Day 04 : His Sorrow

Keywords : Serenade/One – Side/Coffee

 

1st Published : 18 FEB 2021

Rewrite : 13 APR 2022

===========

 

เนื้อหาต่อจากแด่เธอผู้ไม่ยิ้มนะคะ

 

กาลเวลายังคงดำเนินต่อไป

 

จนมาถึงการปรากฏตัวของฟันเฟืองชิ้นเล็ก ๆ สองชิ้น ในการที่จะกำจัดอสูรให้หมดสิ้นไปจากโลก

 

สองพี่น้องที่โทมิโอกะ กิยู ได้ช่วยเหลือไว้เมื่อสองปีก่อน กลายเป็นสองคนแรกที่ได้เผชิญหน้ากับคิบุซึจิ มุซัน ราชันแห่งเหล่าอสูร

 

การเข้าร่วมหน่วยพิฆาตอสูรของคามาโดะ ทันจิโร่ ชายที่ทำทุกอย่างเพื่อให้น้องสาวคนเดียวที่เหลือรอดกลับกลายเป็นมนุษย์

 

และอสูรผู้ปฏิเสธเลือดของมนุษย์ และมุ่งปกป้องคนอย่างคามาโดะ เนซึโกะ

 

บุคคลผู้ถือกุญแจแห่งความหวังอันแสนสำคัญ

 

กระนั้น ยังคงมีสามสิ่งที่มิเคยแปรเปลี่ยน

 

หนึ่ง... โทมิโอกะ กิยู ยังคงฝันถึงเสาหลักแมลง โคโจ ชิโนบุ อยู่เหมือนเดิม

 

สอง... จนถึงตอนนี้ โทมิโอกะ กิยู ก็ไม่เคยบอกให้โคโจ ชิโนบุ ทราบว่าเขาเข้าใจความรู้สึกของการสูญเสียครอบครัวเพียงหนึ่งเดียวแค่ไหน คงเก็บไว้อยู่ในใจผู้เดียว

 

สาม... ไม่ว่าอย่างไร โทมิโอกะ กิยู ก็ยังไม่ยอมยิ้มให้ใครได้เห็น

 

ร้อนให้นายท่านอุบุยาชิกิ คากายะ ต้องอ้อนวอนให้เหล่าเสาหลักทั้งหลายช่วยทำให้โทมิโอกะ กิยู ได้ยิ้มออกมาสักครั้งหนึ่ง...

 

ถึงจุดประสงค์อันแท้จริง ผู้นำคนสำคัญของหน่วยพิฆาตอสูรนั้นได้แต่หวังที่จะสร้างความสนิทสนมกลมเกลียวกันระหว่างเสาหลักก็ตามที...

 

หากผลลัพธ์นั้นไซร้...

 

“โทมิโอกะซังคะ คุณนี่มัน... ฉันไม่อยากเชื่อเลย! ทำไมคุณเป็นคนแบบนี้!”

 

โคโจ ชิโนบุ เอ่ยด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม หากนัยน์ตาสีม่วงที่วาววับกว่ายามปกติบ่งบอกถึงความไม่สบอารมณ์ขั้นสุดก็ทำให้กิยูรับรู้โดยทันทีว่าเจ้าตัวโกรธเคืองเขาแค่ไหน

 

แม้ท้ายสุดเหตุการณ์ในวันนั้นจะจบด้วยการที่เขาถูกเสาหลักแมลงลากมาเทศนาต่อที่คฤหาสน์ผีเสื้อ ไม่เช่นนั้นเขาอาจจะจบชีวิตด้วยการถูกเสาหลักวายุและเสาหลักอสรพิษรุมกระทืบจากเหตุการณ์ที่เกิดพ่วงความแค้นส่วนตัวก็เป็นได้

 

“ขอโทษ...”

 

กิยูเอ่ยเสียงเบา แม้จะยังไม่ค่อยเข้าใจดีถึงความโกรธขึ้งของเหล่าเสาหลักคนอื่น ๆ รวมถึงเธอคนนี้ด้วย

 

เขาทำผิดตรงไหนกัน... ก็แค่พูดความจริงเท่านั้นเอง

 

“เห้อ... เอาว่าช่างมันเถอะค่ะ” เธอถอนใจอย่างเหนื่อยอ่อน พลางเลื่อนแก้วที่กรุ่นไออุ่นให้กับคู่สนทนา “ดื่มนี่ก่อนแล้วกันนะคะ คงอีกนานกว่าอาหารเย็นจะเสร็จ”

 

นัยน์ตาสีครามเบิกกว้างยามเห็นของเหลวสีโคลนขุ่นคลั่ก ดูอย่างไรก็ไม่ใช่ชาที่เจ้าบ้านมักนำมาให้เขาดื่มเป็นประจำ

 

“โคโจ... ไอ้นี่มันดื่มได้เหรอ”

 

ประโยคที่เรียกเสียงหัวเราะใส ๆ ของชิโนบุเป็นครั้งแรกของวัน

 

“ตายแล้ว ๆ ฉันลืมไปว่าคุณอาจจะไม่เคยดื่มกาแฟ” เจ้าหล่อนแย้มยิ้ม นัยน์ตาสีม่วงพราวระยับราวกับเจอของเล่นถูกใจ “คันโรจิซังให้มาน่ะค่ะ เห็นว่าทางบ้านแบ่งมา”

 

กิยูใช้จมูกสูดกลิ่นฟุดฟิด แล้วค่อย ๆ ลิ้มลองรสชาติดู ความขมทำเขาเกือบสำลัก แต่ก็ฝืนกล้ำกลืนเข้าไปเพราะไม่อยากเสียมารยาทต่อเจ้าของบ้าน

 

“ฉันว่าโทมิโอกะซังเหมาะกับกาแฟมากเลยค่ะ ขม ๆ เฝื่อน ๆ เหมือนคนไม่เอาใครและไม่มีใครเอาน่ะค่ะ~”

 

ชิโนบุตอบยิ้ม ๆ แม้จะยังคงจิกกัดเขาในประโยคสุดท้ายก็ตาม

 

สายลมช่วงปลายฤดูใบไม้ผลิพัดโชยตามประตูระเบียงที่เปิดกว้าง ซากุระต้นใหญ่ร่วงโรยไปแล้ว แต่คฤหาสน์ผีเสื้อในยามสนธยาก็ยังงดงามด้วยดอกฟูจิที่บานสะพรั่ง

 

หากเป็นคืนจันทร์วันเพ็ญ ภาพที่เป็นอยู่คงไม่ต่างจากความฝันอันแสนยาวนานของเขาเป็นแน่

 

“โทมิโอกะซังคะ...”

 

ประโยคเริ่มต้นของชิโนบุชวนให้นึกถึงหญิงสาวในฝันคนนั้น แต่ประโยคถัดมายิ่งทำให้กิยูมั่นใจว่า นี่ไม่ใช่ความฝันของเขาแน่ ๆ

 

“...นี่คุณไม่รู้จริง ๆ เหรอคะว่าทุกคนเขารู้สึกยังไงกับคุณ”

 

“อย่างไร...”

 

“ก็มัวแต่เป็นแบบนี้อย่างไรล่ะคะ ทุกคนถึงได้เกลียดคุณค่ะ”

 

“ข้าไม่ได้ถูกเกลียดนะ...”

 

คำถามเดิม ๆ กับคำตอบเดิม ๆ ที่เอ่ยซ้ำแล้วซ้ำเล่า หากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในวันนี้ คงทำให้เสาหลักแมลงเลือกที่จะพูดกับเขาอย่างตรงไปตรงมาด้วยสีหน้าจริงจัง

 

“ที่คุณทำ คุณทำเหมือนคุณไม่ใช่พวกเราค่ะ ไม่สิ เหมือนพวกเราไม่ใช่พวกของคุณ... ทั้งที่คุณเคยยอมรับว่าฉันเป็นพวกเดียวกับคุณแท้ ๆ”

 

ชิโนบุว่าพลางถอนใจยาว คงเหลือแต่เธอที่สามารถพูดกับเขาได้อย่างนี้

 

“หรือยังโกรธที่ฉันชอบว่าคุณคะ”

 

“ไม่ใช่...”

 

กิยูพูดเบาจนเกือบกระซิบ มือทั้งสองข้างจิกกำแน่น ความขมขื่นจากเหตุการณ์การทดสอบคัดเลือกยังตราตรึงในจิตใจเหมือนรสขมของกาแฟที่ยังติดอยู่ที่ปลายลิ้น ความขมขื่นที่คนผู้ไม่อาจสามารถสังหารอสูรได้แม้แต่ตัวเดียวในวันนั้น กลับมานั่งอยู่ในตำแหน่งเสาหลักอันทรงเกียรตินี้ได้

 

ตำแหน่งที่ควรเป็นของซาบิโตะ...

 

“ข้าไม่ได้โกรธเจ้า...”

 

นัยน์ตาสีม่วงคู่สวยหันกลับมามองอย่างไม่เชื่อสายตา เพราะนี่เป็นครั้งแรกที่เธอเห็นคนตรงหน้าแสดงอารมณ์อื่นออกมา

 

“ข้าไม่เคยเกลียดหรือโกรธใคร... เพียงแต่ข้าไม่คู่ควรที่จะอยู่ตรงนี้ ก็เท่านั้น...”

 

ความเงียบเข้าปกคลุมบุคคลทั้งสอง เมื่อหญิงสาวผู้เริ่มบทสนทนาก่อนก็จนปัญญาจะสรรหาคำพูดใด ๆ มาปลอบใจ

 

หากสิ่งที่อยู่ในใจของเธอคือความเคียดแค้นชิงชัง

 

ความรู้สึกในใจของเขาก็คือขมขื่นที่คิดว่าตัวเองไม่คู่ควรกับตำแหน่งอันทรงเกียรตินี้… ไม่คู่ควรที่จะนั่งเคียงข้างเธออยู่ตรงนี้

 

ทั้งที่เคยตั้งมั่นมาตลอดว่าจะไม่มีวันหวั่นไหวต่อสิ่งใด แต่พอเธอตอกย้ำว่าเกลียดเขาซ้ำแล้วซ้ำเล่า...

 

ความรู้สึกถึงได้พังทลายลงดั่งสายน้ำหลาก

 

“แล้วเจ้าล่ะ... เกลียดข้าเหรอ”

 

กิยูเอ่ยเสียงเบาจนแทบกระซิบ ทุกคนคงเกลียดเขาที่ทำตัวอย่างนี้ แต่ถึงอย่างไร เขาก็ไม่อาจทำใจยอมรับตัวเองว่าเป็นเสาหลักได้เลยแม้แต่ครั้งเดียว

 

แม้จะทำให้เธอผู้นี้ต้องพลอยเกลียดเขาไปด้วยก็ตาม...

 

“คิดเองสิคะ โทมิโอกะซัง...” เธอเอ่ยด้วยน้ำเสียงนิ่งจนเขาหวั่นใจ เวลาผ่านไปนานนับชั่วกัลป์ก่อนที่รอยยิ้มอ่อนหวานจะปรากฏเหนือใบหน้าสะสวย ยิ้มนุ่มนวลดุจแสงจันทร์วันเพ็ญ “แหม ๆ ถ้าฉันเกลียดคุณจริง ฉันคงไม่มานั่งคุยกับคุณตรงนี้หรอกค่ะ”

 

ชิโนบุเอ่ยอย่างอ่อนโยน ไร้ซึ่งความจิกกัดในน้ำเสียงเหมือนเคย พลางเอื้อมมือมาสัมผัสมือเขาแล้วบีบเบา ๆ

 

ชั่ววูบที่ดั่งฝันของเขาเป็นจริง...

 

หัวใจของชายหนุ่มเต้นแรง ยิ่งหันไปสบนัยน์ตาสีม่วงที่ทอดมองเขาอย่างอ่อนโยนกว่าปกติ ก็ยิ่งร้อนรนจนทำอะไรไม่ถูก คงนึกออกแต่ประโยคที่เธอชอบพูดทั้งในความฝันและความเป็นจริงของเขา

 

“ค... ค... คืนนี้พระจันทร์สวยดีนะ...”

 

ประโยคที่คนฟังหันมามองด้วยความประหลาดใจ แต่ยามเห็นท่าทีตะกุกตะกัก ก็ทำให้หญิงสาวหัวเราะลั่นออกมาด้วยท่าทางที่ใกล้เคียงกับเด็กหญิงคนเดิมคนนั้น

 

“ตายแล้ว ๆ โทมิโอกะซังทราบความหมายของประโยคนี้ไหมคะ”

 

“ก็... เห็นเจ้าชอบพูดตลอด” รวมถึงในฝันตลอดกาลของเขา “แล้วพระจันทร์คืนนี้ก็สวยดี...”

 

“...สมกับเป็นโทมิโอกะซังจริง ๆ ค่ะ”

 

นัยน์ตาสีครามหันไปสบนัยน์ตาสีม่วงที่แม้ไม่อาจสวยเทียบเท่าความฝันของเขา หากน่ามองยิ่งกว่าครั้งไหน แววระยิบระยับล้อแสงจันทราในนัยน์ตาคู่งามทำใบหน้าชายหนุ่มร้อนผ่าวจนต้องรีบเบือนหน้ากลับไปมองพระจันทร์อย่างเดิม

 

“แล้ว หมายความว่าอะไร...”

 

“แน้... หาคำตอบเองสิคะ~”

 

เธอว่าพลางส่งยิ้มกว้างจนตาหยีให้ ยิ้มที่ละม้ายเหมือนโคโจ ชิโนบุ คนเก่า

 

ยิ้มที่เหมือนกับเมื่อสี่ปีก่อน....

 

รอยยิ้มและนัยน์ตาที่เขาลอบมองอยู่ข้างเดียว ตั้งแต่แรกพบมา...

 

ก่อนตัวตนของเธอ จะแหลกสลายลงจนหมดสิ้นในวันนั้น

 

“คืนนี้พระจันทร์สวยจริง ๆ ค่ะ...”

 

เสียงอ่อนหวานแผ่วเบาแว่วเข้าหูเขา แต่ก่อนจะทันฟังให้ชัด กิยูก็พบว่าเจ้าของเสียงผู้นั้นหยิบแก้วกาแฟขึ้นจิบ จนไม่สามารถตอบได้ว่า เสียงที่เขาได้ยินเมื่อครู่เป็นเสียงของเธอจริง ๆ หรือเป็นภาพจากฝันในใจของเขากันแน่

 

หากแม้จะเป็นความฝัน... เขาเชื่อว่าตื่นมาคราวนี้ เขาคงจดจำทุกสิ่งได้

 

และต่อให้ไม่ใช่ความฝัน... เขาก็เชื่อว่าเขาคงไม่มีวันลืมเหตุการณ์ในวันนี้ไปตลอดชั่วชีวิต จวบจนลมหายใจสุดท้ายของเขา

 

===========

Author's Talk 18 FEB 2021

สวัสดีค่า

จบไปแล้วกับ Day 4 นะคะ เผลอแป๊บ ๆ ครึ่งทางแล้ว

ต้องขออภัยที่เอามาลงเกือบเช้าเลยค่ะ เมื่อวานกลับมาจากประชุมแล้วหมดแรงมาก เลยต้องของีบไป แต่กลายเป็นงีบยาวเลย

ตอนที่เห็นคีย์เวิร์ดของวันนี้ เรานี่เลยได้ฤกษ์อ่านนิยายซ้ำทั้งสามเล่มเลยค่ะ แล้วก็เป็นตอนที่ตัดสินใจว่าจะเขียนถึงทั้งสองคนนี้ในแต่ละช่วงเวลา โดยยังอิงเนื้อหาหลักของเนื้อเรื่องแหละค่ะ

เท่าที่จับใจความได้ คิดว่าเนื้อหาช่วงนี้น่าจะเกิดก่อนภาครถไฟนิรันดร์นะคะ เพราะตัวชิโนบุรู้จักกับสามหน่อแล้ว และคุณเร็นโงคุก็ยังม่ีชีวิตอยู่ด้วยค่ะ

แล้วที่กล้าเขียนบทสนทนาสองคนนี้ เพราะอิงจากที่กิยูรู้เรื่องและเล่าให้น้องทันจิโร่ฟังได้ แสดงว่าต้องมีคนเตือนแล้วแน่ ๆ ว่าคุณน้องทำบ้าอะไรลงไป ซึ่งคนเตือนคงหนีไม่พ้นชิโนบุของเราแน่ ๆ ค่ะ <3

ยอมรับเลยว่าเป็นบทที่ยากที่สุดสำหรับเราค่ะ ด้วยคีย์เวิร์ดที่ค่อนข้างหลากหลาย เดิมเราพล็อตจะให้สองคนนี้ไปกินกาแฟหลังเหตุการณ์ใน Giyuu's Gaiden ค่ะ แต่รู้สึกว่ามันลงตัวยาก เลยปรับออกมาเป็นตามที่เห็นนี่แหละค่ะ แล้วก็ชอบแบบที่ปรับแล้วมากกว่า

นอกจากนี้ยังถือเป็นบทที่เริ่มหวาน จนกลัวจะโดดจากสามตอนแรกเหมือนกันค่ะ

นี่มั่นใจมากว่าคุณกิยูต้องไม่รู้ความหมายของประโยคนี้แน่ ๆ ค่ะ 555555 อยากรู้เหมือนกันว่าตอนรู้ความหมายประโยคนี้ เจ้าตัวจะทำหน้ายังไงเหมือนกัน

หวังว่าจะชอบกันนะคะ ^^

คิดว่าดึก ๆ วันนี้น่าจะได้ลง Day 05 ค่ะ ถ้าไม่น็อกไปก่อน ไม่นั้นก็เจอกันเวลาประมาณนี้ค่ะ แหะ ๆ

ขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาอ่านนะคะ ^^

Author's Talk 13 APR 2022

สวัสดีอีกครั้งค่า วันนี้ก็เป็นคิวลงฉบับ Rewrite สำหรับรวมเล่มนะคะ เพื่อให้เนื้อหาออกมาสมบูรณ์ที่สุดเท่าที่เราจะทำได้ค่ะ

บทนี้เป็นหนึ่งในบทที่มีการเกลาค่อนข้างมากกว่าฉบับแรกของเรานะคะ ไม่รู้ว่ามีใครสังเกตเห็นบ้างไหมนะ แต่ที่แน่ ๆ ก็คือจุดที่คุณชิพูดก่อนอีตาคุณกิจะหลุดประโยคเด็ดออกมาค่ะ

ตอนนี้ยังรอทางโรงพิมพ์ส่งฟิคมาให้หลังสงกรานต์นะคะ เลยกำลังอยู่ในช่วงจัดหน้า/ประเมินราคาของเล่ม KNY FF - In The Remembrance of Her ของพี่สาพี่เอะอยู่ค่ะ คิดว่าเบื้องต้นคงอยู่ราว ๆ 250 หน้าขึ้นไปค่ะ ^^" ซึ่งรายละเอียดเพิ่มเติมแบบชัดเจน น่าจะให้ได้เห็นในวันเสาร์นี้กันนะคะ

แล้วพบกับตอน 5 ฉบับ Rewrite ในวันเสาร์นี้ค่ะ ^^ ช่วงนี้หยุดยาว ขอให้ทุกคนได้พักผ่อนกันนะคะ แล้วก็อย่าลืมดูแลรักษาสุขภาพด้วยค่ะ