Chapter 24

Number nine My Sun

หมายเลขเก้าของดวงตะวัน

#IXMYSUN

 

 

 

 

พี่ซัน!!!!” เสียงร้องตะโกนจากคนที่ถูกจับมัด

 

นานะที่เปิดประตูเข้ามา เหลือบตาเห็นปลายกระบอกเล็งมา เธอกระชากตัวอีกคนเข้ามารับกระสุนแทน ซันทรุดตัวลงจากแรงกระแทกของกระสุนที่เจาะเข้าไปที่เสื้อกันกระสุน นานะเอามือและเข่าดันหลังเขาเอาไว้เพื่อให้ล้มลง ปืนสั้นคู่กายพาดไว้ที่บ่าจ่อไปยังคนที่ยิงมา นานะกวาดสายตาไปมองน้องชายที่โดนมัดคากับเก้าอี้ ทำให้เข้าใจว่านี่คือวิธีการมัดที่ดีที่สุด มัดตึงแยกแขนและขาติดเก้าอี้ สภาพที่สะบัดสะบอมใบหน้าที่มีแต่รอยช้ำ มุมปากที่แตกยับเลือดที่ไหลตามขาตรงรอยมีดที่ปักคาไว้

 

ไนน์และซันประสานสายตากัน มันเต็มไปด้วยความห่วงใยและเจ็บตัวที่เห็นคนรักของเราเต็มไปด้วยร่องรอยบาดแผล ไนน์ยกยิ้มตอบกลับพร้อมกับพยักหน้าให้กันและกัน ไร้การพูดคุยกันพวกเขาได้แต่ปล่อยให้คนที่สามารถจัดการเรื่องตรงหน้าเป็นคนคุย

 

ความโกรธของพี่สาวที่เห็นน้องชายสุดที่รักสุดหวง แม้แต่ยุง มด ริ้น เหลือบ ไรยังมิได้แต่ต้องน้อง ยกเว้นไอ้เชี่ยนี่ เหลือบตามองคนข้างหน้า แต่น้าสาวที่รู้อยู่แล้วทำขนาดนี้ เธอแทบจะวิ่งไปขย้ำคอฉีกออกเป็นชิ้นจับเข้าเครื่องปั้นจนเละ ถ้าไม่ติดว่าปืนที่ยิงพวกเขาหันไปจ่อหัวน้องชาย

 

คิดไว้แล้วต้องเป็นหลานคนเก่งที่หาเจอ น้าว่าซ่อนมิดแล้วนะ” สีหน้าตอนถามไม่ได้ตื่นตกใจที่มีคนมาพบ “เดาว่าคนที่เดินผ่านมาคงเป็นศพแล้วใช่ไหม”

กูว่าจบเรื่องของเราดีกว่า เสียเวลามากแล้ว” นานะผลักซันเดินไปยังด้านในให้ห่างจากประตูและพ้นรัศมีในการยิง ตอนนี้นานะที่ไร้ความเคารพและเกรงใจอีกคนไปสิ้นเชิง

รีบจังเลยนะ ดูสีหน้าหลานรักของน้ายังดูดีอยู่แล้ว ปั๊ก!!!” ปืนตบลงไปที่หน้าเลือดที่แห้งกรังแล้ว อาบด้วยของใหม่

ถุ้ย!! แค่ก ๆ เลือดที่พ่นออกตามด้วยอาการไปอีกเล็กน้อย เรียกใบหน้าเหยเกของคนที่รักตรงหน้าทั้งสองได้อย่างดี

แม่ง!!!” นานะ

ไนน์!!!” ซัน

 

 

กูว่าเรามาทำให้มันจบดีกว่า คงอยากรู้ใช่ไหมว่าความสามารถของผู้นำตระกูลเก่งกาจแค่ไหน ตำแหน่งที่น้าไม่มีสิทธิที่จะมองมันด้วยซ้ำ” นานะใช้น้ำที่ตอกย้ำสิ่งที่อยู่ในใจของน้าสาวและพูดต่อ “อ๋อ...ลืมไปแค่นามสกุลยังไม่ได้ใช้เลย แล้วจะหวังถึงผู้นำได้ยังไง” รอยิ้มที่เย้ยหยันส่งไปให้ น้ำเสียงที่สะใจที่จี้ใจดำได้สำเร็จ

แก!!” ใบหน้าที่บิดเบี้ยวอย่าน่าเกลียดพร้อมกับน้ำเสียงที่โกรธจัด

 

 

นานะพาซันลงไปนั่งกับพื้น ตัวเองโยนปืนทิ้งไปที่มุมห้องพลางถอดเสื้อกันกระสุนออกและโยนตามไปอีกชิ้น สะบัดแขนและคอ และยกมือตั้งการ์ด ส่วนคนที่โดยท้าทายก็ทำเช่นกัน โยนปืนไปทิ้งอีกมุม

 

 

ทั้งสองก้าวมาเผชิญหน้า ใบหน้าที่สวยหวานเปลี่ยนเป็นใบหน้าที่แข็งกร้าวพร้อมฆ่าฟันอีกฝ่ายให้ตายกันไปข้างหนึ่ง

 

 

นานะไม่รอวิ่งเข้าไปยกเท้าขวาฟาดกกหูฟาด อีกคนยกแขนขึ้นมากัน หมัดหนักสวนเข้าที่ใบหน้าเรียกกลิ่นคาวคละคลุ้งในปากของนานะ น้าสาวรุกไล่ทันทีเท้าพุ่งมาถีบ นานะเบี่ยงหลบเท้า สวนหมัดเข้าที่หน้าอก คนที่โดนสวนกะจังหวะหลบ หมัดเลยเข้าไปที่ต้นแขนแทน ยั่งเชิงกันแลกหมัดพอสมควร ถอยออกมาตั้งหลักก่อนจะเข้าซัดกันต่อ

 

ซันมองทั้งสองเข้าไปแลกหมัดและเท้ากันไปมา ซัด ปัดป้องและสวนคืน คือศิลปะการป้องกันที่มาจากสำนักเดียวกัน ต่างฝ่ายเข้าทำตรงจุดตายของอีกฝ่าย มัดที่สวนกันและแรงฟาดที่ใส่กัน พอนึกถึงตอนที่นานะซันบอดี้การ์ดร่างยักษ์ก่อนหน้าจนสลบ หมัดคงจะหนักมากอีกคนที่รับแบบไม่สะทกสะท้าน คงแข็งแกร่งพอกันและโชคดีที่วันนั้นนานะจะเข้ามาวัดฝีมือเขาแต่คนรักของเขามาห้ามไว้ทัน

 

นานะปืนขึ้นไปล็อกคอด้วยแขนจากด้านหลังออกแรงรัด น้าสาวกระแทกหัวเข้าที่จมูกอย่างแรง เลือดกำเดาไหลลงมาจากจมูก นานะปล่อยมือที่ล็อกคอและถอยหลังออกไป สั่งเลือดออกและใช้หลังมือปาดเลือดทิ้ง

 

การต่อสู้ที่เริ่มจะยืดเยื้อการใช้มือเปล่าคงอีกนานกว่ารู้ผล เธอห่วงแต่น้องอยากพาออกจากไปให้เร็วที่สุด นานะหยิบมีดที่เก็บไปก่อนหน้านี้จากด้านข้าง น้าสาวแสยะยิ้มก่อนจะก้าวไปหน้าหลานชาย

 

ฉึก!! อึก!! ดึงมีดที่เสียบไว้ที่ต้นขาของหลานชายออก ตามมาด้วยที่พุ่งออกมานิดหน่อย

 

นานะกำด้ามมีดปลายชี้ลงไปพื้น อาศัยที่เบญไม่ระวังตัวพุ่งใช้มีดบาดคอ เบญโน้มเอนตัวไปข้างหลัง มีดตัดแต่เส้นผม ฉึก! ปลายมีดจากคนรอตั้งรับบาดเข้าที่หน้าท้องนานะ เลือดไหลเลอะที่หน้าท้อง บาดแผลแค่นี้ไม่สะทกสะท้านเธอแม้แต่น้อยขนาดโยนยิงแล้วยังต้องมาฟัดกับคนอีกสามคนยังทำมาแล้ว แต่ด้วยระดับการต่อสู้น้าสาวกับเธอไม่ห่างกันมาก เบญที่ได้เปรียบเดินเครื่องใส่ นานะใช้มือกระแทกมือของอีกคน ก่อนจะลงมีดปักเข้าที่หลังและดึงออกอย่างเร็ว ฉึก! ฉึก!

 

หญิงสาวหันหน้ามามีดเข้ามาปะทะกัน นานะใช้ข้อมือกันและปล่อยมีดจากมือขวาร่วงใส่มือซ้ายรับอย่างแม่นยำ จ้วงแทงเข้าที่ท้องและดึงออก น้าสาวกุมที่ท้อง นานะตามไปกระแทกจนล้มขึ้นคร่อม กดมีดจ่อที่คอเบญยกมือขึ้นมากัน นานะออกแรงกดเบญออกแรงต้าน นานะเปลี่ยนมาใช้มืออีกทุบกระแทกเพิ่มแรงกดลงไปที่มีด เบญเบี่ยงหน้าหลบมีดขูดตามคอลงไปปักที่พื้นคอนกรีต เบญอาศัยจังหวะพลั้งเผลอสวนหมัดเสยเข้าที่ปลายคาง นานะต้องผงะถอยตัวออก

นานะที่ได้เปรียบจากการบาดเจ็บของน้าสาวไล่ท้วงแทง และการใช้มีดอย่างชำนาญทั้งสองมือ การโยนสลับหรือเปลี่ยนไปใช้อีกมือทำให้น้าสาวต้องระแวดระวังเพิ่มเท่าตัว ไม่สวนกลับมาได้ปัดและป้องกันไม่ให้ตัวเองได้บาดแผลเพิ่ม

แกร็ง แกร็ง เสียงมีดที่ปะทะกัน

น้ายอมแพ้เถอะ มีแต่แพ้กับแพ้เท่านั้น” เสียงหอบกระซิบเข้าที่ใบหน้าของหญิงสาว

อย่ามั่นใจไปเลย กูไม่ยอมตายคนเดียวอย่างน้อยต้องลากพวกมึงไปสักคน” เสียงเหี้ยมเกรียมตอบกลับมา

ระเบิดนะเหรอ ปลอดภัยทุกคนนะ” น้ำเสียงเย้ยหยันตอบกลับจากนานะ

 

 

เบญหันรับรู้ถึงแผนการที่ล้มเหลว มองดูคนที่อยู่ในห้อง เธอรู้ถึงความพ่ายแพ้ เธอน่าจะยิงคนที่พวกมันรักให้ตายไปทันทีดีกว่า แต่ด้วยความหยิ่งยโสที่อยากเห็นความทรมานของพวกมันต้องเห็นสภาพก่อนตายของหลานชายและน้องชายของพวกมัน ในหัวมัวแต่คิดสติที่ไม่จดจ่อในการต่อสู้ หันมาอีกทีนานะตวัดมีดเข้ามาบาดที่ใบหน้าของเธอ และกระแทกจนมีดหลุดมือไปแล้ว เธอไม่มีอาวุธติดตัว เหลือบมองไปเห็นปืนที่ห่างไปไม่ถึงเมตร

 

เบญมวนตัวกลิ้งไปคว้าปืนที่พร้อมกระสุนในลำเพลิง แต่สิ่งที่เธอเลือกกลับหันปลายกระบอกไปยังไนน์ แต่ลืมว่านานะมีมีด ฉึก!! มีดพุ่งมาด้วยความเร็วปักเข้าที่แขนเธออย่างแม่นยำ ซันโยนปืนที่นานะแอบจับยัดไว้ตอนที่พาไปนั่งพัก

 

ปัง! ปัง! ปัง! สามนัดติดกระสุนพุ่งไปยังหัวของหญิงสาว เลือดและมันสมองพุ่งกระจายไปติดผนังห้อง ก่อนร่างจะทรุดลงไปกองกับพื้นเลือดค่อยๆ ไหลออกจากร่างตามพื้นห้อง

 

 

นานะลดปืนลงและย่างสามขุมไปยังร่างน้าสาว มองดูร่างที่ไร้วิญญาณดึงมีดขึ้นมา ก่อนจะหันไปมองน้องชายที่ตอนนี้ตาลอยมาก ยกมือลูบหัวปลอบโยน พร้อมกับใช้มีดตัดเชือกที่มัดร่างออก ซันพยุงตัวเองตามมาสบทบกันนานะ คุกเขากอดที่ตัวไนน์ไม่สนว่าพื้นตรงนั้นจะสกปรกเลอะไปด้วยคราบอะไรทั้งสิ้น เขาขอแค่ได้ยินเสียงหัวใจที่ยังคงเต้นจังหวะเดียวกันก็เพียงพอ ขอแค่ยังมีลมหายใจมันก็ดีมากที่สุดในชีวิตเขาแล้ว

 

 

 

เสียงอึกกระทึกครึกโครมดังมาจากด้านนอก พร้อมกับเสียงเรียกชื่อ พวกเขาทั้งสาม ประตูที่เปิดออกพร้อมกับปืนที่จ่อมายังพวกเขา ซันเอาตัวบังคนรักไว้ข้างหลัง นานะยกปืนสวนกลับ พอรู้ว่าเป็นพวกเดียวกัน ต่างฝ่ายพากันถอนหายใจ

 

บิดาเข้าที่ขับรถไปเกือบถึงที่นัดหมาย พอร้องเรียกหากลับไม่มีเสียงตอบรับมาจากลูกสาวให้พวกเขาต้องย้อนกลับมา GPSที่ติดตามตัวก็หายไปเช่นกับไนน์ พวกเขาเลยเข้ามาตรวจสอบพื้นที่ข้างในอีกครั้ง และสิ่งที่นานะทิ้งไว้คือกุญแจรถที่หน้าทางเข้า พวกเขาเลยตามลงมาได้ถูก

 

เสียงสั่งการให้พาหลานชายเขาอย่างรวดเร็ว เฮลิคอปเตอร์บินด่วนมายังพื้นที่ เปลผู้ป่วยผูกโยนเข้าไปกับรอกและชักจูงขึ้นไปบนด้านบนที่มีกู้ชีพรอรับ นำส่งไปยังโรงพยาบาลที่ใกล้เคียงเพื่อจัดการบาดแผลและเตรียมส่งต่อไปยังโรงพยาบาลชั้นนำ

 

นานะและซันพาตัวไปยังโรงพยาบาลที่จะพาไนน์มา ให้ทั้งสองรักษาระหว่างรอที่จะพาไนน์เข้ามารับการผ่าตัดในช่วงบ่ายของวันรุ่งขึ้น ตอนนี้โรงพยาบาลวิ่งวุ่นไปทั้งหมด รอบนี้ศิริกิจวัชรโชติเหมาโรงพยาบาลไปสามชั้น ชั้นบนสุดคือบรรดาทายาทของตระกูล ส่วนชั้นสองก็ระดับหัวหน้าที่บาดเจ็บ ส่วนชั้นสามคือบรรดาลูกน้องทั่วไป

 

ซันไม่ได้เจ็บมาแค่มีรอยฟกช้ำจากการกระแทกที่หน้าอก แต่ต้องเข้าเฝือกอ่อนบรรเทาการเคลื่อนไหวไว้ก่อน นานะและคนอื่นก็แค่ทำแผลเล็กน้อย ไม่มีใครแขนขาหัก

 

ส่วนอาการที่น่าห่วงที่สุดคือน้องชายคนสุดรักของบ้าน ตั้งแต่มาเมื่อวานเมื่อถึงมือหมอไม่รู้สึกตัวเลย และช่วงบ่ายต้องวางยาสลบเพื่อผ่านตัดต่อซี่โครงที่หักระบาดเลือดคั่งอยู่ข้างใน แต่ด้วยการเสียเลือดอย่างมาก หมอบอกถึงความอันตรายที่จะตามมา แขนและขาข้างขวาที่หักต้องผ่าตัดใส่ดามด้วยเหล็ก และทีมบอกที่พวกเขาไว้ในบอกว่าจะทำให้ถึงที่สุด

พ่อครับ ช่วยไนน์ด้วย อย่าเพิ่งพาไนน์ไปนะครับ” บุตรชายคนสุดท้องเงยหน้าขึ้นไปมองบนฟ้าบอกกล่าวกับคนที่อยู่ข้างบน

 

 

ไนน์ที่ตื่นขึ้นมาในห้องนอนและบ้านหลังเดิม เขาเดินมายังสวนหน้าบ้าน แต่สถานที่ยังดูใหม่เหมือนเพิ่งจะปลูกมาแค่ไม่กี่ปีเอง ต้นไม้ยังไม่รกและสูงใหญ่เหมือนปัจจุบัน เขารับรู้แล้วว่าเขาคงกลับมาช่วงหลายปีก่อน ปู่ที่นั่งที่เก้าอี้ลุกขึ้นเดินมาเขาพร้อมด้วยผู้หญิงสาววัยที่มีอายุแต่ยังดูสง่างามและตามชายหญิงสามีภรรยาคู่หนึ่ง ไนน์ยกยิ้มกว้างในพวกเขาทั้งสี่ เขารับรู้ด้วยตัวเองว่าพวกเขาทั้งหมดคือใคร หญิงสาวใบหน้าที่เขาคิดถึงและฝันหาในบางครั้งสวมกอดเขาแน่นและตามประกอบด้วยชายอีกคนที่รวบพวกเขามาอ้อมอก

อึก...” น้ำตาไหลริน ความโหยหาอ้อมกอดของมารดาและบิดา จิตใต้สำนึกเขาบอกว่านี่คือความฝันแต่เขาก็อยากอยู่ในนี้ ที่มีพ่อและแม่ พร้อมปู่กับย่า

ไม่ร้องนะคะคนเก่งของแม่” คำปลอบโยนที่อบอุ่น มือเรียวบางเช็ดน้ำตาที่ขอบตาเขา

ไนน์ของพ่อโตขึ้นเยอะเลยนะ” มือหนาลูบที่หัวน้ำเสียงและแววตามองมายังลูกชายอย่างเอ็นดู

พาไนน์ไปนั่งกินขนมได้แล้ว ย่าอยากคุยกับหลานบ้างสิ” หญิงชราหันมาบอกพวกเขาตอนที่เดินนำไปข้างหน้า

 

 

ทั้งห้าคนพูดคุยกันอย่างสนุกสนาน การนั่งคุยปู่เล่าเรื่องที่สมัยก่อนจีบย่ายังไง และแม่หงษ์ของไนน์ขิงใส่พ่อตัวเองเรื่องตามจีบสามีของตัวเอง บรรยากาศอบอวลไปด้วยความสุขปนเสียงหัวเราะ ไนน์อยากให้มันเป็นฝันที่ดีแบบนี้ตลอดไป ภาพที่มีเขาเป็นส่วนหนึ่งที่นี่มันดี ไม่ต้องเหนื่อยไขว่คว้าอะไร แค่สิ่งที่เขาคิดคือพี่ซันจะเป็นไงมั่ง ล่าสุดพี่ซันโดนยิงเข้าที่เสื้อกันกระสุน แต่ไม่รู้ว่ากระทบถึงข้างในเท่าไหร่

 

คิดอะไรอยู่ครับ” พ่อเขาถาม

ใช่แล้วแม่เห็นเราเงียบไป ถามไม่ยอมตอบ” แม่เขาถามแบบเย้าแหย่

คือผมกำลังคิดถึงคนคนหนึ่งอยู่ครับ ไม่รู้ว่าตอนนี้เป็นไงมั่ง”

แฟน?” พ่อและแม่เขาถามมาพร้อมกัน

สวยไหม?” พ่อเขาถาม

แฟนไนน์เป็นผู้ชายครับ พ่อกับแม่โอเคเรื่องนี้ไหม” เขาถามอย่างกังวลเพราะตั้งแต่เด็กเขาไม่เคยคุยกับพ่อและแม่ ทั้งสองอยู่เพียงในรูปเท่านั้น

แม่โอเคค่ะ สมัยไหนแล้วขนาดแม่ยังจีบพ่อเลย” แม่เขาไหวไหล่และพูดต่อ “ขอแค่เขารักไนน์ก็พอแล้วไม่ต้องสนหรอกว่าเพศไหน คนเรารักกันที่ใจพอเรื่องที่เหลือช่างมัน บ้านเรารวยขนาดนี้สนใจทำไมทำงานเหนื่อยจะตายแล้วยังต้องมาสนใจเรื่องไร้สาระแบบนี้อีก เน้อ...”

“...” พ่อกับไนน์

 

ไนน์คิดว่านี่คงเป็นนิสัยที่แท้จริงของแม่ที่โตมากับพี่ชายทั้งสี่คนและนักธุรกิจอย่างปู่ ดูไปมาก็นิสัยคล้ายกับโฟร์และนานะเหมือนกัน

 

คุยกันมานานแหละ ถึงเวลาที่ไนน์ต้องกลับไปแล้วลูก” ปู่เข้าเดินมาบอกเขา

ไปไหน ทำไมไนน์ต้องไปด้วยครับ ไนน์เพิ่งจะได้เจอพ่อกับแม่ไนน์อยากอยู่ที่นี่ อยู่บ้านของเราไงครับ” เขาตอบกลับไปดื้อด้าน เขาไม่อยากจากไปอ้อมกอดของพ่อกับแม่มันอุ่นมาก

ไม่ได้ครับ ยังไม่ถึงเวลาที่ไนน์จะมาอยู่ไนน์ต้องกลับไปลูก” พ่อเขาบอกอย่างใจเย็น

ไม่ครับไนน์จะอยู่” เขายังโต้เถียงกลับไป

ไม่ครับ” น้ำเสียงของย่าที่เข้มขึ้น

ไม่ได้! ถ้านานกว่านี้ไนน์จะกลับไปไม่ได้แล้วนะ!” เสียงของมารดาที่กดเข้มขึ้น

 

ทั้งสี่มองหน้ากันพร้อมกับใบหน้าบิดเบี้ยวน่าเกลียดพร้อมกับเสียงตะโกนที่ดูน่ากลัวอย่างมาก “กลับไปเดี๋ยวนี้!!!”

 

ไนน์สะดุ้งกระตุกตื่นเห็นแสงสีขาวรู้สึกเปียกแฉะที่หางตา จมูกที่มีหน้ากากสวมใส่ พร้อมกับเสียง ติ๊ด ติ๊ด ตามมาด้วยเสียงคนพูดคุย คนไข้กลับมาแล้วค่ะ และสติที่หลงเหลืออยู่น้อยนิดรับรู้ว่าตอนนี้เขาตื่นจากฝันแล้ว

 

 

 

 

อื่อ...” เปลือกตาที่หนักค่อยๆ เปิดออก ก่อนจะหยี่และหลับลงไปอีกครั้ง

ไนน์ตื่นแล้วเหรอ”

เฮ้! พวกมึงเบาหน่อยดิ กูจะฟังว่าน้องตื่นยัง”

น้องขยับตัวแล้วว่ะ พวกมึงหลบดิ น้องจะได้เห็นหน้ากูก่อน”

ไนน์ครับ ลืมตามองหน้าพี่หน่อย”

 

 

คำพูดอีกมากมายพรั่งพรูมานับไม่ถ้วน เขารับรู้สึกมือที่กอบกุมอย่างอบอุ่น สายตาที่มองมายังเขายังคงเป็นดังเดิมที่เคยมอง ดวงตาที่เขาหลงเสน่ห์ เขาออกแรงบีบมือเท่าที่จะทำได้

 

พ พี่ ซ ซ ซัน” เสียงหอบพร่าเปล่งออกมา บางพยางค์แทบจะไม่มีเสียง

ครับ จิบน้ำก่อนนะครับ พี่ๆ ครับเรียกหมอให้หน่อยครับว่าไนน์ฟื้นแล้ว” ซันพยักหน้าปล่อยมือที่จับกันเอาไว้ เอื้อมไปหยิบแก้วน้ำมาจ่อที่ปาก

 

ไนน์ไม่รู้สึกว่าลำคอเขาแห้งผากขนาดนี้จนได้ดื่มน้ำ เงยหน้าขึ้นมาพบหน้าคุ้นเคยที่สุดล้อมรอบเตียง ภาพเหมือนเจ้ากรรมนายเวรมายืนทวงหนี้แค้น

หลบไปเบบี้เป็นไงมั่งครับ ยังเจ็บตรงไหนไหม” ฮาจิกระแทกซันให้หลบและเข้ามาแทรกกุมมือแทน

ที่รัก...เจ็บตรงไหนหมอกำลังมานะ ทูเรียกให้แล้ว”

ซูก้า นะเจ็บมาเลยนะแผลเค้าเต็มตัวไปหมดเลย เป่าให้หน่อย” นานะแทรกเข้ามาอีกฝั่ง พร้อมกับโชว์แผลที่ตัวเองได้รับ ที่จริงมีแค่รอยมีดบาดเท่านั้น แต่เล่นใหญ่คนแรก...นั่นไง! คนอื่นเริ่มโชว์แผลที่ได้รับมา ไนน์กลอกตา

 

เสียงเคาะประตูและเปิดพร้อมกับเสียงรถเข่นที่ลากเข้ามาอีกสามชีวิต คุณหมอ...ไนน์ไม่เคยดีใจที่เห็นหมอขนาดนี้มาก่อน เพราะเขาไม่ชอบโรงพยาบาลเท่าไหร่

 

คำถามแรกที่เขาถามหมอคือ “ผมจะกลับบ้านได้เมื่อไหร่” ทุกคนรับรู้ว่าเขาไม่ชอบโรงพยาบาลแต่ไม่มีใครรู้สาเหตุที่แท้จริง คงมีแต่เขาคนเดียวล่ะมั่งที่รู้ แต่มันก็ไม่ได้สำคัญอะไรมากมาย อาจเพราะตอนเด็กที่เขามาโรงพยาบาลครั้งแรกทุกคนต่างพากันร้องไห้เสียใจ เด็กหนึ่งขวบที่รับรู้บรรยากาศนั่น และทุกครั้งที่เขาต้องพาตัวเองมาที่นี่เขาคล้ายจะรับรู้บรรยากาศนี้มาทันทีเขาจึงไม่ชอบ

 

ระหว่างหมอเข้ามาตรวจพวกพี่เขาย้ายตัวไปนั่งที่โซฟา ไนน์เพิ่มรู้ตัวอาการตัวเองว่าเขาได้รับการผ่าตัดกระดูกซี่โครงระบาดเลือดคั่งในช่องท้องใส่เหล็กที่แขนและขาขวา ระหว่างผ่าตัดหัวใจเขาหยุดเต้นไปหนึ่งครั้งและที่สุดเขาหลับไปหนึ่งอาทิตย์เต็มๆ หมอบอกว่าอาการเป็นปกติไม่มีอาการแทรกซ้อนก็จะให้กลับบ้าน นั่นทำให้เขายิ้มกว้างอย่างดีใจเหตุผลที่ จนพยาบาลที่มาด้วยหน้าแดงด้วยความเขิน แต่ความเขินต้องมลายทันทีเมื่อได้รับสายตาเก้าคู่จดจ้องมา บุคลากรทางการแพทย์รีบพากันออกไปอย่างรวดเร็ว

 

 

ไนน์ได้รับข้อมูลอัปเดตช่วงเวลาที่หายไป เรื่องการที่ไนน์โดนจับตัวไป ทางบ้านจัดฉากให้เป็นแค่อุบัติเหตุรวมถึงน้าสาวที่ตายไปให้อยู่ในอุบัติเหตุในครั้งนี้ด้วย หนึ่งบอกว่าต้องขอบคุณคนตายนะที่ตอนมาพาตัวไปเอารถพยาบาลมารับตัวไปเรื่องเลยง่ายขึ้นเยอะ ส่วนงานศพของน้าตั้งสวดศพอีกสองวันจะจัดการเผา รอให้ไนน์ออกจากโรงพยาบาลก่อนจะจัดงานบุญร้อยวันปีเพราะมันชนกับงานศพ เสร็จสิ้นงานนี้จะมีการจัดการเรื่องพินัยกรรมของปู่

 

 

ไนน์ออกจากโรงพยาบาลมาทันวันส่งน้าสาว แต่พวกเขาจะโกรธเกลียดในเรื่องของน้าเบญที่กระทำต่อคนในบ้านรวมถึงการมีส่วนทำให้บิดาหรือปู่ของพวกเขาตายไป แต่ด้วยปัจจัยสภาพสังคม ธุรกิจที่ต้องให้ความน่าเชื่อถือพวกเขาต้องจัดงานให้สมฐานะอย่างขาดไม่ได้

 

ไนน์นั่งรถเข่น ในกระเป๋าเสื้อที่เหน็บใบทับทิม เทคไทที่ติดเข็มกลัดไว้ข้างใน ข้อมือที่ผูกได้ด้ายแดง หนามของมะกรูดในกระเป๋ากางเกง ข้าวของที่ป้องกันเภทภัยตามความเชื่อทั้งหมดจับลงใส่ไว้บนตัวเขา พิธีไม่มีอะไรมากมายเหมือนกับครั้งก่อนกับปู่เพียงแค่เขาไม่ได้เศร้าเหมือนครั้งนั้น งานสิ้นสุดลงซันมีหน้าที่พาเขากลับบ้าน เพราะพี่เขาที่เหลือต้องอยู่เป็นหน้าตาเพื่อไม่ให้มีใครสงสัยในความสัมพันธ์ที่ไม่แม้แต่ใครร้องไห้และเรื่องเกิดหลังจากที่น้าสาวเขาโดนปลดสายฟ้าผ่า และยังมีคดีฟ้องร้องอยู่ ถึงจะมีข้อสงสัยแต่ก็ไม่มีใครกล้าจะมาสืบสาวศิริกิจวัชรโชติถ้ายังอยากมีที่ให้ยืนอยู่

 

รถที่พ้นขอบประตูวัดจอดลงข้างทาง ซันหยิบถังน้ำที่วางอยู่ด้านหลัง พรมใส่หัวเขาทันที

เฮ้ย!! ทำไรเนี่ยพี่ซัน” ไนน์ร้องทักพลางยกมือกันคนที่เอากิ่งไม้มาสลัดน้ำใส่

น้ำส้มป่อยครับ ป้าดาหลาสั่งให้เอามาพรมทันทีที่ออกนอกวัด” ไนน์ได้แต่อ้าปากพะงาบ ซันยังต่อด้วยที่ประโยคที่ทำให้ไนน์หุบปากลงอย่าจำใจ “กลับไปต้องล้างด้วยน้ำแช่ใบทับทิมนะครับ นมแย้มเตรียมไว้ให้แล้ว”

อือ” เขาหยักหน้าขึ้นลงยอมรับสภาพ อย่างทำอะไรทำกันเถอะ เอาที่ทุกคนสบายใจทำอะไรไม่ได้นิ

 

 

ทุกอย่างกลับมาสู่ภาวะปกติไนน์กลับมาทำงานตามเดิม เลขาธีที่หัวหมุนช่วงที่เขารักษาตัวมีสีหน้าซูบโทรม ส่วนกุ๊บกิ๊บก็ไม่ต่างกันทรงผมไม่สยายแต่รวมมัดเป็นดังโงะไว้ บอดี้การ์ดเขากลับมาทำงานแต่สภาพดีกว่าเจ้านายนิดหน่อย แขนเข้าเฝือกอ่อน และจะถอดในอีกเดือนหน้า บายไม่ได้รับบาดเจ็บหนักแค่หัวกระแทกอย่างเดียว

 

 

ไนน์ที่กลับมาเริ่มงานใหม่ เขาต้องพบกับงานที่ยุ่งยากกว่าเดิม ต้องสรรหาคนที่เข้ามาทำงานแทนตำแหน่งคนที่วางไป ตามแผนงานช่วงเช้าสัมภาษณ์งานและช่วงบ่ายจัดการเอกสาร กว่าจะได้กลับคอนโดปาไปเกือบห้าทุ่ม ซันยังคงทำหน้าที่คนรักที่เสมอต้นเสมอปลายด้วยการคอยดูแลเขาอย่างดี และที่แฟนเขาหวงที่สุดคือ การอาบน้ำและเปลี่ยนเสื้อผ้าไม่ยอมให้ใครทำโดยเด็ดขาด ศึกอันยิ่งใหญ่กลางคอนโด

ผมขอยื่นคำขาดว่าคนที่อาบน้ำและเปลี่ยนเสื้อผ้าให้ไนน์มีแค่ผมและนมแย้มเท่านั้น” น้ำเสียงที่ปรับให้นิ่งจะไม่แสดงความแข็งกร้าวออกไป

ทำไมพวกกูจะอาบน้ำให้น้องกูไม่ได้ ผู้ชายเหมือนกันว่ะ” ทรัวขึ้นเสียงตามมาทันที

น้องชายพี่แต่เมียผมครับ!! พี่จะยอมไหมล่ะถ้าผมขอไปอาบน้ำให้เมียพวกพี่ ถามพี่หนึ่งก่อนเลยครับยอมไหมครับ” ซันหันไปถามพี่ชายคนโตของบ้าน ในสถานภาพเมียเหมือนกัน

หนึ่งกัดฟันกรอดพูดตอบไป “ไม่โว้ย!!” หนึ่งรู้ว่าไอ้นี่มันจะหาเขามาเป็นพวก เออแต่มันก็พูดถูกต่อให้เป็นน้องรักอย่างไนน์เขาก็ไม่ยอมให้เห็นแม้แต่ขาอ่อนเมียเขาเด็ดขาด

เห็นไหมครับ พี่หนึ่งยังเห็นด้วยใครจะยอมให้คนอื่นมาเห็นขาอ่อน ก้นงอนๆล่ะครับ”

เออ กูไม่รู้ด้วยแหละ พวกมึงคุยกันเอง แม่ง!มึงลากกูไปจนได้นะ” หนึ่งชี้หน้าซันอยากเอาเรื่อง

แม่ง!!” เสียสบทหัวฟัดหัวเหวี่ยงของทรัว รวมถึงคนอื่นที่ไม่เข้ามาร่วมเถียงด้วยก็หัวเสียไม่แพ้กัน

ซันจะชนะนอตยกนี้...

 

 

 

วันครบกำหนดถอนเหล็กออก นี่คือวันที่ไนน์จะสถาปนาตัวเองเป็นไทแล้ว ถึงแม้ว่าเขาจะต้องใช้ไม้ค้ำต่อ ก็ยังดีที่ต้องติดเหง็กบนรถเข่นที่มีคนช่วยเข็นตลอดเวลา วันนี้ไนน์และซันมีนัดกินข้าวกับเพื่อนพวกเขาที่ร้านอาหารหลังจากหาหมอเสร็จ

 

 

ซันได้นัดกับเพื่อนสนิทไว้ตั้งแต่เมื่อสองเดือนที่แล้ว รวมถึงนัดเพื่อนของไนน์ผ่านทางวีอีกที เพราะวันนี้เขาตั้งใจจะขอไนน์แต่งงานหลังจากคบหาดูใจกันมาพอสมควร เพราะวันที่ไนน์โดนจับตัวไปและอยู่ในสภาพที่ปางตาย เขากลัวมากที่สุด นับตั้งแต่ไนน์กลับมาใช้ชีวิตตามเดิมเหมือนกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้นก่อนหน้านั่น แต่กลับเป็นเขาเองที่เคยกังวลกลัวว่าไนน์จะหายไป กลางคืนเขามักตื่นขึ้นมามองดูว่ายังอยู่ไหม กลัวจะมีคนพาไนน์จากเขาไปอีก เพื่อนต่างพากันด่าเขาคนที่โดนจับไปยังชีวิตปกติ ส่วนมึงคนไปช่วยยังวิตกจริตกว่าเมียมึงอีก ใช่ครับพวกเขาไม่เห็นตอนที่ปืนจ่อไปที่หัวคนรักของตัวเองพูดได้สิ ภาพนั่นยังติดตาไม่จางหายไปไหน

 

เขาจึงตัดสินใจว่าจะขออยู่ข้างกายไม่ห่าง และการแต่งงานคือวิธีเดียวที่ทำให้พวกเขาไม่ห่างไปไหนเลย

 

 

 

รถคันหรูขับมาจอดในร้านอาหารที่ดูมินิมอลเล็กๆ เขาเหมาร้านเพื่องานนี้ ไนน์ก้าวลงจากรถมองไปยังหน้าร้านที่ตกแต่งด้วยลูกโปร่งสีฟ้าที่มัดติดกับกระถางต้นดอกทานตะวันที่ออกดอกบานอวดโฉมสะพรั่ง น้องที่เป็นคนไม่ค่อยใส่ใจเรื่องราวรอบตัวอยู่แล้ว มักจะมองว่าเรื่องปกติของการแต่งร้าน แต่สำหรับซันเอาพยายามแทรกการตกแต่งคล้ายกับวันที่น้องของเขาเป็นแฟนเอาไว้

 

เขาเปิดประตูพาน้องเขามายังด้านใน ที่ตกแต่งด้วยลูกโป่งสีฟ้าขาวสลับไปทั้งร้าน รูปถ่ายที่เขาทั้งแอบถ่ายและถ่ายร่วมห้อยที่ปล่อยลูกโป่ง

 

ไนน์ใช้ไม้ค้ำพาตัวเองไปดูรูปแต่ละใบ เขาเดาว่าน้องพอจะเริ่มจับทางได้บ้างแล้วล่ะ ใบหูเริ่มมีสีแดงพร้อมกับหันมาดูเอาเป็นพักๆ ระหว่างที่ดูรูปแต่ละใบ

 

มะ ไม่ได้คิดจะเซอร์ไพร์อะไรใช่ไหมครับ?” น้ำเสียงถามด้วยความเคอะเขิน

“...” ซันไม่ตอบเพียงแค่ส่งยิ้มและจูงมือพาเดินไปดูรูปต่อไป

เห…รูปนี่ถ่ายตอนไหนเนี่ย หน้าตลกชะมัด” ไนน์หนีบไม้ที่แขนรีบแกะรูปที่ตัวเองแหย่ลิ้นไปเลียฟองนมที่มุมปาก แต่เป็นภาพที่ถ่ายจากด้านข้างยัดใส่กระเป๋ากางเกง

 

 

ซันพาไนน์มาตรงกลางร้านและคุกเข่าลงแหวนในกล่องสีแดงกำมะหยี่หยิบออกมาจากกระเป๋า และกลางออกและพูดว่า “ไนน์ครับ แต่งงานกับพี่นะครับ” นี่คือแผนการที่เขาซ้อมมากับเพื่อนมาหลายครั้งแล้ว แต่ผลกลับไม่เป็นไปดังหวังที่สวยหรูคือ

 

เขาพาไนน์มาตรงกลางร้านและคุกเข่าลง เตรียมจะหยิบแหวนออกมา โครม!!! ว่าที่เมียเขาคงจะเขินหนักหรืออาจจะไม่ชินกับการใช้ไม้ค้ำพยุงตัวเอง เลยล้มทับเขาที่นั่งอยู่ ภาพผู้ชายสองคนล้มทับหน้าไนน์อยู่ตรงหว่างขาและมีไม้ค้ำเป็นพร็อบประกอบอยู่ด้านข้าง

เฮ้ย!!!!” เสียงร้องดังจากคนที่อยู่นอกร้าน และต่างกันกรูเข้ามาช่วยพยุงสองร่างที่นอนเกย

ฮ่า ฮ่า ฮ่า” เสียงหัวเราะของกลุ่มคนที่เข้ามาในร้านแทบจะพร้อมกัน

คิวที่พูดขึ้นมาก่อนพร้อมยกมือปาดน้ำตาที่เล็ดมาจากการหัวเราะ “กูว่าจะเห็นไอ้ไนน์อายม้วนตอนโดนขอแต่งงานแต่กลับต้องมานั่งขำที่เพื่อนกูหน้าทิ่มตอนขอแต่งงาน”

เนี่ยมึงดูนี่ดิ คลิปที่ดูถ่ายเอาไว้ วันงานแต่งต้องเอาไปเปิดให้แขกดูด้วยว่ะ” เจโอเปิดกล้องให้เพื่อนคนอื่นดู

พอแล้ว” ไนน์ที่นั่งยกมือกุมหน้าด้วยความอับอายร้องบอกเพื่อนให้หยุดล้อเขาได้แล้ว

 

ไอ้ซัน อีกรอบดิ” คุณชายหันไปตบบ่าเพื่อนที่นั่งกุมหน้าอับอายไปแพ้กัน

คุณเพื่อนครับ เดี๋ยวพวกผมจะเซตติ้งใหม่อีกรอบนะ อุ๊บ..” เพื่อนพอร์ชที่พยายามยุให้ขอใหม่อีกรอบ แต่ก็อดขำที่พอนึกถึงภาพที่เพิ่งผ่านตา

 

 

ซันลุกขึ้นจากเก้าอี้ ตบไปแก้มตัวเองทั้งสองฝั่ง ว่าที่เจ้าบ่าวเอาจริงจังทุกคนก็ให้ความร่วมมือ ถอยหลังออกไปให้มีแค่คนสองคนเท่านั้น เจโอรับหน้าที่ตามเดิม เมเปิ้ลที่ถือดอกไม้รอส่งให้ ส่วนคนที่เหลือถือพลุกระดาษรอ

 

ไนน์... เอ่อพี่เขินมากเลยนะ” ซันที่ถือแหวนคุกเข่าข้างเก้าอี้ที่คนรักของเขานั่งรออยู่พลางเกาแก้มตัวเอง

อื่อ...” ไนน์ที่กั้นขำ เม้มปากสนิท

แต่งงานกับพี่นะครับ” แหวนแพทตินัมเกลี้ยงฝังเพชรเม็ดเล็กไว้ด้านข้างรอยวง ข้างในสลักชื่อพวกเขาทั้งสองคน

แต่งครับ”

 

ปุ้ง ปุ้ง ปุ้ง พลุกระดาษจุดออกมาพร้อมๆ กัน ซันลุกขึ้นคว้าตัวว่าที่คุณภรรยาของเขามาบดจูบด้วยความดีใจ ริมฝีปากประกบกันจนแนบสนิท ความหวานฉ่ำในรสจูบซันละเมียดละไมเลาะเล็ม ลิ้นสอดแทรกเข้าไปในโพร่งปากพัวพันหยอกล้อกัน และพวกเขาจำเป็นผละปากออกจากกันเพราะไม่อยู่กันแค่สองคน ซันแอบเสียใจอยู่ว่าทำไมไม่ขอแต่งส่วนตัว ไม่งั้นคงเข้าหอต่ออีกแน่นอน

 

 

หวานพอแล้วครับ คนรอบข้างฉีดอินซูลินไม่ไหวแล้วครับคุณเพื่อน” จัสตินรีบทักท้วงขึ้นมาทันทีคู่รักเอาปากแยกออกจากกัน แต่เพื่อนเขาเองที่จ้องจะกินปากน้องต่อเข้าจึงรีบห้ามปราม

 

 

กลุ่มคนทั้งหมดมานั่งร่วมโต๊ะที่มีเพียงแค่พวกเขา ระหว่างรออาหารมาเสิร์ฟ

 

พี่ซันขอไนน์แต่งงานแบบนี้จะไม่มีปัญหากับพี่ๆ ไอ้ไนน์เหรอพวกนั้นหวงน้องชายจะตาย” จัสมินถามขึ้นมา

จะมีปัญหาได้ไง แค่ไนน์พูดคำเดียวทุกอย่างก็จบ จริงเปล่า” คนตอบคือพี่สะใภ้ของไนน์ น้องวีของพี่หนึ่ง

จริงว่ะ ตั้งแต่คบกับมันมาไอ้ไนน์บอกซ้ายพี่มันทุกคนไปซ้ายบอกขวาไปขวา ไม่มีใครขัดกันรวมถึงผัวมึงด้วยน้องวี” คิวหันมาบอก

นี่พวกน้องสนิทกันมาตั้งแต่มหาลัยเหรอ แล้วรู้ตั้งแต่แรกเลยไหมว่าเพื่อนเราเป็นหลานทายาทตระกูลดังเนี่ย” คุณชายถามกลุ่มคนที่เด็กกว่า

เอาจริงพวกเรามารู้ตอนช่วงมิดเทอมตอนปีหนึ่งไหมว่ะ ถ้าจับไม่ผิดตอนที่ไปติวหนังสือที่คอนโดไอ้ไนน์ใช่ไหมว่ะ” จัสมินหันมาขอความคิดเห็นจากเพื่อนๆ

น่าจะใช่นะ ตอนแรกพวกผมเห็นรูปถ่ายครอบครัว ร้องเชี่ยกันทั้งกลุ่มเลยถึงว่านามสกุลธรรมดาแต่มีเงินใช้เยอะฉิบหาย ยิ่งพวกพี่ๆ มันมาตามต้อยๆ ตอนแรกก็คิดว่ามาจีบมัน ที่ไหนได้ตามมาหวงน้องชาย” เจโอสมทบร่วมกับจัสมิน

นี่พวกน้องรู้เรื่องของพวกน้องกับเพื่อนพี่ไหม ว่าเคยเจอกันมาก่อน” พอร์ชพูดด้วยน้ำเสียงอยากนำเสนอ

พี่เล่ามาดิ” ความอยากรู้อยากเห็นคือส่วนหนึ่งของชีวิตมนุษย์เพื่อนอย่างเมเปิ้ลและคนอื่นๆ ที่ตาเป็นประกาย

เท่าที่พอจะจำได้นะ เพื่อนเรานะเคยช่วยชีวิตเพื่อนพี่เอาไว้ แต่ตอนนั้นมันไม่รู้ว่าคือใคร พอฟื้นขึ้นมาเอาแต่เพ้อว่า รอยยิ้มของผมอยู่ไหน เที่ยวตามหาไปทั่วเสาะแสวงหาอย่างกับเจอรักแท้” สีหน้าท่าทางล้อเล่นเพื่อนสุดๆ

อ้าว ก็รักแท้ของกูเนี่ย” ซันคว้าเม็ดมะม่วงหิมพานต์ปาใส่คนเล่า เอียงตัวไปซบไหล่ของไนน์เอาหน้าถูไถอย่างออดอ้อน

พอร์ชที่กำลังเล่าอดกลอกตาใส่ที่มาขัดจังหวะ “พอมันไปเที่ยวกลับมาจากสมุยน่ะวิ่งโร่มาเล่าให้ฟังด้วยความดีใจว่าเจอแล้ว รอยยิ้มของกูชื่อไนน์โว้ย พอพวกพี่บอกให้พามาเจอมันตีหน้าเศร้าบอกว่า น้องหนีไปอีกแล้ว”

พอร์ชเงียบต่อดูปฏิกิริยาของน้องๆ ว่ายังไง “มึงเล่นหนังอินเดียเหรอไอ้ไนน์” คิวถามแทรกขึ้น

เล่นเชี่ยอะไร ตอนนั้นก็ยัง ยังไม่อยากมีไง” ไนน์ตอบกลับแบบไม่เต็มเสียงมากนัก

ครับ ยังไม่อยากมีแต่ตลอดทริปอยู่กับพี่ตลอดนะ” ซันยกมือป้องปากและพูดออกไปว่า “ทริปนั้นนะแดดที่ทะเลร้อนแรงสู้ไนน์ไม่ได้เลย”

 

 

โว้ย!!!! เสียงโห่ตะโกนดังลั่นร้าน ไนน์ที่อับอายเอามือมากุมปกปิดสีแดงบนใบหน้า ซันได้ยิ้มกรุ้มกริ่มด้วยความภาคภูมิใจ

 

ไอ้ห่าซัน วันนี้กูจะเล่าจบไหมเนี่ย” พอร์ชแวดใส่เพื่อน

มึงต่อเลย ปล่อยพวกมันไปอยู่ทะเลกันสองคนไป๊...” จัสตินคะยั้นคะยอให้เพื่อนเล่าต่อ

จนวันหนึ่งมันโทรมากูโว้ย ว่าเจอน้องอีกรอบแล้ว กูถามว่าเจอที่ไหน มันตอบว่าเจอที่เอ้าติ้งบริษัทมันเอง แม่งอยู่ใกล้ตัวสุดๆ แต่หาไม่เจอ แต่มีเรื่องหนักใจกว่าคือน้องคือหลานคนเล็กของ...” พอร์ชพยักหน้าให้คนที่เหลืออย่างเข้าใจว่ะไรต่อ

"ว่าแต่ไอ้ซันมึงจะไปขอเขา มึงเตรียมสินสอดเท่าไหร่วะ”

“...” เขาส่ายหัว “คงแล้วแต่ทางนั่นแหละจะเรียกมาว่ะ”

ลุงกับป้าของไนน์ไม่ว่าอะไรหรอกครับ แต่ได้ยินพี่หนึ่งบอกว่าแกจะเรียกสักร้อยล้าน แล้วจะบอกคนอื่นให้เรียกเหมือนกัน คงรวมๆ กันแปดร้อยล้านครับ” วีพูดแทรกขึ้นมาทันที

 

ตึ่ง.... เสียงที่เงียบลงไปพร้อมกับเสียงกา ที่ร้องอย่างในการ์ตูน กา กา...

 

ซันที่กลืนน้ำตาลงคออึกใหม่ “แปดร้อยล้าน... แปดร้อยล้าน...แปดร้อยล้านนนนน”

 

 

TBC…