บทที่ 9 พวกเราทุกคนชอบไปโรงเรียน

 

เพโลวีมีรอยฟกช้ำมาตั้งแต่เช้าแล้ว เธอก็เหมือนกับอิล ถูกลงโทษในการรับน้องที่จัดขึ้นเพื่อความสนุกของรุ่นพี่ ดูเหมือนจะมีบ้านหัวใจสิงห์กับบ้านบุหงาดำที่รอดจากวังวนเน่าเฟะนั้น เพราะบ้านหัวใจสิงห์มีรุ่นพี่ที่นิสัยดี ส่วนบ้านบุหงาดำไม่มีรุ่นพี่ บ้านมณีเลือดต่างออกไปตรงที่รุ่นพี่จะไม่หาเรื่องกับคนที่แข็งแกร่งกว่าอย่างพวกยักษ์ และคนที่บรรดาศักดิ์สูงกว่าอย่างเดธิเลีย ในขณะที่บ้านหอกราตรีกดหัวรุ่นน้องทุกคน

ข้าได้ยินว่าเจ้าอยากทำอาหารเพโลวีเปลี่ยนกลับเป็นร่างจำแลงมนุษย์ ก่อนจะส่งหม้อสำหรับต้มซุปให้คัลลัค

มาทำไมคัลลัคถามกลับอย่างเย็นชา

คือข้าคิดว่า บางทีเจ้าอาจจะอยากได้คนช่วย...เพโลวีเสนอตัวช่วยด้วยท่าทางบิดไปมาขัดกับกล้ามล่ำ ๆ พวกนั้น แต่คัลลัคกลับปัดหม้อในมืออีกฝ่ายลงพื้น

แน่นอน ข้าต้องการให้ช่วย ข้าต้องการให้ช่วยในตอนที่ถูกเดธิเลียซ้อมในวันสอบ ข้าต้องการให้ช่วยตอนที่ถูกไทเตสโยนเข้าไปในโพรงมืดคัลลัคสั่นหัว ข้าไม่ได้ต้องการให้เจ้ามาช่วยทำอาหาร

เพโลวีก้มหน้ามองพื้น ลูบแขนอย่างรู้สึกผิด

กลับไปก่อนที่เจ้านายจะเรียกหาเถอะคัลลัคหมายถึงเดธิเลีย ไม่ว่ามองยังไงก็รู้ว่าเพโลวีจะฟังหัวโจกตัวเองมากกว่าเพื่อนที่พึ่งรู้จัก บางทีอาจจะเพื่อเอาตัวรอดในบ้านมณีเลือด แต่คัลลัคก็ไม่กล้ามองโลกในแง่ดีขนาดนั้น

เพโลวีคืนร่างเสือและกระโดดข้ามกำแพงดินกลับไป โดยไม่ได้คาบเอาหม้อต้มซุปกลับไปด้วย ทั้งที่ดูแล้วอีกฝ่ายน่าจะขโมยมาจากห้องครัวบ้านนั้น

เฮ้อคัลลัคถอนหายใจ เธอก็ยังอยากเป็นเพื่อนกับเพโลวีอยู่ ถ้าหากอีกฝ่ายยอมรับเธอได้ แม้จะรู้เรื่องตาเงิน แต่มันเป็นไปไม่ได้ ตราบใดที่เพโลวีอยู่ใต้อำนาจเดธิเลีย เอาน่ะ ไหน ๆ ก็ต้องต้มยาอยู่แล้ว

คัลลัคตัดสินใจเก็บหญ้าตามพื้นมาเป็นสองเท่าจากที่ตั้งใจ ในสายตาคนอื่น หญ้าพวกนี้คือวัชพืช แต่คัลลัครู้ว่ามันคือสมุนไพรและพืชเวทมนตร์หลายชนิด ไม่ใช่ว่าเคยอ่านเจอ แต่เพราะเมื่อเธอเปิดผ้าปิดตาออกและมองด้วยตาเงิน เธอจะเห็นกระแสพลังเวทในอากาศและผืนดิน เห็นละอองเวทมนตร์ในสิ่งมีชีวิต ไม่ว่าคน สัตว์หรือพืช

สีสันแสนสวยงามเหล่านี้ คัลลัคเคยนึกว่าทุกคนที่ใช้เวทมนตร์ได้จะเห็นมันเป็นปกติสามัญ แต่เมื่อฟังเรื่องพ่อของริสต้า ดูเหมือนว่ามันจะเป็นความสามารถที่ติดมากับตาเงินมากกว่า

คัลลัคพยายามก่อกองไฟเพื่อต้มยากลางดึก ทุกคนในบ้านดับไฟนอนกันไปแล้ว ยกเว้นร็อตที่ติวหนังสืออยู่ทุกคืน

เอาไม้ขีดไหมร็อตชะโงกหน้าออกมาถาม คงเพราะได้กลิ่นควันจากฟืนที่คัลลัคพยายามเป่า แต่ไฟไม่ติดเสียที

อ..เอ้อ ขอบคุณ สวัสดีตอนดึกนะร็อตแม้จะขึ้นชื่อว่าเป็นเพื่อนร่วมบ้าน แต่คัลลัคแทบไม่ได้คุยกับกอริลลาเขียวปีกแมลงตนนี้เลย เพราะรู้สึกว่าอีกฝ่ายฉลาดเกินไป

ทำต้มจับฉ่ายรึแม้แต่ร็อตก็นึกว่าคัลลัคจะต้มซุป เพราะเขาไม่รู้จักสูตรยาจากสมุนไพรที่เก็บมั่ว ๆ แบบนี้

เปล่า ข้าว่าจะต้มยาน่ะคัลลัคตอบ เลี่ยงไม่พูดถึงอิล ยารักษาแผลฟกช้ำให้เพโลวี

แต่เจ้าเก็บสมุนไพรสำหรับทำยาพิษมาด้วยร็อตทัก ทำเอาคัลลัคหันขวับ ใบนี้ไง

มันมีพิษรึคัลลัคถาม ร็อตพยักหน้า ดูเหมือนว่าถ้าเป็นเรื่องยา ร็อตจะช่างคุยกว่าปกตินิดหน่อย แต่ข้ากินได้นะ

ไม่ มนุษย์กินใบนี้ไม่ได้ กินแล้วตายร็อตว่า

แต่... ข้ากินได้นะคัลลัคหยิบมาเคี้ยว ๆ แล้วกลืนให้ดู ทำให้ร็อตชะงักในท่ายกมือห้าม แต่จากท่าทางที่ยังไม่น้ำลายฟูมปากตาย เขาก็เริ่มเชื่อแล้วว่าคัลลัคกินได้

ท้องเจ้าทำมาจากอะไรกันร็อตถาม เขาแน่ใจว่ามันมีพิษ แล้วก็เคยเห็นยาพิษที่ทำจากพืชนี้ด้วย

ก็กินไปมั่ว ๆ เพราะไม่มีเงินจะซื้อกินน่ะคัลลัคตอบ ข้าเคยคิดว่าตัวเองถูกสร้างจากดิน กินพิษก็ไม่ตายหรอก จริง ๆ ก็เคยท้องเสียอยู่บ้าง แต่มันก็แค่นั้น

ซื่อบื้อจริงร็อตถอนหายใจ เขาหยิบเอาหนังสือออกมานั่งเป็นเพื่อนคัลลัคที่ระเบียงไม้ อาจจะเพราะแสงจากกองไฟสว่างกว่าเทียนเล่มเดียวในห้อง แต่คัลลัคก็รู้สึกดีที่มีเพื่อนคุย

แม้ว่าพักต่อมาจะเกิดอาการเดดแอร์ก็ตาม

แล้ว... เจ้าเห็นอะไรในโพรงมืดคัลลัคถามเพื่อทำลายความเงียบ

คิดหัวข้อสนทนาเองไม่เก่งสินะร็อตตอกกลับ โดยไม่ยอมตอบคำถาม เป็นข้าจะไม่ยุ่งเรื่องคนอื่นให้มากนัก

คัลลัคต้มยาต่อไปอย่างเงียบเชียบ รู้สึกเหมือนโดนหลอกด่าว่าเผือก แต่ก็โต้กลับไม่ได้ เพราะร็อตยังช่วยแนะนำสมุนไพรที่คนปกติกินแล้วไม่ตายให้เธออยู่

สุดท้ายก็ได้รับยากินกับยาทามาอย่างละ 4 ขวด

+++

คาบเรียนที่ 5 วิชาสังคมศึกษา ::: ห้องเรียนปี 1

ยาที่สร้างได้นั้น ชุดแรกคัลลัคทาให้ตัวเองก่อนเลย ในขณะที่อาการอื่น ๆ ที่ยังไม่หาย ตั้งแต่หวัดลงคอ รอยฟันเงือก โรคกระเพาะและข้อเท้าพลิกนั้น ร็อตเป็นคนช่วยทำแผลให้โดยอ้างว่าเป็นการทบทวนบทเรียน จนคัลลัคเริ่มคิดแล้วว่ากอริลลาหน้าโหดตนนี้อาจจะเรียนจบไปเป็นฮีลเลอร์ก็ได้

วิชาสังคมคือวิชาเหมารวม ตั้งแต่ประวัติศาสตร์ ศาสนา หน้าที่พลเมือง ไปยันกฎหมายทั้งของฝั่งคนปกติและฝั่งผู้ใช้เวทมนตร์ เรียกได้ว่าเหม่อเมื่อไหร่ก็ตามไม่ทันเมื่อนั้น แต่ก็ไม่รู้เป็นโชคดีหรือโชคร้ายที่ครูสอนวิชานี้คือครูแคล

นักเรียนทั้งชั้นจึงต้องวนมาทบทวนหัวข้อศาสนาเป็นรอบที่ 4 ของวัน เพราะมีนักเรียนต่างศาสนายืนเถียงกัน

คนหนึ่งคือไฮโอ ไม่น่าแปลกใจ เขานับถือศาสนาบริสุทธิ์ แถมมีพ่อเป็นพวกเคร่งจัดอีกต่างหาก

ส่วนอีกคนหนึ่งคือฮันนิบาล เขาไม่นับถือศาสนา

หัวข้อที่เถียง ก็คือ การรักเพศเดียวกันเป็นสิ่งถูกรึผิด

คัลลัคที่นับถือศาสนาเทรเซน ซึ่งเป็นศาสนาหลักของโลก เช่นเดียวกับนักเรียนคนอื่น พากันเอือมระอากับสงครามน้ำลายของเด็กหนุ่มคู่นี้

วิชานี้เพโลวีนั่งอยู่กับเดธิเลียที่ท้ายห้อง ส่วนคัลลัคนั่งอยู่ข้างสงครามน้ำลาย เธอจึงยังไม่มีโอกาสคืนหม้อแถมยาให้อีกฝ่ายไป เพราะมันคงไม่ดีแน่ ถ้าเดธิเลียรู้ว่าเพโลวีช่วยเธอ

+++

คาบเรียนที่ 6 วิชาพลศึกษา ::: สนามเวทมนตร์

คัลลัคเกลียดวิชานี้

มันคือวิชาออกกำลังกายด้วยอาวุธเวทมนตร์ นักเรียนส่วนใหญ่จะใช้ดาบเป็นอาวุธ รวมทั้งเดธิเลียด้วย ในขณะที่อาวุธของคัลลัคเป็นแค่มีดราคาถูก ส่วนอาวุธที่แพงที่สุดก็คงหนีไม่พ้นของเจ้าหญิงซาร์ธีน ซึ่งเป็นศาสตราเวทประจำราชวงศ์ มันคือมงกุฎซึ่งทำจากวัสดุเวทมนตร์แพงหูฉี่ทั้งหมด

วิชาพลศึกษาสอนโดยครูกินรา ประเดิมคาบเรียนแรกด้วยการให้จับคู่ประลอง เพื่อแสดงพื้นฐานให้ครูเห็น

โชคร้าย คัลลัคหนีเดธิเลียไม่พ้นในวิชานี้

เมื่อจบวัน บาดแผลที่ยังไม่หายจึงยับเยินเข้าไปอีกพร้อมกับแผลใหม่ แม้ว่าจะสวมผ้าคลุมเวทป้องกันไว้แล้ว ดูเหมือนอีกฝ่ายจะเล็งผิวหนังที่ไร้การป้องกันของเธอ เช่น หลังมือ ใบหน้าและข้อเท้า

แล้วเจอกันใหม่สัปดาห์หน้าเดธิเลียพูดทิ้งท้ายเอาไว้กับสภาพคู่ต่อสู้ที่พยายามห้ามเลือดบนหลังมือ เจ้าตายแน่

นี่เป็นการต่อสู้จริง ดาบพวกนั้นมีคมจริง มีอาการบาดเจ็บและเลือดออก เพียงอย่างเดียวที่ไม่จริงคือการต่อสู้นี้ไม่ถึงตาย แต่ก็ไม่แน่...

มันอาจจะมีสักครั้งก็ได้ที่ครูกินราไม่ห้ามพวกเธอ

+++

ข้าจะไปจัดการเรื่องติดต่อให้ภายในวันเงานี้ แต่แค่...! แค่ติดต่อนะอิลบอก หลังจากที่คัลลัคให้ยากับเขาไป ข้าจะไม่พาเขามาหาเจ้า จนกว่าเจ้าจะให้อะไรที่มีมูลค่ากว่านี้

นี่คัลลัคเรียกเขา แต่กลับมองไปทางบ้านมณีเลือด ซึ่งเพโลวีกำลังหาวิธีเอาหม้อกลับเข้าไปเก็บโดยไม่ให้โดนจับได้ คัลลัคให้ยาอีกฝ่ายไปแล้ว แต่เพโลวีไม่ยอมรับไปเพราะเห็นคัลลัคสภาพยับเยินกว่ามาก จนต้องบอกว่ามียาสำรองอีกถึงจะยอม เจ้าว่าคนเป็นเพื่อนกันต้องช่วยเหลือกันตลอดเวลาไหม

เห้ย ๆ ข้าไม่ใช่ที่ปรึกษาปัญหาชีวิตนะอิลทำหน้าอี๋ใส่ ที่แน่ ๆ ข้ากับเจ้าไม่ใช่เพื่อนกัน จำไว้ให้ดีล่ะ

อืมคัลลัคขานรับอย่างไม่ใส่ใจ ส่วนในหัวเริ่มคิดว่าถ้าเธอกับเพโลวีผ่านพ้นช่วงปีหนึ่งและสมัครกิลด์ที่ไม่มีเดธิเลียมาคอยกดหัว ความสัมพันธ์ของพวกเธอจะดีขึ้นกว่านี้ไหม

แต่ก็ทำใจ เพราะโชคดีไม่เคยจะอยู่ข้างเธอ

+++

คาบเรียนที่ 7 วิชาศิลปศึกษา ::: ห้องจิตรกรรม

คัลลัคชอบวิชานี้

แต่ครูประจำวิชาอาจจะไม่ชอบเธอ

ครูดูโคเป็นครูสอนวิชาศิลปะร่วมกับวิชาปรุงยา เขาสอนได้ละเอียดตั้งแต่การบดสีทำหมึกเวทมนตร์ เพื่อจะสร้างภาพเขียน สัญลักษณ์เวท ไปจนถึงวงเวท น่าเสียดายที่คัลลัคต้องไม่ทำตัวเด่น เพราะเขาเป็นเหมือนริสต้า เกลียดกลัวพวกตาเงิน แต่ยังแสดงท่าทีปกติแค่เพราะยังไม่รู้ว่าคัลลัคเป็น

มันก็แค่ระเบิดเวลาที่กำลังนับถอยหลัง

วาดสวยนี่ไฮโอชะโงกมองงานวงเวทขนาดเล็กของคัลลัคในกระดาษ เขาอาจจะเป็นเพื่อนคัลลัคในสายตาริสต้า แต่ในสายตาคัลลัคแล้ว เธอกลัวว่าเขาจะแฉเรื่องเธอกับริสต้าหรือพ่อของเขาตลอดเวลาจนไม่กล้าชวนคุย ไม่โชว์ครูหน่อยรึ

คัลลัครีบคว่ำกระดาษปิด

แต่มือเจ้ากรรมนายเวรของเธอดันไปปัดโดนขวดหมึกเวทมนตร์เข้าจนร่วงแตกกระจายไปบนพื้น ทำให้เกิดระเบิดควันสีม่วงรูปเห็ดขึ้นมาในห้อง

ปุ้ง! มีภาพวาดและตัวเพื่อนร่วมห้องโดนลูกหลงกันไปหลายคน แต่คนที่โดนหนักสุดจนเปื้อนคราบหมึกระเบิดไปหมดก็คือเจ้าหญิงซาร์ธีนที่เดินผ่านเพื่อจะเอางานไปให้ครูดูโคช่วยแนะนำ ส่วนงานในมือก็เละเทะไปเรียบร้อย

ชากอลครูดูโคพูดเสียงต่ำ ข้าเตือนว่ายังไง เรื่องพลังเวทที่บรรจุในน้ำหมึก

คัลลัคกลืนน้ำลาย ตั้งใจจะหยิบผ้าเช็ดหน้าให้ซาร์ธีน แต่อีกฝ่ายเดินกลับไปเช็ดหน้าที่โต๊ะตัวเองแล้ว

อยู่ดีไม่ว่าดี คัลลัคก็ทำให้คนเกลียดตนเพิ่มเสียอย่างนั้น

หลังเลิกเรียนอยู่คุยกับครูด้วยครูดูโคเอ่ย

คัลลัคหน้าซีด ริสต้ายิ้มแหย ๆ พลางส่งผ้าเช็ดหน้าให้เพื่อน ส่วนไฮโอยกนิ้วนวดขมับไว้อาลัยคนดวงซวย

+++

รู้ไหมว่าทำไมหมึกถึงระเบิดครูดูโคถาม หลังจากคนอื่นกลับกันไปหมดแล้ว ส่วนริสต้ากับไฮโอรอคัลลัคที่หน้าห้อง

เพราะข้าชนขวดตกแตกคัลลัคตอบ

เพราะเจ้าใส่ผงกำมะถันมากเกินไปครูดูโคเฉลย ริสต้าบอกข้าว่าเจ้าเข้าไปในห้องปรุงยา เพื่อจะเอาหม้อไปต้มยาให้เพื่อน ความจริงเจ้ายืมใช้ได้ ตราบใดที่ไม่เอาไปต้มซุป

คัลลัคยิ้มแหย ๆ ก็ตอนนั้นเธอตกใจอยู่จนไม่รู้จะพูดอะไรออกไป อีกทั้งกำลังหิวอยู่พอดีในจังหวะนั้น

ขอดูยาที่เจ้าทำหน่อยครูดูโคแบมือ คัลลัคจึงรีบหยิบยาออกมาจากย่ามเน่า ๆ ที่พกติดตัวตลอดเวลา มันเป็นยาสำรองที่ยังไม่ได้ใช้ แต่คัลลัคพกทุกอย่างติดตัวเหมือนคนบ้าหอบฟางอยู่แล้ว เจ้าน่าจะไปซื้อกระเป๋าใหม่ได้แล้วนะ

ใบนี้มีคนให้มาค่ะคัลลัคกอดย่ามเน่าของตัวเองแน่น มันอาจจะมีสภาพดูไม่ได้ แต่มันก็มีดีในแบบที่ต่างออกไป

มันคือกระเป๋าไร้ก้น ลุงกันตินี่เป็นคนเย็บให้กับมือ

บาดแผลพวกนั้นครูดูโคเอ่ยทั้งที่แกว่งขวดยาดูสีของมันอยู่ ไปโดนอะไรมา

วิชาพลศึกษาค่ะคัลลัคเลี่ยงที่จะตอบชื่อบุคคล

แปลว่าจะโดนทุกสัปดาห์สินะครูดูโคทาย ก่อนจะเขียนอะไรบางอย่างใส่กระดาษส่งให้คัลลัค อันนี้ดีกว่า

มันคือสูตร แต่ไม่ใช่ยารักษา

วงเวทป้องกันพื้นฐาน...? ” คัลลัคอ่านชื่อภาพตัวอย่างที่ครูเขียนให้ ก่อนจะขยับกระดาษและพบว่ามันเหนียวขึ้นเหมือนว่ากลายเป็นหนังสัตว์คุณภาพดี

ถ้าใช้ให้ถูกเวลา มันก็อาจช่วยชีวิตเจ้าได้ครูดูโคเอ่ย ความจริงแล้วเขาเรียกเธอเอาไว้ ไม่ใช่เพราะก่อเรื่อง แต่เพราะคัลลัคมีผ้าพันแผลเต็มตัวจนสะดุดตา เมื่อหมึกระเบิดจึงถือโอกาสเรียกตัวเอาไว้เลย แล้วระวัง อย่าทำขวดหมึกแตกอีกล่ะ วัตถุดิบพวกนี้ พวกเจ้าใช้เรียนฟรี แต่ความจริงมันแพงมาก

ขอบคุณค่ะคัลลัครีบขอบคุณครูในทันที เธอมีอคติกับเขาในทีแรกเพราะคิดว่าเขาจะเกลียดเธอ แต่ก็ไม่...เอ่อ ครูดูโคคิดยังไงกับพวกตาเงินเหรอคะ

เกลียดคำตอบที่ได้นั้นกลับมาเร็วทันควัน สายตาใจดีของครูแปรเปลี่ยนเป็นเกลียดชัง ถามทำไม

อ..เอ่อ ก็แค่... ข้าไม่เคยเห็นพวกเขามาก่อน แล้วริสต้าก็ไม่ชอบพวกเขามาก ๆ เลย ข้าก็เลยอยากรู้ว่าทำไมน่ะค่ะคัลลัคแถไปเรื่อย

เพราะพวกมันเลือกเส้นทางที่จะเดินไปหานครแห่งความตายและได้รับคำสาปมา เป็นพวกนอกรีตในศาสนาบริสุทธิ์ครูดูโคเอ่ยตอบ อย่างที่ไฮโอว่า พ่อของเขาเป็นพวกเคร่ง

แล้วคนที่เกิดมาก็มีตาเงินเลยล่ะคะคัลลัคถามต่อ

เด็กผู้โชคร้ายพวกนั้น...ครูดูโคถอนหายใจ พวกเขาเกิดมากับคำสาป อายุไม่ยืนนักหรอก

คัลลัคยิ้มแหย ๆ ขอตัวไปกินข้าวเพราะหมดธุระแล้ว แต่จนหมดเวลาพักแล้วก็ยังอดสงสัยไม่ได้

เธอจะอายุไม่ยืนเพราะคำสาปในดวงตางั้นรึ

+++

คาบเรียนที่ 8 วิชาการงานอาชีพ ::: บ้านกิลด์โรงเรียน

บ้านกิลด์มีหลายหลัง แต่หลังที่ใหญ่ที่สุดก็คือบ้านกิลด์โรงเรียน ซึ่งมีพื้นที่ชั้นล่างเป็นเหมือนโรงเตี๊ยมที่มีพื้นที่โล่ง เคาท์เตอร์สำหรับติดต่อสอบถาม และกระดานแสดงอันดับรายชื่อและคะแนนภารกิจของนักเรียนทุกชั้นปี

ได้ยินว่าเพื่อความกระตือรือร้นของนักเรียน...ริสต้ามองกระดานนั้นอย่างเป็นกังวล เมื่อขึ้นปี 2 จะมีการจัดอันดับที่เข้มงวดในชั้นปี และนักเรียนที่คะแนนแย่ที่สุด 5 อันดับจากปี 1 จะได้รับภารกิจเป็นข้ารับใช้ของนักเรียนที่คะแนนสูงที่สุด 5 อันดับไปตลอดทั้งปี

ก็แค่ระวังไม่ให้ติด 5 อันดับสุดท้ายใช่ไหมคัลลัคถาม ราวกับว่านั่นไม่ใช่เรื่องน่ากังวล

ครูกินราบอกว่ามีระบบนี้เพื่อให้นักเรียนระดับหัวกะทิช่วยเหลือนักเรียนที่รั้งท้าย แต่เอาจริงจังเลยนะคัลลัคไฮโอเองก็ไม่อยากที่จะมองกระดานนั้น พ่อข้าบอกว่าจะกี่ปีผ่านไปก็ไม่มีเรื่องแบบนั้นเกิดขึ้นหรอก นักเรียนรั้งท้ายมีแต่จะโดนกดให้ติดอยู่กับอันดับพวกนั้นต่อไปจนกว่าจะเรียนจบ

ความจริงโหดร้ายเสมอ แม้แต่ในโรงเรียนแห่งนี้

เอาล่ะ ครูเรียกชื่อใครก็ให้ตามครูมานะครูมาลินี่เป็นคนดูแลในวิชานี้ ในคาบแรกทุกคนจะได้ทำบัตรนักเรียนของตัวเองที่ห้องหลังเคาท์เตอร์

คัลลัคยืนสำรวจรายชื่อบนกระดานจัดอันดับไประหว่างรอคนอื่นทำบัตรนักเรียน เธอเห็นชื่อซาร์ธีนอยู่ด้านบนสุดของปี 1 ส่วนด้านล่างสุดก็คือพวกยักษ์หัวทึบกับชื่อใครไม่รู้ที่เธอยังไม่เคยทำความรู้จัก

ปี 2 อันดับรั้งท้าย... คิไตลัน ลัตช์

ปี 3 อันดับ 2... คิวแคน ลัตช์

นี่ เพโลวีคัลลัคหันไปถาม เมื่อเดธิเลียเข้าไปทำบัตรนักเรียนแล้ว เธอจำชื่อคิวแคนได้ รุ่นพี่ที่เธอเจอในห้องสมุด เธอกับเมอดอร์เป็นพวกหัวกะทิของปี 3 แต่คัลลัคก็จำได้ด้วยว่าคิวแคนมีฝาแฝดชาย เจ้ามีพี่ชายพี่สาวฝาแฝดรึเปล่า

พี่คิวแคนกับพี่คิไตลันรึเพโลวีตอบ ใช่

ฝาแฝดเรียนอยู่คนละปีเหรอคัลลัคแปลกใจ

เข้าปีเดียวกันเพโลวีตอบ แต่พี่คิไตลันโดนซ้ำชั้น ต้องมาเรียนปี 2 ใหม่อีกรอบ

แย่ขนาดนั้นเชียวคัลลัครู้สึกเห็นใจนิด ๆ เท่าที่ได้คุยในวันแรก คิไตลันก็ดูเป็นคนนิสัยเฮฮาดี

เป็นโอกาสครั้งที่ 2” เพโลวีตอบ

แล้วก็เป็นโอกาสสุดท้ายไฮโอเอ่ย

ไฮโอริสต้าทำเสียงดุ ราวกับว่ามันจะเป็นสิ่งที่ไม่ควรพูด เพราะนักเรียนที่ไม่ใช่ลูกครูจะไม่รู้ แต่ไฮโอไม่ฟังคำห้าม

ถ้ายังไม่ผ่านอีก... เขาจะมีชื่อในหออัปยศ”