บทที่ 10 ชอบไป ๆ โรงเรียน

 

คัลลัค ชากอลถึงตาคัลลัคเข้าไปทำบัตรนักเรียนแล้ว

ภายในห้องดูเรียบง่าย มีโต๊ะวงรีหนึ่งกับเก้าอี้สอง ครูมาลินี่นั่งตรงข้ามกับคัลลัคและตอกปึกกระดาษให้เท่า ๆ กัน

กรอกเอกสารนี่นะจ๊ะครูยื่นปากกาขนนกกับกระดาษแบบฟอร์มเปล่าให้คัลลัค

เอ่อคือหนู... ยังสะกดไม่แม่นน่ะค่ะคัลลัคบอก เธอไม่เคยเรียนเขียนอ่าน พอจะรู้อักษรที่ใช้บ่อยอย่างตัวเลขกับคำบางคำ แต่ไม่มากพอจะกรอกเอกสารสำคัญ

งั้นครูจะอ่านให้ฟัง เจ้าตอบ แล้วครูเขียนให้ครูมาลินี่ดึงกระดาษกลับไป ชื่อสกุลคัลลัค ชากอล วันเดือนปีเกิดล่ะ? ”

เอ่อ...คัลลัคไม่เคยถามลอร์ดโรแวง แต่เคยอ่านเจอในห้องสมุด วันเกิดของทารกแวนธีสผู้สาบสูญในปราสาทไหม้เพลิง วันที่ 5 เดือนมารค่ะ ปี 5389”

ครูมาลินี่สะดุดไปเล็กน้อย

น่าสงสารจริงครูกล่าวอย่างเห็นใจ เพราะเดือนมารเป็นเดือนอัปมงคลก่อนขึ้นปีใหม่ที่มีแค่ 5 วัน เด็กที่เกิดเดือนนี้จึงมักจะมีร่างกายไม่แข็งแรง เพราะไม่ได้รับคำอวยพรจากเหล่าทวยเทพ เผ่าพันธุ์กับสัญชาติ

โก... ม..มนุษย์คัลลัคตอบ สัญชาติกาเมซันค่ะ

ครูมาลินี่เงยหน้าขึ้นมา

ดูไม่เหมือนชาวเหมันต์เลยนะมันเป็นคำเรียกที่คนเมืองอื่นใช้เรียกชาวกาเมซัน แล้วศาสนากับเทพที่รับคำอวยพร

ศาสนาเทรเซน... ส่วนเทพ คือข้า... เกิดเดือนมารคัลลัคเกาท้ายทอยตามความเคยชิน คนที่เกิดในเดือนปกติจะได้รับคำอวยพรจากเทพองค์ใดองค์หนึ่ง แต่สำหรับคนที่เกิดเดือนมารแล้ว พวกเธอจะได้รับการคุ้มครองจากมารแทน

มารก็ได้ บอกมาเถอะครูมาลินี่ตอบ เพราะโรงเรียนนี้เป็นแหล่งรวมความหลากหลาย ปี 1 มีนักเรียนบางคนเหมือนกันที่บูชามาร ตราบใดที่ไม่มาทำพิธีบูชายัญในโรงเรียน ครูก็ไม่ยุ่งกับความเชื่อของนักเรียนหรอก

ไม่มีค่ะคัลลัคตอบ ข้าไม่เคย... เห็นสักครั้ง

แต่ก็ยังนับถือศาสนาเทรเซนรึครูมาลินี่แปลกใจ จะให้ข้ากรอกเป็นศาสนาเธลธอฮ์แบบฮันนิบาลไหม

เธลธอฮ์คือศาสนาซึ่งก่อกำเนิดจากมนุษย์ ไม่นับถือเทพหรือมารตนใด ยึดอัตตาของตนเป็นที่ตั้ง ตัดสินผิดชอบชั่วดีจากจิตสำนึกของตัวเอง แทนที่จะอิงตามระเบียบคัมภีร์แบบศาสนาอื่น แต่ศาสนาอื่นมักเรียกคนในศาสนาเธลธอฮ์ว่าคนไร้ศาสนา

ไม่ค่ะ ศาสนาเทรเซนคัลลัคยืนกราน เพราะในเสี้ยวความหวังเล็ก ๆ เธอยังอยากได้รับคำอวยพรจากเทพสักองค์หรือมารสักตน เพื่อให้หลุดพ้นจากหลุมที่เรียกว่าโชคร้าย

เอาล่ะ สุดท้ายแล้ว ขอชื่อคนติดต่อในเวลาฉุกเฉิน ผู้ปกครองหรือเพื่อนสนิทก็ได้ครูมาลินี่ถาม

คัลลัคนิ่งเงียบ จะตอบลอร์ดโรแวงก็ไม่ได้ เพราะนามสกุลของเธอตอนนี้เป็นชากอล จะตอบลุงกันตินี่ก็ไม่ดี ถ้ามีคนรู้จักชื่อพ่อมดชั่วร้ายล่ะเป็นเรื่องเลย

เรสเทลค่ะคัลลัคนึกอะไรไม่ออกแล้วจริง ๆ

นามสกุลครูมาลินี่เอ่ย

ครอมส์ค่ะคัลลัคตอบ เธอเองก็สงสัยอยู่เหมือนกัน ทั้งเธอและโรเดนต่างมีนามสกุลชากอล แต่เรสเทลนั้นมีนามสกุลต่างออกไป เรสเทล ครอมส์

คัลลัคนึกว่าชื่อเพื่อนสนิทเป็นตัวเลือกที่ดีแล้ว แต่เธอกลับถูกครูมาลินี่จ้องมองอย่างน่าสะพรึง

ครูมาลินี่...คะ?” คัลลัคเอียงคอไม่เข้าใจ

ม..มีชื่ออื่นไหมครูมาลินี่ถาม มือที่จับปากกาขนนกกำลังสั่นอยู่ เพื่อนในเอเวนไฮด์ก็ได้

คัลลัคถอนหายใจ นึกหาชื่อที่เกี่ยวข้องที่สุด แล้วก็เป็นคนที่จะติดต่อลอร์ดโรแวงได้ ถ้ามันฉุกเฉินจริง ๆ

เดธิเลีย แวนธีสค่ะ

หวังว่าอีกฝ่ายจะไม่ฆ่าเธอที่บอกชื่อนี้

+++

ข้าพบมันแล้วเสียงหนึ่งเอ่ยกล่าว

ใครกัน

พ่อมด...?”

โลหิตทอง...?”

เด็กต้องสาป...?” และอีกหลายเสียงที่ตามมา

ไม่ใช่เสียงแรกเอ่ย เจ้าหญิงแห่งดินแดนคนตาย

งั้น... ไปเอาตัวนางมา

+++

สัปดาห์เรียนที่ 2 วิชาพลศึกษา ::: สนามเวทมนตร์

มีจดหมายส่งมาถึงเดธิเลียในระหว่างคาบเรียน และมันทำให้พี่สาวที่น่ารักดูจะเกลียดชังน้องสาวมากยิ่งขึ้นไปอีก

รู้ไหมว่าจดหมายนั่นเขียนอะไรมาคัลลัคกระซิบถามกับเพโลวี เธอรู้แล้วว่าอีกฝ่ายเข้าข้างเธออยู่บ้าง

ข่าวร้ายเพโลวีตอบ

มีอะไรร้ายไปกว่านี้อีกเหรอคัลลัคถาม เธอถูกจับคู่ซ้อมกับเดธิเลียอีกแล้ว

ลอร์ดโรแวงติดเชื้อคำสาปจากอาวุธของพวกคนตายที่ตามล่าเจ้า เลยโดนกักตัวอยู่แต่ในหมู่บ้านแกรนด์สโตน ลูกธนูพวกนั้นต้องสาป...กลับเป็นเดธิเลียที่ตอบคำถามคัลลัค พลางยกดาบชี้หน้า แม้ว่าลอร์ดโรแวงจะเป็นถึงดยุก แต่วิธีปฏิบัติต่อผู้ติดเชื้อคำสาปก็ไม่ต่างกัน กักตัว รักษาหรือกำจัด แล้วทำไม... ทำไมเจ้าถึงไม่เป็นอะไรเลย

ข้าไม่รู้คัลลัคตอบ บางทีอาจเพราะตัวเธอมีคำสาปที่รุนแรงกว่านั้นอยู่แล้วก็ได้ คำสาปตาเงินน่ะ

คัลลัคพยายามเพ่งมองอาวุธของเดธิเลีย มันเร็วสำหรับการโจมตีของเด็กวัยรุ่นก็จริง แต่ไม่เร็วเกินกว่าจะหลบ ครูกินรายังไม่เริ่มสอนการเสริมพลังเวทให้อาวุธ นับเป็นข่าวดีสำหรับคัลลัคในตอนนี้

เพราะไม่อย่างนั้น ดาบของเดธิเลียจะฟันผ่านวงเวทป้องกันที่ครูดูโคสอนคัลลัคเข้ามาได้

เคร้ง! เป็นครั้งแรกที่คัลลัครับดาบเดธิเลียด้วยมีดได้ แต่ยังไม่มีโอกาสให้ดีใจ เธอก็ถูกอีกฝ่ายพลิกดาบกลับ แล้วฟาดหัวด้วยด้ามดาบแทน

ส่วนที่เหลือก็คือโดนซ้อมไปตามระเบียบ

+++

สัปดาห์เรียนที่ 3 วิชาเวทมนตร์พื้นฐาน ::: ห้องเรียนปี 1

เดธิเลีย ครูใหญ่ธารีสได้ยื่นเรื่องเปลี่ยนวิชาเรียนให้เจ้า มีผลตั้งแต่สัปดาห์หน้านะครูมาลินี่เอ่ยขึ้นในช่วงท้ายคาบเรียน สร้างความงุนงงให้กับนักเรียนหลายคน

ทำไมมีแค่ข้าล่ะเดธิเลียถาม

เพราะในวันสอบ อำพันเวทวัดพลังของเจ้าออกมาเป็นสายมนต์ดำ ปกติแล้วผู้ใช้มนต์ดำจะถูกปฏิเสธจากพลังเวทมนตร์เหมือนเป็นขั้วตรงข้ามที่ไม่มีทางบรรจบกัน การเรียนเวทมนตร์พื้นฐานจึงไร้ประโยชน์สำหรับเจ้าครูมาลินี่อธิบาย เพราะฉะนั้นสัปดาห์หน้าขอให้ไปเรียนวิชามนต์ดำและคำสาปร่วมกับรุ่นพี่ปีโตนะ เพราะมันเป็นวิชาเลือกที่ไม่มีในปี 1”

เดธิเลียพยักหน้ารับ

แต่พวกที่ไม่ขยันฝึกแล้วใช้พลังไม่ได้น่ะ อย่ามามโนว่าตัวเองเป็นผู้ใช้มนต์ดำเชียว ถ้าใช่จริง ป่านนี้อำพันเวทแตกละเอียดไปหมดแล้วครูมาลินี่พูดดักคอขึ้นมาทันที พวกนักเรียนในกลุ่มฮันนิบาลที่เตรียมอ้าปากจึงได้แต่หัวเราะคิกคักกันเองเพราะโดนครูรู้ทัน

คัลลัคมองเดธิเลีย อย่างน้อยให้เธอรอดจากการเจอหน้าพี่สาวสุดที่รักไปได้สักวิชาหนึ่งก็ยังดี

+++

เอ้านี่อิลเอาจดหมายฉบับหนึ่งมายื่นให้คัลลัคในคืนวันไฟ ก่อนวันหยุดของสัปดาห์ที่ 3

ใช้เวลานานไปไหม กว่าจะตอบกลับคัลลัคถาม

โทษลุงเจ้าเถอะ อย่ามาโทษข้าอิลตอบอย่างไม่ใส่ใจ เขาแค่นำจดหมายคำถามจากคัลลัคไปส่งและรับจดหมายคำตอบจากกันติเนลกลับมา โดยไม่ให้ถูกโรงเรียนตรวจสอบ แล้วไง ได้คำตอบที่ต้องการไหม

ไม่ ลุงกลัวว่าจดหมายนี้จะเป็นหลักฐานมัดตัวว่าใครเกี่ยวโยงกับเขาบ้างคัลลัคตอบ เขาจะตอบคำถามข้าเมื่อเจอกัน

และ... งานก็มาตกที่ข้าอิลทาย มีอะไรมาแลกล่ะคราวนี้ เจ้ายังไม่เคยรับภารกิจ แปลว่าไม่มีอำพันจ่ายสินะ

สภาพแบบนี้จะให้ไปรับภารกิจอะไรล่ะคัลลัคผายมือให้ดูว่าใต้ชุดนักเรียนของเธอเต็มไปด้วยผ้าพันแผลเยอะขนาดไหน เจ้ารับค่าจ้างจากฝั่งลุงกันตินี่ไม่ได้จริง ๆ รึ ถ้าสกุลเงินข้างนอกใช้ไม่ได้ เจ้าก็รับเป็นสิ่งของเอาก็ได้นี่

อะไรที่มีค่าที่สุดบนตัวเจ้าตอนนี้อิลถาม ไม่ยอมรับค่าจ้างจากปลายทางอีกฝั่ง

นี่มั้งคัลลัคยกย่ามเน่าของตัวเองขึ้นมา ส่วนอิลทำหน้าเหยเกเมื่อเห็นสภาพกระเป๋าและส่ายหัว ไว้ข้าจะ... ลองหาอะไรที่มันดูแวววาวกว่านี้ก็แล้วกัน

แม้ปากจะพูดแบบนั้น แต่เมื่อแยกกันกลับ คัลลัคก็เดินจ้ำอย่างหัวเสียทันที เธอไม่รู้จะเอาอะไรมาประเคนเจ้ามิจฉาชีพหน้าเลือดคนนี้ดี เผลอ ๆ เธอแอบย่องออกจากโรงเรียนเองยังจะง่ายกว่าพึ่งพาเด็กหนุ่มหัวทองแดงนั่น

ฟังดูน่าเหนื่อยนะนั่นเพโลวีเอ่ย

คัลลัคคบกับเพโลวีเป็นเพื่อนอย่างลับ ๆ เมื่อไร้ผู้คนที่รู้จักในยามราตรีเงียบสงัด เพโลวีจะหนีออกจากบ้านมณีเลือดมาขออาศัยห้องว่างในบ้านบุหงาดำนอน เพื่อเลี่ยงการเจอหน้ารุ่นพี่ที่ทำร้ายเธอ ส่วนคัลลัคก็ระบายความอัดอั้นหลาย ๆ อย่างให้เพโลวีฟัง เพราะแม้สมิงสาวจะปากมาก แต่ถ้าบอกว่ามันคือความลับ มันก็จะเป็นความลับ ไม่เหมือนริสต้าที่เก็บความลับไม่เคยอยู่

แล้วเจ้าคิดถึงลุงอะไรขนาดนั้นเลยรึเพโลวีถาม คัลลัคไม่ได้เล่าว่าลุงของเธอคือใคร เล่าแค่อยากพบหน้าญาติผู้ห่างหายไปนาน แต่มีคนในโรงเรียนเกลียดเขาเป็นการส่วนตัวเท่านั้น

มากเสียยิ่งกว่าอะไรคัลลัคตอบ

หมับ... เพโลวีจับต้นแขนทั้งสองของคัลลัค

เจ้าปรึกษาได้ถูกคนแล้วเพื่อนเอ๋ยเพโลวียิ้ม

แต่ไม่รู้ทำไม คัลลัคสังหรณ์ใจไม่ดีเลย

+++

คิไตลัน ลัตช์ รุ่นพี่ผู้ครองแชมป์ด้านความห่วยแตก นิสัยแหกคอก และเป็นหนึ่งในไม่กี่คนที่เรียนซ้ำชั้น เขาโดดเด่นในวิชาสายศิลปะวงเวทและชนะเลิศการแข่งขันกัวปาน แต่นั่นไม่ใช่สิ่งที่โรงเรียนต้องการจากนักเรียนจริง ๆ ก็แค่จัดการแข่งพอให้เป็นชื่อเสียงแข่งกับทวีปอื่นได้

แล้วพี่คิตตี้รัน...คัลลัคเผลอกัดลิ้นตัวเอง

คิไตลันพี่ชายของเพโลวีทำหน้าเข้ม ดูจะจริงจังกับการเรียกชื่อให้ถูกเป็นอย่างยิ่ง

ข้าไม่เข้าใจคัลลัคหันไปกระซิบเพโลวี อีกฝ่ายพาเธอมาหาคิไตลันในวันหยุดของสัปดาห์ที่ 4 ของการเรียนการสอน พี่ของเจ้าจะช่วยข้าได้ยังไง

เพราะข้ามันอัจฉริยะไงล่ะคิไตลันอวยตัวเองอย่างมั่นหน้า น่าเสียดายที่พวกครูไม่เห็นความฉลาดล้ำของข้า

โฮ่...คัลลัคทำหน้าเอือมระอา หนูว่าวันแรกที่เราเจอกัน พี่ไม่ได้หลงตัวเองขนาดนี้นะคะ

เงียบเลยคิไตลันยิ้มแยกเขี้ยว จะไปไม่ไป

ไปค่ะคัลลัคตอบ รุ่นพี่ผู้มีหน้าตาละม้ายคล้ายคิวแคนก็ยิ้มตาหยีจนหน้าออกมาพิมพ์เดียวกัน ก่อนจะนำทางรุ่นน้องทั้งสองไปยังหลังตึกเรียนเก่าที่ปล่อยทิ้งร้าง

อาคารเรียนของเอเวนไฮด์มีมากมายหลายหลัง พวกมันทับซ้อนกันเหมือนเขาวงกตในส่วนที่ไม่มีใครเข้าไปใช้แล้ว หากดูไกล ๆ ก็อาจจะเห็นหลังคาแค่ไม่กี่ตึก แต่ข้างในนี้เป็นเหมือนดินแดนพิศวงที่เส้นทางภายในขยายการรับรู้ออกไปอีก

อาณาเขตเวทมนตร์...?” คัลลัคทาย ทำไมพวกเขาถึงออกแบบเขาวงกตเอาไว้ในโรงเรียนล่ะ

ไม่ใช่พวกเขาคิไตลันยิ้มตอบ ข้าต่างหาก

พี่ข้าชอบโดดเรียน ผลการเรียนห่วยแตกเพโลวีพูดได้อย่างไม่อายปาก แต่ผลงานชิ้นโบแดงอลังการกว่าใคร

คิไตลันเป็นนักเรียนที่ไม่เหมาะกับหลักสูตร เขาเรียนวิชาอื่นนอกจากศิลปะไม่รอด สิ่งเดียวที่เขาถนัดคือการเขียนวงเวทอักขระ สร้างเวทมนตร์อาณาเขต วิชาอื่นจึงกดคะแนนเขาร่วง

รู้สึกว่ามีคนตามเรามารึเปล่า...? ” คัลลัคถามขึ้น

เดี๋ยวก็สลัดหลุดคิไตลันบอก

ภายในเขาวงกตห้องเรียนยังมีวงเวทอีกมากมายที่ซ่อนเอาไว้ ถูกสลักด้วยสิ่วบ้างเขียนด้วยหมึกบ้าง บางอันทำให้คัลลัคเดินหน้ากระแทกอากาศ ก่อนที่คิไตลันต้องไปแก้ใส่ชื่อเธอในวงเวทเพื่อให้ผ่านได้ เพราะฉะนั้นไม่ว่าใครจะแอบตามพวกเธอมา พวกนั้นจะต้องติดอยู่ที่กำแพงชั้นนี้ เป็นระบบป้องกันผู้บุกรุกไม่ให้เข้ามาเจอสิ่งที่ซ่อนอยู่ข้างใน

วงเวทที่ผิดกฎโรงเรียนข้อที่ 1

สวยใช่ไหมคิไตลันถาม ไม่มีใครสอนเราในวิชาเรียนหรอกว่าวงเวทเคลื่อนย้ายมันเขียนยังไง มันเป็นของผิดกฎหมายถ้าไม่ได้ลงทะเบียนกับอาณาจักร ถ้าพวกเจ้าเรียนสังคมแล้วก็น่าจะรู้ แต่ข้าไม่ชอบอยู่ในโรงเรียน มันคับแคบไปสำหรับข้า

สิ่งที่อยู่เบื้องหน้าพวกเธอคือวงเวทเคลื่อนย้ายขนาดเท่าห้องเรียน มีรายละเอียดมากมายกระจายทุกพื้นที่ แต่ละตัวอักษรห่างกันประมาณฝ่ามือ ถูกสลักลงบนดินเหนียวอย่างดีและเผาจนแข็ง เดินเหยียบได้ไม่แตก

ข้าไปนั่งอ่านวงเวทหลังประตูทองเหลืองมาเป็นปีเลยล่ะกว่าจะเข้าใจวิธีเขียนคิไตลันเริ่มจะอวยตัวเองอีกครั้ง บอกแล้วว่าข้ามันอัจฉริยะ

ต้องใช้เวลาตั้งปีเลยรึคัลลัคถาม เธอมองวงเวทที่แสนซับซ้อนนั้น เดาว่าภาพวงเวทคงซ่อนหลังประตู เวลาผ่านไปมา เธอจึงไม่เห็น ส่วนด้านหน้าเป็นแค่ภาพประดับใช้พรางวงเวทจริง

แน่นอน ของแบบนี้ทำไม่ได้ในข้ามคืนหรอกคิไตลันว่า ทำเอาคัลลัคไม่กล้าบอกเขาเลยว่าเธอจดจำรูปแบบของวงเวทได้แล้ว แม้จะยังไม่เข้าใจหลักการของเวทมนตร์ในนั้น แต่ความจำด้านรูปภาพของเธอเรียกได้ว่ายอดเยี่ยมกว่าใคร เอาล่ะ เจ้าอยากจะไปที่ไหนล่ะ ข้าแอบหนีออกไปข้างนอกบ่อย เพราะงั้นข้าเลยไปแอบวาดวงเวทเคลื่อนย้ายไว้ที่อื่นอีกหลายเมือง ขากลับจะได้กลับมาได้ง่าย ๆ

คัลลัคไม่รู้ เพราะกันติเนลยังไม่บอกสถานที่นัดพบมา แต่เธอแค่อยากมาลองให้แน่ใจก่อนว่าวิธีที่เพโลวีบอกจะได้ผล

หมู่บ้านแกรนด์สโตนคัลลัคตอบ ข้าอยากพบลอร์ดโรแวง ได้ยินว่าถูกกักตัวอยู่ที่นั่น

พ่อของเดธิเลียคือลุงที่เจ้าพูดถึงรึเพโลวีถาม

ปล่า..วคัลลัคเริ่มแถ แต่เขารู้ว่าลุงข้าอยู่ที่ไหน

แน่นอนว่าโกหก เขาไม่รู้ ไม่งั้นคงมีศึกกันไปแล้ว

+++

ปึง! เดธิเลียเดินชนกำแพงอากาศเข้าอย่างจัง ก่อนจะเซถอยไปยืนมึนข้างหลังผู้บุกรุกอีกคน เธอตั้งใจจะลากคัลลัคไปแกล้งหลังเลิกเรียน แต่บังเอิญเจออีกฝ่ายอยู่กับรุ่นพี่และลูกน้องทรยศของเธอแทน เธอจึงแอบเดินตามพวกเขามา โดยให้พวกยักษ์ยืนเฝ้าอยู่ที่ปากทาง เพราะภายในอาคารเก่าเตี้ยเกินไปสำหรับพวกนั้น

แน่นอนว่าการที่ยักษ์ยืนเฝ้าทางเข้าเก่า ๆ ย่อมสะดุดตาคนที่เดินผ่าน แต่มีคนเดียวเท่านั้นที่กล้าพอจะเดินฝ่าพวกยักษ์ตามเดธิเลียเข้ามา โดยที่พวกยักษ์ก็ไม่กล้าหือด้วย

คึก...ซาร์ธีนกลั้นขำ

ไม่ตลกเลยนะ ” เดธิเลียพึมพำ แต่เธอก็ไม่กล้ามีเรื่องกับอีกฝ่ายจริง ๆ เพราะเจ้าหญิงอยู่สูงกว่าเธอทั้งในเรื่องบรรดาศักดิ์และความสามารถ แล้วทำไมเจ้าต้องตามข้ามาด้วยเนี่ย

น่าสนุกซาร์ธีนตอบสั้น ๆ ขณะเงยมองวงเวททั้งหลายบนเพดาน เธอพิจารณาความละเอียดอ่อนของมันอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะชี้วงเวทวงหนึ่ง อันนี้ใช้ควบคุมกำแพงล่องหน

ครืด...! ทันทีที่ได้รู้ เดธิเลียก็ชักดาบออกมาขูดเพดานที่มีวงเวทจนถลอก ทำให้มันหยุดทำงานลงอย่างง่ายดาย

เสียดายของซาร์ธีนนิ่วหน้า เจ้าน่าจะแก้ตรงส่วน...

เสียดายเวลาเดธิเลียตัดบทและวิ่งลึกเข้าไป เธอต้องการจะไล่ตามคัลลัค ไม่ใช่เที่ยวชมสถานที่แบบซาร์ธีน

ไร้มารยาทเสียจริงเจ้าหญิงบ่นอย่างไม่สบอารมณ์ เธอไม่เคยเจอใครไร้ความเกรงใจต่อราชนิกุลเท่าเดธิเลียมาก่อน แต่ก็รีบตามอีกฝ่ายไป เพราะตนก็อยากรู้เหมือนกันว่าจะมีอะไรที่สุดทาง

ทว่าสิ่งที่รออยู่ข้างในนั้น...

หากได้รู้ก่อน พวกเธอคงเลือกที่จะไม่เดินเข้ามา