11 ตอน 10 สาวงามในกองทัพ
โดย เซียนหนวี่เยาเยา
10
คุณหนูหรงลี่จูก้มหน้างุดอย่างเขินอาย มีอย่างที่ไหนสมรสทั้งที แทนที่เขาจะพานางกลับจวน แต่พานางมาถึงค่ายทหารเสียอย่างนั้น ทหารทั้งกองทัพหันมามองม้าคู่ใจของท่านรองแม่ทัพอย่างสนใจ แต่ที่ทุกคนชอบใจคืออาการเขินอายของคู่รักข้าวใหม่ปลามันที่นั่งอยู่บนม้าต่างหาก
'นี่ถ้าไม่ใช่รถม้าใช้การไม่ได้ ข้าคงไม่ตัดสินใจขึ้นม้ามากับเขาแน่'
หรงลี่จูคิดค้านภายในใจ แผ่นหลังตั้งตรงก้มหน้างุดอย่างเขินอาย
"ฮิ้วววว~"
เสียงวี้ดร้อง กึกก้องที่เห็นท่านรองแม่ทัพกลับมายังค่ายทหารอย่างปลอดภัย ไม่กี่ชั่วยามก่อนพวกเขาเห็นท่านรองแม่ทัพเร่งรุดควบม้าศึกคู่ใจออกไปจากค่ายผู้เดียว แต่ขากลับยังมีแก่ใจโอบกอดสาวงามพากลับค่ายมาด้วยเสียอย่างนั้น ทั้งเมื่อเห็นชุดสีแดงที่นางสวมใส่ ข่าวลืองานสมรสของทั้งคู่ก็กระฉ่อนไปทั่วทั้งค่ายอย่างไม่ต้องสงสัย
"เหตุใดท่านไม่พาข้ากลับไปที่จวนเล่า"
"ผัวอยู่นี่เมียจะไปไหนเล่า"
บุรุษข้างหลังยียวน ตั้งแต่ที่นางขึ้นมาบนหลังม้า ฮูหยินของเขาก็นั่งตัวตรงไม่คิดพึ่งพิงหน้าอกแกร่งของเขาเลยสักครา แม้จะเห็นว่านางตื่นกลัวกับความสูงของม้าอาชาดีไปบ้าง แต่ก็ยังทรงตัวได้ดีไม่คิดพึ่งพิงผู้เป็นสามี งานนี้นอกจากเขาจะไม่พานางกลับจวนแล้ว เขายังพานางกลับมายังกระโจมในค่ายเสียด้วยเลย
"นี่! "
คุณหนูใหญ่ตั้งใจจะโวย แต่ก็ต้องข่มใจให้สงบลงพยายามระงับอารมณ์โกรธภายในใจ เมื่อนึกถึงผลประโยชน์ที่ตนต้องการจากเขาในอนาคต นางจำต้องอดทนให้มาก ต่างที่ต่างแดนแบบนี้นอกจากเขาแล้ว นางกับหวานเอ๋อร์ยังจะพึ่งพาผู้ใดได้อีก
"เชิญฮูหยิน"
ท่านรองแม่ทัพลงจากม้าอย่างสง่าผ่าเผยก่อนจะส่งมือไปให้ฮูหยินของตนลงมาจากอาชาคู่ใจ
"ขอบใจท่านมาก"
"หึ หน้าที่บุรุษ"
สามีของนางแสยะยิ้มก่อนจะพูดในสิ่งที่คิด คำพูดของเขาช่างห้วน และฟังดูยียวนกวนประสาทเสียเหลือเกิน แต่นางจะต้องอดทน กัดฟัน นางต้องแสดงออกอย่างอ่อนหวานให้สมดังสตรีที่ถูกอบรมเลี้ยงดูมาอย่างดี หรงลี่จูลงจากม้ามายืนข้างๆ ท่านรองแม่ทัพ ก่อนที่เขาจะหันไปสั่งนายทหารให้พาหวานเอ๋อร์ไปยังจวนที่พักก่อน
"ข้า.. เออต้องอยู่ที่นี่ตลอดเลยไหม? หากต้องการเออ..ใช้น้ำ ต้องไปที่ใด"
"ทุกวันจะมีน้ำมาส่งที่กระโจมวันละครั้ง ฮูหยินสามารถใช้ได้ในช่วงเย็น"
"แล้ว..นอนอย่างไร หวานเอ๋อร์สาวรับใช้ของข้าสามารถพักกับข้าได้หรือไม่"
"เรื่องนั้น.. เชิญฮูหยินพักในกระโจมของข้า ส่วนสาวรับใช้ของเจ้า ก็พักอีกกระโจม"
"แต่.."
"ข้ายังมีราชการสำคัญต้องไปหารือการศึก หากเป็นไปได้อย่าได้เที่ยวเดินเล่นเตร่ไปไหนไกล ทหารที่นี่ไม่พบหน้าเมียมาหลายสิบวัน ข้าเกรงว่า..."
ท่านรองแม่ทัพเดินมาส่งฮูหยินของเขาที่หน้ากระโจมก่อนจะเอ่ยขอตัว ไม่ลืมที่จะกระซิบกระซาบพูดจากวนประสาทนางก่อนไป
'.. แล้วผู้ใดใช้ให้ท่านพาข้ากลับมาที่นี่ด้วยเล่า!!'
ฮูหยินคิ้วขมวดสับสนไปหมด ว่าตอนนี้ตนต้องทำอย่างไร นางก้มมองดูชุดที่สวมใส่อย่างมึนงง ทั้งอยากอาบน้ำเพราะเรอะเปรอะเปื้อนฝุ่นไปหมด แต่.. พิธี
"เคารพฮูหยินน้อย!"
เสียงนายทหารเฝ้าหน้ากระโจมเอ่ยทำความเคารพนาง ก่อนที่หวานเอ๋อร์จะโผล่ออกมาต้อนรับนายตน
"เจ้า.. คนที่ข้าเจอครั้งก่อนใช่หรือไม่ มีนามว่ากระไร?"
นางจำได้ว่าคนผู้นี้คือคนที่เจอที่ภัตตาคารที่เมืองหลวงครั้งก่อน
"เรียนฮูหยิน ข้าน้อยกุ้ยไห่ส่วนนั่นพี่ชายของข้ามีนามว่ากวางหานขอรับ"
หลังจากทำความรู้จักทหารเฝ้ากระโจมเสร็จแล้ว ฮูหยินน้อยอย่างนางก็เลือกที่จะอาบน้ำเสียทีหลังจากที่รอเขามาเนิ่นนาน แต่ก็ไม่มีทีท่าว่าท่านรองแม่ทัพจะกลับมา
"หวานเอ๋อร์เจ้าลองไปดูสิต้องประชุมอีกนานไหม?"
"แต่ว่า.."
หวานเอ๋อร์แสดงสีหน้าเป็นกังวล เพราะข้างนอกเต็มไปด้วยเหล่าทหาร และเวลานี้ตะวันก็ตกดินไปหลายชั่วยามแล้ว อาหารที่ทหารยกมา นางก็ไม่กล้าที่จะแตะก่อนสามี ทั้งๆ ที่ตนเองก็หิวจนท่องไส้กิ่วไปหมดแล้ว แม้จะอิดออดแต่หวานเอ๋อร์ก็จำต้องออกไปสอดส่องตามที่คุณหนูของตนสั่ง เพราะนางขู่ว่าหากไม่ไปนางจำเป็นต้องไปเอง
คุณหนูใหญ่นั่งหลับตานิ่งสงบ รู้สึกเมื่อยล้าไปทั้งตัว ก่อนหน้านี้นางเดินสำรวจภายในกระโจมแล้ว ทำให้นางพอจะคาดเดาลักษณะนิสัยของท่านรองแม่ทัพผู้นี้ได้บ้าง ดูจากข้าวของที่เป็นระเบียบเรียบร้อย ไม่มีเครื่องเงิน เครื่องทองของมีค่า เห็นจะมีก็แต่เอกสารงานราชการ ทำให้นางรู้สึกว่าเขาไม่ใช่คนมักใหญ่ใฝ่สูง แสวงหาอำนาจเพื่อผลประโยชน์ของตน ทั้งหมดที่เขาทำอยู่นี้ก็เพื่อแว่นแคว้นอย่างแท้จริง
"คุณหนูเจ้าคะ แย่แล้วเจ้าค่ะ ข้าเห็นหญิงสาวเจ้าค่ะ ดูเหมือนจะเป็นหญิงคณิกา ทำท่าลับๆ ล่อๆ เข้าไปในกระโจมที่ท่านรองแม่ทัพเข้าๆ ออกๆ"
คำว่า 'หญิงคณิกา' ทำให้คุณหนูใหญ่หูผึ่งควันออกหูขึ้นมาทันที ประจวบเหมาะกับเสียงบทสนทนาที่ได้ยินหน้ากระโจมนั้นอีก
"ข้าก็ทำเช่นนี้อยู่เป็นประจำ เหตุใดวันนี้ถึงเข้าไปในกระโจมไม่ได้"
"ผ้าเสร็จเรียบร้อยแล้ว รบกวนแม่นางส่งให้ข้าเถิด"
"ได้อย่างไรกัน เจ้าจะรู้จักวิธีพับผ้าได้ดีเยี่ยงสตรีรึ ที่สำคัญเสื้อผ้าพวกนี้ซ่อมแซมเสร็จแล้ว ข้าจำเป็นต้องพับเก็บให้เป็นที่ เจ้าอยู่ข้างกายรองแม่ทัพมาก็นาน ก็น่าจะพอรู้จักนิสัยความเป็นระเบียบของรองแม่ทัพมาบ้าง"
"แต่..."
"เป็นเช่นแม่นางว่า บุรุษจะรู้จักวิธีพับผ้าอย่างประณีตเช่นสตรีได้อย่างไร หวานเอ๋อร์.."
คุณหนูใหญ่เอ่ยท้วง เดินออกมาหน้ากระโจมหลังจากที่ฟังมานาน ยกมือห้ามทหารผู้นั้นที่กำลังจะทำความเคารพ พร้อมกับยิ้มให้ส่งสายตาว่าปัญหาเหล่านี้นางจะจัดการเอง อากัปกิริยาท่าทางงดงามวาจาอ่อนช้อยไม่มีอาการหรือท่าทางโมโหแต่อย่างไร นางเพียงแต่หันไปสั่งให้สาวรับใช้ไปรับกองผ้าผืนนั้นมา ก่อนจะตบท้ายด้วยคำพูดนิ่มๆ แต่เชือดเฉือนไปทั้งหัวใจ
"แต่.. เรื่องภายในจวนของท่านรองแม่ทัพเกรงว่าต่อไปคงจะไม่ต้องรบกวนแม่นางให้ลำบากแล้ว เรื่องยิบย่อยพวกนี้ปล่อยให้เป็นหน้าที่ข้าดีกว่า ไม่รบกวนเจ้า"
'หึ ข้าพูดถึงขนาดนี้หวังว่าเจ้าจะเข้าใจนะ'
Comments (0)