"แล้วพอทีนี้นะ มันก็..."

ร่างสูงที่กำลังเดินมาทางนี้ทำให้ฉันที่กำลังคุยอย่างออกรสชาติชะงักไป

ฉันควรทำยังไงกับสถานการณ์ตอนนี้ดีล่ะ? ควรเดินผ่านไปเลยใช่มั้ย?

ฟึ่บ

ยังไม่ทันจะคิดอะไรเพิ่ม คำตอบก็มาเสิร์ฟแบบไม่ทันตั้งตัว รามสูรเดินผ่านฉันไปราวกับฉันไม่มีตัวตน เป็นอากาศธาตุที่มองไม่เห็น เขาไม่แม้แต่จะมองหน้าฉันด้วยซ้ำ

หลังจากเหตุการณ์กระทบกระทั่งที่นับว่าใหญ่ที่สุดระหว่างฉันกับรามสูรวันนั้น รู้ตัวอีกทีก็ผ่านมาสองวันแล้ว นี่เป็นครั้งแรกที่ฉันเจอกับเขา และบรรยากาศก็ตึงเครียดยิ่งกว่าที่ฉันจินตนาการเอาไว้เสียอีก

รามสูรคงโกรธที่ฉันตบหน้าและพูดจาไม่ดีใส่เขา แต่ฉันเองก็โกรธเหมือนกันที่เขาตวาด ตะคอก ทำร้ายฉันทั้งทางร่างกายและจิตใจ

รู้มั้ยว่ากลับบ้านไป ฉันต้องให้แม่บ้านเอาน้ำแข็งมาประคบหลังเลยนะ!

แล้วไหนจะมืออันแสนบอบบางของฉันอีก

ฉันควรโกรธมากกว่าเขาสิ!!

แล้วนี่อะไร มาทำเป็นไม่มอง ไม่ทัก ทั้งๆ ที่ฉันยืนหัวโด่อยู่ตรงนี้ คำขอโทษสักคำก็ไม่มี ผู้ชายคนนี้ยังมีสามัญสำนึกอยู่มั้ย

...หงุดหงิดชะมัด!

"คนโปรด?"

"ฮะ" เสียงของพันดาวเรียกสติของฉันให้กลับมาประทับร่าง ฉันพยายามสกัดกลั้นความหัวร้อนเอาไว้แล้วฉีกยิ้มให้เพื่อนรัก

"เมื่อกี้ดาวว่าไงนะ"

"เราถามว่าคนโปรดทะเลาะกับพี่รามสูรเหรอ?"

"เปล่านี่" ฉันส่ายหน้าไปมาหลายครั้งก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงหนักแน่นดุจหินผา "ไม่ได้ทะเลาะอะไรกันสักหน่อย"

"จริงเหรอ?"

"อื้ม" ดวงตาของฉันเบิกกว้างเพื่อแสดงถึงความจริงใจ (เหรอ)

"ทำไมดาวถึงคิดว่าเราทะเลาะกันอ่ะ"

"ก็...เมื่อกี้เราไม่เห็นคนโปรดกับพี่เขาทักกันเลย"

"ปกติก็ไม่ได้ทักกันอยู่แล้วนี่นา ฮะๆ" ฉันคิดว่าการหัวเราะทำให้ประโยคซอฟต์ลงนะ

ความจริงฉันก็ไม่ได้โกหกพันดาวไปซะทุกเรื่อง เรื่องที่รามสูรไม่เคยทักฉันเป็นเรื่องจริง ปกติพวกเรามักเดินผ่านกันโดยที่ไม่มีใครพูดอะไร แต่สิ่งที่ต่างออกไปจากปกติคือ...

...เราไม่ได้สบตากัน

"แต่บรรยากาศมันดูแปลกๆ นะ"

"บ้า ดาวอ่ะคิดมาก!" เสียงที่ฉันพูดออกไปทั้งสูงและสั่น โคตรจะมีพิรุธเลย

ว่าแต่บรรยากาศมันแปลกไปขนาดนั้นเลยเหรอ เพราะเราโกรธกันอยู่รึเปล่านะ?

"เราว่า..."

เอ๊ะ นั่นมัน...

"ดาว เราไปก่อนนะ!"

ฉันกำลังมองไปรอบๆ ทางเดิน แล้วสายตาก็ดันไปเหลือบเห็นใครบางคนที่ฉันตามหาแทบพลิกแผ่นดินเข้า และฉันจะไม่พลาดโอกาสที่แสนหายากนี้เด็ดขาด!

ฉันไม่รู้ว่าพันดาวพูดอะไรต่อจากนั้นรึเปล่า เพราะหัวสมองมันบอกว่าถ้าไม่อยากโดนพันแสงด่าจนหูชา ฉันต้องรีบเดินตามร่างสูงเจ้าของผมสีทองไปโดยห้ามสนใจสิ่งรอบข้างเด็ดขาด

ตึก ตึก ตึก

เมื่อคิดได้แบบนั้น ฉันจึงทิ้งทุกอย่างเอาไว้ข้างหลังแล้วพาตัวเองพร้อมกับรองเท้าส้นสูงสีดำเข้าไปหาชายคนนั้นทันที

"คิมหันต์! คิม..."

กึก

"...ว้าย!!!"

เรื่องนี้สอนให้รู้ว่า...เราไม่ควรใส่รองเท้าส้นสูงเดินบนพื้นกระเบื้องที่ชำรุด

มาคิดได้ตอนนี้ก็สายไปเสียแล้ว เพราะฉันได้เดินสะดุดแผ่นกระเบื้องนั่นและกำลังจะล้มเข่ากระแทกพื้นในอีกสาม...สอง...

หมับ!

...หนึ่ง

"ระวังหน่อยสิเจ๊!"

ร่างของฉันลอยอยู่กลางอากาศโดยที่ขาข้างซ้ายยังแตะพื้น และแขนข้างขวาถูกมือหนาของคนข้างหลังดึงเอาไว้ได้แบบหวุดหวิด

"คิดยังไงถึงได้ใส่ส้นสูงมาเรียนเนี่ย" เสียงดุๆ ดังขึ้นเรื่อยๆ ฉันกลับไปยืนปกติอีกครั้งด้วยความช่วยเหลือของผู้ชายที่บ่นไม่หยุด

"ถ้าตกลงไปจะเป็นยังไง แล้ว..."

...ไม่หยุดจริงๆ

สรุปคือฉันไม่เจ็บตัว แต่เจ็บหูแทน -___-^^

"ก็เห็นๆ อยู่ว่าพื้นมันพังยังจะรีบวิ่งอีก กระโปรง..."

ฟึ่บ

"พอก่อนอานนท์" ฉันยกมือขึ้นอย่างยอมแพ้ "ข้าสำนึกผิดไม่ทันแล้ว"

"ชื่อคิมหันต์ไม่ได้ชื่ออานนท์"

"มุกไง ไม่ขำเหรอ?"

"-___-"

"ไม่ขำก็ไม่ขำ -3-" ฉันหุบยิ้มทันทีเมื่อเห็นใบหน้าหล่อไม่แสดงอารมณ์ใดๆ

คิมหันต์ก็เป็นแบบนี้แหละ เอาแต่ทำหน้านิ่ว คิ้วขมวดเหมือนโลกจะแตกอยู่ตลอดเวลา

"แล้วนี่มาทำไม?"

"ก็มาหานายน่ะสิ!" ฉันปรับโทนเสียงให้เข้มขึ้นก่อนจะเอามือเอาเอว "คนอะไรตามตัวยากตามตัวเย็น"

"มาหาคิม? มาหาทำไม?"

"พี่จะถามนายว่า...นายจะไปค่ายสานสายใยมั้ย?"

"ไม่ไปอ่ะ ขี้เกียจ"

เป็นคำตอบที่ไม่เหนือการคาดเดาเลยสักนิด

คิมหันต์เป็นญาติห่างๆ ของฉัน แค่นั้นไม่พอ ตอนนี้เขายังมีสถานะเป็น 'น้องรหัส' ของฉันอีก

ฉันคิดว่ารามสูรยังไม่รู้เลยมั้งว่าน้องรหัสปี 1 เป็นใคร เขาสนใจอะไรนอกจากตัวเองที่ไหนล่ะ ในสายรหัส 050 มีแค่ฉันคนเดียวที่เขารู้จัก เพราะเขามางานรับน้องแค่ปีเดียวซึ่งก็คือปีของฉันนั่นแหละ นอกนั้นน่ะเหรอ...ไม่เคยปรากฏตัวแม้แต่วินาทีเดียว

จะว่าไป ผู้คนรอบตัวฉันก็มีแต่คนที่ไม่สนใจสิ่งรอบข้างทั้งนั้นเลยนะ ทั้งรามสูร พันแสง คิม...

...ฉันลืมคิมหันต์ในตัวเลือกผู้เล่นผีถ้วยแก้วไปยังไง!

"ต้องไปสิ"

ใช่แล้วล่ะ ถ้าจะให้เลือกใครระหว่าง 3 คนนี้ คิมหันต์คือตัวเลือกที่ดีที่สุด เขาเป็นญาติฉัน มีคุณสมบัติตรงตามที่ฉันอยากได้ทุกอย่าง ฉันไม่ต้องแคร์ว่าเขาจะคิดยังไงกับเรื่องนี้ เพราะว่าเขา...

...เป็นคนเดียวที่เชื่อเรื่องที่ฉันเห็นวิญญาณ

โป๊ะเชะ! คิมหันต์นี่แหละคือผู้ชายคนนั้น!!!

"ทำไมต้องไป?"

"เพราะพี่สั่งให้ไป"

"ไม่อ่ะ ขี้เกียจ"

"-___-"

แต่ไอ้นิสัยไม่สนใจอะไรสักอย่างนี่เกินไปมั้ย!?

คิมหันต์จัดเป็นผู้ชายในอุดมคติของสาวๆ เขาทั้งหล่อ สูง หุ่นดี บ้านรวย(แหงสิ ก็ญาติฉันอ่ะ) แถมยังเรียนเก่งอีกต่างหาก...

"ถ้านายไม่ไป พี่ต้องโดนเฮดฝ่ายด่าแน่ๆ"

"แล้วไง? มันไม่เกี่ยวกับคิมนี่"

...แต่ความเย็นชาแบบเกินลิมิตนี่ก็ทำให้น่าตบไม่แพ้กัน

"โหย ช่วยพี่หน่อยน้า" ฉันจับมือใหญ่แกว่งไปมาพร้อมกับทำหน้าออดอ้อน "ไปแค่สองวันเอง~"

"ไม่อ่ะ ขี้เกียจ"

"ไปแปบเดียวเดี๋ยวก็กลับแล้ว"

"ไม่อ่ะ ขี้เกียจ"

"ปะ..."

"ไม่อ่ะ ขี้เกียจ"

"มันจะขี้เกียจอะไรนักหนา!?" ความอดทนที่มีขีดจำกัดทำให้ฉันกำหมัดและพร้อมจะยกขึ้นทุบเขา

แต่พอเห็นหน้าโหดๆ กับสายตาที่มองฉันราวกับสมเพช ฉันก็ค่อยๆ ลดมือลงแล้วทำหน้าหงอยเหมือนน้องหมาน่าสงสาร

"นะ คิม ไปค่ายเถอะนะ" ฉันขอร้องเขาอีกครั้ง "จะได้สนิทกับเพื่อนๆ ไง"

"ไม่อ่ะ ขี้เกียจ"

"-___-"

"เจ๊บอกมาดีกว่าว่ามีจุดประสงค์อะไรแอบแฝง"

"...."

"คิมไม่ได้โง่นะ"

"เออ ก็ได้" ฉันถอนหายใจเฮือกใหญ่ คิมหันต์นี่มันคิมหันต์จริงๆ

"พี่อยากให้นายเล่นผีถ้วยแก้วกับพี่ตอนกลางคืน"

"...."

"มีแต่นายคนเดียวที่พี่พึ่งได้ ช่วยพี่หน่อยเถอะนะ"

"มีเหตุผลอะไรที่เล่นรึเปล่า?"

"มี" ฉันเงยหน้าขึ้นมองใบหน้าหล่อ "แต่บอกไม่ได้"

"แล้วถ้าช่วย คิมจะได้อะไร"

"ก็...ได้ความรักจากพี่ไงจ๊ะ~" ฉันยิ้มยิงฟันพร้อมกับชูมินิฮาร์ทให้เขา

คิมหันต์มองการกระทำของฉันด้วยสายตาที่ไร้อารมณ์เช่นเดิม แต่ฉันแอบเห็นมุมปากของเขากระตุกขึ้นนิดหนึ่งนะ

หึ ทนความน่ารักของฉันไม่ไหวล่ะสิ

"อยากให้ไปขนาดนั้นเลย?"

"อยากที่สุดในโลกเลยค่ะ!"

"คิมจะไป..."

"จริงเหรอ!?"

"ถ้าพี่รามสูรไป"

ราวกับฟ้าผ่ากลางวันแสกๆ ฉันที่กำลังยิ้มร่าต้องตกอยู่ในอาการ 'แช่แข็ง' เหมือนปลาซาดีนแห้ง

"...เขาไม่ไปหรอก"

"งั้นคิมก็ไม่ไป"

"โห พี่อุตส่าห์พูดขนาดนี้แล้วนะ" ฉันทำหน้ามุ่ย "ช่วยพี่หน่อยไม่ได้เหรอ?"

"ก็บอกแล้วไงว่าจะไปถ้าพี่รามสูรไป"

"...."

คิมหันต์รู้อยู่แล้วว่ารามสูรจะไม่ไป ใครๆ ก็รู้ว่ารามสูรไม่มีวันทำกิจกรรมของคณะ สรุปก็คือ...

...คิมหันต์จะไม่ช่วยฉันแน่นอน

"นายเห็นน้ำข้นกว่าเลือดเหรอ?" สงสัยต้องเล่นบทดราม่าสักหน่อยแล้ว "ฮึก นายเห็นรามสูรดีกว่าพี่ตัวเองเหรอ?"

"นี่ บอกแล้วไงว่าเราไม่ได้เป็นพี่น้องกัน"

"เป็นสิ! นายเป็นญาติ..."

"หลานสาวของพี่สาวพี่สะใภ้ที่เป็นลูกพี่ลูกน้องลำดับที่ 15 ของน้องสาวของคุณปู่เขาไม่ได้เรียกว่าญาติ" คิมหันต์โน้มตัวลงมาใกล้ฉัน "เขาเรียกว่าคนร่วมโลก"

"ยะ ยังไงก็เถอะ!" ฉันก้าวถอยหลังหนึ่งก้าว "ญาติก็คือญาติอยู่ดี!"

"เฮ้อ"

"นายจะปล่อยให้ญาติ...ห่างๆ ของนายลำบากเหรอคิมหันต์?"

"...."

"ถามใจตัวเองดีๆ นะ ฮึก" เบะจนไม่รู้จะเบะยังไงแล้ว

"ถ้าพี่รามสูรไป ผมก็ไป"

"แต่..."

"จบนะ?"

.

.

.

ตอนนี้ยาวมากกกก หวังว่าทุกคนจะชอบกันนะคะ

อุปสรรคของนางเอกนี่เยอะจริงๆ มาเอาใจช่วยให้น้องผ่านมันไปด้วยกันนะคะ5555555