[KNY FF] - In Time With You

Special Chapter 07 - Endless Dream (II)

 

TW/CW :

Poisoning

 

ปล. เนื่องจากบทนี้ยาว เลยขออนุญาตแบ่งลง 3 ตอนนะคะ

 

1st Published : 06 FEB 2022

Rewrite : 11 JUN 2022

===========

เหตุการณ์ต่อเนื่องจาก Special Chapter 07.1 ค่ะ และหลัง Day 7 ค่ะ

 

หากมองข้ามคมเคียวของพญามัจจุราชที่รอคอยพวกเขาอยู่ นี่คือช่วงเวลาที่ดีที่สุด ไม่แพ้ช่วงเวลาอันแสนสุขของวัยเด็กที่ทั้งคู่ต่างมีมา

 

การได้ตื่นมาเจอหน้ากับคนที่อยู่ในหัวใจของตัวเองมานานแสนนาน ได้ใช้เวลาในแต่ละวันเฝ้ามองโลกอันแสนงดงามและสงบสุขร่วมกัน โลกที่บรรดาคนที่เขารักต่างเฝ้าปรารถนาถึง หากไม่มีโอกาสที่จะอยู่ร่วมใช้ ได้เจอผู้คนที่รักและยังมีชีวิตอยู่เป็นระยะ ได้เป็นคนสางผมนุ่มสลวยในทุกคืน ก่อนเข้านอนโดยมีเธอผู้นั้นอยู่ในอ้อมแขนดั่งที่ฝันไว้

 

การได้หลับไปพร้อมกับเธอผู้นั้นเคียงข้าง ความสุขสมหวังที่เขาไม่กล้าคิดฝัน ด้วยรู้ว่าโอกาสที่เขาจะรอดกลับมาจากศึกสุดท้ายนั้นยากเย็นยิ่งนัก

 

ผิดกับเธอผู้นั้น...

 

เสี้ยนหนามสะกิดจิตใจของกิยูทุกครั้งยามนึกถึงเรื่องนี้ มีบางสิ่งคอยรบกวนจิตใจนับตั้งแต่เขาลืมตาตื่นมา อาจเป็นความจริงที่ว่าชิโนบุอาจมีเวลาเหลือน้อยกว่าเขา

 

ความเป็นจริงที่ไม่ว่าใครก็ไม่อาจหวนย้อนกลับไปเปลี่ยนแปลงอะไรได้ เมื่อเธอผู้นั้นตัดสินใจวางยาพิษดอกฟูจิลงในร่างของตนทีละเล็กละน้อยมานานนับปีก่อนเริ่มศึกสุดท้าย ด้วยความมุ่งหมายจะกำจัดอสูรที่คร่าชีวิตของโคโจ คานาเอะ ไปเมื่อหลายปีก่อน

 

และเผื่อว่าหากวันใดที่เธอพลาดพลั้ง อย่างน้อยความตายของเธอ จะช่วยหน่วยพิฆาตอสูรที่ต้องรับมือกับอสูรแสนร้ายกาจตนนั้นต่อจากเธอ และเพื่อปกป้องผู้คนไม่ให้ต้องพบเจอความสูญเสียอย่างที่พวกเขาทั้งสองประสบพบพาน

 

สุดท้าย ถึงเธอจะสามารถเอาชนะมันได้... โดยไม่ต้องสละชีพของตนเอง แต่พิษที่สะสมไว้ก็เริ่มออกฤทธิ์ทีละน้อย กัดกร่อนร่างกายของเธอจากข้างในขึ้นมา สาเหตุของอาการซีดเซียว เหนื่อยอ่อนง่ายที่สะดุดตาของเขามาตั้งแต่ช่วงหลังภารกิจที่หุบเขานาตากุโมะ รวมถึงในคืนที่พวกเขาได้ใช้ร่วมกันช่วงก่อนการฝึกฝนของเสาหลัก

 

กิยูได้แต่โกรธตัวเอง โกรธที่ตนไม่เคยล่วงรู้ถึงความทุกข์ทรมานที่เธอผู้นี้แบกรับเอาไว้ โกรธที่ตนไม่เคยคิดจะเอ่ยถามชิโนบุด้วยตัวเอง... จนทุกอย่างมาถึงจุดที่ไม่อาจหวนกลับคืนได้

 

บางทีเธออาจมีชีวิตอยู่ได้ยืนยาวกว่านี้... หากเธอไม่บังเอิญเปิดปานได้ในเสี้ยววินาทีสุดท้ายก่อนที่จะถูกอสูรตนนั้นกลืนกินร่างเข้าไป...

 

แต่หากเป็นเช่นนั้น... เขาก็คงเสียเธอไปตั้งแต่ในวันนั้น

 

ไม่ว่าจะเป็นหนทางไหน เขาก็ต้องเป็นฝ่ายเห็นเธอจากไปก่อนอยู่ดี...

 

หลายครั้งที่เขาต้องทนเห็นเธอปวดร้าวไปทั่วร่าง หลายครั้งที่เขาต้องทนเห็นเธอไอออกมาอย่างหนักจากทั้งพิษดอกฟูจิและมนต์อสูรโลหิตของอสูรร้ายที่เกือบพรากเธอไปจากเขา พิษและมนต์อสูรโลหิตที่ทำลายเยื่อหุ้มปอดของเธอไปบางส่วน

 

น้องทั้งสองของเธอต่างพากันหวาดวิตกถึงสุขภาพของอดีตหัวหน้าฝ่ายพยาบาลของหน่วยพิฆาตอสูรที่ทรุดโทรมลงจนเห็นได้ชัดเจน กระนั้น รอยยิ้มแสนอ่อนโยนกับนัยน์ตาที่เปี่ยมสุขของชิโนบุสะท้อนให้เห็นว่าแม้เงามรณะจะคืบคลานมาเยือนในไม่ช้า แต่พี่สาวคนนี้ของพวกเธอก็ยังมีความสุขดั่งที่พี่สาวคนโตผู้จากไปปรารถนาอยากให้เป็น

 

หลายครั้งที่อาโออิร่ำไห้เมื่อเห็นเลือดซึมออกตามมุมปากอดีตเสาหลักแมลง หลายครั้งที่คานาโอะพยายามอ้อนวอนให้ชิโนบุยอมรับการรักษา ทุกครั้ง เธอก็ได้แต่ส่ายหัวปฏิเสธคนทั้งคู่ด้วยรอยยิ้ม

 

“ไม่มีประโยชน์หรอก มากสุดก็คงได้แค่ประคับประคองอาการไม่ให้มันทรมานไปมากกว่านี้ก็เท่านั้น”

 

“แต่... ท่านชิโนบุคะ อย่างน้อยลองยาพวกนี้หน่อยจะได้ไหม”

 

“อาโออิ คานาโอะ ฉันศึกษาเรื่องพวกนี้มานานแล้ว มันไม่ใช่เรื่องของการถูกพิษโดยทันที แต่ร่างกายของฉันสะสมพิษพวกนี้มาเป็นปี ๆ แล้วพอเปิดปาน... มันก็เป็นการเร่งเวลาให้ร่างกายดูดซึมพิษพวกนี้มากขึ้น”

 

ชิโนบุเอ่ยด้วยท่าทีสงบ ร่างเล็กของเธอซูบผอมลงไปทีละน้อย หากก็เป็นสิ่งที่เธอคาดการณ์และเตรียมใจไว้เป็นที่เรียบร้อย

 

ความสงบที่เกิดจากการเตรียมใจมาเป็นเวลานานแสนนาน... นานนับตั้งแต่เธอเลือกที่จะเข้าหน่วยพิฆาตอสูร ไม่แยแสคำท้วงติงของฮิเมจิมะ เกียวเม ชายผู้ช่วยชีวิตเธอและคานาเอะไว้ ทางเลือกที่เธอรู้ว่าจะเต็มไปด้วยหนทางแห่งความเจ็บปวด หากความแค้นที่มีก็ทำให้เธอฝืนทนต่ออุปสรรค เอาชนะขีดจำกัดของกายภาพมาได้

 

แม้จะแลกด้วยชีวิตของเธอที่ต้องดับสูญเร็วกว่าเวลาอันควรก็ตาม

 

“อาจารย์... ไม่สิ พี่ชิโนบุ อย่างน้อยก็ขอให้ลองสักหน่อยจะได้ไหมคะ”

 

นัยน์ตาสีชมพูอ่อนที่ละม้ายคล้ายพี่สาวผู้จากไปทอดมองอย่างอ้อนวอน หากเป็นคำอ้อนวอนที่เธอได้แต่ส่ายหัวปฏิเสธ

 

“ไม่ล่ะ ยอมรับความจริงกันดีกว่านะ อาโออิ คานาโอะ” ชิโนบุเอ่ยอย่างสุขุม ก่อนจะดึงตัวน้องสาวต่างสายเลือดมากอดไว้ “ฉันเตรียมใจมานานแล้ว นี่เป็นหนทางที่ฉันเลือกเอง”

 

“แต่... ฉัน... ไม่อยากให้ท่านชิโนบุต้องตาย... เราสองคนไม่อยากเสียพี่สาวของเราไปอีกคนนะคะ”

 

น้ำตาของอาโออิไหลเป็นสายจนชุ่มบ่าของเธอ ขณะที่คานาโอะ แม้จะไม่มีคำพูดอะไร หากน้ำตาที่หยดหยาดแล้วหยาดเล่าและมือที่สั่นสะท้าน ก็สะท้อนความเจ็บปวดที่เกินกว่าจะกลั่นออกมาได้เป็นคำพูด หากหญิงสาวสูงวัยกว่ากลับทำได้เพียงยิ้มอย่างอ่อนโยน กระชับอ้อมกอดของเธอไว้แน่นที่สุดเท่าที่เธอจะมีแรงไหว

 

“ดีใจจัง... ได้เห็นอาโออิและคานาโอะเรียกฉันว่าพี่แบบนี้... ถ้าท่านพี่ยังอยู่ต้องดีใจมากแน่” ชิโนบุกระซิบเสียงแผ่ว สะกดกลั้นก้อนสะอื้นที่จุกอยู่ตรงลำคอไว้ “ฉันดีใจนะ ที่ได้เห็นอาโออิมีความสุขกับชีวิตมากขึ้น แล้วก็เห็นคานาโอะแสดงอารมณ์ของตนเองออกมาได้เสียที”

 

เธอปล่อยให้เด็กสาวทั้งสองร่ำไห้อยู่บนบ่าของเธออีกครู่ใหญ่ ก่อนจะผละออกจากอ้อมกอดของคนทั้งคู่ที่โอบรัดเธอแน่น มือขาวซีดเอื้อมไปสัมผัสศีรษะของอาโออิและคานาโอะอย่างแผ่วเบา สัมผัสที่เต็มไปด้วยความอ่อนโยน ส่งต่อความห่วงใยต่อน้องทั้งสองที่จะต้องเผชิญหน้ากับความจริงบนโลกใบนี้ต่อไป... หลังจากที่เธอจากไปแล้ว

 

“ฉันเคยหงุดหงิดที่อาโออิไม่ยอมเรียกฉันว่าพี่... แล้วก็หงุดหงิดที่คานาโอะไม่ยอมแสดงอารมณ์ หากท่านพี่ก็บอกแต่เพียงว่าไม่เป็นไร คงต้องให้เวลากับน้องทั้งสอง” เป็นครั้งแรกที่ชิโนบุเอ่ยถึงคนที่จากไปได้โดยปราศจากความโกรธแค้นหรือความเจ็บปวดปะปนดั่งที่เป็นมาตลอดหลายปี “รอจนกว่าวันที่ทั้งคู่จะได้พบเจอกับคนที่ชอบ เมื่อนั้นทั้งสองก็จะเปิดใจและเปลี่ยนไปเอง”

 

ถ้อยคำที่คานาเอะทิ้งท้ายไว้หลายครั้ง คำที่ชิโนบุเองไม่เคยเข้าใจ จนกระทั่งมีใครคนหนึ่งก้าวเข้ามากลางหัวใจของเธอโดยไม่ทันรู้ตัว

 

นัยน์ตาสีม่วงหันไปสบนัยน์ตาสีครามของคนที่นั่งอยู่ไม่ห่าง หากแววตาที่มองสบมาแม้จะฉายแววอาวรณ์ไม่ต่างจากน้อง ๆ ของเธอ แต่ก็เต็มไปด้วยความอ่อนโยนและความรักที่เขาผู้นั้นสงวนไว้ให้เธอเพียงคนเดียว ท่าทีที่ทำให้เธออดไม่ได้ที่จะคลี่ยิ้มออกมา ก่อนจะหันกลับไปเผชิญหน้ากับน้องสาวต่างสายเลือดทั้งสองต่อ

 

สิ่งเดียวที่ฉันเสียใจ คือการที่ไม่ได้อยู่ทันเห็นซึมิ คิโยะ นาโฮะเปลี่ยนไปแบบนี้ แต่ฉันก็ดีใจว่าน้อง ๆ ทุกคนคงจะได้อยู่ในโลกที่แสนสงบสุขนี้ต่อไป ได้เจอคนที่รัก ได้ใช้ชีวิตอย่างมีความสุขไปจนสิ้นอายุขัย อย่างน้อยฝันของพี่และพี่คานาเอะก็ได้เป็นจริงข้อหนึ่งแล้วล่ะ”

 

“ไม่ใช่แค่ความรักหรอกค่ะ...”

 

คำพูดของคานาโอะเรียกนัยน์ตาของคนในห้องให้หันไปมองเธอเป็นสายตาเดียว เพราะเมื่อก่อน ไม่มีวันที่เด็กสาวผู้นี้กล้าที่จะพูดออกมาได้อย่างนี้

 

“แต่เพราะพวกเราคือครอบครัวเดียวกันค่ะ... ที่พี่ชิโนบุพยายามทุกอย่างก็เพราะพี่คานาเอะ ที่อาโออิและหนูเปลี่ยนแปลงไปได้ขนาดนี้ ก็เพราะพี่ทั้งสองเช่นกัน”

 

คานาโอะว่าพลางเอื้อมมือมากอบกุมมือผอมบางซีดเผือดของคนสูงวัยกว่าไว้แน่น ขณะที่อาโออิพยักหน้าเป็นเชิงสนับสนุนคำพูดของคนที่อ่อนวัยกว่าไม่มากนัก

 

นัยน์ตาของชิโนบุหันไปมองป้ายวิญญาณของอดีตเสาหลักบุปผาที่ตั้งอยู่บนหิ้ง หากภาพเริ่มพร่าเลือนด้วยหยาดน้ำที่เอ่อคลอนัยน์ตาทั้งสองข้าง

 

“ขอบใจมาก...” เธอเอ่ยเสียงเครือ พลางกะพริบตาไล่หยาดน้ำตาให้เลือนหายแล้วเอ่ยด้วยน้ำเสียงสดใส “ถ้าให้ดี พี่ก็อยากอยู่ทันเห็นทั้งสองได้เป็นเจ้าสาวนะ”

 

ภาพของหญิงสาวสามคนที่ไม่มีความสัมพันธ์กันทางสายเลือดนั่งจับมือกันแน่น เรียกรอยยิ้มให้ปรากฏบนใบหน้าของกิยู ด้วยรู้ดีว่าหนึ่งสิ่งที่คนรักของเขายังเป็นห่วงอยู่ ก็คือครอบครัวที่เหลืออยู่แห่งนี้ ไม่ต่างจากที่เขาเป็นห่วงสองพี่น้องคามาโดะ

 

ไหนจะเซนอิทซึและอิโนะสุเกะ ชายหนุ่มอีกสองคนที่ทั้งเขาและชิโนบุเอ็นดูไม่ผิดแผกกับน้องชายแท้ ๆ

 

ถึงจะเสียดายที่คงไม่ได้อยู่จนเด็กเหล่านี้เติบใหญ่เต็มตัว แต่ทั้งเขาและชิโนบุก็ดีใจที่ได้เห็นเด็ก ๆ เหล่านี้ได้มีโอกาสใช้ชีวิตอยู่ในโลกใบนี้ได้ต่อไปอีกนานแสนนาน...

 

ได้พบคนที่รัก... ได้ครองคู่กันไปจนตราบสิ้นอายุขัยของอีกฝ่าย...

 

เหมือนกับที่พวกเขาทั้งสองคงจะได้ใช้ร่วมกัน...

 

วันเวลาแห่งความผาสุกและความสงบผ่านไปรวดเร็วเช่นเดียวกับฤดูกาลที่แปรผัน ฤดูใบไม้ผลิมาเยือนพร้อมกับความสัมพันธ์ระหว่างเด็ก ๆ ที่พวกเขาเฝ้ารอเบ่งบานงดงาม ประกายในนัยน์ตาของอาโออิและคานาโอะยามมาเยือนพี่สาวคนรองยังคฤหาสน์วารีของกิยูบ่งบอกได้ว่าบัดนี้ทั้งสองมีความสุขกับเส้นทางเดินใหม่ในชีวิตหลังจากจบภารกิจการเป็นนักล่าอสูร เช่นเดียวกับสีหน้าของคามาโดะ เนซึโกะ ที่สดใสไม่แพ้กัน

 

หลายครั้งที่พวกเขาแอบลอบมองเด็กสาวทั้งสามที่ชิโนบุรักไม่ต่างจากน้องในไส้ สองคนที่ผ่านความสูญเสียด้วยกัน และอีกหนึ่งที่เป็นดั่งแสงสว่างท่ามกลางความสิ้นหวังมืดมนในตอนนั้น หากเส้นทางอันแสนยากเย็นที่แต่ละคนได้ก้าวข้ามผ่าน และคนที่คอยอยู่เคียงข้างเด็กสาวทั้งสาม ทำให้คนทั้งคู่ต่างมองด้วยความวางใจ ว่าเด็กที่พวกเขารักจะสามารถมีชีวิตอยู่ต่อไปได้ภายหลังจากที่พวกเขาลาโลกนี้ไปในไม่ช้านี้...

 

เว้นไว้เพียงหนึ่งคน... อีกหนึ่งเสาหลักที่รอดชีวิตจากศึกสุดท้ายมาได้ ผู้เฝ้ามองภาพเหล่านั้นด้วยความไม่ชอบใจเท่าไรนัก...

 

เลิกทำสีหน้าแบบนั้นได้แล้วนะคะซาเนมิซัง”

 

“จุ้นน่า!”

 

อดีตเสาหลักวายุได้แต่มองความสัมพันธ์ที่เจริญเติบโตเป็นความรักด้วยแววตาไม่สบอารมณ์ หากชิโนบุก็ได้แต่แสยะยิ้มพลางส่ายหน้าไปมาเป็นเชิงยั่วโมโหอีกฝ่าย

 

“คราวนี้เข้าใจที่ฉันหงุดหงิดเวลาคุณอยู่กับท่านพี่ของฉันแล้วสินะคะ...”

 

“เหอะ... ไอ้พวกเด็กเมื่อวานซืน”

 

“แหม ๆ พวกทันจิโร่คุงก็อายุเท่า ๆ กับคุณตอนนั้นนั่นแหละค่ะ”

 

ชิโนบุยกข้อเท็จจริงที่อีกฝ่ายไม่อาจหาเหตุผลใดมาโต้เถียงได้ จนได้แต่เดาะลิ้นไปมาด้วยความไม่ชอบใจต่อภาพที่เห็น

 

“แต่ละคนเอาตัวเองยังเกือบไม่รอด แล้วจะมีปัญญามาปกป้องอะไรยัยเด็กซึยูริและยัยเด็กคันซากินั่นหา ยิ่งไอ้เด็กหัวเหลืองนั่น! ขี้ขลาดตาขาว เอะอะอะไรก็แหกปากไว้ก่อน คนที่อยู่ด้วยคงหนวกหูตายก่อนพอดี”

 

“เอ... ก็ยิ่งไม่ต่างอะไรกับซาเนมิซังเลยนะคะ เดี๋ยวก็เจ็บตัวกลับมา คุณน่ะเอะอะก็ถูกหามมาเป็นคนไข้ของคฤหาสน์ผีเสื้อมากที่สุดในบรรดาเสาหลักทุกคนเลยนะคะ”

 

“เหอะ! ยังกับเจ้าโทมิโอกะไม่มาที่บ้านเจ้าบ่อย!”

 

“แต่ข้า... ไปทำแผลกับเอายานะ ไม่ได้นอนค้างบ่อยแบบชินาซึงาวะนี่”

 

กิยูตอบเสียงเบาที่เรียกเสียงหัวเราะลั่นจากหญิงสาวร่างเล็ก ความหลังที่ทำให้ซาเนมิได้แต่ถอนหายใจ แล้วแหงนหน้ามองดอกซากุระที่บานสะพรั่งไปทั่วคฤหาสน์ผีเสื้อ ดอกไม้ที่เป็นดั่งตัวแทนของสตรีที่อยู่ในหัวใจ ที่แม้จะผ่านมานานแสนนาน เขาก็ไม่อาจลืมเลือนช่วงเวลาแสนสั้นแต่เต็มเปี่ยมด้วยความหมายไปได้แม้แต่วันเดียว

 

ความสูญเสียที่กรีดแทงจิตใจของชายหนุ่มให้แหลกสลายเป็นผุยผง จนไม่อาจมาเหยียบคฤหาสน์ผีเสื้อได้หลังจากเธอผู้นั้นจากไป เว้นแต่วันที่เขายอมละทิ้งทิฐิที่มีเพื่อมาเยี่ยมน้องชายคนเดียว สมบัติล้ำค่าที่เหลืออยู่หนึ่งเดียวในตอนนั้น...

 

สิ่งมีค่าซึ่งสุดท้ายเขาก็รักษาไว้ไม่ได้...

 

มาวันนี้ ความเจ็บปวดในจิตใจจางหายไปจนเกือบหมด คงเหลือแต่ความอาวรณ์ถึงเหล่าคนที่จากโลกนี้ไป กับความสุขของการที่ได้รำลึกถึงความหลังและความทรงจำอันแสนล้ำค่า ด้วยรู้ดีว่าอีกไม่นานเกินรอ การรอคอยอันแสนยาวนานของเขาก็จะจบลง... และเขาพร้อมจะเจอกับคนสำคัญที่จากไปด้วยรอยยิ้ม และเรื่องเล่าถึงโลกอันแสนสงบสุขใบนี้ให้ทั้งคานาเอะ เกนยะ มาซาจิกะ มารดา และน้อง ๆ ได้ฟัง

 

หากยังเหลืออยู่ไม่กี่สิ่งที่เขาต้องจัดการทำให้เรียบร้อยก่อนที่วันแห่งการรอคอยจะมาถึง... สิ่งสำคัญที่คานาเอะฝากฝังไว้กับเขา... และเป็นเหตุให้เขาต้องมาเหยียบบ้านของอดีตคนที่เขาเหม็นขี้หน้ายิ่งกว่าอะไรดี

 

“ว่าแต่เจ้า... สบายดีนะ

 

“แหม ๆ ถามแต่คำถามแบบนี้ คุณไม่เบื่อบ้างเหรอคะซาเนมิซัง”

 

ชิโนบุได้แต่ยิ้ม สะกดความตื้นตันเอาไว้ในอก เพราะตลอดระยะเวลาที่พี่สาวของเธอล่วงลับไป ชายผู้นี้ก็เพียรทักทายเธอด้วยคำถามเหล่านี้มาโดยตลอด

 

ตอนแรกเธอไม่เคยเข้าใจว่าทำไมคนผู้นี้ถึงได้เอาแต่ถามประโยคเดิมกับเธอซ้ำซาก ทั้งที่อีกฝ่ายแทบไม่ยอมพูดถึงชื่อพี่สาวของเธอให้ได้ยินอีกเลย

 

จนถึงก่อนการฝึกของเสาหลัก... เหตุผลทุกอย่างถึงถูกไขกระจ่าง ทั้งท่าทีบ้าระห่ำที่ทวีคูณขึ้นตั้งแต่อดีตเสาหลักบุปผาจากไป ทั้งการที่อดีตเสาหลักวายุแทบไม่ยอมเฉียดกรายเข้าใกล้คฤหาสน์ผีเสื้อตลอดระยะเวลากว่าสี่ปี

 

เพราะผู้ชายคนนี้ก็เหมือนเธอ... เจ็บปวดกับการสูญเสียคนที่เป็นยิ่งกว่าแสงสว่างของพวกเขา หากแสดงออกด้วยหนทางที่ต่างกัน

 

“เหอะ! ซูบไปขนาดนี้ ไม่ต้องถามข้าก็รู้ดี!” ชายหนุ่มพ่นลมก่อนจะเขยิบหันหน้ามาประชันกับสตรีที่กึ่งนั่งกึ่งนอนอยู่บนฟูก ความซีดเซียวของเจ้าหล่อนปรากฏเด่นชัดยิ่งกว่าก่อนเริ่มต้นศึกสุดท้ายเสียอีก “เห็นว่าเจ้าไม่ยอมทานยา”

 

ดั่งที่ท่านพี่ของเธอว่า... ไม่ว่าเวลาจะล่วงเลยไปนานแค่ไหน ชินาซึงาวะ ซาเนมิ ยังคงเป็นผู้ชายบ้าเลือดที่แท้จริงอ่อนโยนยิ่งกว่าใคร เนื้อแท้ตัวตนที่คานาเอะเห็นมานานแสนนาน และรักเขาผู้นั้นด้วยเหตุผลดังกล่าว

 

“แหม ขนาดไม่ค่อยมาเยี่ยมฉันบ่อย ยังอุตส่าห์รู้อีกนะคะ” ชิโนบุยังอดไม่ได้ที่จะเย้าเสียงใส สะกดความตื้นตันไว้ภายในใจ “กิยูซัง อาโออิ หรือคานาโอะบอกมาคะ”

 

“ทุกคน!” ซาเนมิย้ำเสียงนิ่ง ขณะเฝ้ามองน้องสาวร่วมสายเลือดของคานาเอะไอโขลก ๆ ออกมาขนานใหญ่ “เจ้าปล่อยให้เป็นอย่างนี้ได้อย่างไรหา”

 

ท่ามกลางดวงหน้าคร้ามคมด้วยรอยแผลเป็นพาดผ่านใบหน้า ความห่วงใยฉายชัดผ่านนัยน์ตาสีม่วงอ่อน สะท้อนให้เห็นสิ่งที่ซ่อนอยู่ในใจของชายผู้นี้ ที่ไม่ว่าผ่านไปนานแค่ไหน ก็คงมีความห่วงใยให้แก่น้องสาวของคนรักผู้จากไปอย่างท่วมท้น

 

“มันไม่มีประโยชน์แล้วล่ะค่ะ ฉันเองไม่แน่ใจว่าเสี่ยงกินยาในตอนนี้จะเป็นการกระตุ้นให้พิษดอกฟูจิในร่างกายของฉันทำงานได้ดีกว่าเดิมไหม... แต่ถ้าไม่ทำอะไร อย่างน้อยฉันก็คงมีชีวิตอยู่ได้ไปอีกระยะใหญ่ ๆ ค่ะ”

 

“...มันอาจจะไม่ได้เป็นอย่างที่เจ้าคิดก็ได้นะ”

 

“หรืออาจจะแย่กว่าที่ฉันคิดก็ได้ค่ะ ซาเนมิซัง” ชิโนบุตอบเรียบ ๆ ขณะยกชาเขียวที่กิยูส่งให้จิบ “เอาเป็นว่าฉันตัดสินใจมาดีแล้วละค่ะ”

 

ความเด็ดเดี่ยวที่ปรากฏเป็นที่ประจักษ์ทำอดีตเสาหลักวายุจนปัญญาที่จะสรรหาเหตุผลมาเกลี้ยกล่อมหญิงสาวตรงหน้าได้ ด้วยความจริงที่เขาทุกคนรู้อยู่แก่ใจ ว่าเวลาของชิโนบุคงจะเหลือไม่นานเท่าเขาหรือกิยู

 

หากเห็นรอยยิ้มสดใสของหญิงสาวที่ส่งให้ชายคนรัก ประกายแห่งความสุขที่ปรากฏเด่นชัดบนนัยน์ตาของคนทั้งสอง ก็ทำให้ซาเนมิได้แต่ต้องยอมรับการตัดสินใจของน้องสาวของเขาผู้นี้

 

กลีบดอกซากุระถูกลมพัดปลิวมาตกต้องมือของเขา ราวกับเป็นคำตอบจากคนที่รอเขาอยู่อีกภพภูมิ สายลมพัดไหวต้องกายอย่างอ่อนโยน ละม้ายคล้ายอ้อมกอดอันแสนอบอุ่นที่เขาคะนึงหา

 

คิดถึงท่านพี่อยู่เหรอคะ”

 

“อื้ม” ซาเนมิยอมรับ มือสากกร้านไล้กลีบดอกไม้ที่แสนบอบบางนั้นไว้อย่างทะนุถนอม “ทั้งพี่ของเจ้า ทั้งน้องของข้า เพราะอย่างนี้ข้าถึงอยากให้เจ้าได้ใช้ชีวิตอยู่ให้นานกว่านี้...”

 

“ยอมรับความจริงกันดีกว่าค่ะ ซาเนมิซัง” ชิโนบุเอ่ยอย่างนิ่มนวล ไม่ผิดแผกจากวันที่เขาเข้าไปเค้นเอาความจริงว่าเธอกำลังวางแผนอะไรอยู่ “ฉันอยากใช้ช่วงสุดท้ายของชีวิตฉันอย่างมีความสุขนะคะ”

 

“แน่ใจแล้วนะ...”

 

“ค่ะ ฉันแน่ใจแล้วค่ะ และฉันก็มีความสุขมากจริง ๆ” รอยยิ้มกว้างปราศจากการแต่งแต้มปรากฏบนใบหน้าซีดเซียวของหญิงสาว “ต้องขอบคุณซาเนมิซังนะคะที่เตือนสติฉันไว้ตอนนั้น อย่างน้อยตอนนี้ฉันก็ไม่มีอะไรที่ต้องเสียใจภายหลังแล้วค่ะ และฉันก็เข้าใจแล้วว่า ทำไมทั้งท่านพี่และคุณถึงอยากให้ฉันได้ใช้ชีวิตแบบนี้”

 

ท้ายสุด ความปรารถนาสุดท้ายของคานาเอะก็กลายเป็นจริง ความปรารถนาที่จะเห็นน้องทุกคนได้มีความสุขกับชายคนที่ตนรัก ได้มีโอกาสอยู่ในโลกอันแสนสงบสุขที่ปราศจากอสูรร้ายคอยคุกคาม

 

แม้จะเป็นช่วงเวลาอันแสนสั้นจนน่าใจหายก็ตาม

 

“ฉันเอง... อยากให้คุณกับท่านพี่ได้มีโอกาสใช้ชีวิตแบบฉันตอนนี้นะคะ”

 

“ข้า... ก็อยากให้คานาเอะได้เห็นกับตา... พี่สาวเจ้าคงมีความสุขมาก”

 

ซาเนมิว่าพลางเบือนหน้าหนีการรับรู้ของคนทั้งสอง เมื่อหัวตาของเขาแสบร้อนด้วยน้ำตาที่เพียรกลั้นไว้ ทั้งที่รับปากกับเธอผู้นั้นว่าเขาจะคอยเล่าความเป็นไปของทุกคนที่เธอรักให้เธอฟังในวันที่ทั้งคู่ได้กลับมาเจอกันอีกครั้งหนึ่ง...

 

แต่เขาก็อยากให้เธอได้เห็นมันกับตา ทั้งโลกที่ไม่มีอสูร ทั้งความสุขของน้องทุกคนของเธอ และทั้งอสูรที่อยู่ร่วมกับมนุษย์ได้

 

“ท่านพี่คงมีความสุขมากจริง ๆ ค่ะ ยิ่งได้เจอกับเนซึโกะจัง ท่านพี่คงต้องขอให้เนซึโกะจังมาเป็นน้องสาวอีกคนแน่เลยค่ะ” หญิงสาวว่าพลางยิ้มละไม “ว่าแต่ ตอนฉันไปเจอกับท่านพี่ คุณมีอะไรจะฝากถึงท่านพี่ไหมคะ”

 

คำพูดที่เรียกกิยูหันมองคนรักด้วยสีหน้าหวาดวิตก ลำแสงยามบ่ายสาดส่องต้องร่างของเธอ ขับเน้นความงดงามอันเปราะบางที่พร้อมจะแหลกสลายได้เพียงแค่พริบตา

 

ละม้ายคล้ายฝันอันแสนเลือนรางในห้วงความทรงจำส่วนลึก ที่เขาต้องทนเห็นภาพเธอจางหายไปต่อหน้าต่อตาทุกย่ำรุ่ง และลืมตาตื่นมาเจอกับโลกที่ไม่มีเธอคนนี้...

 

“พูดบ้าอะไรหา!” อดีตเสาหลักวายุตะคอกเสียงหลง หากใบหน้านั้นซีดเผือดไม่แพ้อดีตเสาหลักวารีผู้นั่งอยู่ไม่ห่าง “ถ้ามีอะไร... ข้าจะไปพูดกับคานาเอะเอง เจ้าน่ะนอนพักไปเลยไป!”

 

ชิโนบุได้แต่ยิ้ม ขณะเอนร่างตามการประคองของกิยูลงกับฟูก นัยน์ตาสีม่วงเข้มทอดมองสายลมพัดปลิวกลีบดอกซากุระให้ฟุ้งกระจายไปทั่วบริเวณไว้ ราวกับจะเก็บประทับไว้ในความทรงจำ

 

เพราะนี่คงเป็นครั้งสุดท้าย ที่เธอจะได้เห็นดอกซากุระบานในชาติภพนี้...

 

พอเข้ากลางฤดูร้อน ชิโนบุก็แทบไม่เหลือเรี่ยวแรงที่จะเดินทางไปยังคฤหาสน์ผีเสื้อหรือเยี่ยมเยียนอุซุยและซาเนมิได้อีกต่อไป... แต่เธอยังพอจะลุกขึ้นมานั่งต้อนรับน้อง ๆ และอดีตสองเสาหลักที่ผลัดเวียนคอยมาเยี่ยมเยียนด้วยรอยยิ้มกว้างแทบทุกวัน

 

หากเมื่อสิ้นสุดฤดูใบไม้ร่วง เธอก็ไม่เหลือแม้แต่กำลังที่จะลุกนั่งเองได้... บ่งบอกถึงห้วงเวลาสุดท้ายที่ใกล้เข้ามาทุกที

 

ห้วงเวลาที่เขาและคนอื่น ๆ ไม่ปรารถนาให้มาถึง...

 

[TBC]

===========

Author's Talk 06 FEB 2022

สวัสดีค่า มาลงดึกกว่าที่แจ้งไว้ (มาก) แต่ก็จบกันไปกับบทที่ 7.2 แล้วนะคะ ^^

จริง ๆ บทนี้พามาครบคู่เลยนะคะ บ้านผีเสื้อมากันครบทีม ไหนจะพี่สาอีก แต่นั่นแหละค่ะ ช่วงตอนซุ่มเขียนบทนี้เลยพบว่าบทนี้ยากจริง ๆ หินกว่าที่เราแพลนไว้มากเลยค่ะ

(และก็ยาวกว่าที่เราคิดไว้ด้วย 5555)

ว่าแต่มีใครเดาถูกไหม ว่าเรื่องมันจะมาโทนนี้... เหมือนรู้สึกพาทุกคนไปนั่งรถไฟเหาะเล่นอีกแล้วค่ะ ฮี่ ๆ แล้วจะพอมีคนเริ่มเดาได้ยังคะ ว่าโทนเรื่องตอนพิเศษ 7.3 จะไปในเวย์ไหนต่อ...

แต่อย่างที่เราบอกตั้งแต่ตอนก่อนเนอะ จริง ๆ เราทิ้งคำใบ้รายทางไว้เยอะมากเลยค่ะ ทั้งจากชื่อบท หรือจากอะไรที่เราเขียนไว้นั่นแหละ

เพียงแต่... มันจะไปสุดทางอย่างที่ทุกคนเดาถูกไหมก็อีกเรื่องนะคะ ^^ แต่ยังอยากย้ำว่า ตัวเราชอบเขียนอะไรโยงไปโยงมากันค่ะ

ในขณะที่ทุกท่านอ่านตอนนี้อยู่ จะบอกว่า ตอนพิเศษ 8 เสร็จแล้วค่า ฮื้อออ Finally หลังจากดีเลย์มาเดือนกว่า ใครตามทวิตน่าจะเห็นเราบ่นเรื่องงานนะคะ เอาว่ามันสาหัสยิ่งกว่าปีที่ผ่านมาอีกค่ะ อะอึก

แถม... ได้มีประสบการณ์กักตัวครั้งแรกค่ะ พอดีคุณน้าติดโควิด บ้านเราเลยเสี่ยงสูงทั้งบ้าน แต่ข่าวดีคือ วันนี้ผลของน้าชายออกมา ไม่พบเชื้อแล้วค่ะ ฮื้ออออ โล่งใจไปหน่อย

ทีนี้ก็เหลือการรีไรท์บางส่วน พรูฟเล่ม จัดหน้า และส่งโรงพิมพ์ซักทีค่ะ ฮื้อ หนทางยังอีกยาวไกลก็จริง แต่ก็เห็นฝั่งฝันขึ้นทุกทีนะคะ

หากใครยังอยากสนใจเก็บเล่มนี้ไว้ ยังสามารถสั่งได้อยู่ค่า รายละเอียด จิ้มดูรายละเอียดและกรอกแบบฟอร์ม ได้ที่นี่ เลยค่ะ ถ้าหมดงวดนี้ คงต้องรอพรีพร้อมกับ KNY FF - In The Remembrance of Her อีกรอบเลยนะคะ

แต่ใครที่งบจำกัด อยากให้เซฟงบสำหรับโปรเจค Anthology Days Rise, Nights Fall ที่เราทำร่วมกับคุณสายป่าน (Saiparnn) คุณอันย่า (Rukaetcetera) และคุณฟ้า (FAHSKY) นะคะ โดยคงจะเปิดพรีช่วงปลายเดือนมีนาคม 2565 ค่ะ

ฝากติดตามรายละเอียดได้ที่ twitter : @butterflyantho หรือในทวิตเตอร์ของพวกเราได้ค่ะ โดยพวกเราจะค่อย ๆ ปล่อยรายละเอียดออกมาทุกวันเสาร์ เวลา 20.55 น. ไปจนส่งรายละเอียดเล่มเลยนะคะ ^^ ถ้าแวะเข้าไป จะเห็นสปอยแกนเรื่องฟิคซาเนคานาของเราที่ปล่อยออกมาตั้งแต่เสาร์ที่แล้วละค่ะ ^^

อย่างไรแล้ว พบกับตอนพิเศษ 7.3 อีกที ราว ๆ วันที่ 19-20 กุมภาพันธ์ 2565 นะคะ วีคหน้าเราจะวุ่นกับการพาคุณแม่ไปตรวจหัวใจ (และอาจทำบอลลูนไปพร้อมกันเลย) กับน่าจะมีพรีเซนต์งานใหญ่ของออฟฟิศที่เราถวายวิญญาณมาตั้งแต่เดือนตุลาคม 2564 ที่ผ่านมาค่ะ

เย่ส หนึ่งในสาเหตุที่เรายุ่งมาก ๆ นี่แหละค่ะ แต่เราดีใจนะคะที่ทำงานนี้ออกมาจนสำเร็จ เป็นการท้าทายงานเราครั้งใหญ่เลยค่ะ แต่ก็เสียใจที่กระทบกับเวลาเขียนฟิคไปมากอยู่เหมือนกัน

ท้ายสุดนี้ เราต้องขอขอบคุณทุกการสนับสนุน ทุกกำลังใจ ไม่ว่าจะทางเมนต์ ทางหน้าไมค์ ทางหลังไมค์นะคะ ขอบคุณที่คอยห่วงสุขภาพเรากันค่ะ ^^ ขอบคุณที่ให้กำลังใจกันเสมอนะคะ เราดีใจมากจริง ๆ ที่ได้เจอกับคนอ่านทุกคนค่ะ

แล้วพบกับตอนที่ 7.3 ในช่วงวันที่ 19-20 กุมภาพันธ์ 2565 นะคะ ^^

Author's Talk 11 JUN 2022

สวัสดีค่า วันนี้มาเลท ๆ หน่อย พอดีมีธุระข้างนอก กับติดตามสถานการณ์การชุมนุมหน่อยค่ะ แต่ก็กลับมาถึงคิวลงฉบับ Rewrite สำหรับรวมเล่มนะคะ เพื่อให้เนื้อหาออกมาสมบูรณ์ที่สุดเท่าที่เราจะทำได้ค่ะ

อย่างที่บอกไว้ตั้งแต่ตอนพิเศษ 7.1 ค่ะ บทนี้เป็นบทที่เกลาสำนวนและคำผิดเกือบจะเยอะที่สุดเลย ไม่รู้มีใครสังเกตความเปลี่ยนแปลงจากดราฟแรกไปบ้างไหมนะคะ ^^

แต่ที่แน่ ๆ เราก็ยังคงชอบปฏิสัมพันธ์ระหว่างพี่สากับคุณชิค่ะ ฮื้อ พี่เอะที่อยู่บนสวรรค์คงยิ้มอย่างมีความสุขแล้วล่ะค่ะ

งานเรายังคงลั่นได้อีกค่ะ ลั่นจนเรียกได้ว่าก่อเกิดตำนานบทใหม่ให้เด็กใหม่เลื่องลือค่ะ ^^" อย่าได้ตกใจกับโหมด on-off ใน twitter นะคะ แต่ยอมรับเลยว่ากระทบกับตารางงานที่เราวางแพลนจะปิดเล่มพี่สาพี่เอะให้ได้ในเดือนนี้เลย ถ้าไม่ทันจริง ๆ จะรีบแจ้งให้ทราบนะคะ

ส่วนเรื่องพรีเล่ม จนกว่าจะส่งโรงพิมพ์ ก็ยังสามารถสะกิดสั่งได้เรื่อย ๆ ค่ะ กับจริง ๆ หลังส่งโรงพิมพ์ เราก็คงมีสั่งเกินมาจำนวนหนึ่งค่ะ เผื่อใครอยากเก็บเป็นที่ระลึก (แต่อย่าลืมดูความจำเป็นเบื้องต้นของตัวเองด้วยนะคะ)

 

ลองดูเล่มตัวอย่างได้จากที่เราอัพเดท หรือในเทรดทวิตเตอร์นี้นะคะ

แล้วก็ ใครที่มีความสนใจอยากเก็บฟิคเล่มนี้ รวมถึง KNY FF - In The Remembrance of Her #แด่เธอในความทรงจำนิรันดร์ เป็นที่ระลึก ตอนนี้เราเปิดพรีฟิคอีกรอบค่ะ โดยสามารถดูรายละเอียดเบื้องต้นของรวมเล่มทั้งสองเล่ม ฉบับปรับปรุงล่าสุด 16 APR 2022 มาให้ได้ศึกษานอกเหนือจากตัวฟิคที่สามารถอ่านตอนหลังได้ใน ReadAWrite | Dek-D | ReadHaus นะคะ

รายละเอียด KNY FF - In Time With You #ห้วงเวลาของเราสอง (Tomioka Giyuu x Kochou Shinobu)

รายละเอียด KNY FF - In The Remembrance of Her #แด่เธอในความทรงจำนิรันดร์ (Shinazugawa Sanemi x Kochou Kanae)

ถ้าสนใจ จิ้มลิงค์สั่งจองด้านล่างได้เลยค่ะ หรือดูรายละเอียดพร้อมกรอกแบบฟอร์มได้ที่นี่นะคะ [Link]

แต่ทั้งนี้ ใครไม่สะดวกไม่เป็นไรนะคะ รับรองได้อ่านเนื้อหาเหมือนเดิม และในรูปแบบ Rewrite เหมือนกันค่ะ เพียงแต่อาจจะได้อ่านตอนพิเศษช่วงท้ายหลังจากเราส่งเล่มล็อตแรกนะคะ

หรือจะรอไปเก็บรอบงาน Comic Avenue ก็ได้เหมือนกันค่า จริง ๆ อยากปั่นเล่ม KNY FF - The Tales of Butterfly Effects ให้ทันเหมือนกัน แต่ดูจากปริมาณงานแล้ว... ตอนนี้มั่นใจว่าเล่มนี้คงไม่ทันงาน CA แล้วค่ะ Y_Y เสียดายเหมือนกัน แต่งานดันมา worst case scenario กว่าที่เราคิดค่ะ

แล้ววันพุธนี้ มาพบกับตอนพิเศษ 7.3 ฉบับรีไรท์นะคะ น่าจะมาค่ำ ๆ หน่อย มีไปกายภาพบำบัดตอนเย็นค่ะ ^^" อย่าลืมดูแลสุขภาพกันด้วยนะคะ แล้วพบกันค่ะ