2

 

หวานเอ๋อร์นั้นแม้จะไม่ฉลาดนัก แต่นางก็อยู่ข้างกายคุณหนูใหญ่มาตลอด สาวรับใช้คนไหนๆ ก็ไม่สามารถดูแลหรงลี่จูได้ดีเท่านาง แม้แต่บั้นปลายชีวิต หวานเอ๋อร์ก็ไม่ทอดทิ้งนางไปไหน คิดถึงข้อนี้คุณหนูใหญ่อย่างนางคงต้องใจดีกับบ่าวผู้นี้ให้มากเสียหน่อย

"เดี๋ยว ตอนเย็นเจ้าไปสั่งอาหารที่ภัตตาคารหมานเหลามาสองชุด เหลือจากนั้นให้เจ้าแวะซื้อผ้าสวยๆ กลับมาทำชุดสักหน่อย"

คุณหนูใหญ่สั่งการเสร็จสรรพก็ก้มหน้าก้มตาเขียนบางอย่างต่อ

นางนั่งคิดหาหนทางหนีทีไล่เอาไว้รับกับปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้น นางรู้ว่าพรุ่งนี้สวีจวิ้นอ๋องจะเสด็จมาที่จวน อ้างเรื่องราวเมื่อครั้งนางตกน้ำ เยี่ยมดูอาการเพื่อสานต่อความสัมพันธ์วางรากฐานให้ตัวเองในราชสำนักในอนาคต

"ข้าจะยับยั้งการพบเจอครั้งนี้ให้จงได้ ค่อยดูเถิด!"

แต่เหตุใดยิ่งขัดขวาง ยิ่งเร่งให้หญิงชั่วชายโฉดเข้าวิวาห์กันเร็วขึ้น วันเวลาผ่านไปนานกว่าสิบคืน นับแต่วันนั้นที่สวีจวิ้นอ๋องเสด็จมา ก็มีหรงลี่จิ่นคุณหนูรองคอยปรนนิบัติต้อนรับ นางลืมคิดถึงข้อนี้ไปได้อย่างไร

"นี่ข้าเปิดโอกาสให้พวกคนชั่วรู้จักสนิทสนมชิดเชื้อเพิ่มขึ้นเช่นนั้นหรือ"

สวีจวิ้นอ๋องเองเมื่อเห็นว่าคุณหนูใหญ่ไม่มีทีท่าจะเล่นด้วย เขาจึงเปลี่ยนเป้าหมายไปที่คุณหนูรองทันที หรงเวินซวินเสนาบดีฝ่ายขวาผู้เป็นบิดาก็ดูจะเห็นดีเห็นงามไปด้วย

'หึ สวีจวิ้นอ๋อง! การแสดงของเจ้ามันจะแนบเนียนเท่าไรกันเชียว ข้าอยากจะรู้นักว่าเจ้าจะแสดงออกเช่นไร เมื่อเจอฤทธิ์นางมารเช่นข้า!'

คุณหนูใหญ่หลบอยู่มุมหนึ่งมองดูคนชั่วเสวนาสังสรรค์กัน ก่อนจะสะบัดก้นเดินหนีกลับไปยังเรือนที่พักของตน ขบคิดหาหนทางให้ธาตุแท้ของอ๋องชั่วโผล่ออกมาให้น้องสาวได้เห็น หวังไว้ว่านางจะมีแก่ใจใฝ่ดีอยู่บ้าง

"หวานเอ๋อร์..."

คุณหนูใหญ่กระซิบกระซาบบางอย่างข้างหูสาวรับใช้คนสนิท

"ทำเช่นนั้นจะดีหรือเจ้าคะคุณหนู?"

"ข้าว่าดีก็ดี หากเกิดปัญหาใด ข้าจะรับผิดชอบแทนเจ้าเอง! ไปเตรียมชุดให้ข้า"

คุณหนูใหญ่เปลี่ยนอาภรณ์และเครื่องประดับเสียใหม่ให้ดูสวยสง่า ดำเนินตามแผนการที่วางไว้ นางสั่งให้หวานเอ๋อร์เตรียมชากับขนมขบเขี้ยวเพื่อต้อนรับสวีจวิ้นอ๋องที่ม้านั่งในสวนด้านหลังของจวน ทั้งยังสั่งให้หวานเอ๋อร์ไปดักรอทูลเชิญสวีจวิ้นอ๋องมาพบนางที่นี่ ตั้งใจจะจัดฉากให้คุณหนูรองมาเห็นการแสดงฉากนี้

"ทูลท่านอ๋อง คุณหนูใหญ่เอ่อ..เรียนเชิญเพคะ"

หวานเอ๋อร์วิ่งไปดักสวีจวิ้นอ๋องรั้งพระองค์ไว้รีบแจ้งสารของคุณหนูใหญ่แก่เขา เมื่อเห็นว่าพระองค์เดินออกมาจากเรือนรับรองเพียงลำพังไร้วี่แววองครักษ์หรือคนสนิทข้างกาย

"คุณหนูใหญ่เช่นนั้นหรือ?"

สวีจวิ้นอ๋องรอบยิ้มอย่างพอใจ คิดว่าคุณหนูใหญ่นี่เริ่มจะฉลาดขึ้นมาเสียบ้างแล้ว ไม่เช่นนั้นคงไม่แอบส่งสาวรับใช้มาพบพระองค์เช่นนี้

"เพคะ คุณหนูสั่งว่าให้บ่าวทูลเชิญท่านอ๋องเสด็จให้ได้ คุณหนูมีเรื่องที่ต้องตรัส เออพูดต่อหน้า..."

หวานเอ๋อร์ใช้คำราชาศัพท์กระท่อนกระแท่นพยายามส่งสารให้ครบ แต่ยังไม่ทันจะได้พูดจบประโยค สวีจวิ้นอ๋องก็ตัดความรำคาญบอกให้นางรีบนำทางเขาไปพบคุณหนูของนางเสีย

หวานเอ๋อร์นำทางท่านอ๋องมายังจุดนัดพบ ก่อนจะปลีกตัวไปทำงานสำคัญอีกอย่างให้สำเร็จตามแผนการของคุณหนูใหญ่หรงลี่จู

"ขอคารวะสวีจวิ้นอ๋องเพคะ"

คุณหนูใหญ่แสดงท่าทางนอบน้อม พูดจาไพเราะอ่อนหวานเอ่ยปากขอบพระคุณที่พระองค์เคยช่วยนางไว้เมื่อครั้งก่อน จีบปากจีบคอแสร้งพูดว่าเสียใจที่ตนเองไม่มีโอกาสได้ออกไปต้อนรับพระองค์ด้วยตัวเอง เพราะปัญหาเรื่องสุขภาพจากเหตุการณ์วันนั้น โป้ปดพระองค์ว่าอาการเพิ่งดีขึ้นเมื่ออาทิตย์ก่อน แต่เมื่อครั้นพระองค์เสด็จมาอีกจะออกไปรับหน้าก็รู้สึกเกรงใจน้องสาว

อ้างเหตุผลว่าตนเองไม่อยากเข้าไปทำลายความสัมพันธ์ของผู้ใด โดยเฉพาะจิ่นเอ๋อร์น้องสาวสุดที่รักด้วยแล้วตนไม่มีทางทำได้แน่ แต่ครั้นจะไม่ให้ตนเอ่ยปากขอบพระคุณพระองค์เลย นางก็ทำไม่ได้ วันนี้เลยตัดสินใจให้สาวรับใช้ไปทูลเชิญพระองค์เสด็จมาเพื่อแสดงการขอบพระคุณด้วยความจริงใจ

'เอาสิ ให้มันรู้ไปว่าผู้ใดจะเสแสร้งได้เก่งกว่ากัน! หึหึหึ'

เมื่อสวีจวิ้นอ๋องทรงได้ฟังเช่นนั้นก็รู้สึกพอใจมาก ไม่กล่าวโทษนางสักคำทั้งยังเอ่ยปากให้นางเรียกพระองค์อย่างที่คิดว่าเหมาะสมด้วย เดิมสวีจวิ้นอ๋องคิดจะเปลี่ยนเป้าหมายเป็นคุณหนูรอง แต่พอพระองค์ทรงได้พบนางและได้ยินคำพูดของคุณหนูใหญ่เช่นนี้ พระองค์ก็คิดว่ายังพอมีหวัง

"จูเอ๋อร์ เจ้าเข้าใจข้าผิดแล้ว ความสัมพันธ์ของข้ากับน้องสาวของเจ้าไม่ได้เป็นดังที่เจ้าคิดเลยสักนิด"

สวีจวิ้นอ๋องส่งยิ้มพิมพ์ใจให้แก่หรงลี่จู หากให้พระองค์ต้องเลือกอภิเษกสมรสออกหน้าออกตาระหว่างบุตรสาวคนใดคนหนึ่งของใต้เท้าหรงแล้ว คุณหนูใหญ่ย่อมเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด นอกจากจะเป็นบุตรีที่ใต้เท้าทรงรักใคร่แล้วนางยังเป็นบุตรที่เกิดจากฮูหยินเอกที่เป็นบุตรสายตรง หากนำไปเปรียบเทียบกับคุณหนูรอง หรงลี่จิ่นแล้วคุณหนูรองย่อมเป็นรองอยู่มาก แม้อากัปกิริยาของนางจะถูกใจกระตุ้นต่อมบุรุษของพระองค์ได้มาก แต่มารดาของนางก็เป็นแค่สาวใช้อุ่นเตียงเท่านั้น จะเอามาเทียบกับคุณหนูใหญ่ได้อย่างไร เห็นทีข่าวลือที่ว่าคุณหนูใหญ่จวนสกุลหรงนั้นร้ายจะไม่เป็นจริงนัก หากจะจริงก็เป็นแค่เพียงส่วนน้อย หลังจากที่สวีจวิ้นอ๋องทรงสังเกตอากัปกิริยาท่าทางของนางในวันนี้แล้วมันช่างผิดแปลกไปจากที่พระองค์ได้ยินมาเหลือคณา

"ถ้าเช่นนั้น..."

"เช่นนั้นอย่างไรหรือ?"

"เช่นนั้นที่หม่อมฉันได้ยินท่านพ่อกับเออ.. น้องรองพูดกัน ไม่ใช่ความจริงหรือเพคะ"

"แล้วเรื่องอันใดเล่า ที่เจ้าได้ยินมา"

"เออ..เป็นเรื่องความสัมพันธ์เพคะ ...ที่พระองค์ทรงแสดงออกต่อน้องรอง"

คุณหนูใหญ่ยังจีบปากจีบคอแสดงออกอย่างอ่อนหวาน แสร้งพูดในสิ่งที่ตนได้ยินมา เมื่อเห็นน้องสาวตัวดียืนอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลจากศาลานัก