3 ตอน Chapter 3-50%
โดย T.mines
Chapter 3
Number Nine My Sun
#IXMYSUN
ผ่านไปหนึ่งเดือนหลังจากการลาพักร้อน ชายหนุ่มร่างโปร่งกลับมาทำงานตามปกติ เป็นงานลูทีนตามแบบฉบับมนุษย์โรงงานทั่วไปๆ แต่สิ่งที่เพิ่มเติมคือวันนี้เขามีนัดกับพี่สาวคนที่สี่ ให้ไปพาไปกินข้าวและไปเอาของที่ร้านเพื่อนสนิท เอาตอบตกลงทันทีเพราะไม่ค่อยได้เจอเพื่อนสนิทเท่าไหร่ ด้วยต่างคนมีหน้าที่ต้องรับผิดชอบ แยกย้ายกันไปทำงาน จะนัดกันแต่ละครั้งยากมาก ส่วนใหญ่จะล่มมากกว่า พวกเขาจึงจะยึดเอาวันสำคัญแต่คนเอาไว้ เช่นวันเกิดของแต่ละคนต้องมาเจอกันให้ครบขาดไม่ได้ และรอบนี้จะเป็นวันเกิดของไนน์ในอีก1เดือนข้างหน้า
มื้อเที่ยงนี้ชายหนุ่มสั่งอาหารจากบริการผ่านแอฟ เนื่องจากเขายังไม่อยากเข้าไปมีเรื่องในรำคาญใจ อาหารที่เขาสั่งชุดเบนโต๊ะพร้อมกับเช็ตซูซิ หลังจากทานเสร็จเขาเดินไปสั่งการกาแฟที่ด้านหน้าออฟฟิศ
“ขออเมริกาโน 1 แก้วครับ” จ่ายเงินและรับใบเสร็จ ก่อนจะถอนไปข้างๆ เพื่อรอรับกาแฟ
เขาดูดกาแฟ คาเฟอีนยามเที่ยงแก้อาการง่วงยาวบ่ายได้อย่างดี เดินเล่นโทรศัพท์ท่องโลกอินเทอร์เน็ตไปเรื่อยเปื่อย ที่ด้วยอารมณ์หงุดหงิดอย่างหนึ่งคือเมื่อเช้าเขาเผลอทำโทรศัพท์ตกจากกระเป๋าหล่นกระแทกหินทำให้หน้าจอแตกร้าว มีกลุ่มคนกำลังเดินออกจากลิฟต์ตัวที่เป็นของผู้บริหาร เสียงคุยกันเสียงดังเดาว่าคงน่าจะเพิ่งเลิกประชุมและดูท่ากำลังจะออกไปทานข้าวกัน เป็นตามธรรมดาที่พนักงานทั่วไป มักจะหลบเลี่ยงไม่ไปอยู่บริเวณนั่นอยู่แล้ว เขาก็เช่นกันเขาจึงเลือกหลบอยู่ในมุมข้างๆ แอบมองเข้าไปในกลุ่มผู้บริหาร จะดูหน้ารองประธานที่ทุกคนต่างพูดกันหนาหูว่าหล่อนักหล่อหนา จะหล่อกว่าเขามากขนาดไหน แต่ยังไม่ทันได้ดูเลยก็มีเสียงเรียกเข้าจากโทรศัพท์
RRRR KEANE
เขาพยายามไถลอยู่นาน แต่กว่าจะรับได้ก็กินเวลานานสักพัก เขาแทบอยากจะขว้างทิ้ง
“ว่าไง”
(คุณไนน์วันนี้มีนัดกับคุณโฟร์ที่ห้าง xxxนะครับ)
“เออ” เหลือบตามองขึ้นบน อืมเขาเกือบลืมนัดโฟร์แล้ว
(…)
“เลิกงานแล้วไปเลยแล้วกัน จะซื้อมือถือเครื่องใหม่สักหน่อย หน้าจอแตก” พอพูดถึงโทรศัพท์เขาก็เริ่มจะอารมณ์เสียขึ้นมาอีกรอบ
(ครับ เจอกันนะครับ)
“คีน วันนี้มึงจะขับคันไหนมาว่ะ” พอนึกถึงลูกรักทั้งหลาย เขาเริ่มอารมณ์ดีขึ้นอีกนิดหน่อย
(น่าจะCBRนะครับ อาทิตย์นี้ยังไม่ได้เอามาขับเลย)
“เอามาขับเลย แต่มึงห้ามทำลูกรักกูเป็นรอยนะ กูขี้เกียจซื้อใหม่”
(ครับผม แล้วคุณไนน์ห้ามขับไปก่อนผมนะครับ ต้องให้ผมขับตามหลัง ผมต้องดูแลความปลอดภัยคุณไนน์นะครับ) ย่นคิ้วชนกัน เดินกลับไปยังห้องทำงานพร้อมกับฟังบอดี้การ์ดบ่นเรื่องการขับรถ
“บ่นกูจังไอ้คีน นี่กูงงใครกันแน่ที่เป็นเจ้านายว่ะ สัด” ด่าเสร็จจัดการวางสาย โดนแก้วกาแฟที่ดูดจนหมดลงถึงขยะด้านนอกและเดินกลับไปด้านในส่วนที่ทำงาน
“รอก่อนครับ” เสียงตะโกนตามหลังคนที่เข้าประตูไปแล้ว ผู้บริหารหนุ่มได้ยินเสียงที่คุ้นหูและชื่อคีนบวกกับคำว่าเจ้านาย และก่อนหน้านี้ที่มีชื่อไนน์หลุดหลายๆ วันก่อน ทำให้เขาอยากพิสูจน์ว่าจะเป็นคนเขาแทบพลิกกรุงเทพหาหรือเปล่า
หลังเลิกงานร่างโปร่งขึ้นคร่อมบิ๊กไบท์คันโปรดดูคาติสีแดงรุ่นปีล่าสุดที่เพิ่งถอยออกมาเมื่อต้นปี ราคาล้านกว่าๆ หมวกกันน็อกเต็มใบถูกสวมใส่ เสียงท่อที่ดังกระหึ่มเรียกความสนใจคนที่อยู่ภายในโรงงานได้ดี ขับออกไปจอดเทียบกับ CBR สีดำลูกรักอีกคัน ตามนิสัยคนที่ชื่นชอบความเร็วและเครื่องยนต์ ก่อนที่ทั้งสองคันจะพุ่งทะยานออกตัวไปด้วยความเร็วพอสมควร
ใช้เวลาไม่นานนักทั้งสองคนบอดี้การ์ดและเจ้านายก็มาถึงห้างสรรพสินค้าหรูกลางใจเมืองอย่างกรุงเทพ และแน่นอนการขับรถในกรุงเทพเมืองที่ขึ้นชื่อว่ารถติดอันดับต้นๆ ของโลก ถ้าเขาขับรถยนต์มา ป่านนี้คงติดแหงะทันทีที่ออกจากปากซอย การขับบิ๊กไบค์จึงกลายเป็นรถประจำตัวของหนุ่มที่ขี้รำคาญอย่างเขาที่ไม่ต้องทนรถติด พวกเขาจอดรถไว้ในส่วนที่ทางห้างจัดไว้สำหรับรถมอเตอร์ไซด์คันใหญ่
เขาทั้งสองเดินตรงไปยังชั้นบนที่มีศูนย์บริการโทรศัพท์ค่ายดังเดินเข้าไป ส่วนคีนเดินตามหลังมา พนักงานหันมาสวัสดีต้อนรับทั้งคู่ ก่อนที่จะหันบริการคีนแต่งตัวดูดีกว่าเขา ใช่ถ้าเทียบการแต่งตัวกัน มาในชุดหมีที่เป็นแบบช่าง ส่วนคีนมาในแบบหนุ่มหล่อลูกครึ่ง เสื้อเชิ้ตพอดีตัวโชว์กล้ามอกเล็กน้อย ส่วนกางเกงก็เป็นยีนที่ใส่สบายๆ แต่พอมาอยู่ในตัวคีนก็ดูดี ดีกว่าเขาแหละ แบบอารมณ์เจ้านายที่พาลูกน้องมาซื้อโทรศัพท์
“สวัสดีค่ะ มีอะไรให้ช่วยค่ะไหมคะ” พนักงานกล่าวทักทายคีน ก่อนจะหันมาส่งยิ้มให้กับหนุ่มช่างที่ใส่ชุดหมีที่ตอนนี้ยอมรับแล้วว่าสภาพเนี่ยลูกน้องคีนชัดเจน
“ขอโทษครับ ช่วยบริการเจ้านายผมดีกว่าครับ” คีนชี้นิ้วมายังเจ้านายตัวจริงของเขา ส่วนพนักงานก็หน้าเสียไปเลย เขาไม่ถือสาพนักงานอยู่แล้ว มองจากไหนก็ต้องคิดเป็นงานนั้นอยู่แล้ว
“ขอประทานโทษค่ะคุณลูกค้า วันนี้มาใช้บริการอะไรคะ” พนักงานสาวส่งยิ้มให้พร้อมกับแอบเขินอายกับการกระทำตัวเอง
“ครับ ช่วยเอามือถือรุ่นนี้ให้ผมอีกเครื่อง ฝากย้ายข้อมูลให้ด้วยนะครับ” เขาส่งมือถือที่หน้าจอแตกร้าวให้พนักงาน ส่วนคีนกำลังคุยโทรศัพท์อยู่ เดาว่าน่าจะเป็นโฟร์โทรมานั่นแหละ เพราะตอนนี้เขาปิดเครื่องไว้เพราะไม่อยากหยิบออกมาใช้ให้หงุดหงิดใจ
“คุณไนน์ครับ คุณโฟร์โทรมาครับ ผมแจ้งไปแล้วว่าตอนนี้อยู่ที่ศูนย์ xxx และกำลังจะเดินมาหาครับ”
“อืม”
ระหว่างที่รอการย้ายข้อมูล พนักงานก็มาถามว่าจะให้ส่งเครื่องเข้าซ่อมหน้าจอหรือเปล่า เขาแจ้งว่าส่งซ่อมเลย จะได้มีเครื่องสำรองไว้ใช้อีกก็ดีเหมือนกัน มานานนักพี่สาวคนที่สี่ของเขาก็เดินมาถึงพร้อมกับบอดี้การ์ดอีกสามคนที่คอยตามประกบ
“คนดีรอเจ๊นานไหม” เมื่อมาถึงก็เดินมาควงแขนน้องชายสุดที่รัก เอาหน้ามาถูไถกับแขน และแน่นอนโฟร์ไม่ใช่หญิงสาวธรรมดาทั่วไป ที่จะไม่มีใครไม่รู้จัก เธอคือหนึ่งในทายาทตระกูลศิริกิจวัชรโชติ และเป็นประธานบริหารธุรกิจการบินหนึ่งในรายใหญ่ของประเทศด้วย
“ปล่อยได้แล้วโฟร์” เขาใช้นิ้วจิ้มไปที่หน้าผากและดันหัวคนที่พยายามเอาหน้ามาซุกเขา
“ใจร้ายง่ะ กว่าคนดีจะว่างมาเจอเนี่ย ตั้งกี่วันน้า....” โฟร์เอานิ้วขึ้นมานับ หันไปหาเลขาคนสนิท
“15วันครับคุณโฟร์” เลขาเดินเข้ามาบอกและถอยออกไปยืนถัดออกไป
“ใช่ๆ 15วันเลยนะ นี่โทรศัพท์ใหม่เหรอ เดี๋ยวเจ๊จ่ายให้นะ” โฟร์หยิบบัตรออกมาแล้วยื่นไปให้พนักงาน “นี่จ๊ะ จัดการเลยนะ” เขารับโทรศัพท์เครื่องใหม่และส่งถุงที่ใส่อุปกรณ์ต่างๆ ไปให้คีน
“แล้วจะไปร้านเลยไหมหรือว่าจะไปไหนก่อน” พวกเขาทั้งหกเดินออกจากร้าน โดนโฟร์ควงแขนเดินไปกับไนน์
“ไปร้านก่อนนะ ค่อยไปกินข้าว จากนั้นเจ๊จะพาคนดีไปชอปต่อนะ” โฟร์พูดคุยกับน้องชายสุดรักอย่างตื่นเต้นที่ได้ไปเที่ยวกัน
“อืม” ปล่อยให้โฟร์ลากตัวเขาไปยังจุดหมายต่อไป
หญิงสาวตระกูลดังควบตำแหน่งผู้บริหารสายการบินอันดับต้นๆ ทั้งในและนอกประเทศ เดินควงหนุ่มในชุดธรรมดา จึงเป็นจุดสนใจอย่างมาก ด้วยความระมัดระวังตัวที่ถูกสั่งสอนตั้งแต่เด็กจนติดเป็นนิสัย แว่นกันแดดและหมวกยี่ห้อดังคว้ามาสวมใส่ทันที ตามประกบด้วยผู้อารักขาความปลอดภัยที่รอบหน้าล้อมหลังป้องกันภาพหลุดออกไป
ทั้งสองเดินเข้าไปยังร้าน J-Jewelry บอดีการ์ดนั่นรออยู่เพียงด้านนอก ร้านเครื่องประดับอันดับต้นๆ ของประเทศเป็นของตระกูลจิราการกูล ตอนนี้ตกลงสู่รุ่นที่สามของตระกูลแล้ว สามคนพี่น้องร่วมช่วยกันบริหารและขยายกิจการจนเป็นที่ยอมรับกว้างขวางและยังมีเครื่องประดับที่ตอบโจทย์เข้ากับคนทุกเพศทุกวัยด้วย
ร้านประดับตกแต่งให้ดูเข้ากับยุคสมัย ด้านหน้าจะโชว์เครื่องประดับเคาน์เตอร์มีพนักงานคอยต้อนรับและตอบคำถามลูกค้า ถัดไปด้านในจะส่วนรับรองลูกค้าที่มานั่งรอทั้งด้านซ้ายและขวาด้วยโซฟาหรูเข้าชุดเหมาะกับบรรยากาศของร้าน
“สวัสดีค่ะคุณไนน์ คุณทยิดา วันนี้มารับเครื่องเพชรเลยหรือเปล่าคะ” พนักงานสาวยิ้มและกล่าวทักทายเมื่อลูกค้าประจำมาถึง ส่วนตัวเขาที่เข้าออกร้านกับเพื่อนสนิทเป็นประจำจึงคุ้นเคยกับพนักงานสาวของร้าน
“ใช่จร้า” โฟร์ตอบรับและเดินไปยังโซฟาที่ไว้สำหรับรองรับแขก
“อ้าวสวัสดีครับคุณโฟร์ มานานหรือยังครับ ว่าไงเจ้าไนน์ไม่เจอกันนานเลยเรา” เจไดพี่ชายคนโตเพื่อนสนิทของเขาทักทายลูกค้ารายใหญ่ของร้าน
“สวัสดีครับ สบายดีนะครับ”
ทักทายพอเป็นพิธี เจ้าของร้านหันไปบริการลูกค้าคนสำคัญอย่างพี่สาวของเขาและลูกค้ารายอื่นที่เข้ามาเลือกเครื่องประดับ ส่วนเขาเองก็นั่งอยู่ในมุมเล็กๆ มองดูบรรยากาศภายในร้านไปเรื่อยๆ เขาได้ยินเสียงคุยกันจากสองคนพี่น้อง เจนีสและเจโอเพื่อนสนิทของเขา
“ไอ้ไนน์ มึงมาทำไรวะ” เขาเลือกไม่ตอบแต่ปากชี้ไปทางพี่สาวเขาที่กำลังพิจารณาเครื่องเพชรอยู่ พอสบตากันเจโอยกมือไหว้พี่สาวเพื่อนสนิท และนั่งลงกับเขา ส่วนเขาก็ยกมือไหว้พี่สาวเพื่อนด้วยเหมือนกัน
“เพิ่งเลิกงานเหรอว่ะ ชุดมึงเนี่ยไม่ให้เกียรติร้านกูเลย” เพื่อนชายมองเขาจากหัวจรดเท้า
“สัด เลือกบริการลูกค้าแบบนี้เหรอ” เขาพลักหัวเจโอไปทีนึง เข้าใจว่ามันล้อเล่นเรื่องชุดที่เขาใส่
“ทายาทเจ้าของธุรกิจอันดับหนึ่งของประเทศปลอมตัวไปทำงานโรงงานเพื่อตามหารักแท้ นิยายเลยว่ะ” เพื่อนเขาพูดพลางหัวเราะและตบตักแบบสะใจ
“ปลอมตัวเหี้ยอะไร กูก็ใช้ชีวิตปกติ นาฬิกา กระเป๋าเป้ และที่สำคัญรถกูยังขับคันเดิม ไม่ดิมีคันใหม่เพิ่มด้วย” เขาไล่ชี้ไปตามเครื่องแต่งกายที่เขาบอกแก่เพื่อนไป
“...” ไม่มีท่าทีสนใจ จดจ่อกับข้อความในโทรศัพท์ที่ดังเข้ามา
“แล้ววันนี้ทำไมเข้าร้านว่ะ ไม่ไปเฝ้าเมียที่กองเหรอว่ะ” เขานั่งมองคนที่เอาแต่จ้องมือถือไม่สนใจเพื่อนอยู่ตรงหน้า ปากคุยกับเขาแต่ตาจ้องที่หน้าจอตลอด สงสัยกำลังตอบข้อความจากใครสักคน แต่คงไม่พ้นนักแสดงหนุ่มดาวรุ่งในขณะนี้แน่นอน
“มาดูเครื่องประดับคอเล็กชั่นใหม่ที่จะถ่ายให้เจนีส จำเป็นต้องมานี่ไง” เพื่อนเขาตอบแบบหน้าเซ็งสุดชีวิต
“ถึงว่าวันนี้กูถึงได้เห็นหัวเพื่อน”
“...”
“แล้วมีนายแบบยัง สนใจกูไหม อยากหาเงินเอาแต่งรถว่ะ”
“ไม่!”
“ลืมไป มึงมีนายแบบอยู่ในใจอยู่แล้วนิ”
“คนนี้อยู่ในใจกูมานานแล้ว” เพื่อนเขาพูดไปและอมยิ้มไปด้วย
“แหวะ ไอ้พวกคลั่งรัก หลงเมีย” เขาเบะปาก กลอกตาขึ้นบนและทำหน้าเหม็นเบื่อไอ้เพื่อนที่พูดจาเลี่ยนๆ แบบนี้ตลอด
…หลงเข้าไป โงหัวไม่ขึ้น กู่ไม่กลับแล้วเพื่อนกู...
เขาสองคนคุยเรื่องต่างๆ ที่ผ่านมา เราเรื่องของกันและกันให้ฟังและแอบเผาเพื่อนคนอื่นที่ไม่ได้มานั่งร่วมวงสนทนาด้วย และยังวนมาคุยกับเรื่องของเขาที่เป็นประเด็นในกลุ่มอีกตามเคยและยังยุให้ลาออกอีกคน ส่วนคนที่ฟังอย่างเขาก็ได้แต่ฟังไม่โต้ตอบอะไรแก่เพื่อนคนนี้
“คนดี มาดูชุดเครื่องเพชรนี้ให้หน่อยสิคะ” คนที่ลองเครื่องประดับประโคมเรื่องเพชรชุดใหญ่ส่องกระจกเอียงซ้ายเอียงขวาดูความเหมาะกับตัวเองอยู่ เขาและเพื่อนที่นั่งมองอยู่ถึงขั้นหยี่ตาหลบแสงแวบวาบ แทบอยากจะหยิบแว่นกันแดดมาใส่
“โฟร์ใส่อันไหนก็เหมาะหมดแหละ สวยทุกอันเลย” เขาตอบแบบกลางๆ ตามนิสัยผู้ชายที่มีถนัดเรื่องนี้
“น่ารักอีกแหละเนี่ย วันนี้คนดีจะเอาอะไรเจ๊เหมาหมดห้างเลย” โฟร์ลุกจากโซฟาจับน้องชายมาจุ๊บแก้มซ้ายทีขวาอีกที สุดท้ายกดจมูกลงบนกระหม่อม ก่อนจะผละออกไปยังดึงแก้มเขาทั้งสองข้าง “หลงรักจะตายอยู่แล้ว”
“...” คนโดนหอมแก้ม นั่งทำหน้ากลืนไม่เข้าคายไม่ออก ในใจก็คิดว่าไม่น่าหลงชมเลยส่วนไอ้เพื่อนตัวดี ได้แต่นั่งหัวเราะเขา
“ฮ่า ฮ่า ฮ่า คนดีของโฟร์โดนฟัดซะแก้มช้ำหมดเลย ฮ่า ฮ่า ฮ่า ไอ้ไนน์กูน่ารักโว้ย” เจโอนั่งหัวเราะกุมท้องขดท้องแข็ง
อัก! ฝ่าตีนหนักๆ ยันเข้าไปที่สีข้างหนาๆ กัดกรามคำรามใส่ “สัด น่ารักบ้านพ่องมึงสิ”
“สัด ถีบมาได้ เจ็บนะมึง” เจโอเอามือมาลูบตรงที่โดนฝ่าเท้า
“อย่าคำว่าน่ารักมาใช้กับกู แค่พวกนั้นใช้กูจะบ้าตายอยู่แล้ว กูหล่อและหล่อมากด้วย น่ารักมันใช้กับคนที่ตัวเล็กๆ อย่างพี่ไอซ์ของมึง ไอ้วีนั่น” เขาทำท่าขนลุกกับคำนี้
“เมียกูน่ารักอยู่แล้ว ส่วนมึงคำว่าน่ารัก เฮ้ย...ไม่ควรพูดถึง” เจโอไหวไหล่ลูบต้นแขนราวกับว่าขนลุกไปทั้งตัว
“มึงศุกร์สิ้นเดือนนี้กูจัดงานวันเกิดกูนะ ฝากชวนพี่ไอซ์ด้วย นานจะได้เจอกัน”
“เออ ที่ร้านพี่มึงเปล่า”
“แล้วมึงว่าพวกมันยอมไหมล่ะ เดี๋ยวแฝดเกามันจะตามไปร้องไห้อีก”
“ใช่ๆ” เจโอพยักหน้าเห็นด้วยอย่างยิ่ง
เขาและกลุ่มเพื่อนสนิทจำเรื่องนี้ได้ดี ช่วยที่เข้าปีหนึ่งใหม่ๆ พวกเขายกโขยงไปร้านเหล้ากึ่งผับข้างมหาลัยโดยเขาไม่ได้ชวนๆ พี่สักคน ส่วนเขากะว่าจะไปเลี้ยงกับพี่และปู่ที่บ้านอีกทีวันหลัง แต่ข่าวก็ไปถึงฝาแฝดทาซอท-ยอซอททั้งคู่บุกมาถึงร้าน กินเหล้าเมา ร้องห่มร้องไห้น้อยใจว่าน้องไม่รัก ไม่ยอมมาที่ร้าน ร้านพี่ไม่ดีตรงไหน จะทุบร้านทำใหม่ให้ถูกใจน้อง ไม่ยอมบอกเรื่องจะจัดวันเกิด พี่อยากอยู่ร่วมในวันเกิดน้อง อยากดูน้องไนน์เป่าเค้ก ยืนร้องข้างๆ โต๊ะ เช็ดน้ำตากับป๋อยๆ สองคนพี่น้อง เรียกแบบว่าหมดสภาพมาเฟียที่สั่งสมมาสุดๆ ร้อนถึงเขาต้องเข้ามาปลอบและสัญญาว่าจะไปจัดที่ร้านของพวกพี่ทุกๆ ปี
.
.
.
.
“คุณศิริลักษณ์ไฟล์รายชื่อพนักงานที่ผมขอไป ทำไมเอกสารมันไม่ครบครับ” ท่านรองประธานที่เกิดสงสัยคนเรื่องคนนั้น พยายามตามหาและจ้างนักสืบตามหา เขามีเพียงแค่รูปถ่ายที่ไม่ค่อยชัดและอีกหลายรูปตอนที่ใส่แว่นกันแดดเท่านั้น ชื่อเล่นและชื่อบอดี้การ์ด อาศัยอยู่กับปู่ มีพี่สาวพี่ชายรวมกันแปดคน เป็นข้อมูลที่แทบจะหว่านแหหาเลย และเขากำลังหงุดหงิดกับข้อมูลที่ได้รับมาจากแผนกฝ่ายบุคคล
“คือ..คือเมื่อช่วงกลางปีที่แล้วค่ะ ระบบคอมพิวเตอร์โรงงานเราโดนไวรัส ข้อมูลบางส่วนเลยเสียหายไปค่ะ”
“...”
“ทางเรากำลังไล่ขอข้อมูลพนักงานเพิ่มอยู่นะคะ”
“...” เขาถอนหายใจในคำตอบที่ได้รับ
“ท่านรองประธานต้องการข้อมูลของพนักงานคนไหน เดี๋ยวดิฉันไปหามาให้ค่ะ” เสียงที่ตอบมาเริ่มสั่น เหลือบมองเจ้านายที่เอาแต่ทำหน้านิ่ง จ้องไปยังเอกสารบนจอคอมพิวเตอร์
“ไม่ต้องแล้ว” เขาโบกมือปัดให้ออกไป พนักงานสาวเริ่มโค้งก้มลงแล้วเดินออกไป “เดี๋ยวครับ ที่คุณบอกว่าโดนไวรัสตั้งแต่กลางปี นี่มันผ่านมาก็สักเดือนกว่าๆแล้ว ผมว่าข้อมูลมันควรจะได้รับการแก้ไขให้เหมือนเดิมได้แล้ว ทำไมยังปล่อยทิ้งไว้นานขนาดนี้ พรุ่งนี้ให้ผู้จัดการแผนกมาพบผมด้วย”
“คะ..ค่ะ ได้ค่ะ” พนักงานสาวหน้าซีดเดินออกจากห้องไป
“โถ่เว้ยยย” เขาตะโกนเสียงดัง มือขยุ้มยี้ไปที่หัวตัวเอง อย่างน้อยถ้าไม่ใช่เขาจะได้เลิกสงสัยสักที
“ไนน์อันนี้ไหมคะ หนมจีบกุ้งที่คนดีชอบไง” เขานั่งหน้านิ่งอ้าปากรับขนมจีบ ที่พี่สาวเขาเป็นคนป้อน ในใจนึกไว้อย่างเดียว ไม่น่าชมเลย... ส่วนไอ้สามตัวที่ตามมาด้วยก็ช่วยกันกดมือถือถ่ายรูปของตอนโดนป้อนกันอย่างสนุกสนานตามคำสั่งคนเป็นนาย
“พอแล้วโฟร์ อิ่มแล้ว” น้องชายบอก พร้อมเอามือปัดตะเกียงที่คีบฮะเก๋ามาจ่ออีกชิ้น
“ไนน์ครับ เอาอันนี้ไหม ฮะนักเลง” เสียงคนเล่นมุกที่ไม่ค่อยจะรุ่งเท่าไหร่
“อ่า ฮะเก่านั่นเอง ฮ่า...ฮ่า....ฮ่า” เขาจำได้ว่าแกล้งขำเหมือนตัวสลอธในการ์ตูนเรื่องซูโทเปีย
“โห ขำแบบนี้ คนเล่นมุกหมดกำลังพอดี” คนเล่นมุกแกล้งทำหน้างอใส่
“นี่ขำสุดแล้วนะ อีกนิดจะลงไปกลิ้งโชว์” คนน้องทำหน้าเรียบนิ่งใส่
“...” และเขาทั้งสองก็หัวเราะใส่กัน คนน้องยิ้มยาหยีใส่คนพี่ คนพี่เอามือมาลูบหัวด้วยความเอ็นดู
“คนดีเป็นไรค่ะ” โฟร์แตะที่แขนคนน้อง” เงียบไปเลย โกรธอะไรโฟร์หรือเปล่าคะ”
“ไม่มีอะไร แค่เผลอคิดอะไรบางอย่าง โฟร์อิ่มยัง จะไปซื้อรองเท้าสักหน่อย”
“ค่ะ อิ่มแล้ว พี่ชาติเคลียร์ค่าใช้จ่ายด้วย” โฟร์หันไปสั่งเลขาคนสนิท “ป่ะค่ะคนดี หนูจะเอารองเท้ากี่คู่ เจ๊จัดให้เลย”
พี่คนที่สี่พาน้องชายสุดท้องมาซื้อรองเท้า และอย่างที่เคยทำกันเป็นประจำของพวกพี่ๆ คือถ้าเมื่อน้องบ่นอยากได้อะไร แน่นอนมันคงไม่ได้แค่ชิ้นเดียว พูดถึงรองเท้า รองเท้าก็มารุ่นใหม่ล่าสุด ทุกแบรนด์รุ่นล่าสุดถูกนำมาวางตรงหน้า และคนที่เลือกย่อมสีคือเขา
“คนดี… รองเท้าเอาแบบไหนดีคะ” เสียงออดอ้อนน้องชายสุดที่รัก “แต่ว่าเอาหมดนี่เลยดีไหม จะได้สลับกันใส่ รองเท้าคู่เก่าทิ้งเลยนะ เค้าซื้อให้จะได้ไม่ต้องใส่ของไอ้พวกนั้น” พี่สาวแสนดีโบกมือปัดแบบหมั่นไส้และรังเกียจรองเท้าของพวกลูกพี่ลูกน้องที่เหลือ
“ (ー ー;) ”
เอาตามความจริงเขาแทบจะไม่เลยได้เลือกซื้อเสื้อผ้า รวมทั้งเครื่องแต่งกายเอง เฮียๆ เจ๊ๆ ชวนมาซื้อก็จริง แต่พวกนั้นจะเลือกให้และแทบจะกวาดทุกแบบที่มีให้ นี่ยังไม่รวมที่ซื้อมาฝากจากต่างประเทศอีก ส่วนน้ำหอมที่ชอบอย่าง Tom Ford Neroli Porto fino ตอนนี้นะเหรอล้นตู้แล้ว ทำหล่นแตกไปสักสิบขวดหรือลืมทิ้งไว้เวลาไปเที่ยวยังไม่คิดจะกลับไปเก็บเลย ดีที่เครื่องประดับและนาฬิกาเขาของเลือกเองและไม่บอกแบรนด์ที่ชอบ ไม่งั้นเต็มบ้านอีก
“น้องค่ะจัดมาอย่างละคู่ เอาสีตามนี่เลย เบอร์42ค่ะ” รองเท้าผ้าใบห้าคู่ถูกนำไปใส่กล่อง และผ่านการจ่ายเงินโดยเลขาส่วนตัวของโฟร์
“ตามใจโฟร์เลย” เขาพยักหน้าใส่พี่สาว ...เอาที่สบายใจเลยจร้าคุงพี่...
“รองเท้าได้แล้ว ยังขาดเสื้อ กางเกง เข็มขัด ถุงเท้า ผ้าเช็ดหน้า หมวก...”
“พอแล้วโฟร์เยอะไปแล้ว เอาแค่เสื้อกับกางเกงพอที่เหลือไม่เอานะ” น้องชายรีบเบรก และเขาต้องยอมเลือกเอาแค่บางอย่างเท่านั้นด้วยที่รู้ว่าถ้าขืนไม่เอามันจะไปจบง่ายๆ “ไปเลือกเสื้อนะ จะได้รีบกลับกันไนน์เหนื่อยแล้ว นะครับ”
“อื้ม...” คนพี่ยิ้มกว้างที่น้องชายอ้อน มือเล็กมาหยิบแก้มน้องชาย “คนดีจะไปไหนตามใจหมดเลยค่ะ น่ารักที่สุดเลยค่ะ”
ลูกอ้อน นะครับ เนี่ยมักจะได้ผลเสมอสำหรับคนกับพี่ๆ ทุกคน
ร้านเสื้อผ้าสุดท้ายของวันนี้ อย่างถามนะว่าตอนนี้คนที่ขี้รำคาญมีสีหน้ายังไง เหม็นเบื่อสุดๆ ไนน์คิดผิดที่อ้อนโฟร์แทนที่เขาจะได้กลับเร็วอย่างที่คิดไว้กลับกลายเป็นว่าเขาต้องเขาไปลองชุดนั่นชุดนี้ให้ดูอีก บอดี้การ์ดที่มาเคยดูแลความปลอดภัยมือที่ต้องคอยจับปืนยิงคุ้มกัน เต็มไปด้วยถุงชอปปิ้ง
“สวัสดีครับคุณโฟร์” ชายหนุ่มรูปร่างสูงโปร่ง หล่อราวกับนายแบบ เดินยิ้มเข้ามาทัก
กลุ่มบอดี้การ์ดหันไปมองคนที่มาใหม่ โฟร์หันไปพยักหน้าให้ปล่อยเข้ามาได้ “สวัสดีค่ะหมวดอาทิตย์” โฟร์กล่าวทักทายตามมารยาทเท่านั้น
“มาทำอะไรหรือครับ ผมเห็นคุณโฟร์กับน่าจะน้อง...ไนน์ใช่ไหมครับ... ผมเลยคิดว่าน่าจะเข้ามาทักทายสักหน่อย” ชายหนุ่มฉีกยิ้มให้พวกเขาทั้งสองคน
“ครับ สวัสดีครับ” ไนน์เงยหน้าขึ้นไปมองคนมาใหม่ที่ตัวสูงกว่าเขา
“จำพี่ไม่เหรอครับ เจอกันครั้งล่าสุดไนน์น่าจะแค่สิบขวบเองมั่ง” ชายหนุ่มสืบเท้าเข้ามาใกล้ ก้มหน้าให้อยู่ระดับเดียวกับเขา
“ครับ?”
“ยิ่งโตยิ่งน่ารักนะครับ” ชายหนุ่มอมยิ้ม ยืดตัวขึ้นจากหน้าคนที่ตัวเล็กกว่า
“อะแฮ่ม! คนดีไปลองชุดต่อเถอะเสียเวลามามากแล้ว จะได้กลับบ้านไปพักผ่อนนะ” โฟร์พลางฝเอามือดันหลังคนน้องให้เขาไปยังห้องลองชุด และยังส่งเสียงต่อท้ายมาด้วย “ลองนานเลยก็ได้เลยค่ะ”
“งั้นผมขอตัวก่อนนะครับ” ไนน์หันไปกล่าวกับบุคคลที่อยู่ร่วมในวงสนทนา
“ตามสบายครับ”
ประตูห้องลองชุดปิดลง ความหวงน้องชายของมัมหมีโฟร์องค์ลงทันที
“หมวดอาทิตย์ค่ะ ถ้าไม่ธุระอะไร ดิฉันขอตัวนะคะ นี่คือเวลาของครอบครัว คนอื่นไม่เกี่ยว” น้ำเสียงเจือปนความไม่พอใจ โฟร์ยกมือกอดอกจ้องหน้าคนที่หมายจะจีบน้องชายของเธอ
“หึ หึ ยังหวงน้องชายเหมือนเดิมเลยนะครับ” น้ำเสียงเรียบนิ่งต่างจากน้ำเสียงที่พูดกับอีกคนเมื่อกี้
“...”
“ผ่านมาสิบกว่าปีแล้ว ครั้งนี้ผมคงต้องขอโอกาสพิสูจน์ตัวกับคุณไฟร์และคนอื่นๆ อีกทีด้วยนะครับ” ผู้หมวดอาทิตย์โน้มตัวนอบน้อมให้คนตรงหน้า
“ส่งแขก!!” โฟร์ออกคำสั่งอย่างเกรี้ยวกราดไปยังบอดี้การ์ดที่ยืนเรียงราวในร้าน
“เชิญครับหมวด” หนึ่งในบอดี้การ์ดเดินเข้ามา พร้อมกับผายมือไปด้านนอก
“แล้วเจอกันใหม่นะครับคุณโฟร์ ผมฝากลาน้องไนน์ด้วยสิครับ” ผู้หมวดเดินจากไป ทิ้งโฟร์ที่กำหมัดแน่นด้วยความโมโห
“คีน!! มึงอย่าให้มันเข้าใกล้คนดีของกูนะ ถ้ามันมาใกล้หรือเข้ามาจีบน้องกูมึงต้องรีบบอกพวกกูนะ ไม่งั้นกูเอามึงตายแน่!!” เจ้านายสาวกดเสียงต่ำสั่งและชี้ไปยังคนที่เดินออกไป
“ครับ” คีนโค้งตัวรับคำสั่ง
คนน้องเดินออกมาจากห้องลองชุดและส่งชุดที่เพิ่งลองเสร็จไปยังเลขาโฟร์ให้เอาไปจ่ายเงิน
“โฟร์ หมวดอาทิตย์นี่ใคร”
“หลานคุณหญิงนิราเพื่อนคุณย่า” โฟร์กลอกตาเบะปากระหว่างอธิบายให้น้องชายฟัง
“ไม่ชอบเค้า? เพราะ?” เขาหันไปถามพี่สาวด้วยความสงสัย
“ก็มัน...” เสียงจิปากด้วยความหงุดหงิด “ช่างเถอะแต่เจ๊ไม่อยากให้คนดีไปยุ่งกับมันนะ”
“ไนน์จะยุ่งกับเขาทำไมล่ะ ไม่สนิทด้วยสักหน่อย” เขาตอบไปตามความจริง คนที่ไม่สนิทเขาจะแค่คุยด้วยผิวเผิน ถึงสนิทถ้ามาวุ่นวายมากๆ เขาก็หนีอยู่ดี อย่างเช่นมนุษย์ศิริกิจวัชรโชติทั้งแปด
“เค้านะไม่ชอบมันสุดเลยนะ ตอนเราเด็กมันชอบมาเล่นกับเรา ชอบให้เรียกว่าพี่ซัน ไม่ให้เรียกว่าพี่อาทิตย์แบบว่าอยากให้เรียกแบบคนพิเศษคนเดียว หน็อยจะให้มาเรียกพี่ พวกฉันน้องชายสุดที่รักยังไม่เรียกว่าพี่เลย มันจะพิเศษว่าพวกฉันได้ไง คิดแล้วโมโห” โฟร์บ่นเรื่องราวในอดีตในสมัยที่พวกเจอกันช่วงแรกๆ ตอนนั้นโฟร์น่าจะอายุสิบสี่ปี ถ้าโฟร์เองจำไม่ผิดคงจะเป็นวันที่จัดงานวันทำบุญครบรอบวันตายคุณย่า คุณปู่เชิญแขกสนิทมาร่วมงาน แต่หลังจากที่ไอ้หนึ่งลากไปซัดหน้าแหกที่บังอาจเกาะแกะน้องชายสุดที่รักของบ้าน หลังจากนั้นปู่ก็เลยยกเลิกเชิญแขกมาร่วมงานเลือกแค่จัดงานภายใน เพราะกลัวหลานๆ จะก่อเหตุหวงน้องชายอีก และพวกเธอกันมันออกไปจากชีวิตน้องทันที
“พี่ซัน” คนที่คุ้นชื่อนี้บ่นพึมพำ เขาไม่ได้คิดถึงคนที่เดินจากไป แต่หมายถึงอีกคนคนที่ชื่อเหมือนกันเท่านั้น
“คนดีว่าไงนะคะ” โฟร์ที่ได้ยินเสียงน้องพูดแต่จับใจความไม่ได้
“ไม่มีอะไรครับ แค่จะบอกว่ากลับกันเถอะ”
Tbc…