้บทที่หกเลยค่ะ เพราะช่วงเขียนเป็นช่วงที่ต้องหยุดปั่นงานเป็นพัก ๆ ค่ะ จนมาได้เกลาจริง ๆ ก็ช่วงรวมเล่มเลย ต้องขออภัยสำหรับคนที่อ่านในดราฟแรก ๆ ไปนะคะ

หลังจากซ่อมร่างไปวีคก่อน... 55555 ค่ะ กลับเข้าสู่ภาวะงานลั่นมาก ตอนนี้เราเริ่มกังวลว่าเล่มพี่สาพี่เอะมีโอกาสจะดีเลย์กว่าที่ตั้งใจเหมือนกันค่ะ // กำหมัดแน่นกับงาน (เผื่อคนยังไม่ทราบ ตอนนี้แอเรียที่เรารับผิดชอบ เหลือเราทำคนเดียวจนกว่าจะอบรมพนักงานเสร็จในเดือนกันยายนค่ะ 5555 worst case scenario ที่แท้ทรูมาก)

แต่ถ้าทำได้ ก็ยังอยากให้เล่มออกไปตามกำหนดให้ได้จริง ๆ นะคะ ^^" แต่ถ้าไม่ทันอย่างไรจะแจ้งทุกท่านให้ทราบเป็นระยะค่ะ

ส่วนเรื่องพรีเล่ม จนกว่าจะส่งโรงพิมพ์ ก็ยังสามารถสะกิดสั่งได้เรื่อย ๆ ค่ะ กับจริง ๆ หลังส่งโรงพิมพ์ เราก็คงมีสั่งเกินมาจำนวนหนึ่งค่ะ เผื่อใครอยากเก็บเป็นที่ระลึก (แต่อย่าลืมดูความจำเป็นเบื้องต้นของตัวเองด้วยนะคะ)

ลองดูเล่มตัวอย่างได้จากที่เราอัพเดท หรือในเทรดทวิตเตอร์นี้นะคะ

แล้วก็ ใครที่มีความสนใจอยากเก็บฟิคเล่มนี้ รวมถึง KNY FF - In The Remembrance of Her #แด่เธอในความทรงจำนิรันดร์ เป็นที่ระลึก ตอนนี้เราเปิดพรีฟิคอีกรอบค่ะ โดยสามารถดูรายละเอียดเบื้องต้นของรวมเล่มทั้งสองเล่ม ฉบับปรับปรุงล่าสุด 16 APR 2022 มาให้ได้ศึกษานอกเหนือจากตัวฟิคที่สามารถอ่านตอนหลังได้ใน ReadAWrite | Dek-D | ReadHaus นะคะ

รายละเอียด KNY FF - In Time With You #ห้วงเวลาของเราสอง (Tomioka Giyuu x Kochou Shinobu)

รายละเอียด KNY FF - In The Remembrance of Her #แด่เธอในความทรงจำนิรันดร์ (Shinazugawa Sanemi x Kochou Kanae)

ถ้าสนใจ จิ้มลิงค์สั่งจองด้านล่างได้เลยค่ะ หรือดูรายละเอียดพร้อมกรอกแบบฟอร์มได้ที่นี่นะคะ [Link]

แต่ทั้งนี้ ใครไม่สะดวกไม่เป็นไรนะคะ รับรองได้อ่านเนื้อหาเหมือนเดิม และในรูปแบบ Rewrite เหมือนกันค่ะ เพียงแต่อาจจะได้อ่านตอนพิเศษช่วงท้ายหลังจากเราส่งเล่มล็อตแรกนะคะ

หรือจะรอไปเก็บรอบงาน Comic Avenue ก็ได้เหมือนกันค่า จริง ๆ อยากปั่นเล่ม KNY FF - The Tales of Butterfly Effects ให้ทันเหมือนกัน แต่ดูจากปริมาณงานแล้ว... ตอนนี้มั่นใจว่าเล่มนี้คงไม่ทันงาน CA แล้วค่ะ Y_Y เสียดายเหมือนกัน แต่งานดันมา worst case scenario กว่าที่เราคิดค่ะ

อย่างไรวันเสาร์นี้ มาพบกับตอนพิเศษ 7.2 ฉบับรีไรท์นะคะ น่าจะมาเย็น ๆ ไม่ดึกมากค่ะ ^^ ช่วงนี้พยายามกลับมาเมนเทนเวลานอนอยู่

ทุกท่านอย่าลืมดูแลสุขภาพนะคะ แล้วเจอกันวันเสาร์นี้ค่ะ