26 ตอน Chapter 25
โดย T.mines
Number nine My Sun
หมายเลขเก้าของดวงตะวัน
#IXMYSUN
คำเตือน เนื้อหาในตอนนี้มีไม่เหมาะสมสำหรับบุคคลที่อายุต่ำกว่า 18 ปี มีการบรรยายการร่วมเพศระหว่างเพศชาย มีการกล่าวถึงการร่วมเพศมีเนื้อหาเกี่ยวกับพฤติกรรมการใช้ความรุนแรง การทำร้ายร่างกาย
Violence/Coercion/Blood/Gunshot/Cutting/Drug Abuse/Homicide
รถยุโรปทรงสปอร์ตที่ใช้พลังงานไฟฟ้าที่นำทดลองใช้ในประเทศนี้ เขามาจอดที่คอนโดที่พูดได้ว่าหรูที่สุดในประเทศนี้ คอนโดโครงการภายใต้การดูแลของชายหนุ่มที่นั่งอยู่ในตำแหน่งผู้โดยสาร ตั้งแต่จบเรื่องมาการคุ้มกันมิได้หย่อนลง ยังคุ้มเข้มแบบข้นที่สุด เขาต้องรายงานว่าจุดหมายในการเดินทางทุกครั้งผ่านคีนหรือบาย แต่เขาแจ้งไว้แล้วนะกลับบ้านใหญ่แต่ทำไมจุดหมายเปลี่ยน
“มานี่ทำไมครับ?”
ไนน์ถามซันพร้อมคิ้วที่ขมวดแทบจะชนกัน เขารู้แล้วว่าคนที่เปลี่ยนเส้นทางคือคนขับนั่งเอง คงแจ้งไปที่บอดี้การ์ดเขาสักคนไม่งั้นคงโดยประกบทันทีที่ออกนอกเส้นทาง
“หลังจากขอแต่งงานต้องพามาดูสิครับ” ซันยกยิ้มด้วยสายตาเจ้าเล่ห์ แต่ก็ไม่ช่วยให้ไนน์คลายความสงสัย “ห้องหอไงครับ”
“...” เขาแค่อ้าปากร้องอ๋อเข้าใจ
ลิฟต์เปิดออกโดยการสแกนนิ้วมือพาพวกเขาไปยังจุดหมายคือชั้นบนสุดที่มีห้องแพนเฮ้าส์และมีแค่ไม่มีห้องเจ้าของโครงการ เขาถึงกับตาโตชั้นนี้มันแพงที่สุดแต่เท่าที่เขาจำได้ว่าคนที่ซื้อไปไม่ประสงค์จะบอกชื่อ เขาเดาว่าอาจจะเป็นคนในบ้านเขาที่ซื้อเพื่อเอาใจเขาแน่ๆ แต่จนล่วงเลยยังไม่มีใครพูดออกมา
“ถึงแล้วครับ” ลิฟต์ที่วิ่งด้วยความเร็วสูงสุดใช้เวลาไม่ถึงนาทีก็มายังชั้นบนสุด
“รหัสห้องคือ first anniversary ส่วนลายนิ้วมือพี่จะให้เพิ่มให้ทีหลังนะ”
ติ๊ด ซันเอานิ้วทาบที่ประตูและเปิดออกพาไนน์เข้ามาภายใน ภายในตกแต่งในแบบที่ไนน์ชอบมากที่สุดคุมโทนสีเป็นสีดำน้ำตาลมีสีขาวแทรกมาเล็กน้อย ไนน์พาตัวเองมายังตรงมุมของสะสมชั้นวาง ตู้โชว์ ตู้โชว์ทางกระบอกที่ฐานหมุนได้ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณหนึ่งเมตร ขนาดความสูงเท่ากับเขา เขาตาวาวพลางนึกถึงโมเดลรถที่จะมาจับยัดในตู้
“ไนน์ครับมาทางนี้หน่อย” เสียงซันร้องเรียกของดังมาจากอีกห้อง
“ครับ”
“อ่ะ!”
ไนน์เดินตามเสียงไปยังห้องยังไม่ทันเปิดประตู โดนรวบเข้าที่เอวไม้ค้ำที่หนีบมาร่วมกับพื้น ร่างที่โดนรวบพาไปยังจุดหมาย แผ่นหลังสัมผัสความนุ่มเด้งของเตียง ตามาด้วยร่างหนาขึ้นมาคร่อมทันที เขาไม่ทันได้ร้องถามปากถูกปิดด้วยสิ่งเดียวกัน ลิ้นเรียวรุกล้ำเข้ามาอย่างเชี่ยวชาญ ตวัดหยอกล้อกับสิ่งเดียวกัน ความวาบหวานเริ่มทวีรุนแรงขึ้น จูบที่เจือปนด้วยความหิวโหย ปากที่พละออกกันเล็กน้อย ก่อนจะเข้ามาแลกจูบ น้ำลายใสที่ไหลย้อยจากมุมปากซันกวาดลิ้นเลียเก็บทุกหยาดหยด กดขยี้ปากทั้งที่ซันคิดว่าทั้งที่พวกเขาจูบกันบ่อยมันยังหอมหวานเหมือนเดิมไม่สิหวานกว่าเดิม
“อ้า...”
เสียงครางร้องออกมาที่ซันบดกัดริมฝีปากล่าง ร่างโปร่งโน้มคอคนด้านบนให้ลงมาจูบต่ออีก เขายังต้องการจูบอีกและจูบอีก เน้นย้ำก่อนจะลงแรงกัดที่มุมปากจนเลือด ถือโอกาสใช้ลิ้นเสียซับเลือดที่ออกมา
ซันพลักไนน์ให้ลงไปนอนฝังหน้าลงซุกที่คอสูดกลิ่นหอมจากคนใต้ร่าง ใช้ปากทั้งดูดทั้งขบเม้มตามเรือนร่างของอีกฝ่าย มือหนาล้วงเข้าไปในเสื้อพร้อมกับถลอกขึ้นไปกองที่บนอก ไนน์สะดุ้งตัวเล็กน้อยจากความเย็นของแหวนที่เพิ่งเคยสัมผัส ก่อนจะแอ่นหลังโค้งด้วยความเสียวตามลิ้นร้อนลงสัมผัสจุดอ่อนไหว ตุ่มไตอีกข้างโดนเขี่ยสะกิด ผ้าปูโดยขยุ้มระบายความเสียวซ่าน ลิ้นที่เล่นสนุกกับตุ่มไตจนพอลากเลื้อยลงมาผ่านซี่โครงแต่ละซี่ มือทั้งสองข้างยังไม่ละจากจุกสีชมพูบดบี้ขยี้ เขี่ย ดึงรั้งจนเริ่มบวมขึ้นมา ชายหนุ่มลงลิ้นบนแอ่งสะดือกล้ามท้องหดเกร็งขึ้นมา
“อืม...อ้า..อ๊ะ!” เสียงครางของคนใต้ร่าง
กางเกงโดนปลดเข็มขัดกระชากหลุดออกไปพร้อมกันทั้งหมดไม่ว่าจะกางเกงและบ็อกเซอร์ ซันถือโอกาสที่ลอกคราบคนใต้ร่างเสร็จ หันมาถอดเสื้อตัวเองโชว์กล้ามท้องที่สวยได้รูป อีกคนที่นอนมองความสวยงามของหุ่นถึงกับเลียปาก มือหนาหยิบซองถุงยางอนามัยและซองเจลหล่อลื่นควักออกมากระเป๋าทิ้งลงมาบนที่นอนตามด้วยถอดกางเกงจนหมดกาย ต่อจากนี้พวกเขาจะร่างที่เปือยเปล่าสัมผัสกัน
ซันโน้มไปตรงกลางจับประคองกำหลวมๆ แก่นกายของคนที่นอนอยู่เลียชิมน้ำที่ซึมที่ส่วนปลายก่อนจะครอบปากเข้ากับสิ่งนั้น ลิ้นเลียตวัดไปรอบหัวด้านบน ขยับหัวขึ้นลงอย่างช้าๆ ทรมานคนให้ร้องคราง ตามมาด้วยการปรนเปรอมอบความสุขแก่คนรัก นิ้วยาวลากไปหยอกล้อกับรอยจีบสีหวาน เมื่อถูกสัมผัสร่างบางกระตุกขึ้นตามการสัมผัส
“อ่ะ อ้า.. อ๊ะ..”
เขาคายแก่นกายออก ลากลิ้นเลียจากโคนไปยังส่วนหัว เลียวนรอบส่วนหัว กดลิ้นที่รูบนส่วนหัว ซันสอดแขนไปที่ใต้ขาดันให้อ้ากว้างขึ้น เขาลงไปกดจูบที่พวกแฝดอ้าอมทีละใบ ลากลิ้นไล่ไปตามร่องจนถึงรูหวาน ตวัดลิ้นรัวแหย่แหยงดันเข้าไปตามรู รูที่ชื้นแฉะไปด้วยน้ำลาย นิ้วเรียวยาวกดกวาดไปที่ปากคนที่กำลังร้องคราง ไนน์รับรู้เขาตวัดลิ้นเลียนิ้วราวกับว่ามันคือแท่งไอติม จนชุ่มได้ที นิ้วที่เปียกแหย่เข้าที่ทางรูจีบสีชมพู กดแทรกเข้าไปจนสุดโคนนิ้ว
“อ้า...พ พี่ ซะ ซัน”
นิ้วเพิ่มจำนวนจากหนึ่งเป็นสอง สิ้นยังคงทำหน้าที่ไม่ขาดพร้อมกับนิ้วที่ขยับเข้าออก ซันงอนิ้วขูดรั้วตามเยื่อบุที่อ่อนนุ่ม
“พะ พี่ซัน ม ไม่ ไหว ไม่ไหวแล้ว”
พรวด! น้ำสีขาวนมพุ่งออกจากแก่นกายเลอะที่หน้าท้อง ตามด้วยร่างที่กระตุกอยู่สองสามสี เสียงหอบหายใจของคนที่เสร็จและสุขสมบนเตียง
ซันลากลิ้นขึ้นมาเลียชิมน้ำรัก “หวาน” นิ้วเพิ่มเข้าเป็นสามนิ้ว กดย้ำที่จุดสยิว ซ้ำๆ แก่นกายที่เพิ่งปลดปล่อยกลับมาชูชันอีกรอบ
“พี่ซันเข้ามาได้แล้ว!!” เสียงแหบพร่าร้องบอกอย่างทนไม่ไหว
ซันยกยิ้มก่อนจะถาม “ให้เอาอะไรเข้าไปเหรอครับ” เสียงเย้าแหย่คนรักของเขา ตัวเขาเองแทบจะไม่ไหวเช่นกัน ยิ่งร่างบางบิดเร้าด้วยความเสียวเขาเป็นแรงกระตุ้นเขาอยากจะกดมันเข้าไป
ไนน์ที่ขย้ำผ้าปูที่นอนดึงจนหลุดออกมา ตอบมาด้วยเสียงที่อดกลั้นอย่างแหบพร่าปนขอร้อง “ไอ้นั่นของพี่ซัน เข้ามาไนน์อยากได้มันแล้ว”
คำพูดที่กระเส่าปนขอร้อง ซันถอดนิ้วทั้งสามออก หันมาจัดการสวมเครื่องป้องกันตัวเองอย่างเร่งด่วน ซองถุงยางอนามัยถูกกระชากออกเป็นสองส่วน สวมรูดไปอย่างรวดเร็วตามด้วยซองเจลที่ให้ปากฉีด บีบใส่มือถูกอบกุมไปแท่งที่ตั้งโด่งอยู่
เขาจ่อสิ่งที่คนรักเขาร้องขอที่ปากทางอ่อนนุ่มและดันเขาไปรวดเดียว ไนน์กรีดร้องด้วยความขับแน่นปนเสียว ร่างโปร่งผวาโอบกอดเข้าไปร่างหนา ดวงตาที่ชุ่มไปน้ำตาซบไปที่บ่าของคนด้านบน
“อ๊า.....”
สิ้นเสียงกรีดร้องร่างหนาเริ่มขยับจ้วงแทนอย่างไม่บันยะบันยัง เอวที่สอบเข้าออก ปลักๆ เสียงกระทบของหน้าขาเข้ากับสะโพก แรงตอดขมิบถี่ยิบออกแรงรัดอย่างแรง
“อ๊า...อ้า!”
เสียงครางปนกรีดร้องตามาด้วยแรงตอดรัดพร้อมกับร่างที่กระตุก สมองอันขาวโพลนพร้อมกับการปลดปล่อยรอบที่สองของไนน์ หน้าอกที่กระเพื่อมด้วยความเหนื่อยหอบ
“อ้า...”
เสียงร้องจากคนตามบนที่ร้องตามมากันมาติดๆ พร้อมกับเอวที่เด้งสวนขึ้นมาพร้อมกับแก่นกายที่กระตุกฉีดพ่นน้ำรักที่กักเก็บไว้ในชิ้นส่วนป้องกัน ซันกดกระแทกย้ำไปอีกสองทีรีดน้ำรักจนหมด
จุ๊บ ร่างหนาโน้มไปจูบที่หน้าผากของคนรัก และผละริมฝีปากมาจูบที่ปาก
“พี่รักไนน์นะครับ”
ร่างบางยกมือมาประคองหน้าอีกคนกดจูบไปที่เดียวกันซ้ำอีกรอบ “ผมก็รักที่ซันครับ”
ซันทิ้งตัวลงทับโดนยังที่ยังมีส่วนที่เชื่อมประสานกันอยู่ เขายกมือข้างซ้ายเขาไปสอดประสานกับมือซ้ายที่สวมแหวนแบบเดียวกันแต่มีขนาดเล็กว่าหนึ่งไซซ์ เขาทั้งสองยังตะกองกกกอดกันแม้ร่างกายจะชุ่มไปด้วยเหงื่อ แต่ก็ยังไม่คิดที่ลุกไปไหน พวกเขาอยากซึมซับความรู้สึกนี่ไว้นาน จนผลอยหลับไปพร้อมกัน
อย่าคิดว่าซันที่ยอมถือศีลกินเจอยู่หลายเดือน พอได้กลับมากินเนื้ออีกรอบจะหยุดแค่รอบเดียว พอได้พักหนึ่งตื่นซันตอกย้ำความสัมพันธ์ที่เตียงเดิมก่อนจะลากไปตอก ตอกย้ำที่ห้องน้ำในรอบสุดท้าย
ตามกฎที่ตั้งมาใหม่ของผู้นำตระกูลหลังจากที่เปิดพินัยกรรม ตามที่คาดเอาไว้เหมือนคืนทรัพย์ของปู่ได้ยกให้แก่ลูกทั้งหมดตั้งแต่ก่อนจะเสียชีวิตไปหมดแล้ว ส่วนรายละเอียดปลีกย่อย พวกเครื่องเพชรก็แบ่งไปให้สะใภ้ส่วนของที่เป็นแม่ไนน์ตกมายังคนลูก และส่วนของน้าเบญถูกเก็บไว้รอให้ทายาทหรือฝั่งญาติทางแม่น้าเบญมารับไปแทน ส่วนหุ้นที่ปู่ยกให้ไนน์ทำการซื้อคืนเพราะเขาไม่ต้องการให้ตกเป็นของคนอื่นที่ไม่ใช่คนในบ้าน และบ้านใหญ่ให้ตกของผู้นำที่ได้รับยินยอมจากทุกคนในบ้าน และจะเป็นไปใครไม่ได้นอกจากนานะพี่สาวที่อายุห่างเขาแค่ปีเดียว กฎเดียวที่ออกมาคือทุกคนต้องกลับมารวมตัวกันในสุดสัปดาห์ทุกอาทิตย์ และอนุญาตให้พาคนที่เป็นคนพิเศษมาด้วยทุกครั้ง รวมถึงเพื่อนๆ สนิทมาได้ด้วย
เช้าวันต่อมาไนน์และซันพากันกลับบ้านใหญ่พร้อมกับสายตาที่มองมายังพวกเขา ทั้งๆ ที่บอกว่าจะมานอนตั้งแต่เมื่อคืนแล้ว ซันขอแยกตัวไปคุยกับนานะเรื่องสำคัญแต่ไนน์ก็ไม่ได้ซักถามว่าเรื่องอะไร
ไนน์เดินไปหาพี่ๆ ที่นั่งอยู่ ทรัวคนแรกที่วิ่งมาประคองน้องชาย แม่บ้านก็ยกขนมมาเสิร์ฟทันที มีแต่ของโปรดไนน์ทั้งนั้น
ทรัวและโฟร์ที่นั่งใกล้ชิดที่สุด จิปากพร้อมกันที่เหลือบมองต้นคอขาวน้องชายที่แต่งแต้มไปด้วยรอยสีกุหลาบ พวกเขาพอจะรู้แล้วแหละว่าเมื่อคืนเกิดอะไรขึ้น แถมพี่สะใภ้ที่เป็นเพื่อนสนิทก็บอกเล่าเหตุการณ์ที่ไอ้ตัวนั้นของน้องชายเขาแต่งงาน ยิ่งทำให้พวกเขาอารมณ์ขุ่นมัว
นานะที่เดิมออกมาพร้อมกับซันมีสีหน้าเรียบเฉยแต่พอจะมองออกแหละว่าไม่ดีเท่าไหร่ เดินมาหยุดตรงหน้าบรรดาพี่น้องที่ไม่ชอบขี้หน้าเท่าไหร่ยกเว้นซูก้าของเขาคนเดียว
“พวกมึงมีใครบางคนจะมาปรึกษา” นานะหันไปมองใครบางคนที่พูดถึง
“...??” ทุกคน
“ผมมีเรื่องจะปรึกษาเรื่องสถานที่สำหรับถ่ายพรีเวดดิ้งครับ” ซันถามพร้อมกับยิ้มอาย
“หา!! ห๊ะ!! ว่าไงนะ!! พูดอีกดิ!!” เสียงตะโกนด้วยความตกในร้องท้วงออกมาแทบจะพร้อมกันแยกไม่ออกมาว่าใครพูดอะไรมั่ง
ความจริงพวกเขาทั้งสิบคนที่ประกอบด้วย หนึ่ง ทู ทรัว โฟร์ แฝดเกา นานะ ฮาจิ พี่สะใภ้วี และคนสุดท้ายคือคีนที่โดนเรียกตัวมากะทันหันที่รู้เรื่องว่ามีคนมาแอบขโมยแก้วตาดวงใจของบ้านไปมาสุ่มหัวคุยกันตั้งแต่เมื่อคืนแล้ว
พวกเขาพูดคุยกันว่าไม่มีทางยอมให้ไนน์ไปแต่งงานเด็ดขาด ยังไม่แน่ใจว่าจะจริงใจกับน้องมากน้อยแค่ไหน แต่วีก็พูดเล่าเรื่องราวของพวกเขาทั้งสองให้ฟัง แต่คนสุดท้ายที่พูดตัดจบบทสนทนาครั้งนี้
“คุณไนน์ดูมีความสุขตั้งแต่อยู่ที่สมุยแล้วนะครับ ยิ้มกว้างมากและจนถึงตอนนี้ทุกครั้งที่อยู่กับคุณซันคุณไนน์มีรอยยิ้มเสมอ และคุณซันเป็นคนเดียวที่คุณไนน์อยู่ด้วยโดยที่ไม่รำคาญแม้แต่น้อย”
“อืม...!!!”
ทุกคนมองหน้าคีนด้วยความเอือมระอา หลายๆ ความรู้สึกตีกันในหัว และสิ่งที่คิดเหมือนกันคือประโยคแรกและประโยคต่อมาพวกเขาดีใจที่น้องมีความสุขและยังชื่นชอบรอยยิ้มอันสดใสอันนี้ สิ่งที่เยียวยาเวลาเจอเรื่องปวดหัวหันมาเจอรอยยิ้มนี้พวกเขาสุขใจและที่สำคัญเขาอยากให้น้องสุดที่รักมีความสุข แต่ไอ้ประโยคหลังนี่แหละพวกเขาอยากลากมันกระทืบต่อด้วยฝังกลบซีเมนไม่ต้องโพล่งหัวมาอีกเลย
“ผมอยากถ่ายที่ไร่ของคุณหนึ่งครับ เพราะว่า..” ซันถามขึ้นมา
“ทำไมต้องไร่ไอ้หนึ่งด้วยว่ะ ร้านอาหารที่สร้างใหม่สวยกว่าว่ะ” ทูขัดขึ้นมาทัน
“ถ่ายที่สนามบินพร้อมกับเครื่องบินก็สวยนะ เอาลำไหนเค้าจัดมาให้เลย” โฟร์รีบเสนอ
“ที่ผับของเขาก็ดูดีนะครับ จัดแสงดีดูเท่ไปอีกแบบ” ทาซอทไม่ยอมหน่อยหน้า
“ใช่ๆ ผับของพวกเราเน้อ” นานะและแฝดอีกคนสมทบมาด้วย
“ไร่ดอกไม้กูสวยสุดดูได้จากรูปกูกับเมีย ถ้าคนเก่งไปถ่ายที่นั่นรับรองคุณหญิงแม่เนรมิตให้สวยที่สุดเลยครับ” พี่ชายคนโตนำเสนอพร้อมยกรูปพรีเวดดิ้งในมือถือมาโชว์ให้ดูแต่ไม่มีใครสนดู
“ซ้ำซากว่ะ ถ่ายพรีเวดแบบให้มันเป็นคนล้างจาน ส่วนไนน์ใส่ชุดพ่อครัวยืนคุมมันทำงานหรือถ่ายในครัวแบบว่าช่วยกันทำอาหาร ปาแป้งใส่กันเอาครีมมาแตะมุมปากแล้วจุ๊บกันอะไรแบบนี้” ทูรีบเสนอไอเดียทำท่าประกอบยกนิ้วมาแตะที่มุมปากเพื่อความสมจริง
“ไอเดียกูสวมบทมาเฟีย ในผับถ่ายฉากดวนเหล้า ยิงกันอะไรเนี่ยอาวุธก็มีแล้วสมจริงด้วยแล้วก็มีไปที่กาสิโนเล่นไพ่ฉากหลังมีการโปรยไพ่โปรยชิปกระจาย ให้ไนน์เป็นเจ้าพ่อส่วนมันเป็นเด็กรับรถ หรือจะไปที่สนามแข่งรถก็ได้นะครับ เอาลูกรักเข้าเฟรมด้วย แล้วถ้าเกิดโป้งปังไอ้ว่าที่เจ้าบ่าวเจ็บเนี่ย กูชอบ” ยอซอทเรียกเสนอตามขึ้นมา ท่าทางพรีเซนต์อลังการ ประโยคหลังเบาเสียงให้ได้ยินเฉพาะพวกเขาเอง
“อืม” ไนน์พยักหน้าเห็นด้วยที่ยอซอทพูดถึงเจ้าลูกรักของเขา โอ้ว่าแล้วคิดถึงแต่ขาเพิ่งจะเชื่อมกันรอก่อนนะครับ ป๋าหายดีเมื่อไหร่จะรีบไปขี่ทันที
ฮาจิรีบนำเสนอทันที “นี่เพิ่งได้เจ็ทลำใหม่มาด้วย ถ้าไปถ่ายเท่สุดเลยครับเบบี้ ชุดกัปตันกับพนักงานล้างเครื่องบินแบกไม้ถูไว้ที่บ่า”
ซันที่นั่งฟังอย่างเดียวหยิบปากกามาจดไอเดียที่นำเสนอมาอย่างรวดเร็วลงบนโทรศัพท์ แต่ไม่นานก็มีเสียงร้อง
“เดี๋ยว!! ทำไมพวกมึงมาเสนอไอเดียถ่ายพรีเวดดิ้งให้ซูก้าของกูแบบนี้” นานะที่นั่งกุมขมับให้บรรดาพี่เธอ พอเป็นเรื่องของน้องสุดที่รักขิงกันใหญ่เลยนะ ‘พวกมึงลืมไปหรือเปล่าว่ะว่าเขาจะมาแย่งน้องสุดที่รักไปห๊ะ!!’
ซันวางปากกาและลุกขึ้นมายกมือไหว้บรรดาพี่ของคนรักของเขา “ขอบคุณมากๆ เลยครับ ที่เสนอไอเดียกันมา แต่ช่วยฟังไอเดียของผมอีกนิดนะครับ ผมว่าจะไปถ่ายทุกที่ทั้งหมดครับและผมอยากให้เจ้าของสถานที่มาร่วมแจมด้วย เพราะไนน์คือที่รักของทุกคนในที่นี้ ผมอยากเป็นให้ตัวเองเป็นส่วนหนึ่งของที่นี้ครับ” น้ำเสียงและแววตาที่หนักแน่นและชัดเจน
“อืม อื่อ เออๆ ก็ได้” น้ำเสียงครางรับออกมาจากพี่ๆ ของไนน์อย่างจำใจยินยอมในความจริงใจที่แสดงออก
“คุณหนึ่งครับ ไร่พี่มีดอกไม้อะไรมั่ง”
“คุณทู คุณทรัวไอเดียเรื่องถ่ายให้ห้องครัวใช้ครัวที่ไหนดีครับ”
“คุณโฟร์ครับมีรูปเจ็ทที่จะให้ไปถ่ายไหมครับ โหสวยมากเลยครับ”
“คุณนานะครับมีไอเดียเสนอแตกต่างจากพี่ชายของคุณไหมครับ”
พอได้รับความเห็นชอบซันรีบอาศัยจังหวะเข้าไปทำคะแนนทันที พวกนั้นยอมกันได้ที่ไหน พอคนหนึ่งเสนออะไรที่ดีให้กับน้องชายคนที่เหลือเสนอทับที่ดีกว่ามาทันที ไนน์และวีที่แทบจะไม่มีส่วนร่วมอะไรเลยมองหน้ากันบอกเป็นนัยว่าคงญาติดีกันแล้ว
“พี่ไปงานวันเกิดไอ้พอร์ชรับรองว่ากลับหลังจากมันเป่าเทียนวันเกิดเสร็จเลยครับ”
[ไปเถอะครับ วันนี้นอนคอนโดไปก็ได้ครับไม่ต้องขับมาแล้ว]
“ก็พี่อยากนอนกอดไนน์เหมือนทุกคืนไงครับ”
[คุณครับกี่ไม่กี่ชั่วโมงเจอกันแล้ว นอนที่คอนโดนั่นแหละ]
“ก็ได้ครับ นอนเยอะหน้าจะได้สดใสเปร่งปรั่งไปยังวันถ่ายพรีเวดดิ้งเลย” น้ำเสียงที่กลั้วหัวเราะ
[งั้นเจอกันพรุ่งนี้ที่สนามบินเลยนะครับ]
“ครับแล้วเจอกันคุณว่าที่ภรรยา ถ้าไปถึงที่ร้านหรือกลับคอนโดพี่จะรายงานตัวตลอดครับ รักไนน์นะ”
[รักพี่ซันเหมือนกันครับ]
ผับร้าน XXX สามทุ่มตรง
ชายหนุ่มเพื่อนรักทั้งสี่มานั่งอยู่ชั้นสองวีไอพี ความมีเชื่อเสียงปรกบด้วยหน้าตาดีทั้งกลุ่มสาวและหนุ่มจึงได้รับความสนใจอย่างมาก
“ไอ้ซันถ้ามึงจะมานั่งทำหน้าเหมือนโดนเมียทิ้ง ไม่พามาด้วยเลยว่ะ” จัสตินมองหน้าเพื่อนซันที่นั่งจิบเหล้ามีสีหน้าสุดเซ็ง
“ชวนแล้ว น้องบอกว่าอยากให้มาสนุกกับเพื่อนบ้าง” เขาตอบกลับน้ำเสียงเบื่อหน่าย ไนน์ก็รู้ว่ามาที่แบบนี้คนเข้าหาเขาเยอะจะตายไม่ห่วงว่าที่สามีคนนี้บ้างเลยหรือไง ยิ่งคิดยิ่งน้อยใจ
“น้องมันก็พูดถูก หลังจากเจอน้องพวกกูแทบจะไม่มีตัวตนสำหรับมึง” คุณชายพูดด้วยน้ำเสียงประชดประชัน
“...” ซันไหวไหล่คล้ายบอกว่าแล้วไง “ถ้าพวกมึงไม่พอใจที่กูทำหน้าแบบนี้กูกลับก็ได้” ซันกระดกเหล้าหมดแล้วและลุกขึ้นเตรียมออกไป
หมับ คุณชายและพอร์ชที่เป็นเจ้าของวันเกิดคว้าร่างของเพื่อนทันควัน
“ไอ้คุณซันครับ มึงไม่ต้องมาอ้างพวกกู อยู่กับพวกกูก๋อนนน นี่วันเกิดกูนะมึงช่วยรอเป่าเค้กก่อนได้ไหมครับเพื่อน ช่วยเอากายหยาบไว้กับเพื่อนสักหน่อย” พอร์ชจับให้นั่งลงพร้อมกับบ่นกระปอดกระแปดรั้งตัวเพื่อนเอาไว้
“ทำไงได้ล่ะครับคุณพอร์ช คุณชาย เพื่อนเราเล่นหาภรรยาระดับพรีเมี่ยมวีไอพีย่อมไม่อยากห่างเป็นธรรมดา” จัสตินแซว
“พูดได้ดี” ซันยกนิ้วโป้งให้
พวกเขานั่งพูดคุยกันตามประสาเพื่อนรัก มีออกไปชนแก้วกับโต๊ะข้างๆ บ้าง ส่วนใหญ่มักจะมีสาวๆ มาของชนซะมากกว่า รวมถึงขอช่องทางการติดต่อ จวบจนถึงเวลาต้องเป่าเค้กวันเกิดเค้ก ซันที่นั่งรอเวลานี้มานาน
“กูกลับล่ะนะมึง จะไปนอนพรุ่งนี้มีบินไปเชียงใหม่กับว่าที่ภรรยา” เขาลุกขึ้นและโบกมือลาเพื่อนๆ รีบตรงดิ่งไปยังลานจอดรถ โทรศัพท์ในกระเป๋าสั่นขึ้น เขายกยิ้มคิดว่าคนน้องคนโทรตาม หยิบขึ้นมาดูคิ้วผูกปมทันที
“คุณไนน์ครับ ทำไมคุณซันยังไม่มาอีกล่ะครับ จะได้เวลาเข้าเกตแล้วนะครับ” คีนเอ่ยถามเจ้านายด้วยความสงสัย ปกติคนรักของเจ้านายไม่มีทางที่จะปล่อยนั่งรอแบบนี้ แทบจะยิ่งเป็นไม่ได้เลยที่จะผิดนัด สิ่งที่เขากลัวคือเรื่องความปลอดภัย
“ไม่มีอะไรหรอก พี่ซันนอนเพลินกดซื้อตั๋วใหม่แล้ว ตอนนี้ออกจากคอนโดมาแล้วเนี่ย เพิ่งโทรหาเมื่อกี้” เขาหันไปตอบลูกน้องที่ใบหน้าเต็มไปด้วยความกังวลให้หายสงสัย
สองชั่วโมงต่อมา
“ไนน์ครับ มาแล้ว” เสียงกระหืดกระหอบรีบวิ่งมาอย่างเร็วตรงที่คนรักของเขานั่งรออยู่
“หน้าดูเหนื่อยๆ นะครับ ตอนแรกไนน์คิดว่าพี่ซันจะไม่สบายซะอีกเป็นห่วงแทบแย่” ใบหน้าที่อิดโรยคล้ายไม่นอนและมีเรื่องให้กังวลจนไนน์อดเป็นห่วงไม่ได้
“พี่ไม่เป็นอะไรแค่พี่ลืมตั้งนาฬิกาปลุกเลยตื่นสาย ขอโทษทีนะครับ” ซันตอบกลับพร้อมยิ้มแห้งกับความรู้สึกผิด
“ไม่เป็นไรครับ ไนน์ซื้อตั๋วใหม่แล้ว ถึงช้าหน่อยก็ไม่เป็นไรยังไม่ถ่ายพรุ่งนี้อยู่แล้ว” เขาส่ายหัวไม่ใส่ใจพลางยกมือเช็ดเหงื่อที่ผุดบนใบหน้าคนรักของเขา
“งั้นไปกันเลยครับ ไปรอในเกตกันดีกว่า” ซันก้าวไปจับมือไนน์จูงเดินเข้าไปข้างใน
การถ่ายพรีเวดดิ้งในวันแรกท่ามกลางหมู่มวลดอกไม้นานาพันธุ์ที่เนรมิตโดยสะใภ้ใหญ่และหลานสะใภ้คนโตทั้งสองของบ้าน ไนน์มาในชุดสูทสีขาวงาช้างมาใช้ชุดแบบเดียวกันแต่เป็นสีเทา ตรีมในการถ่ายวันนี้เน้นไปที่ความหวาน เพราะรูปชุดนี้จะเอาไปใช้ตกแต่งด้านหน้าของงาน ซันและไนน์ที่ไม่เคยผ่านการถ่ายรูปย่อมมีอาการเคอะเขินระหว่างกันและกันกว่าจะได้ออกมาเป็นธรรมชาติที่สุด ผ่านพ้นมาสิ้นแสงพระอาทิตย์แล้ว อย่าคิดว่าจะจบช่างภาพยังต้องการภาพถายในช่วงกลางคืนต่ออีกเช็ต การถ่ายทำเสร็จสิ้น พวกเขาทั้งสองแทบจะหมดแรงเลย
“สำหรับวันนี้เสร็จแล้วครับ”
สิ้นเสียงช่างภาพพวกเขามองหน้าและสบตากันอย่างพร้อมกับสื่อสารกันในใจ
ไนน์: ยกเลิกไม่ถ่ายต่อได้ไหม
ซัน: ไม่ได้นะ รับปากและวางแพลนไว้หมดแล้ว
ไนน์: ไม่ได้จริงๆ เหรอ
ซัน: ครับ
การถ่ายภาพล่วงเลยมาจนถึงที่สุดท้ายคือธุรกิจที่สร้างเม็ดเงินมากที่สุดในตระกูล คือธุรกิจของแฝดเกาและนานะ สถานที่แรกคือสนามแข่งรถ ตามมาด้วยผับและต่อด้วยกาสิโนที่เซ็ตกันเอาไว้
ไนน์ที่กำลังแต่งหน้าและทำผมเพิ่มเติมอีกนิดหน่อย และจะไปเปลี่ยนชุด
ครืด ครืด คุณได้รับข้อความใหม่จาก XXX
ภาพคลิปวิดีโอจำนวนหลายคลิปอันแน่นจนหนักฝั่งซ้าย พร้อมกับข้อความ
‘ถ้าอยากคลิปเต็มส่งเมลส่วนตัวมานะ’
‘ของขวัญสำหรับการถ่ายพรีเวดดิ้ง’
ไนน์ยกมือโบกให้คนที่รุมแต่งตัวให้เขาหยุดทำทุกอย่าง มือบีบโทรศัพท์แน่น เขาก้าวฉับตรงดิ่งไปยังหลังบาร์ก่อนคว้าขวดเหล้าที่ตั้งเช็ตที่จะไว้เข้าฉาก มาดื่มจนหมดขวด ทีมงานที่เตรียมสถานที่ถึงกับหยุดชะงักที่เจ้าบ่าวอีกคนดื่มเหล้าหนัก เขากำลังจะคว้ามาดื่มต่ออีกขวด โทรศัพท์ส่งเสียงเตือนว่ามีข้อความเข้า
ซัน แฝดเกาและนานะที่เพิ่งไปดูกาสิโนขึ้นมาเห็นในจังหวะที่ไนน์ ปาขวดเหล้ากับโทรศัพท์ลงพื้นตรงหน้าและหยิบขวดเหล้ามากระดก การกระทำดังกล่าวสร้างความฉงนให้กับพวกเขารวมถึงคนอื่นที่อยู่ด้วย
ปัก!! เสียงกระแทกขวดเหล้าลงบนโต๊ะอย่างแรง ขาที่สาวเดินมาอย่างเร็ว พร้อมกับหมัดที่กระแทกใบหน้าเจ้าบ่าวอีกคน
“ทำได้ยังไง!! ทำได้ยังไง!!!!” น้ำเสียงตะโกนถามพร้อมกับมือที่กระชากคอเสื้อ เขาที่พยายามอดกลั้นอย่างถึงที่สุดไม่ให้ต่อยหน้าซ้ำไปอีกรอบ
ไนน์คลายมือออกจากปกคอเสื้อก่อนที่หันหลังเดินไปยังประตูทางออก ทาซอทหยิบโทรศัพท์ของไนน์ขึ้นมาดูและรับรู้เรื่องราว และคนที่โดนชกเอาแต่นิ่งเงียบ
ไนน์เดินหนีออกมา ทาซอทและบอดี้การ์ดวิ่งตามมาไนน์ตะโกนใส่ “ขออยู่คนเดียวได้ไหมว่ะ!! ขอสักครั้งเถอะ!!” และก้าวขึ้นรถแท็กซี่ไปทันที คนที่เหลือได้แต่ปล่อยไปเพราะเขาเข้าใจว่า ในบางครั้งคนเราก็อยากอยู่คนเดียวบ้าง
ทาซอทสั่งคนของเขาทันควันให้ไปตามสืบเรื่องราวที่เกิดขึ้นมาให้หมด เพราะเขามั่นใจว่าเรื่องนี้คงไม่เกิดจากความตั้งใจของหมอนั่นแน่นอน
ไนน์หนีออกมาบอกแท็กซี่ไปส่งเขาที่สวนสาธารณะที่ใกล้ที่สุด เขาแค่อยากอยู่เงียบๆ สักพัก เขาเดินไปร้านสะดวกซื้อเพื่อซื้อบุหรี่มาสี่ซองเพื่อสูบ เขาไม่ได้สูบบุหรี่จัดแบบนี้มานานมาแล้ว ครั้งสุดท้ายน่าจะวันที่ปู่ป่วยเข้าโรงพยาบาลแต่ตอนนั้นยังมี...
เขานั่งนานมากจนตะวันเริ่มตกดิน ตอนนี้เขายังไม่อยากเจอใครหรือฟังอะไรทั้งนั้น พื้นที่ในส่วนออกกำลังกายคนเริ่มบางตา มีบรรดากลุ่มวัยรุ่นเริ่มเข้ามาเล่นบอร์ดกันแล้ว เขาเดินไปเรื่อยจนถึงถนน ยกมือโบกเรียกแท็กซี่ให้พาไปส่งยังผับหรือบาร์เหล้าที่คนบางตา
แท็กซี่พาเขามาส่งยังบาร์เหล้าเล็กๆ ที่อยู่ในซอย ร้านที่ดูไม่โดนเด่นมากนัก ภายในตกแต่งอย่างง่ายๆ ไนน์ในชุดที่หรูไม่เข้ากับสถานที่เท่าไหร่ แต่ใครจะสน เขาแค่อยากเมาเท่านั้น ทันทีเข้ามาเรียกสายตาผู้คนในร้านได้ทุกคน เขาเดินตรงไปยังส่วนที่มีบาร์เทนเดอร์ประจำอยู่ ก่อนหยิบบัตรเครดิตออกมาพร้อมกับซื้อดริ้ง 100 ดริ้ง
“คุณครับผมว่ามันมากไปครับ ผมว่าคุณกินไม่ถึงหรอกครับ” บาร์เทนเดอร์ที่เป็นเจ้าของร้านบอก
“คิดไปเถอะ เสิร์ฟมาให้ทันทีที่แก้วว่าง และช่วยอย่างหนึ่งด้วยอย่าให้ใครมายุ่งกับผม” เขาบอกกับบาร์เทนเดอร์และดันบัตรส่งไปให้
กลุ่มวัยรุ่นประมาณหกคนที่เข้ามาใหม่ เดินไปสั่งเครื่องดื่มกับบาร์เทนเดอร์แต่จังหวะที่พวกนั้นพลักหยอกล้อ หนึ่งในนั้นล้มมากระแทกที่ตัวไนน์ที่นั่งอยู่ตรงกลางพอดี
“อะไรวะ!” ไนน์ออกแรงผลักเต็มที่ เด็กคนนั้นล้มกระแทกเพื่อนอีกที
“เฮ้ย! แม่งผลักกูทำไมว่ะ!!”
กลุ่มเด็กเดินเข้ามาล้อมตัวไนน์ที่ผลักเพื่อนตัวเอง ด้วยอารมณ์ที่เมาทั้งสองฝ่าย คนที่อยู่รอบข้างเริ่มถอยออกไปห่าง เจ้าของร้านที่สวมบทเป็นบาร์เทนเดอร์ปรี่เข้ามาขวางอย่างเร็ว เขาไม่อยากให้ร้านพังแต่ถ้าพังเขาพอจะรู้ว่าคนที่นั่งอยู่จ่ายให้แน่ แต่ที่กลัวคือเด็กน้อยที่อาจจะหมดอนาคตที่เข้ามายุ่งกับคนของใครมากกว่า เจ้าของร้านรู้ว่าคนที่นั่งกระดกเหล้าอย่างกะน้ำเปล่านั่นคือใครจากสลิปบัตรที่รูดไป
“น้องๆ ครับพี่ขอเลยอย่ามีเรื่องในร้านพี่เลยครับ พี่ไหว้ล่ะ” เจ้าของร้านรีบยกมือไหว้ท่วมหัวแก่เด็กพวกนั้น
พอเห็นคนที่อายุเยอะกว่ายกมือไหว้ คนคุกรุ่นผสมกับอยู่ในวัยที่ฮอร์โมนพุ่งพล่านจึงลดลงไปบ้าง
“เออ ก็ได้ว่ะพวกกูเห็นแก่เจ้าของร้านนะโว้ย!!”
“...” ไนน์แสยะยิ้มยียวนตอบกลับ พร้อมกับโบกมือไล่
กลุ่มวัยรุ่นทำท่าเหมือนจะไม่ยอม เจ้าของร้านเลยขู่ว่าถ้ามีเรื่องเขาจะแจ้งความ กลุ่มนั้นเลยยอมไปนั่งกินที่โต๊ะแต่โดยดี ในใจเจ้าของร้านได้แต่พร่ำบอกพวกนั้นพวกมึงอย่ายุ่งกับคนที่ไม่ควรยุ่งเลย
ไนน์ที่สติแทบหมดแล้ว เขาบอกกับคนเสิร์ฟเหล้าว่าจะกลับแล้วช่วยเรียกแท็กซี่ให้หน่อยแกร็บก็ได้ ระหว่างที่เขาไปเข้าห้องน้ำ
เด็กกลุ่มนั้นที่จ้องหาจังหวะอาศัยช่วงนี้ เข้าไปล็อกตัวเขาจากด้านหลังก่อนที่จะลากยังลานจอดรถทางด้านหน้า ผับ ทั้งหมัดและฝ่าเท้าที่รัวใส่เขาไม่ยั้ง ไนน์ลงไปนอนกองกับพื้นให้ไอ้เด็กพวกนี้รุมยำตีนใส่
ซันที่ขับรถวนหาไนน์เห็นรถคีนที่จอดอยู่ริมถนนฝั่งตรงข้ามบาร์แห่ง เขาจึงแวะจอดเพื่อที่เข้าไปหาคนของเขา เสียงเอะอะโวยวายดังจากที่จอดรถ เขาและคีนรีบวิ่งเข้าไปดูพร้อมกับจัดการเด็กน้อยที่เก่งแค่หมัดข้างถนนหรือจะมาสู้กับคนที่ได้รับการฝึกมาอย่างคีน บายและซัน ไม่ถึงนาทีหกคนลงไปกองที่พื้นก่อนที่เจ้านายจะเจ็บตัว
“ไนน์ครับ เป็นอะไรไหม” ซันประคองตัวคนนรักให้ลุกขึ้น
“อ่ะ! ไอ้พี่ซันเองเหรอ ไนน์โกรธอยู่นะไม่คุยด้วย ในฝันก็ไม่คุย” เสียงพูดอู้อี้ยางยานของคนเมา ไนน์ยังบ่นเขาไม่หยุดต่อ “ไอ้คนนิสัยไม่ดี” มือเรียวออกแรงตบไปที่หน้าแต่ไม่แรงเบาเมาอยู่
“ผมฝากจัดการพวกนี้ที พาไนน์กลับคอนโด..ไนน์แล้วกัน” ซันไม่อยากพาไนน์ไปที่ห้องหอในตอนที่พวกเขากำลังทะเลาะกัน แต่ถ้าจะให้พาไปคอนโดเขาเองก็ไม่ดี เพราะด้วยตัวเขาเองยังไม่อยากที่ไปเหยียบด้วยซ้ำ ที่ดีสุดคือห้องของเจ้าตัว
ไนน์ตื่นลืมตาขึ้นพร้อมกับอาการปวดหัว อ้อมกอดอุ่น กลิ่นที่คุ้นเคยจนเผลอซุกเข้าไปสูดกลิ่น จนนึกถึงได้ว่าพวกเขาทั้งสองคนมีเรื่องที่ยังไม่ได้คุยกัน ซันรับรู้ว่าอีกคนตื่นขึ้นมาแล้วและเตรียมลุกขึ้น ซันรีบคว้าตัวน้องมากอดเอาไว้หากปล่อยออกไปไนน์ยังคงอยู่กับเขาอีกไหม
“ไนน์ฟังพี่อธิบายก่อน” ซันซุกหน้าเข้าที่บ่าเสียงที่ปวดร้าวกำลังอ้อนวอนให้คนในอ้อมกอดฟังเขา
“อธิบายอะไรครับ อยู่ด้วยแทบ24ชม.ตั้งกี่วันพี่มีเวลาบอกไนน์ถมเถ แต่ไม่พูด ทำไม! ไนน์ต้องรู้เรื่องของพี่จากปากคนอื่นด้วยครับ” น้ำเสียงที่เอ่อออกเจ็บปวดและอดกลั้นที่จะไม่ปล่อยความโมโหใส่ลงไป
“...”
“รู้จากคนที่เรารักมันดีกว่าที่รับรู้จากคนอื่นนะครับ เพราะมันทำให้เรารู้ว่าคนรักยังคงแคร์ความรู้สึกเราเสมอ ถึงแม้รู้ว่ายังไงต้องโกรธหรือเกลียดแต่อย่างน้อยมันก็ยังซื่อสัตย์ต่อความรู้สึกที่มีให้คนรักอยู่ แต่พี่ไม่ทำให้ไนน์เห็นไงครับพี่เลือกที่จะโกหกปกปิด ความเชื่อใจมันเหมือนแก้วที่แตกครับจะให้มันประกอบแล้วใส่น้ำมันก็รั่วออกอยู่ดี”
การสูญเสียความเชื่อใจจากคนที่รักมันสำคัญสำหรับเขา ไม่ใช่ไนน์ไม่อยากจะเชื่อใจคนรักของเขาอีก แต่การกระทำครั้งนี้มันอยากที่จะให้มันกลับมาในตอนนี้ไม่ได้ คนเราไม่ใช่จะทำผิดไม่ได้แต่ความผิดนั้นต้องไม่ทำลายความเชื่อมั่นของอีกฝ่ายและพี่ซันทำลายมันลงไปกับมือ
“ไนน์ยอมรับว่าโกรธที่พี่ไปมีอะไรกับวีว่า แต่ถ้าพี่มาบอกว่าเกิดได้ยังไงไนน์ก็จะเชื่อพี่ เพราะไนน์ว่าคนที่ไนน์รักคงไม่ทำอะไรแบบนี้ลงไป ไนน์รักพี่และพี่ก็รักไนน์ แต่ถ้ารักกันแต่ไม่มีความเชื่อใจผมว่าเราอย่ารักกันต่อไปเลยดีกว่า” ไนน์แกะมือซันที่กอดเขาออก
“...” เขาที่คว้าตัวน้องเข้ามากอดพยายามกอดให้แน่นเหนี่ยวรั้งทั้งที่มันไม่มีประโยชน์แล้ว
พวกเขายืนกอดกันแต่มีเพียงซันเท่านั้นที่กอดอยู่ฝ่ายเดียว จนเวลาผ่านรับรู้ว่ามันไร้ประโยชน์จริง พวกเขาทั้งสองคงต้องการเวลา สำหรับซันต่อให้รอนานแค่ไหนก็ได้ แต่ถ้ารอแล้วน้องไม่กลับมาเขายังจะมีชีวิตอยู่ได้ไหม แต่สำหรับไนน์ก็คงอยากได้เวลาในการกลับมาเชื่อใจอีกครั้งแต่เขาจะทำได้เมื่อไหร่เขายังตอบไม่ได้ ซันคลายกอดออกพลิกตัวไนน์ให้หันมามองหน้ากัน
“พี่ขอโทษครับ” แววตาและสีหน้าที่เจ็บปวดร้าวกลับโลกถล่มลงมากองตรงหน้า
“ไนน์รักพี่ซันมากนะครับ” ร่างโปร่งเงยมองหน้าเขาและจูบที่ปากเบา พร้อมกับคำพูดว่าก่อนจะเดินออกไปจากห้อง
ทำไมเขารู้สึกว่าคำว่ารักที่น้องบอกเขาในวันนี้มันดูเหมือนคำบอกลาไปในตัว การจากกันแต่ทั้งที่ยังรักกันมันเจ็บปวดแบบนี้นี่เอง นี่ไม่ใช่การบอกลาเขาของน้องเหมือนครั้งแรกที่สมุย ครั้งนี้น้องเลือกที่เดินจากไป แต่ครั้งนี้เขาเป็นคนผลักน้องออกจากชีวิตเองด้วยคำว่าขี้ขลาด
ทำไมเขาไม่เลือกที่บอกน้องออกไป วันที่เห็นคนนั่งรอเขาอยู่ที่สนามบินตั้งสองชั่วโมง น้องคือคนที่ทั้งชีวิตนี้ไม่เคยต้องรอใครแต่เลือกที่รอเขา น้องโทรมาหาแค่เพียงสายเดียวคือก่อนที่เครื่องจะออก และส่งข้อความมาบอกว่ารออยู่ที่สนามบินนะ แค่นี้ คนเราต้องเชื่อใจคนรักขนาดไหนที่ผิดเวลานัดในวันสำคัญ และตอนที่เขาวิ่งมาถึงเขาตั้งใจจะคุกเข่าสารภาพเรื่องราวทั้งหมดให้ฟัง แต่พอเห็นรอยยิ้มที่ดีใจเขามาถึง และมีคำถามว่า
“หน้าดูเหนื่อยๆ นะครับ ตอนแรกไนน์คิดว่าพี่ซันจะไม่สบายซะอีกเป็นห่วงแทบแย่”
น้ำเสียงที่ไม่มีความโกรธหรือโมโหมีแต่ความห่วงใยมาแทน แต่ไอ้คนตอแหลคนนี้เลือกที่พูดคำสิ้นคิดโกหกปลิ้นปล้อนเอาตัวรอดเหมือนกลับตอนที่พูดในโทรศัพท์
“พี่ไม่เป็นอะไรแค่พี่ลืมตั้งนาฬิกาปลุกเลยตื่นสาย ขอโทษทีนะครับ”
คำที่ตั้งใจไว้ถูกกลืนลงคอไปหมดสิ้นและน้องกลับตอบกลับมาอีกยิ่งทำให้เขาละอายเข้าไป
“ไม่เป็นไรครับ ไนน์ซื้อตั๋วใหม่แล้ว ถึงช้าหน่อยก็ไม่เป็นไรยังไม่ถ่ายพรุ่งนี้อยู่แล้ว”
“งั้นไปกันเลยครับ ไปรอในเกตกันดีกว่า” เขาเลือกที่จูงมือน้อง เขายังอยากรับว่าน้องยังอยู่กับเขา
อย่างที่ไนน์บอกนั่นแหละ “พี่อยู่กับไนน์ตั้งกี่วันมีโอกาสตั้งกี่ครั้งทำไมไม่พูดมันออกมา รู้จากคนที่เรารักมันดีกว่าที่รับรู้จากคนอื่นนะครับ เพราะมันทำให้เรารู้ว่าคนรักยังคงแคร์ความรู้สึกเราเสมอ ถึงแม้รู้ว่ายังไงต้องโกรธหรือเกลียดแต่อย่างน้อยมันก็ยังซื่อสัตย์ต่อความรู้สึกที่มีให้คนรักอยู่ แต่พี่ไม่ทำให้ไนน์เห็นไงครับ”
ไนน์เดินไปยังลานจอดรถและอยากขับลูกรักนินจาที่ไม่ได้ยกไปรวมถ่ายด้วย แต่เขาทรุดตัวนั่งลงบนพื้นความรู้เจ็บปวดน้ำตาที่อดกลั้นไหลร่วง ก้อนจุดที่หน้าอก นั่งกอดเข่าซุกหน้าร้องไห้อยู่ไม่นานก่อนจะขึ้นคร่อมขับตรงไปยังบ้านใหญ่ เพราะเขาต้องจัดการปัญหาก่อนจะบานปลาย เขากลัวว่าพี่เขาจะทำอะไรพี่ซัน
ไนน์กลับมาด้วยสภาพที่ดูแย่ในวันนี้ พี่เขาที่ไม่ติดงานมานั่งรอเขาที่บ้านเกือบครบ ขาดแต่นานะ โฟร์และฮาจิที่ต้องบินไปทำงานที่ต่างประเทศ ไนน์เดินไปตรงหน้าทุกคนและพูด “อย่ายุ่งกับพี่ซันทุกทางนะไนน์ขอร้องล่ะ” และเขาหนีกลับขึ้นบนห้อง
ห้องส่วนตัวที่ไม่ส่วนตัวเพราะการที่มีคนบางคนเข้าออกได้เต็มที่ ข้าวของเครื่องใช้ตามที่ต่างๆ เสื้อผ้าที่ยังคงเบียดเสียดในตู้ร่วมกับเขา ภาพความทรงจำยังคงอยู่ อย่าที่บอกว่าตอนนี้แผลมันยังสดอยู่ แต่ถ้ายังคงอยู่ที่เดิมมันยิ่งกรีดซ้ำรอยเดิม การเยียวยาและรักษาต้องใช้เวลา “ไนน์ขอเวลาอีกหน่อยนะ ถ้าเราสองคนยังรักกันพอ”
ส่วนด้านล่างที่เห็นสภาพน้องมีรอยช้ำที่แก้มเล็กน้อยเพราะรู้เรื่องจากคีนทั้งหมด พวกนั้นกองอยู่ที่แห่งหนึ่งที่มีแค่คนสนิทเท่านั้นที่จะได้ไปเหยียบ แต่ไนน์รับรู้ว่ามีแต่ไม่เคยได้ย่างก้าวเข้าไป พวกเขาต้องหาคนมาระบายความผิดแทน
มัจจุราชในคราบมนุษย์ทั้งสี่คน ทู ทรัว และฝาแฝดเกา ขับรถไปยังที่จับตัวไอ้เด็กที่กล้ามาแตะต้องของหวงของตระกูล
“ปลุกพวกมัน” น้ำเสียงที่เหี้ยมเกรียมของทูสั่งคีนที่มารอพวกเขาอยู่ก่อนหน้า เพราะมันคือคนที่จับมาส่วนบายต้องอยู่ดูแลความปลอดภัยของเจ้านาย
ซ่าส์ น้ำเย็นสากโครมเข้าพร้อมกันทั้งหกคน
“พวกมึงเป็นใครจับพวกกูมาทำไม!!” เสียงตะโกนถามอย่างไม่กลัว
ทรัวก้าวเดินพร้อมกับยกยิ้มที่มุมปาก ใบหน้าที่เต็มไปด้วยสีดำทมึง “พวกกูเองมึงจะทำไม!” เขาตอบกลับด้วยน้ำเสียงที่เยือกเย็นไอสังหารแผ่กระจายไปทั่ว หกคนที่โดนมัดมือเงยหน้าขึ้นมามองตามเสียงของคนที่เดินมา ใบหน้าที่โมโหเกรี้ยวกราดกลับซีดเผือดลงอย่างกะทันหัน
ทาซอทกระดกนิ้วให้โต๊ะสองตัวมาตั้ง และลูกน้องคนสนิทยื่นถุงมือหนังสีดำมาให้ด้วย
“มึงใส่ถุงมือด้วยเหรอว่ะ บอบบางว่ะ” ทรัวแซวน้องชาย
“บอบบางบ้านมึงสิ กูกลัวแนกอรู้ว่ากูไปกระทืบหมามา เดี๋ยวเลือดมันเลอะมือด้วย” น้ำเสียงที่ดูรังเกียจ
“เออจริงด้วยว่ะ กูขอด้วย” ทรัวรีบแบบมือมาขอ
“กูด้วย” ทู
“กูด้วย” ยอซอท
หลังจากได้รับถุงมือหนังจนครบ พวกเขาก็มาเอาปืนมาหมุนว่าใครจะเริ่มต้นก่อน ผลออกมาคือทู ทรัว ยอซอท และทาซอทคนสุดท้าย หลังเรียงลำดับขั้นแล้วบรรดาลูกน้องรับรู้ว่าเจ้านายแต่ละคนจะเล่นสนุกยังไง บอดี้การ์ดคนสนิทของทูลากไอ้หกคนไปนั่งพิงพนัง
“พวกมึงไม่รู้เลยไม่ควรยุ่งกับคนที่ไม่ควรแตะต้อง”
ปัก! ปัก! ปัก! มีสั้นปลิวไปปักผนังด้านบนหัวสามคนแรกหลังที่ทูพูดจบ ปัก! ปัก! ปัก! และอีกสามเล่มปลิวตามไปติด
“ทูเบาหน่อยมึงเดี๋ยวพวกกูไม่มีของให้เล่น” ทรัวทักพี่ชาย ที่เห็นหนึ่งในนั้นเยี่ยวแตก
“พวกผมไม่รู้ครับว่าเขาคนนั้นเป็นใคร” หนึ่งในนั้นตอบมาด้วยที่สั่นและหวาดกลัว
ฉีก! อ๊าก!!! มีดปักลงที่หน้าอกตามมาด้วยเสียงร้องที่ดัง
อ๊าก!!! ร้องที่ตามมากันติดแต่ละคนมีมีดปักตามร่างกาย แขนมั่ง ขามั่ง หน้าอก ไหล่บ้าง มีเล่มเล็กปักไปหลายจุดตามร่างกายแต่ละคน
“ครบห้านาทีแล้ว คิวกูล่ะทรัวหยิบท่อนเหล็กขนาดพอดีมือขึ้นมา “ส่วนไหนของพวกมึงที่ทำร้ายน้องพวกกู” น้ำเสียงที่ดูน่ากลัวปนกับเสียงลากท่อนเหล็กตรงไปยังคนทั้งหมด
“...” ไร้เสียงที่ตอบกลับมา มีแต่เสียงร้องไห้สะอึกสะอื้น
“ไม่ตอบไม่เป็นไร กูจะหาไปจนเจอเองแหละ”
ท่อนเหล็กฟาดเสยหน้าที่ละคน เลือดไหลกบปากใบหน้าที่บูดบวม ทรัวระบายทุกอย่างลงจนครบ คราบเลือดที่กระเด็นมายังใบหน้าที่หล่อเหลา ท่อนเหล็กเตรียมฟาดลงต่อ มือหนาจับที่ปลายท่อนเหล็ก
“ครบแล้วครับพี่ชาย คิวผมครับ”
“จับมันขึ้นมา”
ลูกน้องสองคนลากหนึ่งในนั้นมาพาดที่โต๊ะ “มือข้างในต่อยน้องกู ตอบ!!!” เสียงคำรามกึกก้อง
คนที่โดนจับมาทาบกับโต๊ะ ร้องไห้น้ำตาไหลพร้อมกับส่ายหน้า บอกว่าเขาไม่ได้ทำ
ตัก!! ค้อนปอนด์ทุบไปที่มือขวา อ๊าก!!!! เสียงร้องด้วยความเจ็บปวด คิวต่อไปที่นอนรอข้างน้ำตาที่ไหลเลอะเทอะบนใบหน้าซีดทั้งหวาดกลัว และเจ็บทรมานจากบาดแผลที่เกิดก่อนหน้านั้น
ตัก! อ๊าก!!!!
ตัก! อ๊าก!!!!
ตัก! อ๊าก!!!!
ตัก! อ๊าก!!!!
ตัก! อ๊าก!!!!
ยอซอทปล่อยให้พี่ฝาแฝดเขาทุบพวกมันจนครบ และโยนอาวุธชนิดเดียวกันส่งต่อมาให้เขา เขาบอกว่าฝาแฝดมักจะชอบอะไรที่เหมือนกัน ใช่ครับเขาและเขาทุบมืออีกข้าง และแขนให้หักตามด้วย
เสียงร้องที่โหยหวนจากความเจ็บปวดจากการทรมานไม่มีผลต่อบรรดาพวกทั้งสี่ พวกเขาถูกเลี้ยงมาในแบบนี้ ใครจะมาแตะต้องคนในตระกูลไม่ได้แต่ความสนุกของวันนี้คือพวกเขามาระบายอารมณ์ที่ไม่สามารถไปทำกับไอ้คนที่มันทำน้องเขาเสียใจได้ คือเป็นความซวยของพวกมันแทนแล้วกัน คนที่ยกเว้นคือน้องชายสุดท้องแต่ไม่ใช่ว่าจะไม่รับรู้เรื่องพวกนี้แค่ไม่เคยให้ถึงมือ
“เอาพวกมันไปกำจัดด้วย”
มือสังหารที่รอคำส่งอยู่แล้ว ปืนที่พร้อมเหนี่ยวไก ปัง!!!!! สิ้นเสียงที่ดังพร้อมกันหกคนล้มลงกองกับพื้น คีนยกสายต่อกับคนที่รอกำจัดซากศพให้มาทำงานต่อจากนี้ ตอนนี้ทุกอย่างเสร็จสิ้นแล้ว
ติ่ง ติ่ง ไลน์ ครืด เสียงข้อความที่ดังมาพร้อมกันของสี่พี่น้อง พร้อมกับข้อความปรากฏ
“จะไปเรียนต่อที่ต่างประเทศเร็วที่สุด”
TBC…
---------------------------------------------------
อีกสองตอนจะจบแล้วนะ ฝากช่วยกดหัวใจให้ด้วยนะคะ