ที่ตรงข้ามเตียงมีโซฟาที่มีสีเหมือนผ้าปูที่นอนซึ่งรองรับร่างเปลือยของทั้งสองอย่างกับหลุดออกมาจากแคตตาล็อกเดียวกัน ข้าง ๆ มีกระเป๋าเดินทางสีน้ำตาลซึ่งถูกกองหนังสือทับ นอกจากนี้ผนังยังถูกตกแต่งไปด้วยรูปสเก็ตช์มากมายที่ถูกแขวนไว้ มีประตูสองบาน บานที่อยู่ฝั่งของปิแอร์ และบานที่อยู่ใกล้ซีกฟรีตมากกว่า

“เฮ้ย!” ปิแอร์รีบผลักอีกฝ่ายทันที ตัวของเขาสั่นด้วยความโกรธและความกลัว ตรงข้ามกับชายหนุ่มผมสีน้ำตาลที่นอนตะแคงท่าทางสบายใจ “ร้องทำไมเล่า? ตกใจหมดเลย” ซีกฟรีตว่าอย่างยิ้ม ๆ มองดูปิแอร์ที่ตื่นตระหนก เขาลุกขึ้นมาและรีบวิ่งไปที่ประตูฝั่งซ้ายมือ ผ่านเสื้อผ้าที่กระจัดกระจายอยู่บนพื้นไม้ ชายหนุ่มชะงักเพื่อเก็บบางชิ้นขึ้นมา ก่อนจะรีบเปิดประตูและวิ่งออกไป

“จนได้..” ซีกฟรีตกุมขมับและส่ายหัวเบา ๆ เขาลุกขึ้นและวิ่งตามปิแอร์ออกไปติด ๆ ชายหนุ่มผมสีทองยืนอึ้งอยู่ เบื้องหน้าของเขาคือป่า แดดยามเช้าสาดส่องลงมาจ้าจนปิแอร์ต้องหรี่ตา แต่ก่อนที่ชายหนุ่มจะวิ่งไปไหนอีกเจ้าของบ้านก็กระโดดตะครุบเอาไว้ ซีกฟรีตวางเข่าข้างขวาของตนบนข้อพับของอีกฝ่าย ลงน้ำหนักบนนั้นจนปิแอร์ต้องกัดฟันเพื่อไม่ให้เสียงร้องเล็ดลอดออกมา

“ฉันอยู่ที่ไหน!?” เขาพยายามดิ้นแต่ซีกฟรีตก็ใช้มือสองข้างกดไหล่เอาไว้ ด้วยเหตุใดก็ไม่รู้ทั้ง ๆ ที่แรงกดก็ไม่ได้มากอะไรแต่ชายหนุ่มก็รู้สึกเจ็บปวดที่ขาทั้งสองและชาที่ไหล่ซ้ายมากจนขยับไม่ได้ มีเพียงมือขวาเท่านั้นที่ชายหนุ่มพอจะช่วยดันตัวได้ แต่มันก็ไม่เป็นผล แรงน้อยเกินไป


“ไม่รู้สิ Bed and Breakfast ละมั้ง?” ซีกฟรีตตอบอย่างยียวนก่อนจะลุกขึ้นมา แต่แล้วเขาก็ต้องหุบยิ้มเมื่อเห็นปิแอร์ยังพยายามใช้มือข้างเดียวที่เหลือตะเกียกตะกายหนีไปอย่างน่าเวทนา “ฉันไม่ชอบคนมีความพยายามเลย...มันน่ารำคาญ” ว่าแล้วชายหนุ่มผมสีน้ำตาลก็ใช้ขาขวากระทืบมือขวาด้วยส้นอย่างแรง ซ้ำไปซ้ามา ก่อนที่จะลากขาของอีกฝ่ายเข้ามาในห้องนอนอีกครั้ง

ปิแอร์นอนคว่ำหมดสภาพอยู่บนพื้นไม้ ทำอะไรไม่ได้นอกจากแน่นิ่งให้ฝุ่นเข้าจมูก ซีกฟรีตทำอย่างนั้นได้อย่างไรกันนะ นั่นคือคำถามที่วนซ้ำไปซ้ำมาในหัวของหนุ่มผมทอง ในขณะเดียวกันเจ้าของบ้านก็ง่วนอยู่กับการหาอะไรสักอย่างในลิ้นชักใหญ่ข้างเตียงฝั่งที่ปิแอร์นอน เครื่องเล่นแผ่นเสียงแบบพกพาและเพลงไม่กี่แผ่นถูกวางไว้บนมัน เดาว่าเขาเป็นพวกชอบของเก่า

เมื่อไม่ได้มองอยู่ ปิแอร์ก็กัดฟันใช้แขนทั้งสองข้างดันตัวขึ้นจากไม้แข็ง ๆ อย่างทุลักทุเล หยดเหงื่อเริ่มแตกพลั่กจากหน้าผาก แขนของเขาเหมือนโดนทุบด้วยท่อนเหล็ก ทว่าภายนอกกลับไม่มีบาดแผลหรือแม้แต่รอยช้ำ จะเจ็บแค่ไหนก็ร้องออกมาไม่ได้เด็ดขาด เดี๋ยวซีกฟรีตจะรู้

แต่ซีกฟรีตก็รู้อยู่ดี เขาหันมาก็พบกับปิแอร์ที่พยายามจะเอื้อมไปที่ลูกบิด ชายหนุ่มเดินลงส้นอย่างหยามเหยียดพร้อมกับกุญแจในมือ “ขอโทษนะ” ชายหนุ่มผมสีน้ำตาลพูดอย่างยิ้ม ๆ ก่อนจะล็อคประตูและเดินท่าเดิมไปเก็บมัน เขาใช้มือข้างนึงเท้าลิ้นชัก อีกมือเท้าสะเอว เห็นทรวดทรงของร่างที่สมส่วนชัดเจน ซีกฟรีตมีไหล่ที่กว้าง หน้าอกผาย เอวค่อนข้างเล็ก ส่วนกล้ามเนื้อก็กำลังพอดี ไม่มากไม่น้อยไป “อยากกินอะไรดี ระหว่างขนมปังปิ้งกับซีเรียล? ”

เมื่อเห็นอีกฝ่ายไม่ยอมตอบชายหนุ่มเจ้าของบ้านก็กรอกตาและถามอีกครั้งด้วยสีหน้าเป็นห่วง คราวนี้เท้าสะเอวทั้งสองข้าง “นายชอบกินอะไรล่ะ? หืม?” ซีกฟรีตดูเหมือนเป็นคนละคนกับชายหนุ่มที่กระทืบปิแอร์ข้างนอกเลย ด้วยความมึนงงชายหนุ่มผมสีทองก็เพียงแค่พงกหัวขึ้นมา ตอนนี้คงต้องตามน้ำไปก่อน “ซีเรียล?” น้ำเสียงของเขาไม่มีแรงเอาเสียเลย เหมือนกับแขนขานั่นแหละ “เยี่ยมเลย” ซีกฟรีตยิ้มดีใจ

เขาค่อย ๆ ลากปิแอร์ไปไว้บนเตียงฝั่งขวา จากท่าทางเก้ ๆ กัง ๆ และการเหนื่อยหอบแล้วปิแอร์ก็ดูออกได้อย่างง่ายดายว่าซีกฟรีตก็ไม่ได้เป็นคนที่
แข็งแรงนัก แทบจะเรียกว่าอ่อนปวกเปียกก็ได้ แต่ทำไมถึงทำให้ปิแอร์เจ็บหนักขนาดนี้ได้นั้นก็ไม่รู้เหมือนกัน

ชายหนุ่มเจ้าของบ้านห่มผ้าให้ปิแอร์อย่างทะนุถนอม ไม่กล้าสบตานัก แก้มแดงไปหมด จริงๆ แล้วซีกฟรีตก็ยังคงเขินปิแอร์อยู่ ชายหนุ่มผมสีทองใจชื้นขึ้นมานิดหน่อยที่อีกฝ่ายทำตัวดีแต่นั่นก็ยิ่งทำให้เขากังวลเพราะดูเหมือนว่า ซีกฟรีตนั้นจะเป็นพวกผีเข้าผีออก อารมณ์แปรปรวน “แล้วผมจะกินได้ยังไง” เขาถามอย่างกลัวๆ

“เดี๋ยวป้อน” ซีกฟรีตตอบห้วนๆ “รอแปปนึงละกัน” ว่าแล้วเขาก็ย่อตัวเพื่อหาเสื้อผ้าของตัวเองก่อนจะใส่กางเกงในสีดำและเดินออกไปทางประตูอีกบาน

เวลามันนานกว่าที่ควรจะเป็น ปิแอร์รู้สึกเหมือนต้องนอนรอเป็นผักอยู่หลายสิบนาที การจะหนีตอนนี้ก็คงไม่ได้การกระทำที่ฉลาดนักเท่าไหร่ เขาถอนหายใจและปาดเหงื่อ ถ้าหากว่าตัวเองระวังกว่านี้ก็คงดี ถ้าหากว่าไม่เผลอบอกคนแปลกหน้าในทางเปลี่ยว ๆ ว่าเดินทางคนเดียวล่ะก็นะ แต่เอาจริง ๆ มันก็น่าจะรู้แต่แรกนี่นา เพราะไม่ได้เรียกใครขึ้นรถ ไม่สิ เขาไม่ควรออกไปไหนตอนกลางคืนต่างหาก ยิ่งคิดก็ยิ่งเครียด ปิแอร์มีที่อีกมากมายที่ต้องไป แต่มันจะจบลงที่นี่งั้นเหรอ?

ตอนนั้นเองที่ซีกฟรีตใช้หลังดันประตูเข้ามาพร้อมกับชามซีเรียลทั้งสอง “สีเขียวของฉัน สีฟ้าของนาย” ชายหนุ่มวางมันลงบนหลังตู้ที่มีลิ้นชัก แต่ก็ห่างจากเครื่องเล่นและแผ่นเสียงอย่างไม่น่าเป็นห่วง ซีกฟรีตคงมั่นใจในความระมัดระวังของตนเองน่าดู และระหว่างที่นั่งลงเขาก็พูดอีก “มันเป็นรสกล้วยด้วยนะ เขาใส่กล้วยแห้งลงไปด้วย อร่อยกว่าเดิมเยอะ ” ซีกฟรีตหยิบชามสีฟ้า ก่อนจะหันหน้าไปทางของชายหนุ่มที่นอนอยู่ “อ้าปาก”

ปิแอร์ยอมทำตามที่อีกฝ่ายว่าโดยง่าย ทุกอย่างผ่านไปด้วยดี เสียงกลืนอาหารอย่างลำบากใจดังอึก ๆ ซีกฟรีตเผลอยิ้มกว้างอย่างไม่รู้ตัว ชายหนุ่มผมสีทองขมวดคิ้วนิด ๆ พลางคิด อยากรู้ว่าในหัวของซีกฟรีตมีอะไรกันแน่ เขามองปิแอร์นานจนแปลก เจ้าของบ้านเอนตัวเข้าหาอีกฝ่ายเล็กน้อยจนปลายจมูกแทบจะสูดเส้นผมเข้าไป เขาดมฟุดฟิดก่อนจะพูดเบา ๆ “หัวหอมจังเลย”

“หืม? ” ปิแอร์ลูบผมตัวเอง เลิกคิ้วขึ้น

“ไม่น่าเชื่อเลยนะ..” ซีกฟรีตวางชามก่อนจะเขยิบตัวเข้าใกล้อย่างเคอะเขิน เขามองไปบนเพดานเหมือนคนช่างฝัน มือข้างหนึ่งคว้าอีกข้างของปิแอร์มากุมเอาไป “เขาตายไปแล้ว แต่ก็เหมือนอยู่ตรงนี้ ทั้งหน้าตา..” ชายหนุ่มหันมา “แล้วก็กลิ่นด้วย” ว่าแล้วก็ซบไหล่หนุ่มผมทอง

ปิแอร์อึดอัด เขาอยากจะสะบัดให้ออกไปแต่ก็รู้อยู่ว่าตอนนี้ที่ดีที่สุดก็คือปล่อยให้มันเป็นไป ไม่นานนักชายหนุ่มก็รู้สึกถึงการสั่น ซีกฟรีตตัวสั่น น้ำตาไหลอาบไหล่ของเขา “เฮ้!” ปิแอร์ว่า “ร้องไห้ทำไม”

ซีกฟรีตเงยหน้าขึ้นมา พยายามที่จะหยุดร้องไห้ เขาปล่อยมือจากอีกฝ่ายเพื่อขยี้ตา “ขอหอมหน่อยสิ” น้ำเสียงที่ถูกเอ่ยออกมานั้นช่างน่าสงสารเหลือเกิน ปิแอร์หลบตาสักพักก่อนจะตอบตกลง เจ้าของบ้านจูบอย่างอายๆ ที่ริมฝีปากของอีกฝ่าย ทุกอย่างเหมือนจะเป็นไปได้ด้วยดีจนกระทั่งเขาสอดลิ้นเข้าไป มือทั้งสองข้างเท้าที่นอนอยู่

ปิแอร์เป็นฝ่ายผละออกก่อน “น่าเสียดายนะที่ผมใช้มือประคองหัวคุณไม่ได้” ชายหนุ่มพูกจิกกัดก่อนจะพยายามยกมือขึ้นอย่างอยากลำบาก ซีกฟรีต แน่นอน ดูออกว่านั่นเป็นกลลวงแต่เขาก็อดไม่ได้ที่จะใช้ทำอะไรสักอย่าง “อย่าหนีไปไหนนะ..” ซีกฟรีตพูดเบา ๆ  คราวนี้มันไม่ใช้การออกคำสั่งแต่เป็นการขอร้องจากเด็กขี้แงคนหนึ่ง เขาบีบมือทั้งสองของปิแอร์จนอีกฝ่ายร้องจ๊าก มันเจ็บกว่าครั้งแรกเสียอีก ทว่าจู่ ๆ ก็รู้สึกว่ามันหายดีแล้ว

ชายหนุ่มผมทองกำแบกำแบสลับกันไปมองมือทั้งสองที่ปกติอย่างประหลาดใจ เป็นไปได้อย่างไรไม่รู้แต่ตอนนี้เขาพอคิดอะไรออก “อีกรอบไหมล่ะ? ถ้ามันทำให้นายรู้สึกดีขึ้น” เขาเอียงคอ หวังว่ามันจะได้ผลเพราะความอบอุ่นคือสิ่งที่ซีกฟรีตขาด “ก็ดี..” ซีกฟรีตตอบอย่างเขิน ๆ ก่อนจะเขยิบเข้าใกล้อีกและหลับตาลง ทว่าคราวนี้เป็นที่คอ ความร้อนจากร่างกายของปิแอร์ทำให้เขาสบายใจ

มือขวาของชายหนุ่มผมทองลูบหัวอีกฝ่ายเบา ๆ มืออีกข้างคว้าหมอนมาจับ เขาต้องมั่นใจว่าเป็นท่าที่ถนัดมือ

ทันใดนั้นเองที่ปิแอร์ใช้มือขวาผลักอีกฝ่ายจนล้มจากเตียง หัวเกือบกระแทกริมตู้ที่มีลิ้นชัก แต่มันก็เจ็บพอที่ทำให้ซีกฟรีตตกใจได้ “ทำอะไรน่ะ!” เขายั้วะมาก แต่ก่อนที่เจ้าของบ้านจะพยุงตัวเองขึ้นมาได้ปิแอร์ที่ถือหมอนอยู่ก็ปล่อยตัวให้ล้มลงมาทับซีกฟรีตโดยใช้หมอนอุดหน้าเอาไว้

ซีกฟรีตแรงน้อยสู้ปิแอร์ไม่ไหว แต่เขาดิ้นแรงมากเสียจนปิแอร์คิดว่ามันจะไม่ได้ผลเสียแล้ว ไม่นานนักทุกอย่างก็สงบลง ชายหนุ่มผมสีน้ำตาลหยุดดิ้นแล้ว ปิแอร์ปัดหมอนออกไปก่อนที่จะฟลุบลงบนร่างนิ่ง เหงื่อไหลเพราะความเหนื่อยล้าและเรื่องลุ้น

“มันจบแล้ว...” ชายหนุ่มกระซิบกับตัวเองซ้ำ ๆ