บทที่ 1 หนูท่อกับอีกา

 

4 ปีต่อมา ปีเทรเซนศักราช 5404

ที่นี่คือสเตลลาคาร์ต เมืองหลวงเก่าซึ่งขึ้นชื่อเรื่องห้องสมุดที่เก่าแก่ที่สุดในอาณาจักร ทั้งประวัติศาสตร์ ปรัชญา วิชาการ รวมไปถึงบทประพันธ์ ซึ่งจารึกตำนานเล่าขานมายาวนานกว่าสองพันปี คลาคล่ำไปด้วยนักปราชญ์ นักแสดง วณิพก คณะละครเร่และที่โดดเด่นที่สุดก็คือ... นักมายากล

เวทมนตร์นั้นคือสิ่งอัศจรรย์ ดลบันดาลความฝันให้เป็นจริง ทว่าปุถุชนคนธรรมดามิอาจเอื้อมถึง พลังอันทรงอำนาจซึ่งสามารถพลิกฟ้าทลายแผ่นดิน ในขณะที่ผู้มีเวทมนตร์เองก็เหมือนตัวตนอันสูงศักดิ์ ไม่ลงมาคลุกคลีกับผู้คนทั่วไป ทางเดียวที่จะได้รับความบันเทิงจากสิ่งอัศจรรย์จึงมีเพียงศาสตร์แห่งกลลวง สร้างการแสดงขึ้นเพื่อจำลองเหตุการณ์ให้ใกล้เคียงเวทมนตร์ที่สุด

ท่านพ่อ พวกเรามาทำอะไรกันที่นี่เด็กสาวผู้มีผมสีเทาประบ่าและดวงตาสีน้ำเงินเข้มเอ่ยถาม

สัตว์พาหนะของเธอคือสุนัขพันธุ์ธุลีเผือก มันเป็นสัตว์ขี่และหมาล่าเนื้อ ขนเกรียนขาวจุดเทาด่างพร้อย มีขนาดใหญ่พอ ๆ กับควายไบซัน ทำเอาชาวเมืองพากันถอยห่างด้วยความหวาดผวาและม้าเทียมรถทั้งหลายพากันตื่นกลัว แต่ก็ไม่มีทหารคนใดกล้าห้ามพวกเขาไม่ให้เข้าเมือง มิใช่เพราะกลัวหมา แต่เพราะกลัวชายผู้ขี่หลังม้าสีเทามากกว่า

ไล่ตามข่าวลือชายผู้เป็นพ่อเอ่ยตอบ เขามีดวงตาและผมสีเดียวกับลูกสาว ไว้เคราเล็กน้อย แต่ก็ไม่สามารถบดบังรอยแผลเป็น ซึ่งลากจากหน้าผากผ่านดวงตาซ้ายที่มืดบอดลงไปถึงแก้มและคางได้ ได้แต่หวังว่าจะมาถูกทาง

เพราะจดหมายนั่นรึเด็กสาวถาม พลางมองไปรอบ ๆ พวกเธอกำลังข้ามฝั่งจากเขตเมืองชนชั้นสูงมายังถนนขนาดใหญ่ที่เต็มไปด้วยการแสดงข้างถนน ที่นี่มีแต่มายากล ท่านหาตัวนางจากการแสดงเวทมนตร์ปาหี่พวกนี้ไม่ได้หรอก

เดธิเลียผู้เป็นพ่อดุเธอ ไม่เชื่อก็อย่าลบหลู่

ตามใจท่านเถอะเดธิเลียพ่นลมหายใจอย่างไม่สบอารมณ์ เธอเข้าใจว่าทำไมพ่อของเธอถึงมาที่นี่ แต่ที่ไม่เข้าใจคือทำไมเธอต้องโดนลากมาด้วย ใครก็ตามที่พ่อของเธอกำลังตามหา อีกฝ่ายต้องไม่ใช่คนที่เธอจะญาติดีด้วยแน่ ๆ ข้าจะไปหาอะไรกิน

ได้ แล้วกลับไปเจอกันที่โรงแรม...ผู้เป็นพ่อเอ่ย แต่เดธิเลียก็ควบหมาออกไปโดยไม่รอฟังให้จบ เขาจึงต้องตะโกนตามหลังไป แล้วอย่ากลับช้ากว่าตะวันตกดินล่ะ!

ชิเดธิเลียไม่อยากได้ยินเลยสักนิด พ่อของเธอจู้จี้ยิ่งกว่าแม่นมของเธอเสียอีก ได้แต่นึกอิจฉาพี่ชายที่สอบเข้าโรงเรียนเอเวนไฮด์ ซึ่งเป็นโรงเรียนกินนอนได้ เขาจึงรอดจากการบ่นของพ่อไปได้สองปีแล้ว

ในพื้นที่อยู่อาศัยของชนชั้นกลางนั้น แม้จะไม่งดงามหรือสะอาดเอี่ยมเท่าเขตชนชั้นสูง แต่ด้วยจำนวนประชากรที่เยอะ ทำให้ร้านค้าอัดแน่นอยู่ทุกมุมถนน ร้านอาหารส่งกลิ่นตลบอบอวลออกมาแบบไม่เกรงใจคนเดินผ่าน และเสียงโหวกเหวกคึกคักดังเป็นกิจวัตรในโรงเบียร์ยามค่ำ

เดธิเลียเลือกเข้าไปในร้านอาหารแกล้มเหล้าแห่งหนึ่ง โดยปล่อยให้สัตว์เลี้ยงนั่งรออยู่นอกร้าน แม้เจ้าของร้านจะดูไม่พอใจที่หมายักษ์ทำลูกค้าตื่นกลัวไม่กล้าเดินเข้า แต่เมื่อเห็นเสื้อผ้าเนื้อดีเฉกเช่นชนชั้นสูง รวมทั้งเกราะหนังและอาวุธของเดธิเลีย ก็ได้แต่ต้องกลืนคำบ่นลงคอไป

เนื้อแจ๊คคาโลปย่าง ขนมอบ ผลไม้แห้ง แล้วก็นมแก้วหนึ่งเดธิเลียสั่งอาหารเสร็จก็ไปนั่งหลบมุม เพราะรู้สึกได้ถึงสายตาไม่ต้อนรับจากลูกค้าคนอื่น

ชาวสเตลลาคาร์ตมีผมสีน้ำตาลเข้มไปจนถึงดำเสียส่วนใหญ่ ดวงตาสีเขียวบ้างสีอื่นบ้าง แต่ไม่มีสีน้ำเงิน ภาพลักษณ์ภายนอกของเดธิเลียนั้นแสดงออกชัดเจนว่าเป็นคนต่างถิ่น อีกทั้งด้วยอายุเพียง 15 ปี เธอยังไม่ควรเข้าร้านที่ผู้ใหญ่มานั่งดื่มกัน

แต่ก็เป็นอีกครั้งที่เสื้อผ้าเธอทำให้คนอื่นไม่กล้ายุ่ง

ภายในร้านอาหารนี้ไม่ได้เอะอะเท่าโรงเบียร์ เพราะมีมุมเวทีเล็ก ๆ ซึ่งทุกคนจะพยายามไม่เสียงดังเพื่อจะฟังลำนำเพลงของเหล่าวณิพกรับจ้างให้ชัด ๆ

เมื่อสิ้นลมสิ้นใจสิ้นวิญญาณ ฝังเสี้ยวปณิธานใต้ดินดง

ฝังพระแสงคู่พร้อมร่างระหง ราชวงศ์เก่าสิ้นชื่อสลาลาย...

ในตอนแรกนั้นมีเพียงนักกวีกำลังขับขานเรื่องราวแห่งวีรชน ผู้รวบรวมทุกอาณาจักรที่แตกแยกบนทวีปแห่งสงครามให้หลอมรวมเป็นปึกแผ่น ก่อนจะนำมาสู่การกำเนิดของราชวงศ์ใหม่ ซึ่งปกครองหลังจากนั้นมายาวนานกว่าพันห้าร้อยปี

เรื่องราวเหล่านี้ไม่ใช่เรื่องใหม่ มันคือตำนานจารึกที่เล่ากันปากต่อปาก ซ้ำแล้วซ้ำเล่าขนาดที่แม้แต่คนไม่สนใจฟังก็ท่องจำได้ขึ้นใจ เรื่องของราชินีทรราช ราชินีปีศาจและราชินีอสูร ความยิ่งใหญ่และบุญคุณอันสุดจะหยั่งของผู้กอบกู้แผ่นดินซึ่งนำพาสันติสุขมาสู่ทวีปจวบจนปัจจุบัน

นักกวีร่ายยาวไปจนจบ ก่อนจะถูกแทนที่ด้วยเสียงขลุ่ยจากนักดนตรีสาวใต้เงาฮู้ด เดธิเลียถอนหายใจ เพราะในที่สุดก็ไม่ต้องอุดหูทนฟังการลำเลิกบุญคุณแผ่นดินจากนักกวีแล้ว เธอหันไปมองนักดนตรีผู้เข้ามาเปลี่ยนตัวระหว่างที่ตนเริ่มรับประทานอาหาร

นักดนตรีคนนี้หลบซ่อนใบหน้าใต้เงาฮู้ดสีเทาหม่นหมอง ทว่าท่วงทำนองจังหวะบรรเลงนั้นกลับสนุกสนาน จนทำให้ทุกคนมองข้ามสภาพเสื้อผ้าเก่ามอซอของเธอไป ทั้งจังหวะการสลับเท้าเต้นไปรอบ ๆ ร้านและกระทืบเท้าแทนจังหวะกลอง ลูกค้าทั้งหลายต่างสนุกสนานไปกับมันและปรบมือ เมื่อเสียงดนตรีสิ้นสุดลง นักดนตรีมาหยุดเต้นอยู่ที่ข้างโต๊ะของเดธิเลีย แล้วก็โค้งให้ทุกคน

หมับ! แต่นั่นก็เหมือนเป็นจังหวะประจวบเหมาะที่จะมีคนแกล้งจับก้นเธอตอนโค้งคำนับด้วย นักดนตรีสะดุ้งโหยงยืนตรง ก่อนจะหันขวับกลับมา

มองอะไรเด็กหนุ่มถาม เพราะนักดนตรีจ้องเขาราวกับจะกินเลือดกินเนื้อกัน โดนแต๊ะอั๋งรึไง

นักดนตรีไม่ตอบ เธอมองไม่ทันว่าเขาเป็นคนทำหรือไม่ เลยทำอะไรไม่ได้นอกจากจ้อง ลูกค้าคนอื่นก็ไม่สนใจด้วย

ก็เจ้าไม่ใช่รึที่จับก้นนางเดธิเลียถาม พลางจิ้มเนื้อชิ้นสุดท้ายเข้าปากเคี้ยว เจ้าควรขอโทษนาง

เห้ย!ปึง! เด็กหนุ่มลุกขึ้นมาทุบโต๊ะของเดธิเลียจนนมในแก้วเกือบกระฉอกหก คิดจะใส่ร้ายกันรึไง?! ”

พูดความจริงไม่เรียกใส่ร้ายเดธิเลียตอบ เอื้อมมือไปหยิบแก้วนม แต่กลับถูกอีกฝ่ายคว้าไปเสียก่อน

แล้วก็เทลงมาใส่เสื้อผ้าอย่างดีของเดธิเลีย

ไม่มีหลักฐานก็คือใส่ร้ายนั่นแหละ อย่ามายุ่งดีกว่าน่าคนสวย ถอยไปก่อนจะมีใครต้องเจ็บ...ยังไม่ทันที่เด็กหนุ่มจะพูดจนจบ ฝ่ามือของเดธิเลียก็ตะครุบผมแสนรุงรังของเขา แล้วกระชากหัวอีกฝ่ายลงมากระแทกโต๊ะ

โครม! โอ๊ย! นี่เจ้า...!เด็กหนุ่มรีบลุกขึ้นกุมจมูกตัวเอง แต่ก็โดนชกท้องและดึงหัวลงมากระแทกโต๊ะอีกรอบจนสลบเหมือด ไหลลงไปนอนกับพื้น

มีคนเจ็บแล้วสิเดธิเลียเอ่ย ก่อนจะหยิบเหรียญแก้วคริสตัลจากถุงข้างเข็มขัดเหรียญหนึ่งมาวางบนโต๊ะแทนค่าใช้จ่ายทั้งหมด แล้วจึงเดินข้ามหัวเด็กหนุ่มที่นอนน็อกออกจากร้านไป โดยไม่รอเงินทอน

ด..เดี๋ยวก่อนค่ะ!นักดนตรีรีบรับค่าจ้างจากเจ้าของร้าน แล้ววิ่งตามเดธิเลียออกมาคือว่า...

ข้าไม่ได้ช่วยเจ้าเดธิเลียพูดดักเอาไว้ พลางปีนขึ้นขี่หลังหมาธุลีเผือกคู่ใจ แค่เห็นคนอย่างมันแล้วขัดลูกตา

อย่างน้อยให้ข้าตอบแทนเถอะค่ะ!นักดนตรีขยับเข้ามาขวางทาง ก่อนจะโดนหมายักษ์ขู่ใส่

ชู่ น้ำแข็งไส ไม่เป็นไรเดธิเลียลูบหัวหมายักษ์ พร้อมเรียกมันด้วยชื่อที่ขัดกับหน้าตาตอนแยกเขี้ยวสุด ๆ

พอดีมีโรงอาบน้ำอยู่ห่างไปไม่ไกล ให้ข้าช่วยทำความสะอาดเสื้อผ้าให้ท่านเถอะค่ะนักดนตรียืนกรานจะทดแทนบุญคุณให้ได้ ขวางทางแบบไม่กลัวว่าจะโดนกัดเลย

เดธิเลียก้มมองคราบนมบนเสื้อผ้าตัวเองที่ยังเหนอะหนะอยู่เลย ก่อนจะยอมพยักหน้าให้นักดนตรีนำทางไป

โรงอาบน้ำนับเป็นหนึ่งในสิ่งหรูหรา แม้จะมีบางแห่งตั้งอยู่ในเขตชนชั้นกลาง แต่ก็มีน้อยคนนักที่จะจ่ายกับสถานที่ฟุ่มเฟือยนี้ ในเมื่อไปอาบน้ำในแม่น้ำกันก็ได้ โรงอาบน้ำที่มีระบบต้มน้ำอุ่นจึงจะคึกคักเฉพาะในฤดูหนาว

ซึ่งไม่ใช่ช่วงเวลานี้ของปี ปัจจุบันมันจึงแทบร้างผู้คน

สระน้ำอุ่นเป็นแบบแยกชายหญิง ท่านถอดเสื้อผ้าที่ห้องนี้ได้ ข้าจะนำมันไปทำความสะอาดให้นักดนตรีนำทางเดธิเลียเข้ามาในโรงอาบน้ำ ขณะที่เจ้าน้ำแข็งไสต้องนอนรออยู่ข้างนอก... อีกแล้ว และถัดจากโรงอาบน้ำก็มีโรงซักล้างอยู่ สำหรับให้ชาวเมืองมาใช้ซักผ้า และอบผ้าให้แห้งในเตาอบ เนื่องจากนครสเตลลาคาร์ตแห่งนี้ขึ้นชื่อเรื่องฝน ไม่ว่าฤดูไหนก็มีโอกาสฝนตกตลอด จนหากไม่ตากผ้าในที่ร่มก็ต้องอบให้แห้งไปเลย

อืมเดธิเลียขานรับ ก่อนจะถอดเสื้อนอกที่เลอะนมส่งให้นักดนตรี จะว่าไปตัวเจ้าก็ใช่ว่าจะสะอาดนะ

นักดนตรีก้มหน้างุด รู้สึกเหมือนโดนด่า

มาอาบน้ำด้วยกันก่อนสิ เป็นนักดนตรีทั้งที ปล่อยเนื้อปล่อยตัวให้สกปรกได้ยังไงกันเดธิเลียเอ่ยชวน สำหรับโรงอาบน้ำสาธารณะแล้ว มันเป็นเรื่องปกติที่จะเห็นผู้อื่นเปลือยกายและเปลือยกายให้ผู้อื่นเห็น แม้จะเป็นคนแปลกหน้าก็ตาม

ค..คือข้า... ไม่มีเงินจ่ายนักดนตรีเอ่ยอ้าง

เดธิเลียจึงเดินออกไปวางเหรียญคริสตัลให้พนักงานต้อนรับเพิ่มอีกเหรียญจากเดิมที่จ่ายของตัวเองไปแล้ว นักดนตรีได้แต่หน้านิ่วคิ้วขมวดอยู่ใต้ฮู้ด เธอไม่รู้ว่าสกุลเงินที่อีกฝ่ายใช้มันคือเท่าไหร่ แต่ดู ๆ แล้วน่าจะแพงกว่าเงินสกุลปกติมาก

ข้าจ่ายแล้วเดธิเลียเอ่ย นักดนตรีจึงต้องยอมเข้าไปในโรงอาบน้ำพร้อมกับอีกฝ่าย

เดธิเลียเป็นชาวต่างถิ่น ผิวของเธอสีขาวราวกับหิมะ แต่กลับด่างพร้อยไปด้วยรอยแผลเป็น ร่างกายสูงเกินอายุและกำยำด้วยกล้ามเนื้อที่ได้รับการฝึกมา แสดงให้เห็นถึงประสบการณ์โชกโชนจากการต่อสู้

ในขณะที่นักดนตรีแกล้งทำเป็นปลดเสื้อผ้าไม่เสร็จเสียที

มานี่ ข้าช่วยเดธิเลียกระชากทีเดียว ผ้าคลุมฮู้ดที่กลัดติดเสื้อเอาไว้นิดเดียวก็หลุดออก เผยให้เห็นผิวสีน้ำผึ้งกับผมสีดำสนิทเช่นชาวสเตลลาคาร์ตทั่วไป แต่สีของดวงตากลับแปลกประหลาดอย่างเห็นได้ชัด ข้างซ้ายเป็นสีอำพันสวย ในขณะที่ข้างขวาเป็นสีเงินซีด ดูไร้ชีวิตชีวา

นักดนตรีรีบยกมือขึ้นปิดตาข้างขวาทันที

ข้าไม่เชื่อโชคลางเดธิเลียเอ่ย เธอเริ่มจะเดาได้ว่าทำไมอีกฝ่ายต้องปกปิดขนาดนั้น เพราะผู้คนส่วนใหญ่เชื่อกันว่าตาสีเงินเป็นดวงตาที่นำพามาซึ่งโชคร้าย เป็นดวงตาของแม่มดผู้บูชามารเพื่อนำพลังอันชั่วร้ายมาใช้ทำร้ายผู้อื่น การให้ใครเห็นดวงตาสีนี้แบบผิดที่ผิดทางก็อาจนำมาซึ่งการล่าแม่มดได้

นักดนตรียังคงยืนนิ่ง เดธิเลียจึงเลิกจ้องเธอและเดินเข้าโรงอาบน้ำไป สถานที่แห่งนี้ถูกสร้างขึ้นจากหินอ่อน เสาถูกแกะสลักเป็นลวดลายคลื่นโค้งและสัตว์น้ำ ใต้น้ำมีท่อไหลเวียนน้ำซึ่งสับเปลี่ยนระหว่างน้ำในสระกับห้องต้มน้ำ

หลังจากเดธิเลียลงแช่น้ำอุ่นไปสักพัก นักดนตรีก็ตามเข้ามาด้วยสีหน้าที่ดูดีขึ้น ร่างกายที่เปลือยเปล่าของเธอเองก็มีแผลเป็น แต่จากที่แขนขาผอมกะหร่องไม่มีกล้ามเนื้อ จึงเดาว่าเธอไม่ใช่นักสู้ หากแต่ถูกทำร้ายจนเกิดแผลเหล่านั้นมากกว่า

หรือไม่ก็แค่... โชคร้าย

แม้ปากจะพูดว่าไม่เชื่อโชคลาง แต่เดธิเลียก็อดจะสงสัยไม่ได้ว่าบาดแผลพวกนั้นเกิดจากอะไร

เจ้าชื่ออะไรเดธิเลียถามขึ้น

มิใช่ว่า... ก่อนจะถามชื่อใคร ก็ควรจะแนะนำตัวก่อนรึนักดนตรีถามกลับ แต่ก็นึกได้ว่าไม่ควรถามย้อนกับคนที่อัดผู้ชายสลบได้ในไม่กี่ที เรียกข้าว่าชากอล

ชื่อคุ้น ๆ นะเดธิเลียว่า

ข้าไม่คิดว่าพวกเราเคยพบกันหรอกชากอลเอ่ยตอบ แล้วชื่อของท่านเล่า ข้าขอเดา... ท่านมีเชื้อสายขุนนาง

เดธิเลีย แวนธีส บุตรีของลอร์ดโรแวง แวนธีส เอิร์ลแห่งกาเมซันเดธิเลียตอบ เธอไม่คาดคั้นนามสกุลจากอีกฝ่าย เพราะชนชั้นกลางประมาณครึ่งเท่านั้นที่มีนามสกุล ส่วนชนชั้นล่างไม่มีเลย ถ้าหากไม่อยากถูกเหยียดไปว่าเป็นชนชั้นล่างก็ควรจะบอกนามสกุลโดยไม่ต้องถาม

กาเมซันรึ ท่านมาไกลเหมือนกันนะชากอลเอ่ยทัก พลางแหวกว่ายจากมุมสระเข้ามาหาเดธิเลียที่นอนแช่อยู่เฉย ๆ อะไรทำให้ลูกสาวขุนนางจากดินแดนน้ำแข็งเดินทางมาเยือนนครน้ำหลากอย่างสเตลลาคาร์ตได้เล่า

พวกเรามาตามหา...เดธิเลียพูด ก่อนจะเว้นช่วงเล็กน้อย เมื่อนักดนตรีสาวลากนิ้วมาบนรอยแผลเป็นบนตำแหน่งกระดูกไหปลาร้า “...ใครบางคน

เป็นบุรุษรึชากอลทาย

เป็นอิสตรีเดธิเลียตอบ

เป็นผู้ใหญ่รึชากอลถามต่อ

เด็กกว่าข้าไม่มากเดธิเลียตอบ

นางมีหน้าตาเช่นไรชากอลถาม

ไม่รู้สิ ข้าไม่เคยพบนางเดธิเลียตอบ

แล้วท่านจะตามหาคนที่ไม่เคยพบหน้าไปทำไมกันชากอลยังคงถามต่อ

เจ้านี่มีคำถามออกมาไม่หยุดหย่อนเลยนะเดธิเลียว่า

 “แต่...ชากอลไล้มือลงมาตามรอยแผลเป็น ซึ่งลากยาวลงมา น่าหวาดเสียวว่าจะเคยเกือบตายเพราะเข้าใกล้หัวใจ ท่านก็ตอบข้าทุกคำถามอยู่ดีนี่

ดวงตาของทั้งสองต่างสบประสานกันและดวงตาสีเงินของนักดนตรีสาวก็คล้ายจะทอประกายอย่างประหลาด

ข้าจะไปซักเสื้อผ้าให้ท่านก่อน คงใช้เวลาสักพัก ถ้าเสร็จแล้วข้าจะกลับมาเรียกเองชากอลชิงหลบสายตา ก่อนจะปีนขึ้นจากสระ แล้วเดินออกไป ทิ้งเดธิเลียเอาไว้กับความงุนงง ไม่เข้าใจว่าทำไมเมื่อครู่ตัวเองถึงปากพล่อยได้ขนาดนั้น

ได้แต่โล่งอกที่อีกฝ่ายหยุดถามเธอเสียที ที่เหลือก็แค่รอให้เสื้อผ้าของเธอซักอบเสร็จก็จะได้แยกย้ายกันไป

แต่ไม่ว่ารอเท่าไหร่... นักดนตรีสาวก็ไม่กลับมา

เดธิเลียรีบลุกพรวดขึ้นจากสระ เมื่อรู้สึกว่ามันนานเกินไป แต่ภายในห้องแต่งตัว ซึ่งควรจะมีเสื้อผ้าอื่น ๆ ที่ไม่เปื้อนวางอยู่ มันกลับไม่เหลืออะไรอยู่เลย รวมทั้งถุงเหรียญ ไม่เว้นแม้แต่ชุดชั้นใน

สิ่งเดียวที่เหลือคือเศษผ้าขาดจากผ้าคลุมของหัวขโมยที่เธอกระชากมันก่อนหน้านี้

ยัยหนูท่อขี้ขโมย...เดธิเลียกัดฟันกรอด แกตายแน่!

+++

โรงละครร้างหลังตรอกอุโมงค์ เขตสลัม

เจ้ามันใจร้ายเป็นบ้าเด็กสาวผู้กำลังปฐมพยาบาลเด็กหนุ่มดั้งหักร้องบ่น อีกฝ่ายเป็นถึงลูกสาวขุนนางเลยนะ

ถือว่าเป็นค่ารักษาให้โรเดนมันไปด้วยเลยไงนักดนตรีสาวเอ่ยตอบ ก่อนจะเทเหรียญคริสตัลทั้งหมดลงบนพื้นเวทีเก่า งานเจ้ามีแค่กันคนเข้าโรงอาบน้ำ ไม่ได้ไปเสี่ยงแบบพวกข้าก็อย่าบ่นน่า

พูดมาได้ว่าไม่เสี่ยง นรกเถอะ! ” เด็กสาวเคาะหัวหน้าแก๊งของตัวเองด้วยสากไม้สำหรับบดยาดัง ป๊อก!

โอ๊ย! เรสเทล! มันเจ็บนะ! ” ชากอลยกมือขึ้นกุมหัว

ถ้าคนพวกนั้นจะเอาเรื่องละก็... ตัวข้าที่ทำงานประจำยังจะโดนตามตัวง่ายกว่าอีกเรสเทลชี้สากเตือน

แล้วดูสิ มีตราอยู่บนเสื้อด้วยโรเดนทักขึ้นบ้าง อย่างกับเป้าชี้ตัวให้พวกนั้นรู้ว่า มาจับข้าสิ ๆ ข้าอยู่ตรงนี้!

ตอนนี้ชากอลไม่ได้สวมเสื้อผ้าเก่า ๆ แล้ว แต่แทนด้วยเสื้อผ้าที่ขโมยจากเดธิเลียมา แม้มันจะหลวมไปสักหน่อย เธอลูบรอยด้ายสีดำบนอกซ้ายของเสื้อขนสัตว์สีขาว มันปักเป็นรูปอีกาและเด่นหรามากถ้าไม่สวมเกราะหนังทับ

เจ้าน่าจะขโมยมาแค่เงิน ปกติพวกเราก็ขโมยแค่นั้นมิใช่รึ แต่เจ้ากลับทำให้ฝ่ายนั้นต้องอับอาย ไม่มีเงินไม่มีเสื้อผ้า นี่ถ้านางเดินทางมาคนเดียว ข้าไม่รู้ว่านางจะเอาหน้าที่ไหนเดินออกจากโรงอาบน้ำเรสเทลกระแทกกล่องยาปิด

เจ้าทำให้พวกเราซวยโรเดนผสมโรงไปกับเขาด้วย

เจ้าแค่แกล้งโดนอัด เจ้าก็พูดได้ ข้าสิโดนนางลากลงไปอาบน้ำด้วย ไม่รู้หวังอะไรอยู่ชากอลทำท่าขนลุกขนพอง

ในขณะที่เด็กหนุ่มชี้หน้าตัวเอง คล้ายจะถามว่าแผลแบบนี้มันดูเป็นการแกล้งทำตรงไหนมิทราบ นี่ถ้าเขาไม่แกล้งสลบคงโดนซัดจนต้องนอนหยอดน้ำข้าวต้มไปแล้วแน่ ๆ คู่ต่อสู้ก็ไม่รู้ว่าเอาแรงควายมาจากไหนมากมาย

แต่เจ้าก็เล่นไปตามน้ำมิใช่รึเรสเทลถาม

ถึงได้ต้องคิดแพงหน่อยไงชากอลยักไหล่ พวกเราก็แค่... บริการให้เหล่าคนดีได้สำเร็จความใคร่ทางศีลธรรม แล้วก็เก็บค่าบริการ แต่ถ้าจะเอามากกว่านั้น ข้าก็ต้องเก็บทิปเพิ่ม

พูดซะเหมือนเชื่อว่าตัวเองเป็นคนดีเรสเทลแขวะ

ข้าไม่ได้มีรสนิยมแบบนั้นหรอกน่าชากอลค้าน

ปัญหาต่อไปคือเราจะแลกเหรียญแก้วพวกนี้กับเหรียญปกติยังไงโรเดนกุมแผลตัวเอง ข้าไม่รู้ว่ามันเป็นเงินสกุลอะไร แต่ถ้าเราเอาไปปล่อยทีเดียวต้องโดนจับได้แน่

อย่าตื่นตูมไปน่า โรเดนชากอลตบบ่าเขา นางตามหาพวกเราไม่เจอหรอก เมืองนี้ออกจะกว้าง

โรเดนพยักหน้ารับ แต่ยังไม่หายกังวล

สามนักต้มตุ๋นไม่ได้ทำแบบนี้เป็นครั้งแรก แต่ก็เล็งเฉพาะนักเดินทาง เพราะอย่างนั้นลูกค้าประจำกับเจ้าของร้านจึงไม่รู้ว่าพวกเธอทำเรื่องแบบนี้ใต้จมูกพวกเขา

ก็หวังให้เป็นแบบนั้นเรสเทลว่า แต่ไม่รู้ทำไม...

เวลาพวกเธออยู่กับชากอลแล้วไม่เคยโชคดีเลยสักครั้ง

+++

โรงอาบน้ำ เขตชนชั้นกลาง

ท่านลอร์ด! ฝั่งนั้นเข้าไปไม่ได้นะคะ! ” เสียงร้องห้ามของพนักงานที่มาเปลี่ยนกะกับเรสเทลในช่วงหัวค่ำดังขึ้น แต่ก็หยุดยั้งลอร์ดโรแวงผู้เป็นพ่อไม่ได้

ปึง! เดธิเลีย!” บานประตูห้องแต่งตัวถูกเปิดออก ก่อนที่ก้อนสบู่จะลอยเข้ากระแทกหน้าผู้เป็นบิดาอย่างเต็มรัก นั่นเพราะช่วงเวลานี้ไม่ได้มีเดธิเลียเป็นลูกค้าคนเดียวในห้องแต่งตัว ท่านเอิร์ลผู้สูงศักดิ์จึงต้องรีบถอยออกไป แล้วจ้างพนักงานไปหาเสื้อผ้าสำรองมาให้เดธิเลียสวม

ส่วนลูกสาวได้แต่ปิดหน้าเพราะอับอายแทนพ่อ

ลอร์ดโรแวงตามหาเดธิเลียจนพบ เพราะเธอส่งสัตว์เลี้ยงตัวเบิ้มของตนไปเรียกพ่อมา แต่เพราะมันเลยเวลานัดช่วงตะวันตกดินมานานแล้ว ลอร์ดโรแวงจึงเป็นห่วงมากจนทำเรื่องงามไส้อย่างการบุกห้องแต่งตัวสตรีเสียได้

ฮ่า ๆ ๆ ไม่นึกเลยนะว่าลูกพ่อจะเสียท่าให้เด็กผู้หญิงตัวเล็ก ๆเสียงหัวเราะทำให้เดธิเลียเริ่มสงสัยว่ามันถูกแล้วเหรอที่ผู้เป็นพ่อจะมาหัวเราะเยาะลูกสาวแบบนี้

พวกเธอกำลังกลับโรงแรม เดธิเลียขี่น้ำแข็งไสตามเดิม เพิ่มเติมคือเปลี่ยนท่าไปนั่งหันข้าง เพราะชุดใหม่ที่โดนยัดเยียดให้ใส่เป็นชุดกระโปรง ส่วนลอร์ดโรแวงก็ขี่ม้าสีฝุ่นคู่ใจ

ไม่เป็นไรหรอกลูกรัก เงินสกุลเกมิซไม่ใช่เงินที่ลูกชาวนาที่ไหนจะเอามาผลาญทีละเยอะ ๆ เดี๋ยวพวกทหารยามก็หาหัวขโมยพวกนั้นเจอเองนั่นแหละลอร์ดโรแวงเอ่ยปลอบ

แล้วให้ข้าใส่เสื้อผ้าพวกนี้รอน่ะรึเดธิเลียผายมือให้พ่อดูชุดผ้าฝ้ายที่แสนจะเป็นกุลสตรี ต่างกับชุดเดิมที่เป็นชุดเกราะหนังกับเสื้อกางเกงขนสัตว์แบบคนละขั้ว ข้าจะไปล่ามันด้วยตัวเอง ชากอล... ยัยหนูท่อขี้ขโมยนั่น

เจ้าว่ายังไงนะลอร์ดโรแวงหันมาถาม ขณะดึงบังเหียนให้ม้าหยุดลง น้ำแข็งไสจึงหยุดตาม

ข้าบอกว่าข้าจะไปล่ายัยหนูหนูขี้ขโมยนั่นเองเดธิเลียตอบ ทำเสียงขัดใจ เมื่อคิดว่าพ่อจะไม่อนุญาต

ไม่ ๆ พ่อหมายถึงชื่อของเด็กคนนั้นน่ะลอร์ดโรแวงถามให้ชัดเจนลงไปอีกหน่อย

ชากอล นางบอกว่านางชื่อชากอลเดธิเลียเอ่ยตอบ ก่อนจะขมวดคิ้ว ท่านจะสนใจทำไม ไม่ว่าอย่างไรนางก็ต้องถูกตัดมือโยนเข้าคุกข้อหาขโมยอยู่ดี

อืม... ก็ไม่เชิงเสียทีเดียวลอร์ดโรแวงล้วงเข้าไปในเสื้อคลุม ก่อนจะควานเอาจดหมายออกมา จดหมายเชิญสีดำประดับครั่งสีทองตรามหาพฤกษาเอิร์กร่า ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของโรงเรียนเอเวนไฮด์

มันคือเหตุผลที่ทั้งคู่ต้องมาที่นี่ เพื่อตามหาผู้ถูกเชิญ

พวกเรามาตามหาคัลลัค แวนธีสมิใช่รึเดธิเลียเอ่ยถาม หลังจากอ่านจดหมาย เธอรู้ตั้งแต่เห็นจดหมายแล้วว่าชื่อของใครคนนี้จะต้องเป็นคนที่ทั้งเธอและพี่ชายเกลียดอย่างเข้าไส้ แต่ก็ยังไม่เข้าใจว่ามันเกี่ยวอะไรกัน

คัลลัค แวนธีส... คัลลัค ชากอลลอร์ดโรแวงทำเสียงไม่สบอารมณ์ เพราะเด็กสาวผู้ที่เขาตามหากลับเลือกใช้นามสกุลอื่น หน้าตาของนางเป็นเช่นไร เจ้าจำได้ไหม

ผมดำ คิ้วเข้ม เป็นพวกผิวเหลือง แต่ดวงตาของนาง... ” เดธิเลียกำลังจะอธิบายให้จบ แต่ก็ถูกผู้เป็นพ่อพูดดัก

ดวงตาของนาง... แปลกใช่ไหมล่ะ ตาซ้ายสีอำพัน ตาขวาสีฟ้าซีด หรือที่เรียกกันว่าตาเงินลอร์ดโรแวงพูดได้ถูกเผงราวกับเคยเห็นมากับตา

เดธิเลียพยักหน้ารับ

ท่านพ่อเคยพบนางรึเธอถาม

เคยสิ เมื่อครั้งนานมาแล้วลอร์ดโรแวงตอบ ก่อนที่ไอ้พ่อมดชั่วนั่นจะมาพรากน้องสาวของเจ้าไป

ข้าไม่นับนางเป็นน้องสาวข้าหรอกนะเดธิเลียแปลกใจเล็กน้อยที่เธอเจอคนในจดหมายก่อนพ่อผู้ตั้งใจตามหา แต่เรื่องที่เธอไม่ถูกชะตากับน้องสาวคนนี้ก็ไม่เปลี่ยนแปลง ยิ่งหลังจากเรื่องบ้าบอนี่ ข้าก็ยิ่งอยากจะฆ่านาง

ไม่ได้ลอร์ดโรแวงยื่นคำขาด แล้วเจ้าคิดว่าจะหานางพบงั้นรึ เท่าที่ฟังมา นางก็ดูแสบใช่ย่อย หรือพวกเราต้องไปรอให้นางมาเล่นดนตรีที่ร้านอาหารนั่นอีก

ไม่จำเป็นหรอกท่านพ่อ...เดธิเลียหยิบเศษผ้าโง่ ๆ ขึ้นมาโบกให้น้ำแข็งไสดม

แม้จะดูเหมือนขยะ แต่เพียงแค่กลิ่นบางเบาจากเจ้าของผ้าคลุมเน่า ๆ ก็ใช้ได้แล้วกับจมูกของหมาล่าเนื้อพันธุ์ดี

 

ข้าจะลากคอนางออกมาคืนนี้เลย