16 ตอน Chapter 15
โดย T.mines
Chapter 15
Number nine My Sun
หมายเลขเก้าของดวงตะวัน
#IXMYSUN
ผ่านได้สัปดาห์กว่าๆ หลังจากมีเรื่องให้งอนง้อระหว่างพวกเขาทั้งสอง ความสัมพันธ์กลับมาดีเหมือนดังเดิม แต่กว่าจะคุยกันลงตัว คนพี่บอกว่าจะให้แก้เรื่องเข้าใจผิด จะประกาศเรื่องที่เขากำลังตามจีบเขาอยู่ เขาห้ามทันที ตามมาด้วยคนพี่งอนทันที เขาเพิ่งได้รับการรายงานจากเจ้าตัวว่าหญิงสาวคนดังกล่าวเข้ามาหาและตอนนี้กำลังหาทางหนีที่ไล่ ยังได้รับข่าวอีกว่าน้องสาวที่ชื่อเจ้าจันทร์จะเข้ามาฝึกงานและยินดีจะคอยช่วยกันออกไปให้ เขาเลยนั่งนึกถึงเรื่องที่เขาสองคนเกือบจะทะเลาะกัน
หลังจากใจอ่อนยอมคุยกับคนที่ยืนตากฝนรอง้อเขา เขาพาคนที่ตัวเปียกปอนเหมือนหมาโกลเด้นไปเล่นน้ำมาขึ้นรถ ส่งผ้าให้เช็ดหัว แต่ไม่ยอมทำเอาแต่ก้มหน้าราวกับทำผิดใหญ่หลวง พอมาถึงห้องเขาไล่ไปอาบน้ำแต่ยังมิวายจะเคลียร์ก่อน ไม่ดูสภาพตัวเองเลย เขาจัดการลากคนตัวเปียกไปยัดห้องน้ำพร้อมกับบอกว่าไม่อาบไม่คุย ส่วนตัวเขาหนีไปอาบน้ำชั้นบน
“พี่จะพาเราไปคุยกับวีว่าและขอให้วีว่าเลิกทำแบบนี้สักที” น้ำเสียงที่จริงจังและสีหน้าที่เบื่อหน้ากับการกระทำของหญิงสาวคนตั้งแต่ก่อนหน้านี้ แต่ด้วยที่เขายังไม่ได้คบกับใครปล่อยผ่านไป แต่ตอนนี้เขามีคนรักที่นั่งอยู่ตรงหน้าแล้ว ย่อมไม่ดีต่อความรู้สึกของคนรักอย่างแน่นอน “พี่จะประกาศให้รู้ด้วยว่าพี่มีเราแล้ว”
“แค่ไปคุยกับเธอให้เข้าใจก็พอแล้วครับ ถ้าพี่ซันไปทำประกาศแบบนั้นไปอีกเธอจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน”
“ทำไมห้ามด้วยครับ สรุปแล้วเราไม่ใช่แฟนกันเหรอ” คุณแฟนสามขวบโพล่งมาแล้ว เขาอยากจะจับมาเขย่า คนอย่างเขาต้องมานั่งอธิบายเหตุผลให้ฟัง อืม...คนนี้คือข้อยกเว้นหลายเรื่องตลอด
“ฟังนะครับ วีว่าไม่ได้บอกว่าพี่คือคู่หมั้น แค่ทำให้คนอื่นเข้าใจไปเอง ที่ไม่ให้บอกว่าเรากำลังคบกันอยู่ก็คือไนน์ขี้เกียจตอบคำถาม แล้วเราคบกันทำไมต้องประกาศให้รู้กันทั่วล่ะ” เขาถามด้วยน้ำเสียงทุ้มเบา
“ต้องประกาศสิ คนจะเข้ามายุ่งกับเราเยอะจะตาย ไอ้ผู้หมวดนั่นคนหนึ่งแหละ นี่ยังไม่รวมคนที่มองเราตลอดเวลาไปไหนด้วยกัน” คนพูดน้ำเสียงไม่พอใจ
“แล้วคุณล่ะครับ ไม่มีเลยเน้อ ไหนจะว่าที่คู่หมั้นเอย” น้ำเสียงกดต่ำประชดประชันใส่
“นั่นแหละถึงต้องประกาศออกไปไง ทุกคนจะได้รู้ว่าพี่มีเจ้าของแล้วรวมถึงเราด้วย” ชายหนุ่มนั่งหน้ามุ้ยไม่พอใจอย่างมาก ไนน์เริ่มงงแหละว่าสรุปใครควรจะงอนมากกว่ากัน
ไนน์นวดหน้าผาก “ตามใจแล้วกันครับ”
“เยส!!” คำอนุญาตจากแฟนหนุ่ม ซันยกมือกำปั้นทำท่าดีใจ คล้อยไปสักพักหันหน้ามาอ้อนคน “คืนนี้พี่นอนด้วยนะครับ”
“ครับนอนได้” หันไปเห็นจังหวะที่คนพี่เลียปากแววตาเป็นประกาย “นอนที่แปลว่านอนอย่างเดียว นอนแบบหมอนข้างกั้นด้วยครับ”
“โอ้ไม่.......” เสียงร้องโอดครวญของคนตัวโต
ยามเย็นในวังเก่าหลังใหญ่ติดริมแม่น้ำ แม้จะผ่านมานานับเกือบร้อยปี วังหลังนี้ยังไม่ได้ดูทรุดโทรมหรือเก่า ด้วยการดูแลเอาใจใส่จากลูกหลานรุ่นต่อรุ่นที่ยังคงสถาปัตยกรรมเก่าเอาไว้แถมยังสอดแทรกเอากลิ่นอายการตกแต่งของยุคใหม่เข้ามาได้อย่างลงตัว
เขาก้าวเข้ามาในรั้วนี้ครั้งสุดท้ายกี่ขวบแล้วจำไม่ได้ เพียงแค่รู้ว่ามันนานมากแล้ว เพียงแค่จำได้ว่ามันคุ้นตาเท่านั้น เขาได้รับเชิญจากเจ้าของบ้านให้มารับประทานอาหารเย็น ทำไงได้เมื่อผู้ใหญ่เชื้อเชิญมาต้องไป พอลงจากรถคนที่ทำหน้าที่มาต้อนรับคงไม่พ้นหมวดอาทิตย์ที่ยิ้มกว้างต้อนรับอย่างดีใจ
เขายกมือไหว้ผู้ที่มีอายุมากกว่า “สวัสดีครับหมวดอาทิตย์”
“ครับ ป่ะเข้าบ้านกันทุกคนรอเราอยู่” ผู้หมวดหนุ่มก้าวเดินเข้าไปหาพร้อมกับมือที่เตะเข้าที่หลังพาเดินไปยังข้างในของบ้าน
ด้วยความที่เขาไม่ค่อยจะเข้าสังคมหรือไปมาหาสู่ใครในทางธุรกิจ ถ้าไปกินข้าวบ้านคนอื่นมักจะแค่เพื่อนสนิทและไปแต่ละครั้งก็ไม่ได้ไปเพียงคนเดียวแบบนี้ กลุ่มเขามักจะวนเวียนไปบ้านเพื่อนพร้อมกัน ส่วนเวลาที่เหลือคลุกตัวอยู่ที่คอนโดมากกว่า
“ทุกคนครับ น้องมาแล้วครับ”
ไนน์หยุดยืนกลางห้องรับแขกที่มีกลุ่มคนนั่งรออยู่สามคนตรงชุดโซฟา และยังมีคนรับใช้ยืนอยู่ที่มุมห้องอีกสองคน
“น้องไนน์ครับ นี่พ่อกับแม่ของพี่ แล้วก็คุณย่าพี่เราคงจำได้อยู่แล้วใช่ไหมครับ”
เขายกยิ้มให้แก่คนที่นั่งอยู่ “จำได้อยู่แล้วครับ สวัสดีครับคุณหญิงนิรา สวัสดีครับคุณลุงกับคุณป้า” เขากล่าวทักทายและยกมือไหว้
“มานั่งกับนี่มา” แม่ของผู้หมวดเดินมาจูงมือเขาไปนั่งลงข้างตัว “เรียกลุงกับป้าได้ไงลูก เรียกว่าว่าพ่อกับแม่สิ”
“...” ไนน์กำลังคิดว่าจะตอบยังไงดี
คุณหญิงของบ้านก็พูดขึ้นมาอีกคน “อย่างย่าต้องเรียกว่าย่าสิ จะมาคุณยงคุณหญิงเรียกซะห่างเหินเลย เราเหมือนลูกเหมือนหลานคนหนึ่งนะ”
“ครับ”
“นี่เย็นมากแล้ว ย่าว่าไปทานข้าวกันดีกว่า”
“ป่ะลูกป่ะ” หญิงสาวลุกและจูงมือของเขาเดินไปยังห้องรับประทานอาหาร
“ครับ” เขาได้แค่ตอบรับและเดินตามไป
หลังจากที่โดนพวกพี่ชายของไนน์เล่นมากครั้งที่พาไปกินข้าวที่โรงแรม อาทิตย์จึงเปลี่ยนแผนให้คุณย่าเป็นคนเชิญน้องมาทาข้าวที่บ้านแทน เพื่อกำจัดอุปสรรคที่มากวนใจ รวมถึงนี่คือถิ่นของเขามีผู้หลักผู้ใหญ่อยู่คอยช่วยอีกแรก
“ไนน์ลูกวันนี้ย่าให้เขาทำอาหารทางใต้มาขึ้นโต๊ะ เราทานเผ็ดได้ไหม” คุณหญิงนิราพูดพลางขยับจานกับข้าวให้อยู่ตรงหน้าร่างโปร่ง ซึ่งตนนี้เขานั่งอยู่ใกล้สุดถัดมาคือผู้หมวด ส่วนฝั่งตรงข้ามคือพ่อและแม่ของอีกฝ่าย
“ทานได้ครับ ผมลงใต้เที่ยวทะเลอยู่บ้าง ทานได้หมดครับ” เขาตอบ
อาหารขึ้นโต๊ะวันนี้เป็นอาหารที่เรียบง่าย ประกอบด้วยแกงส้มกุ้งใส่ออดิบ* ปลาแดงทอดขมิ้น ผัดหมูหวาน แกงคั่วกระดูกหมู ต้มจืดปลาหมึกยัดไส้ ผัดผักรวม และทอดมันปลากราย อาหารที่หลากหลาย (*พืชใบเดี่ยว อยู่ในตระกูลเดียวกับบอน)
“งั้นไนน์ทานให้เยอะนะลูก” เสียงจากชายวัยกลางคนที่นั่งเงียบมานาน
“ครับ อาหารแต่ละอย่างน่าทานทั้งนั้นเลยครับ” เขายิ้มตอบรับกลับพ่อของผู้หมวด
ท่าน ผบ.ตร ภาค 5 นิรันดร์ บิดาของชายหนุ่มที่นั่งข้างเขา ถามว่าเส้นสายใหญ่ขนาดไหน บอกได้เลยว่าใหญ่ทั่วประเทศ ใครมองว่าหากได้เกี่ยวดองกับคนบ้านการดำเนินงานทางธุรกิจได้ง่ายขึ้นเยอะ
“รอยยิ้มแบบนี้เองนะที่เจ้าอาทิตย์มันเพ้อให้พ่อกับแม่ฟังบ่อย จริงไหมคุณ” ผู้เป็นสามีหันไปถามภรรยา
“ใช่ค่ะคุณ รอยยิ้มที่มีเสน่ห์ใครเห็นก็ต้องหลงอยู่แล้ว ขนาดคุณที่ไม่ค่อยชมใครแม้แต่กับฉันก็เถอะยังอดชมไม่ได้เลย” น้ำเสียงท้ายๆ จะออกไปทางค่อนขอดสามี
“โถคุณ! นายตำรวจอย่างผมเลือกที่ใช้การกระทำให้เห็นมากกว่า” มือหนาของผู้เป็นสามีเอื้อมไปกอบกุมมือของภรรยาที่ยังคงความสวยอยู่ อย่างคุณหญิงทอแสง
“หยุดเลยครับคุณทั้งสอง” เสียงดังมาจากลูกชายที่นั่งฝั่งตรงข้าม “หยุดจีบกันครับ ตอนนี้คนที่ตอนจีบกันคือผมกับน้อง จริงไหมครับน้องไหน” เขาหันไปถามคนที่นั่งข้างตัวอย่างไนน์
“...” ไนน์ยิ้มบอกกลับเล็กน้อย
หลังจากพูดคุยกันพอเป็นพิธีต่างพากันลงมือรับประทาน หลานชายของบ้านคอยแต่ตัดจานนั้นจานนี้ใช้เขาชิม บรรยากาศแบบเป็นกันเอง พูดคุยกันอย่างสนุกสนานแต่มีเพียงเขาที่รู้สึกอึดอัดที่ทางบ้านนั้นช่วยกันชงเขากับผู้หมวดต่างๆ นานา
โทรศัพท์ที่สั่นอยู่ในกางเกงช่วยชีวิตให้หนีจากตรงนี้ เขาหยิบขึ้นมาดูคนที่โทรมาคือเลขาคนสนิทที่เพิ่งแยกจากกันตอนเลิกงาน หากไม่มีเรื่องที่สำคัญมา หลังเลิกงานเลขาเขามักจะโทรสั่งงานพาคีนแทน คิ้วขมวดเข้าหากันทันที
“ผมของตัวสักครู่นะครับ เลขาผมโทรมาท่าทางจะมีเรื่องด่วน” เขาบอกกล่าวและลุกออกจากกินข้าวเดินออกมาข้างนอก
“ครับคุณธี”
(คุณไนน์ครับ ทางเราได้รับแจ้งว่าเกิดเหตุไฟไหม้ที่โรงแรมสาขาหัวหินครับ) เลขาคนสนิทรีบแจ้งข่าวให้ทราบ
“คุณปู่ทราบเรื่องยัง”
(ทราบแล้วครับ ผมได้รับแจ้งจากคุณธานินอีกทีครับ)
“...”
(เกิดขึ้นระหว่างการจัดเลี้ยงงานแต่ง ตอนนี้ควบคุมเหตุการณ์ได้เรียบร้อยแล้วครับ ไม่มีผู้เสียชีวิต ส่วนผู้รับบาดเจ็บเราส่งตัวไปที่โรงพยาบาลเรียบร้อยแล้วครับ)
“พรุ่งนี้ผมมีงานอะไรครับ”
(มีประชุมช่วงบ่ายอย่างเดียวครับ)
“แจ้งยกเลิกไปครับ และฝากคุณธีจัดการทางนี้ให้เรียบร้อยค่อยตามผมไปที่หัวหิน ประสานกับทางนู้ให้ทีว่าผมกำลังจะไปครับ”
(ได้ครับคุณไนน์ งั้นผมจะแจ้งทีมบอดี้การ์ดให้เตรียมตัว จะออกไปกี่โมงครับ)
“เอาไปแค่นี้พอแล้วครับ เดี๋ยวจะได้ออกไปเลย แล้วพรุ่งนี้เจอกันครับคุณธี”
หลังจากวางสายเขาต่อสายหาปู่ รอสายอยู่ไม่นานปู่เขาก็รับสาย
(ได้ข่าวแล้วใช่ไหม) ถามด้วยน้ำเสียงที่ดูปกติและแน่ใจว่าคนของเขาคงโทรไปแจ้งเรื่องนี้กับหลานชายแล้ว
“ครับ ทราบเรื่องแล้ว”
“ปู่กำลังจะไปดูโรงแรมที่หัวหินเราไปกับปู่ไหม”
“ปู่ไม่ต้องไปครับ เรื่องนี้ไนน์ขอจัดการเองนะครับ”
(หือ... จะจัดการเองเหรอ?)
(ก็ดีเหมือนกัน ปู่ว่าเรื่องนี้ไนน์จัดการได้สบาย จะได้ตอกหน้าไอ้พวกถือหุ้นว่าเรามีความสามารถแค่ไหน)
“ครับ ผมจะจัดการให้เรียบร้อยไม่ต้องห่วงนะครับ”
เขาเดินกลับไปยังห้องที่เพิ่งออกมาเมื่อกี้ การรับประทานอาหารวันนี้คงต้องจบแค่นี้แล้วแหละ เขาเดินกลับไปนั่งที่เก้าอี้ตัวเดิมก่อนจะเอ่ยปากพูด “ผมขอโทษด้วยนะครับที่เสียมารยาท พอดีที่สาขาที่หัวหินเกิดเรื่องครับ” เขาหันไปตอบกับคนที่นั่งอยู่ตรงหัวโต๊ะด้วยน้ำเสียงรู้สึกผิด
“เกิดอะไรขึ้นลูก? มีอะไรเหรอดูสีหน้าไม่ดีเลย?” น้ำเสียงที่ถามด้วยความห่วงใย มือหนาจะคนที่นั่งข้างมวางไว้บนบ่า
“พอดีโรงแรมที่หัวหินเกิดไฟไหม้ เลขาเลยโทรมาแจ้ง” เขาตอบ
เขากำลังจะพูดต่อเรื่องขอตัว ชายวัยกลางคนพูดออกมาทันที “นี่ไงครับข่าวโรงแรมที่หัวหินไฟไหม้ครับคุณแม่” ชายวัยกลางคนบอกกล่าวคุณหญิงที่นั่งหัวโต๊ะพลางยื่นโทรศัพท์ให้ดู
“ตายแล้ว!” หญิงชราเอามือจับที่หน้าอก “ไม่มีใครเป็นอะไรใช่ไหม แล้วเราจะต้องไปดูหรือเปล่า?” น้ำเสียงถามด้วยความกังวลและเป็นห่วง
“ว่าไงครับน้องไนน์ เราต้องไปที่หัวหินหรือเปล่า?” ผู้หมวดเอียงหน้ามาถาม
“ครับ ผมต้องไปดูด้วยตัวเอง ตอนนี้ผมต้องทำงานแทนปู่ให้มากที่สุดครับ”
“งั้นพี่ขอไปด้วย พี่ไม่อยากให้เราไปคนเดียว มันอันตราย” น้ำเสียงแวะแววตาที่เป็นห่วงแสดงออกมาอย่างเห็นได้ชัด
“ให้พี่เขาไปด้วยแหละ กว่าจะไปถึงก็ดึกดื่นแถมเราเพิ่งโดนดักทำร้ายมาก่อนหน้านั้นด้วย ลุงว่าให้เจ้าอาทิตย์ไปอีกคน มันจะได้สบายใจด้วย” พ่อของหมวดหนุ่มพูด
“พาพี่เขาไปด้วย ยังไงพี่เราก็แอบตามไปอยู่ดีแหละ จริงไหมเรา” คนแม่ยิ่งเสริมมาด้วยอีกคน
“งั้นก็ได้ครับ” เขาตอบตกลงไป ขืนไม่ยอมให้ตามไปน่าจะรบเร้านานกว่านี้
“ผมสองคนของตัวเลยนะครับ”
ระหว่างนั่งรถยนต์ไปหัวหินเขาขึ้นรถมากับผู้หมวดโดยให้คีนขับมาแทน การ์ดที่เหลือค่อยขับรถตามมา เขาฟังรายงานการเกิดอุบัติเหตุคร่าวๆ จากปากเลขาผ่านทางโทรศัพท์ เพราะช่วงเช้าเลขาคนเก่งต้องเข้าจัดงานเอกสารที่ค้างไว้เมื่อวานตอนเย็นและจะตามไปทันที
“เหตุไฟไหม้เป็นอุบัติเหตุทำแอลกอฮอล์ก้อนตกใส่พรหมตอนกำลังยกหม้อไฟไปเสิร์ฟครับ ไฟเกิดลุกไหม้ครับ แต่พนักงานเราที่ผ่านการอบรมเรื่องการดับเพลิง มีสติและช่วยกันลากถังดับเพลิงมาดับไฟจึงไม่ลุกลามครับ ส่วนรายงานการบาดเจ็บมีแค่แขกที่สำลักควัน และเป็นลมเพราะตกใจ ทางเราได้ประสานรถพยาบาลมารับผู้ป่วยไปแล้วครับ” เลขารายงานรวดเดียวจบ
“เรื่องค่าใช้จ่ายของผู้ป่วยทางเราจัดการให้หมดเลยนะ”
“ครับผม”
“รบกวนแจ้งทางสาขาหัวหินให้พนักงานที่ไปดับเพลิงอยู่รอพบผมก่อน และส่วนคนที่ก่อเรื่องก็ให้รออยู่ด้วย แต่ถ้าใครไม่ไหวหรือบาดเจ็บให้ไปตรวจที่โรงพยาบาลและกลับบ้านได้เลยไม่ต้องรอพบ เอาแค่คนที่สามารถอยู่ได้พอ”
“ครับ”
รถเลี้ยงเข้าทางด้านหน้าและจอดเทียบอยู่ด้านนอก ทางด้านหน้าโรงแรมวุ่นวายพอสมควรทั้งแขกที่ลงมารอบจากการอพยพระหว่างเกิดเหตุ และเจ้าหน้าที่ทางโรงแรมที่มาดูแลแขก และรถพยาบาลพร้อมเจ้าหน้าที่มาคอยสแตนด์บายรอผู้บาดเจ็บและผู้ป่วยเพิ่มเติม ส่วนผู้บาดเจ็บก่อนหน้านี้นำส่งโรงพยาบาลเรียบร้อยแล้ว
ผู้จัดการโรงแรมได้รับแจ้งจากรปภ.ที่คอยควบคุมอยู่ตรงทางเข้าออก รีบตรงมารับพวกเขาทันที ไนน์ให้แค่คีนกับบายตามไปส่วนคนคุ้มกันที่เหลือให้คอยช่วยดูแลคนอื่น
“สวัสดีครับ คุณทวิชากานต์ ผมนิรุจน์เป็นผู้จัดการสาขานี้ครับ เรื่องเกิดที่ห้องบอลลูม ชั้น 15ครับ ตอนนี้คนที่คุณทวิชากานต์ต้องการพบผมรออยู่ที่ห้องประชุมพนักงานที่ชั้นล่างแล้วครับ”
“ครับ นี่ผู้ติดตามของผม และนี่ผู้หมวดอาทิตย์จะมาคอยช่วยเหลือผมครับ” ไนน์ผายมือแนะนำคนของตัวเองให้ผู้จัดการรู้จัก ทั้งสองฝ่ายทำความรู้จักกันพอเป็นพิธี
“ท่านรองประธานจะให้ผมพาไปไหนก่อนครับ?”
“ตอนนี้แขกเข้าห้องพักได้แล้วหรือยังครับ”
“ทางเจ้าที่ดับเพลิงเข้าไปเคลียร์พื้นที่เรียบร้อยแล้วครับ ให้กลับเข้าไปทางด้านในได้แล้ว”
“อืม”
“แขกที่เข้าพักวันนี้มีกี่คน”
“ช่วงไม่ใช่ฤดูซีซันมีไม่มากครับ ประมาณหกสิบคน ยังไม่รวมกับแขกที่มาในงานแต่งอีกห้าร้อยกว่าคนครับ”
ไนน์หลับตาคำนวณค่าเสียหายคร่าวๆ เราจะไม่ยอมเสียฐานลูกค้าไปแม้เพียงแค่จำนวนหลับสิบ มันคือความเชื่อมั่นในตัวโรงแรมและชื่อเสียงในสาขาอื่นๆ อีก
“แจ้งทุกคนว่าทางเราจะให้พักฟรีจนจบทริปของแต่ละคน เป็นการขอโทษที่เกิดเรื่องขึ้น ส่วนแขกที่มาร่วมงานให้เขาแจ้งเรื่องที่ได้รับความเดือดร้อนมาจะได้จัดการไปตามสมควร”
“ครับผมจะจัดการให้ ผมขอตัวไปแจ้งเรื่องนี้กับแขกก่อนนะครับ”
“ไปจัดการเถอะ ผมและคนของผมจะขึ้นไปกันเอง คุณไปทำหน้าที่ของคุณให้เรียบร้อยแล้วค่อยตามไปที่ห้องประชุมแล้วกัน”
เขาพาตัวเองและคนสนิทรวมถึงแขกที่ขอติดตามมาด้วยไปพบพนักงานที่ห้องประชุม คีนเปิดประตูเสียงดังที่พูดคุยกันหยุดชะงัดและเงียบลงเมื่อที่คนแปลกหน้าเดินเข้ามา ชายหนุ่มที่ท่าทางดูดีทั้งสี่ หนึ่งสวมชุดสูทแบบนักธุรกิจ สองอยู่ในสูทสีดำตามหน้าที่บอดี้การ์ด และอีกหนึ่งที่ดูสบายสุดมาในเสื้อเชิ้ตคอจีนกับกางเกงสแล็คสีเทาแบบสบาย ไนน์ก้าวเดินไปนั่งที่เก้าอี้หัวโต๊ะ นั่งตรงตำแหน่งใครๆ ต่างพากันรับรู้โดยสัญชาตญาณว่านั่นแหละใหญ่ที่สุดในนี้ คีนและบายเลือกที่ยืนอยู่มุมห้อง ส่วนอาทิตย์ลากเก้าอี้ไปนั่งที่มุมด้านข้างเพื่อบอกว่าการประชุมนี้ไม่เกี่ยวกับเขาเพียงแค่มาร่วมด้วยเฉย
“ผมทวิชากานต์รองประธาน ศิริกิจวัชรโชติ กรุ๊ป ตอนนี้ผู้จัดการของพวกคุณกำลังจัดการเรื่องข้างนอกอยู่อีกสักพักคงตาม อย่างที่รู้ผมต้องการทราบรายละเอียดเกี่ยวกับเหตุที่เกิดขึ้น” เขาพูดเสียงเรียบธรรมดาพร้อมกับกวาดสายตาไปยังคนที่อยู่ภายในห้อง “ผมไม่ได้ต้องการจับผิดหรือหาคนที่ต้องรับผิดเรื่องนี้ คงไม่มีใครอยากให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น เพียงแค่ต้องการหาแนวทางป้องกันไม่ให้มันเกิดซ้ำอีกเท่านั้น”
มันหมายความตามที่เขาพูดและสิ่งที่หนีไม่พ้นคืออุบัติเหตุไฟไหม้ครั้งนี้เกิดจากความประมาทเลินเล่อของพนักงาน สิ่งที่พนักงานนั่นควรจะได้รับการตักเตือนปล่อยให้เป็นหน้าที่ของคนที่นี่แล้วกันเขาจะไม่ยุ่งเกี่ยวภายในองค์กร ส่วนเจ้านายอย่างเขาต้องป้องกันไม่เกิดความเสียหายหรือเสียหายน้อยที่สุด รวมถึงป้องกันสาขาอื่นๆ ด้วย
พนักงานที่อยู่เก้าอี้ไกลสุดค่อยๆ ยกมือขึ้น “ผ ผะ ผมเองครับที่เป็นคนทำถ้วยแอลกอฮอล์นั้นตก” เขาก้มหน้าพูดด้วยเสียงสั่นและค่อยๆ เงยหน้าขึ้นมาและกำลังจะพูดต่อโดนขัดจังหวะด้วยเสียงเคาะประตู ตามด้วยผู้จัดการและเลขาเดินเข้ามา
“...” พวกเขาโค้งตัวและหาที่นั่ง
“พูดต่อเลยครับ” เขายกยิ้มบางๆ ให้กำลังพนักงานคนนั้น
พนักงานสูดลมหายใจแล้วเริ่มพูดต่อ “ผมจุดแล้วมันจังหวะที่จะดันเข้าไปมันลวกมือผมเลยสะบัดแล้วมันก็ร่วงลงมาที่พื้นกลิ้ง ระหว่างที่กลิ้งไอ้ส่วนที่มันเยิ้มก็ลากไปตามพรหมแล้วไฟก็ลุกขึ้นครับ”
เมื่อมีคนหนึ่งเริ่มเล่าและก็จะตามมาอีกคนดังคาด
“แล้วพอไปเริ่มลากขึ้น พวกผมที่อยู่ใกล้เลยวิ่งไปเองถังดับเพลิงมาช่วยกันดับ และน้องๆ หญิงช่วยกันแขกออกไปทางประตู พอเสียงสัญญาไฟไหม้ดังพวกผู้ชายที่เหลือก็ลากถังมาช่วยดับเพิ่มครับ”
ไนน์เลิกคิ้วขึ้นอย่างสงสัย “พอดีผมยังไม่ได้ขึ้นไปข้างบนนะครับ พอจะนับได้ไหมว่าใช้กี่ถังดับไฟครับ?”
“ประมาณ7-8ถังได้ครับ แต่ก็ไม่รู้ว่ากี่ถังถึงจะดับนะครับ แบบว่าช่วยกันรุมดับพร้อมกัน”
“มีใครจะเสริมอะไรอีกไหม”
“คือผมจะโดนไล่ออกไหมครับ?” พนักงานคนเดิม
“ไม่ครับ แต่คงมีการว่ากล่าวตักเตือนไปตามกฎของทางที่นี่แหละครับ แต่เรื่องไล่ออกมาคงไม่มีถ้ามันเกิดความไม่ตั้งใจนะ” เขาตอบด้วยน้ำเสียงที่ทุ้มลึกและจริงใจ
“ขอบคุณครับ”
“งั้นถ้าไม่มีอะไรแล้ว ทุกคนกลับไปพักผ่อนได้ครับ ถ้าใครมีอาการไม่สบายเกิดขึ้นให้ไปหาหมอนะครับ ส่วนเรื่องที่ช่วงทางเราไว้ผมจะพิจารณาโบนัสปลายปีเป็นค่าตอบแทนครับ” เขาหวังว่าพนักงานจะมีรีแอ็คชั่นกับเรื่องโบนัส “มันนานไปเหรอครับ” คำตอบจากยิ้มแห้ง “ผมอยากทำให้มันเร็วกว่านี้ แต่ต้องส่งเรื่องไปพิจารณาหลายฝ่ายครับ แต่ผมรับรองว่าถ้าเห็นก้อนเงินแล้วพวกคุณต้องดีใจ”
พนักงานต่างพากันยิ้มออกและเดินออกไปจากห้องประชุม เขาหันไปสั่งว่าให้รวบรวมรายชื่อพนักงานที่ช่วยเหลือทางโรงแรมให้เขา และอย่าลืมส่งสรุปรายงานไฟไหม้รวมถึงค่าเสียหายทั้งหมดให้ด้วย เขาจะเอาไปวางแผนและเข้าที่ประชุมภายในสัปดาห์หน้า
“ถึงเวลาที่พวกเราต้องไปดูที่เกิดเหตุล่ะ ไปกัน” ไนน์พยักหน้าชวนคนที่อยู่ในห้อง
ตอนนี้ทุกอย่างกลับมาใช้ได้ปกติรวมถึงลิฟต์ที่ห้ามใช้ตอนไฟไหม้ ในส่วนที่เป็นชั้นจัดงานกั้นไว้ไม่ให้บุคคลที่ไม่เกี่ยวข้องเข้ามา รวมถึงลิฟต์จะไม่เปิดที่ชั้นนี้ด้วย จำเป็นต้องใช้คีย์การ์ดของผู้จัดการแตะถึงจะเปิดได้ ประตูเปิดออกผู้จัดการเดินออกไปก่อนและเดินนำออกไป
เขาพยักหน้าและผายมือ “เชิญทางนี้เลยครับ”
พนักงานพาเข้าเดินมายังหน้าห้องจัดงานที่มีเทปแถบสีแดงดำกั้นเอาไว้ เขายกขึ้นและเดินลอดเข้ามา ดอกไม้แบล็กดรอปสำหรับถ่ายภาพสำหรับแขกและบ่าวสาวยังคงสภาพสวยงาม ช่างน่าเสียดายไม่ควรเกิดเรื่องแบบนี้ในวันงานสำคัญของทั้งคู่ สภาพห้องจัดเลี้ยงงานแต่งที่ดอกไม้พังกระจัดกระจาย ประตูเกิดกว้างระบายกลิ่น
เขาเดินเข้าไปภายในห้อง คีนหยิบมาปิดจมูกมาส่งให้ทุกคนสวมใส่ ร่างโปร่งกวาดสายตาไปรอบ ก่อนจะไปหยุดตรงที่เกิดลุกไหม้ปกคลุมด้วยผงสายเคมีสีขาวจากถังดับเพลิงที่กระจายไปทั่วพรม ไฟไหม้กระจายเป็นวงกว้างมาก เขาต้องขอบคุณพนักงานที่ช่วยกันดับไฟอย่างดี สภาพถังดับเพลิงที่นอนวางอยู่กระจายอยู่หลายถัง เขาพอจะจำได้ว่า ภายในห้องนี้น่าจะมีอยู่ประมาณสามถัง นี่พนักงานคงวิ่งไปหากันมาเพิ่มจากชั้นอื่น เขามองดูรอบๆ และกดถ่ายรูปไปทุกจุด
“พี่ว่ามันแปลกนะ เราคิดเหมือนพี่ไหมไนน์” หมวดอาทิตย์เดินเข้ามาถาม พร้อมกับกวาดสายตามองดูซากกองเพลิง
“ครับ จำที่พนักงานบอกว่ามีสัญญาณไฟไหม้ดัง ตอนแรกผมคิดว่ามีแค่ smoke detector* (*เครื่องตรวจจับควัน) แต่มี sprinkler** ด้วย (**หัวกระจายน้ำไว้สำหรับเหตุไฟไหม้)”
เขาทั้งสองเงยหน้าขึ้นไปมอง “พี่ว่าไฟวงกว้างขนาดนี้น่าจะร้อนอยู่นะ”
ไนน์พยักหน้าเห็นด้วย “ผมก็ว่าอย่างนั้นครับ เก็บไว้เป็นหนึ่งในข้อสงสัย”
“อืม...คงต้องเปลี่ยนเป็นพรหมกันไฟล่ะมั่งเนี่ย” เขาใช้ปากกาที่แหนบมาจิ้มลงไปที่พรหมที่ไหม้ๆ “รวมถึงไอ้อุปกรณ์งี่เง่านี่ด้วย ไม่รู้จักใช้อะไรที่มันทันสมัยเลย” เขาจิ้มลงไปที่ถ้วยต้นเหตุที่ทำไฟไหม้ เขาจะเสนอให้ใช้เตาแก๊สพกพาที่แบบใช้แก๊สกระป๋องแทนทั้งหมด
เขาตัดสินใจเข้าพักที่โรงแรมในคืนนี้กำลังจะหันไปถามอีกคนที่ตามมาด้วย ผู้หมวดหนุ่มกับคุยโทรศัพท์ด้วยสีหน้าที่เคร่งเครียดอย่างหนัก เสียงตะโกนด่าทอกันอยู่มิใช่น้อย พอรู้ตัวว่ามีคนกำลังมองอยู่ ผู้หมวดเลือกกดวางสายไปและก้าวขายาวๆ เดินเข้ามาหาร่างโปร่ง
“มีอะไรหรือเปล่าครับ?” ไนน์ถามด้วยความสงสัย
“ครับ พี่ให้ลูกน้องไปตามเรื่องคดีของเรา...”
“สืบต่อไม่ได้ใช่ไหมครับ คนร้ายโดนเก็บหมด” ยังที่ผู้หมวดไปทันทีจะพูดจบประโยคเป็นไนน์เองที่โพล่งพูดต่อจนจบ
“ทางศิริกิจวัชรโชติก็ตามสืบด้วยเหรอครับ? ก็น่าจะเป็นแบบนั้นอยู่แล้วนะครับเล่นกับคนที่หวงกันทั้งบ้าน” อาทิตย์ยกยิ้มด้วยความลืมตัวเพราะมันเขี้ยวยกมือยีหัวคนตรงหน้าอย่างลืมตัว
“...”
“รูปคดีเพิ่งสรุปออกมาเอง แต่คนของเราเก่งกว่าตำรวจไทยอีกนะครับ”
“ว่าไม่ได้หรอกครับ งานของพวกเรานี่” ไนน์ไหวไหล่ “ผมกำลังจะถามหมวดว่าจะนอนค้างด้วยกันไหม”
“หื้อ...ชวนแบบนี้มีคิดนะ” ชายหนุ่มยกยิ้มกรุ้มกริ่มให้คนที่ถาม
“เฮ้ย!” เสียงถอนหายใจอย่างเอือมระอาส่งมาทันที
อาทิตย์หัวเราะ “โอเคครับ” เขายกมือทำท่ายอมแพ้เมื่อไนน์ตวัดสายตามาใส่ “น้องไนน์รู้อยู่ว่าพี่คิดยังไงกับเราแถมมาพูดให้ชวนคิดอีก ไว้คราวหน้านะ พอดีลูกน้องโทรมาเรื่องคดีที่พี่ดูแลอยู่จับคนร้ายได้แล้ว พี่ต้องกลับไปสอบปากคำครับ” เขาตอบด้วยน้ำเสียงที่ดูเบื่อหน่าย เขาน่ะอยากอยู่ตรงนี้มากกว่า แต่หน้าที่ก็ต้องมาก่อนอย่างอื่น
“งั้นผมเดินไปส่งที่รถแล้วกันครับ”
มาถึงที่รถผู้หมวดยืนเอาตัวเองพิงรถไว้ หากมีใครผ่านมาคงต้องเหลียวกันคอแทบเคล็ดแหละ ยืนพิงรถยังไงให้เหมือนถ่ายแบบห๊ะ ยืนมองหน้ากันอยู่มา จนไนน์ยกมือกอดอกกดดันอีกแรง
“พี่ไม่อยากกลับเลย ยืนให้พี่มองหน้าอีกสักห้านาทีได้ไหมครับ” อาทิตย์ออดอ้อนคนตรงหน้า
ไนน์กลอกตาเป็นกิ้งก่า “ไปได้แล้วครับ แล้วขับรถระวังด้วยนะครับ เอะ!” เขาร้องอุทานเบา “ตรงคิ้วหมวดมีรอยเปื้อนครับ” ขายังไม่ทันชี้บอกตำแหน่งรอยให้อีกคน รีบเอามือมาถือตรงหัวนิ้วอีกข้างทันที
“ตรงไหนครับ ออกมาหมดยัง” ผู้หมวดหนุ่มรีบกำจัดรอยอย่างรวดเร็ว เขากลัวจะดูไม่หล่อในสายตา
“พรืด! ฮ่า ฮ่า” ไนน์หลุดเสียงหัวเราะออกมา “เหมือนโชกุนเลย” และเขาชี้ไปที่หน้าของคนที่มีรอยเปื้อนตรงหัวคิ้วทั้งสองข้างเหมือนตัวละครในการ์ตูนญี่ปุ่น
อาทิตย์ยิ้มตามไนน์ เวลาไนน์ยิ้มหรือหัวเราะมักจะทำให้คนรอบข้างยิ้มตามได้เสมอ “ไนน์เหมาะกับรอยยิ้มและเสียงหัวเราะมากเลยนะ”
“อ่ะแฮ่ม!” เขากระแอมกลบอาการ “ผมเช็ดให้ดีกว่าครับ”
“ขอบคุณครับ”
ด้วยความที่ตัวเตี้ยกว่า ไนน์เงยหน้าเช็ดคราบที่เปื้อนให้ ด้วยที่มันค่อนข้างหนาและสีดำ ร่างโปร่งให้เวลาเช็ดอยู่นาน โดยลืมสังเกตถึงความใกล้ชิดที่เกิดขึ้น ผู้หมวดหนุ่มผิวแทนมองคนที่อยู่ระยะประชิด ห่างกันเพียงแค่ไม่กี่เซน ริมฝีปากที่อวบอิ่มขบเม้มเช็ดอย่างตั้งใจ เขาอยากประกบสิ่งเดียวเข้าไปอย่างมาก
“อ้า! เช็ดเสร็จแล้วครับ อื้อ”
ชายหนุ่มผิวสีแทนอดใจไม่ไหว พอใบหน้าของอีกคนขยับห่างไป เอาให้มือหนาๆ ทั้งสองข้างประกบเข้าที่แก้มล็อกหน้า ให้ปากประกบเข้าสิ่งเดียวกัน บดจูบใช้ลิ้นเลีย ร่างโปร่งเอามือดันที่หน้าอก จังหวะที่เผยอปากจะร้องห้ามเปิดโอกาสให้อีกคนใช้ลิ้นเข้ามาในโพล่งปาก ตวัดลิ้นเลียอย่างหิวโหย ดูดกลืนลิ้นของอีกคนอย่างเอาใจ ไนน์ให้แรงที่มีทั้งหมดพลักผู้หมวดออก ริมฝีปากพละหลุดออกจากกัน แต่คนที่ยังติดใจในรสจูบความหอมหวานที่เข้าปรารถนามาเนิ่นนาน จะเข้าไปประกบจูบต่อ แต่ต้องผงะออกไปด้วยแรงกระชากจากทางด้านหลัง
พลัว! หมัดหนักๆ เข้ากระแทกที่ใบหน้า จนชายหนุ่มล้มลงไปกองบนกระโปรงรถ
“พี่ซัน!!” ไนน์ที่ตกใจกับเหตุการณ์ตรงหน้า ได้สติทันทีหมัดของคนพี่ต่อยไปอีกคน เขาไม่เคยโดยใครจูบทั้งที่ไม่เต็มใจ จูบที่เกิดขึ้นทั้งหมดในชีวิตเขายินยอมเองทั้งนั้น เขาคว้าแขนคนพี่ก่อนที่หมัดจะตามไปซ้ำ ก่อนออกแรงลากให้ถอยห่างออกมา
“ไนน์ พี่ขอโทษ” เสียงที่อ่อนโยน และรู้สึกผิดจากใจที่ทำอะไรลงไปโดยไม่รู้จักยับยั้งช่างใจ
“มึง!” เสียงกดต่ำเกรี้ยวกราดพร้อมกับตัวที่พร้อมพุ่งไปทันทีถ้าอีกคนไม่คว้าตัวไว้
“ครับ ครั้งต่อไปที่เราพบกันผู้หมวดจะควบคุมตัวเองได้มากกว่านี้นะครับ” เขาพยายามปรับเสียงไม่ให้โกรธ เพราะไม่อยากไปเติมเชื้อเพลิงให้อีกคน
ซันตวัดตา ยกนิ้วชี้หน้าผู้หมวด “อย่ามาอยู่กับคนของกู!! นี่แฟนกู!!” เขาลดมือลงมากุมข้อมือคนน้องก่อนจะลากให้หนีออกจากตรงนี้ “ไปครับ” เขาไม่อยากให้คนอย่างไอ้ผู้หมวดมันใกล้ แค่มองเขาก็ไม่อยากให้มองด้วยซ้ำ
“ไนน์! พี่ขอโทษอีกครั้งครับ!” เสียงตะโกนตามหลัง
เขาลากคนน้องเดินไปยังที่ที่ไม่มีคนอื่น ตอนนี้เขายอมรับว่าโกรธมาก โกรธคนที่บังอาจมายุ่งกับคนของเขา คนที่เขาทะนุถนอม คนที่เฝ้าตามหามาตลอด พอเขารู้เรื่องข่าวไฟไหม้ที่เกิดขึ้นเขารู้ดีว่า คนอย่างไนน์ต้องรีบมาทันที เขาได้โทรหาหลายครั้งแต่ไม่การรับสาย เขาเดาว่าคงยุ่งเลยตัดสินใจโทรถามคีนบอดี้การ์ดที่ตัวติดกับน้อง ว่าตอนนี้อยู่ไหนและรับคำตอบว่ามาที่โรงแรมทันที แต่ด้วยความเป็นห่วงเลยกะว่าจะแค่แวะมาหาเฉยแล้วก็กลับ
ระหว่างที่จอดรถน้องเดินมากับอีกคน เขาเฝ้าดูทุกการกระทำของทั้งสอง ยอมรับเหมือนผัวมาแอบดูเมียกับชู้ คนของเขาดูค่อนข้างไว้ตัวพอสมควร แต่พอเห็นรอยยิ้มปนเสียงหัวเราะเขายิ่งหวงมากขึ้น จนแม้กระทั่งการจูบที่เกิดขึ้นตรงหน้า แต่ยังดีที่น้องเป็นคนพลักไอ้หมอนั้นออก ไม่งั้นเขาคงอดคิดน้อยใจไม่ได้แน่นอน
เขาดันตัวคนรักของเขาเข้าไปแนบกับต้นไม้ บดจูบอย่างไม่รอช้า ลิ้นของเขากวาดไปทั่วทั้งโพล่งปากของไนน์ บ่งบอกถึงความเป็นเจ้าของปากที่นุ่มสวย เขาคนเดียวเท่านั้นที่จะได้ครอบครอง เขาต้องการลบรอยจูบของอีกคนที่มันบังอาจจูบประทับรอย จูบที่เร่าร้อนเจือปนความโกรธของซันที่ไม่สามารถควบคุมตัวเองได้ จนไนน์ต้องยกมือทุบหลังให้ปล่อยปากเขา
“แฮ่ก ๆ” เสียงหอบแหบไนน์พยายามกอบโกยอากาศเข้าสู่ปอด เขาใช้หลังมือขึ้นมาปาดน้ำลายที่เลอะที่มุมปาก “แม่ง!” เขาไม่คิดว่าอีกคนจะเข้าจู่โจมจูบเขาทันที และอีกคนไม่ควรจะมาโกรธเขาด้วย กลิ่นคาวเลือดยังคุกรุ่นอยู่ในปากตอนนี้
“พะ พี่ขอโทษ” เสียงที่แหบพร่าของซัน
“...” เขาจ้องไปที่ใบหน้า มองลึกลงไปในแววตาที่เขาหลงใหล เงาสะท้อนในนั้นยังมีแค่เพียงแต่เขา
“ไนน์ พี่ขอโท...” ร่างสูงที่ยังไม่ทันที่จะพูดจบ ปากโดนประกบอีกครั้ง แต่ครั้งนี้ไม่ได้มากเขากลายเป็นคนน้องแทน เพียงแค่เป็นการประกบแต่ไม่ได้รุกล้ำ เพียงแค่เป็นการบอกว่าไม่ต้องพูดแล้ว
ร่างโปร่งจับมือหนาๆ วางทาบที่อกข้างซ้าย “มันเต้นแรงกับพี่แค่คนเดียว ไม่ว่าจะจูบ เซ็กซ์ คำหวาน มันคือคำตอบของผมครับ” เขานิ่งเงียบรอให้อีกคนคิดสักพัก “มันคือคำตอบของไนน์ ใจเย็นได้หรือยังครับ”
“...” สีหน้าและแววตาดูอ่อนลงแต่ยังเจือปนความโกรธและโมโหอยู่นิดๆ
“งั้นช่วยลบรอยเมื่อกี้อีกครั้งนะครับ” เขายกยิ้มและกันปากอย่างยั่วยวนพร้อมกับมือที่คล้องไปที่คอคนพี่
“รักไนน์นะครับ” บอกรักเสร็จ จูบที่หวานฉ่ำก็เริ่มขึ้น และไม่รู้ว่าจะนานแค่ไหนเพียงแค่เขาทั้งสองอยากประทับจูบกันไปเรื่อยๆ เท่านั้น
TBC…