7 ตอน Day 07 - Precious Memories
โดย rene_recluse
Day 07 : Precious Memories
Keywords : Marriage/Healing/Reincarnation
1st Published : 21 FEB 2021
Rewrite : 23 APR 2022
===========
Warning: สปอยมากนะคะตอนนี้ ถ้าใครยังไม่รู้เนื้อหาจนถึงเล่มจบ แนะนำให้ปิดก่อนค่ะ
(เนื้อหาระหว่างตอน 204 และตอน 205 ในเล่ม 23 ค่ะ)
โทมิโอกะ กิยู ยังจดจำความรู้สึกยามลืมตาขึ้นมาในคฤหาสน์ผีเสื้อหลังเสร็จศึกครั้งสุดท้ายได้ดี
บาดแผลทางกายที่เขาได้รับนั้นแสนสาหัส... แต่ท้ายสุดก็สมานลงได้
การสูญเสียแขนขวาสำหรับนักดาบอาจถือเป็นเรื่องใหญ่สำหรับเขา... แต่บัดนี้เขาไม่จำเป็นต้องจับดาบเพื่อใครอีกแล้ว
แต่การสูญเสียเธอ... คนที่เข้ามาอยู่ในใจมานานแสนนาน ก่อนที่เขาจะรู้จักเธอด้วยซ้ำ... เป็นบาดแผลที่ยากที่จะเยียวยาให้จางหายได้
ทิ้งไว้แต่คำสัญญาที่ไม่สามารถเป็นจริงได้อีกต่อไป...
คำตอบที่เขาเฝ้ารอ... ไม่มีวันที่จะได้ยินจากปากของเธอแล้ว...
ความทรงจำยามอีกาประกาศข่าวการเสียชีวิตของเธอ ทำเลือดของเขาจับแข็ง
แม้จะเตรียมใจมาตั้งแต่ได้เห็นการปรากฏตัวของคิบุซึจิ มุซัน แต่เขาไม่คิดว่าเขาจะเสียเธอไปโดยง่ายขนาดนั้น
ไร้ซึ่งคำร่ำลา ไร้ซึ่งร่างให้อาลัย...
หลงเหลือแต่รอยยิ้ม ความทรงจำ และสัญญาที่ขอไว้ในครั้งสุดท้ายที่ได้พบกัน...
ในตอนนั้น สิ่งที่เขาจะทำได้ก็มีเพียงทำตามสัญญาที่ให้ไว้กับเธอ คือการปกป้องคามาโดะ ทันจิโร่ ความหวังสุดท้ายที่เธอเชื่อหมดใจว่าจะสามารถเอาชนะราชาอสูรได้
เขาจึงละทิ้งความเสียใจไว้เบื้องหลัง และปฏิบัติตามคำสัญญาสุดท้ายของเธอ ทั้งที่มันอาจต้องแลกด้วยชีวิตก็ตาม
ถึงจะหมดสติด้วยพิษบาดแผลไปนับครั้งไม่ถ้วน หลายครั้งที่ยืนอยู่ทางแยกระหว่างโลกความเป็นกับความตาย แต่เพราะหน้าที่ที่ให้ไว้กับเธอยังไม่จบ เขาจึงเลือกกลับมาสู่โลกของความเป็นจริง เพื่อบรรลุหน้าที่ คำสัญญา และความฝันของเธอให้จงได้
จนที่สุด เขาเกือบต้องลงมือสังหารทันจิโร่ที่กลายเป็นอสูร หากโชคชะตาและปาฏิหาริย์ก็ทำให้เขาไม่จำเป็นต้องทำอย่างนั้น เมื่อทันจิโร่สามารถเอาชนะเลือดของมุซัน และกลับกลายเป็นมนุษย์ได้
ไม่มีอีกแล้วอสูรที่น่าหวาดกลัว...
กิยูที่บาดเจ็บเจียนตาย เฝ้ามองความหวังของเธอที่เป็นจริงให้เห็นเต็มสองตา ค่อยยอมปล่อยร่างล้มลง รอคอยความตายที่เขาปรารถนา
หน้าที่ของเขาลุล่วงแล้ว เขาไม่มีอะไรต้องเป็นห่วงอีกหลังจากนี้...
ความตายอาจทรมานน้อยกว่าการที่ต้องอยู่ต่อในโลกที่ไม่มีเธอด้วยซ้ำ...
หากเมื่อทุกครั้งที่เขาพร้อมจะเดินหน้าสู่โลกหลังความตาย กิยูจะต้องได้ยินเสียงของใครหลายคนที่ร้องขอให้เขาลืมตาตื่นขึ้นอีกครั้ง...
ทั้งเสียงคำขอให้เขารักษาชีวิตเอาไว้ของท่านพี่สึทาโกะ ยามที่อสูรบุกจู่โจม
ทั้งเสียงด่าของซาบิโตะ ในตอนเขาบอกว่าเขาไม่สมควรมีชีวิตอยู่อีกต่อไป
และ...
‘ถ้าคุณมาทางนี้ ฉันฆ่าคุณแน่ค่ะ กิยูซัง...’
เสียงที่กระซิบอันแสนคุ้นเคยข้างหู ซึ่งพอหันกลับไปก็พบแต่เพียงผีเสื้อม่วงบินนำทางเขากลับมายังโลกแห่งความจริง...
โลกที่ปราศจากเธอผู้นั้นอีกต่อไป...
โทมิโอกะ กิยู ปรือตาตื่นขึ้นในช่วงพลบค่ำ
เป็นเวลาเกือบสองเดือนนับแต่เขาฟื้นขึ้นมา บาดแผลทั่วร่างของเขาสมานเป็นที่เรียบร้อย หากบาดแผลในจิตใจจากความสูญเสียเสาหลักคนอื่น ๆ และเธอยังคงกัดกร่อนหัวใจของเขา จนเขาไม่อาจนอนติดต่อกันได้เกินสามชั่วยามได้
ชายหนุ่มเดินไปนั่งยังเฉลียงหลังบ้าน พระจันทร์คืนวันเพ็ญส่องแสงนวลเหมือนครั้งสุดท้ายที่เขาเจอกับเธอ ไม่ต่างจากคืนที่เขาได้ใช้ร่วมกับเธอ นัยน์ตาสีครามหุบลงอย่างรวดร้าวเมื่อคิดถึงคนที่ไม่มีวันหวนกลับมาอีกแล้ว
มือซ้ายที่เหลืออยู่ข้างเดียวสัมผัสอกเสื้อ ก่อนค่อย ๆ หยิบวัตถุหนึ่งออกมา
ผีเสื้อสีม่วงแกมฟ้าที่เป็นเครื่องประดับของเธอ...
การปรากฏตัวของคนที่เขาไม่เคยคาดคิดเมื่อตอนเย็น ภาพเด็กสาวผู้เงียบขรึมยิ่งกว่าเขา คนที่เขาแทบไม่เคยมีปฏิสัมพันธ์ด้วย ทั้ง ๆ ที่มีศักดิ์เป็นทั้งน้องสาวบุญธรรมและผู้สืบทอดของโคโจ ชิโนบุ
ซึยูริ คานาโอะ
บุคคลผู้สังหารอสูรข้างขึ้นลำดับสอง ที่พรากชีวิตเธอและเสาหลักบุปผาไป...
บุคคลผู้เป็นดั่งปาฏิหาริย์ที่ช่วยคามาโดะ ทันจิโร่ ไม่ให้กลายเป็นอสูร ด้วยยาที่เธอคนนั้นของเขามอบให้ไว้
บุคคลผู้มาพร้อมจดหมายที่เขาปราดสายตามองก็รู้ทันทีว่าเป็นลายมือของใคร
“อาจารย์ฝากให้ท่านเสาหลักวารีค่ะ...”
น้ำเสียงแผ่วเบาเอ่ยอย่างนุ่มนวล แม้ร่างกายจะยังปรากฏอาการบาดเจ็บอยู่ แต่ดูเหมือนเจ้าหล่อนจะแอบหลบออกมาจากคฤหาสน์ผีเสื้อเพื่อมาหาเขาโดยเฉพาะ
“ขอบใจมาก...”
กิยูเอ่ยขอบคุณ ก่อนเอื้อมมือที่เหลืออยู่ขึ้นไปหยิบหนังสือของเธอผู้นั้นเก็บใส่ตรงอกเสื้อไว้ ตรงจุดที่แนบหัวใจของเขาที่สุด แล้วค้อมศีรษะขอบคุณเด็กสาวที่อายุน้อยกว่าร่วมห้าปี
หากก็ไม่หมดแค่นั้น เมื่อคานาโอะค่อย ๆ หยิบวัตถุอีกชิ้นหนึ่งออกมาจากห่อผ้าที่พกมา วัตถุที่เขามองปราดเดียวก็รู้ทันทีว่าคืออะไร
“นี่มัน...”
นัยน์ตาสีครามรู้สึกร้อนผ่าวอย่างรวดร้าว เมื่อได้เห็นวัตถุที่เป็นดั่งตัวแทนของคนผู้จากไป
มือซ้ายของเขาสั่นสะท้าน พยายามหักห้ามใจไม่ให้เอื้อมมือซ้ายไปสัมผัส ด้วยรู้ว่านี่เป็นสิ่งสุดท้ายซึ่งเป็นที่ระลึกของเธอ สำหรับเด็กสาวผู้ไร้ซึ่งครอบครัวและสูญเสียบุคคลที่เปรียบดั่งพี่สาวไปอย่างไม่มีวันกลับ สิ่งของที่นำมาย่อมมีค่าสำหรับเธอผู้นี้ไม่แพ้กัน
“ไม่เก็บไว้เองเหรอ...”
กิยูเอ่ยเสียงพร่า หากแต่อีกฝ่ายสั่นหน้า
“โปรดรับไว้เถอะค่ะ” คานาโอะตอบด้วยเสียงเบาจนแทบเป็นเสียงกระซิบ “ฉันยังพอมีข้าวของเครื่องใช้ที่เคยเป็นของพี่คานาเอะและอาจารย์... พี่ชิโนบุหลงเหลืออยู่บ้าง เลยคิดว่าคุณคงอยากเก็บสิ่งนี้ไว้มากกว่าค่ะ”
ชายหนุ่มยังนั่งนิ่งอยู่พักใหญ่ จนหญิงสาวอ่อนวัยกว่าส่งยิ้มน้อย ๆ ก่อนเอ่ยสำทับ
“และฉันก็เชื่อว่า... พี่ชิโนบุคงอยากให้คุณเก็บของชิ้นนี้ไว้นะคะ”
คำอนุญาตที่ทำให้กิยูเอื้อมมือซ้ายที่สั่นเทาออกไปรับเครื่องประดับผีเสื้อม่วงนั้นไว้จรดแนบอก ราวกับโอบกอดเจ้าของเดิมที่ไม่มีชีวิตอยู่บนโลกนี้อีกแล้ว
พร้อม ๆ กับน้ำตาที่รินไหลเป็นครั้งแรก นับแต่ที่เขาสูญเสียเธอไปในวันนั้น...
สายลมเย็นเยียบของปลายฤดูหนาวยังคงพัดผ่านร่างของกิยูที่ยังคงเหม่อมองแสงจันทรามาร่วมหลายชั่วยาม มือซ้ายยังคงกำผีเสื้อโลหะนั้นไว้แน่น ขณะปล่อยใจคะนึงถึงเจ้าของเดิมที่จากโลกนี้ไป
แต่พอเขาเริ่มรู้สึกอ่อนเพลียจากอาการบาดเจ็บที่ยังไม่ทุเลาสนิทจนตัดสินใจกลับเข้ามาพัก สัมผัสสากของเนื้อกระดาษยามเขาหยิบเครื่องประดับนั้นเก็บแนบอก ก็ทำให้เขานึกถึงจดหมายของเธอที่เขายังไม่ได้เปิดอ่าน
ชายหนุ่มรีบสาวเท้ากลับเข้าห้องนอน เอื้อมมือซ้ายที่สั่นเทาเร่งแสงไฟในตะเกียง นัยน์ตาสีครามร้อนผ่าวทันทีที่เห็นตัวอักษรแรกบนกระดาษ ลายมือของคนที่เขาคะนึงหา
โทมิโอกะซัง
ฉันหวังว่าคุณจะยังมีชีวิตอยู่จนได้อ่านหนังสือฉบับนี้นะคะ
ก่อนอื่น ฉันต้องขอโทษคุณที่ไม่สามารถรักษาสัญญาที่ให้ไว้กับคุณ และขอโทษที่ปิดความจริงว่าฉันกำลังจะทำอะไร เพราะฉันรู้ว่าคุณต้องห้ามฉันแน่...
ในการต่อสู้กับอสูรจันทราข้างขึ้น จำต้องใช้เสาหลักสามคนถึงจะโค่นมันได้ ฉันผู้ไม่สามารถใช้ดาบบั่นคออสูร ย่อมต้องเป็นตัวถ่วงในการต่อสู้อย่างไม่อาจเลี่ยงได้...
ส่วนรายละเอียดที่เหลือ ฉันเชื่อว่าคุณคงทราบจากหลายคนแล้ว ฉันก็ได้แต่หวังว่าทุกอย่างจะเป็นไปตามสิ่งที่ฉันตั้งใจไว้นะคะ...
หากคุณจำได้ ก่อนที่ท่านพี่จะสิ้นลม ท่านพี่ขอให้ฉันใช้ชีวิตอย่างคนธรรมดา แต่ฉันที่จมปลักในความแค้นไม่อาจทำตามความปรารถนานั้นได้
มันอาจจะเป็นคำขอที่เห็นแก่ตัว แต่ได้โปรดมีชีวิตอยู่แทนฉันต่อไปได้ไหมคะ...
โลกที่ไม่มีอสูรคงเป็นโลกที่แสนวิเศษมาก ฉันเองเสียดายที่ไม่อาจเห็นมันด้วยตาของตนเอง แต่ฉันไม่เสียใจกับการกระทำของฉันเลยนะคะ เพราะมันสามารถช่วยคนอีกจำนวนมากให้พ้นจากความเจ็บปวดของการมีอยู่ซึ่งอสูร
ยกเว้นอย่างเดียว... คือการไม่ได้บอกกับคุณด้วยปากของฉันว่า ฉันเองก็รักคุณเหมือนกัน...
และนี่ก็เป็นคำตอบของประโยคที่คุณเคยถามความหมายกับฉันนะคะ... ปกติฉันจะพูดประโยคนั้นโดยไม่มีความหมายอะไร แต่ครั้งสุดท้ายที่เราได้เจอกัน ได้อยู่ร่วมกัน ฉันหมายความอย่างนั้นจริง ๆ ค่ะ
ฉันดีใจมากที่คุณบอกคำคำนั้นกับฉัน จนทำให้ฉันเสียใจมากที่ความเห็นแก่ตัวของฉันต้องทำให้คุณเจ็บปวดจากการกระทำทั้งหมดของฉัน
ฉันหวังว่าคุณจะเดาจากสิ่งที่ฉันได้แสดงออกไป แต่ฉันก็เสียใจที่ไม่อาจได้พูดประโยคนี้กับคุณจริง ๆ นะคะ
ฉันอยากบอกคุณมาก... มากจริง ๆ แต่ถ้าฉันบอกคำนั้นออกไป ฉันกลัวคุณจะล่วงรู้ถึงสิ่งที่ฉันตั้งใจจะทำ หากคุณรู้ คุณต้องห้ามฉันแน่ค่ะ... คุณเป็นคนสุดท้ายที่ฉันอยากให้รู้ว่าฉันวางแผนจะทำอะไรลงไป
ขอโทษนะคะ กับความเห็นแก่ตัวของฉันคนนี้ ทั้งที่ปิดบังแผนการทุกอย่างไว้ ทั้งการกระทำที่เอาแต่ใจตัวเองในคืนนั้น และทั้งที่ไม่อาจบอกรักให้คุณได้ยิน...
ฉันกลัวค่ะ... กลัวว่าถ้าฉันพูดออกไป ฉันคงไม่อาจตัดใจทำตามแผนการนั้นได้ และเราอาจจะไม่สามารถเอาชนะมุซันได้จริง ๆ
หวังว่าคงมีสักวันที่ฉันจะพูดคำนี้ให้คุณฟัง ในโลกอันแสนสงบสุขข้างหน้านะคะ
โคโจ ชิโนบุ
คืนนี้พระจันทร์สวยไหมคะ... กิยูซัง
น้ำตาร้อน ๆ พรั่งพรูร่วงใส่กระดาษแผ่นนั้นจนทิ้งรอยด่างดวงไว้ทั่ว ไหล่ทั้งสองข้างสั่นสะท้านกับคำบอกรักของเธอ... คำที่เขาไม่อาจได้ยินมันจากปากเธอผู้นั้น
...หากตอนนี้เขาก็ได้รู้ ว่าเธอรักเขาไม่ต่างจากที่เขารักเธอ...
ถึงน้อยใจที่เธอไม่คิดจะบอกให้เขารับรู้ถึงแผนการใช้ตัวเองเป็นเครื่องสังเวย แต่ใช่ หากเขารู้ก่อน เขาคงต้องอ้อนวอนให้เธอล้มเลิกการเสียสละตนเอง และทุกอย่างอาจไม่ได้จบลงสวยงามดั่งเช่นที่เป็นอยู่นี้
แต่เขาก็รักความมุ่งมั่นของเธอ...
เขารักความอ่อนโยนของเธอ...
เขารักทุกอย่างที่เป็นโคโจ ชิโนบุ...
กิยูอ่านจดหมายซ้ำไปซ้ำมา ขณะมือกุมเครื่องประดับที่อยู่ในอกเสื้อของเขาไว้แน่น คำขอร้องสุดท้ายของเธอทำให้ใจเขาสั่นสะท้านยิ่งกว่าครั้งไหน
ความทรงจำในค่ำคืนที่เขาได้เผยความในใจผุดขึ้นมา ค่ำคืนเดียวที่เขาได้อยู่ร่วมกับเธอ แต่เขาไม่เคยล่วงรู้ว่ามันจะเป็นครั้งแรกและครั้งสุดท้าย...
รู้ไหมว่ามันยาก...
ยากที่จะมีชีวิตอยู่ต่อไป... โดยที่ไม่มีเจ้า
หากเมื่อหันมองเสื้อคลุมฮาโอริที่แขวนอยู่ เสื้อคลุมที่เสียหายจนแทบไม่เหลือซาก แต่ก็ได้คามาโดะ เนซึโกะ ซ่อมแซมให้จนอยู่ในสภาพเดิม
เสื้อคลุมที่เขาบรรจงเย็บเพื่อย้ำเตือนถึงคนที่เขาไม่อาจปกป้องได้ ที่ใช้ชีวิตแลกเพื่อให้เขาได้มีชีวิตอยู่ต่อไป
คำขอของเธอที่ขอให้เขาได้ใช้ชีวิตแทนเธอ... ในโลกที่ปราศจากอสูร
ความฝันของเธอที่ถูกฝากฝังไว้กับเขา...
ถึงท้ายสุดเขาไม่อาจปกป้องเธอไว้ได้ แต่ก็มีสิ่งที่เขาสามารถทำแทนเธอได้...
เขาต้องมีชีวิตอยู่ต่อไป...
ชีวิตยังต้องดำเนินต่อไป...
แม้จะเจ็บปวดแค่ไหนก็ตาม...
ในที่สุด วสันตฤดูก็มาเยือน...
ฤดูใบไม้ผลิแรกของโลกที่ปราศจากอสูร... หากเป็นฤดูใบไม้ผลิที่ไม่มีเธอ...
หลังเสร็จสิ้นจากการประชุมเสาหลักครั้งสุดท้ายที่คฤหาสน์อุบุยาชิกิ และการเยี่ยมเยียนเหล่าเด็ก ๆ ที่ยังคงพักฟื้นอยู่ ณ คฤหาสน์ผีเสื้อ
การได้พบพานคนที่ยังมีชีวิตอยู่ทั้งหมด รวมถึงอดีตเสาหลักที่ยังมีชีวิตรอดทั้งสองคนอย่างเสาหลักเสียงและเสาหลักวายุ อุโรโกะดากิ ซากอนจิ ผู้เป็นทั้งอาจารย์และบิดาของเขา และคามาโดะ เนซึโกะ ก็ช่วยบรรเทาความเจ็บปวดในใจให้จางลงไปบ้าง
สายสัมพันธ์ที่ถูกรื้อฟื้น ถูกสานต่อ และถูกก่อตัวในรูปแบบที่หลากหลายจากคนรอบตัวเริ่มทำให้โทมิโอกะ กิยู รู้สึกถึงความหมายของการมีชีวิตอยู่
แม้ไม่อาจลืมเลือนเธอได้แม้แต่วันเดียว
หลังจากที่ไปร่วมรับประทานอาหารกลางวันกับอุซุย เทนเง็น และชินาซึงาวะ ซาเนมิ อดีตเสาหลักวารีก็ขอแยกตัวเพื่อไปทำธุระส่วนตัวในเมือง
กิยูใช้เวลาตลอดบ่ายแวะเวียนตามร้านรวงต่าง ๆ เพื่อจัดหาข้าวของตอบแทนแก่บุคคลรอบตัวทั้งหลาย โดยเฉพาะคามาโดะ เนซึโกะ คันซากิ อาโออิ และซึยูริ คานาโอะ สามสาวที่มีบุญคุณกับเขายิ่ง ก่อนจะไปถึงสถานที่ที่เป็นจุดหมายสุดท้ายของวันนี้
เพียงไม่ถึงครึ่งชั่วยาม เขาก็มาถึงสุสานแห่งหนึ่ง แสงสุดท้ายของวันย้อมทุกอย่างให้เป็นสีส้ม ทำให้นึกถึงวันเวลาสุดท้ายอันแสนงดงามที่เขาได้เคยใช้ร่วมกับเธอ
ใช้เวลาไม่กี่อึดใจ กิยูก็พบสิ่งที่เขาตามหา มือซ้ายลูบไล้ตัวอักษรที่จารึกบนหินอ่อนอย่างแผ่วเบา แล้วบรรจงแกะห่อของที่เขาเพิ่งไปรับจากร้านเครื่องประดับในเมือง สิ่งที่เขาตั้งใจสั่งทำเป็นพิเศษมาตั้งแต่ภายหลังได้รับจดหมายของเธอฉบับนั้น
“หวังว่า... คงชอบสิ่งนี้นะ...”
ชายหนุ่มว่าพลางวางหวีประดับลายมุกลงบนแผ่นหินอ่อนที่สลักชื่อเจ้าของหัวใจเขา หวีที่ตกแต่งให้เป็นรูปผีเสื้อที่บินหยอกล้อเกลียวคลื่น สิ่งที่ต้องเสียเงินจำนวนมหาศาล หากงามสมราคาด้วยความหมายอันแสนพิเศษ
“เจ้าอาจประหลาดใจที่ข้ารู้ความหมายของสิ่งนี้...”
สิ่งที่แทนคำขอแต่งงาน ที่ทั้งท่านแม่และท่านพี่ของเขาก็เพียรรักษาไว้จนถึงนาทีสุดท้ายของลมหายใจ...
“ทันจิโร่บอกว่า คนเราส่งต่อความทรงจำผ่านพันธุกรรม ข้าก็หวังว่าคนเราคงส่งต่อความทรงจำของอดีตชาติผ่านจิตวิญญาณได้...”
นัยน์ตาสีครามหุบลง ขณะมือหยิบผีเสื้อที่เคยเป็นเครื่องประดับศีรษะของเธอที่เขาพกติดตัวตลอดเวลาออกมา แล้วจรดปากลงยังปีกสีม่วงเจิดจ้าอย่างแผ่วเบา
“หวังว่าในชาติหน้า เราคงได้เกิดมาพบกันใหม่ ข้ากับเจ้าคงจำกันได้ และข้าคงมีโอกาสได้ให้สิ่งนี้ด้วยมือของข้าเองนะ...”
นัยน์ตาสีครามทอดมองชื่อตรงหน้าอย่างอ่อนโยน ก่อนจะใช้ช่วงเวลาสุดท้ายของวันดื่มด่ำกับฤดูใบไม้ผลิอันแสนสงบสุขอยู่ครู่ใหญ่ ถึงไม่อาจมองเห็นด้วยตา แต่เขาก็รับรู้ว่าเธอคงได้สัมผัสถึงความรู้สึกเหล่านี้ผ่านตัวเขาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
กลีบซากุระสีอ่อนปลิวไสวตัดกับท้องฟ้าสีเข้มยามพลบค่ำ แสงจันทร์ในค่ำคืนวันเพ็ญสวยงามนวลตาเฉกเช่นที่เป็นมา
กิยูแหงนหน้าชมความงดงามนั้น รอยยิ้มอ่อนโยนแสนเศร้าผุดขึ้นเหนือใบหน้า...
ถึงไม่อาจนอนหลับได้สนิทเหมือนแต่ก่อน แต่เขาก็หวังว่าคืนนี้เขาคงได้พบกับเธอในความฝันนั้นอีกครั้ง เพื่อจะได้ตอบคำถามของเธอเหมือนเช่นทุกครา
คืนนี้พระจันทร์สวยมากนะ ชิโนบุ...
===========
Author's Talk 21 FEB 2021
จบไปแล้วกับ Day 7 ค่ะ...
พอดีเมื่อคืนตอนเขียนเสร็จ เรารู้สึกว่ามันยังไม่ได้อารมณ์ ตอนแรกว่าจะเป็นแค่รีไรท์ แต่สรุปเลยนั่งเขียนใหม่เกือบทั้งหมดดีกว่าค่ะ
หากบทที่แล้ว เราได้รับรู้ถึงความเศร้าของน้องชิโนบุที่พร้อมจะสูญเสีย บทนี้ เราก็ได้เห็นผลของคนที่ต้องอยู่ต่อท่ามกลางความสูญเสียอีกครั้งนะคะ...
เจ็บปวดทั้งคู่เลยเนอะ... อาจารย์เข้ใจร้ายมาก...
ถ้าบทที่แล้วยากในแง่ที่ต้องเค้นอารมณ์ความรู้สึกที่ต้องคอนทราสระหว่างการบอกรักและการจากลา บทนี้ก็คูณความยากไปอีกสองเท่าเลยค่ะ
เป็นการใช้พลังมโนขั้นสุด กับการเฉลยที่มาของคำสัญญาในบทที่แล้ว น่าจะรู้แล้วนะคะว่าทำไมคุณกิยูถึงสู้ต่อได้จนจบศึก แล้วทำไมถึงได้พยายามปกป้องน้องทันได้ขนาดนั้น
เราเคยผ่านประสบการณ์ของการที่ต้องทำอะไรให้ลุล่วงไป แล้วหมดแรงทันทีที่ลุล่วงหน้าที่นั้นได้ มันเหมือนใช้พลังใจล้วน ๆ เลยค่ะ
ส่วนการที่เราเลือกที่จะให้น้องคานาโอะส่งต่อผีเสื้อให้คุณกิยู ทั้ง ๆ ที่ควานหาอย่างเอาเป็นเอาตาย อันนี้เราตีความจากนิสัยน้องที่เป็นคนช่างสังเกตค่ะ คิดว่าน้องน่าจะรู้อะไรอยู่มาก กับน้องคงมองว่า ยังเหลือเครื่องประดับของคานาเอะอีกชิ้นนึง กับปลาทองของชิโนบุ และทั้งสาม รวมถึงอาโออิ และพวกซึมิ คงมีความทรงจำและความผูกพันแบบที่เรียกว่าครอบครัวค้ำอยู่ค่ะ อีกทั้งน้องก็รับรู้แผนการของชิโนบุมาแต่ต้น ก็คือเตรียมใจไว้แล้ว
แต่คุณกินี่ นอกจากจะไม่รู้อะไรแล้ว ไม่น่าจะมีของอะไรให้แทนตัวเลยค่ะ คานาโอะที่รู้ความต้องการของชิโนบุทั้งหมด คงอยากมอบสิ่งแทนตัวชิโนบุให้คุณกิยูเก็บไว้ เพื่อให้คุณกิยูมีชีวิตต่อไปค่ะ
ส่วนกิ๊บของคุณพี่คานาเอะนี่ ก็น่าสงสัยนะคะว่าน้องแอบมอบให้คุณซาเนมิไหมน้า : D (ซึ่งเราขอใช้พลังมโนว่าใช่แน่นอนค่ะ!!)
มาถึงฉากจบนะคะ
การที่เราเลือกให้จบบทนี้ตรงนี้ เป็นความตั้งใจแต่แรกที่เราอยากให้จบแบบมีความหวังตามต้นฉบับค่ะ ว่าจะต้องอยู่ต่อไปให้ได้ เดิมที ตอนเห็นภาพคุณกิยูยิ้มมองซากุระในหน้าที่เพิ่มมาในตอน 204 เราตั้งใจให้จบตอนนี้ด้วยฉากนี้เลยค่ะ แต่ก็มีเหตุให้เปลี่ยนใจ ซึ่งตอนนี้เราแฮปปี้กับสิ่งที่เราเขียนมากกว่าค่ะ รู้สึกกลมกล่อมกว่ามาก
จุดแรกคือเห็นทวิตเตอร์เกี่ยวกับการให้หวีว่าเป็นการขอแต่งงาน เลยรู้สึกว่า เออ เอานี่แหละ เข้ามากค่ะ
แหล่งข้อมูลอยู่ในสปอยนะคะ
ส่วนเนื้อหาตรงนี้ ขออนุญาตสปอยเนื้อหาแฟนบุ๊คเล่มสอง ที่เพิ่งออกที่ญี่ปุ่นไป และเป็นจุดที่ทำให้ตอนนี้เป็นตอนที่ต่างจากพล็อตแรกของเรานะคะ
จุดที่เราเลือกให้คุณกิยูจบด้วยการรอคอยความฝันนั้น มันมาจากลองคิดตามคุณกิยู แล้วรู้สึกว่า การที่ฝันถึงใครตลอด แล้ววันนึงเจอเขา วันนึงเขาจากไป มันคงยากที่จะหลับฝันอีก
แต่ถึงจุดนึง แม้จะไม่ได้เจอเขาอีกแล้ว แต่ถ้าฝันถึงอีกก็คงจะดีเหมือนกันค่ะ
แล้วด้วยการที่เล่นไดนามิกเกี่ยวกับฝันในทุกตอน ตั้งแต่ ฝันแต่ไม่รู้จัก >> พบแต่ไม่แน่ใจว่าใช่ที่ฝันไหม >> เริ่มเหมือนฝันขึ้นเรื่อย ๆ >> มาถึงจุดที่เหมือนฝันเด๊ะ แต่อยากเห็นรอยยิ้มของเธอแบบเดิมมากกว่า >> ฝันไม่ฝันไม่รู้ เธอคนนี้นี่แหละ >> สิ่งที่ทำได้มากกว่าฝัน
พอมาถึงจุดนี้ เลยอยากให้ เพราะไม่สามารถเจอได้อีกแล้ว จึงขอพบเธอในความฝันแทนแล้วกันค่ะ
อันนี้ inspiration มาจากเพลง time for the moon night ของ gfriend ลูกสาวของเราค่ะ
สุดท้ายนี้ ยังเหลือตอนที่ 8 ที่เป็นตอนจบจริง ๆ ที่จะลงวันนี้ค่ำ ๆ นะคะ ไม่ดึกมากแน่ ๆ 555 พอดีมีประชุมเช้าวันจันทร์ค่ะ แต่ถ้าไม่ทันจริง ๆ ขออนุญาตเป็นเย็นวันจันทร์เลยนะคะ
ต้องขอบคุณคนอ่านทุกท่าน ขอบคุณที่ให้กำลังใจมาตลอด ไม่ว่าจะคอมเมนต์หรือไม่ก็ตามนะคะ แต่ก็แอบอยากทราบความเห็นเหมือนกันค่ะว่า มีคนตีความแบบเราบ้างไหม
แล้วพบกันภายในพรุ่งนี้ค่า
Author's Talk 23 APR 2022
สวัสดีค่า วันนี้ก็เป็นคิวลงฉบับ Rewrite สำหรับรวมเล่มนะคะ เพื่อให้เนื้อหาออกมาสมบูรณ์ที่สุดเท่าที่เราจะทำได้ค่ะ
บทนี้ก็เป็นอีกบทที่เกลาเยอะมาก น่าจะเยอะที่สุดในตอนหลักเลยค่ะ เพราะมีส่วนเนื้อหาที่เราเขียนไม่เคลียร์พอในช่วงท้าย ๆ มีส่วนที่เราลืมใส่เพื่อโยงไปตอนพิเศษ 1-2
ถ้าคนสังเกตได้ จุดที่รีไรท์มีจดหมายคุณชินี่แหละค่ะ เพิ่มเติมและเกลา กับ Hint ไปถึงตอนพิเศษ เล่มพี่สาพี่เอะ รวมถึงเล่ม The Tales of Butterfly Effects นะคะ
หวังว่าจะชอบในส่วนที่รีไรท์กันนะคะ ^^
ส่วนความคืบหน้าของตัวเล่ม KNY FF - In Time With You มาฝากค่ะ คนที่ยังไม่เห็นภาพ ดูเล่มตัวอย่างได้จากที่ลงในบทที่แล้ว หรือในเทรดทวิตเตอร์นี้นะคะ
สำหรับคนที่ให้จัดส่งเลย เราได้ email ไปยืนยันที่อยู่ในการจัดส่งค่ะ แล้วกำลังทะยอยหลังไมค์ยืนยันอีกครั้งหนึ่ง กับวันนี้ก็ปิดซองตัวเล่มแล้วค่ะ เหลือแต่แพคลงกล่องแล้ว
ส่วนคนที่สนใจจะเก็บเล่มนี้ แล้วก็ KNY FF - In The Remembrance of Her ของพี่สาพี่เอะ เราขอนำรายละเอียดเบื้องต้นของรวมเล่มทั้งสองเล่ม ฉบับปรับปรุงล่าสุด 16 APR 2022 มาให้ได้ศึกษานอกเหนือจากตัวฟิคที่สามารถอ่านตอนหลังได้ใน ReadAWrite | Dek-D | ReadHaus นะคะ
รายละเอียด KNY FF - In Time With You #ห้วงเวลาของเราสอง (Tomioka Giyuu x Kochou Shinobu)
รายละเอียด KNY FF - In The Remembrance of Her #แด่เธอในความทรงจำนิรันดร์ (Shinazugawa Sanemi x Kochou Kanae)
โดยเราจะเปิดพรีออเดอร์ทั้ง 2 เล่มนี้ในวันที่ 25 เมษายน 2022 เวลา 00.00 น. ค่ะ
แต่ทั้งนี้ ใครไม่สะดวกไม่เป็นไรนะคะ รับรองได้อ่านเนื้อหาเหมือนเดิม และในรูปแบบ Rewrite เหมือนกันค่ะ เพียงแต่อาจจะได้อ่านตอนพิเศษช่วงท้ายหลังจากเราส่งเล่มล็อตแรกนะคะ
แล้วพบกับตอน 8 ฉบับ Rewrite ในวันพุธนี้ค่ะ ^^ อาจจะมาดึกกว่าปกติ/เร็วกว่าปกติค่ะ พอดีวันนั้นมีลงเคสนอกสถานที่ ตอบไม่ถูกเลยว่าจะเลิกงานกี่โมง อย่างไรแล้วอย่าลืมรักษาสุขภาพกันด้วยนะคะ นี่ก็เฉียด ๆ โดนกักตัวรอบที่ 5 ของปีแล้วค่ะ เพื่อนร่วมงานทะยอยติดโควิดกันถ้วนหน้า
Comments (0)