10 ตอน วิธีเล่น
โดย sunnie
ผีถ้วยแก้ว วิธีเล่น ค้นหา
วิธีเล่นผีถ้วยแก้ว ข้อควรระวัง และข้อแนะนำ คลิ๊ก
วิธีเล่นผีถ้วยแก้ว
- จุดธูปเชิญวิญญาณ
- นำถ้วยแก้วใส่ควันธูปและปิดให้สนิท นำมาคว่ำลงบนแผ่นกระดาษ
- ตั้งจิตอธิษฐานและสมาธิให้แน่วแน่
- ใช้นิ้วแตะขอบถ้วยแก้วเพียงเบา ๆ
- ถามไถ่และดูการขยับ เคลื่อนไหวของถ้วยแก้ว
- พูดคุยและถามไถ่
- เชิญวิญญาณออกจากถ้วย
ข้อควรระวัง!!
การเล่นผีถ้วยแก้วพึงระวังและสำเหนียกอยู่เสมอว่า เมื่อตัดสินใจที่จะเล่นสื่อสารกับวิญญาณบางสิ่งที่มองไม่เห็นตัวแล้วนั้นต้องระมัดระวังให้ดี ผู้เล่นควรจะ เป็นผู้ที่มีสุขภาพดีและมีจิตแน่วแน่ในการที่จะเรียนรู้และสื่อสารอย่างบริสุทธิ์ใจอย่าให้ถ้วยแก้วเปิดก่อนจบการเล่น
เพราะเชื่อถือกันว่าวิญญาณจะ อยู่ในถ้วยแก้วนั้นจนกว่าจะจบการเล่นทั้งนี้และทั้งนั้นเมื่อวิญญาณที่ออกจากถ้วยแก้วไปแล้วอาจมีใจอยากติดต่อสื่อสารกลับมาบ้างหรืออาจมีมิตรใจที่ไป เยี่ยมเยือนเพื่อนสนิทที่ร่วมคุยร่วงสนทนานั้นบ้าง ผู้เล่นก็ควรจะเตรียมพร้อมและทำใจเพราะของอย่างนี้มันแล้วแต่กรณี
ข้อแนะนำ
- ควรมีผู้เล่นอย่างน้อย 4 คน ไม่แนะนำให้เล่นคนเดียว เพราะอาจเกิดอันตรายได้
- ควรมีผู้เล่นที่มีสัมผัสที่ 6 เพราะจะมีพลังส่งให้แก้วเคลื่อนได้ดีขึ้น
บอกตามตรงว่าฉันไม่ค่อยเชื่อว่าวิธีการนี้จะได้ผลเท่าไหร่
มันไม่มีหลักฐานรองรับว่าแก้วที่เคลื่อนที่ไปมาได้มันเป็นเพราะวิญญาณหรือเพราะผู้เล่นกันแน่
...ซึ่งฉันคิดว่าน่าจะเป็นอย่างหลัง
มีคนอยู่ 2 ประเภทที่จะเล่นผีถ้วยแก้ว
หนึ่ง คนที่เชื่อและอยากสอดรู้สอดเห็น
สอง คนที่ไม่เชื่อแต่อยากลองของ
คนประเภทที่หนึ่งจะกลัว และความกลัวมักมาคู่กับความตื่นเต้น ระบบประสาทจะสั่งให้กล้ามเนื้อในร่างกายหดเกร็ง และนั่นแหละ...แก้วที่พวกเขาแตะถึงขยับได้
คนประเภทที่สองจะไม่กลัว และความไม่กลัวมักมาคู่กับความกร่าง จิตใต้สำนึกหรือสันดานจะสั่งให้พวกเขาแตะแก้วและขยับมัน ที่ทำแบบนั้นก็เพื่อต้องการแกล้งคนอื่นให้สะใจเล่น
ถ้วยแก้ว ธูป เทียน กระดาน กับคำพูดประหลาดมันดูไม่สมเหตุสมผลกับการเรียกวิญญาณ
แต่เพราะฉันไม่มีทางเลือกหรือทางออกที่ดีกว่านี้ ฉันจึงจำใจใช้วิธีการที่ไร้สาระที่สุดอย่างผีถ้วยแก้ว
...เผื่อว่าไอ้ผีบ้านั่นมันจะชอบอะไรแบบ grand opening
แต่ปัญหาเดียวในตอนนี้ก็คือ...
...ผู้เล่นมีแค่ฉันคนเดียว
คำแนะนำจากในเน็ตและจากมะลิบอกว่าควรมีอย่างน้อยสี่คน แต่ถ้าจะให้หาเยอะขนาดนั้น ฉันคงต้องโดนสิงไปอีกล้านรอบแล้วล่ะ
เพราะข่าวฉาวตั้งแต่สมัยเฟรชชี่ลากยาวมาถึงปีสอง ฉันจึงไม่ค่อยมีเพื่อนในคณะ และเพื่อนที่มีก็ดันเป็นคนขี้กลัวซะด้วยสิ
ฉันไม่อยากให้พันดาวมาเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ เธอไม่พร้อมรับมือ และอาจมองฉันเป็นคนปัญญาอ่อนก็ได้
หรือให้พูดอีกอย่างคือ...ฉันนี่แหละยังไม่พร้อมรับมือกับการสูญเสียเพื่อนสนิท
ดังนั้น กติกาการเล่นคงต้องมีการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย อย่างเช่น มีผู้เล่น 2 คนก็พอ
ฉันจะต้องหาคนที่ไม่เชื่อเรื่องผี คนที่ไม่สนใจโลกภายนอก คนที่ฉันรู้จัก และต้องเป็น...
"นี่ ได้ฟังที่พูดบ้างมั้ย?"
...คนที่ฉันไม่แคร์ว่าจะคิดยังไง
พันแสงปรากฏตัวขึ้นราวกับจังหวะซิทคอม เขายืนอยู่ตรงหน้าฉัน และแน่นอนว่าทุกสายตาในที่ประชุมก็อยู่ที่ฉันเช่นกัน
เขาเป็นโมเดลของคนที่ไม่สนใจอะไรบนโลกใบนี้นอกจากตัวเอง รางวัลบุคลลที่ปากหมาและกวนส้นตีนที่สุดในเวลานี้ต้องยกให้เขา และถึงแม้ว่าเขาจะชอบหาเรื่องฉัน แต่ฉันก็หาแคร์ไม่
คุณสมบัติของชายคนนี้ตรงกับ 'ผู้เล่น' ที่ฉันต้องการทุกข้อราวกับพรหมลิขิต
"หูหนวกเหรอ?"
...ลิขิตให้ฆ่ากันตายน่ะสิ
เปอร์เซ็นต์ที่พันแสงจะยอมช่วยฉันมีน้อยกว่าเปอร์เซ็นต์ที่ผู้นำประเทศแถวๆ นี้จะเลิกโง่ซะอีก
และถึงแม้เขาจะยอมช่วยฉัน ซึ่งมันเป็นไปไม่ได้เลย เขาก็จะด่าฉันทุกสามวินาทีและทำพิธีพังในที่สุด
ฉันจะไม่ทนฟังเขาฉอดหรอกนะ เพราะแค่ที่โดนอยู่ทุกวันนี้ก็ประสาทจะกินอยู่แล้ว
"...ฟังค่ะ" ฉันโกหกน่ะ ความจริงคือไม่ได้ยินเสียงของเขาเลยต่างหาก ฉันกำลังยุ่งอยู่กับเรื่องผีถ้วยแก้ว จะแยกเซลล์ประสาทไปสนใจเรื่องไร้สาระทำไม
อ้อ ลืมบอกไปว่าตอนนี้เป็นเวลาเจ็ดโมงเช้า และฉันต้องแหกขี้ตาตื่นขึ้นมาเพื่อประชุมเรื่องค่ายสานสายใยที่จะจัดขึ้นในวันเสาร์ที่จะมาถึง
ปีสองและปีสามทุกคนเป็นผู้รับผิดชอบงานในครั้งนี้ ฉันจึงถูกบังคับขู่เข็ญให้ทำงานที่ไม่อยากทำตั้งแต่ต้นเทอมเลยล่ะ
"เหรอ? แต่ฉันเห็นเธอเอาแต่กดโทรศัพท์นะ"
ฉันไม่เข้าใจว่าพันแสงจะยุ่งอะไรกับฉันนักหนา เขาไม่รู้สึกว่าตัวเองน่ารำคาญบ้างรึไง ขนาดฉันยังรำคาญเขาเลยนะ
"หนูฟังอยู่ค่ะ" ฉันพูดเสียงแข็ง ยังโกรธที่เมื่อวานเขาทำให้ฉันเป็นข่าวอยู่ไม่หาย เขายอมปล่อยให้พวกนั้นถ่ายรูป ทั้งๆ ที่ถ้าเป็นปกติเขาต้องอาละวาดพังร้านแล้ว
แต่นี่...เขาจงใจแกล้งฉันชัดๆ!
"งั้นบอกหน่อยว่าเมื่อกี้ฉันพูดเรื่องอะไรอยู่" พันแสงเหยียดยิ้มหยัน เขากำลังต้อนฉันให้จนมุม
"เรื่อง..."
แล้วเขาก็ทำสำเร็จ ฉันกลายเป็นหมาจนตรอกทันที ฉันจะไปรู้ได้ยังไงว่าเขาพูดอะไร ก็ฉันไม่ได้ฟังเลย!
"...ชวนน้องรหัสมาค่าย"
แต่ฟ้ายังมีตา ส่งนางฟ้าแสนสวยอย่างพันดาวมาช่วยชีวิตฉันเอาไว้ได้ทัน ฉันหันไปยิ้มอย่างซึ้งใจให้เธอก่อนจะกลับมายืดอก เผชิญหน้ากับพันแสง
"พี่บอกว่าให้ชวนน้องรหัสมาค่าย"
"เหอะ" พันแสงมองหน้าฉันก่อนจะแค่นหัวเราะ
ก๊าก คงเจ็บใจมากล่ะสิพ่อหนุ่ม
"เธอโชคดีนะที่มีน้องฉันช่วย" ยังจะกระแนะกระแหนอีกนะ
"หนูก็ว่าอย่างนั้นเหมือนกัน" ฉันพูดพร้อมกับยิ้มหวาน "...หนูโชคดีที่พันดาวไม่เหมือนพี่ชาย"
"หึ" พันแสงหัวเราะในลำคอ ร่างสูงโน้มตัวลงมาใกล้ฉันโดยไม่สนใจสายตาและกล้องที่กำลังแอบถ่ายแบบไม่เนียน "ปากเก่งจริงๆ"
เชื่อได้เลยว่าอีกไม่กี่นาที เพจ gossip ของคณะคงมีรูปฉันกับพันแสงพร้อมแคปชั่นใส่ไข่แน่นอน แล้วหลังจากนั้นก็จะตามมาด้วย...
พลั่ก
"กูว่ามึงเข้าใกล้น้องรหัสกูมากไปหน่อยนะ พันแสง"
...รามสูรจะโกรธหัวฟัดหัวเหวี่ยง
ว่าแต่ มาเร็วไปนิดหนึ่งนะ
ฉันเงยหน้าขึ้นมองรามสูรที่โผล่มาจากไหนไม่รู้ เขาปรากฏตัวขึ้น จากนั้นก็สร้างความฮือฮาให้ทุกคนด้วยการผลักพันแสงจนกระเด็นไปอีกทาง
"พี่รามมาทำอะไรคะ?" บรรยากาศที่อึดอัดทำให้ฉันเป็นคนแรกที่เสียสละ ฉันพูดพร้อมกับดึงชายเสื้อนักศึกษาที่ผิดระเบียบเบาๆ
"ฉันบอกแล้วไงว่าจะมาประชุม"
"ถ้าจะมาตอนที่ทุกคนเขาประชุมกันเสร็จแล้วก็อย่ามาจะดีกว่า" พันแสงเปิดฉากต่อสู้ด้วยการพูดประชดประชัน เขาเหยียดยิ้มได้เหมือนตัวร้ายในการ์ตูนไม่ผิด
"อ้าว เสร็จแล้วเหรอ?" แต่รามสูรก็หาได้สะทกสะท้านไม่ ใบหน้าหล่อยักคิ้วกวนประสาทกลับไปแบบคอมโบเซต
และเรียกเสียงครวญครางของพวกผู้หญิงได้อีกหลายเดซิเบล -___-
"งั้นกูก็เอาน้องรหัสออกไปได้แล้วสิ"
"...อยากทำอะไรก็เชิญ"
ฉันรู้สึกเหมือนตอนนี้ตัวเองกำลังยืนอยู่ตรงกลางระหว่างราชสีห์สองตัวที่กำลังแย่งเนื้อกวางกันไม่มีผิด และแน่นอนว่าเนื้อกวางชิ้นนั้น...
...คือฉันเอง
ฉันก็ไม่อยากเข้าข้างตัวเองนักหรอก แต่ก็คงปฏิเสธไม่ได้ว่าฉันกำลังตกเป็นเป้าหมายของผู้ชายหน้าหล่อแต่นิสัยแย่ถึงสองคน
ซึ่งมันไม่ใช่เรื่องน่ายินดีเลย!
หมับ
ครั้งนี้ คนที่ได้เนื้อกวางไปคือรามสูร เขาไม่รีรอที่จะกระชากแขนฉันให้เดินออกไปจากห้องทันที
ทุกคนกำลังมองมาที่พวกเราไม่เว้นแม้แต่พันแสงและพันดาว จนกระทั่งประตูถูกปิดลง...
...ความรู้สึกเย็นยะเยือกจากการถูกจับจ้องก็ยังไม่จางหายไป
.
.
.
อิพี่รามก็โผล่มาได้จังหวะจริงๆ โผล่มาทีไร น้องคนโปรดซวยทุกที5555555
Comments (0)