** Chapter Cover by Alexandra I. on Unsplash 

 

 

.

.

.

 

ไม่มีอะไรเกิดขึ้น...

ไม่มีเลย...

หรือความตายจริงๆ มันจะเป็นแบบนี้ คือมีแต่ความว่างเปล่ากันนะ...

 

ปูนึกแล้วค่อยๆ ลืมตาขึ้น ภาพที่พร่ามัวเริ่มแจ่มชัด พอมันชัดเขาก็อยากให้ตัวเองสลบให้นานกว่านี้

แต่ครั้งนี้ภาพอันสยดสยองเหล่านั้นตรึงดวงตาเขาค้างไว้ให้ต้องจ้องมันชัดๆ จ้องจนเห็นใบหน้าของอมนุษย์ทุกตนที่กำลังเบียดเสียดมุงล้อมเขาอยู่

บ้างมีดวงตาข้างเดียว บ้างไร้ดวงตา บ้างไม่มีจมูก บ้างไม่มีอะไรเลยบนใบหน้าเพราะมองดูเป็นเหมือนก้อนเนื้อเละๆ แผ่นเดียว หรือบางตัวก็ไม่มีคาง มองเห็นเพียงลิ้นแดงๆ ห้อยย้อยแกว่งไกว ฯลฯ

ตอนนั้นเองที่หยาดน้ำอุ่นๆ หยดรินออกมาทางหางตา ตามด้วยการสะอื้นเบาๆ เท่าที่ร่างกายอันบอบช้ำขยับได้

ข้อความในกระดาษนั้นเป็นเรื่องจริง โรงเรียนในเวลาหลังห้าโมงไม่ใช่ที่ของคนเป็น เพราะไม่มีทางที่คนเป็นๆ ที่ไหนจะมีสารรูปแบบนี้ และตอนนี้พวกมันกำลังมาเพื่อรุมกินโต๊ะเขา มันจะต้องฉีกทึ้งเขาเป็นชิ้นๆ ขาไปทาง แขนไปทาง ตับไตไส้พุง กล้ามเนื้อ และเส้นเอ็น ทุกส่วนต้องกลายเป็นอาหารอันโอชะให้ไอ้พวกจัญไรนี่

ปูคิดแล้วตัวสั่นเทิ้ม ความกลัวยังอยู่ แต่เพราะความโกรธที่ทวีขึ้นต่างหากที่ทำให้ร่างกายแสดงปฏิกิริยา

เขาก็แค่อยากใช้ชีวิตอย่างสงบ อยากแค่เรียนให้ดี เรียนเสร็จก็กลับหอนอน รอให้เวลาผ่านไปทีละวัน ถึงเวลาเขาจะได้เรียนให้จบๆ สอบชิงทุนแล้วไปให้พ้นจากที่เส็งเคร็งที่ความเจริญจะเข้าไม่ถึงสักทีแบบนี้ อยากช่วยแม่ช่วยน้องให้มีชีวิตที่ดีขึ้น อยากแบ่งเบาภาระท่าน เขาก็แค่อยากมีความสุขตามอรรถภาพ ไม่ต้องรวย ไม่ต้องโก้หรูก็ได้

เขาต้องการแค่นี้เอง ทำไมถึงต้องมาเจอเรื่องเฮงซวยบัดซบขนาดนี้ด้วย มันเพราะอะไรกัน?!!

“ไอ้ดำ!!!!!!”

ปูรีดแรงทั้งหมดที่แฝงอยู่มาแปรเป็นเสียงตะเบงออกไปจนดังก้องไปทั่วพื้นลาน สะท้อนไปกับตรอกมุมซอกหลืบของอาคารที่ตั้งโอบล้อม แล้วตีกลับมาเป็นเสียงหวีดหวิวฟังดูวังเวงโหยหวนไม่รู้ความ

 

ไอ้เพื่อนชั่ว!

 

ไอ้เพื่อนระยำ!

 

ไอ้เพื่อนไม่รักดี!

 

ไอ้เพื่อนไม่มีสมอง!

 

ไอ้เพื่อนสารเลว!

 

“มึงด่ากูพอหรือยัง!?!”

 

ปูสำลักลมหายใจติดขัดเมื่อคอเสื้อที่เปียกเลือดจนโชกถูกกระชาก ทันทีที่ความเจ็บเป็นระลอกจางหาย สายตาที่พร่ามัวก็ได้เห็นเพื่อนสนิทเพียงคนเดียวยื่นใบหน้าที่ตอนนี้ทั้งเน่าเฟะและแดงเถือกไปด้วยเลือดเข้ามาจนแทบชิด ลมหายใจเหม็นเน่าคละคลุ้งชวนคลื่นเหียนพุ่งมาปะทะเต็มใบหน้า ไหลล่วงซึมลึกลงไปในลำคอจนลำไส้ในท้องเขม็งเกร็งจนเขาปวดบิด คลื่นไส้จนโก่งคออาเจียนพุ่งทะลุใบหน้าเละเทะนั้นไปเปรอะหน้าขาตนกับพื้นข้างๆ

“เออ! กูมันเลว กูมันโง่ ใครเขาจะไปฉลาดเหมือนมึงล่ะ! คิดว่าเรียนดีได้หน่อยจะเหยียดคนอื่นยังไงก็ได้เหรอ?!”

ปูไม่มีแรงแม้แต่จะยกแขนป้ายคราบอาเจียนปนเลือด ตอนนี้แค่ทรงตัวให้ตั้งตรง ประคองสติไม่ให้แตกรับการกระแทกกระทั้นได้ก็เต็มกลืน

“มึงมันเห็นแก่ตัว!”

เจ้าดำที่เป็นผีไปแล้วตะคอกตอนจับคอปูเขย่าอย่างแรง

“หายใจเข้าออกมีแต่เรียนกับแข่งวิชาการ เคยเห็นกูอยู่ในสายตา เคยเห็นหัวบ้างไหมวะ?!”

พูดเหี้ยอะไรของมึงไอ้ผีนรก ปูคิด แล้วถูกตบจนหน้าหัน เจ็บปวดร้าวไปทั้งแถบ พอพยายามตั้งสติก็ถูกตบอีกที ครั้งนี้เลือดที่ควรหยุดไหลกลับเอ่อล้นออกจากปากเป็นทาง

“กูจะเอามึงไปอยู่กับกู!”

ดำพูดก่อนรวบฝ่ามือเละๆ แหยะๆ สองข้างเข้ากับรอบคอของปู เด็กหนุ่มรับรู้ได้ถึงทุกสัมผัสของเรียวนิ้วที่ค่อยๆ กดกำรอบลำคอตนแต่ในความจริงทำได้เพียงกะพริบตา ขณะที่วิญญาณอาฆาตลงน้ำหนักมือมากขึ้น พริบตาเดียวสติที่หลงเหลืออยู่น้อยนิดก็เลือนลางลง ตาที่เคยเป็นสีดำสลับขาวเริ่มเหลือกขึ้น ขณะที่เจ้าของร่างอ้าปากพะงาบเหมือนปลาขาดน้ำ ตามด้วยการไอพ่นเอาฟองเลือดจากการบาดเจ็บออกมา

 

...มึงก็เป็นได้แค่ไอ้ขยะเห็นแก่ตัวที่อยากให้คนอื่นตกต่ำตามตัวเองเท่านั้นละวะ!!

ปูสำลักไอโขลก แต่ความคิดนี้กลับยิ่งแจ่มชัดในห้วงยามที่เกือบเป็นช่วงสุดท้ายของชีวิตจริงๆ

ร่างของเด็กหนุ่มเด้งกระดอนราวกับต้องการดิ้นรนคว้าจับประกายชีวิตสุดท้ายเอาไว้ น่าเสียดายที่ทำไม่ได้ เพราะเวลาผ่านไปแค่นับนิ้วร่างที่อ่อนแออยู่แล้วก็ทรุดฮวบ แขนขากระตุกเป็นจังหวะ ก่อนจะแน่นิ่งไปคามือของผีร้ายที่แผดเสียงหัวเราะกึกก้อง โดยมีบรรดาผีด้วยกันเองส่งเสียงครวญครางโหยหวนเป็นจังหวะไปกับสายลมที่พัดมา

...หมดแล้วมิตรภาพ ไม่เหลือแล้วเยื่อใย ถึงชะตาชักพาให้คนสองคนมารู้จักกันได้ สุดท้ายกลับเป็นได้แค่คู่เวร

 

ฉับ!

 

เสียงคล้ายวัตถุบางอย่างฟาดผ่านอากาศด้วยความเร็วจนตัดอีกอย่างขาดออกในครั้งเดียว

หัวที่ดูไม่เหมือนหัวของดำหลุดจากบ่ากลิ้งหลุนๆ ไปกับพื้น พอพลิกกลับด้านมาได้ดวงตาสีดำสนิทก็กลอกมองหาต้นเหตุ ปากของมันอ้าออกหวังส่งเสียงประณาม แต่ยังช้าไปเมื่อฝ่าเท้าสีดำๆ แดงๆ กระทืบลงมาจนหัวนั้นแหลกเละเหลวกลายเป็นเศษเนื้อ

บรรดาภูตผีที่ตีวงล้อมอยู่แตกฮือออกราวฝูงมดที่ถูกเทน้ำราด กระจัดกระจายไปคนละทิศละทาง ปล่อยให้เจ้าของฝ่าเท้าที่กระทืบหัวผีเด็กหนุ่มยืดร่างขึ้นยืนเต็มความสูงที่ทอดเงาลงมากลืนกินแทบทุกตนไปหมดในครั้งเดียว

“ไสหัวไป!”

เจ้าของร่างดำๆ แดงๆ ถลึงตาอ้าปากตวาดก้องไปทั่วทั้งลาน เพียงครั้งเดียวบรรดาวิญญาณไม่สมประกอบทั้งหมดก็สลายไปทันที

ความเงียบโรยตัวลงปกคลุมทั่วบริเวณ อาบย้อมให้พื้นที่โรงเรียนปราศจากการเคลื่อนไหวและไร้สรรพเสียง จนสามารถได้ยินเสียงหัวใจที่เต้นช้าลงมากของเด็กชายที่นอนหายใจรวยรินจนแทบไร้ชีพจรได้

รอยยิ้มไม่ประสงค์ดีปรากฏขึ้นบนใบหน้าของร่างนั้น ยามมันหดตัว ย่อขนาดลงมาจนเหลือไม่ต่างจากมนุษย์ผู้ใหญ่ ค่อยๆ คลานด้วยมือเท้าทั้งสี่มาคร่อมเหนือร่างเด็กหนุ่มผู้โชคร้าย ดวงตาสีแดงก่ำกลิ้งกลอกปลิ้นจากข้างในมาข้างนอก ไล่สำรวจสภาพมนุษย์ตัวจ้อย ก่อนส่งเรียวลิ้นเปียกลื่นตวัดเลียรอบกรอบหน้า เช็ดกินหยาดโลหิตที่แห้งกรังผสมแฉะชื้นออกจนเกือบหมด

“คนทั้งโรงเรียนลือกันสนุกๆ มีแต่เอ็งคนเดียวนี่แหละที่เชื่อเป็นตุเป็นตะ”

มันกระซิบกับตัวเองและคนที่นอนไม่รู้เรื่อง พูดจบก็ลากลิ้นยาวนั้นปาดจากบนลงล่างแล้วรูดจากล่างขึ้นบน

“ปากแข็งไม่พอ ยังใจแข็งด้วย แบบนี้สิดี ข้าชอบคนแบบเอ็ง จะช่วยก็แล้วกัน”