[KNY FF] - In Time With You

Special Chapter 05 - Gaze Off Into The Starry Night (II)

 

ปล. เนื่องจากบทนี้ยาว เลยขออนุญาตแบ่งลง 2 ตอนนะคะ

 

1st Published : 04 DEC 2021

Rewrite : 28 MAY 2022

===========

เหตุการณ์ต่อเนื่องจาก Special Chapter 05.1 ค่ะ และหลัง Day 7 ค่ะ

 

“ข้ามาไม่ได้เหรอ...”

 

ถ้อยคำตัดพ้อที่ทำร่างเล็กชะงัก หันขวับกลับไปมองหน้าชายผู้นั้นอย่างเต็มตาเป็นครั้งแรกในรอบสองอาทิตย์ ท่าทีสลดที่ทำกำแพงหัวใจอ่อนยวบ กระนั้น ใจเจ้ากรรมก็ยังไหวสั่นอย่างไม่อาจควบคุมได้

 

อาการที่เธอไม่อาจหาสาเหตุได้ นับตั้งแต่คานาเอะเอ่ยเย้าถึงความสนิทสนมที่เธอมีให้เป็นพิเศษกับคนผู้นี้

 

อาการที่เธอไม่เข้าใจเหตุผล หากเพียงสิ่งเดียวที่ชิโนบุรู้ได้

 

มีบางสิ่งในจิตใจของเธอ... ที่แปรเปลี่ยนไป

 

“เปล่าค่ะ... ไม่ใช่มาไม่ได้” เด็กสาวตอบแผ่วเบา หลังสูดหายใจเข้าออกเพื่อให้ดวงใจเจ้ากรรมสงบลง แม้จะไม่สำเร็จเท่าไรก็ตาม “เพียงแต่ฉันเห็นว่าเสาหลักอย่างท่านพี่หรือคุณมีหน้าที่ต้องทำแทบจะทุกวัน... อ๋อ ไม่นับชินาซึงาวะซังนะคะ รายนั้นต่อให้ยุ่งแค่ไหนก็ถ่อมาถึงที่นี่ได้ตลอด”

 

“แหม ๆ แต่พอพี่บอกว่าโทมิโอกะคุงแวะมาตอนที่ชิโนบุออกไปข้างนอก ชิโนบุก็บ่นอุบอิบใหญ่เลยไม่ใช่เหรอจ๊ะ”

 

“ท่านพี่คะ!”

 

เด็กสาวแหวเสียงดังอย่างลืมตัว ท่าทีที่แสดงออกมายิ่งทำให้คนหน้านิ่งขมวดคิ้วอย่างเป็นกังวล... ด้วยสีหน้าแดงก่ำผิดสังเกตที่สร้างความกังวลจนต้องถ่อมายังคฤหาสน์ผีเสื้อเป็นครั้งที่สามในรอบสัปดาห์

 

“สบายดีนะ?!”

 

“คะ?!”

 

เสียงใสทวนคำถามที่โพล่งออกมาอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย ก่อนนัยน์ตาคู่โตจะเบิ่งกว้างเมื่อพบว่าเสาหลักวารีเคลื่อนกายมาประชิดเจ้าหล่อนตั้งแต่เมื่อไรไม่รู้

 

ไม่ทันจะเขยิบหนีหรือเปล่งเสียงห้าม มือใหญ่ก็แตะยังหน้าผากของเธอเข้าจัง คิ้วเข้มของกิยูขมวดมุ่นยามสัมผัสได้ถึงไอร้อนที่แผ่ซ่านมาจากคนตรงหน้า

 

“ตัวร้อน...” เขาเอ่ยเนิบ ๆ หลังจากวัดไข้อีกฝ่ายด้วยวิธีเดียวกับที่พี่สึทาโกะคอยทำเวลาเขาไม่สบายเมื่อครั้งเยาว์วัย “ไม่สบายเหรอโคโจ”

 

“โทมิโอกะซัง เอามือออกค่ะ!” เด็กสาวแหวเสียงลั่น พลางถอยหนีออกจากการรุกรานของคนตรงหน้า “ฉันสบายดีค่ะ”

 

“ถ้าสบายดี... แล้วทำไมถึงหน้าแดงล่ะ”

 

คำถามที่คนฟังสองคนมีปฏิกิริยาตอบสนองแตกต่างกันออกไป คนพี่ได้แต่อมยิ้มราวกับเฝ้ารอคำถามนี้มานานแสนนาน ส่วนเด็กสาวเจ้าปัญหาได้แต่อ้าปากพะงาบ ๆ ไม่ผิดกับเจ้าฟุกุ ปลาทองที่เจ้าหล่อนเลี้ยงไว้

 

เป็นครั้งแรกที่ชิโนบุจนปัญญาที่จะตอบคำถามที่ได้รับได้ในทันที ด้วยหัวของเธอเต็มไปด้วยคำถามที่ติดค้างคาใจเธอมาตลอดสองอาทิตย์ที่ผ่านมา...

 

ด้วยเธอก็ไม่เข้าใจสิ่งที่เธอกำลังเป็น... ไม่เข้าใจความรู้สึกที่เธอกำลังรู้สึกอยู่...

 

เป็นครั้งแรกในชีวิตที่ชิโนบุไม่อาจบอกได้ว่า ตัวเองรู้สึกอะไร หรือกำลังต้องการอะไรอยู่กันแน่...

 

มีสิ่งเดียวที่เธอรู้... คือคนตรงหน้าต้องเป็นหนึ่งในต้นเหตุที่ทำให้เธอมีอาการแปลก ๆ อย่างที่เป็นตอนนี้!

 

ต้นเหตุของความวุ่นวายใจ ความเปลี่ยนไปดั่งที่ท่านพี่ของเธอเอ่ยเย้ามา

 

“ฉัน... อากาศคงร้อนค่ะ ฉันเพิ่งกลับจากข้างนอกมา” เธอแก้ตัวด้วยเหตุผลที่ฟังไม่เข้าท่า หากเป็นสิ่งเดียวที่เธอพอจะใช้ตอบคำถามและหลุดพ้นจากสถานการณ์พิลึกพิลั่นตรงหน้าได้ “ถ้าไม่มีธุระอะไรแล้ว ขอตัวก่อนนะคะ”

 

เด็กสาวจับยาที่จัดเตรียมเสร็จยัดใส่มือของอีกฝ่ายแล้วรีบรุดออกจากห้องโดยไร้ซึ่งคำลา ไม่ยอมแม้แต่จะมองใบหน้าของคนถือห่อยาที่ยืนชะงักงัน เป็นครั้งแรกที่ตัวกิยูรู้สึกเจ็บปวดในหัวใจอย่างหาสาเหตุไม่ได้...

 

หัวใจของเขาถูกบีบรัด แต่มันช่างต่างจากตอนที่รับรู้ว่าพี่สึทาโกะหรือซาบิโตะจากโลกนี้ไปอย่างไม่มีวันหวนกลับ...

 

หรือว่า...

 

“น้องเจ้า... เกลียดข้าเหรอโคโจ”

 

คำถามที่กลับเรียกเสียงหัวเราะจากเสาหลักบุปผา ด้วยสีหน้าจ๋องของเสาหลักวารีเป็นอะไรที่เธอเองก็ไม่คาดคิดว่าจะได้เห็น...

 

“ไม่หรอกค่ะโทมิโอกะคุง”

 

“ข้าทำอะไรผิดหรือเปล่า...”

 

“ไม่เลยค่ะ” คานาเอะตอบแทบจะทันที ก่อนจะคลี่ยิ้มสดใสยามเห็นนัยน์ตาที่มองกลับที่เต็มไปด้วยทั้งคำถามและความสงสัย “แต่ถ้าจะถามว่าเพราะอะไร ฉันว่าโทมิโอกะคุงเห็นทีจะต้องเป็นฝ่ายถามชิโนบุเองนะคะ...”

 

ปริศนาที่คานาเอะทิ้งไว้ให้กิยูขบคิดก่อนที่จะเป็นฝ่ายเดินมาส่งเขาที่ประตูหน้าคฤหาสน์ผีเสื้อ ท่าทีของเสาหลักผีเสื้อทำให้เขารู้ดีว่าเธอเองนี่แหละที่เป็นฝ่ายรู้คำตอบดีกว่าใคร... และอาจจะรู้มากกว่าน้องสาวของเธอด้วยซ้ำ

 

“ไม่ต้องรีบร้อนก็ได้นะโทมิโอกะคุง ฉันเชื่อว่าชิโนบุเองก็คงไม่รู้ตัวเหมือนกัน”

 

ถ้อยคำส่งท้ายที่นำพาความปวดร้าววิ่งแล่นเข้าสู่จิตใจชายหนุ่มที่ยังคงทอดสายตามองท้องฟ้าต้นฤดูร้อนอย่างเหม่อลอย มือซ้ายข้างที่เหลือกดตรงตำแหน่งหัวใจที่บีบรัด ยามนึกถึงความโง่เขลาของตัวเองเมื่อห้าปีก่อน

 

เพราะคานาเอะเป็นฝ่ายย้ำเองว่าเขาไม่จำเป็นต้องรีบร้อนหาคำตอบ... เขาจึงปล่อยให้ทุกอย่างดำเนินไปตามที่มันเคยเป็นมา... โดยได้แต่คิดว่าหากมีจังหวะเมื่อไร เขาคงต้องถามชิโนบุให้คลายข้อสงสัยในใจให้จงได้

 

หากวันนั้น... ก็ไม่เคยมาถึง

 

และนั่น... ก็เป็นถ้อยคำสุดท้ายที่เจ้าของคฤหาสน์ผีเสื้อได้พูดไว้กับเขา...

 

ปริศนาที่เธอทิ้งไว้จึงถูกปิดตายอยู่ร่วมห้าปี ด้วยการจากไปอย่างกะทันหันของเสาหลักบุปผาผู้แสนอ่อนโยน การจากลาที่นำพาความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่มาสู่เด็กสาวผู้นั้น... จนเหมือนโคโจ ชิโนบุ คนที่เขารู้จักมาแรมปีได้ตายไปพร้อมกันเพียงชั่วข้ามคืน

 

ความแหลกสลายที่ตัวเขาเข้าใจดียิ่งกว่าใครแปรเปลี่ยนเด็กสาวผู้เต็มไปด้วยชีวิตชีวานั้นให้กลายเป็นสตรีนุ่มนวลเหมือนพี่สาวผู้จากไปของเธอ รอยยิ้มสดใสที่เคยมีให้เขาจางหายไป เหลือเพียงรอยยิ้มว่างเปล่าที่เธอเลือกใช้เพื่อพยุงชีวิตต่อไปให้ได้...

 

รอยยิ้มอ้างว้างที่ทำให้หัวใจของเขาเจ็บปวดยิ่งนัก...

 

เพราะตนมาช้าเกินไป เกินกว่าจะช่วยชีวิตของเสาหลักบุปผาไว้ได้...

 

ความเจ็บปวดของเขาและเธอ จึงทำให้ต่างฝ่ายต่างหลงลืมความสงสัยใคร่รู้ถึงความรู้สึกที่ทำให้ใจของตนเต้นไม่เป็นจังหวะ หลงลืมปริศนาที่คานาเอะได้ทิ้งไว้ให้ ด้วยจมกับความเจ็บปวดและความรู้สึกผิดที่ต่างฝ่ายต่างต้องแบกรับ...

 

กระนั้น จิตใต้สำนึกส่วนลึกของทั้งคู่ ยังคงโหยหาช่วงเวลาที่ทั้งสองได้ใช้ร่วมกัน ทำให้ตัวเธอที่แปรเปลี่ยนไปจนไม่เหลือเค้าเด็กผู้หญิงคนที่เขาเคยรู้จัก ยังคงแวะเวียนทักทายพูดคุยเขา และตัวเขาก็ไม่เคยคิดที่จะผลักไสเธอออกไป

 

เพราะลึก ๆ แล้ว ช่วงเวลาที่ได้อยู่ร่วมกัน แม้จะเป็นบทสนทนาเรื่องหน้าที่ของหน่วยพิฆาตอสูร ทั้งจะเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วย ทั้งจะฉันมิตร หรือกระทบกระทั่งกันบ้าง แต่ก็เป็นช่วงเวลาที่ชิโนบุได้มีโอกาสแสดงตัวตนที่ถูกกลืนหายออกมาให้ได้มากที่สุด และก็เป็นช่วงเวลาที่กิยูรู้สึกผ่อนคลายและเปิดใจ... ด้วยทั้งคู่ต่างโหยหาวันเวลาเก่า ๆ ที่ทั้งสองเคยมีความสุขร่วมกัน

 

ช่วงเวลาที่แสนสดใสดั่งท้องฟ้าสีสดยามต้นฤดูร้อน ช่วงเวลาที่แสนสงบดั่งท้องฟ้าที่พร่างพราวด้วยละอองดาว

 

ช่วงเวลาที่ไม่อาจหวนย้อนคืนกลับมาได้...

 

“เป็นเพราะ... กิยูซังไม่สังหารข้ากับเนซึโกะหรือเปล่าครับ”

 

“ไม่เลย ถึงตอนแรกเธอจะโกรธและไม่เข้าใจ แต่พอได้ฟังเรื่องราวทุกอย่าง ก็ได้ชิโนบุคอยช่วยปรามไม่ให้ใครทำอะไรทันจิโร่กับเนซึโกะจนกว่านายท่านจะตัดสินใจ

 

กิยูว่าพลางส่งยิ้มแสนเศร้ายามนึกถึงความหลังช่วงหนึ่งปีก่อน เป็นครั้งแรกและครั้งเดียวที่ชิโนบุลงมือกับเขาขั้นรุนแรงถึงเกือบจะใช้อาวุธลับของเธอจัดการกับเขา

 

แต่เขาก็เข้าใจและไม่ถือโทษ ด้วยความแค้นของเธอผู้นั้นหยั่งลึกฝังรากไม่แพ้กับชินาซึงาวะ ซาเนมิ ด้วยสองคนนี้ต้องสูญเสียแทบทุกสิ่งให้แก่อสูรร้าย... เช่นเดียวกับเขา

 

“แล้วทำไมครับ...” เด็กหนุ่มเอ่ยเสียงเครือจากน้ำตาที่เริ่มเอ่อล้นออกมา “ทำไมกิยูซังถึงเลือกจะเชื่อข้า เลือกจะช่วยทั้งข้าและเนซึโกะตั้งแต่เมื่อสามปีก่อน”

 

“คงเพราะ... เป็นครั้งแรกที่ข้าเห็นอสูรช่วยเหลือมนุษย์” กิยูตอบเสียงแผ่ว การตัดสินใจครั้งนั้นสร้างความคาใจให้แก่เขาไปร่วมสามปี การตัดสินใจอย่างที่เขาได้แต่ตั้งคำถามกับตัวเองว่าทำไมถึงได้ปล่อยสองพี่น้องคามาโดะไป จนไม่นานมานี้ เขาถึงได้คำตอบของคำถามที่ติดคาใจมาเป็นเวลานาน “ทั้งเจ้าและเนซึโกะเป็นเหมือนปาฏิหาริย์ของหน่วยพิฆาตอสูรจริง ๆ แล้วก็...”

 

แล้วก็... อะไรหรือครับ”

 

“ข้าอยากให้ชิโนบุได้เห็น...”

 

ความปรารถนาที่อยู่ใต้สุดก้นบึ้งของหัวใจถูกเผยออกมาครั้งแรก ความปรารถนาที่ทำให้เขาตัดสินใจปล่อยตัวสองพี่น้องคามาโดะในวันนั้น นอกเหนือจากการที่เนซึโกะผู้กลายเป็นอสูร ไร้ซึ่งสติสัมปชัญญะ แต่กลับเอาชนะความกระหายเลือดและพยายามปกป้องพี่ชายที่เหลืออยู่เพียงหนึ่งเดียวอย่างสุดความสามารถ

 

“ชิโนบุมักพูดเสมอว่า อยากเห็นอสูรอยู่ร่วมกับมนุษย์ให้ได้ แม้ใจเธออาจไม่คิดเยี่ยงนั้น” กิยูนึกถึงสิ่งที่เธอผู้นั้นมักพูดติดปากตลอดเวลา “แต่พอได้เห็นพวกเจ้าสองคน ลึก ๆ ข้าคงอยากให้ชิโนบุได้เห็นกับตาเหมือนกัน... เพื่อที่เธอจะได้เห็นความฝันของโคโจ คานาเอะ พี่สาวของเธอเป็นจริงด้วยตาตัวเอง”

 

สิ่งที่เขาไม่เคยคาดหมายว่าจะได้เห็น แต่ก็ได้เห็นมันเต็มสองตา และเป็นสิ่งที่เธอผู้นั้นได้แต่พูดว่าอยากเห็น แม้ใจของชิโนบุจะไม่เคยเชื่อมันเลยแม้แต่ครั้งเดียว...

 

หากสุดท้าย ปาฏิหาริย์ก็มีอยู่จริง สิ่งที่ไม่เคยคิดว่าจะเป็นจริงก็กลับเป็นจริง...

 

เช่นเดียวกับความฝันที่แสนยาวนานของเขา มันได้กลายเป็นจริง ในค่ำคืนที่เต็มไปด้วยดาราพร่างพรายบนห้วงนภา...

 

ค่ำคืนที่เป็นยิ่งกว่าห้วงฝันที่เขาไม่แม้แต่จะคิดจินตนาการมาก่อน...

 

บัดนี้... เหลือเพียงความทรงจำให้นึกถึง และห้วงเวลาที่เขาจะได้เจอเธอในฝัน...

 

“กิยูซัง... ได้บอกให้ชิโนบุซังทราบไหมครับ”

 

“ถ้าเรื่องเหตุผลนั้น... ก็ตอนฝึกฝนเสาหลักแล้ว”

 

“แล้วความรู้สึกของกิยูซังละครับ...” เสียงของทันจิโร่สั่นสะท้าน ทั้งตื้นตันกับความผูกพันของคนทั้งสองมีมากเกินกว่าที่เขาหรือใครจะจินตนาการออกมาได้ หากก็เสียใจที่สุดท้าย... คนที่ปรานีต่อเขาและเนซึโกะไม่แพ้ศิษย์พี่ผู้นี้ ก็ไม่อาจมีชีวิตรอดกลับมาจากศึกนั้นได้ “กิยูซังได้บอกชิโนบุซังไหมครับว่ากิยูซัง...”

 

“อื้ม”

 

ความในใจที่เขาได้พรั่งพรูออกไปหลังจากถูกปิดผนึกตายไปร่วมห้าปี ความรู้สึกที่ต่างฝ่ายต่างเก็บงำซ่อนเร้นไว้ ถูกกลั่นออกมาเป็นสิ่งที่ลึกล้ำยิ่งกว่าเมื่อห้าปีที่แล้ว

 

เพียงค่ำคืนเดียวที่ได้อยู่ร่วมกัน... แต่ก็เป็นคืนเดียวที่ทั้งเขาและเธอได้ถ่ายทอดความในใจที่ถูกลบเลือนไปกว่าห้าปี ไว้ให้ตราตรึงตราบจนลมหายใจสุดท้ายของเธอ...

 

และคงจะตราบลมหายใจสุดท้ายของเขาในอีกสามปีข้างหน้านี้...

 

น้ำตาพรั่งพรูไหลอาบแก้มเด็กหนุ่ม เมื่อสัมผัสถึงกลิ่นอายที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความรักอันแสนลึกซึ้ง ระคนห่วงหาอาลัยถึงคนที่ไม่อยู่บนโลกนี้อีกต่อไป

 

ที่จริงเขาควรเอะใจมานาน ด้วยทุกครั้งที่เขาเจอคนทั้งคู่ที่คฤหาสน์ผีเสื้อ แม้ไม่อาจสัมผัสได้ชัดเจน แต่สิ่งที่ทันจิโร่สัมผัสบรรยากาศที่คนสองคนนั้นมีต่อกันนั้น...

 

ความสุขสมหวัง... ของคนสองคนที่แค่เพียงได้อยู่ใกล้ชิดกัน...

 

ความอบอุ่นอ่อนโยน ที่ไม่อาจถูกกลั่นกรองออกมาเป็นคำพูด...

 

เขารู้สึกได้... รู้สึกเป็นอย่างดีมาตลอดเวลา

 

“ร้องไห้ทำไมทันจิโร่...”

 

“ข้า...” เด็กหนุ่มสะอึกสะอื้น ขณะใช้มือขวาปาดน้ำตาที่ไหลรินไม่ขาดสาย “ขอโทษนะครับ ที่ข้าช่วยอะไรทั้งกิยูซังและชิโนบุซังไม่ได้เลย”

 

“ทำไมถึงพูดอย่างนี้ล่ะ”

 

“ข้าอยากเห็นกิยูซังและชิโนบุซังมีความสุขครับ...”

 

คำตอบซื่อ ๆ ที่ทำให้กิยูได้สติ จริงอยู่ที่ความฝันของเขาไม่อาจเป็นจริงได้ในชาตินี้ แต่หน้าที่ของเขายังไม่จบสิ้น...

 

ชิโนบุขอให้เขาช่วยดูแลทันจิโร่... จนกว่าเขาจะจากโลกนี้ไป เขาอยากให้เด็กหนุ่มคนนี้ได้อยู่อย่างมีความสุข... ได้ใช้ชีวิตธรรมดากับคนที่รักจนถึงยามสิ้นอายุขัย

 

อะไรที่เขาได้ทำพลาดไป เขาก็ได้แต่หวังว่าเด็กคนนี้คงจะเลือกทางเดินที่ถูก... เพื่อที่จะไม่ต้องมานั่งเสียใจในภายหลัง... อย่างที่เขาทั้งสองเป็น

 

“ทันจิโร่...” อดีตเสาหลักวารีเอ่ยเสียงแผ่ว แล้วยกแขนซ้ายแตะบ่าของชายหนุ่มรุ่นน้องเบา ๆ “ทั้งข้าและชิโนบุ ไม่เคยเห็นเจ้าเป็นอย่างอื่น

 

นัยน์ตาสีแดงของเด็กหนุ่มหันกลับมาสบราวกับไม่อยากเชื่อในสิ่งที่เขาเพิ่งเอ่ยไป กิยูเลยได้แต่ส่งยิ้มอ่อนโยน พยุงตัวลุกขึ้นเดินไปยังห้องนอนของเขา แล้วกลับมาพร้อมกับหีบที่ใส่จดหมายที่ชิโนบุส่งถึงเขาทั้งหมด

 

จดหมายที่เขาได้แต่อ่านซ้ำแล้วซ้ำเล่าจนจำได้แทบทุกตัวอักษร ทำให้ใช้เวลาไม่นาน เขาก็หยิบจดหมายฉบับที่เขาตามหาแล้วคลี่ออกมาให้อีกฝ่ายได้ดู

 

จดหมายฉบับสุดท้ายที่เธอเขียนถึงเขาในคืนนั้น ชิโนบุคงทราบจากนายท่านว่าศึกสุดท้ายกำลังจะเกิดขึ้น เธอถึงได้เขียนย้ำให้เขานึกถึงสัญญาที่เธอได้ขอไว้ ในค่ำคืนที่เขาทั้งสองเปิดเผยความรู้สึกต่อกัน

 

สัญญาที่จะปกป้องสองพี่น้องคามาโดะไว้ด้วยชีวิต...

 

“พวกเรา...” กิยูย้ำถึงความประสงค์ของทั้งเขาและคนที่ล่วงลับ “อยากเห็นทั้งทันจิโร่ เนซึโกะ เซนอิทซึ อิโนะสุเกะ ซึยูริ หรือคันซากิ ได้ใช้ชีวิตอย่างมีความสุขบนโลกนี้ อยากเห็นทุกคนได้มีชีวิตต่อไปยืนยาว แทนที่ตัวข้าและชิโนบุเอง”

 

เจตจำนงที่ถูกส่งผ่านทั้งจากพี่สึทาโกะ ซาบิโตะ ส่งมอบจากคานาเอะ และชิโนบุ และมาหยุดอยู่ที่เขา เจตนารมณ์ที่เขายังต้องยืนหยัดอยู่บนโลกนี้ต่อไป

 

เพื่อให้มั่นใจว่า มันจะถูกส่งมอบมายังเหล่าเด็กทั้งหกคนนี้ เพื่อให้น้อง ๆ และคนที่เธอรักทุกคน ได้ใช้ชีวิตอย่างมีความสุขบนโลกอันงดงามนี้ไปอีกนานแสนนาน...

 

บนโลกที่ปราศจากอสูรคอยคุกคามมนุษย์...

 

ท้องฟ้าสีสดเริ่มแปรเปลี่ยนเป็นสีส้มแดง ช่วงเวลาที่ทั้งงดงามและตราตรึงใจ ด้วยเป็นท้องฟ้าที่เขาและเธอเคยได้มองร่วมกัน... ในวันที่เผยความในใจให้อีกฝ่ายได้รับรู้...

 

และเป็นสัญญาณว่า อีกไม่นาน ห้วงเวลาแห่งรัตติกาลที่เขาเฝ้ารอกำลังจะมาเยือน

 

“ไว้คราวหน้าข้าจะพาเนซึโกะ คานาโอะ และคนอื่น ๆ มาเยี่ยมกิยูซังนะครับ”

 

“เดินทางกลับดี ๆ ล่ะ”

 

อดีตเสาหลักวารีเอ่ย พลางโน้มตัวรับคำบอกลาของชายหนุ่มรุ่นน้อง ก่อนจะชะงักเมื่อนึกถึงบางสิ่งที่ค้างคาในจิตใจของเขา

 

ท่าทีที่ทันจิโร่แสดงออกมาต่อน้องสาวบุญธรรมคนเล็กของชิโนบุ ความสัมพันธ์งดงามดุจต้นกล้าที่ใกล้จะเบ่งบานเป็นดอกไม้แสนสวยในอีกไม่ช้า...

 

แต่เวลาของมนุษย์ ไม่เคยมีใครหยั่งรู้ได้ว่ามันจะไปสิ้นสุดลงที่ตรงไหน...

 

เวลาถึงเป็นสิ่งที่ผ่านแล้วผ่านเลยไป ไม่อาจหวนย้อนมา...

 

“ทันจิโร่... เวลาเป็นสิ่งที่ผ่านไปเหมือนสายน้ำ” คำพูดกลั่นออกจากใจคนที่เคยปล่อยให้เวลาล่วงเลยจนทุกสิ่งสายเกินแก้ ความเสียใจและความขมขื่นไม่อาจลบเลือนไปจากใจเขาได้จนวันตาย เขาถึงไม่อาจให้คนที่ชิโนบุรักทั้งสองคนต้องพบเจอชะตากรรมแสนเศร้าเหมือนพวกเขาทั้งคู่อีก “อย่าปล่อยให้มันผ่านไปโดยสูญเปล่านะ”

 

ประโยคที่ฟังเข้าใจยาก หากใช้เวลาไม่นานทันจิโร่ก็เข้าใจในสิ่งที่อีกฝ่ายต้องการจะสื่อ นัยน์ตาทั้งสองข้างของเด็กหนุ่มเบิกโพลงยามนึกถึงความจริงเกี่ยวกับปานที่ได้รับฟังมาจากคานาโอะไม่นาน

 

“กิยูซัง... เรื่องปานนั่น?! แล้วกิยูซังกับชินาซึงาวะซังละครับ?!”

 

รอยยิ้มอ่อนโยนผุดเหนือดวงหน้า ขณะนัยน์ตาสีครามทอดมองเด็กหนุ่มที่มีทีท่าตกอกตกใจด้วยความเป็นห่วงเป็นใยทั้งตัวเขาและอดีตเสาหลักวายุ

 

ความอ่อนโยนของคามาโดะ ทันจิโร่ เป็นที่ประจักษ์ของพวกเขาอย่างชัดแจ้ง และแรงใจที่เข้มแข็งไม่แพ้เสาหลักในหน่วย สองสิ่งนี้ต่างหากที่นำพาปาฏิหาริย์มาสู่ชัยชนะอันแสนยาวนานที่พวกเขาเฝ้ารอ...

 

และเขา ก็หวังว่าปาฏิหาริย์จะเกิดขึ้นกับเด็กผู้นี้ซ้ำสองอีกครั้ง

 

“อย่าได้ห่วงเลย” เขายกมือซ้ายลูบศีรษะอีกฝ่ายเบา ๆ “เวลาที่เหลือมันอาจจะสั้น แต่ทั้งข้าและชินาซึงาวะไม่มีอะไรให้อาวรณ์แล้ว”

 

คำพูดที่เรียกหยาดน้ำไหลกบนัยน์ตาทั้งสองข้างของเด็กหนุ่มอีกครั้ง ถึงจะไม่รู้รายละเอียดของฝ่ายอดีตเสาหลักวายุชัดเจน เขาก็พอจะเดาได้จากสิ่งที่คานาโอะเคยเกริ่นถึงความสัมพันธ์ระหว่างฝ่ายนั้นและอดีตเสาหลักบุปผาที่ล่วงลับไปเมื่อห้าปีก่อน

 

ความเป็นห่วงที่ซาเนมิแสดงออกต่อทั้งอาโออิ คานาโอะ และรวมถึงเนซึโกะ ก็เพียงพอจะทำให้ทันจิโร่เดาได้ว่าสิ่งที่อดีตเสาหลักทั้งสองยังคงห่วงกังวลอยู่คืออะไร...

 

“รักษาสุขภาพนะครับ... กิยูซัง” ทันจิโร่กล่าวก่อนส่งยิ้มกว้าง แม้น้ำตาจะรินไหลไม่ขาดสาย “ถ้ามีโอกาส มาค้างที่บ้านข้าให้ได้นะครับ”

 

“อื้ม ไว้จะส่งจดหมายบอกก่อนนะ”

 

กิยูมองแผ่นหลังของชายหนุ่มรุ่นน้องที่ลับสายตาออกไปด้วยรอยยิ้ม แหงนหน้ามองท้องฟ้าที่เปลี่ยนเป็นสีน้ำเงินเข้มดุจห้วงมหาสมุทรเมื่อรัตติกาลมาเยือน

 

แม้ความเจ็บปวดจะไม่มีวันลบเลือนจากใจ แต่อีกไม่กี่ชั่วยาม กิยูก็มั่นใจว่าเขาก็คงจะได้พบกับเธอคนนั้นในความฝันอีกครั้งหนึ่ง

 

ถึงจะเสียดายที่เขาได้แต่ปล่อยวันเวลาให้ผันผ่านล่วงเลยไปหลายปีโดยใช้เหตุ ไม่เช่นนั้น ทั้งเขาและเธอคงได้มีโอกาสมีความสุขด้วยกันมาอีกหลายปี

 

แต่กระนั้น เขาก็ไม่เสียใจที่ยังมีชีวิตอยู่... เพราะยังต้องอยู่เป็นหลักให้เหล่าน้อง ๆ ได้พึ่งพิงในช่วงเวลาที่เหลือ

 

และก็ไม่เสียใจ ที่ได้รักผู้หญิงที่แสนพิเศษคนนั้น คนที่แม้จะจากไป แต่ก็ยังคงส่งต่อความห่วงใยให้แก่เหล่าน้อง ๆ ทั้งหลาย และคนที่เธอรักไว้อย่างครบครัน

 

เจ้าก็คงเช่นกัน ใช่ไหม ชิโนบุ...

 

===========

Author's Talk 04 DEC 2022

เย่ จบไปแล้วกับตอนพิเศษ 5.2 นะคะ

เหมือนหลอกให้คนอ่านหัวปั่นเนอะ พรีวิวมาด้วยความน่ารักกุ๊กกิ๊กฉบับคุณกิวัย 17 และคุณชิวัย 14

แต่นั่นแหละค่ะ... ในเมื่อเนื้อเรื่องหลัก อ.เข้ปูทางมาขนาดนี้ เราก็คงต้องตามตัวละครและเนื้อเรื่องของอ.เข้ไปค่ะ XD เพราะการตายของพี่เอะส่งผลกับคุณชิขั้นรุนแรงมาก

และในที่สุด ก็เหมือนได้เป็นการขยายความ Day 3 เนอะ ว่าทำไมคุณกิถึงโหยหารอยยิ้มของชิโนบุที่แม้จะไม่ตรงกับสาวในฝันของคุณกิเธอค่ะ

แล้วก็นั่นแหละ เพราะสองคนนั้น air-headed ขั้นสุดค่ะ คือโอ๊ย อยากจับทั้งคู่เขย่ามากเลย เอ็นดูนะคะ แต่ก็นะ ถ้าเค้ารู้ใจกันตั้งแต่ตอนนั้น คงไม่มีฟิคแอ๋งละมุนให้เราได้เขียนหรอกค่ะ กับยังไงเราก็มองว่า

ขอใส่สปอย เผื่อคนอาจจะอยากไปตามลุ้นตอน The Tales of Butterfly Effects อีกทีค่ะ ตรงนั้นเราคงขยายความทั้งมุมคุณชิและมุมพี่เอะแน่นอน แต่ก็อยากเมาท์มอยในตอนนี้ด้วยค่ะ

นั่นแหละค่ะ สรุปทั้งคู่ก็เลยไม่เคลียร์อะไรเลย คุณชิก็แตกสลายจนไม่สามารถคิดอะไรได้อีกแล้ว คุณกิก็เอาแต่คิดว่าตัวเองปกป้องทั้งพี่เอะคุณชิไว้ไม่ได้ ซึ่งตรงนี้ เราคงได้เห็นมุมคุณกิในตอนพิเศษ 6 กันค่ะ

สำหรับตอนพิเศษ 6 ไม่แน่ใจว่าจะได้เอามาลงเสาร์หน้าไหม แต่ถ้าไม่ทันก็เจอกันเสาร์ที่ 18 หรืออาทิตย์ที่ 19 เลยค่ะ ช่วงนี้งานเราสาหัสมาก จริง ๆ ลาพักร้อนไว้เพราะจะเคลียร์เล่มให้จบ แต่มีประชุมมอบมาค่ะ 5555 สรุปก็คือต้องยกเลิกวันลาไปเคลียร์งานแต่โดยดี Y_Y

เลยคิดว่าถ้าไม่ทันยังไง เราขอโฟกัสกับการเขียนตอนพิเศษ 6-8 ให้จบรวดเดียวค่ะ แล้วค่อยมาลง 6.1 ทีหลังอีกทีเนอะ

ตอนพิเศษ 7 อาจจะมีลงให้อ่านเป็นของขวัญปีใหม่กันค่ะ แต่ตอนพิเศษ 8 เราขออนุญาตลงหลังส่งเล่ม KNY FF - In Time With You ล็อตแรกถึงมือคนที่พรีก่อนนะคะ แล้วค่อยลงตอนพิเศษ 8 อีกที

ตอนนี้เลยตัดสินใจขยายพรีไปถึง 12 ธันวาคม 2564 ก่อนค่ะ เพราะดูทรงแล้ว เราส่งเล่มได้เร็วสุดก็น่าจะ 13-14 ธันวาคมเลย ฮื้อ ต้องขอโทษมาก ๆ นะคะ ไม่คิดว่าพอหมด wfh แล้วจะประชุม/งานถล่มทับขนาดนี้ ไม่นับกับ แหะ ๆ กระดูกนิ้วเท้าร้าวนิดหน่อยค่ะ XD

ใครประสงค์อยากพรีแต่ยังไม่ได้พรี กรอกแบบฟอร์ม ได้ที่นี่ เลยค่ะ ^^ เราอาจจะพิมพ์มาเผื่อจำนวนหนึ่ง แต่ถ้ามันหมด ก็คงต้องไปรอช่วงเปิดพรีเล่มพี่สาอีกทีนะคะ ^^

ท้ายสุดนี้ ขอขอบคุณคนอ่านทุกคน ทุกคอมเมนต์ ทุกกำลังใจค่ะ ขอบคุณที่ช่วยเซฟเราสำหรับช่วงที่ยากลำบากนี้นะคะ แต่ทุกคนอย่าลืมพักผ่อนนะคะ ปีนี้เราเรียนรู้ว่าสังขารนี่ เวลาทรุด มันทรุดจริง ๆ ค่ะ มีเวลานอนได้นอนเถอะนะคะ ^^

อย่าลืมลำดับความสำคัญในชีวิตด้วยนะคะ ทั้งเรื่องเวลา เรื่องการเรียน/งาน เรื่องสุขภาพ รวมถึงค่าใช้จ่ายค่ะ

แล้วพบกับตอนพิเศษ 6.1 ถ้าไม่อาทิตย์หน้า ก็อาทิตย์ที่ 18-19 เลยนะคะ (ถ้า 18 นี่ คงมาดึก ๆ เลยค่ะ วันนั้นปล่อยผีกับเพื่อนนิดนึง ขอเจอเพื่อนฝูงบ้างค่ะ XD)

Author's Talk 28 MAY 2022

สวัสดีค่า วันนี้ก็เป็นคิวฉบับลง Rewrite สำหรับรวมเล่มนะคะ เพื่อให้เนื้อหาออกมาสมบูรณ์ที่สุดเท่าที่เราจะทำได้ค่ะ

เช่นเคยค่ะ บทนี้ดูเหมือนรีไรท์ไม่มาก แต่ก็มีประมาณหนึ่งนะคะ แต่ซีนที่ยังชอบที่สุดก็คือ... เมื่อคนซึน vs คนบื้อค่ะ ได้แต่ขำตามพี่คานาเอะ แต่ก็เจ็บปวดเหมือนกันที่ทุกสิ่งมันออกมาอย่าที่หลายท่านได้อ่านไปแล้วค่ะ

สำหรับคนที่ยังลังเลอยากเก็บเล่มหรืออย่างไรลองดูเล่มตัวอย่างได้จากที่เราอัพเดท หรือในเทรดทวิตเตอร์นี้นะคะ

แล้วก็ ใครที่มีความสนใจอยากเก็บฟิคเล่มนี้ รวมถึง KNY FF - In The Remembrance of Her #แด่เธอในความทรงจำนิรันดร์ เป็นที่ระลึก ตอนนี้เราเปิดพรีฟิคอีกรอบค่ะ โดยสามารถดูรายละเอียดเบื้องต้นของรวมเล่มทั้งสองเล่ม ฉบับปรับปรุงล่าสุด 16 APR 2022 มาให้ได้ศึกษานอกเหนือจากตัวฟิคที่สามารถอ่านตอนหลังได้ใน ReadAWrite | Dek-D | ReadHaus นะคะ

รายละเอียด KNY FF - In Time With You #ห้วงเวลาของเราสอง (Tomioka Giyuu x Kochou Shinobu)

รายละเอียด KNY FF - In The Remembrance of Her #แด่เธอในความทรงจำนิรันดร์ (Shinazugawa Sanemi x Kochou Kanae)

ถ้าสนใจ จิ้มลิงค์สั่งจองด้านล่างได้เลยค่ะ หรือดูรายละเอียดพร้อมกรอกแบบฟอร์มได้ที่นี่นะคะ [Link]

(เปิดพรีงวดนี้จนถึงวันที่ 5 มิถุนายน 2565 ค่ะ)

แต่ทั้งนี้ ใครไม่สะดวกไม่เป็นไรนะคะ รับรองได้อ่านเนื้อหาเหมือนเดิม และในรูปแบบ Rewrite เหมือนกันค่ะ เพียงแต่อาจจะได้อ่านตอนพิเศษช่วงท้ายหลังจากเราส่งเล่มล็อตแรกนะคะ

หรือจะรอไปเก็บรอบงาน Comic Avenue ก็ได้เหมือนกันค่า จริง ๆ อยากปั่นเล่ม KNY FF - The Tales of Butterfly Effects ให้ทันเหมือนกัน แต่ดูจากปริมาณงานแล้ว... อ่า เราไม่กล้ารับปากค่ะ Y_Y ช่วงนี้งานกลับมาโถมหนักมาก ต้องเป็นผีเฝ้ากลุ่มไปอีกสี่เดือน+ทำเล่มผลงานวิชาการด้วยค่ะ

สำหรับพุธนี้ กลับมาพบกับตอนพิเศษ 6.1 นะคะ อาจจะมาเลทกว่าปกติหน่อยค่ะ พอดีเราจัดประชุมเคสช่วงบ่ายวันพุธพอดี ถ้ามันเลิกเลทกว่า 16.30 ก็คงจะถึงบ้านราว ๆ 21.00 เลยค่ะ XD ร้องไห้ล่วงหน้าแล้ว 5555 วีคหน้าประชุมบานเลยค่ะ ไหล่ก็ยังเจ็บเอาเรื่องอยู่ค่ะ

ยังไงก็อยากให้คนอ่านทุกท่านรักษาสุขภาพด้วยนะคะ ร่างกายเรามีอยู่ชิ้นเดียว ถนอมมันด้วยค่ะ ^^