16 ตอน Special Chapter 05.2 - Gze Off Into The Starry Night (II)
โดย rene_recluse
[KNY FF] - In Time With You
Special Chapter 05 - Gaze Off Into The Starry Night (II)
ปล. เนื่องจากบทนี้ยาว เลยขออนุญาตแบ่งลง 2 ตอนนะคะ
1st Published : 04 DEC 2021
Rewrite : 28 MAY 2022
===========
“ข้ามาไม่ได้เหรอ...”
ถ้อยคำตัดพ้อที่ทำร่างเล็กชะงัก หันขวับกลับไปมองหน้าชายผู้นั้นอย่างเต็มตาเป็นครั้งแรกในรอบสองอาทิตย์ ท่าทีสลดที่ทำกำแพงหัวใจอ่อนยวบ กระนั้น ใจเจ้ากรรมก็ยังไหวสั่นอย่างไม่อาจควบคุมได้
อาการที่เธอไม่อาจหาสาเหตุได้ นับตั้งแต่คานาเอะเอ่ยเย้าถึงความสนิทสนมที่เธอมีให้เป็นพิเศษกับคนผู้นี้
อาการที่เธอไม่เข้าใจเหตุผล หากเพียงสิ่งเดียวที่ชิโนบุรู้ได้
มีบางสิ่งในจิตใจของเธอ... ที่แปรเปลี่ยนไป
“เปล่าค่ะ... ไม่ใช่มาไม่ได้” เด็กสาวตอบแผ่วเบา หลังสูดหายใจเข้าออกเพื่อให้ดวงใจเจ้ากรรมสงบลง แม้จะไม่สำเร็จเท่าไรก็ตาม “เพียงแต่ฉันเห็นว่าเสาหลักอย่างท่านพี่หรือคุณมีหน้าที่ต้องทำแทบจะทุกวัน... อ๋อ ไม่นับชินาซึงาวะซังนะคะ รายนั้นต่อให้ยุ่งแค่ไหนก็ถ่อมาถึงที่นี่ได้ตลอด”
“แหม ๆ แต่พอพี่บอกว่าโทมิโอกะคุงแวะมาตอนที่ชิโนบุออกไปข้างนอก ชิโนบุก็บ่นอุบอิบใหญ่เลยไม่ใช่เหรอจ๊ะ”
“ท่านพี่คะ!”
เด็กสาวแหวเสียงดังอย่างลืมตัว ท่าทีที่แสดงออกมายิ่งทำให้คนหน้านิ่งขมวดคิ้วอย่างเป็นกังวล... ด้วยสีหน้าแดงก่ำผิดสังเกตที่สร้างความกังวลจนต้องถ่อมายังคฤหาสน์ผีเสื้อเป็นครั้งที่สามในรอบสัปดาห์
“สบายดีนะ?!”
“คะ?!”
เสียงใสทวนคำถามที่โพล่งออกมาอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย ก่อนนัยน์ตาคู่โตจะเบิ่งกว้างเมื่อพบว่าเสาหลักวารีเคลื่อนกายมาประชิดเจ้าหล่อนตั้งแต่เมื่อไรไม่รู้
ไม่ทันจะเขยิบหนีหรือเปล่งเสียงห้าม มือใหญ่ก็แตะยังหน้าผากของเธอเข้าจัง คิ้วเข้มของกิยูขมวดมุ่นยามสัมผัสได้ถึงไอร้อนที่แผ่ซ่านมาจากคนตรงหน้า
“ตัวร้อน...” เขาเอ่ยเนิบ ๆ หลังจากวัดไข้อีกฝ่ายด้วยวิธีเดียวกับที่พี่สึทาโกะคอยทำเวลาเขาไม่สบายเมื่อครั้งเยาว์วัย “ไม่สบายเหรอโคโจ”
“โทมิโอกะซัง เอามือออกค่ะ!” เด็กสาวแหวเสียงลั่น พลางถอยหนีออกจากการรุกรานของคนตรงหน้า “ฉันสบายดีค่ะ”
“ถ้าสบายดี... แล้วทำไมถึงหน้าแดงล่ะ”
คำถามที่คนฟังสองคนมีปฏิกิริยาตอบสนองแตกต่างกันออกไป คนพี่ได้แต่อมยิ้มราวกับเฝ้ารอคำถามนี้มานานแสนนาน ส่วนเด็กสาวเจ้าปัญหาได้แต่อ้าปากพะงาบ ๆ ไม่ผิดกับเจ้าฟุกุ ปลาทองที่เจ้าหล่อนเลี้ยงไว้
เป็นครั้งแรกที่ชิโนบุจนปัญญาที่จะตอบคำถามที่ได้รับได้ในทันที ด้วยหัวของเธอเต็มไปด้วยคำถามที่ติดค้างคาใจเธอมาตลอดสองอาทิตย์ที่ผ่านมา...
ด้วยเธอก็ไม่เข้าใจสิ่งที่เธอกำลังเป็น... ไม่เข้าใจความรู้สึกที่เธอกำลังรู้สึกอยู่...
เป็นครั้งแรกในชีวิตที่ชิโนบุไม่อาจบอกได้ว่า ตัวเองรู้สึกอะไร หรือกำลังต้องการอะไรอยู่กันแน่...
มีสิ่งเดียวที่เธอรู้... คือคนตรงหน้าต้องเป็นหนึ่งในต้นเหตุที่ทำให้เธอมีอาการแปลก ๆ อย่างที่เป็นตอนนี้!
ต้นเหตุของความวุ่นวายใจ ความเปลี่ยนไปดั่งที่ท่านพี่ของเธอเอ่ยเย้ามา
“ฉัน... อากาศคงร้อนค่ะ ฉันเพิ่งกลับจากข้างนอกมา” เธอแก้ตัวด้วยเหตุผลที่ฟังไม่เข้าท่า หากเป็นสิ่งเดียวที่เธอพอจะใช้ตอบคำถามและหลุดพ้นจากสถานการณ์พิลึกพิลั่นตรงหน้าได้ “ถ้าไม่มีธุระอะไรแล้ว ขอตัวก่อนนะคะ”
เด็กสาวจับยาที่จัดเตรียมเสร็จยัดใส่มือของอีกฝ่ายแล้วรีบรุดออกจากห้องโดยไร้ซึ่งคำลา ไม่ยอมแม้แต่จะมองใบหน้าของคนถือห่อยาที่ยืนชะงักงัน เป็นครั้งแรกที่ตัวกิยูรู้สึกเจ็บปวดในหัวใจอย่างหาสาเหตุไม่ได้...
หัวใจของเขาถูกบีบรัด แต่มันช่างต่างจากตอนที่รับรู้ว่าพี่สึทาโกะหรือซาบิโตะจากโลกนี้ไปอย่างไม่มีวันหวนกลับ...
หรือว่า...
“น้องเจ้า... เกลียดข้าเหรอโคโจ”
คำถามที่กลับเรียกเสียงหัวเราะจากเสาหลักบุปผา ด้วยสีหน้าจ๋องของเสาหลักวารีเป็นอะไรที่เธอเองก็ไม่คาดคิดว่าจะได้เห็น...
“ไม่หรอกค่ะโทมิโอกะคุง”
“ข้าทำอะไรผิดหรือเปล่า...”
“ไม่เลยค่ะ” คานาเอะตอบแทบจะทันที ก่อนจะคลี่ยิ้มสดใสยามเห็นนัยน์ตาที่มองกลับที่เต็มไปด้วยทั้งคำถามและความสงสัย “แต่ถ้าจะถามว่าเพราะอะไร ฉันว่าโทมิโอกะคุงเห็นทีจะต้องเป็นฝ่ายถามชิโนบุเองนะคะ...”
ปริศนาที่คานาเอะทิ้งไว้ให้กิยูขบคิดก่อนที่จะเป็นฝ่ายเดินมาส่งเขาที่ประตูหน้าคฤหาสน์ผีเสื้อ ท่าทีของเสาหลักผีเสื้อทำให้เขารู้ดีว่าเธอเองนี่แหละที่เป็นฝ่ายรู้คำตอบดีกว่าใคร... และอาจจะรู้มากกว่าน้องสาวของเธอด้วยซ้ำ
“ไม่ต้องรีบร้อนก็ได้นะโทมิโอกะคุง ฉันเชื่อว่าชิโนบุเองก็คงไม่รู้ตัวเหมือนกัน”
ถ้อยคำส่งท้ายที่นำพาความปวดร้าววิ่งแล่นเข้าสู่จิตใจชายหนุ่มที่ยังคงทอดสายตามองท้องฟ้าต้นฤดูร้อนอย่างเหม่อลอย มือซ้ายข้างที่เหลือกดตรงตำแหน่งหัวใจที่บีบรัด ยามนึกถึงความโง่เขลาของตัวเองเมื่อห้าปีก่อน
เพราะคานาเอะเป็นฝ่ายย้ำเองว่าเขาไม่จำเป็นต้องรีบร้อนหาคำตอบ... เขาจึงปล่อยให้ทุกอย่างดำเนินไปตามที่มันเคยเป็นมา... โดยได้แต่คิดว่าหากมีจังหวะเมื่อไร เขาคงต้องถามชิโนบุให้คลายข้อสงสัยในใจให้จงได้
หากวันนั้น... ก็ไม่เคยมาถึง
และนั่น... ก็เป็นถ้อยคำสุดท้ายที่เจ้าของคฤหาสน์ผีเสื้อได้พูดไว้กับเขา...
ปริศนาที่เธอทิ้งไว้จึงถูกปิดตายอยู่ร่วมห้าปี ด้วยการจากไปอย่างกะทันหันของเสาหลักบุปผาผู้แสนอ่อนโยน การจากลาที่นำพาความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่มาสู่เด็กสาวผู้นั้น... จนเหมือนโคโจ ชิโนบุ คนที่เขารู้จักมาแรมปีได้ตายไปพร้อมกันเพียงชั่วข้ามคืน
ความแหลกสลายที่ตัวเขาเข้าใจดียิ่งกว่าใครแปรเปลี่ยนเด็กสาวผู้เต็มไปด้วยชีวิตชีวานั้นให้กลายเป็นสตรีนุ่มนวลเหมือนพี่สาวผู้จากไปของเธอ รอยยิ้มสดใสที่เคยมีให้เขาจางหายไป เหลือเพียงรอยยิ้มว่างเปล่าที่เธอเลือกใช้เพื่อพยุงชีวิตต่อไปให้ได้...
รอยยิ้มอ้างว้างที่ทำให้หัวใจของเขาเจ็บปวดยิ่งนัก...
เพราะตนมาช้าเกินไป เกินกว่าจะช่วยชีวิตของเสาหลักบุปผาไว้ได้...
ความเจ็บปวดของเขาและเธอ จึงทำให้ต่างฝ่ายต่างหลงลืมความสงสัยใคร่รู้ถึงความรู้สึกที่ทำให้ใจของตนเต้นไม่เป็นจังหวะ หลงลืมปริศนาที่คานาเอะได้ทิ้งไว้ให้ ด้วยจมกับความเจ็บปวดและความรู้สึกผิดที่ต่างฝ่ายต่างต้องแบกรับ...
กระนั้น จิตใต้สำนึกส่วนลึกของทั้งคู่ ยังคงโหยหาช่วงเวลาที่ทั้งสองได้ใช้ร่วมกัน ทำให้ตัวเธอที่แปรเปลี่ยนไปจนไม่เหลือเค้าเด็กผู้หญิงคนที่เขาเคยรู้จัก ยังคงแวะเวียนทักทายพูดคุยเขา และตัวเขาก็ไม่เคยคิดที่จะผลักไสเธอออกไป
เพราะลึก ๆ แล้ว ช่วงเวลาที่ได้อยู่ร่วมกัน แม้จะเป็นบทสนทนาเรื่องหน้าที่ของหน่วยพิฆาตอสูร ทั้งจะเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วย ทั้งจะฉันมิตร หรือกระทบกระทั่งกันบ้าง แต่ก็เป็นช่วงเวลาที่ชิโนบุได้มีโอกาสแสดงตัวตนที่ถูกกลืนหายออกมาให้ได้มากที่สุด และก็เป็นช่วงเวลาที่กิยูรู้สึกผ่อนคลายและเปิดใจ... ด้วยทั้งคู่ต่างโหยหาวันเวลาเก่า ๆ ที่ทั้งสองเคยมีความสุขร่วมกัน
ช่วงเวลาที่แสนสดใสดั่งท้องฟ้าสีสดยามต้นฤดูร้อน ช่วงเวลาที่แสนสงบดั่งท้องฟ้าที่พร่างพราวด้วยละอองดาว
ช่วงเวลาที่ไม่อาจหวนย้อนคืนกลับมาได้...
“เป็นเพราะ... กิยูซังไม่สังหารข้ากับเนซึโกะหรือเปล่าครับ”
“ไม่เลย ถึงตอนแรกเธอจะโกรธและไม่เข้าใจ แต่พอได้ฟังเรื่องราวทุกอย่าง ก็ได้ชิโนบุคอยช่วยปรามไม่ให้ใครทำอะไรทันจิโร่กับเนซึโกะจนกว่านายท่านจะตัดสินใจ”
กิยูว่าพลางส่งยิ้มแสนเศร้ายามนึกถึงความหลังช่วงหนึ่งปีก่อน เป็นครั้งแรกและครั้งเดียวที่ชิโนบุลงมือกับเขาขั้นรุนแรงถึงเกือบจะใช้อาวุธลับของเธอจัดการกับเขา
แต่เขาก็เข้าใจและไม่ถือโทษ ด้วยความแค้นของเธอผู้นั้นหยั่งลึกฝังรากไม่แพ้กับชินาซึงาวะ ซาเนมิ ด้วยสองคนนี้ต้องสูญเสียแทบทุกสิ่งให้แก่อสูรร้าย... เช่นเดียวกับเขา
“แล้วทำไมครับ...” เด็กหนุ่มเอ่ยเสียงเครือจากน้ำตาที่เริ่มเอ่อล้นออกมา “ทำไมกิยูซังถึงเลือกจะเชื่อข้า เลือกจะช่วยทั้งข้าและเนซึโกะตั้งแต่เมื่อสามปีก่อน”
“คงเพราะ... เป็นครั้งแรกที่ข้าเห็นอสูรช่วยเหลือมนุษย์” กิยูตอบเสียงแผ่ว การตัดสินใจครั้งนั้นสร้างความคาใจให้แก่เขาไปร่วมสามปี การตัดสินใจอย่างที่เขาได้แต่ตั้งคำถามกับตัวเองว่าทำไมถึงได้ปล่อยสองพี่น้องคามาโดะไป จนไม่นานมานี้ เขาถึงได้คำตอบของคำถามที่ติดคาใจมาเป็นเวลานาน “ทั้งเจ้าและเนซึโกะเป็นเหมือนปาฏิหาริย์ของหน่วยพิฆาตอสูรจริง ๆ แล้วก็...”
“แล้วก็... อะไรหรือครับ”
“ข้าอยากให้ชิโนบุได้เห็น...”
ความปรารถนาที่อยู่ใต้สุดก้นบึ้งของหัวใจถูกเผยออกมาครั้งแรก ความปรารถนาที่ทำให้เขาตัดสินใจปล่อยตัวสองพี่น้องคามาโดะในวันนั้น นอกเหนือจากการที่เนซึโกะผู้กลายเป็นอสูร ไร้ซึ่งสติสัมปชัญญะ แต่กลับเอาชนะความกระหายเลือดและพยายามปกป้องพี่ชายที่เหลืออยู่เพียงหนึ่งเดียวอย่างสุดความสามารถ
“ชิโนบุมักพูดเสมอว่า อยากเห็นอสูรอยู่ร่วมกับมนุษย์ให้ได้ แม้ใจเธออาจไม่คิดเยี่ยงนั้น” กิยูนึกถึงสิ่งที่เธอผู้นั้นมักพูดติดปากตลอดเวลา “แต่พอได้เห็นพวกเจ้าสองคน ลึก ๆ ข้าคงอยากให้ชิโนบุได้เห็นกับตาเหมือนกัน... เพื่อที่เธอจะได้เห็นความฝันของโคโจ คานาเอะ พี่สาวของเธอเป็นจริงด้วยตาตัวเอง”
สิ่งที่เขาไม่เคยคาดหมายว่าจะได้เห็น แต่ก็ได้เห็นมันเต็มสองตา และเป็นสิ่งที่เธอผู้นั้นได้แต่พูดว่าอยากเห็น แม้ใจของชิโนบุจะไม่เคยเชื่อมันเลยแม้แต่ครั้งเดียว...
หากสุดท้าย ปาฏิหาริย์ก็มีอยู่จริง สิ่งที่ไม่เคยคิดว่าจะเป็นจริงก็กลับเป็นจริง...
เช่นเดียวกับความฝันที่แสนยาวนานของเขา มันได้กลายเป็นจริง ในค่ำคืนที่เต็มไปด้วยดาราพร่างพรายบนห้วงนภา...
ค่ำคืนที่เป็นยิ่งกว่าห้วงฝันที่เขาไม่แม้แต่จะคิดจินตนาการมาก่อน...
บัดนี้... เหลือเพียงความทรงจำให้นึกถึง และห้วงเวลาที่เขาจะได้เจอเธอในฝัน...
“กิยูซัง... ได้บอกให้ชิโนบุซังทราบไหมครับ”
“ถ้าเรื่องเหตุผลนั้น... ก็ตอนฝึกฝนเสาหลักแล้ว”
“แล้วความรู้สึกของกิยูซังละครับ...” เสียงของทันจิโร่สั่นสะท้าน ทั้งตื้นตันกับความผูกพันของคนทั้งสองมีมากเกินกว่าที่เขาหรือใครจะจินตนาการออกมาได้ หากก็เสียใจที่สุดท้าย... คนที่ปรานีต่อเขาและเนซึโกะไม่แพ้ศิษย์พี่ผู้นี้ ก็ไม่อาจมีชีวิตรอดกลับมาจากศึกนั้นได้ “กิยูซังได้บอกชิโนบุซังไหมครับว่ากิยูซัง...”
“อื้ม”
ความในใจที่เขาได้พรั่งพรูออกไปหลังจากถูกปิดผนึกตายไปร่วมห้าปี ความรู้สึกที่ต่างฝ่ายต่างเก็บงำซ่อนเร้นไว้ ถูกกลั่นออกมาเป็นสิ่งที่ลึกล้ำยิ่งกว่าเมื่อห้าปีที่แล้ว
เพียงค่ำคืนเดียวที่ได้อยู่ร่วมกัน... แต่ก็เป็นคืนเดียวที่ทั้งเขาและเธอได้ถ่ายทอดความในใจที่ถูกลบเลือนไปกว่าห้าปี ไว้ให้ตราตรึงตราบจนลมหายใจสุดท้ายของเธอ...
และคงจะตราบลมหายใจสุดท้ายของเขาในอีกสามปีข้างหน้านี้...
น้ำตาพรั่งพรูไหลอาบแก้มเด็กหนุ่ม เมื่อสัมผัสถึงกลิ่นอายที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความรักอันแสนลึกซึ้ง ระคนห่วงหาอาลัยถึงคนที่ไม่อยู่บนโลกนี้อีกต่อไป
ที่จริงเขาควรเอะใจมานาน ด้วยทุกครั้งที่เขาเจอคนทั้งคู่ที่คฤหาสน์ผีเสื้อ แม้ไม่อาจสัมผัสได้ชัดเจน แต่สิ่งที่ทันจิโร่สัมผัสบรรยากาศที่คนสองคนนั้นมีต่อกันนั้น...
ความสุขสมหวัง... ของคนสองคนที่แค่เพียงได้อยู่ใกล้ชิดกัน...
ความอบอุ่นอ่อนโยน ที่ไม่อาจถูกกลั่นกรองออกมาเป็นคำพูด...
เขารู้สึกได้... รู้สึกเป็นอย่างดีมาตลอดเวลา
“ร้องไห้ทำไมทันจิโร่...”
“ข้า...” เด็กหนุ่มสะอึกสะอื้น ขณะใช้มือขวาปาดน้ำตาที่ไหลรินไม่ขาดสาย “ขอโทษนะครับ ที่ข้าช่วยอะไรทั้งกิยูซังและชิโนบุซังไม่ได้เลย”
“ทำไมถึงพูดอย่างนี้ล่ะ”
“ข้าอยากเห็นกิยูซังและชิโนบุซังมีความสุขครับ...”
คำตอบซื่อ ๆ ที่ทำให้กิยูได้สติ จริงอยู่ที่ความฝันของเขาไม่อาจเป็นจริงได้ในชาตินี้ แต่หน้าที่ของเขายังไม่จบสิ้น...
ชิโนบุขอให้เขาช่วยดูแลทันจิโร่... จนกว่าเขาจะจากโลกนี้ไป เขาอยากให้เด็กหนุ่มคนนี้ได้อยู่อย่างมีความสุข... ได้ใช้ชีวิตธรรมดากับคนที่รักจนถึงยามสิ้นอายุขัย
อะไรที่เขาได้ทำพลาดไป เขาก็ได้แต่หวังว่าเด็กคนนี้คงจะเลือกทางเดินที่ถูก... เพื่อที่จะไม่ต้องมานั่งเสียใจในภายหลัง... อย่างที่เขาทั้งสองเป็น
“ทันจิโร่...” อดีตเสาหลักวารีเอ่ยเสียงแผ่ว แล้วยกแขนซ้ายแตะบ่าของชายหนุ่มรุ่นน้องเบา ๆ “ทั้งข้าและชิโนบุ ไม่เคยเห็นเจ้าเป็นอย่างอื่น”
นัยน์ตาสีแดงของเด็กหนุ่มหันกลับมาสบราวกับไม่อยากเชื่อในสิ่งที่เขาเพิ่งเอ่ยไป กิยูเลยได้แต่ส่งยิ้มอ่อนโยน พยุงตัวลุกขึ้นเดินไปยังห้องนอนของเขา แล้วกลับมาพร้อมกับหีบที่ใส่จดหมายที่ชิโนบุส่งถึงเขาทั้งหมด
จดหมายที่เขาได้แต่อ่านซ้ำแล้วซ้ำเล่าจนจำได้แทบทุกตัวอักษร ทำให้ใช้เวลาไม่นาน เขาก็หยิบจดหมายฉบับที่เขาตามหาแล้วคลี่ออกมาให้อีกฝ่ายได้ดู
จดหมายฉบับสุดท้ายที่เธอเขียนถึงเขาในคืนนั้น ชิโนบุคงทราบจากนายท่านว่าศึกสุดท้ายกำลังจะเกิดขึ้น เธอถึงได้เขียนย้ำให้เขานึกถึงสัญญาที่เธอได้ขอไว้ ในค่ำคืนที่เขาทั้งสองเปิดเผยความรู้สึกต่อกัน
สัญญาที่จะปกป้องสองพี่น้องคามาโดะไว้ด้วยชีวิต...
“พวกเรา...” กิยูย้ำถึงความประสงค์ของทั้งเขาและคนที่ล่วงลับ “อยากเห็นทั้งทันจิโร่ เนซึโกะ เซนอิทซึ อิโนะสุเกะ ซึยูริ หรือคันซากิ ได้ใช้ชีวิตอย่างมีความสุขบนโลกนี้ อยากเห็นทุกคนได้มีชีวิตต่อไปยืนยาว แทนที่ตัวข้าและชิโนบุเอง”
เจตจำนงที่ถูกส่งผ่านทั้งจากพี่สึทาโกะ ซาบิโตะ ส่งมอบจากคานาเอะ และชิโนบุ และมาหยุดอยู่ที่เขา เจตนารมณ์ที่เขายังต้องยืนหยัดอยู่บนโลกนี้ต่อไป
เพื่อให้มั่นใจว่า มันจะถูกส่งมอบมายังเหล่าเด็กทั้งหกคนนี้ เพื่อให้น้อง ๆ และคนที่เธอรักทุกคน ได้ใช้ชีวิตอย่างมีความสุขบนโลกอันงดงามนี้ไปอีกนานแสนนาน...
บนโลกที่ปราศจากอสูรคอยคุกคามมนุษย์...
ท้องฟ้าสีสดเริ่มแปรเปลี่ยนเป็นสีส้มแดง ช่วงเวลาที่ทั้งงดงามและตราตรึงใจ ด้วยเป็นท้องฟ้าที่เขาและเธอเคยได้มองร่วมกัน... ในวันที่เผยความในใจให้อีกฝ่ายได้รับรู้...
และเป็นสัญญาณว่า อีกไม่นาน ห้วงเวลาแห่งรัตติกาลที่เขาเฝ้ารอกำลังจะมาเยือน
“ไว้คราวหน้าข้าจะพาเนซึโกะ คานาโอะ และคนอื่น ๆ มาเยี่ยมกิยูซังนะครับ”
“เดินทางกลับดี ๆ ล่ะ”
อดีตเสาหลักวารีเอ่ย พลางโน้มตัวรับคำบอกลาของชายหนุ่มรุ่นน้อง ก่อนจะชะงักเมื่อนึกถึงบางสิ่งที่ค้างคาในจิตใจของเขา
ท่าทีที่ทันจิโร่แสดงออกมาต่อน้องสาวบุญธรรมคนเล็กของชิโนบุ ความสัมพันธ์งดงามดุจต้นกล้าที่ใกล้จะเบ่งบานเป็นดอกไม้แสนสวยในอีกไม่ช้า...
แต่เวลาของมนุษย์ ไม่เคยมีใครหยั่งรู้ได้ว่ามันจะไปสิ้นสุดลงที่ตรงไหน...
เวลาถึงเป็นสิ่งที่ผ่านแล้วผ่านเลยไป ไม่อาจหวนย้อนมา...
“ทันจิโร่... เวลาเป็นสิ่งที่ผ่านไปเหมือนสายน้ำ” คำพูดกลั่นออกจากใจคนที่เคยปล่อยให้เวลาล่วงเลยจนทุกสิ่งสายเกินแก้ ความเสียใจและความขมขื่นไม่อาจลบเลือนไปจากใจเขาได้จนวันตาย เขาถึงไม่อาจให้คนที่ชิโนบุรักทั้งสองคนต้องพบเจอชะตากรรมแสนเศร้าเหมือนพวกเขาทั้งคู่อีก “อย่าปล่อยให้มันผ่านไปโดยสูญเปล่านะ”
ประโยคที่ฟังเข้าใจยาก หากใช้เวลาไม่นานทันจิโร่ก็เข้าใจในสิ่งที่อีกฝ่ายต้องการจะสื่อ นัยน์ตาทั้งสองข้างของเด็กหนุ่มเบิกโพลงยามนึกถึงความจริงเกี่ยวกับปานที่ได้รับฟังมาจากคานาโอะไม่นาน
“กิยูซัง... เรื่องปานนั่น?! แล้วกิยูซังกับชินาซึงาวะซังละครับ?!”
รอยยิ้มอ่อนโยนผุดเหนือดวงหน้า ขณะนัยน์ตาสีครามทอดมองเด็กหนุ่มที่มีทีท่าตกอกตกใจด้วยความเป็นห่วงเป็นใยทั้งตัวเขาและอดีตเสาหลักวายุ
ความอ่อนโยนของคามาโดะ ทันจิโร่ เป็นที่ประจักษ์ของพวกเขาอย่างชัดแจ้ง และแรงใจที่เข้มแข็งไม่แพ้เสาหลักในหน่วย สองสิ่งนี้ต่างหากที่นำพาปาฏิหาริย์มาสู่ชัยชนะอันแสนยาวนานที่พวกเขาเฝ้ารอ...
และเขา ก็หวังว่าปาฏิหาริย์จะเกิดขึ้นกับเด็กผู้นี้ซ้ำสองอีกครั้ง
“อย่าได้ห่วงเลย” เขายกมือซ้ายลูบศีรษะอีกฝ่ายเบา ๆ “เวลาที่เหลือมันอาจจะสั้น แต่ทั้งข้าและชินาซึงาวะไม่มีอะไรให้อาวรณ์แล้ว”
คำพูดที่เรียกหยาดน้ำไหลกบนัยน์ตาทั้งสองข้างของเด็กหนุ่มอีกครั้ง ถึงจะไม่รู้รายละเอียดของฝ่ายอดีตเสาหลักวายุชัดเจน เขาก็พอจะเดาได้จากสิ่งที่คานาโอะเคยเกริ่นถึงความสัมพันธ์ระหว่างฝ่ายนั้นและอดีตเสาหลักบุปผาที่ล่วงลับไปเมื่อห้าปีก่อน
ความเป็นห่วงที่ซาเนมิแสดงออกต่อทั้งอาโออิ คานาโอะ และรวมถึงเนซึโกะ ก็เพียงพอจะทำให้ทันจิโร่เดาได้ว่าสิ่งที่อดีตเสาหลักทั้งสองยังคงห่วงกังวลอยู่คืออะไร...
“รักษาสุขภาพนะครับ... กิยูซัง” ทันจิโร่กล่าวก่อนส่งยิ้มกว้าง แม้น้ำตาจะรินไหลไม่ขาดสาย “ถ้ามีโอกาส มาค้างที่บ้านข้าให้ได้นะครับ”
“อื้ม ไว้จะส่งจดหมายบอกก่อนนะ”
กิยูมองแผ่นหลังของชายหนุ่มรุ่นน้องที่ลับสายตาออกไปด้วยรอยยิ้ม แหงนหน้ามองท้องฟ้าที่เปลี่ยนเป็นสีน้ำเงินเข้มดุจห้วงมหาสมุทรเมื่อรัตติกาลมาเยือน
แม้ความเจ็บปวดจะไม่มีวันลบเลือนจากใจ แต่อีกไม่กี่ชั่วยาม กิยูก็มั่นใจว่าเขาก็คงจะได้พบกับเธอคนนั้นในความฝันอีกครั้งหนึ่ง
ถึงจะเสียดายที่เขาได้แต่ปล่อยวันเวลาให้ผันผ่านล่วงเลยไปหลายปีโดยใช้เหตุ ไม่เช่นนั้น ทั้งเขาและเธอคงได้มีโอกาสมีความสุขด้วยกันมาอีกหลายปี
แต่กระนั้น เขาก็ไม่เสียใจที่ยังมีชีวิตอยู่... เพราะยังต้องอยู่เป็นหลักให้เหล่าน้อง ๆ ได้พึ่งพิงในช่วงเวลาที่เหลือ
และก็ไม่เสียใจ ที่ได้รักผู้หญิงที่แสนพิเศษคนนั้น คนที่แม้จะจากไป แต่ก็ยังคงส่งต่อความห่วงใยให้แก่เหล่าน้อง ๆ ทั้งหลาย และคนที่เธอรักไว้อย่างครบครัน
เจ้าก็คงเช่นกัน ใช่ไหม ชิโนบุ...
===========
Author's Talk 04 DEC 2022
เย่ จบไปแล้วกับตอนพิเศษ 5.2 นะคะ
เหมือนหลอกให้คนอ่านหัวปั่นเนอะ พรีวิวมาด้วยความน่ารักกุ๊กกิ๊กฉบับคุณกิวัย 17 และคุณชิวัย 14
แต่นั่นแหละค่ะ... ในเมื่อเนื้อเรื่องหลัก อ.เข้ปูทางมาขนาดนี้ เราก็คงต้องตามตัวละครและเนื้อเรื่องของอ.เข้ไปค่ะ XD เพราะการตายของพี่เอะส่งผลกับคุณชิขั้นรุนแรงมาก
และในที่สุด ก็เหมือนได้เป็นการขยายความ Day 3 เนอะ ว่าทำไมคุณกิถึงโหยหารอยยิ้มของชิโนบุที่แม้จะไม่ตรงกับสาวในฝันของคุณกิเธอค่ะ
แล้วก็นั่นแหละ เพราะสองคนนั้น air-headed ขั้นสุดค่ะ คือโอ๊ย อยากจับทั้งคู่เขย่ามากเลย เอ็นดูนะคะ แต่ก็นะ ถ้าเค้ารู้ใจกันตั้งแต่ตอนนั้น คงไม่มีฟิคแอ๋งละมุนให้เราได้เขียนหรอกค่ะ กับยังไงเราก็มองว่า
ขอใส่สปอย เผื่อคนอาจจะอยากไปตามลุ้นตอน The Tales of Butterfly Effects อีกทีค่ะ ตรงนั้นเราคงขยายความทั้งมุมคุณชิและมุมพี่เอะแน่นอน แต่ก็อยากเมาท์มอยในตอนนี้ด้วยค่ะ
นั่นแหละค่ะ สรุปทั้งคู่ก็เลยไม่เคลียร์อะไรเลย คุณชิก็แตกสลายจนไม่สามารถคิดอะไรได้อีกแล้ว คุณกิก็เอาแต่คิดว่าตัวเองปกป้องทั้งพี่เอะคุณชิไว้ไม่ได้ ซึ่งตรงนี้ เราคงได้เห็นมุมคุณกิในตอนพิเศษ 6 กันค่ะ
สำหรับตอนพิเศษ 6 ไม่แน่ใจว่าจะได้เอามาลงเสาร์หน้าไหม แต่ถ้าไม่ทันก็เจอกันเสาร์ที่ 18 หรืออาทิตย์ที่ 19 เลยค่ะ ช่วงนี้งานเราสาหัสมาก จริง ๆ ลาพักร้อนไว้เพราะจะเคลียร์เล่มให้จบ แต่มีประชุมมอบมาค่ะ 5555 สรุปก็คือต้องยกเลิกวันลาไปเคลียร์งานแต่โดยดี Y_Y
เลยคิดว่าถ้าไม่ทันยังไง เราขอโฟกัสกับการเขียนตอนพิเศษ 6-8 ให้จบรวดเดียวค่ะ แล้วค่อยมาลง 6.1 ทีหลังอีกทีเนอะ
ตอนพิเศษ 7 อาจจะมีลงให้อ่านเป็นของขวัญปีใหม่กันค่ะ แต่ตอนพิเศษ 8 เราขออนุญาตลงหลังส่งเล่ม KNY FF - In Time With You ล็อตแรกถึงมือคนที่พรีก่อนนะคะ แล้วค่อยลงตอนพิเศษ 8 อีกที
ตอนนี้เลยตัดสินใจขยายพรีไปถึง 12 ธันวาคม 2564 ก่อนค่ะ เพราะดูทรงแล้ว เราส่งเล่มได้เร็วสุดก็น่าจะ 13-14 ธันวาคมเลย ฮื้อ ต้องขอโทษมาก ๆ นะคะ ไม่คิดว่าพอหมด wfh แล้วจะประชุม/งานถล่มทับขนาดนี้ ไม่นับกับ แหะ ๆ กระดูกนิ้วเท้าร้าวนิดหน่อยค่ะ XD
ใครประสงค์อยากพรีแต่ยังไม่ได้พรี กรอกแบบฟอร์ม ได้ที่นี่ เลยค่ะ ^^ เราอาจจะพิมพ์มาเผื่อจำนวนหนึ่ง แต่ถ้ามันหมด ก็คงต้องไปรอช่วงเปิดพรีเล่มพี่สาอีกทีนะคะ ^^
ท้ายสุดนี้ ขอขอบคุณคนอ่านทุกคน ทุกคอมเมนต์ ทุกกำลังใจค่ะ ขอบคุณที่ช่วยเซฟเราสำหรับช่วงที่ยากลำบากนี้นะคะ แต่ทุกคนอย่าลืมพักผ่อนนะคะ ปีนี้เราเรียนรู้ว่าสังขารนี่ เวลาทรุด มันทรุดจริง ๆ ค่ะ มีเวลานอนได้นอนเถอะนะคะ ^^
อย่าลืมลำดับความสำคัญในชีวิตด้วยนะคะ ทั้งเรื่องเวลา เรื่องการเรียน/งาน เรื่องสุขภาพ รวมถึงค่าใช้จ่ายค่ะ
แล้วพบกับตอนพิเศษ 6.1 ถ้าไม่อาทิตย์หน้า ก็อาทิตย์ที่ 18-19 เลยนะคะ (ถ้า 18 นี่ คงมาดึก ๆ เลยค่ะ วันนั้นปล่อยผีกับเพื่อนนิดนึง ขอเจอเพื่อนฝูงบ้างค่ะ XD)
Author's Talk 28 MAY 2022
สวัสดีค่า วันนี้ก็เป็นคิวฉบับลง Rewrite สำหรับรวมเล่มนะคะ เพื่อให้เนื้อหาออกมาสมบูรณ์ที่สุดเท่าที่เราจะทำได้ค่ะ
เช่นเคยค่ะ บทนี้ดูเหมือนรีไรท์ไม่มาก แต่ก็มีประมาณหนึ่งนะคะ แต่ซีนที่ยังชอบที่สุดก็คือ... เมื่อคนซึน vs คนบื้อค่ะ ได้แต่ขำตามพี่คานาเอะ แต่ก็เจ็บปวดเหมือนกันที่ทุกสิ่งมันออกมาอย่าที่หลายท่านได้อ่านไปแล้วค่ะ
สำหรับคนที่ยังลังเลอยากเก็บเล่มหรืออย่างไรลองดูเล่มตัวอย่างได้จากที่เราอัพเดท หรือในเทรดทวิตเตอร์นี้นะคะ
แล้วก็ ใครที่มีความสนใจอยากเก็บฟิคเล่มนี้ รวมถึง KNY FF - In The Remembrance of Her #แด่เธอในความทรงจำนิรันดร์ เป็นที่ระลึก ตอนนี้เราเปิดพรีฟิคอีกรอบค่ะ โดยสามารถดูรายละเอียดเบื้องต้นของรวมเล่มทั้งสองเล่ม ฉบับปรับปรุงล่าสุด 16 APR 2022 มาให้ได้ศึกษานอกเหนือจากตัวฟิคที่สามารถอ่านตอนหลังได้ใน ReadAWrite | Dek-D | ReadHaus นะคะ
รายละเอียด KNY FF - In Time With You #ห้วงเวลาของเราสอง (Tomioka Giyuu x Kochou Shinobu)
รายละเอียด KNY FF - In The Remembrance of Her #แด่เธอในความทรงจำนิรันดร์ (Shinazugawa Sanemi x Kochou Kanae)
ถ้าสนใจ จิ้มลิงค์สั่งจองด้านล่างได้เลยค่ะ หรือดูรายละเอียดพร้อมกรอกแบบฟอร์มได้ที่นี่นะคะ [Link]
(เปิดพรีงวดนี้จนถึงวันที่ 5 มิถุนายน 2565 ค่ะ)
แต่ทั้งนี้ ใครไม่สะดวกไม่เป็นไรนะคะ รับรองได้อ่านเนื้อหาเหมือนเดิม และในรูปแบบ Rewrite เหมือนกันค่ะ เพียงแต่อาจจะได้อ่านตอนพิเศษช่วงท้ายหลังจากเราส่งเล่มล็อตแรกนะคะ
หรือจะรอไปเก็บรอบงาน Comic Avenue ก็ได้เหมือนกันค่า จริง ๆ อยากปั่นเล่ม KNY FF - The Tales of Butterfly Effects ให้ทันเหมือนกัน แต่ดูจากปริมาณงานแล้ว... อ่า เราไม่กล้ารับปากค่ะ Y_Y ช่วงนี้งานกลับมาโถมหนักมาก ต้องเป็นผีเฝ้ากลุ่มไปอีกสี่เดือน+ทำเล่มผลงานวิชาการด้วยค่ะ
สำหรับพุธนี้ กลับมาพบกับตอนพิเศษ 6.1 นะคะ อาจจะมาเลทกว่าปกติหน่อยค่ะ พอดีเราจัดประชุมเคสช่วงบ่ายวันพุธพอดี ถ้ามันเลิกเลทกว่า 16.30 ก็คงจะถึงบ้านราว ๆ 21.00 เลยค่ะ XD ร้องไห้ล่วงหน้าแล้ว 5555 วีคหน้าประชุมบานเลยค่ะ ไหล่ก็ยังเจ็บเอาเรื่องอยู่ค่ะ
ยังไงก็อยากให้คนอ่านทุกท่านรักษาสุขภาพด้วยนะคะ ร่างกายเรามีอยู่ชิ้นเดียว ถนอมมันด้วยค่ะ ^^
Comments (0)