23 ตอน Chapter 22
โดย T.mines
Number nine My Sun
หมายเลขเก้าของดวงตะวัน
#IXMYSUN
วันประชุมผู้ถือหุ้นโดยไม่มีการทำหนังสือแจ้งมายังประธานบริหารอย่างไนน์ เลยต้องพาตัวเองมาประชุมก่อนเวลานัดด้วยซ้ำเกือบครึ่งชั่วโมง พอใกล้ถึงเวลาเหล่าผู้ถือหุ้นเดินทางมายังในห้องประชุมที่เลขาคนเก่งของเขาต้อนรับมาอย่างงุนงง ส่วนเลขาของอีกคนที่เป็นตัวตั้งตัวตีจัดประชุมได้แต่เข่นเขี้ยวอยู่ในใจ
ครั้นถึงเวลาประชุม โดยมีน้าสาวเขาเป็นผู้เปิดประชุม
“วันนี้ที่มาประชุมผู้ถือหุ้นเร่งด่วนเพราะการที่ข่าวกระจายออกไปเกี่ยวกับการเสียชีวิตของคุณพ่อ รวมถึงคลิปที่ออกมาทำให้ราคาหุ้นของบริษัทร่วงอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ทางคณะกรรมการผู้ถือหุ้นจึงเสนอของปรับเปลี่ยนตำแหน่งให้ทางดิฉันขึ้นมาดูแลในตำแหน่งประธานบริหารชั่วคราวก่อน ทั้งนี้คงต้องรอจนกว่าเรื่องจะคลี่คลายหรือหาหลักฐานมาแสดงถึงความบริสุทธิ์ถึงจะให้กลับมาดำรงตำแหน่งดังเดิม” น้ำเสียงที่ประกาศออกไปเจือไปด้วยความเห็นอกเห็นใจหลานชายอย่างเขา แต่เขากลับรู้สึกว่ามันเคลือบยาพิษไปทุกพยางค์
“ท่านประธานมีหลักฐานมาชี้แจงหรือเปล่า” หนึ่งในคณะกรรมการถามขึ้นมา
“รอสักครู่ได้ไหมครับ หลักฐานกำลังเดินทางมาครับ”
ไนน์มาเพื่อถ่วงเวลาจริงๆ เพื่อให้ทั้งทีมเตรียมเอกสารทั้งหมด ถึงเขาจะถือจำนวนหุ้นมากที่สุดแต่อำนาจในการถอดถอนยังคงอยู่ที่พวกคณะกรรมหากลงมติมากกว่าครึ่งเขาคงต้องหลุดพ้นตำแหน่ง ตำแหน่งที่ปู่เขาพยายามรักษาและส่งมอบให้เขา เขาต้องรักษามันอย่างสุดกำลัง
“พวกผมไม่มีเวลามานั่งเล่นขายของกับท่านประธานนะครับ จะให้รอถึงกี่โมงครับ บอกเวลามาให้ชัดเจน พอถึงกำหนดเราจะได้ลงมติกันเลยดีกว่า”
“ใช่พวกเราเห็นด้วย ยิ่งปล่อยเวลาไปนานสถานการณ์ยิ่งแย่ลงเรื่อยๆ”
“ความเสียหายที่เกิดขึ้น ท่านประธานพร้อมรับชอบหรือเปล่าคะ”
“คงไม่เกิดหนึ่งชั่วโมงครับ กรุณารอสักครู่ให้ผมยืนยันความบริสุทธิ์ในครั้งนี้ด้วยครับ” เขาตอบด้วยน้ำเสียงที่ขอความเห็นใจ ใครจะรู้ว่าข้างในหงุดหงิดชะมัดยาด รำคาญพวกเห็นแต่ตัวเอง
ครบหนึ่งชั่วโมงที่เต็มไปด้วยความอึดอัดของทุกคนในห้อง เสียงเคาะประตูของคนของท่านประธาน อดีตเลขาท่านประธานคุณธานินหอบคอมพ์ ส่วนคีนและบายลากกระเป๋าที่ใส่เอกสารมาทั้งคู่
เขาพยักหน้าให้ทั้งสามคนเริ่มจัดการเปิดเผยเอกสารที่ได้มา เริ่มต้นด้วยบันทึกกล้องวงจรปิดฉบับเต็ม รวมถึงภาพจากกล้องวงจรปิดที่มีเลขาของน้าสาวเขาปรากฏอยู่ในนั้น และสิ่งที่ไนน์เอ่ยถามไปว่า “ไม่ทราบว่าเลขาคนสนิทของกรรมการบริหารฝ่ายการตลาดไปทำอะไรให้ห้องของอดีตท่านประธานและมุมมันตรงกับคลิปที่เป็นข่าวพอดีเลยครับ”
เลขาอย่างธานินสั่งให้บายและคีนไปปิดประตูและล็อกเอาไว้ ส่วนเลขาธีต่อสายไปแจ้งกับตำรวจที่นัดแนะและเข้าไปแจ้งความไว้ตั้งแต่ช่วงเช้าแล้ว
อดีตเลขาท่าประธานเดินไปเปิดคอมพ์เพื่อโชว์ข้อมูลต่างๆ ส่วนเลขาสาวน้องใหม่เดินจ่ายเอกสารที่ปริ้นออกมาให้แก่กรรมการบริหารคนอื่นๆ
“นี่คือหลักฐานการกระทำความผิดของคุณเบญชญา เกี่ยวกับการฮวดประมูล การปกปิดการก่อสร้างผิดแบบ รวมถึงการปลอมแปลงตัวเลขทางบัญชี และหลักฐานนี้สาวไปถึงกรรมการอีกหลายท่านในที่นี้ด้วยครับ” น้ำเสียงที่เรียบนิ่งแต่เฉียบขาดกระจายไปทั่วห้อง
คนที่มีเอี่ยวในงานนี้มองหน้ามันเลิกลัก ส่วนคนที่โดยกล่าวหาที่สุดคือน้าเบญของเขา เขาไม่เคยเห็นน้าสาวที่แสดงสีหน้าที่โกรธและเกลียดแผ่มายังเขารุนแรงเท่านี้มาก่อน ด้วยความที่เป็นคนในครอบครัวถึงแม้จะกระทบกระทั่งกันเรื่องผลประโยชน์กัน ส่วนตัวไนน์แล้วพอจะเข้าใจในตัวน้าสาวบ้างที่เป็นลูกแท้แต่กลับไม่ถูกเลี้ยงดูอย่างลูกคนอื่นกลับติดในฐานะลูกบุญธรรม แต่ว่ากันทางกฎหมายแล้วก็มีสิทธิทัดเทียมกัน แต่ทางสังคมนั่นไม่เท่ากัน
ช่วงที่พอทราบเรื่องหลังจากโดยดักทำร้ายที่หัวหินและลากหัวหน้าบอดี้การ์ดอย่างบายมาซักจนขาวซี้ดเขาถึงรับรู้ว่าคนที่อยู่เบื้องหลังทั้งหมดคือน้าเบญและลุงทั้งสี่คนสั่งให้คอยระวัง และเขาก็ขอพบลุงทั้งหมดเพื่อพูดคุยจนทราบเรื่องราวเกี่ยวกับตัวน้าสาวมากขึ้น
“พวกลุงรู้เรื่องที่เบญคือน้องสาวคนละแม่ตั้งแต่เด็กๆแล้ว พวกลุงรวมถึงแม่เราพยายามทำให้เขาเมื่อครอบครัว แต่เข้าใจไหมว่าครอบครัวเราเลี้ยงกันมาแบบไหน ในเมื่อเบญไม่คิดจะเรียกร้องสิทธิการเป็นลูกและยอมอยู่ในฐานะนั้นพวกลุงก็ทำอะไรมากกว่านั้นไม่ได้”
นั้นคือสิ่งที่ลุงมังกรพูดกับเขาหลังจากพูดคุยกันจบลง ไนน์คิดว่าควรจะปล่อยผ่านละปลดน้าสาวเขาออกอย่างเงียบ แต่ถ้าหากเขาไม่บังเอิญรู้ความจริงบางอย่าง
ย้อนกลับไปเมื่อช่วงบ่ายของเมื่อวานนี้ หลังจากที่เขาไปเก็บกระดูกของปู่และให้ซันมาส่งที่คอนโด ส่วนเจ้าตัวเขาให้กลับไปยังคอนโดตัวเองที่แทบจะร้าง คนพี่ยอมแต่โดยดีเพราะเข้าว่าที่ทำงานอยู่มันคือความลับของบริษัทและส่งผลต่อคนรักของเขาอย่างไร
ทีมงานของเขาประกอบด้วยเลขาส่วนตัวเขาธี คีน บายและน้องใหม่อย่างกุ๊บกิ๊บ รวมถึงเด็กหนุ่มสองคนที่อายุไม่น่าแค่สิบเจ็ดสิบแปดน่าจะเป็นคนที่แฝดเกาส่งมาตามที่เขาโทรไปขอมา ทุกคนนั่งรอเขาที่โต๊ะกินข้าว โดยมีกองขนมอยู่อย่างหนาแน่น
“สวัสดีครับ ผมบอส นี่เจ้านายแฝดน้องผมครับ” เด็กหนุ่มหน้าตาขาวตี๋แนะนำตัว
“สวัสดีครับ เรียกผมนายอย่างเดียวก็ได้ครับ พวกผมเป็นคนที่คุณทาซอทและยอซอทส่งมาครับ” เด็กหนุ่มหน้าตาขาวตี๋คล้ายคนแรกแต่ใส่แว่นทักทายเขา
“...” เขาพยักหน้าตอบรับ เหลือบไปมองเศษถุงขนมที่เต็มโต๊ะ ยังไม่รวมอันที่ยังไม่แกะบนโต๊ะอีก
“เอ่อ...ผมสองเป็นพวกติดขนมนะครับ อันนี้เจ้านายของพวกผมให้เงินมาซื้อนะครับ”
“ก็ไม่ได้ว่าอะไร แค่มันดูเยอะเกินว่าคนในห้องนี้จะกินหมดด้วยซ้ำ แต่พวกนายกินหมดนี่จริงๆ เหรอ” ไนน์ชี้ไปที่กองขนม
“อื่อ...” สองคนตอบรับและพยักหน้าพร้อมกัน
“ถ้าไม่พอบอกได้นะ ตามสบายเลย” ไนน์พลางนั่งลงที่หัวโต๊ะ “งั้นมาเริ่มงานกันเลยดีกว่า บันทึกกล้องวงจรปิดที่ให้ไปหามาได้ยังคีน”
“ได้มาแล้วครับ” คีนเสียบแฟลตไดร์เข้าทีคอมและเปิดให้เขาดู “เสียดายที่มันไม่มีเสียงการพูดคุยกัน”
หลังจากเปิดคลิปดูแบบเร่งสปีด เขาหนหน้าจอไปให้คีนดังเดิม “แค่นี้ก็น่าจะพอได้แหละ และก็ได้ย้อนดูได้ไหมว่าใครเป็นคนแอบไปอัดคลิป”
“ย้อนครับแต่บอกไม่ได้ว่าใคร แต่ผมสงสัยว่าเป็นเลขาของคุณเบญแต่หลักฐานบอกว่าไปใกล้ตรงนั้นแต่ไม่เห็นว่าติดกล้องหรือเปล่า” บายเป็นคนตอบมา
“แล้วหลักฐานการฮวดประมูลล่ะ รวมถึงการก่อสร้างที่ผิดแบบคุณธีได้มาทั้งหมดไหมครับ”
“ได้มาบางส่วนครับ แต่มันไม่สามารถโยงไปถึงคุณเบญได้ ส่วนใหญ่จะเป็นแค่ลูกกระจอกทั้งนั้น” เลขาเขาตอบมา เรื่องฮวดประมูลเข้าให้บายตามสืบตั้งแต่เกิดไฟไหม้ที่หัวหินและพาทีมวิศวะไปตรวจสอบอีกหลายโครงการโดยที่น้าสาวเข้ามามีส่วนร่วมด้วยเพียงแค่ไม่มีเอกสาร
ไนน์นวดขมับ ระหว่างแก้คำครหาในคลิปนั้นได้ จริงๆ ในคลิปนะแค่เอาเป็นข้ออ้างแหละพวกเขารอโอกาสที่เข้ามาแทรกแซงอยู่แล้ว ถึงคำแก้ตัวจะผ่านไปได้แต่ยังต้องมีคำที่ว่าประสบการณ์และความน่าเชื่อถือมาแทนและทางนั้นพร้อมจะเขี่ยออกอยู่แล้ว เขาต้องหาหลักฐานความผิดของน้าสาวมาเปิดเผยในครั้งนี้
“นายสองคน... เอ่อบอสกับนายเราสองคนเจาะเข้าไปในระบบแล้วขุดมาทุกอย่างที่น่าสงสัย เอาออกมาให้หมดเอาให้เต็มที่”
สองหนุ่มแฮกเกอร์ยกยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์ หักนิ้วและออกท่าทางวอมนิ้วทั้งสิบพร้อมกันทั้งคู่ กางจอคอมขึ้นพร้อมสวมหูฟังตัดเสียงรบกวน พร้อมกับฉีกซองขนมเพิ่มอีกสามสี่ห่อเอาว่าใกล้ตัวที่สุด
“ได้อะไรผมจะสั่งปริ้นออกเครื่องเลยนะครับ” พอพูดจบเสียงรัวแป้นคีย์บอร์ดดังไม่หยุด
“พี่ธีค่ะ ทำไมคุณไนน์ถึงมั่นใจว่าเป็นคุณเบญค่ะ” เสียงกระซิบจากผู้ช่วยเลขาสาวหนึ่งเดียวในที่นี้
บายหันมามองหน้าเจ้านายเพื่อเป็นการขออนุญาต และเขาพยักหน้าตอบ “กุ๊บกิ๊บเรารู้ไหมว่าเรื่องในวันนี้คือความลับที่จะเปิดเผยข้างนอกไม่ได้ เบื้องหลังของเราไม่ได้ขาวสะอาดมันออกจะเทาไปเกือบจะดำด้วยซ้ำและคงจะรู้ว่าจุดจบจะเป็นแบบไหน ถ้าเกิดมีข้อมูลหลุดออกไปนะครับ” น้ำเสียงที่ดูจริงจังไม่ใช่การพูดเล่น จนทำให้คนที่ฟังถึงกับหน้าซี๊ดลงพร้อมกับกลืนน้ำลายอึกใหญ่ลงคอ และบายยังคงเล่าต่อ
“หลายเหตุการณ์ที่สร้างสถานการณ์การทำร้ายร่างกายคุณไนน์ล้วนมาจากสายที่ลึกลับเป็นเบอร์ที่เปิดใช้แล้วทิ้งไป พอจับจุดสัญญาณมักจะอยู่ใกล้ตัวผู้หญิงคนนี้ทั้งนั้น พอจะเข้าใจหรือยัง”
“...” หญิงสาวพยักหน้างึกๆ
ตอนที่เขาบอกให้เลขาธีเรียกหญิงสาวมาด้วย ทุกคนแย้งมาทันทีเพราะเพิ่งมาทำงานไม่กี่เดือนเท่าไหร่ไม่น่าไว้ใจ แต่สิ่งที่เขามองอย่างหนึ่งผู้หญิงมักจะมีนิสัยที่ละเอียดอ่อนเรื่องการจับผิด มักจะมองจุดที่แตกต่างจากผู้ชายอย่างพวกเราไป เขาจึงต้องการสิ่งนี้จากกุ๊บกิ๊บ
เขาทั้งสี่จดจ่อลงไปยังเอกสารที่อยู่ตรงหน้าและเอกสารทางคอมพิวเตอร์ว่าตรงกันหรือมาการบิดเบือนต่างกันหรือไม่
สามชั่วโมงผ่านที่ไม่มีอะไรคืบหน้าแม้แต่นิด จนมีเสียงโวยวายจากหนุ่มแฮกเกอร์ทั้งสองคน
“ไอ้นายมึงระวังแม่งปล่อยไวรัสมาแล้ว สัส สัส คอมกู!!”
“เชี่ยคอมกูด้วย!!”
“สัส ปิดคอมด่วน”
“มึงอย่าให้มันเจาะมานะมึง”
“เอาสิวะ เจาะมากูเจาะกลับ”
“เอาดิสัส เจาะมันคืน กูอยากรู้นักแม่งจะเก่งแค่ไหน”
เสียงสองหนุ่มสบทด่าอย่างแรงพร้อมกับคอมที่เปิดขึ้นใหม่อีกรอบ ตอนนี้ทั้งสี่คนเราหยุดงานไปมองจ้องกันพร้อมหน้าและลุกขึ้นไปมุมรอบตัวสองหนุ่ม
“มีอะไรเหรอ?” ไนน์ถามอย่างสงสัย
“เมื่อทางนู้จะมีระบบป้องกันการแฮกระบบครับ พอเจาะเข้าไปพวกผมเจอไวรัสที่ฝังอยู่ แต่ส่งข้อมูลพวกเราไปทางคนที่ดูแลครับ” บอสเป็นคนตอบกลับมาแต่ตาที่ยังไม่ละจากการจ้องหน้าจอ
“ใช่ครับ ตอนนี้พวกผมกำลังรุมปล่อยไวรัสคืนอยู่เหมือนกัน แต่ทางฝั่งนู้เก่งนะครับ ไม่เคยเจอคนที่วางระบบเก่งขนาดนี้มาก่อนเลย งานนี้เหนื่อยแน่เลย ผมต้องขอค่าเหนื่อยเพิ่มด้วยนะครับ จบงานนี้ต้องอัพคอมใหม่อีกเท่าตัว” เจ้านายหันมาตอบเขา หลังจากพอเรื่องค่าเหนื่อยยกมือมาจับที่ต้นคอโค้งลงพร้อมกับยิ้มแฮ่ๆ ใส่เขา
“เรื่องเงินไม่มีปัญหา งานมาเงินไป ตอบแทนอย่างสมน้ำสมเนื้อ” เขาตอบพร้อมกับลงมือบีบลงบ่าของคนทั้งสอง
“ขอบคุณค๊าบบบ” เสียงตอบด้วยสีหน้าระรื่นของชายหนุ่มทั้งสอง
“แต่ถ้าทำไม่ได้อย่างที่คุยไว้ เตรียมตัวหางานใหม่เลยนะพวกแก กูสั่งแฝดเกาโละทิ้งแน่” น้ำเสียงที่ล้อเล่น แต่สีหน้าแววตาดูจริงจัง
“ครับผม!/รับทราบครับผม!” เสียงขานรับอย่างจริงจัง
“เลขาธีผมขอยืมรถหน่อยครับ” เจ้านายหนุ่มบอกกล่าวกับเลขาของเขา
“ครับ?” คิ้วขมวดตอบกลับมา
“คุณไนน์จะไปไหนครับ? เดี๋ยวผมพาไปครับช่วงนี้ผมว่าต้องระมัดระวังตัวนะครับ” หัวหน้าบอดี้การ์ดอย่างบายทักท้วงทันที
“รู้ไงถึงเอารถของเลขาธีไปแทนไง งานนี้ต้องไปจริงแล้วก็ไม่ต้องตามด้วย ทำงานตรงนี้ให้เสร็จ” เขาพูดจบคว้ากุญแจรถเดินออกจากห้องไปทันที
“คุณไนน์/คุณไนน์ครับ” บอดี้การ์ดทั้งสองวิ่งตามออก
“แต่...”
“ไม่มีแต่จะรีบไปรีบกลับแค่ไม่หาที่สงบใจก่อน บ้านจัสมินจบไปทำงานไม่เกินสามชั่วโมงกลับมาแน่นอน”
ไนน์เดินทางไปบ้านเพื่อนสนิทจัสมิน เขาใช้บ้านเพื่อนเป็นข้ออ้างเพื่อนนัดเจอสามีของเพื่อนที่เขาฝากช่วยตรวจสอบการตายของปู่เขา ภายในบ้านหลักใหญ่สมกับฐานะลูกชายเจ้าของโรงพยาบาลเอกชนอันดับหนึ่งของเมืองไทย ที่ตอนนี้บ้านหลังนี้มีเพียงแค่ไม่กี่คนอาศัยอยู่เพราะทั้งคู่เพิ่งย้ายมาอยู่หลังจากเพื่อนสาวเขาคลอดลูกชายออกมา คุณพ่อป้ายแดงมาเปิดประตูต้อนรับเขา
“สวัสดีครับพี่หมอ” เขายกมือไหว้คนที่อาวุโสกว่า
เขาทั้งสองคุ้นเคยหน้ากันอยู่แล้ว แม้พักหลังจะไม่ค่อยได้พูดคุยกันเท่าไหร่ เพราะเมื่อคนเราที่ต้องมีหน้าที่รับผิดชอบการที่จะกลับมาเจอหรือพบปะกันเริ่มลดน้อยลง ส่วนเพื่อนเขาในกลุ่มยังพอจะได้เจอกันอยู่บ้างตามงานสังคม ส่วนแฟนเพื่อนถ้าพวกคุณเพื่อนไม่ควงออกงานก็ไม่ค่อยเจอเท่าไหร่
“ป่ะ เข้ามาข้างในก่อน”
เจ้าของบ้านพาเขาเข้ามาในบ้านและเอ่ยปากถามว่าจะไปดูหน้าหลานไหมและกล่าวขอบคุณสำหรับของขวัญรับขวัญเจ้าตัวน้อย ที่เป็นคอนโดหนึ่งห้องที่โครงการเดอะทัช เขาพยักหน้าตอบรับว่า ครับอยากเห็น แต่พอไปแล้วคุณแม่มือใหม่นอนกกลูกน้อยหลับไปอย่างเหนื่อยล้า เขาเลยเลี่ยงออกมาเพราะกลัวจะไปรบกวนทั้งคู่
“หลับไปแล้วเหรอ คงเหนื่อยจัดเลยช่วงนี้ งั้นเราไปคุยกันที่ห้องทำงานพี่แล้วกัน” เสียงพูดด้วยความเอ็นดูคุณแม่และลูกน้อย
“ครับงั้นไปกันเลย รบกวนด้วยนะครับ” ไนน์เดินตามเจ้าของบ้านไปยังห้องที่อยู่ถัดไป
พวกเขาทั้งสองไม่ต้องเกริ่นเรื่องให้เสียเวลา เพราะไนน์ได้รับข้อความจากเจ้าตัวและตอบรับว่าจะเข้ามาทันที พี่หมอหยิบซองเอกสารสีขาวมาวางตรงหน้าเขา ไนน์เปิดซองและหยิบเอกสารออกมาดู
“ตามเอกสารที่เรากำลังดู ผลเลือดรวมถึงค่าต่างๆ ดูปกติดูทุกอย่าง ยกเว้นปริมาณยาที่ได้รับถ้าเทียบกับผลเลือดของสัปดาห์ก่อนหน้าจะเสียชีวิตมีการเพิ่มขึ้นเล็กน้อย” คุณหมอหนุ่มหยิบกระดาษทั้งสองแผ่นมาวางเทียบกัน
“หมายความว่ายังไงครับ” เขาถามด้วยน้ำเสียงที่ไม่มั่นใจมากๆ
“มันหมายความว่าปู่เราอาจจะได้รับยาเกินขนาดหรืออาจจะรับสารอย่างอื่นที่เข้าไปเพิ่มการดูดซึมของยาเพิ่ม แต่มันไม่สามารถระบบชี้จัดการตายจากสายเหตุนี้ได้นะ เพียงแต่เป็นการคาดเดาเท่านั้น แต่ถ้าหากได้รับยาในปริมาณปกติหรือมากกว่าปกติ ถ้าได้รับการกระตุ้นให้โกรธร่างกายเรายิ่งดูดซึมสารพวกนี้เร็วขึ้น อาจจะเป็นสาเหตุการเสียชีวิตก็ได้ แต่เท่าที่พี่ดูตามร่างกายพี่พบว่ามีบางส่วนที่บีบเกร็ง แต่ถ้าจะให้แน่ชัดอย่างที่แท้จริงเราต้องส่งร่างไปที่นิติเวชให้เขาตรวจสอบเท่านั้น เพราะแล็บทางโรงพยาบาลของพี่คงตรวจได้แค่นี้แหละ” คุณหมอหนุ่มบอกกับเขาด้วยน้ำเสียงที่รู้สึกผิดที่ช่วยเหลือเขาได้นี้
“ไม่เป็นครับพี่หมอ แค่นี้ก็รบกวนมากแล้ว ปู่ก็เผาไปแล้วไม่ว่าจะตายด้วยสาเหตุอะไรผมก็ไม่อยากขุดให้มันลึกกว่านี้แล้วเพราะกลัวว่าจะเจอความจริงมากกว่า ปล่อยให้ปู่ไปอย่างสงบแหละดีแล้ว ส่วนที่เหลือคงต้องสู้กันต่อไปครับ” น้ำเสียงที่เจือปนไปด้วยความเสียใจเหนื่อยใจและผิดหวังปะปนกันไปหมด
เขาบอกลาพี่หมอและออกจากบ้านเพื่อนสนิทโดยภายในใจแต่เอาแต่ท่องอย่างเดียวว่าปู่จากไปเองไม่มีใครทำอะไรปู่ตลอดทางที่ขับรถมาไนน์ไม่แน่ใจว่าสูบบุหรี่หมดไปกี่มวนแล้ว รู้อัดไปเท่าไหร่ทำไมสมองไม่โล่งสักนิดเลย เขาแทบไม่รู้ตัวเลยว่ากลับมาถึงคอนโดในสีหน้าแบบไหน ไนน์เปิดประตูห้องเข้าไปพบว่ามีแขกมาเพิ่มอีกหนึ่งคน ส่วนพวกที่เหลือนั่งนิ่งส่วนเอกสารและคอมพิวเตอร์ส่วนตัวหายไปหมด
“คุณธานิน?” ไนน์ทักเสียงหลงพร้อมคิ้วที่เลิกขึ้น ในใจอยากตะโกนตามว่ามาทำไมว่ะ
อดีตเลขาส่วนตัวของปู่ลุกขึ้นยืนและพูดกับเขา “ผมของคุยด้วยหน่อยครับ เป็นส่วนตัวด้วย”
“คะ ครับ เชิญทางนี้” เขาตอบไปอย่างุนงงแต่ขาก็พาเดินไปยังห้องทำงานส่วนตัว
ประตูที่ปิดสนิทลง คุณธานินพูดออกมาโดยที่รอให้เขาถาม “คุณไนน์ให้คนเจาะระบบของศิริกิจวัชรโชติเหรอครับ”
“!!!”
“ไม่ตอบแสดงว่าใช่ ผมของถามได้ไหมว่าทำไม?” เขาถามด้วยน้ำเสียงที่ไม่ได้คาดคั้นมากอย่างเพียงแค่ใคร่อยากรู้มากกว่า
“ผมจะบอกถ้าคุณธานินตอบคำถามผมก่อน คุณอยู่ฝ่ายไหนและรู้ได้ไงว่าผมเจาะระบบ” เขาถามด้วยน้ำเสียงที่เยือกเย็น ถ้าหากมาดีเขายินดีต้อนรับแต่ถ้าจะมาสืบให้อีกคนหรือเป็นอีกคนที่อยู่กลุ่มที่ทรยศปู่ เขารับรองว่าจะไม่ได้ออกจากที่นี่แน่นอน
“ผมคือคนวางระบบป้องกันนี้ และแกะรอยจนรู้ว่าคนที่เจาะอยู่นี่ เจ้าแฝดสองคนนั้นใช่ไหม”
“ครับ แต่คุณธานินยังไม่ตอบคำถามผมอีกข้อเลยนะครับ คุณฝ่ายไหน!” น้ำเสียงเริ่มกดต่ำลง
“ผมอยู่ฝ่ายเจ้าสัวมาตลอดครับ” น้ำเสียงที่หนักแน่นตอบกลับมา “งั้นผมขอถามว่าคุณไนน์กำลังทำอะไรอยู่ครับ”
“ผมกำลังหาเอกสารที่เชื่อมโยงเรื่องการฮวดประมูล การปลอมแปลงตัวเลขทางบัญชีของน้าเบญครับ” เขาหยุดและถอนหายใจก่อนที่จะถามเรื่องที่สงสัยเรื่องหนึ่ง ด้วยที่คุณธานินอยู่กับปู่มาตั้งแรกเริ่มแทบจะเรียกได้ว่าคนที่กุมความลับของเจ้าสัวได้เลย “คุณธานินครับปู่พอจะระแคะระคายเรื่องที่ผมตามสืบเรื่องของน้าเบญไหมครับ”
“ท่านทราบครับ และก่อนท่านจะเสียยังเปรยกับผมอยู่ว่าจะคุยกับคุณเบญและหาทางประนีประนอมระหว่างเราทั้งสองคนด้วย ท่านบอกผมตอนเย็นก่อนวันที่จะเสียครับ”
ไนน์กำมือแน่น กัดฟันด้วยความโกรธ เขาคิดว่าปู่คงคุยและทั้งคู่คงทะเลาะกันอย่างแน่นอนรวมการดูแลอาหารการกินผ่านน้าสาวเขาทั้งนั้น เขาไม่ใช่คนดีที่จะไม่คิดในแง่ร้าย “ผมว่าการตายของปู่น้าเบญอาจจะมีส่วนไม่มากก็น้อยเพราะคนที่อยู่กับปู่คนสุดท้ายคือเขา” เขาเลือกที่จะพูดแค่นี้ ยิ่งคิดยิ่งเจ็บใจ
“แต่คุณเบญคือลูกสาวแท้ๆ ของเจ้าสัวนะครับ ไม่มีทางทำแน่นอน” อดีตเลขาบอกเขาด้วยน้ำเสียงที่แผ่วเบา
“ถ้าคุณธานินไม่ช่วยหาหลักฐานก็อย่าขวางแล้วกัน ถ้าไม่เจอก็ดีถ้ามีหลักฐานแม้แต่นิดที่เขาคิดจะครอบครองด้วยวิธีสกปรกผมจะทำลายเขาแน่นอน” น้ำเสียงที่เจือปนความโกรธปะทุขึ้นมา
“ค้นที่บริษัทยังไงก็ไม่เจอหรอกครับ คนที่รอบคอบอย่างคุณเบญต้องเก็บหลักฐานไว้ที่ตัวเสมอ แล้วคนที่โตมาในบ้านหลังเดียวของคุณไนน์จะเก็บคนที่เกี่ยวข้องไว้ไหมครับ”
“...”
“ผมจะเจาะหาหลักฐานมาให้ครับ” อดีตเลขาแสยะยิ้มอย่างเหี้ยมเกรียม เป็นรอยยิ้มที่ไนน์ไม่เคยเห็นและไม่คิดว่าจะได้เห็นจากคนวัย68ปี “ใครเข้ามาในระบบของศิริกรุปได้ของฝากจากผมไปทุกคนครับ”
“...” เขาเลิกคิ้วอย่างสงสัยและคำเดียวที่โพล่งขึ้นมาในสมอง คอมพ์กู ไวรัส
“งั้นผมขอไปจัดการก่อนนะครับ ตอนนี้เวลาเราเหลือน้อยมาก ผมลืมแจ้งว่าพรุ่งนี้มีประชุมคณะกรรมการบริหารตอนบ่ายโมงครับ”
“ฮื่อ!!”
เขาและอดีตเลขาออกมาจากห้องหลังจากการพูดคุยกันจบ ชายสูงวัยลงไปนั่งที่เก้าอี้ข้างเด็กแฝด พร้อมกับสั่งให้เอาแล็บท็อปทั้งสองเครื่องมาให้เขาทำงาน สองหนุ่มส่งสายตามาถามเขา เขาตอบโดยการพยักหน้าบอกให้ยกให้ ไม่นานมือทั้งสองที่พวกเขาทั้งสี่ที่ไม่รวมหญิงสาวคนเดียวและฝาแฝดที่เห็นแต่ถือแฟ้ม พิมพ์เอกสารการประชุม รวมถึงใช้มือถือไอแพดตรวจดูงาน กำลังรัวนิ้วโดยใช้มือขวาหนึ่งเครื่องและซ้ายอีกเครื่องดวงตาที่มองผ่านแว่นสอดสายไปยังหน้าจอแต่ละเครื่อง
“...” ทุกคนมองด้วยสายตา โคตรเทพเลย
พวกเขาทั้งเจ็ดมารับรู้ทีหลังจากเจ้านายและบอสที่นั่งเฝ้าการทำงาน แอบซักถามประวัติของคุณธานิน เล่าให้ฟังคร่าวๆ ว่าปู่เขาไปต้องการคนที่สร้างระบบในบริษัท จึงเข้าไปประกาศในดาร์กเว็บ ด้วยตอนนั้นตัวเขาติดหนี้พนันบอลหลายแสน เจ้าสัวจัดการเข้ามาเคลียร์หนี้ให้แลกกับการที่ต้องเข้ามาทำงานเป็นเลขา คุณเลขาธานินบอกว่าตอนนั้นเขาเองก็ไม่เคยทำงานเลขา เรียนจบวิศวะคอมให้มาทำงานเลขาแต่คนที่จบมาสาขาในสมัยนั้นหางานอยากอยู่แล้ว สอนงานกันตบตีกันหลายตลบเหมือนกัน กว่าจะเป็นเลขาแบบทุกวันนี้เรียกว่ากระอักเลือด พอฟังเลขาธานินเล่าเขาพอจะเข้าใจต้องผ่านอะไรมาบ้าง และยังเล่าต่อว่าเจ้าสัวยังให้เขาสร้างระบบในแก่ศิริกิจวัชรโชติ และหาเพื่อนแฮกเกอร์เข้ามาทดสอบระบบอยู่เรื่อยๆ สุดท้ายอดีตเลขายังทิ้งท้ายว่าถ้าไม่มีเจ้าสัวชัชชีวิตเขาจะเป็นยังไง ที่มีทุกอย่างเป็นผู้เป็นคนได้ทำงานนี่ชอบโดยไม่ต้องหลบๆ ซ่อนๆ และสิ่งสุดท้ายที่เลขาธานินเฉลยคือ ไอ้ลูกหมาสองตัวคนนี้เป็นลูกศิษย์ที่แฝดเกามาฝากให้สอน
กลับมาปัจจุบัน
เสียงโวยวายจากคนที่โดยกล่าวหาดังลั่นห้องประชุม
“พวกแกสร้างหลักฐานมาเอาผิดฉัน เอกสารพวกนี้ฉันไม่เคยเห็นมาก่อน” เสียงถามที่อดกลั้นความโกรธอย่างหนัก เบญมั่นใจว่าเอกสารพวกนี้หล่นเก็บไว้ที่ห้องส่วนตัวไม่มีสำเนาที่ไหนและคนที่เกี่ยวข้องเธอจัดการไม่ให้มีโอกาสได้พูดอีกแล้ว
“ผมว่าให้ทางคุณตำรวจกับทีมทนายเป็นคนชี้แจงน่าจะดีกว่าผมนะครับ และผมว่าน้าน่าจะคุ้นกับเอกสารพวกนี้ดีกว่าผม” น้ำเสียงที่แข็งกระด้างตอบกลับ “คุณตำรวจเอาตัวไปได้ครับ”
“ไม่ต้องฉันเดินไปเองได้” หญิงสาวสะบัดตัวออกจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ ก่อนจะก้าวมาประชิดตัวเขา “แกคิดว่ามันจะจบแค่นี้เหรอ มันไม่ง่ายแบบนั้นเหรอไอ้ไนน์” น้ำเสียงเคียดแค้นที่พร้อมกับสายตาที่โกรธเกลียดส่งมายังหลานชายแบบไม่มีการปกปิด ก่อนเดินจากไปห้อง
ความเงียบสงบปกคลุมในห้อง ไนน์ไล่สายตามองไปยังคนภายในห้อง น้ำเสียงที่เรียบนิ่ง “ตอนนี้มีใครสงสัยในตัวผมหรือไม่” เขาเงียบรอฟังคำตอบ แต่ไร้เสียงตอบกลับมาเขาจึงพูดต่อ “ส่วนคนที่เกี่ยวข้องหมายศาลตามไปที่บ้านนะครับ กรุณารอรับด้วย ถ้าไม่มีอะไรผมขอปิดการประชุมของคณะกรรมการบริหารครับ”
หลังจากเรื่องราวจบลงมีคำสั่งจากกรรมการบริหารที่เหลือปลดน้าสาวเขาออกจากตำแหน่ง ส่วนเรื่องคดีเขาปล่อยให้ทางทีมทนายเป็นคนจัดการ ข่าวการฉ้อโกงรวมถึงการฮวดประมูลในโครงการต่างๆ ทางเจ้าหน้าที่รัฐได้ส่งคนเข้ามาตรวจสอบโครงสร้าง แต่โชคดีที่หลังจากตรวจเจอเรื่องที่หัวหินไนน์และทีมของ A.P.Tเข้าไปตรวจสอบโครงการอื่นและแก้ไขให้กลับมาตามแบบ
ช่วงแรกที่มีคดีความคนทั้งบ้านเขาไม่ยอมให้เขาห่างตาแม้แต่เสี้ยววินาที ส่วนคนรักเขาก็พลอยตามไปด้วยกับพี่ๆ เขาตอนนี้เข้ากันเป็นอย่างดี ผลัดกันมาเฝ้าเช้าคน เที่ยงคน เย็นคนไม่ใช่สิ มาทีคนหลายคนบ้างแล้วแต่ใครจะว่างมา มาทีเขาปล่อยให้ตบตีถกเถียงกันไปบ้าง ความจริงแล้วไนน์พอจะมองพวกพี่และคนรักเขาออกที่พยายามดีด้วยกันเพราะอยากที่ช่วยตัวเขาคลายความคิดถึงปู่ เพราะในตึกนี้มันเต็มไปด้วยความทรงจำที่เขาเห็นปู่ในนี้ตั้งแต่เด็ก การที่พวกนั้นมามันช่วยได้เยอะเหมือนกัน
จากวันนั้นผ่านมาสามเดือน ช่วงเดือนแรกเขาต้องพาตัวเองไปอยู่ในแสงไฟเพื่อตอบคำถามเรื่องราวต่างๆ และสร้างความมั่นใจเกี่ยวธุรกิจในเครือทั้งหมด ราคาหุ้นที่ร่วงลงไปค่อยๆ ถีบตัวขึ้นมาแม้จะยังไม่เท่าเพดานบนแต่ก็ยังทำกำไรอยู่ ไนน์ต้องพาตัวเองไปยังศาลเพื่อฟังคดีที่ต้องต่อสู้กันอีกนาน
เช้าวันจันทร์ในการทำงานที่เร่งรีบของหลายคน การจราจรของเมืองหลวงที่หนาแน่นตั้งแต่เริ่มออกจากคอนโด ไนน์ยังคงไม่กลับไปนอนที่บ้านใหญ่เลยตั้งแต่ปู่เขาจากไป ไม่ว่าเจ้านายหรือลูกจ้างทั่วไปหลีกหนีการติดแหง็กอยู่บนถนนในยามเช้าแบบนี้ได้อยาก คนที่ขี้รำคาญอย่างเขานั่งฝันถึงการขับบิ๊กไบท์มาทำงานแทนการนั่งรถแบบนี้
“พ้นแยกนี้ถึงสักทีนะ เบื่อชิบ...” เขายังไม่ทันโปรยกับตัวเองจบ
โครม!!!! แรงกระแทกอย่างหนักที่ด้านข้างฝั่งที่เขานั่ง ถุงลมนิรภัยไม่ได้ทำงานเพราะไม่ได้เกิดจากการชนด้านหน้า โครงสร้างรถที่แข็งแรงขนาดไหนก็ทนแรงของรถบรรทุกหกล้อที่ใส่แรงมาเต็มพิกัด แรงกระแทกรถพลิกคว่ำ แล้วลากรถเขาไปไกลพร้อมกับสะเก็ตหลายร้อยเมตร สภาพรถบุบไปครึ่งคัน หนักสุดคือฝั่งคนขับ
เสียงวิ้ง...ดังมาจากโสตประสาทหู ความเจ็บที่บ่าเกิดจากแรงกระชากของเข็มขัดนิรภัย ความปวดแปล๊บตามช่วงท้องเขาไม่แน่ใจว่าช่วงด้านข้างมีกระดูกร้าวหรือไม่ แค่รู้สึกว่าพอขยับตัวมันปวดร้าวไปหมด ไนน์ได้ยินเสียงดังมาจากเบาะด้านหน้าฝั่งด้านซ้าย เขาได้ครางรับ
“อือ...” เขายกมือกุมที่ขมับที่ตอนได้รับบาดเจ็บจากการกระแทกเข้าที่ประตู
“คุณไนน์ คุณไนน์เป็นไงมั่งครับ” เสียงเรียกของคีน
“พอได้อยู่ บายล่ะ”
“พี่บาย บาย บาย ไอ้พี่บาย” คีนพยายามเขย่าตัวของยายที่อยู่ตรงส่วนคนขับรถ แต่ไร้เสียงการโต้ตอบ
เสียงไซเรนดังเข้าใกล้ เขาทั้งสองเดาว่าคงมีใจดีเรียกรถพยาบาลมาให้ เอี๊ยด...เสียงรถที่เข้ามาจอดรถด้านข้าง กลุ่มคนใส่ชุดเจ้าหน้าที่ทางการแพทย์ลงมาพร้อมกับกระชากประตูฝั่งทางเขาให้เปิดออก พวกนั้นออกแรงยกเขาลงจากรถไปยังรถฉุกเฉิน ปิดประตูและขับรถออกมาเลย โดยไม่สนใจคนเจ็บอีกสองคน
“เฮ้ย! คนเจ็บอีกสองคนล่ะ” เขาร้องถามขณะที่ตัวเขาโดยล็อกยึดติดกับเปลพยาบาลทุกอย่างมันเกิดขึ้นอย่างเร็ว
“กูไม่ได้พามึงไปหาหมอหรอก” สิ้นเสียงจากหนึ่งในคนชุดขาว เขารับรู้ว่านี่ไม่ใช่การช่วยเหลือและอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นคือความจงใจให้มันเกิด
หนึ่งในนั้นหยิบโทรศัพท์โทรออกไป “ผมได้ตัวมาแล้วครับ” “ครับยังไม่ตาย แขนขาไม่หัก” “ครับผมจะจัดให้ครับ”
หลังจากวางสาย หมัดหนักเข้ามาที่หน้าและตามอีกหลายหมัดจนสติของเขาดับสิ้น
Tbc...
---------------------------------------------------------------
ฝ่าฟันมาถึงตอนที่22แล้วนะคะ ขอบคุณรี้ดที่เข้ามาอ่าน เรื่องราวของไนน์ใกล้จะเลวร้ายขึ้นเรื่อยๆ ฝากให้กำลังน้องไนน์ของพี่ซันและไรท์ด้วยนะคะ สำนวนจะไม่ค่อยสวยสมูท เจอคำผิดทักได้เลยนะนะ
ฝากติดตาม ที่ TW @TYokmanee