2 ตอน เอกสารที่สอง: กองกำลังสำรวจอิสระ
โดย Cosmosdog
05:45
23/07/2444
ปฏิบัติการ Far from Home
หลังจากวุ่นวายกับชุดปฏิบัติการการชุดใหม่ที่มีการติดตั้งยุ่งยากนิดหน่อย นี่คือสาเหตุที่เธอถูกปลุกมาตั้งแต่ไก่เห่า(เพราะบนเรือไก่มันเห่าได้จริงๆ) โดยมีอิลิยาและเจ้าหน้าที่ฝ่ายวิจัยอีกสองสามคนมาตรวจดูและให้คำแนะนำไปหาวไปเพราะพวกเขาต่างก็ต้องตื่นก่อนซากุระเพื่อมาตระเตรียมอุปกรณ์ให้พร้อม
ตอนนี้ซากุระได้อยู่ในชุดสีเทาเข้มรัดรูปที่มีลายหกเหลี่ยมต่อกันอยู่บริเวณเข่าและข้อศอกของชุด เธอลองขยับแขนและขาเพื่อให้แน่ใจว่าชุดมันจะไม่ตึงจนเกินไปจนเธอออกท่าต่อสู้ได้ เธอลองออกทวงท่าการต่อสู้ทุกรูปแบบที่มีเพื่อเช็คชุดที่เธอสวมเป็นครั้งสุดท้าย
"ตอนนี้ลองมองที่ภาพนี้นะคะ"อิลิยากล่าวก่อนจะชี้นิ้วให้ซากุระมองที่จอที่มีรูปชุดนักรบกรีกอยู่ ซึ่งซากุระมองตามแล้วพยายามพิจารณาตัวชุดอย่างละเอียด ทันใดนั้นกลุ่มฝุ่นสีฟ้าก็ได้มารวมตัวรอบๆชุดของเธอสักพัก เมื่อมันออกไปจนหมดแล้ว เผยให้เห็นซากุระในชุดนักรบกรีกที่น่าเกรงขาม โลหะที่เปล่งประกายในยามเช้ามืดจนราวกับดวงดาว
"โห! ...ทำแบบนี้ได้ด้วย!"หญิงสาวผมแดงอุทานก่อนจะมองไปรอบๆชุดที่ถูกสร้างขึ้น
"ตัวชุดจะสามารถสร้างโค้ดคำสั่งที่ไม่มีอยู่ในตัวคุณค่ะ ทำให้มันสามารถสร้างชุดได้จากนาโนแมชชีนที่อยู่ในตัวค่ะ"อิลิยากล่าวก่อนที่ซากุระจะคลายคำสั่งออก ทำให้เธอกลับมาอยู่ในชุดเดิมพร้อมกับหัวหน้าโทมัสที่เดินคู่มากับชุดเกราะเทาที่ชุดของเขาดูจะติดตั้งอุปกรณ์เยอะกว่าที่เธอเจอกันก่อนหน้านี้รวมไปถึงโล่ที่มีขนาดใหญ่พอจะกันตัวเขาได้ทั้งตัว รวมไปถึงอาวุธปืนที่ติดตั้งอยู่ที่ด้านหลังของเขา
"ไปติดตั้งมาเหมือนกันสินะ"หญิงสาวผมแดงกล่าวก่อนจะนั่งลงบนกล่องใส่อาวุธพลางมองไปรอบๆตัวของเธอ เหล่าทหารช่างที่กำลังตรวจสอบยานบินและบางคนกำลังจับกลุ่มคุยกัน แสงแดดแรกยามเช้าได้ทอประกายขึ้นมาที่สุดปลายฟ้า พระอาทิตย์ได้ขึ้นมาจากขอบฟ้าราวกับคนที่กำลังลุกขึ้นจากห้วงนิทราที่ยาวนาน
เสียงนกนางนวลได้ขับคลอไปกับเสียงคลื่นและเสียงลมที่พัดผ่านใบหน้าของซากุระทำให้เธอรู้สึกดีขึ้นจากความเหนื่อยล้าก่อนที่จะมีเสียงประกาศดังขึ้นรอบเรือ
"ขอให้เจ้าหน้าที่ที่เข้าร่วมปฏิบัติการพิเศษทางไกลทุกนายรวมตัวกันที่ลานจอดยานบินหมายเลขสามและออกบิน ขอย้ำ เจ้าหน้าที่ที่เข้าร่วมการปฏบัติการทางไกลทุกคนให้มารวมตัวกันที่ลานจอดยามบินหมายเลขสามและออกบิน"
เมื่อเสียงประกาศจบลง อิลิยา นักรบชุดเกราะเทาได้เริ่มออกเดินพร้อมกับนักบินและนักวิจัย รวมไปถึงบุคคลกลุ่มนึงที่หญิงสาวไม่คุ้นหน้า พวกเขาสวมเสื้อลายพรางดิจิตอลสีดำสลับเทาเข้ม ใบหน้าที่ถูกบังจนมิดชิดด้วยผ้าคลุมหัว หน้ากาก ผ้าปิดปากและแว่นกันแดดที่เรืองแสงสีฟ้า จนดูไม่ออกว่าพวกเขาทั้งห้าคนเป็นเผ่าใดบ้าง แต่มีคนนึงที่ซากุระอนุมานได้ว่าน่าจะเป็นกระต่ายจากที่หูของเขาหรือเธอโผล่ออกมานอกหมวก
แต่ที่สะดุดตาคือตราสัญลักษณ์หน่วยรบพิเศษที่เป็นรูปหมาป่าสีเทาหันข้างที่มีดวงตาเป็นสีแดงเลือดที่กำลังแยกเขี้ยว พร้อมกับตัวหนังสือสีดำที่แสดงอยู่บนแถบตราสัญลักษณ์สีขาว
War Hound Unit -5
นั่นทำให้ซากุระต้องตะลึงกับสิ่งที่เธอเห็น เพราะจากที่เคยได้ยินมาพวกเขาคือสุดยอดกองกำลังที่ไม่ว่าศัตรูจะเก่งกาจหรือแกร่งสักแค่ไหน แค่ส่งกองกำลังนี้ไปแค่สองสามคน ศัตรูที่ว่าแข็งแกร่งก็เละไม่เป็นท่าและยิ่งตัวเลขน้อยเท่าไหร่ ความอันตรายจะยิ่งเพิ่มขึ้นทวีคูณมากขึ้นเท่านั้น
แต่เธอก็รีบยกความคิดนั้นออกจากหัวของเธอเมื่อเสียงเครื่องยนต์ยานบินเริ่มทำงาน เหล่าทหารและบุคลากรต่างๆเริ่มออกวิ่งและขึ้นยานบิน
ด้วยความที่ว่ารอบนี้สถานที่ที่จะไปนั้นแทบจะออกไปอวกาศทำให้ยานบินที่จะไปด้วยนั้นเป็นยาวเทียบเท่ากับตู้รถไฟที่มีความกว้างพอที่จะยัดยานเกราะเข้าไปในนั้นได้สองสามคันติดกันรวมไปถึงยานบินลักษณะอื่นๆอีกมากมายที่เตรียมขึ้นบิน
"นี่บัตเตอร์ฟลายทู กำลังตรวจสอบความพร้อมเครื่องยนต์"เสียงนักบินที่เป็นหมาป่าขนสีเทากล่าวก่อนจะเปิดหน้าจอดิจิตอลและเริ่มกดไปตรงที่ต่างๆ พร้อมกับเครื่องยนต์ที่เริ่มเดิน
"ทราบแล้วบัตเตอร์ฟลายทู ฝูงบินแฮมเมอ์เฮดจะทำการขนาบข้างทั้งสองฝั่งเอง"เสียงวิทยุตอบกลับก่อนที่ยานจะเริ่มยกตัวขึ้น ซากุระมองออกไปนอกหน้าต่างก็พบว่ามียานอีกหลายลำกำลังทำแบบเดียวกัน
"ดีเจ ขอเพลงหน่อย"เสียงวิทยุจากยานขนส่งอีกลำเข้ามาก่อนที่การสื่อสารจะตัดไปพร้อมกับยานที่ยกตัวสูงจนสามารถเห็นทะเลได้รอบด้าน
เสียงบรรเลงกีตาร์ไฟฟ้าดังขึ้นพร้อมกับจังหวะเดียวกับที่ยานบินจำนวนมากยกตัวขึ้นจากพื้นรันเวย์ก่อนจะเริ่มทำการเข้าเรียงแถวและเริ่มเคลื่อนไปข้างหน้าและเพิ่มความเร็วมากขึ้นพร้อมกับเชิดหัวยานพุ่งทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้า พร้อมกับยานรบที่ลักษณะคล้ายกับฉลามหัวค้อนที่มีปีกเหล็กสองข้างและรูปร่างที่ดูปราดเปรียว "นี่ฝูงบินแฮมเมอร์เฮดกำลังบินขนาบข้างคุ้มกันกองยานขนส่ง"เสียงวิทยุแทรกเข้าใาก่อนที่เพลงจะบรรเลงตามปกติ
ยานเริ่มบินออกไปจนพ้นกลุ่มเมฆและพุ่งออกไปจนเห็นดวงดาวที่อยู่ท่ามกลางท้องฟ้าที่มืดมิดทันใดนั้นวงแหวนสีขาวขนาดใหญ่ก็ได้ปรากฎตรงหน้าของซากุระ มันลอยตัวนิ่งๆบนชั้นบรรยากาศก่อนที่มันจะขยายกว้างกว่าปกติเล็กน้อย
ทันทีที่ยานบินได้ผ่านประตูมิติที่ดูว่างเปล่าแสงสีขาวก็ส่องสว่างเข้ามาในยานบินพร้อมกับตัวยานมี่เพิ่มความเร็วมากขึ้นจนในที่สุดความเร็วยานก็ลดลง วิวนอกหน้าต่างเผยให้เห็นท้องฟ้าสีครามสดใสกับภูเขาและวิวที่ดูแปลกตา สายตาของซากุระเริ่มปรับให้เข้าที่และมองออกไปนอกหน้าต่าง เผยให้เห็นป่าไม้ที่กว้างใหญ่สุดลูกหูลูกตา
"นี่กองสนับสนุน ยืนยันตัวตนผ่านทางช่องทางการสื่อสาร รหัส เดลต้า333"นักบินหมาป่าของยานบินของซากุระพูดผ่านวิทยุก่อนที่อากาศด้านนอกจะเปิดออกเป็นวงกว้างเผยให้เห็นฐานทัพขนาดใหญ่ที่ใหญ่กว่าเรือโคลอสสัสสามลำรวมกัน
มีทั้งอาคารที่กว้างและสนามบินที่มียานบินกำลังลงจอด รวมไปถึงรถถังที่กำลัง "เดิน" ออกจากโรงเก็บยานพาหนะ ฝูงบินคุ้มกันได้แยกตัวออกไปก่อนที่ยานของซากุระจะบินไปอีกทางที่เป็นลานบินสำหรับยานบินขนส่งโดยเฉพาะ โดยมีตั้งแต่ยานบินขนาดเท่าที่เธอโดยสารอยู่ไปจนถึงยานบินที่มีขนาดใหญ่จนเท่ากับเรือรบหากมองดีๆจะเห็นเหล่าทหารที่วิ่งไปมาภายในฐานทัพอยู่มากมาย
ยานบินได้ลงจอดอย่างนุ่มนวลพร้อมกับประตูที่เปิดออกโดยยานเกราะหนักที่มีปืนใหญ่ติดตั้งไว้สี่กระบอกกับที่มีรูปร่างคล้ายแมงมุมได้เดินออกไปก่อน พร้อมกับทีมของซากุระที่เดินตามท้ายมา เสียงยานบินที่อื้ออึงกับเสียงวิทยุที่ประกาศเป็นระยะๆทำให้ที่นี่ดูมีความขลังของฐานทัพต่างมิติอย่างมาก เธอหันหลังไปพบกับอิลิยาและคนบางกลุ่มที่ไม่คิดว่าจะติดสอยมาด้วย นั้นคือกองกำลัง War Hound ที่เธอเพิ่งเห็นไปนั่นเองนั่นทำให้เธอถึงกับขนหัวตั้งเลยทีเดียวและแสดงอาการเลิ่กลั่กอย่างเห็นได้ชัด
"คุณคือซากุระ วี. โฮป สินะคะ"เสียงหนึ่งเรียกเธอออกจากภวังค์ความสับสน เธอเป็นหมาป่าสาวที่สูงสองเมตรกว่า ขนสีเทาขาวที่ดูมีเสน่ห์กับนัยน์ตาสีน้ำทะเลฟ้าสดใสที่ดูน่ามองทรงผมของเธอนั้นเป็นไถข้างสีเทา เธออยู่ในเครื่องแบบทหารลายพรางดิจิตอลสีเขียวที่มีเครื่องกระสุนติดอยู่ที่เอว ซากุระมองค้างที่ร่างนั้นจนเกือบน้ำลายไหล ใช่ เธอสวยมากจริงๆจนเทียบกับนางแบบได้เลย
"อ้อ! ขอโทษที่แนะนำตัวช้าค่ะ ฉันชื่อ ฮิโรโกะ อสิมอฟค่ะ ต่อจากนี้ฉันจะเป็นผู้ช่วยคุณในการนำทีมสำรวจอิสระนะคะ"หมาป่าสาวกล่าวแนะนำตัวก่อนจะลู่หูลงและค้อมตัวลงเล็กน้อยเป็นมารยาทก่อนที่จะผายมือไปทางตึกที่มีความสูงสี่ชั้นที่ดูแตกต่างจากอาคารอื่นๆมาก "ตอนนี้หัวหน้ารักษาเขตพิเศษรออยู่ค่ะ"ฮิโรโกะกล่าวก่อนจะเดินนำซากุระและอิลิยาไป
ภายในตึกเต็มไปด้วยอุปกรณ์ไฮเทคที่ล้ำหน้ากว่าของที่พวกซากุระใช้อย่างมาก อย่างน้อยน่าจะห่างกันถึงหกสิบปีเสียด้วยซ้ำทั้งโดรนบินที่กำลังมองมาที่พวกเธอก่อนจะเปลี่ยนตัวเองเป็นเครื่องบินขนาดเล็กและบินออกไปด้วยความเร็วสูงและล่องหนออกไปต่อหน้าต่อตาของเธอ หุ่นยนต์ที่สวมเครื่องแบบทหารและมองมาที่เธอด้วยจอมอนิเตอร์ที่แสดงอารมณ์เป็นสีหน้าสงสัย
หมาป่าสาวพาพวกซากุระมาลงชั้นใต้ดินที่มีความลึกถึงสามชั้นซึ่งแน่นอนว่าซากุระนั้นเพิ่งรู้ว่าภายในอาคารนี้มีชั้นใต้ดินด้วย ก่อนที่จะมาถึงห้องที่น่าจะเป็นศูนย์บัญชาการหลักที่หน่วยปฏิบัติการนี้ ภายในเต็มไปด้วยจอโฮโลแกรมที่ถูกเปิดไว้เต็มห้อง เครื่องมือสื่อสารที่ดูคล้ายกับแผ่นยางใสบางๆได้วางไว้เต็มไปหมดพร้อมกับเหล่าบุคคลที่ใส่เครื่องแบบทหารที่พร้อมรบได้ทุกเมื่อกำลังเปิดจอโฮโลแกรมและเลื่อนไปมา
ส่วนคนที่ยืนอยู่ตรงกลางห้องนั้นเป็นโอนิที่กำลังยืนมองจอโฮโลแกรมที่ขนาดใหญ่ที่สุดในห้องก่อนจะชี้ทางให้ทหารอีกคนเดินไป เขาเป็นโอนิร่างสูงใหญ่สองเมตรที่มีดวงตาข้างขวาสีสนิมส่วนอีกข้างถูกปิดไว้ด้วยผ้าปิดตา ผมสีดำที่มันวาวสะท้อนกับแสงจากจอโฮโลแกรม เขาที่โผล่พ้นผมของเขานั้นยาวไม่มากบ่งบอกถึงอายุที่น่าจะสี่สิบกว่าๆ
สายตาของเขาเหลือบมาเห็นฮิโรโกะและซากุระรวมไปถึงอิลิยา เขาเดินเข้ามาใกล้ๆหญิงสาวผมแดงก่อนจะมองหน้าอีกฝ่ายใกล้ๆ
"ซากุระ วี.โฮปใช่มั้ย?"โอนิชายถามพร้อมกับเลิกคิ้วข้างที่มีผ้าปิดตา ซากุระทำการวันทยาหัตถ์ก่อนจะกล่าวรายงานตัว "ซากุระ วี. โฮป รายงานตัวค่ะ!!"หญิงสาวกล่าวเสียงดังฉะฉาน ก่อนที่อีกฝ่ายจะทำวันทยาหัตถ์รับ
"ขอแนะนำตัวอย่างเป็นทางการ
ฉันพลเอกอเล็กซ์ ไคเซอร์ เป็นหัวหน้ากองกำลังลาดตระเวนหลังประตู อย่างที่เธอเห็นทุกๆอย่างในนี้และด้านนอกฉันต้องเป็นคนดูแลทั้งหมด รวมไปถึงทุกคนที่ยืนอยู่ตรงหน้าฉันตอนนี้"พลเอกกล่าวด้วยแววตาที่ดูจริงจัง
ซากุระทำสายตาเลิ่กลั่กเพราะตั้งแต่เธอมาที่นี่เธอก็เพิ่งเคยเจอคนที่ดูจริงจังแบบนี้ครั้งแรกตั้งแต่มาถึง
"จะว่าไปนะคะพลเอก....เห็นฮิโรโกะพูดถึงทีมสำรวจอิสระ...มันคืออะไรเหรอคะ?"ซากุระถามอีกฝ่ายที่กำลังมองหน้าของเธออยู่ โอนิวัยกลางคนพยักหน้าก่อนที่จะชี้ไปที่จอโฮโลแกรมที่กำลังเปลี่ยนไปเป็นแผนที่ขนาดใหญ่
"ทางเราได้ทำการสำรวจภูมิประตูที่นี่จากดาวเทียม,โดรนระยะไกล,พลสำรวจแล้วก็เครื่องบิน จะเห็นว่าพื้นที่โดยเฉลี่ยถ้ารวมพื้นมหาสมุทรแล้วจะใหญ่กว่าโลกของเราถึงห้าเท่า แถมยังแบ่งไปด้วยการปกครองอาณาจักรอีกเป็นหลายสิบอาณาจักร หน้าที่ของหน่วยสำรวจอิสระก็คือสำรวจทรัพยากรและทำความรู้จักทางการทูตกับอาณาจักรต่างๆที่ดูจะเป็นมิตรและช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมให้กับผู้ที่เดือดร้อน..."
ซากุระได้ยกมือขึ้นขัดอีกฝ่ายด้วยสีหน้าสงสัยก่อนที่อีกฝ่ายจะผายมือในเชิงอนุญาต
"ทำไมเราต้องให้การช่วยเหลือเหรอคะ...แบบนั้นไม่ใช่การแทรกแซงโลกในมิตินี้เหรอคะ?"หญิงสาวผมแดงถามก่อนที่พลเอกโอนิจะตอบกลับแทบจะทันที
"เพราะว่านี่คือมติจากการประชุมเผ่า พวกเขาเห็นพ้องต้องกันว่าบางคนในที่แห่งนี้อาจจะเป็นบรรพบุรุษหรือบุคคลที่จะกลายมาเป็นผู้อพยพในกรณีที่โลกของเราพร้อมรับการอพยพอีกครั้งหากเราไม่ทำการช่วยเหลือเราก็จะถูกมองเป็นผู้ร้ายอย่างเต็มตัว"พลเอกตอบกลับด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่งก่อนจะยิ้มให้สาวผมแดงเล็กน้อย
"รับทราบ!!"ทุกคนที่ยืนอยู่ ณ ตรงนั้นทำวันทยาหัตถ์
"เดี๋ยวอีกคนนำจะนำพวกเธอไปที่ฐานของหน่วยสำรวจอิสระนะ เตรียมตัวกันให้พร้อมด้วย"พลเอกโอนิกล่าวก่อนที่ทุกคนจะเดินตามคนนำไป
หลังจากเดินมาไกลจากตัวกองบัญชาการกลาง ซากุระก็เห็นโรงจอดยานบินที่มีขนาดใหญ่พอสมควรพร้อมกับทหารในชุดพร้อมรบอีกสองนาย พวกเขาทำวันทยาหัตถ์ให้ซากุระก่อนจะเดินจากไปด้วยความเร็ว คนนำทางได้เปิดประตูโรงจอดออกก่อนจะผายมือเข้าไปด้านในที่มียานบินที่ไม่คุ้นตาและห้องต่างๆไว้มากมาย
"อันนี้เป็นฐานปฏิบัติการของพวกคุณ แล้วก็พลเอกสั่งมาว่าให้พวกคุณสามารถเริ่มภารกิจสำรวจตอนไหนก็ได้ครับ"คนนำทางกล่าวก่อนจะเดินเข้ามาด้านใน
ทิ้งให้แต่ละคนมองตากันปริบๆกันไปมาด้วยความสงสัยว่าต้องทำยังไงกันต่อ
อิลิยามองไปที่ยานบินที่เป็นเครื่องบินขนส่งยานเกราะ ที่มีขนาดใหญ่พอจะยัดรถบัสได้สี่คัน ตัวยานมีไอพ่นขนาดใหญ่ที่ปลายปีกและไอพ่นทรงกลมติดตามปีกอีกสองชุด ตัวยานมีช่องเปิดด้านข้างไว้ให้คนในยานออกมานั่งเพื่อใช้อาวุธปืน รวมไปถึงตัวยานนั้นติดตั้งป้อมปืนไว้ตรงกลางยาน
เอล์ฟสาวถึงกับตาลุกวาวแล้วเข้าไปมองยานลำนั้นใกล้ๆ
"ยานบินลำเลียงจู่โจม Phantom Whale น่าจะเป็นรุ่นปรับปรุงล่าสุดซะด้วย....ไหนดูสิ...."เธอกล่าวก่อนจะเดินไปรอบๆตัวยานและดูอย่างละเอียด
"ตัวยานทำมาจากเกราะแร่ไทเทเนียมเคลือบเคสฟาราเดย์ทำให้กันคลื่น EMPได้ ระบบไอพ่นอิสระสามารถขึ้นลงทางตรงได้และเลี้ยวแบบหมุนกลางอากาศได้
ตัวเครื่องยนต์ใช้พลาสม่าเย็นทำให้บินระยะไกลได้ไกลขึ้นแถมมีอาวุธเป็นปืนกลกระสุนไอร้อนหนักที่ด้านหน้ากับเครื่องยิงจรวดลูกปรายที่ปีก ด้านบนยังจะเป็นป้อมปืนอเนกประสงค์ เครื่องกระสุนเป็นแบบพลาสม่าแรงบิดสูงเหมาะกับการทำลายล้างจริงๆ"อิลิยาพูดรัวเป็นชุดราวกับเด็กๆที่ได้เห็นของเล่น
นั่นทำให้ทุกคนในห้องนั้นหันมามองตาเดียวกันด้วยความทึ่งเรื่องความรู้รอบด้านของเธอซากุระและฮิโรโกะต่างอึ้งไปเล็กน้อย ก่อนที่คนนำทางจะกรแอมขึ้นเล็กน้อย
"พลเอกมีคำสั่งโดยตรงมาว่า ซากุระ วี. โฮปเป็นหัวหน้าหน่วยสำรวจพิเศษอิสระและให้พวกคุณสามารถเริ่มออกเดินทางตอนไหนก็ได้ตามประสงค์"คนนำทางกล่าวก่อนจะทำวันทยาหัตถ์ให้มุกคนในห้องก่อนจะเดินออกไปจากห้อง
"คง....ไม่มีอะไรให้เซอร์ไพรส์กว่านี้แล้วล่ะ..."หญิงสาวผมแดงกล่าวก่อนจะหันมาแล้วพบว่าทุกคนมองมาที่เธอด้วยความคาดหวัง
ไม่เว้นแม้แต่กองกำลังพิเศษที่กำลังมองมาที่เธอเช่นกัน
"ตอนนี้คุณเป็นผู้บัญชาการของหน่วยเราแล้วนะคะคุณซากุระ" หมาป่าสาวกล่าวพร้อมกับยิ้มเล็กน้อย
ซากุระถอนหายใจเบาๆก่อนจะเดินไปด้านในเล็กน้อยและเปิดจอมอนิเตอร์ที่มีอยู่ในโรงเก็บยานนี้พร้อมกับเลื่อนดูแผนที่ พฤติกรรมกะทันหันของเธอทำให้ทั้งห้องนั้นอยู่ในความเงียบก่อนที่ซากุระจะขยายภาพเมืองเมืองนึงขึ้นมา
มันเป็นเมืองที่เต็มไปด้วยตึกรามบ้านช่องที่ดูหรูหราโอ่อ่า แผนผังเมืองที่ถูกออกแบบมาดีจนน่าตกใจสำหรับสถาปนิกยุคนี้บางคนสำหรับอารยธรรมที่ด้อยกง่าไปหลายพันปี
"เมืองวอร์เตอร์มิลคือที่แรกที่เราจะทำการสำรวจแบบละเอียดก่อนที่แรก เพราะระยะทางไม่ไกลมากรวมไปถึงมีเขตสัญญาที่เสถียรพอจะติดตั้งอุปกรณ์ระบุตำแหน่งได้ รวมไปถึงเจ้าของเมืองที่น่าจะพอทำการทูตได้ง่าย"หญิงสาวผมแดงกล่าวก่อนจะชี้ไปที่หอนาฬิกาที่ตั้งอยู่กลางจตุรัสเมือง
ทุกคนในห้องพยักหน้าก่อนจะเริ่มแยกย้ายเตรียมอาวุธและอุปกรณ์ประจำตัวเองที่ถูกนำมาส่งไว้ก่อนหน้านี้แล้วจากที่ซากุระรู้มาว่าสาเหตุการเตรียมอาวุธคือเผื่อมีการปะทะกับสิ่งมีชีวิตดุร้ายหรือกองโจรจะสามารถป้องกันตัวได้เต็มกำลัง
ซากุระหยิบวิทยุสื่อสารสีดำขึ้นมาติดไว้ที่ขอบคอเสื้อและหู มันมีรูปร่างสามเหลี่ยมขนาดเล็กที่มีวงกลมดิจิตอลหมุนไปมาส่วนอิลิยากำลังง่วนอยู่กับการติดตั้งชุดรบพิเศษให้กับหมาป่าสาวที่มีส่วนสูงมากกว่าเธอก่อนจะใส่ชุดให้อีกฝ่ายเรียบร้อยพร้อมกับตบเสื้อเกราะอีกฝ่ายเบาๆเผื่อเช็คความเรียบร้อย
ซากุระมองไปทางหน่วยรบพิเศษที่กำลังเตรียมอุปกรณ์กันอย่างดีและดูเป็นระเบียบ พวกเขาแทบจะไม่พูดอะไรออกมาซักคำในระหว่างที่เตรียมตัว มีเพียงเสียงกระสุนที่ถูกใส่ลงในแม็กกาซีนปืน เสียงหายใจและเสียงเปิดปิดใบมีดความร้อนสูง
10นาทีต่อมา
เวลาเพียงไม่นานหน่วยของซากุระก็ออกบินไปทางทิศเหนือด้วยยานบินประจำหน่วยโดยมีอิลิยาเป็นคนขับ ทุกคนนิ่งเงียบไม่มีใครพูดซากุระหันไปมองหมาป่าสาวที่นั่งฝั่งตรงข้ามกับเธอ ฮิโรโกะนั้นอยู่ในชุดที่ดูคล้ายกับซามูไร เพียงแต่ตัวเกราะนั้นดูเรียบง่ายและแทบจะแนบไปกับตัว มีเพียงแผ่นเกราะที่แขนและหัวไหล่ที่ยื่นออกมาเล็กน้อย หน้าของเธอนั้นสวมหน้ากากกันสารเคมีสีดำที่ถูกวาดลวดลายของหมาป่าที่กำลังแยกเขี้ยวด้วยสีนีออน
ข้างกายด้านขวาของเธอเป็นดาบซามูไรที่ถูกเก็บไว้ในฟักสีเทาที่มีลายเส้นดิจิตอลสีเขียวสว่างลากผ่าน ส่วนด้านซ้ายนั้นเป็นปืนกลที่น่าจะถูกสร้างขึ้นมาเพื่อเธอโดยเฉพาะ แต่จุดเด่นของมันก็คือที่ใต้ปืนตรงจุดที่ควรจะติดกริปมือนั้น มันถูกแทนที่ด้วยใบขวานสีแดงสดที่เพ้นท์รูปไวกิ้งที่ถือปืนกลหนักและมีรูที่ใบขวานให้สอดมือเข้าไปเพื่อจับได้
ฮิโรโกะมองหน้าหญิงสาวผู้น่าสงสารก่อนจะยิ้มให้อีกฝ่ายผ่านแววตาของเธอ นั่นทำให้ซากุระรีบหลบสายตาอีกฝ่ายทันที ถึงแม้ฮิโรโกะจะดูดี น่ารักและเท่ในเวลาเดียวกัน การใส่ชุดแบบนี้ทำให้เธอดูเหมือนผู้ชายมากเกินไปด้วยซ้ำจนหมดเสน่ห์ของหมาป่าสาวไปเลย
ระหว่างที่สมองของซากุระกำลังคิดเรื่องไร้สาระอยู่นั้นได้มีบางคนเรียกเธอออกจากภวังค์
"บอส....เราเจองานเข้าแล้วล่ะ"หนึ่งในหน่วยWar Houndที่มีหูกระต่ายรายงานเธอก่อนจะชี้ไปที่หน้าต่าง ซากุระมองออกไปด้านนอกจากการใช้ความสามารถพิเศษของหญิงสาวในการมอง พบว่ากลุ่มอัศวินใส่ชุดสีขาวสว่างที่แต่งองค์ทรงเครื่องราวกับในหนังหรือนิยายแฟนตาซีได้ขี่ม้าพุ่งออกมาจากป่าจำนวนมาก
โดยเป้าหมายมีแค่เด็กหญิงสองคนที่เนื้อตัวเต็มไปด้วยเลือดและมอมแมม ร่างกายที่ผอมโซราวกับอดอาหารมาหลายวันและเสื้อผ้าที่เก่าและสกปรก ที่คอและมือของเธอนั้นมีปลอกคอและกุญแจมีอย่างหนาพันธนาการไว้
"อิลิยา...เราคงต้องเลื่อนเวลาไปถึงหน่อยแล้วล่ะ"ซากุระกล่าวก่อนจะมองไปที่เอล์ฟสาวก่อนที่จะชี้ไปที่ประตู อิลิยาพยักหน้าก่อนจะเปิดประตูให้พร้อมกับซากุระเดินไปที่ประตูพร้อมกับฮิโรโกะอยู่ด้านหลังและสมาชิกหน่วยสุนัขสงครามที่มีหูกระต่าย ซากุระเพิ่งสังเกตว่าที่ขาของอีกฝ่ายคล้ายกับติดตั้งอุปกรณ์อะไรบางอย่างไว้ทำให้เธอดูสูงกว่าครั้งแรกที่เจอกันที่เรือรบ เมื่อประตูเปิดออกทั้งสามคนได้กระโดดลงไปอย่างไม่ลังเล
ตู้ม!
เสียงแรงกระแทกดังพอที่จะเรียกความสนใจได้มากพอจากทั้งสองฝ่ายโดยซากุระกระโดดลงมาคั่นกลางระหว่างกลุ่มอัศวินและเด็กสาวทั้งสองคนก่อนที่ฮิโรโกะและสมาชิกกระต่ายของสุนัขสงครามตามมาทีหลังเหล่าอัศวินชะงักไปซักพัก
"พวกเจ้าเป็นใครกัน...คนของพวกจอมมารรึ!?"อัศวินคนนึงที่ขี่ม้าอยู่เป็นคนด้านหน้ากล่าวด้วยท่าทีขึงขังก่อนจะชักดาบออกมาและชี้มาที่หญิงสาวผมแดง
"พวกเราไม่ต้องการต่อสู้แต่เราจะพาเด็กสาวสองคนนี้มาอยู่ภายใต้การคุ้มครองของเรา"ซากุระตอบพร้อมกับยกมือขึ้นเป็นเชิงสัญลักษณ์ว่าตนเองนั้นพร้อมจะยอมแพ้เพื่อหลีกเลี่ยงการใช้กำลัง
"ถ้าเจ้าไม่อยากต่อสู้ ก็จงนำเด็กสองคนนั้นมาเสียเถิด...และพวกเราจะตอบรางวัลท่านอย่างงามในฐานะที่ท่านคืนของบรรณาการมาให้พวกเรา"อัศวินคนเดิมกล่าวแต่ในช่วงเสี้ยววินาทีนั้นเอง ทหารหูกระต่ายได้เข้ามาขวางทางไว้ด้านหน้าซากุระอีกที
"เรายกให้พวกท่านไม่ได้หรอกนะ...หากพวกท่านมองเด็กเหล่านี้เป็นแค่สิ่งของ"เธอกล่าวก่อนจะมองไปที่หน้าอัศวินคนนั้น ทำให้อัศวินในกลุ่มนั้นเริ่มรู้สึกไม่พอใจอย่างเห็นได้ชัดก่อนจะเริ่มหนิบดาบและหน้าไม้รวมไปถึงหอกออกมาพร้อมรบ
"หากเป็นเช่นนี้ เราคงจะเจรจากันด้วยสันติมิได้แล้วล่ะ"อัศวินคนเดิมกล่าวก่อนจะชูดาบขึ้นเพื่อนเป็นสัญญาณการเริ่มการโจมตี ทุกคนในนั้นตะโกนด้วยเสียงกึกก้องก่อนจะโถมเข้าใส่อีกฝ่ายด้วยจำนวนที่ห่างกันมาก
วิทยุของซากุระดังขึ้นพร้อมกับอิลิยาที่ติดต่อเข้ามาว่าให้จัดการเลยมั้ยแต่ซากุระได้ปฏิเสธไปพร้อมกับตอบผ่านวิทยุไปว่า
"ขอได้ออกแรงหน่อยละกัน...."เธอกล่าวก่อนจะพุ่งไปข้างหน้าด้วยความเร็วที่มนุษย์ทั่วไปทำไม่ได้พร้อมกับง้างหมัดเต็มแรงในท่าย่อตัว
"นะ!!!!"เพียงเสี้ยววินาทีที่เธอตะโกนออกมาพร้อมกับปล่อยหมัดนั้น อัศวินผู้โชคร้ายที่ถูกแรงหมัดของเธอต่อยได้กระเด็นออกไปก่อนจะกลิ้งหลายตลบพร้อมกับชิ้นส่วนชุดเกราะที่หลุดกระเด็นออกมาบางชิ้นระหว่างที่กลิ้งไป
อัศวินทุกคนในนั้นต่างตกใจและพากันลังเลเล็กน้อยก่อนจะพากันโถมเข้าหาอีกครั้ง
"บอสระวังข้างๆ"ทหารสาวหูกระต่ายได้กล่าวเตือนด้วยน้ำเสียงเรียบกับซากุระก่อนจะใช้ขาของเธอที่ติดตั้งอุปกรณ์ที่ดูคล้ายที่ช่วยเสริมแรงกระโดดรับดาบเอาไว้ก่อนจะใช้ขาอีกข้างกระโดดถีบอัศวินคนนั้นจนเกราะบุบลงไปพร้อมกับกระโดดหมุนตัวเพื่อกลับมาอยู่ในท่ายืน
ฮิโรโกะได้ใช้ดาบที่ยังใส่ฝักของเธอฟาดไปที่หมวกเกราะที่เข้ามาด้านหน้าของเธอ
"ไม่ไหว...พวกสาวกจอมมารทำไมมันเก่งเหลือเกิน ถอย!! พวกเรา!!! ถอย!!!!"ใครบางคนในกลุ่มอัศวินตะโกนขึ้น นั่นทำให้เหล่าอัศวินต่างพากันวิ่งหนีล้มลุกคลุกคลานเนื่องจากบางคนเกราะหนักมากเกินกว่ามี่จะวิ่ง
"อะไรเนี่ย..."ซากุระกล่าวก่อนจะมองไปที่กลุ่มอัศวินที่ขี่ม้าหนีค่อยๆหายลับสายตาไปก่อนจะมองที่เด็กสองคนที่ถูกพันธนาการมา ฮิโรโกะชักดาบออกมาเพื่อที่จะใช้มันตัดเครื่องพันธนาการที่น่ารำคาญพวกนี้ แต่เด็กสาวที่ดูโตกว่าได้เข้ามาขวางไว้
นั่นทำให้หมาป่าสาวต้องชะงักไปชั่วขณะก่อนที่ทหารหูกระต่ายจะเข้าไปคุยกับเด็กสาวที่กำลังยืนขวางฮิโรโกะอยู่จนเด็กสาวยอมถอยออก เพียงชั่วพริบตาของซากุระเครื่องพันธนาการของเด็กสาวทั้งสองคนก็ได้ถูกฟันจนแหลกเป็นชิ้นๆ
"ฝีมือดาบดีชะมัด"ซากุระกล่าวชื่นชมในตัวหมาป่าสาวก่อนจะวิทยุบอกอิลิยาให้นำยานบินมาลงจอดเพื่อรับเด็กสาวสองคนและพาพวกตนออกเดินทางต่อ
ทั้งสามสาวได้เดินขึ้นเครื่องมาพร้อมกับมือของฮิโรโกะและทหารหูกระต่ายที่กำลังจูงเด็กสาวอยู่ รูปร่างของพวกเธอแทบจะคล้ายกันมากคือ มีผิวสีเทาออกไปทางขาว นัยน์ตาไม่มีตาดำมีแต่พื้นที่สีขาวรวมไปถึงผมและเล็บด้วย แต่ฮิโร-โกะสันนิษฐานว่าพวกเธออาจจะเป็นโรคผิวเผือก
ยานได้ปิดประตูท้ายก่อนจะพุ่งออกไปด้วยความเร็วเพื่อไปให้ถึงอาณาจักรวอเตอร์มิลก่อนพลบค่ำ
ในขณะที่ยานขับออกไปนั้นเด็กสาวคนนึงได้ชี้ไปที่ด้านนอกหน้าต่างตรงข้างซากุระ เมื่อหญิงสาวผมแดงมองออกไปเธอก็ถึงกับทึ่งในสิ่งที่ตนเองเห็น ดาวเคราะห์ที่มีวงแหวนขนาดใหญ่ที่อยู่ใกล้มากจนเห็นวงแหวนได้อย่างชัดเจน
แต่น่าเสียดายที่ซากุระยังไม่สามารถแปลสิ่งที่เด็กคนนี้อธิบายได้ เธอจึงยิ้มให้อีกฝ่ายพร้อมกับดูวิวนอกหน้าต่างไปด้วย
Comments (0)