14 ตอน Chapter 13
โดย T.mines
Chapter 13
Number nine My Sun
หมายเลขเก้าของดวงตะวัน
#IXMYSUN
ครืด ครืด ครืด
ระบบสั่นจากสายเรียกเข้า ร่างโปร่งหยิบขึ้นมาดู เขาขมวดคิ้วเนื่องจากเบอร์ที่โทรเข้ามาไม่คุ้น เบอร์โทรนี้จะมีแค่คนรู้จักเท่านั้นที่โทรมาได้จะเรียกได้ว่าเป็นเบอร์ของครอบครัวเท่านั้น ส่วนถ้าเป็นเรื่องงานตอนนี้จะติดต่อผ่านเลขาและถ้าหากต้องการติดต่อเป็นการส่วนตัวอื่นเขาจะให้โทรเข้าอีกเครื่อง
“มีอะไรครับ” คนพี่ที่เดินไปหยิบกล่องปฐมพยาบาลถามขึ้นที่เห็นคนน้องมองโทรศัพท์แถมยังขมวดคิ้ว
“เบอร์ไม่คุ้นครับ” เขาตอบก่อนจะกดรับสาย
“สวัสดีครับ”
(ครับ น้องไนน์ นี่พี่เองนะ พี่อาทิตย์)
“อ่า ครับ หมวดอาทิตย์” คิ้วที่ขมวดอยู่เปลี่ยนเป็นเลิกขึ้นแทนเพราะคลายความสงสัยบางส่วน “ว่าแต่ได้เบอร์ผมมาได้ไงครับ”
(พี่ต้องขอสารภาพตามตรง พี่อยากติดต่อกับเรา เลยรบกวนคุณย่าพี่โทรไปขอเบอร์เรากับปู่เรามา) เสียงตอบปนหัวเราะแหะๆ
พอได้คำตอบเขาก็หายสงสัย พวกเขาเพิ่งแยกจากกันยังไม่ถึงสามชั่วโมงแต่ได้เบอร์มาอย่างรวดเร็ว “ครับ”
(พี่จะโทรมาถามว่าถึงที่พักเหรอยังครับ)
“ถึงแล้วครับ”
(สรุปแล้วน้องไนน์ได้ไปหาหมอไหมครับ)
“ไนน์ครับ มาทำแผลได้แล้วครับ” เขายังไม่ทันจะตอบอะไร คนที่นั่งข้างๆ พูดเสียงดังแทรกขึ้นมา “พี่ประคบน้ำแข็งให้นะครับ” ก้อนน้ำแข็งที่อยู่ในผ้าผืนเล็กเข้ามาแตะโดนแก้มที่ช้ำเบาๆ
เขายกมือปิดโทรศัพท์ “แป๊บนะพี่ซัน” เสียงจิปากของคนอีกคนตามมาทัน เขาหันไปคุยโทรศัพท์ต่อ ส่วนซันได้แต่นั่งขบกรามด้วยความหงุดหงิด เขาเลือกที่พูดแทรกโดยรู้ว่าเสียมารยาทแต่อยากแสดงว่าเขาอยู่ตรงนี้นะโว้ย
“แล้วหมวดอาทิตย์โทรมานี่มีธุระอะไรหรือเปล่าครับ” เขาเลือกที่จะรวบรัดการคุยให้มากที่สุด
(พี่โทรมาเพราะว่าเป็นห่วงเรา แล้วอยากโทรมาทวงที่เราบอกว่าจะเลี้ยงข้าวพี่ตอบแทนด้วย) ปลายสายยกยิ้มที่มุมปาก (ถ้าเป็นเย็นวันศุกร์ที่จะถึงนี้สะดวกไหมครับ)
“เย็นวันศุกร์ ผมไม่ค่อยสะดวก เพราะผมต้องไปกลับไปบ้านใหญ่ครับ เออ...กลับไปหาคุณปู่นะครับ”
(เอางี้ไหมครับ ไปทานข้าวกับพี่เสร็จแล้วพี่ไปส่งเราที่บ้านต่อ คุณแม่พี่บอกให้พี่เอาผลไม้และยาบำรุงจากเมืองจีนไปเยี่ยมคุณปู่ของเราด้วย พี่จะได้อาศัยจังหวะนี้เข้าไปพร้อมเราด้วยเลย)
ไนน์ครุ่นคิดสักครู่ แค่ไปกินข้าวมื้อเดียวเอง คงไม่เป็นอะไรหรอก มันจะได้จบๆ ไป “งั้นเอาตามนั้นก็ได้ครับ”
(พี่จะได้จองร้านส่วนที่ไหนพี่จะส่งข้อความไปบอกนะครับ พี่จะนับวันที่ได้เจอเรานะครับ)
เขาขมวดคิ้วหลังจากได้ยินประโยคสุดท้าย “ครับแล้วเจอกันครับ”
เขาวางสายไปหันไปมองบุรุษพยาบาลจำเป็นที่สีหน้าทะมึนตึง คิ้วที่ยังไม่คลายจากเมื่อกี้ ย่นเพิ่มเข้าไปอีก “มีอะไรหรือเปล่าครับ”
พอคนน้องหันมาให้ความสนใจ คนที่หงุดหงิดเมื่อกี้เริ่มผ่อนคลายลง “ไม่มีไรครับ ทำแผลดีกว่า”
ซันถามระหว่างเอาก้านสำสีที่ชุบน้ำเกลือมาเช็ดที่แผลตรงมุมปาก “ปวดตัวไหมครับ ถอดเสื้อให้พี่ดูหน่อยว่าเราโดนตรงไหนบ้าง พี่ขอโทษนะครับที่ไม่ได้อยู่ช่วยเรา ปล่อยให้เราเจ็บตัว” ซันช่วยคนน้องถอดเสื้อออก พอเห็นรอยแดงตามตัว เขาทำสีหน้าเจ็บปวดแทนคนน้องทันที
“ขอโทษทำไมครับ เรื่องนี้ไม่เห็นจะเกี่ยวกับพี่เลย งั้นผมไปอาบน้ำก่อนค่อยมาทายาแก้ฟกช้ำนะ” ไนน์ลุกขึ้นเดินไปยังห้องนอนที่อยู่ชั้นบนเพื่ออาบน้ำ
เขาใช้เวลาอาบน้ำทำความสะอาดตัวรวมทั้งสระผมที่เต็มไปด้วยเศษฝุ่นไม่นาน แต่งตัวด้วยกางเกงวอมขายาวเอาเสื้อกล้ามและผ้าเช็ดหัวพาดบ่าเดินลงมายังข้างล่าง หยิบโทรศัพท์มาต่อสายหาพี่สาวคนเล็กอย่างนานะ เพื่อจะคุยเรื่องที่โดนดักทำร้ายวันนี้
(ว่าไงคะซูก้า)
“ตอนนี้อยู่ไทยเปล่า”
(อยู่ค่ะ มีอะไรหรือเปล่า) น้ำเสียงที่ล้อเล่นเมื่อกี้เปลี่ยนเป็นถามด้วยความสงสัย
“มาหาหน่อยดิ มีเรื่องจะคุยด้วยไม่อยากคุยผ่านโทรศัพท์ มาคนเดียวนะและไม่ต้องบอกใครด้วย”
(อืม อีกชั่วโมงเจอกัน) นานะกดวางสายไป
“พี่ซันครับ สั่งอะไรมากินยังครับ” เขาถามระหว่างที่คนพี่นั่งกดหน้าดูไอแพดอยู่
“ยังเลยครับ เราจะกินอะไรล่ะ พี่จะได้สั่งมาให้”
“ไม่เป็นไร ไนน์สั่งดีกว่าครับ อีกสักพักนานะจะมาเดี๋ยวรอกินพร้อมกันค่อยกลับนะครับ”
“หื้อ...”
“ครับวันนี้พี่ต้องกลับบ้าน ผมมีเรื่องต้องคุยกับนานะ” ไนน์ละสายตาจากการกดสั่งอาหาร หรี่ตาหันไปมองคนที่นั่งข้าง คนอะไรชอบแอบเนียนนอนห้องคนอื่นตลอดเลย “วันนี้ไม่มีแต่นะครับ”
คนพี่ถอนหายใจ แต่เขาเข้าใจไนน์ว่าเรื่องที่จะคุยคงไม่พ้นเรื่องที่เกิดวันนี้แน่นอน และแน่นอนตอนนี้เขาคือคนนอกคงไปก้าวก่ายมากกว่านี้ไม่ได้ ถ้าถามเรื่องอิทธิพลในการจัดการทางครอบครัวของคนน้องย่อมจัดการได้ดีกว่า เผลอสาวถึงตัวการได้ภายในไม่กี่วันด้วยซ้ำ เขาเอื้อมมือไปลูบหัวคนน้องที่เพิ่งก้าวเข้ามาในโลกของธุรกิจที่มีแต่ผลประโยชน์เขาก็อดเป็นห่วงไม่ได้
“พี่รอจนกว่าพี่สาวเราจะมาค่อยกลับ”
“...” ไนน์เพียงแค่พยักหน้าตอบรับ
คุณแฟนที่เจ็บตัวมานั่งลงข้างๆ เขาหยิบยาทาแก้ฟกซ้ำมาลูบไล้ทาตามตัวไป ยิ่งเห็นแผลที่หน้ากับรอยซ้ำแดงๆ ต่อไปจะเป็นสีเขียวยิ่งเจ็บใจ เขาต้องเก่งกว่านี้เพื่อจะปกป้องคนรักอย่างไนน์ แม้จะเล็กน้อยแต่เขาจะไม่ยอมให้เกิดเรื่องแบบนี้ถ้าเขายังอยู่กับน้อง
ผ่านไปไม่ถึงชั่วโมงมีเสียงกดออดที่หน้าประตูก่อนที่ตามมาด้วยเสียงปลดล็อคประตูตามเข้ามา เป็นนานะที่เดินเข้ามาพร้อมกับคีนที่มือเต็มไปด้วยถุงอาหารที่เขาสั่งและพี่สาวเขาน่าจะซื้อมาอีกด้วย
“มีแขกไม่ค่อยอยากจะเจอหน้าอยู่ด้วยเหรอคะ” พี่สาวเปรยตาไปมองคนที่ตัวเองไม่ชอบขี้หน้า และเข้ามาจับปลายคางน้องรับเอียงซ้ายเอียงขวาดูแผลที่หน้า “เจ็บมากไหมเนี่ย แล้วทำแผลยัง” น้ำเสียงที่ถามลดลงจากเมื่อกี้เหลือแต่ความอ่อนโยน
“ทำแล้วครับ” ไนน์บู้ปากไปทางอีกคนในห้องที่ยืนอยู่ถัดไป “เป็นคนทำให้ครับ”
“เหอะ” นานะแค่นเสียงใส่
“พี่สาวเรามาแล้ว งั้นพี่กลับก่อนนะครับ ดึกๆ พี่โทรหาอีกทีครับ”
“ครับ”
“ไปได้ก็ดี แต่ถ้าจะให้ดีไม่ต้องโพล่งหัวมาเลยยิ่งดีมาก” น้ำเสียงและสีหน้าคนอย่างพี่สาวของคนรักแสดงออกด้วยความหวงน้องชายแบบไม่ปกปิดแม้แต่น้อย
สงครามเริ่มก่อตัวขึ้นเล็กน้อย คนกลางอย่างเขาจำเป็นต้องรีบปาม “นานะพอได้แล้ว” เขาหันไปบอกซันอีกครั้ง “ไนน์ไปส่งครับ”
“เจ็บตัวอยู่ไม่ใช่เหรอ หื้อ..ไม่ต้องไปส่งหรอกครับ” ร่างสูงลูบหัวคนรัก เขาอยากจะจูบลาด้วยซ้ำ ถ้าเข้าไปจูบตอนนี้คงศพไปสวยแน่ๆ ดูจากหน้าพี่สาวแล้ว ยอมเดินออกไปแต่โดยดี ดีกว่า
เขาลากมือพี่สาวลงมานั่งที่โต๊ะกินข้าว โดยมีคีนจัดอาหารเทลงจานอยู่
“คีนมึงดูน้องกูยังไง แล้วปล่อยให้เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นได้ไง คนคุ้มกันตั้งเยอะยังปล่อยให้มาถึงตัว แล้วถ้ามันไม่จบแค่นี้ น้องกูเป็นอะไรขึ้นมาชีวิตพวกมึงทุกคนก็ทดแทนไม่ได้”
นานะรู้เรื่องที่น้องชายโดนดักทำร้ายเพราะบังเอิญเจอคีนที่หน้าห้องและเห็นสภาพหน้าของบอดี้การ์ด เราเลยซักจนรู้ว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้น เธอเลยจัดการสั่งสอนคีนด้วยหมัดเข้าที่ท้องและหน้า โทษฐานผิดพลาดในหน้าที่ ใจจริงนานะเองอยากจัดการให้เยอะกว่านี้แต่ติดตรงที่ต้องมาคุยกับน้องก่อน
“เสร็จแล้วก็ออกไปคีน ไปทำแผลซะ ที่เหลือจัดการต่อเอง” ไนน์โบกมือไล่คนของเขาไป
“ครับ” คีนโค้งคำนับเดินออกไป
พออยู่กันสองคนพี่น้อง “กินไปคุยแล้วกัน เรื่องไม่ได้วุ่นวายเท่าไหร่ เรื่องที่โดนทำร้ายนะ จะบอกว่าไนน์ดื้อเองนะ คีนกับบายห้ามแล้ว อยากขับเจ้าลูกรักไปทำงาน ไม่นึกว่าจะโดนดักทาง” เจ้าของเรื่องไหวไหล่พลางใช้ตะเกียงคีบเกี๊ยวซ่าส์ที่โป๊ะหน้าด้วยชีส
พี่สาวพยักหน้าเข้าใจในสิ่งที่น้องชายปกป้องลูกน้อง แต่ยังมันก็คือความผิดอยู่ดี นานะดันกล่องข้าวหน้าปลาไหลมายังหน้าน้องชาย “จะให้เค้าจัดการหรือไนน์จะจัดการเองค่ะ” ส่วนตัวเองคีบทงคัตสึเข้าปาก คีบซูซิหน้าแซลมอนให้น้อง
“เล่นตามเกมไปก่อนก็แล้วกัน สืบตามเรื่องตามราวไป”
“นะก็คิดแบบนี้ คงเหลือแต่วิญญาณแล้วล่ะมั่ง” ทั้งสองคุยกันไปเหมือนเป็นเรื่องปกติและเดาจุดจบของคนกลุ่มนั้นได้หมด
“แล้วจะให้สืบจากไหนก่อนดี เอาที่เราคิดไว้” คนพี่คีบชิ้นหมูทอดจากจานเขาไปยังจานน้องชาย ส่วนน้องชายคีบชิ้นปลาไหลส่งให้พี่
“เอาคนใกล้ตัวก่อนเลย”
“หึ” เสียงแค่นหัวเราะออกมา “น้อมรับบัญชาเจ้าค่ะ”
“แต่เรื่องนี้อย่าเพิ่งบอกคนอื่นนะ แค่นานะคนเดียวพอ รำคาญที่เหลือ” แค่พอคิดว่ารู้เรื่องที่เข้าโดนทำร้ายแล้วพวกพี่เขาจะยอมอยู่เฉยไหม เขาเงยหน้าขึ้นมามองหน้าคนร่วมห้องอีกคน
“เค้าดีใจที่สุดเลย ถ้าพวกมันรู้ต้องอกแตกตายแน่นอน ฮ่า ฮ่า” เสียงหัวเราะอย่างสะใจ
คนน้องได้แต่ส่ายหัว ที่เขาเลือกนานะหนึ่งคนในมือมีความสามารถสูง นานะถึงแม้จะอายุห่างจากเขาไม่กี่ปีแต่การที่ก้าวเข้าไปอยู่ในโลกอีกฝั่งที่ใครมองว่าน่ากลัว อิทธิพล การแบ่งเขตอำนาจ เส้นทางโรยไปด้วยตะปู กระสุน เปรอะเปื้อนไปด้วยคราบเลือด ผู้หญิงคนนี้ผ่านมาหมดและแข็งแกร่งยิ่งกว่าใครไหน ลองถามทุกคนในบ้านว่าใครคือผู้นำตระกูลคนต่อไป ไม่ใช่หลานชายคนโตอย่างหนึ่งและไม่ใช่หลานรักอย่างเขา แต่คือนานะคนที่มีความเป็นผู้นำสูงและผ่านการยอมรับจากทุกคนในบ้าน นานะไม่ต้องทำอะไรเพื่อต้องพิสูจน์ตัวเองว่าเหนือกว่าคนอื่นแม้แต่นิดเดียวเลย เสมือนความเป็นผู้นำมันคือสิ่งที่ติดตัวมาตั้งแต่เกิดอยู่แล้ว
“นานะไนน์โทรหาปู่นะ ป่านนี้คงเป็นห่วงแย่แล้ว”
“โทรเลย จะได้คุยให้จบเลยทีเดียว ปู่จะได้ไม่กังวล คอลไปเลย” ไนน์หยิบโทรศัพท์โทรออกและนานะย้ายตัวเองมานั่งข้างๆ น้องจะได้คุยกับผู้เป็นปู่ด้วยอีกคน
[โทรมาได้สักทีนะ ปู่เป็นห่วงแทบจะแย่อยู่แล้ว] หลานทั้งสองนิ่งเงียบฟังเสียงบ่น
“สวัสดีครับปู่” / “สวัสดีค่ะปู่” หลานทั้งสองพูดต่อกัน
“เคลียร์อะไรเสร็จโทรหาปู่เลยครับ” ไนน์รีบพูดแก้ตัวอย่างเร็ว
ส่วนนานะรีบเข้าไปช่วยพูดอีกแรง “ใช่ๆ ค่ะปู่”
[ปู่คิดอยู่ว่านานะต้องอยู่กับเรา คิดว่าแผนกันว่าไงบ้างล่ะ ต้องให้ปู่ช่วยไหม]
“ไม่ต้องค่ะปู่ หนูช่วยน้องเองค่ะ”
[ถ้าเราออกปากจะช่วยปู่ก็วางใจทำได้เต็มทีเลยนะ สรุปว่าไปแจ้งความแล้วใช่ไหมไนน์]
“ก็ต้องแจ้งแหละ บังเอิญคนมาช่วยเป็นตำรวจนิ”
“ใครมาช่วย?”
“เดี๋ยวเล่าให้ฟัง” เขาหันไปตอบพี่สาว “ปู่ครับเดี๋ยวเราค่อยคุยต่อพรุ่งนี้นะครับ ดึกมากแล้วปู่เพิ่งจะหายป่วยปู่ต้องพักผ่อนเยอะ ไนน์สบายดีมีนานะอยู่ด้วยแล้ว ปู่ไม่ต้องห่วง”
[อืม งั้นเราทั้งคู่ก็ไปนอนด้วยล่ะ]
“ฝันดีครับปู่/ฝันดีค่ะปู่”
“ซูก้าเล่ามาเดี๋ยวนี้นะ ว่าใครมันมาช่วย?” นี่แหละคำพูดของพี่ๆ เขา คำที่เรียกแทนเขาด้วยคำเฉพาะตัว แต่พอเป็นคนที่มาเกี่ยวข้องคือมันหมดทุกคน
“หมวดอาทิตย์ หลานชายคุณหญิงนิราเพื่อนคุณย่า เคยเจอตอนไปซื้อของกับโฟร์ครั้งก่อน” ร่างโปร่งตอบพลางขมวดคิ้วระลึกความหลังไปด้วย
“หลานชายคุณหญิงนิรา คุณหญิงนิรา อ๋อ ไอ้คนที่ไอ้หนึ่งลากไปซัดจนหน้าแหกสมัยเด็กจนปู่ต้องหันมาจัดงานเฉพาะแค่คนภายในครอบครัวเท่านั้น”
“ทำไมไนน์ไม่รู้เรื่องนี้เลยล่ะ? ถึงว่าปีต่อๆ มามีแค่พวกเราแต่ก็ดีเหมือนกันคนเยอะวุ่นวาย น่าเบื่อมาก”
“ดีแล้วไม่ใช่เหรอ ถึงจะไม่อยากจะพูดก็ตามเถอะ” นานะกลอกตาขึ้นบนก่อนจะพูดต่อ “งานนี้ต้องอยากความดีให้หนึ่งส่วนหนึ่ง อีกส่วนยกให้พวกทู ทรัว แฝดเกาและก็ฮาจิที่บอกว่าถ้ายังให้มาอีกก็ยังจะลากไปต่อยอีก” นานะยิ้มกริ่มในใจ เพราะตอนนั้นคนที่สั่งให้หนึ่งลากไปชกคือเธอนั่นเอง และคำพูดที่พวกที่เหลือพูดเธอเองก็เป็นคนบอกทั้งหมด
“ไนน์คืนนี้เค้านอนด้วยน้า...” เสียงอ้อนจากพี่สาว
“นอนกับไนน์? แล้วห้อง?” คนน้องชี้นิ้วไปยังห้องนอนที่เหลืออีกสองห้อง
“ทีมัน..” ตามมาด้วยเสียงจิ๊ปาก “ยังได้เข้าไปนอนให้นอนซูก้าได้เลย แล้วทำไมเค้าจะนอนด้วยไม่ได้ล่ะ” นานะทำหน้าบูดบึ้งใส่น้องชาย
“แค่ไม่กี่ครั้งเองนะ แต่ละครั้งมันก็...ก็เหตุสุดวิสัยน่ะ” ร่างโปร่งพยายามอธิบายไปเหมือนไปเข้าหูพี่สาวแม้แต่นิด “งั้นมานอนก็ได้ ตามใจนานะเลย”
ฟอด พี่สาวกระโดดหอมแก้มไปหนึ่งที “ป่ะเราไม่นอนก่อนเลย กินยาแก้ปวดแล้วนอนเลยนะคะ นานะจะไปอาบน้ำแล้วขึ้นไปนอนกับเรานะ”
“╮ (╯_╰) ╭” นี่แหละที่พี่ของเขาชอบทำตัวแบบนี้ถึงได้โดนมองว่าเป็นเด็กเลี้ยง ส่วนคนที่พี่เขาเดินควงกันเขม่นกับเขาตลอดเลย
ภัตรคารหรูระดับมิชลินสตาร์ ที่ต้องจองคิวอย่างน้อยสามเดือนเป็นอย่างต่ำ อาทิตย์เพียงแค่ต่อสายถึงผู้จัดการแค่ไม่กี่นาที โต๊ะที่วิวดีที่สุดของร้านเขาสามารถจับจองทันที ผู้หมวดหนุ่มอนาคตไกล รูปหล่อด้วยเครื่องหน้าไทยแท้คมคาย ผิวสีแทน คิ้วเข้ม หุ่นที่ได้มาจากการเข้าฟิตเนตและออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ กล้ามที่สวยได้รูป พอจับชุดสูทที่พอดีกับตัวยิ่งทำให้ดูดี
อาทิตย์มาก่อนเวลานัดเกือบครึ่งชั่วโมง ด้านข้างมีช่อกุหลาบสีแดงเข้มวางอยู่ด้วย สายตาจับจองมองไปยังประตู เขารู้สึกประหม่าอย่างมาก เพราะวันนี้เขาตั้งใจจะเอ่ยปากของจีบน้องไนน์อย่างเป็นทางการ ระหว่างที่รอวันนัดเจอเขาส่งข้อความไปหาอยู่บ่อยครั้ง แค่ถามเรื่องราวทั่วๆ ไปเท่านั้น
และแล้วการรอคอยได้สิ้นสุดลง ร่างโปร่งที่ใส่ชุดเสื้อเชิ้ตคอจีนสีน้ำเงิน คลุมมาด้วยชุดสูทสีดำ กางเกงสแลกผ้ายีนสีน้ำกรมท่า ทรงผมที่จัดทรงหวีเปิดหน้าผาก แม้การแต่งตัวจะดูสบายๆ แต่พอมาอยู่บนตัวของไนน์มันดูลงตัวไปหมด เรียกสายตาคนรอบข้างให้หันไปดูอย่างง่ายดาย อาทิตย์ลุกขึ้นยืนและส่งยิ้มให้แก่ชายหนุ่มที่ในสายตาเขา ไม่ว่าน้องจะแต่งตัวยังไง คนอื่นต่างพากันบอกว่าหล่อแต่สำหรับเขาก็ยังดูน่ารักมากกว่าหล่อ
เขาเดินไปเลื่อนเก้าอี้ให้ “น้องไนน์นั่งครับ”
ร่างโปร่งนั่งลงและกล่าวขอบคุณกลับ หันไปพยักหน้าให้กับบอดี้การ์ดที่มาด้วย ก่อนล่าถอยออกไปด้านนอก
“วันนี้น้องไนน์ดูดีมากเลยนะครับ น่ารักมากเลย” อาทิตย์กล่าวชมคนที่นั่งร่วมโต๊ะ หันไปหยิบดอกไม้ “ดอกไม้ครับ”
คนที่โดนชมคิ้วกระตุก ยื่นมือไปรับช่อดอกไม้ “ขอบคุณครับ ผมชักไม่แน่ใจแล้วว่าผมหรือหมวดอาทิตย์กันแน่ที่ได้รับการช่วยเหลือ” เขารับมาพร้อมกับยิ้มเล็กน้อยให้คนมอบ
“หึ หึ” เสียงหัวเราะเบา ตำรวจหนุ่มยิ้มกว้างให้คนที่นั่งร่วมโต๊ะ “มันคือหน้าที่ของตำรวจอย่างพี่อยู่แล้ว แต่ถ้าน้องไนน์อยากขอบคุณพี่จริง พี่อยากขอโอกาสจีบเรามากกว่า”
คนฟังเงยหน้าสบตาคนพูดด้วยสีหน้าที่เรียบนิ่ง เขาพอรับรู้ได้รางๆ ตั้งแต่ตอนที่ส่งสถานที่มาแล้ว นัดครั้งนี้มีประโยชน์แอบแฝง กะอีแค่เลี้ยงขอบคุณจะหรูหราขนาดนี้หรอ
“พี่ชอบเราตั้งแต่เจอครั้งแรกที่บ้านของเรา เด็กตัวเล็กๆ ที่โดนพี่สาวกับพี่ชายรุมเอาใจที่จะเล่นรถบังคับด้วย หอบเอารถทั้งหมดวิ่งหนีไปซ่อน และพี่ขอเข้าไปเล่นด้วย แล้วพี่ทำรถเราพัง แต่เราบอกพี่ว่าไม่เป็นไร ไนน์จะซ่อมเอง”
“...” ไนน์พยายามนึกเรื่องตามคนเล่า
“ตอนนั้นสีหน้าเรามุ่งมั่นมากนะ พี่เลยมองว่ามันน่ารัก ทั้งที่เราสามารถซื้อใหม่ได้แต่เลือกที่จะซ่อม ตั้งแต่วันนั้นพี่ยังไม่เคยลืมสีหน้าเราในตอนนั้นได้เลย แต่พอมีเรื่องกับพี่ชายคนโตเราและสบกับจังหวะพี่ต้องไปเรียนที่อังกฤษเราเลยไม่ได้เจอกัน พอพี่กลับมาเมืองไทย เราย้ายไปอยู่เชียงใหม่แล้วเลยไม่ได้เจอ แล้วพี่ย้ายไปเรียนที่นู้ต่อเลยขาดการติดต่อกับทางบ้านเราเลย”
“...”
“พี่ไม่ต้องการคำตอบตอนนี้นะครับ พี่แค่อยากให้ไนน์รับพี่ไปพิจารณา”
“เอ่อ..คือผม...” ยังไม่ทันที่ไนน์จะพูดจบ อีกคนก็รีบขัดขึ้นมาทัน
“และตอนนี้พี่ยังไม่รับคำปฏิเสธด้วยครับ” นิ้วชี้ยกขึ้นมาส่ายไปมา “ทานอาหารดีกว่าครับ” เขาส่งสัญญาณให้พนักงานเอาอาหารเข้ามาเสิร์ฟได้
“สเต๊กขาแกะที่นี่ขึ้นชื่อมากเลย พี่ถือโอกาสสั่งมาให้ก่อน ทนคู่กับไวน์แดงอย่าง ASTELLO BANFI CHIANTI (กาสเตลโล บานฟี่ คีอานติ) แล้วอยากทานอะไรเพื่อสั่งได้นะครับ น้องครับขอเมนูด้วย”
พนักงานเสิร์ฟยื่นเมนูให้แก่ร่างโปร่ง แต่เขาโบกมือปฏิเสธไป “ทานแค่นี้พอแล้วครับ” เขาใช้มีดตัดชิ้นเนื้อแกะเข้าปาก
“เป็นไงครับ ถูกปากไหม” ร่างสูงจ้องหน้าแบบลุ้น
“ครับ อร่อยสมกับมิชลินสตาร์ ครับยิ่งทานคู่กับไวน์เข้ากันดีมากเลยครับ” เขาตอบแบบปกติ ใช่ว่าเมนูนี้เขาจะไม่เคยกิน ยิ่งมุขที่บอกว่าทานกับไวน์แดงเนี่ย ไอ้คนเจ้าของที่นี่มันเล่นบ่อยจนเขาเอือม
“นี่ทำอะไรกันเนี่ย เอาเก้าอี้มาเพิ่มทำไม” เสียงโวยวายจากร่างสูงที่พนักงานทางร้านยกเก้าอี้มาในส่วนที่วางของโต๊ะ
“...” ไนน์ยกมือขึ้นทั้งสองข้างเท้าที่โต๊ะปกปิดรอยยิ้มที่มุมปาก เขาไม่เคยดีใจที่พี่ชายของเขามาหาอย่างนี้มาก่อน
ร่างสูงสองคนที่เดินเข้าหลังจากพนักงานเดินออกไป เดินอ้อมเข้าไปนั่งที่เก้าอี้ทันที เขามองเห็นว่าเป็นทรัวและฮาจิที่เข้ามา แถมยังขยับเก้าอี้เข้ามาชิดกับเขาเหมือนกับรังเกียจอีกคน ไม่อีกอย่างก็ไม่เห็นหัวเลยก็ได้
“น้องไนน์ครับ จะมาทำไมไม่บอกเฮียล่ะ นี่ถ้าเฮียไม่แวะมาดูร้านคงไม่รู้ว่าเรามาแน่นอนเลย” น้ำเสียงกึ่งดุ แต่เขาและพี่ชายอีกคนรู้ว่ามันคือการแสแสรง เขาว่าพี่ชายเขารู้ตั้งแต่เขาก้าวลงจากประตูรถด้วยซ้ำ
“แล้วทานอะไรไปครับ ให้เฮียสั่งของที่เราชอบให้ไหม” ฮาจิถามและยกมือเรียกพนักงานมา ฮาจิสั่งอาหาร ล็อบสเตอร์ย่างชีส ยำส้มโอสยาม สเต๊กเนื้อแกะอีกสองที และบอกว่าเอาแก้วไวน์มาเพิ่มอีกสอง
ส่วนคนที่สั่งอาหารก็สั่งไป ทรัวมีหน้าที่ชวนน้องคุย “วันนี้ทำงานเหนื่อยไหมครับ ตอนเที่ยงกินข้าวกับอะไร วันนี้กลับบ้านใหญ่ใช่ไหม”
คนที่ดูตัดออกจากโต๊ะรับประทานอาหาร กระแอมเรียกความสนใจ
“โอ๊ะ!! มีคนนั่งอยู่ตรงนั้นด้วยเหรอ” ทรัวเปรยตาไปมองผ่านและหันมาพูดกับน้องชายสุดที่รัก
“มาอยู่ตั้งแต่เมื่อไหร่? เฮียก็ไม่เห็นเหมือนกันนะเนี่ย” ฮาจิไหวไหล่ถาม
“...” น้องชายกลอกตามองบนในความกวนตีนของพี่ชายตัวเอง “หมวดอาทิตย์ครับ นี่พี่ชายของผมครับ เฮียทรัวและเฮียฮาจิ และเฮียนี่หมวดอาทิตย์ที่ช่วยไนน์ไว้เมื่อหลายวันก่อน”
“โอ๊ะ... ต้องขอบคุณมากเลยนะครับที่เข้ามาช่วยน้องไนน์สุดที่รักของผม ทานเต็มที่เลยนะครับ หรือจะสั่งกลับไปเผื่อคนที่บ้านก็ได้นะครับ ผมเลี้ยงตอบแทนเอง” กล่าวขอบคุณด้วยสีหน้ายียวนกวน...สุดๆ
“ผมก็ต้องขอบคุณด้วยอีกคน ถ้าไม่มีหมวดอาทิตย์ เบบี้ต้องเจ็บเยอะกว่านี้แน่เลย” พี่ชายคนสุดท้องยกมือลูบหน้าคนน้อง “เจ็บมากไหม... ถ้าเป็นไปได้เฮียอยากเจ็บแทนเลย”
ไนน์ปัดมือฮาจิออกเบา “อือ! ไม่เจ็บแล้ว อาหารมาแล้วกิน หมวดอาทิตย์ทานครับ” ไนน์ยังคงต้องรักษามารยาทแทนพวกพี่ของเขา
“ครับ” นายตำรวจพยักหน้ารับ เขาแทบไม่อยากจะกินต่อไปอีกแล้ว อาการอยากจะลากไอ้สองคนที่อยู่ตรงหน้าไปเก็บมากกว่าสิ่งใด แต่ต้องอดกลั้นเอาไว้
เสียงหยอกล้อกันสามพี่น้อง แย่งกันเอาใจคนน้อง คอยป้อน ตักนู้ตักนี้ให้กิน ส่วนคนน้องกินด้วยสีหน้าเรียบเฉยกึ่งรำคาญไปด้วยซ้ำ ผลสุดท้ายคนน้องฟิวขาด ตวาดคนพี่ทั้งสองให้ “หยุด!! เลิกป้อน!! กินเองได้!! กินของตัวเองไปซะทรัว ฮาจิด้วยครับ!!” ตามด้วยเสียงถอนหายใจ
คนน้องรวบช้อนไว้บนจาน ทรัวรู้ว่าน้องอิ่มแล้ว จึงยกมือเรียกพนักงาน แต่กลับกลายเป็นผู้จัดการมาแทน
“ครับคุณทฤตมน”
“ค่าใช้ทั้งหมดนี่ลงบัญชีผมไว้ แล้วหมวดอาทิตย์จะสั่งอะไรกลับบ้านหรือเปล่าครับ”
“ทรัว” เสียงร้องทักเบาๆ จากน้องชายคนเล็ก ไว้หน้าเขาบ้าง หวงก็พอประมาณเถอะ
“หึ หึ” เสียงหัวเราะในลำคอของฮาจิที่เห็นพี่ชายโดนดุ และต้องเงียบเสียงลงที่ไนน์หันไปมองหน้า
“วันนี้ต้องขอโทษแทนพี่ๆ ผมด้วยนะครับที่เสียมารยาทกับผู้หมวดอย่างมาก และขอบคุณเรื่องที่ได้ช่วยเหลือผมวันนั้นด้วยครับ”
“ไม่ต้องขอบคุณพี่หรอก ขอแค่เป็นไนน์พี่เต็มใจช่วยเสมอ งั้นวันนี้ให้พี่ไปส่งบ้านนะครับ”
“ไม่ต้อง!/ไม่ต้อง!” เสียงตวาดประสานจากพี่ชายทั้งสอง “น้องชายผม พวกผมดูแลเองได้” ทรัว
ฮาจิ “ยังไงวันนี้พวกผมกลับบ้านอยู่แล้วคงไม่รบกวนผู้หมวดหรอกครับ ลาก่อนครับหวังว่าคงไม่ได้เจอกันอีกนะครับ” ไนน์โดนพี่ชายทั้งสองจูงมือคนละข้างเดินออกมาทันทีที่พูดจบ ส่วนดอกไม้โดนทิ้งไว้ที่โต๊ะไปเลย
ไนน์กลับมาบ้านใหญ่โดยรถของทรัวและมีฮาจิขึ้นมานั่งด้วย ส่วนกลุ่มบอดี้การ์ดขับตามหลังมา ที่อยู่บนรถมีแค่ส่วนตัวของทั้งสามคนเท่านั้น ระหว่างทางกลับบ้านพี่ชายเขาก็ถามเรื่องที่เกิดขึ้น เขาเพียงเล่าบางส่วนและตอบปัดไปว่าให้นานะจัดการแล้ว ทั้งสองถึงยอมปล่อยผ่าน
รถเข้ามาจอดที่ลานหน้าบ้าน ทั้งหกคนลงมารถ สามคนที่เป็นนายเดินเข้าบ้าน ส่วนอีกสามเดินไปยังบ้านพักของการ์ดที่ด้านหลัง พวกเขาเดินไปยังห้องประมุขของบ้านที่ยังไม่หลับ นั่งเปิดแฟ้มอ่านรายงานประชุมรอหลานอยู่
“ปู่ครับ ไนน์มาแล้ว” เสียงที่ดังมาพร้อมกับประตูที่เปิดเข้ามา “หมอให้พักนะครับ” หลานรักเดินเอามือไปวางทาบบนแฟ้มที่กางอยู่
“พอแล้วครับปู่ เดี๋ยวอาการกำเริบอีกนะครับ” สมทบด้วยทรัว
“พวกผมรู้ครับว่าปู่ชอบทำงานแต่ช่วงนี้หยุดก่อนไม่ได้เหรอครับ” ฮาจิพูดด้วยน้ำเสียงห่วงใย
“ไอ้หลานพวกนี้ ปู่เคยทำงานจะให้อยู่เฉยๆ มันเบื่อนิ” เสียงตอบติดหงุดหงิดเล็กน้อย
“โอเคครับๆ แล้วปู่กินยายังครับ” หลานคนเล็กรีบตัดบท
“...” ปู่ของเขาไม่ตอบเพียงแค่พยักหน้าตอบ
“งั้นไปนอนนะครับ ไนน์ไปส่ง” หลานรักเดินอ้อมโต๊ะไปพยุงให้ลุกจากเก้าอี้พาไปยังเตียงนอนที่อยู่ถัดไปอีกน้อง ตลบผ้าห่มออกให้ปู่ก้าวขึ้นไปนอน “ฝันดีครับปู่ พรุ่งนี้เจอกันครับ” เขาห่มผ้าให้ปู่
“ฝันดีครับปู่” ทรัว
“ฝันดีครับปู่ จิปิดไปเลยนะครับ”
เสียงดังของวิดีโอคอลหลังจากเขาเข้ามาในห้อง พอหยิบดูเป็นสายจาก ซัน เขาจึงกดรับ
[ถึงบ้านยังครับ]
“ถึงได้สักพักแล้วครับ อยู่ไหนครับยังไม่กลับบ้านเหรอ” ไนน์มองอีกคนที่อยู่ในชุดเสื้อกล้ามสีดำ มีผ้าขนหนูบางที่คอ และใบหน้าเต็มไปด้วยหยดเหงื่อ ผมที่ถูกเสยขึ้นเปียกโชกชุ่มไปด้วยเหงื่อ หล่อ...
[อ๋อ อยู่ยิมครับ]
“ยิม?” คนน้องขมวดคิ้วสงสัย “ไปออกกำลังกายเหรอครับ?”
[พี่มาต่อยมวยครับ พี่เข้ามาฝึกเพิ่ม วันข้างหน้าจะได้เอาไว้ปกป้องเรา]
“...” คนน้องหรี่ตามอง อมยิ้มให้เล็กน้อย
[ทำคะแนนนะเนี่ย ยิ้มให้กำลังใจหน่อยครับ ตอนนี้หมดแรงและหิวมากด้วยครับ] เสียงอ้อนจากปลายสาย
พอโดนอ้อนจากคนพี่ ไนน์ยิ้มกว้างให้ “หิวก็ไปกินสิครับ ทนหิวทำไม”
[หิวนะทนได้ แต่คิดถึงเราทนไม่ได้จริงๆ พอเลิกแล้วรีบโทรหาก่อนอย่างอื่น ไม่คิดถึงกันบ้างเหรอครับ] ซันยกยิ้มที่เห็นอีกคนเม้มปากด้วยความเขิน
“จีบเก่ง หยอดเก่งนะเดี๋ยวนี้” คนน้องแกร็งหน้าไม่ให้แสดงอาการเขินออกไป
[แล้ววันนี้ไปทานข้าวมา โดนจีบมาหรือเปล่า]
“หื้อ” เขาเลิกคิ้วถาม “รู้ด้วยเหรอว่าเขามาจีบ ไม่มีอะไรนะ พอดีทรัวกับฮาจิมาป่วนด้วยครับ”
[มองจากดาวพลูโตยังรู้ว่าจีบเราเลยครับ ถึงจะไม่ค่อยชอบพี่ชายเราเท่าไหร่แต่วันหลังต้องไปขอบคุณสักหน่อย]
“...” คนน้องเบะปากใส่
[อย่าเบะปากครับ] ซันสูดหายใจเข้า [มันทำให้พี่อยากจูบปากเรามากเลย]
“ไอ้พี่ซันไม่คุยด้วยเล่า ไปหาอะไรกินแล้วกลับบ้านไปพักผ่อน ไม่ต้องโทรมาอีกแล้วนะ ไนน์จะนอนแล้ว” เสียงหัวเราะ หึหึ ดังขึ้นมา เขาจึงกดวางสาย
“ฝันดีนะครับรอยยิ้มของพี่”
คนที่บอกว่าจะนอน กลิ้งตัวไปมา ชกหมอนข้างระบายความเขิน ไนน์ว่าช่วงนี้ตัวเองอาการหนักมาก หลุดเขินกับคำหยอดไอ้พี่ซันบ่อย แต่ถ้าคนอื่นหยอดอย่างหมวดอาทิตย์วันนี้ ไม่รู้สึกออกไปทางรำคาญมากกว่า เขายกมือเตะที่ริมฝีปาก นึกถึงหน้าคนพี่ที่ชุ่มไปด้วยเหงื่อ บ่นพึมพร่ำด้วยเสียงอู้อี้อยู่คนเดียว “อยากจูบอยู่คนเดียวหรือไง ยิ่งแต่งตัวแบบนี้เซ็กซี่เป็นบ้าเลย”
คืนวันเสาร์สิ้นเดือนมีงานการกุศลคุณหญิงนิรา บัตรเชิญถูกส่งมาหลายวันก่อน ทางปู่จัดแจงให้หลานชายโปรดไปเปิดตัวในการร่วมงานครั้งนี้ด้วย เขาต้องเดินไปไปด้วยกันกับปู่และทีมคุ้มกันชุดใหญ่ ตั้งแต่มีการดักทำร้ายเขา ปู่จัดการเพิ่มกำลังคน ส่วนตัวเขาที่ต้องกลับบ้านทุกสุดสัปดาห์อยู่แล้วโดนบังคับให้เขาฝึกหนักเพิ่มอีก
เรื่องของคนร้ายเป็นไปตามคาดไว้ คนกลุ่มนั้นหายตัวไป บางคนประสบอุบัติเหตุเสียชีวิต บางเสพยาเกินขนาด เมื่อพวกที่รับจ้างมาจะบอกว่าเดนสังคมตำรวจจึงไม่ตามเรื่องต่อ สรุปสำนวนคดีไปตามนั้น เขาและนานะตามเรื่องต่อแต่คนที่เก็บงานเป็นมืออาชีพหลักฐานจึงเหลือน้อยไม่พอที่สาวไปถึงตัวการ
ชายหนุ่มแต่งตัวด้วยเสื้อคอเต่าสีดำแขนยาวสวมทับด้วยเสื้อสูทแบบ Double-Breasted สีดำเทาเข้ารูป นาฬิกาแบรนด์หรูบนข้อมือขาว ผมปัดด้วยเจลเลยไปด้านหลังเผยให้เห็นแถบรอยไถ่ด้านข้าง ช่างอยู่ในลุกซ์หนุ่มแบดบอยเท่ พอถึงเวลาที่ต้องออกเดินทางไปงานพร้อมกับปู่ ส่วนคนที่เหลือไปเจอกันที่งาน เขาเดินลงมายังด้านล่างของบ้าน มีแขกนั่งรออยู่หนึ่งคนกำลังนั่งคุยอยู่กับปู่ของเขา
“นั่นไงลงมาพอดีเลย พี่อาทิตย์เขาแวะเอาของมาเยี่ยมปู่และมาขออนุญาตรับเราไปร่วมงานพร้อมพี่เขาเลย” ปู่พูด
“สวัสดีครับ หมวดอาทิตย์ มานานแล้วเหรอครับ” เขายกมือไหว้คนที่เป็นผู้ใหญ่กว่าและพูดทักทาย
“ไม่นานครับ เราไปกันเลยไหมใกล้จะถึงเวลาเริ่มงานแล้ว เดี๋ยวจะสายครับ” ผู้หมวดหนุ่มพูดรวบรัดไม่ให้อีกคนปฏิเสธเขา ลุกขึ้นยืนรอกดดันอีกแรงด้วย
“ครับ?” เขาขมวดคิ้วด้วยความงุนงงและหันไปถามปู่ของเขา “แล้วปู่เอารถคันไหนไปครับ”
“ไนน์ไปกับพี่เขาแหละ พี่เขาตั้งใจมารับเราโดยเฉพาะเลย เดี๋ยวปู่ต้องแวะรับน้าเราก่อนไปงาน”
“ได้ครับ แล้วเจอกันที่งานนะครับปู่”
อาทิตย์เดินมากับไนน์ ตรงไปยังรถสปอร์ตสีดำคันหรูที่ในโลกนี้มีเพียงแค่พันคันเท่านั้น เจ้าของรถเปิดประตูให้เขาเข้าไปนั่งและเขากล่าวขอบคุณ ส่วนตัวเองเดินอ้อมไปยังฝั่งคนขับ ขับรถตรงมายังพิพิธภัณฑ์กลางกรุงที่เนรมิตให้เป็นแกลลอรี่ขนาดใหญ่สำหรับงานในค่ำคืนนี้ งานการกุศลภายใต้การดูแลของคุณหญิงนิราเพื่อหารายได้เข้ามูลนิธิเด็กด้อยโอกาสและหาทุนการศึกษาเพื่อเด็กยากไร้ โดยการประมูลภาพวาดและภาพถ่ายของศิลปินชั้นแนวหน้าของเมืองไทยและต่างชาติที่มีชื่อเสียง
รถมาจอดยังลานด้านหน้าของงาน เด็กรับรถทำหน้าที่ขับออกไป เขาทั้งคู่เดินผ่านพรมแดงด้านหน้าเข้าสู่งานพร้อมกับบุคคลที่มีชื่อเสียงทั้งในวงการบันเทิงที่ถูกเชิญมา เซเลบคนดัง ไฮโซ นักธุรกิจชั้นแนวหน้าและคนดังอีกมากมาย ผู้หมวดในฐานะหลานของเจ้าของงาน เขาโอบหลังคนที่มาด้วยไปยังบริเวณที่ถ่ายรูปก่อนเข้างาน ไนน์ถ่ายเพียงแค่ไม่กี่ภาพ หันไปบอกกับผู้หมวดว่าขอเขาไปข้างในกันเถอะ อีกคนก็ยอมตามใจ
แต่เมื่อเข้ามาถึงไนน์คิดมันจะจบและแยกไปหาเพื่อนรวมถึงอีกคนที่เขานัดไว้ กลับกลายว่าโดนลากให้สวัสดีคุณย่าของผู้หมวดก่อน คุณหญิงเจ้าของงานที่รับรู้การเข้าจีบของหลานชาย
“คุณย่าครับ ผมมาน้องไนน์มาหาคุณย่าครับ” หลานชายเรียกหญิงที่ยังอ่อนกว่าวัยที่แต่งตัวเต็มยศด้วยชุดราตรีสีน้ำเงิน ประโคมด้วยเครื่องเพชรชุดใหญ่ที่สว่างกว่าไฟในงาน “น้องไนน์ครับนี่คุณแม่และคุณพ่อของพี่ครับ”
“สวัสดีครับ” เขายกมือไหว้ผู้หลักผู้ใหญ่ตามมารยาท และแน่นอนว่าเขาทำตัวไม่ถูกด้วยที่ว่าไม่เคยออกงานสังคมมาก่อนเลย และไม่คิดว่าจะโดนจับลากมาอยู่กลางวงแบบนี้
“ย่าไม่เจอนานเลย โตเป็นหนุ่มหล่อขนาดนี้เลย ปู่เรายอมปล่อยมาออกมาของย่างานแรก ย่าขอเดินควงไปโชว์ตัวหน่อย”
คุณหญิงเจ้าของงานควงแขนร่างโปร่งไปแนะนำให้แก่คุณหญิงที่เป็นเพื่อนก่อนอันดับแรก โดยมีผู้หมวดหลานชายเดินไปเคียงข้าง ต่อไปด้วยนักธุรกิจที่มีชื่อเสียง โดยเขาถูกแนะนำว่าเป็นหลานชายเจ้าสัวชัชทายาทคนเล็กของบ้าน และมีคำถามตามว่าทำไมถึงเพิ่งมาเปิดตัว และเขาเลือกที่ไปว่า สนุกกับการเรียนและไปทำงานที่รักมาครับ เขาโดนลากแทบจะทั่วงาน ได้รับนามบัตรและแจกนามบัตรไปมากโขเลยทีเดียว จนปู่ของเขาเข้ามาในงานจึงถือโอกาสขอตัวหนีออกมาสำเร็จ
เขาเดินมายังปู่ด้วยสีหน้าเรียบนิ่ง แต่ในใจเนี่ยหงุดหงิดที่สุด “ปู่มาช้า โดนลากไปทั่วงานเลย” เขาบ่นเสียงอ่อยและหันไปยกมือไหว้น้าสาวที่ยืนอยู่ข้าง “สวัสดีครับน้าเบญ”
“ไปหาเพื่อนเราเถอะไปสงบอารมณ์หน่อย” ภายใต้สีหน้าที่เรียบเฉย มีแต่คนในครอบครัวและคนสนิทเท่านั้นที่รู้ว่าเขาแทบอยากจะกลับทันทีที่มาถึงแล้ว ถ้ามาร่วมงานได้แต่อย่ามายุ่งกับเขาขออยู่เงียบดีกว่า
“ครับ ถ้ามีอะไรให้คนไปเรียกตามนะครับ”
เขาเดินไปยังกลุ่มเพื่อนสนิททั้งหมดยืนรวมกลุ่มกันอยู่ โดยมีจัสมินนั่งอยู่ที่เก้าอี้ พอเห็นเขาเดินมา คิวกวักมือเรียกทันที
“เอาไป” เจโอยื่นแก้วไวน์ให้เขา “ดับอารมณ์หน่อย สงสารว่ะโดนลากไปทั่วเลย”
เขารับแก้วกระดกรวดเดียวหมด ก่อนจะหันไปคว้าอีกแก้วที่เพื่อนๆ ทยอยส่งมาให้จนหมดไปอีกแก้ว “ดีขึ้นหรือยังไนน์” เป็นวีที่ถาม
“อืม ค่อยยังชั่ว แล้วพวกหนึ่งกับคนอื่นไปไหนล่ะ” ไนน์เอ่ยถาม
“ไปคุยกับพวกนักธุรกิจและเพื่อนๆ ของพี่เขานะ” วีตอบมา บูยปากที่ตรงที่พวกพี่เขาคุยกับคนอื่นๆ
“ยินดีด้วยนะเพื่อน ในที่สุดมึงก็ต้องมาอยู่ในที่ควรจะอยู่เหมือนพวกกู” เป็นคิวที่พูดเหมือนจะเห็นใจตัวเองและแอบปนความสมน้ำหน้าเขาไปในตัว
“เออ” ไนน์กระแทกเสียง “จัสขอคุยกับหลานหน่อยดิ” เขาหันไปทักทายว่าที่คุณแม่ที่ตอนนี้ท้องได้4เดือนแล้ว
“มาดิ” เพื่อนสาวกวักมือให้เขานั่งย่อตัวลง
“กูคุยด้วย” เมเปิลก้าวมาและนั่งลงข้างๆ เพื่อน
ไนน์ยกนิ้วชี้ไปเคาะที่หน้าท้อง “ก๊อก ๆ ๆ หวัดดีมีใครอยู่ในนั้นไหม นี่อาไนน์นะครับ”
“นี่อาเมเปิลนะลูก ไนน์ๆ หลานได้ยินเสียงพวกเรายังว่ะ” เมเปิลที่ทำท่าทางคุยกับหลานเหมือนเพื่อนเธอ หันมาถามด้วยความสงสัย
“ไม่รู้ว่ะ กูก็ทำไปงั้นแหละ”
“อ้าวไอ้สัด กูคิดว่ามึงรู้พัฒนาการของเด็กทารกในครรภ์สะอีก” ฝ่ามือหนักฟากที่ไหล่
“มึงก็ กูไม่ใช่ผัวมันนะ จะได้ใส่ใจรายละเอียดแบบนี้” เขาถลึงตาใส่เพื่อนสาวที่กำลังทะเลาะด้วย
น้ำเสียงที่เบาและนุ่มนวลดังออกมาว่าที่คุณแม่ “คุณอาทั้งสองหยุดทะเลาะกันนะคะ ถ้าหลานของคุณทั้งสองได้ยินคำที่ไม่สุภาพจะทำให้หลานของคุณอาติดนิสัยไม่ได้เอาได้นะคะ คุณอาทั้งสองโอเคไหมคะ”
“โอเคครับ”
“โอเคค่ะ”
และทั้งสองตามมาด้วยเสียงถอนหายใจ “เฮ้ย!!” พร้อมกัน และตามมาด้วยเสียงหัวเราะของเพื่อนทั้งกลุ่ม ที่เห็นว่าที่คุณแม่พูดด้วยเสียงอันไพเราะและนุ่มนวลที่สุดเท่าที่เคยได้ยินมาตั้งแต่เริ่มคบกันมา
เขาหันไปมองรอบๆ เห็นคนพี่กำลังเดินเข้ามาหา เขายกยิ้มให้ทันที แต่ตามมาด้วยเสียงกวนประสาทแทรกมาของเพื่อนคิว “เดี๋ยวนี้หัดยิ้มให้ผู้ชายนะครับ”
“สัด เสือก” คำด่าเบาที่เจ็บส่งไปให้ทันที
พอคนพี่ก้าวมาถึง เขาแนะนำให้รู้จัก “พวกมึงนี่พี่ซัน พี่ซันครับนี่เพื่อนผม วี เจโอ คิว เมเปิลและว่าที่คุณแม่จัสมิน” เขาผายมือไปตามเพื่อนแต่ละคน
“สวัสดีครับ พี่ฝากตัวด้วยนะครับ” ซันน้อมตัวให้เพื่อนเขา “พี่เอาเครื่องดื่มมาให้ครับ”
“ขอบคุณครับ” เขารับแก้วไวน์มาถือ เขากำลังจะคุยกับซันต่อ แต่ต้องชะงัดเมื่อมีคนเดินมาร่วมเพิ่มอีก
“สวัสดีเด็กๆ” ผู้หมวดทักทายเพื่อนเขา ด้วยความที่ออกมาสังคมกันบ่อยและพอจะคุ้นหน้าค่าตากันบ้าง “ไนน์ครับพี่เอาเครื่องดื่มมาให้” แก้วไวน์ยื่นมาตรงหน้าเขา
“ขอบคุณครับ แต่ผมมีแล้วครับ” เขายกเครื่องดื่มในมือขึ้นเล็กน้อยให้คนที่มาที่หลังดู
“สวัสดีครับคุณอาคิรา ยินดีที่ได้เจอกันอีกครั้งนะครับ” ผู้หมวดยื่นมาไป และซันเอื้อมมือมาจับและออกแรงบีบด้วยกันทั้งคู่
“สวัสดีครับผู้หมวดอาทิตย์ วันนี้จัดงานได้ดีเลยนะครับ” พูดจบก็ปล่อยมือออกจากกันแต่ยังส่งสายตาฟาดฟันกันต่อ
เจโอที่เห็นบรรยากาศมันเงียบจึงพูดออกมา “พวกมึง วันนี้ประมูลรูปถ่ายกูด้วยนะ รูปกูมาร่วมงานด้วย”
“ขอบคุณน้องเจโอด้วยนะครับ ที่ร่วมบริจาครูปถ่ายมาในงานนี้ น้องไนน์อยากได้รูปของเพื่อนไหมครับ พี่จะได้ประมูลรูปนี้ในนามเราให้” ผู้หมวดแสดงความสนิทกับเพื่อนในกลุ่มของไนน์
“ผมประมูลในนามของปู่ดีกว่าครับ ไม่รบกวนหมวดอาทิตย์” รอยยิ้มเลือนหายไปจากหน้าพร้อมกับหน้าที่แตกเป็นเสี่ยง
เมื่อไปไม่ถูกหลังโดนคนน้องหักหน้า “พี่ขอตัวไปดูงานต่อก่อนนะครับ แล้วค่อยคุยกันใหม่นะครับ” อาทิตย์เดินออกไป
“ช่างกล้ามาอวดรวยกับไอ้ไนน์ จะมาประมูลรูปถ่ายให้ คนอย่างเพื่อนกูเนี่ยต้องให้คนมาออกเงินให้ ตลกว่ะ” เมเปิลพูดออกมาด้วยน้ำเสียงติดตลกปนเย้ยหยัน
“แต่ว่าช่วงนี้เพื่อนกูร้อนแรงยิ่งกว่าจักรวาลวะอีก เล่นมีดวงอาทิตย์มาอยู่ในวงโคจรตั้งสองด้วย” เพื่อนคิวเริ่มแซวแล้ว และเพื่อนคนอื่นก็มองคนที่ยืนอยู่สลับกับคนที่เพิ่งเดินออกไป
“แต่ว่าเพื่อนเราจะยอมให้ดวงไหนอยู่ครับ” เจโอ
ตามมาด้วยจัสมิน “ก็เห็นกันอยู่ดูจากการรับเครื่องดื่มก็น่าจะรู้อยู่แล้วพวกมึง”
“จริงไหมไนน์ เอะ!หรือต้องถามพี่ซัน” เมเปิลทำท่าตกใจที่ไม่จริงใส่
พอโดนรุมแซวจากเพื่อน ใบหน้าและใบหูเริ่มมีสีแดงระเรื่อ เขาถลึงตาใส่พวกมัน “พูดมากเกินไปแล้ว พี่ซันครับไปหาอะไรกิน...ทางนู้ดีกว่า” ไนน์เกาแก้มแก้เขิน และชี้นิ้วไปมาก่อนจะจบลงที่โต๊ะอาหารที่ห่างออกไปและดันตัวคนพี่ให้ออกเดิน
“ไปก่อนนะครับ” ซันบอกกับเพื่อนเขา
“ฮั่นแน่ รีบหนีเลยนะคุณไนน์” เสียงดังตามหลังของเพื่อนวี
ซันพาน้องไปหยิบอาหารแบบคอกเทลใส่จานมาสามสี่ชิ้นและเดินไปหามุมปลอดคนยืนคุยกัน
ร่างสูงจ้องคนที่กำลังเคี้ยวอาหารอยู่ “มองอะไรครับ?”
“วันนี้พี่ยังไม่ได้ชมเราเลย วันนี้แต่งตัวหล่อมากครับ หล่อตั้งแต่เดินเข้ามาแล้ว”
ไนน์เม้มปากด้วยความเขินที่โดนชมต่อหน้าด้วยแววตาที่หวานเยิ้ม “พี่ซันก็หล่อ ว่าแต่ตกสาวๆ ไปกี่คนแล้วครับ”
คนพี่เลิกคิ้วมองหน้า “พี่เลิกตกใครต่อใครตั้งแต่พี่กลับมาจากสมุยแล้วครับ แต่จะว่าไปตกคนที่อยู่ตรงหน้ากลับคอนโดได้ไหมครับ อยากฟัดมากเลย” ร่างสูงยกยิ้มอย่างมีเสน่ห์
“...” ร่างโปร่งเม้มปาก และเผลอกัดปากเขินไปด้วย
“อยากจูบว่ะ” เสียงบ่นของคนพี่ดังขึ้นแต่ไม่ดังมากแค่ได้ยินกันเพียงสองคน
“…”
ซันหลับตาข่มตัวเองในใจ “ไนน์ครับ จิบไวน์ให้พี่สักอึกครับ”
“ห๊ะ! ไวน์ถ้ากินนี่แก้วที่สี่แล้วนะครับ” เขางงในอาการของคนพี่ ตอนแรกบ่นอยากจูบ และมาบอกให้เขาจิบไวน์ เขายกแก้วไวน์ที่ถือในมือขึ้นจิบเล็กน้อย
ร่างสูงแบบมือ “ขอแก้วด้วยครับ” เขาส่งแก้วให้คิ้วขมวดตามด้วย “มุมนี้ใช่ไหม” ซันหมุนมุมแก้วและยกแก้วจรดริมฝีปาก ปล่อยให้ไวน์ไหลลงคอไป “จูบตรงนี้ไม่ได้ จูบทางอ้อมผ่านแก้วไวน์ก็ยังดีว่ะ”
ไนน์ตาโตหายสงสัยอาการที่คนพี่ทำแล้ว เขายกมือมาลูบแก้มที่เห่อร้อนขึ้นมาด้วยอาการเขินอย่างชัดเจน ส่วนซันยิ้มกว้างในคนน้อง
“ไนน์ครับ ปู่ให้มาตามไปร่วมงานได้แล้วครับ” พี่ชายคนโตเดินมาตามเขา ตวัดสายตาไม่พอใจให้อีกคน
“ครับ” เขายกยิ้มให้ร่างสูงและเดินออกไป เขาและคนอื่นๆ ต้องเข้าไปร่วมงานจึงแยกจากกันไปทำหน้าที่ของตัวเอง
เริ่มต้นประมูลด้วยภาพวาดของศิลปินชื่อดังของเมืองไทยที่เพิ่งมีชื่อเสียงไม่นานมานี้เป็นภาพแรก และสลับกับภาพถ่ายของช่างภาพที่ได้รับการชนะการประกวดจากต่างประเทศ และแน่นอนคนอย่างไนน์แค่นั่งมองมันผ่านไปเรื่อยๆ เขาไม่ชอบงานแบบนี้ ผ่านไปราวสามชั่วโมงการประมูลสิ้นสุดลง ส่วนรูปของเพื่อนเจโอ ฝั่งพ่อของเพื่อนเป็นคนเก็บไปในราคาห้าล้านบาท
ไนน์ส่งข้อความไปหาซัน ‘เลิกงานแล้วเจอกันที่ห้องน้ำนะครับ ถ้าถึงแล้วบอกกด้วย’ คนพี่ตอบมาว่าโอเคแค่เท่านั้น หมวดอาทิตย์ที่พยายามขอมาส่งเขา ไนน์หลีบเลี่ยงโดนบอกว่าจะมาเข้าห้องน้ำและหนีมาอย่างรวดเร็ว
ร่างโปร่งดันคนที่รออยู่เข้าไปให้ห้องน้ำตามด้วยลงกลอนประตู พื้นที่คับแคบสำหรับผู้ชายสองคน บังคับให้คนพี่นั่งบนชักโครกส่วนตัวเขาเองปีนขึ้นไปนั่งบนตัก มือบางๆ ประคองใบหน้า ริมฝีปากบางประกบลงอวัยวะเดียวกัน คนน้องละเมียดละไมชิมปากคนพี่ ลิ้นร้อนไล่เลีย แทรกเข้าไปในโพรงปาก ตวัดรับกันอย่างหิวกระหาย จูบจากหอมหวานกลายเป็นเร่าร้อน ปลุกอารมณ์หวาบหวามขึ้น มือหนาๆ ที่ว่างนวดขย้ำลงบนสะโพก เสียงจูบที่ดังจ๊วบ จ๊าบหากมือใครเข้ามาภายในห้องย่อมได้ยินอย่างแน่นอน คนน้องถอนริมฝีปากออก ก่อนจะเข้ามากัดดึงริมฝีปากล่างซ้ำอีกที
“คิดว่าอยากจูบคนเดียวเหรอ” ไนน์ลุกออกจากตักเดินไปถอดกลอนประตูและหันมาบอกอีกคนที่นั่งค้างอยู่ “ฝันดีครับพี่ซัน” เดินออกไปจากห้องน้ำ
ซันขบกรามแน่นก้มลงไปมองสิ่งที่ปูดบวมในกางเกง “กลับมารับผิดชอบนะเจ้าตัวแสบ”
Tbc…