Everlastingly หรือ ชั่วนิจนิรันดร์ คือชื่อเรื่องของนิยายโรแมนติกแฟนตาซีบนเว็บอ่านนิยายชื่อดังที่ฉันพึ่งอ่านจบ เช่นเดียวกับชื่อเรื่องของนิยายที่ฉันกำลังอยู่ในตอนนี้

ใช่แล้ว อยู่ในตอนนี้

คือฉันตายแล้ว ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไม แต่ตอนนี้ก็มาเกิดใหม่อยู่ในร่างตัวร้ายในนิยายเรื่องที่พึ่งอ่านจบเรียบร้อยแล้ว จริง ๆ เรียกว่าเกิดใหม่ก็ไม่ค่อยถูก เรียกว่าเข้ามาสิงน่าจะถูกต้องกว่ามั้ง

พวกคุณอาจจะยังงงกันอยู่ อย่างนั้นฉันจะเล่าให้ละเอียดหน่อยละกัน

นิยายเรื่องชั่วนิจนิรันดร์เป็นนิยายที่เล่าผ่านตัวเอกนามว่าชาร์ลอตต์ อดีตทหารเฟย์[1]ระดับสูงของอาณาจักรเฟย์แห่งคาฮาล ห่างไปอีกซีกโลกจากอาณาจักรมนุษย์

เรื่องราวเริ่มต้นขึ้นเมื่อชาร์ลอตต์เบื่อความวุ่นวายของสภาขุนนางเฟย์ที่มีความคิดโบราณคร่ำครึ จึงลาออกจากตำแหน่งแล้วเดินทางข้ามโลกมาหาพี่ชายครึ่งเฟย์คนละแม่เพื่อเข้ารับตำแหน่งทายาทของตระกูลเนลสัน เตรียมรับตำแหน่งเคานต์ต่อจากพี่ชาย

อ่านมาถึงตรงนี้คุณอาจจะสงสัยว่าการลาออกจากตำแหน่งทหารเพื่อรับตำแหน่งขุนนางมันวุ่นวายน้อยลงตรงไหน อือ ฉันก็สงสัยเหมือนกัน

แล้วหลังจากที่ชาร์ลอตต์รับตำแหน่งทายาทแล้วสักพักเนี่ย เธอก็ว่างเกินไปจนเริ่มรู้สึกเบื่อขึ้นมาอีกครั้งหนึ่ง อยากจะออกไปหาประสบการณ์ในเมืองมนุษย์บ้าง จึงขอให้พี่ชายฝากฝังตัวเองเข้าวังเพื่อเป็นหญิงรับใช้[2]ขององค์หญิงเดเมลซ่า โรซามุนด์ ลูกสาวของจักรพรรดิผู้ปกครองอาณาจักรการ์นอ

ลองทายสิว่าเกิดอะไรขึ้นต่อจากนี้ ใช่แล้ว! พบรักครั้งใหม่ในวังนั่นเอง!

พอเธอเข้าไปเป็นหญิงรับใช้ขององค์หญิงแล้ว ชาร์ล็อตต์ก็ดันไปสะดุดตาและสะดุดหัวใจของลอร์ดโจเวล โจนส์ ขุนนางหนุ่มหน้าตาดีผู้ซื่อสัตย์แห่งอาณาจักรการ์นอที่เป็นที่หมายปองของหญิงสาวทั่วแดนดิน

ตอนนี้หลายคนอาจจะกำลังอุทานในใจว่า โอ้! ช่างเป็นเรื่องที่น่ารักเหลือเกิน! อยู่ แต่เชื่อฉันเถอะว่าจริง ๆ มันทุเรศมาก

คืออย่างนี้ มันจะไม่มีปัญหาอะไรเลยถ้าขุนนางหนุ่มหน้าตาดีผู้ซื่อสัตย์แห่งอาณาจักรการ์นอที่เป็นที่หมายปองของหญิงสาวทั่วแดนดินไม่ใช่พระคู่หมั้นขององค์หญิงเดเมลซ่าในขณะนั้น

ใช่ องค์หญิงเดเมลซ่าก็คือตัวร้ายของเรื่องนี้ และเป็นร่างของฉันในตอนนี้นี่เอง

องค์หญิงเดเมลซ่าถูกบรรยายไว้ว่าเป็นคนเอาแต่ใจ ไม่พอใจก็ปาข้าวของ ทั้งยังชอบเสียงดังโวยวาย ตัวเธอมีผมสีน้ำเงินเข้มซึ่งเป็นลักษณะสืบทอดของราชวงศ์ และหน้าตาดีแต่รูปร่างใหญ่เกินไป

โอเค หยุดตรงนี้กันหน่อย หน้าตาดีแต่รูปร่างใหญ่เกินไปคืออะไร หน้าตาดีก็คือหน้าตาดีสิวะ แล้วเกินไปคืออะไร มันทำไมวะ

และเรื่องต่อจากนี้คุณก็น่าจะเดากันได้ เนื่องจากถูกแย่งคู่หมั้น จากที่นิสัยไม่ดีอยู่แล้ว เดเมลซ่าก็นิสัยเสียขึ้นไปอีก เธอโยนความผิดทั้งหมดให้ชาร์ล็อตต์และตามกลั่นแกล้งทำร้ายอดีตทหารเฟย์สารพัด ทั้งให้งานเยอะ ๆ เอย พูดแรง ๆ ใส่เอย เทน้ำราดเอย จิกหัวชาร์ล็อตต์จนโจเวล คู่หมั้นของเธอทนไม่ไหว ประกาศขอถอนหมั้นและประณามว่าเดเมลซ่าทำร้ายประชาชนจนถูกถอดออกจากตำแหน่งผู้มีสิทธิ์ครองบัลลังก์ จากนั้นโจเวลกับชาร์ล็อตต์ก็ครองรักกันอย่างมีความสุขไปตลอดกาล

กับผีสิอีห่า

คนโดนแย่งคู่หมั้นคนไหนมันจะอยู่เฉย ๆ ได้วะ นี่เล่นโยนให้เป็นความผิดของตัวร้ายหมด แล้วอีคนที่ไปจีบคนอื่นทั้ง ๆ ที่มีคู่หมั้นอยู่แล้วนี่ไม่ผิดเลยเหรอ ยังมีที่เดเมลซ่าโทษชาร์ล็อตต์อย่างเดียวอีก แล้วคู่หมั้นแกอะ??? 

อีผี ผู้ชาย cis het [3] แม่งลอยตัวทุกที ฟัคปิตาธิปไตย 

แล้วเป็นขุนนางมันไม่ทำงานทำการเหรอวะ ในเรื่องอีลอร์ดโจนส์คือเข้าวังมาจีบตัวเอกเป็นว่าเล่น มึง ภาษีประชาชน ภาษี!!! แม่งเอ๊ย

…เรื่องมันก็เป็นประมาณนี้ละ

"องค์หญิงจะรับของว่างเลยหรือไม่เพคะ"

"อ่า ยกมาเลยก็ได้"

เอาละ ดูจากบทสนทนาเมื่อกี้ก็น่าจะรู้แล้วว่าตอนนี้ฉันอยู่ที่ไหน แต่คุณอาจจะเดาไม่ได้ว่าฉันกำลังทำอะไรอยู่

ฉันทำงานอยู่น่ะ

ทุกคน เป็นเจ้าหญิงมันไม่ได้ง่ายเหมือนในภาพจำนะ แม่ง งานเยอะมาก เยอะกว่างานที่หัวหน้าโยนให้อีกอะ เยอะจนงงกว่าเดเมลซ่าออริจินัลเอาเวลาไหนไปแกล้งคน จะหยุดทำก็ไม่ได้ อีฉิบหาย ภาษี

แต่แน่นอนว่าฉันจะไม่มีทางพูดประโยค หญิงเองก็ลำบาก แน่นอน คนที่มีกินครบทุกมื้อจากภาษีประชาชนและไม่จำเป็นต้องมานั่งกังวลเหมือนเจ้าของภาษีว่าพรุ่งนี้จะมีเงินซื้อข้าวไหมเนี่ย ไม่สมควรที่จะพูดประโยคนี้ออกมาจากปากเลยนะ โคตรทุเรศ

"วันนี้มีชีสพายกับพุดดิ้ง" เป็นเสียงของเมดคนเดิมที่พูดขึ้นอีกครั้ง "แล้วก็น้ำมะนาวเพคะ"

ฉันเงยหน้าขึ้นจากกองงานบนโต๊ะ มองเธอวางจานใส่ขนมกับแก้วลงข้าง ๆ ตัว จำได้ว่าคนคนนี้พึ่งโดนย้ายมาเมื่อวาน

"ขอบคุณมากแคลร์"

แคลร์ชะงักไปแวบหนึ่ง ก่อนจะยิ้มกว้าง "ยินดีเพคะองค์หญิง"

ฉันยิ้มตอบ แล้วเลื่อนสายตาไปหาจานขนม เห็นว่าจานแรกมีชีสพายสองชิ้น ส่วนจานสองมีพุดดิ้งคัสตาร์ด

ตั้งแต่ฉันเข้ามาที่นี่ ก็ค้นพบในสิ่งที่นิยายไม่ได้กล่าวถึงอยู่หลายเรื่อง หนึ่งในนั้นคือระบบการปกครอง อาหาร และวัฒนธรรมในนิยายเรื่องนี้มันจะปน ๆ กันอยู่หน่อย

ที่นี่ไม่นิยมชา เท่าที่เห็นจะดื่มไวน์ เบียร์ เอล ไซเดอร์และน้ำผลไม้บ้าง ซึ่งคล้ายกับยุคกลาง แต่ก็มีอาหารที่ยุคกลางไม่มี อย่างพุดดิ้งคัสตาร์ดตรงหน้านี่ ลำดับขั้นขุนนางเรียงคล้ายกับของอังกฤษ แต่ไม่มีชื่อตำแหน่งเอิร์ล กลับใช้เป็นเคานต์แทน ส่วนระบบการปกครองคล้ายกับจีนยุคจักรพรรดิ มีการปรับเปลี่ยนบ้างบางส่วน เสื้อผ้าเหมือนของฝั่งยุโรป กระโปรงยาว ๆ บาน ๆ มีสูท มีชุดเมดด้วย แต่อันนี้ก็ดูไม่เป็นเหมือนกันว่ามาจากช่วงไหนหรือประเทศอะไร

อือ ใช่เลย มันโคตรงง

ฉันใช้มือข้างที่ว่างไปหยิบน้ำมะนาวมาดื่มอึกหนึ่ง ก่อนหันกลับไปหาแคลร์ต่ออีกรอบ

"เอาชีสพายหรือพุดดิ้ง"

แคลร์หันขวับมาทันที "เพคะ?"

"ชีสพายหรือพุดดิ้ง" สีหน้าเธอดูสับสนอยู่พอควร ฉันจึงชี้จานแล้วพูดย้ำอีกรอบ "มาเลือกไป… ใช่ มาเอาไป" 

"องค์หญิง…"

"ข้ากินคนเดียวไม่หมดหรอก มาเอาไปจานหนึ่ง"

เธอยังดูลังเลอยู่ ทว่าก็ขยับตัวเข้ามาหยิบแล้ว แคลร์เลือกจานพุดดิ้งไป

ฉันยิ้มให้เธอ "ไปนั่งกินเถอะ"

เธอยิ้มจาง ๆ ตอบ ดูเกร็งอยู่นิดหน่อย

ฉันเข้ามาในนี้ได้ประมาณสองวันก่อน ช่วงนี้เป็นช่วงที่ยังไม่เข้าเนื้อเรื่องสำคัญ โจนส์กับชาร์ล็อตต์ยังไม่ได้เจอกัน และชาร์ล็อตต์ก็ยังไม่ได้เข้าวัง

เพราะงั้นสิ่งที่ต้องทำตอนที่ยังมีเวลา คือการหาพรรคพวก หาคนมายืนยันและปกป้องตัวเองให้มากที่สุด แบ่งของ จำชื่อ ใส่ใจและใจดีกับคนรอบตัวให้มาก ๆ

ไม่ใช่ว่าฉันจะไม่ตัดขาดออกจากตัวเอกหรอกนะ แต่ในกรณีที่ไม่สามารถหลุดพ้นจากเนื้อเรื่องหลักไปได้ ก็จำเป็นต้องใช้คน

อ๋อ อีกอย่าง เป้าหมายของฉันคือตำแหน่งจักรพรรดิน่ะ เพราะอย่างนั้นการซื้อใจคนมันก็จำเป็นนี่ ถูกไหมล่ะ

 

 

 

[1] เฟย์ (Fae) สิ่งมีชีวิตคล้ายมนุษย์ มีปีก สามารถใช้เวทมนตร์ได้

[2] หมายถึง lady-in-waiting คือคนที่ทำหน้าที่ดูแลคนในราชวงศ์หรือขุนนางชั้นสูง มักจะเป็นคนที่มาจากครอบครัวขุนนาง ไม่ได้ถูกนับรวมเป็นหญิงรับใช้เสียทีเดียว แต่ในที่นี้ตัวละครหลักพูดให้เห็นภาพง่าย ๆ ก่อน และจะมีการอธิบายเพิ่มเติมในอนาคต

ข้อมูลเพิ่มเติม : https://www.infobloom.com/what-is-a-lady-in-waiting.htm

https://historyplex.com/historical-significance-duties-of-lady-in-waiting

[3] cis het จาก cisgender heterosexual ประโยคนั้นจะพูดถึง cisgender heterosexual men หรือ ผู้ชายตรงเพศกำเนิดที่เป็นสเตรท