[KNY FF] - In Time With You

Special Chapter 03 - Miracle Dream in Midwinter Night (I)

ปล. เนื่องจากบทนี้ยาว อาจจะพอ ๆ กับหรือมากกว่า Special Chapter 01 ค่ะ เลยขออนุญาตแบ่งลง 2 ตอนนะคะ และบทนี้เป็นส่วนหนึ่งของ #PromptYourWriting ของปลายเดือนสิงหาคม 2021 ด้วยค่ะ

 

Keywords : Mirror, Dream, Soul

 

Trigger Warning :

Suicide Thinking

แต่สบายใจค่ะ คุณกิไม่ไปถึงจุดนั้นแน่

 

1st Published : 05 SEP 2021

Rewrite : 07 MAY 2022

===========

เหตุการณ์ต่อเนื่องจาก Special Chapter 02 ค่ะ แล้วก็ก่อนช่วงท้ายเรื่องของ Day 07 นะคะ

 

คืนนี้ท้องฟ้าก็ยังไร้แสงจันทร์...

 

โทมิโอกะ กิยู สะดุ้งตื่นเป็นครั้งที่สองของค่ำคืนนี้ แผ่นหลังกว้างชุ่มด้วยเหงื่อซึมทั่วร่างท่ามกลางอากาศหนาวเหน็บในกลางเหมันต์

 

อาการหลับ ๆ ตื่น ๆ คุกคามเขาทุกคืนนับตั้งแต่ฟื้นขึ้นหลังจบศึกสุดท้ายเมื่อเดือนก่อน เช่นเดียวกับความฝันซ้ำ ๆ ที่คอยตามหลอกหลอน แต่หาใช่ความฝันถึงเจ้าของนัยน์ตาสีม่วงในเสื้อคลุมฮาโอริลายวิจิตรร่ายรำท่ามกลางแสงจันทร์ดั่งที่เป็นมาตลอด

 

นัยน์ตาสีครามทอดมองท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยเมฆปกคลุมจนไม่เห็นแสงจันทรา แสงจันทร์ที่ยามนี้เขาทั้งรักและชิงชัง แสงจันทร์ที่ทำให้เขานึกถึงคนที่ไม่มีวันจะกลับมาหาเขาอีกต่อไป

 

ตั้งแต่ฟื้นมา กิยูได้แต่ฝันเห็นตัวเขาเดินไล่ตามแผ่นหลังเล็กบอบบางของเธอ แต่ทุกครั้งที่กำลังจะเอื้อมคว้ามือคู่นั้นไว้ได้ เสียงอีกาที่เขาได้ยินในศึกสุดท้ายก็จะดังขึ้น ตอกย้ำความจริงที่ว่าโลกนี้ไม่มีคนชื่อโคโจ ชิโนบุ แล้ว

 

เธอจากเขาไป... เธอไม่มีวันกลับมาแล้ว...

 

รวมถึงคำถามที่เธอทิ้งเอาไว้ และความในใจที่เขาไม่มีวันได้ยินจากปากเธอ...

 

นัยน์ตาของชายหนุ่มแสบร้อนเช่นเดียวกับหัวใจปวดร้าวยามนึกถึงความสูญเสียที่เขาไม่เคยคาดหมาย ไม่เคยคาดคิดว่าหากจะมีใครที่จากไป จะเป็นเธอ... ไม่ใช่เขา...

 

แผนการของเธอที่เขาไม่เคยคาดถึง แม้จะสังเกตถึงความเปลี่ยนแปลงของชิโนบุในช่วงสองสามเดือนที่ผ่านมา แต่สำหรับกิยู เขาไม่เคยคิดว่าเธอคิดจะใช้ตนเองเป็นเครื่องสังเวยเพียงเพื่อแก้แค้นให้แก่อดีตเสาหลักบุปผาผู้จากไปเมื่อสี่ปีก่อน

 

ชายหนุ่มตัดสินใจย้ายไปห้องรับรอง แสงไฟสลัวสาดส่องให้เห็นเงาของตนในกระจกบานใหญ่ช่างแตกต่างจากภาพที่เขาคุ้นชิน

 

ไม่ใช่เพราะแขนขวาที่หายไป ไม่ใช่เส้นผมที่เขาขอให้อาโออิตัดให้สั้นกุด หากเป็นนัยน์ตาที่แสบร้อน แต่แห้งผากไร้ชีวิต และร่างกายที่ผ่ายผอมเพราะความตรอมใจถึงที่สุด... จนเงาที่เห็นดูละม้ายคล้ายวิญญาณมากกว่าจะเป็นชายหนุ่มอย่างที่ควรเป็น

 

แต่เขาก็ยังคงมีชีวิตอยู่... ทั้งที่อยากตามเธอไปยังโลกนั้น โลกที่ทั้งครอบครัวและเพื่อนรักรออยู่... แต่ก็ทำไม่ได้

 

ไม่ใช่เพราะแค่เธอห้ามแกมสั่งก่อนเขาฟื้นขึ้นมา หากชีวิตของเขาแลกมาด้วยชีวิตของคนสองคนที่สำคัญไม่แพ้กัน เขาจึงไม่อาจตัดใจปลิดชีพลงได้

 

ชีวิตที่แลกมากับลมหายใจของพี่สึทาโกะ และซาบิโตะ...

 

เขาจึงต้องอยู่ต่อไป... แม้จะทรมานแค่ไหนก็ตาม

 

ทุกวันของโทมิโอกะ กิยู จึงเรียกได้ว่าอยู่ไปวัน ๆ ไม่อาจนอนหลับได้เต็มตา ไม่อาจกล้ำกลืนอะไรได้เท่าที่ควรจะเป็น กระนั้นสภาพร่างกายที่ทรุดโทรมยังไม่ย่ำแย่เท่ากับบาดแผลภายในใจ เพราะตั้งแต่ฟื้นมา ไม่มีวันไหนที่กิยูไม่เคยถามตัวเองว่าทำไม...

 

ทำไมเขาถึงไม่เคยเอะใจ...

 

ทำไมเขาถึงไม่เคยรู้เรื่อง...

 

ทำไมเธอถึงไม่บอกเขา...

 

ทำไมเธอถึงทำแบบนี้...

 

ทำไม... เธอถึงทิ้งเขาให้อยู่บนโลกนี้ตามลำพังต่อไป...

 

คำถามที่เขาไม่รู้จะหาคำตอบได้จากไหน คำถามที่คนที่เขาอยากให้ตอบก็ไม่อาจกลับมาตอบให้เขาฟังได้ คำถามที่เป็นดั่งยาพิษกัดกร่อนจิตใจเขาไปวัน ๆ คำถามที่เขาพยายามไขว่คว้าหาคำตอบจากเศษเสี้ยวของเธอทุกครั้งที่ฝัน... แต่ก็ไม่เคยสำเร็จ ด้วยร่างของเธอสลายกลายเป็นผีเสื้อสีม่วงสลับฟ้านับร้อยตัวบินลับไปทันทีที่มือเขาเข้าใกล้

 

คำถามที่ติดอยู่ในสมองและหัวใจของชายหนุ่ม นับตั้งแต่รู้ว่าเธอจากไปอย่างไม่มีวันกลับมา...

 

ทำไม... ชิโนบุ...

 

หรือข้าไม่ได้มีค่าอะไรสำหรับเจ้าเลย...

 

หรือเจ้าเกลียดข้าอย่างที่บอก จนไม่อยากให้ได้รู้ว่าเจ้าตัดสินใจทำอะไรลงไป...

 

เสาหลักทุกคนรู้หมด รู้หมดว่าเจ้าจะทำอะไร... เว้นข้า...

 

ข้ามันโง่มากใช่ไหม... ที่ดูไม่ออกว่าแท้จริงเจ้าคิดอะไรอยู่...

 

นัยน์ตาสีครามหลุบลงอย่างรวดร้าว ความคิดและความฝันที่คอยหลอกหลอนเขาทุกคืนวัน จนผ่านไปล่วงแรมเดือน เขาก็ยังคงค้างคากับคำถามเดิม ๆ

 

เช่นเดียวกับความฝันที่เขาคอยไล่ตามเธอแต่ไม่อาจเอื้อมคว้าถึง... สลับกับความฝันถึงช่วงเวลาสมัยเธอยังมีชีวิตอยู่ ช่วงเวลาที่เขาใช้ร่วมกับเธอมาหลายปี...

 

ความเจ็บปวดยามนึกถึงสิ่งที่ไม่อาจย้อนคืนมา ช่วงเวลาหลายปีที่เขาปล่อยมันผ่านไปโดยไม่ทำอะไร เพียงเพราะไม่รู้ใจ เพียงเพราะความอ่อนแอในใจปิดบังความรู้สึกที่แท้จริง เพียงเพราะลึก ๆ คิดว่าตนไม่คู่ควรกับคนที่แสนวิเศษเช่นนี้

 

แต่เขาก็ไม่อาจลืมเลือนเธอได้ ความทรงจำที่มีต่อเธอมันมากกว่าที่เขาเคยคาดไว้...

 

เขากลัว กลัวว่าเขาจะลืมเลือนใบหน้าของเธอ ลืมเสียงของเธอ ลืมกลิ่นของเธอ ลืมสัมผัสของเธอ

 

เขากลัว กลัวว่าวันหนึ่งเขาจะนึกไม่ออกด้วยซ้ำว่านัยน์ตาสีม่วงคู่งามที่ตราตรึงอยู่ในความฝันมาตลอดจะมีรูปทรงเช่นใด...

 

และตัวเขาก็ยอมรับอยู่เงียบ ๆ หากแม้ต้องแลกทุกอย่างเพื่อแลกกับความทรงจำที่เต็มไปด้วยเธอผู้นี้ เขาขอยอมทรมานแบบนี้ต่อไป...

 

เป็นเขาเองที่ไม่อยากลืมเลือนเธอ...

 

การไม่อาจจดจำชิโนบุคงจะทรมานยิ่งกว่าสิ่งที่เขาเผชิญอยู่ตอนนี้...

 

สายธารในบ่อน้ำยังคงจับตัวแข็ง เช่นเดียวกับหิมะยังคงโปรยปรายกลางท้องฟ้าที่แสนมืดมิด... แต่เป็นค่ำคืนแรกที่เขาได้เห็นจันทร์เพ็ญในรอบหลายเดือน...

 

แสงอันอ่อนโยนในคืนวันเพ็ญยังคงนวลตาเหมือนกับครั้งสุดท้ายที่เขาได้เห็น ในค่ำคืนที่เขาได้ใช้ร่วมกับเธอ ได้โอบกอดเธอไว้ แสงที่นุ่มละมุนดุจจุมพิตของเธอ สัมผัสที่เป็นการปลดสลักความปรารถนาในจิตใต้สำนึกของเขาทั้งคู่

 

หากเป็นคืนแรกและคืนสุดท้าย คืนเดียวที่เขาได้พร่ำบอกความในใจให้เธอฟังกับหู ได้พรมจุมพิตทั่วใบหน้าและเรือนร่างของคนที่อยู่ในหัวใจมาตลอด ได้กอดเธอจนหลับไป...

 

คืนที่อยู่ในความทรงจำ คืนที่เป็นความสุขที่สุดในชีวิต แม้จะปราศจากคำบอกรักของเธอให้ได้ยิน...

 

คืนที่ไม่อาจหวนย้อนมา...

 

มือของชายหนุ่มที่เหลืออยู่ยังคงกำผีเสื้อเครื่องประดับหัวของเธอแน่น ก่อนจะละสายตาอ่านจดหมายฉบับสุดท้ายของเธออีกครั้งหนึ่ง จดหมายที่น้องสาวนอกสายเลือดมอบให้เขาเมื่ออาทิตย์ที่ผ่านมา ไหล่ชายหนุ่มไหวสะท้านขณะมองรอยด่างดวงที่เขาเห็นมาตลอดในจดหมายทุกฉบับของเธอนับแต่คืนนั้น รอยที่เขามองข้ามมันไปด้วยใจจดจ่อกับเนื้อหาและถ้อยคำที่เธอเขียน จนไม่ทันสังเกตว่ารอยต่าง ๆ ตามจดหมาย แท้จริงแล้วเป็นรอยน้ำตาของเธอที่กลั้นไว้ไม่อยู่...

 

ความรู้สึกของเธอที่เขาไม่เคยรับรู้... บัดนี้เขารู้ซึ้งถึงทุกสิ่งจากจดหมายที่คานาโอะมอบให้ในวันนั้น...

 

คำตอบของเธอ...

 

ความในใจที่เขาพร่ำถามตัวเองนับแต่ฟื้นขึ้นมา หรือเป็นเขาที่คิดไปเองฝ่ายเดียว...

 

คำบอกรักที่เขาไม่เคยได้ยิน... ความในใจที่เธอไม่เคยกล้าเอ่ยตรง ๆ หากแฝงเร้นในทุกถ้อยคำที่เธอเอ่ยนับแต่เขาเปิดเผยความนัย และย้ำไว้ในจดหมายทุกฉบับที่มีถึงเขา...

 

น้ำตายังคงพรั่งพรูใส่กระดาษจนเป็นรอยด่างดวงไม่ต่างจากจดหมายทุกฉบับของเธอ รอยด่างที่ปรากฏในถ้อยคำที่เขาอ่านซ้ำแล้วซ้ำเล่า นิ้วมือของชายหนุ่มสั่นระริกยามลูบไล้ลายมือแกมบรรจงของเธอในบรรทัดสุดท้ายของจดหมายทุกฉบับ เมื่อแจ้งชัดถึงความหมายที่แฝงเร้นในตัวอักษร

 

‘คืนนี้พระจันทร์สวยไหมคะ โทมิโอกะซัง...’

 

คำบอกรักและคำสารภาพช่วยไขสิ่งที่เขาสงสัยมาตลอด ทั้งความหมายของคำนั้น ทั้งการกระทำในคืนนั้น... ที่แท้มันแฝงอยู่ในถ้อยคำที่ติดตรึงในความฝันของเขามาเนิ่นนาน คำที่เธอชอบพูด กิยูรู้แจ้งแล้ว เพราะคืนนั้นชิโนบุจงใจพูดย้ำสองครั้งเพื่อบอกให้เขารู้...

 

รู้ว่าเธอรักเขา... ไม่น้อยกว่าที่เขารักเธอ...

 

มือซ้ายที่เหลืออยู่ของกิยูสั่นนิด ๆ ยามจรดริมฝีปากแนบคำบอกรักในจดหมายเหมือนที่ทำทุกค่ำคืน เช่นเดียวกับน้ำตายังคงไหลไม่ขาดสายมาตั้งแต่วันที่ได้รับจดหมายฉบับสุดท้ายของเธอ ก่อนบรรจงพับจดหมายเก็บลงใส่กล่อง แล้วหยิบผีเสื้อประดับหัวสีม่วงอมฟ้า สิ่งที่เป็นดั่งของแทนกายของเธอแนบริมฝีปาก ราวกับต้องการถ่ายทอดจุมพิตไปให้แก่เจ้าของผู้ล่วงลับจากโลกนี้ไป

 

ถ่ายทอดความรู้สึกว่าเขารักและคิดถึงเธอแค่ไหน

 

น้ำตาที่ร่วงหล่นบนปลายปีกผีเสื้อนั้น สะท้อนความเจ็บปวดที่กัดกินหัวใจของเขา ด้วยปรารถนาที่จะอยากเอ่ยคำนี้ข้างหูเธออีกครั้ง อยากจะโอบกอดเธออีกครั้ง...

 

มีหลายสิ่งที่เขาอยากทำร่วมกับเธอ ทั้งที่มีเวลาด้วยกันมาหลายปี เขากลับปล่อยให้ผ่านล่วงเลยไปด้วยความรู้สึกผิดต่อการตายของเพื่อนรักเพียงหนึ่งเดียว เพื่อนรักที่เอาชีวิตตนเองเข้าแลกเพื่อปกป้องเด็ก ๆ ทุกคนในการทดสอบครั้งสุดท้ายเมื่อแปดปีก่อน

 

ความรู้สึกผิดกัดกร่อนหัวใจของเขา จนเลือกใช้ชีวิตเพื่อทำหน้าที่แทนอุดมการณ์แสนสูงส่งของเพื่อนผู้ล่วงลับ ดึงหน้ากากไร้อารมณ์เข้าสวม ปิดบังความเจ็บปวดที่ไม่อาจช่วยชีวิตเพื่อนคนเดียวได้ และขัดเกลาวิชาเพื่อให้สมกับตำแหน่งเสาหลักที่แบกรับแทนไว้

 

จนปล่อยให้หัวใจได้แต่บอกว่าตัวเองไม่คู่ควร จนปล่อยเวลาให้ล่วงผ่านเลยไปโดยไม่สนใจความรู้สึกที่ก่อตัวดั่งคลื่นใต้น้ำ บังคับหัวใจให้สงบนิ่งดุจผิวน้ำในสระกระจก ทั้งที่หัวใจของเขาสยบแก่นัยน์ตาคู่สวยดวงนั้น และคอยสังเกตกับทุกสิ่งที่เกิดขึ้นรอบเธอ

 

หากเขายอมรับหัวใจตัวเองเร็วกว่านี้... เพียงแค่หนึ่งปี หนึ่งเดือน หรือหนึ่งวัน...

 

ยังมีหลายสิ่งที่เขาอยากบอกกับเธอด้วยปากของเขา ความรู้สึกที่ถูกกักเก็บไว้มาตลอดหลายปีไม่เพียงพอที่จะถ่ายทอดได้เพียงแค่หนึ่งคืนและแค่ในจดหมายที่ส่งหา

 

คำที่เขาเฝ้าเก็บไว้ เพื่อรอวันที่จบศึก รอคำตอบของเธอ แล้วจะได้พูดมันออกไป...

 

แต่วันนั้นก็ไม่เคยมาถึง...

 

ถ้ารู้เช่นนั้น เช้าวันนั้นเขาคงไม่ปล่อยให้เธอกลับบ้าน เขาคงจะดื้อรั้นรั้งตัวเธอไว้ เพียงเพื่อให้ได้มีเวลาร่วมกันนานกว่านี้ แม้จะแค่หนึ่งชั่วโมง หนึ่งนาที หรือหนึ่งวินาที...

 

เวลาที่เขาเพิกเฉย บัดนี้เขาพร้อมทำทุกอย่างเพื่อย้อนกลับไป หากคงเป็นไปไม่ได้

 

ปาฏิหาริย์คงไม่เกิดกับคนที่ปล่อยเวลาล่วงไปแบบเขา...

 

รอยยิ้มเศร้าสร้อยปรากฏบนใบหน้าคมคาย ขณะเอนหลังลงแผ่นฟูก ฟูกที่ครั้งหนึ่งเคยมีร่างเล็กของเธอให้สวมกอด นัยน์ตาสีครามแหงนมองพระจันทร์เต็มดวงทรงกลดบนผืนฟ้ากลางฤดูหนาวอย่างตัดพ้อ

 

“ข้าอยากเจอเจ้า...” ถ้อยคำกระซิบแผ่วสั่นเครือ ยามนึกถึงใบหน้าที่วนเวียนในหัวมาตลอด “...ชิโนบุ”

 

คำรำพันที่หลุดปากออกมานับตั้งแต่สูญเสียเธอผู้นั้น ถ้อยคำที่มาจากความปรารถนาลึกสุดของหัวใจที่แตกสลาย ถ้อยคำที่เขาเฝ้าหวังว่าจะมีปาฏิหาริย์บางอย่างที่นำพาให้เขาได้พบเจอเธออีกครั้ง...

 

แม้จะเหลือแค่วิญญาณ แม้จะปรากฏกายแค่ในความฝัน แต่เขาก็ยินดี...

 

ขอแค่ได้เจอเธอ เพียงอีกครั้งหนึ่ง...

 

ได้ไหม... ชิโนบุ...

 

..........

 

ความมืดที่รายล้อมรอบ เหมือนกับห้วงฝันที่ตามหลอกหลอนเขามาตั้งแต่วันนั้น...

 

แต่ครั้งนี้มีบางสิ่งที่ผิดแผกออกไป

 

นัยน์ตาสีครามกวาดสายตามองหาคนที่เฝ้าตามหาทุกค่ำคืน มองหาแผ่นหลังเล็กในเสื้อคลุมลายวิจิตรที่เขาคอยไล่ตาม แต่เบื้องหน้านั้นกลับเต็มไปด้วยความมืดสนิท ดุจท้องฟ้าที่ไร้ทั้งแสงจันทร์และดวงดาว

 

หัวใจของกิยูกระตุกอย่างปวดร้าวเมื่อไม่พบร่างเล็กของคนที่นำพาหัวใจเขาไปพร้อมกับเสี้ยวหนึ่งของวิญญาณ เจ็บปวดเมื่อรับรู้ว่าในตอนนี้ แม้แต่แผ่นหลังของเธอเขาก็ไม่มีสิทธิที่จะไขว่คว้าไว้ได้...

 

“นี่ข้าจะไม่ได้เจอเจ้าจริง ๆ เลยเหรอ ชิโนบุ...”

 

เขารำพัน รู้ทั้งรู้ว่ากำลังตกอยู่ในห้วงแห่งความฝันเหมือนทุกค่ำคืน หากเขาก็อดน้อยใจไม่ได้ที่บัดนี้เขาไม่พบกระทั่งแผ่นหลังของคนที่เขาเฝ้าตามหามาตลอด

 

นัยน์ตาสีครามปิดลงอย่างอ่อนล้า ด้วยร่างกายและจิตใจที่ตรากตรำจากศึกสุดท้าย และความทุกข์ตรมที่แบกรับ เตรียมพร้อมที่จะต้องหอบหายใจตื่นเหมือนทุกคืน สัมผัสที่แสนคุ้นเคยก็จิ้มเอาตรงช่วงเอว พร้อมกับเสียงที่เขาไม่ได้ยินมาหลายเดือน...

 

“นี่คุณอยากเจอฉันขนาดนี้เลยเหรอคะ กิยูซัง”

 

[TBC]

===========

Author's Talk 05 SEP 2021

สวัสดีค่า โอ๊ย มาเกือบสว่าง นำตอนพิเศษ 3.1 มาเสิร์ฟให้คนอ่านก่อนค่ะ แหะ ๆ มาแบบแอ๋งนำเลย ไม่ใช่หวานนำแบบตอนพิเศษ 2

แต่จากช่วงท้าย... เอ๊ะ เสียงของใครเอ่ย... ใช่เธอหรือเปล่าน้า...

(แว่วเสียงคนโวยวายที่เราตัดจบแบบนี้)

จริง ๆ อยากเขียนให้จบแล้วค่อยลงทีเดียวเหมือนทุกบทค่ะ แต่ดูจากสภาพกองงานและสังขาร เราอยากให้คนอ่านได้อ่านบางส่วนในช่วงวันหยุดนี่แหละค่ะ

กับเนื้อหาตอนนี้ น่าจะเป็นหนึ่งในตอนยาว (มาก ๆ) ของตอนพิเศษคู่นี้เลยค่ะ เลยขออนุญาตแบ่งลงเป็นสองตอนดีกว่า

และไม่ใช่อะไร จะได้มีเวลาปั่นตอนอื่น ๆ ไปพร้อมกัน >> จริง ๆ จุดประสงค์หลักอยู่ตรงนี้แหละค่ะ ^^"

ยอมรับเลยว่าบทนี้เขียนยากมาก... ตรงที่ความรู้สึกของคุณกินี่... มันเต็มไปด้วยความเจ็บปวดยิ่งกว่าบทพิเศษ 2 อีกค่ะ แล้วมันก็คือสิ่งที่เราจริง ๆ อยากใส่ตั้งแต่ตอนเขียนบทที่ 7 ของฟิคนี้แล้ว แต่ด้วยความยาว เราเลยตัดสินใจตัดเนื้อหาส่วนนี้ออกไป ด้วยความที่อยากให้มันจบ feel goods ในบทที่ 7 (โอเค นั่นเรียกว่า feel goods ของเราแล้วค่ะ 555) ก็เลยกะว่าถ้ามีโอกาส ค่อยมาขยายความเพิ่มทีหลังแล้วกันค่ะ

จนในตอนพิเศษ เรารู้สึกว่าเนื้อหาส่วนนี้มันคงต้องมา เพราะมันจะเป็นการปูทางไปถึงบทพิเศษที่เหลือของเรา และปูทางไปถึงว่าสุดท้ายคุณกิยูหลุดพ้นออกจากความเจ็บปวดดั่งที่เห็นในบทที่ 7 อย่างไร...

เรื่องคุณชิ มันไม่ใช่เรื่องที่วันสองวันจะจบลงได้ มันเป็นเรื่องที่เป็นความค้างคาของคุณกิจริง ๆ ค่ะ เต็มไปด้วยทั้งคำถาม ทั้งความรู้สึกจริง ๆ ของคุณชิ ทั้งทำไมคุณกิเป็นคนเดียวที่ไม่รู้เรื่อง

จริง ๆ ตกใจตอนเห็น promptyourwriting งวดนั้นมาก คือมันตรงกับที่เราวางโครงไว้เบื้องต้นแล้ว ทั้งกระจก ทั้งวิญญาณ ทั้งความฝัน ยิ่งความฝันเนี่ย มันคือคีย์เวิร์ดที่เป็นจุดเริ่มต้นของฟิค In Time With You นี้เลยค่ะ

เพราะฉะนั้น บทนี้เราเลยอุทิศให้แก่ promptyourwriting ของคุณเบ้บ แล้วก็เป็นจุดที่เราอยากขยายความจากสิ่งที่ตัวเองเขียนไปก่อนหน้าให้มากที่สุดค่ะ โดยเฉพาะฝั่งของคุณกิ เพราะฝั่งของคุณชิ เราก็คงได้เห็นอะไรมากขึ้นใน The Tales of Butterfly Effects ที่คงจะลงปลายปีนะคะ (ตุลาอย่างเร็วเลย)

อย่างน้อย ตอนพิเศษที่ 3.2 เราคงจะได้เห็นคำตอบของคุณชิแล้วล่ะค่ะ... ซึ่งคงไม่เกินวันเสาร์หน้าก็คงจะได้เห็นกันแล้วล่ะค่ะ ^^ คงจะมีแอ๋งบ้างอะไรบ้าง แต่คงไม่แอ๋งจ๋าแบบตอนนี้แล้วละค่ะ

ปล. เผื่อคนอยากแอ๋งเพิ่ม ขอแนะนำให้ฟังเพลงนี้นะคะ จะเพิ่มความแอ๋งไปอีก 110% เลยค่ะ ทำเอาเรานอนซึมจนต้องเขียน ๆ หยุด ๆ เพราะอินไปกับความรู้สึกคุณกิจนแบบ... น้ำตาร่วงแทบทุกวันที่เขียนฟิคเลยค่ะ

 
แสดงสปอยล์

ท้ายสุดนี้ ขอบคุณสำหรับคอมเมนต์ตอนที่แล้วมาก ๆ เลยนะคะ เดี๋ยวจะค่อย ๆ ทะยอยไล่ตอบนะคะ แต่ดีใจกับคอมเมนต์และฟีดแบคจากทุกช่องทางของทุกท่านมากนะคะ แล้วก็ขอบคุณสำหรับกำลังใจในทุกรูปแบบค่ะ

ส่วนบทนี้อ่านแล้วคิดเห็นอย่างไร แวะทิ้งคอมเมนต์ไว้ หรือเมาท์มอยได้นะคะ แหะ ๆ กลัวดึงอารมณ์ไปไม่ถึงเหมือนกัน

ปล. สำหรับคนที่รอถามความคืบหน้าเรื่องรวมเล่มของฟิคนี้ แพลนของเราคือน่าจะเปิด pre-order ช่วงปลายกันยายนนี้ค่ะ อย่างไร จิ้มดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่นี่เลยนะคะ ไว้มีความคืบหน้าอะไร เราจะรีบมาอัพเดทให้ฟังค่ะ

แล้วพบกับตอนพิเศษ 3.2 ไม่เกินอาทิตย์หน้าค่ะ ^^

Author's Talk 07 MAY 2022

สวัสดีค่า วันนี้ก็เป็นคิวฉบับลง Rewrite สำหรับรวมเล่มนะคะ เพื่อให้เนื้อหาออกมาสมบูรณ์ที่สุดเท่าที่เราจะทำได้ค่ะ

บทนี้มีความเกลาเพิ่มหลายส่วนเหมือนกันค่ะ แต่บรรยากาศก็คือ... แอ๋ง แอ๋งเต็ม ๆ ในพาร์ตนี้มาก : D

สำหรับใครอยากยลตัวเล่มลองดูเล่มตัวอย่างได้จากที่เราอัพเดท หรือในเทรดทวิตเตอร์นี้นะคะ

แล้วก็ ใครที่มีความสนใจอยากเก็บฟิคเล่มนี้ รวมถึง KNY FF - In The Remembrance of Her #แด่เธอในความทรงจำนิรันดร์ เป็นที่ระลึก ตอนนี้เราเปิดพรีฟิคอีกรอบค่ะ โดยสามารถดูรายละเอียดเบื้องต้นของรวมเล่มทั้งสองเล่ม ฉบับปรับปรุงล่าสุด 16 APR 2022 มาให้ได้ศึกษานอกเหนือจากตัวฟิคที่สามารถอ่านตอนหลังได้ใน ReadAWrite | Dek-D | ReadHaus นะคะ

รายละเอียด KNY FF - In Time With You #ห้วงเวลาของเราสอง (Tomioka Giyuu x Kochou Shinobu)

รายละเอียด KNY FF - In The Remembrance of Her #แด่เธอในความทรงจำนิรันดร์ (Shinazugawa Sanemi x Kochou Kanae)

ถ้าสนใจ จิ้มลิงค์สั่งจองด้านล่างได้เลยค่ะ หรือดูรายละเอียดพร้อมกรอกแบบฟอร์มได้ที่นี่นะคะ [Link]

(เปิดพรีงวดนี้จนถึงวันที่ 5 มิถุนายน 2565 ค่ะ)

แต่ทั้งนี้ ใครไม่สะดวกไม่เป็นไรนะคะ รับรองได้อ่านเนื้อหาเหมือนเดิม และในรูปแบบ Rewrite เหมือนกันค่ะ เพียงแต่อาจจะได้อ่านตอนพิเศษช่วงท้ายหลังจากเราส่งเล่มล็อตแรกนะคะ

ถ้าใครตามทวิต จะเห็นเราลงรูปประกอบเล่ม KNY FF - In The Remembrance of Her แล้วนะคะ หวังว่าจะชอบเหมือนกับที่เราชอบนะคะ ^^

แล้วเดี๋ยวพบกันในวันพุธ กับรีไรท์ตอนพิเศษ 03.2 ค่ะ ทุกคนอย่าลืมรักษาสุขภาพกันด้วยนะคะ เข้าหน้าฝนแล้ว อากาศแปรปรวนหนักมากเลยค่ะ ^^