1 ตอน 1
โดย เดรสสีฟ้ารองเท้าก็ต้องสีฟ้า
“อาแปะ ปาท่องโก๋สองชุด”
ปาท่องโก๋สองชุดถูกจัดใส่ถุงยื่นออกไปให้ลูกค้าที่สั่งเมื่อสักครู่พร้อมแลกกับเงินค่าปาท่องโก๋
ปาท่องโก๋สองชุดสุดท้ายถูกขายออกไปจนหมดร้าน ขณะกำลังเก็บกวาดเพื่อปิดร้านมีเสียงเด็กหนุ่มทักขึ้น
“ลุงหลี่ไป่ ลุงเล่น URH ถึงไหนแล้ว”
ชายวัยกลางคนเงยหน้ามองเด็กหนุ่ม สวมใส่เสื้อมหาลัยเดินเข้ามาในร้านพร้อมช่วยยกเก้าอี้
“ลุงเล่นไม่ผ่านเควสช่วยตัวประกันในป่าสักที” หลี่ไป่ตอบกลับเมื่อเห็นคนที่ทักขึ้นคือหยินหลานชายของตน
“คืนนี้ผมทำเควสให้เอามั้ยลุง ผมทำเควสสุดท้ายผ่านแล้วนะชนะโอกิลวีแล้วด้วย ลาสบอสของซีซั่น”
เรียกว่าความภูมิใจของชายวัยกลางคน อายุเกือบเข้าเลขสี่แบบหลี่ไป่ก็ได้ที่สามารถคุยเรื่องเกมกับหลานชายได้อย่างเข้าใจ
หลี่ไป่ถือว่าเป็นอาแปะคนหนึ่งยังไม่มีลูกเมียมีแต่หลานที่เลี้ยงมาคอยแวะเวียนมาช่วยงานที่ร้านเป็นครั้งคราว นอกจากขายปาท่องโก๋แล้วตัวเขาเองก็ไม่มีภาระอะไรให้ต้องกังวล ตัวเขาสนิทกับหลานชายก็ให้หลานชายสอนเล่นเกมบ้างบางครั้งบางคราวแต่ใครจะคิดว่าเกมออกใหม่ล่าสุดอย่าง URH หรือชื่อเต็ม You Are Hero เกมแนว RPG โดยผู้เล่นจำลองตัวเองเป็นผู้กล้าทำเควส ปราบมอนสเตอร์และช่วยโลกไว้ที่กำลังดังกันทั่วบ้านทั่วเมืองสามารถตกลุงอนาล็อกอย่างหลี่ไป่ได้
“ลุงรู้รึเปล่า โอกิลวีที่เป็นลาสบอส โคตรจะเก่งเลย....”
หยินพูดโอ้ถึงเกมที่ตนเองเล่นถึงด่านสุดท้ายให้ลุงเขาฟังด้วยท่าทางสนุกสนานไม่หยุดหย่อน หยินมองว่าลุงของเขาเลี้ยงดูเขามาเป็นทั้งผู้ปกครองและเพื่อน หลี่ไป่พยายามเรียนรู้หลานตัวเองและปรับตัวอย่างเต็มที่ในการจะลองทำอะไรที่เด็กรุ่นใหม่ ๆ เขาเล่นกัน กว่าเขาจะจำคีย์กดเดินตัวละครได้ครบก็ตั้งหลายวัน วันแรกที่เริ่มเล่นก็ซื้อคู่มือเล่นเกมมานั่งอ่านตั้งสองวัน
ระหว่างเก็บกวาดร้าน หลี่ไป่มีความรู้สึกหน้ามืดเขาพยายามใช้มือค้ำโต๊ะไว้อย่างทุลักทุเล
“......แล้วลุงรู้รึเปล่าหลังผู้กล้าดึงดาบศักดิ์สิทธิ์จากเควสดาบของผู้ถูกเลือก ผู้กล้าจะ....ลุง! ลุงหลี่ไป่ เป็นอะไรรึเปล่า ลุงครับ ลุงหลี่ไป่”
พึ่บ
หลี่ไป่รู้สึกเหมือนไร้เรี่ยวแรงล้มลงกระแทกกับพื้นอย่างจัง เสียงสุดท้ายของหลานเรียกชื่อดังข้างหูจนกระทั่งเริ่มเลือนลางและไม่ได้ยินอะไร เขาไม่สามารถลืมตาขึ้นได้ทุกอย่างมันมืดและดับไปเหมือนคนถอดสายคอมพิวเตอร์
“wok ogiv upka”
หลี่ไป่ลืมตาขึ้นมาแบบมึนงงภาพตรงหน้าปรากฏสถานที่ไม่คุ้นเคยพบหญิงสาวใส่ชุดเมดกำลังเปิดผ้าม่านหน้าต่างแต่ที่ทำให้หลี่ไป่ต้องประหลาดคือเธอคนนั้นมีหางและหูใหญ่เป็นหูหนู
หลี่ไป่คิดว่าตัวเองต้องตาฝาดแน่ เขาขยี้ตาซ้ำอีกรอบมองไปยังหญิงสาวคนเดิมอีกครั้งแต่ภาพที่เห็นยังคงไม่เปลี่ยนไปเธอมีหูและหางเช่นเดิมไหนจะภาษาที่ฟังไม่เข้าใจนั้นอีก
เขากำลังฝันอยู่เหรอ หลี่ไป่รวบรวมสติทำความเข้าใจภาพตรงหน้าพยายามหายใจเข้าพุธหายใจออกโท ปิดตา สงบจิตใจ หลับอีกสักรอบเพื่อให้แน่ใจว่าฝัน
“OGIV DON SLEP WOK”
หลี่ไป่ยังคงได้ยินเสียงดังข้างหูทำให้เผลอคิดไปว่าความฝันมันสมจริงขนาดนี้ได้ยังไง เขาพยายามหาทางทำให้ตัวเองตื่นโดยการตีหน้าเข้าไปอย่างแรง
“OGIV Y WHR U DO!”
สาวใช้ในชุดเมดแสดงสีหน้าตกใจรีบวิ่งไปหยิบน้ำแข็งมาประคบหน้าให้หลี่ไป่ด้วยท่าทางร้อนรน เมื่อผ้าห่อด้วยน้ำแข็งเย็นถูกประคบลงบนหน้า หลี่ไป่รู้ได้เลยว่าไม่ใช่ความฝันเพราะความรู้สึกเจ็บก่อนหน้าที่ตัวเองตีลงไปและความเย็นจากน้ำแข็งที่กำลังประคบหน้าเขาอยู่มันสัมผัสได้ชัดเจน
“เธอคือ เอ่อ who you are? Nǐ shì shéi?” หลี่ไป่พยายามเค้นภาษาสนิมในหัวเผื่ออีกฝ่ายจะเข้าใจบ้าง
เขาพยายามใช้แขนสองข้างค้ำเตียงนอนเพื่อดันให้ตัวเองลุกขึ้น ผมกลางหลังค่อย ๆ ไหลลงมาปรกหน้า มือขาวซีดปรากฏให้เห็นพร้อมทั้งผมยาวสีทองเลื่อนลงมาบังสายตาเขา
“OGIV WHR USPEG?”
หญิงสาวในชุดเมดวางน้ำแข็งประคบลงมองหน้าหลี่ไป่ด้วยสีหน้างงงวยกับคำพูดของคนตรงหน้า ตอนนี้ต่างฝ่ายต่างแสดงสีหน้าตกใจกันไปมา
หลี่ไป่พยายามตั้งสตินึกถึงภาพล่าสุดที่เขานึกออก นั้นคือเก็บกวาดร้านกับหลานชายแล้วก็หมดสติไป
ระหว่างนั้นเกิดอะไรขึ้นเขาได้เพียงแต่คาดเดาว่าหลานชายพาเขามาโรงพยาบาลแต่นางพยาบาลโรงพยาบาลนี้แต่งตัวแปลกทั้งใส่ชุดเมดแถมยังติดหูปลอมหูหนูกับหางอีกด้วย เขาพยายามนึกถึงโรงพยาบาลที่มีบริการเช่นนี้
หลี่ไป่ลุกขึ้นนั่งข้างเตียงนั้นทำให้เขาหันไปมองกระจกบานใหญ่ข้างเตียง ภาพที่ปรากฏตรงหน้าทำให้ตัวหลี่ไป่ถึงกับตกใจ ‘โอ้โห้ หนุ่มน้อยน่ารักผมยาวคนนี้ใคร ผมทองเสียด้วย’ ในขณะที่หลี่ไป่กำลังตกใจกับภาพตรงหน้าเขาพึ่งจะตระหนักได้ว่าภาพหนุ่มน้อยตรงหน้าเขาขยับตามที่เขาเคลื่อนไหว เขาเริ่มยกมือขวาเปลี่ยนมายกมือซ้าย เอียงคอไปทางขวา เอียงคอไปทางซ้าย
“ทะ ทะ ทะไมเป็นงี้ไปได้ล่ะ” หลี่ไป่ตกใจจนแสดงท่าทางประหลาด ไม่คิดว่าหนุ่มน้อยตรงหน้าจะเป็นตัวเองไปได้ เขายกมือขึ้นมาจับหน้าบีบขึ้นลงหมุนไปมาจนผมกระเซิงไปหมด
“OGIV TUDA WHR U HAP?”
สาวใช้ในชุดเมดกระดิกหูของเธอพร้อมทั้งมองหลี่ไป่ในร่างชายหนุ่มด้วยความประหลาดใจ
แต่ไม่ใช่เพียงแค่สาวใช้ที่ยืนงงกับท่าทางประหลาดของเขา ตัวหลี่ไป่เองตื่นมาพบว่าตัวเองอยู่ในร่างของใครไม่รู้แถมยังหล่อน่ารักขนาดนี้ เขายังสับสนกับตัวเองว่าควรจะตกใจกับอะไรก่อนดีระหว่างตัวเขาที่ไม่ใช่เขาหรือเรื่องที่พยาบาลแห่งนี้ใส่หูปลอมแถมขยับได้เนียนสมจริงมาก
“ทำไมเธอพูดแบบนั้นละ ‘เปลี่ยนภาษา’ เป็นภาษาที่ผมเข้าใจได้มั้ยครับ” ระหว่างที่หลี่ไป่กำลังบ่นกับตัวเองอยู่นั้นก็มีหน้าต่างสี่เหลี่ยมเด้งขึ้นมาตรงหน้า หัวกระดานหน้าต่างเขียนด้วยอักษรว่า ‘เลือกภาษา’
“เฮ้ย! อะไรเนี่ย” หลี่ไป่ตกใจกับกระดานหน้าต่างตรงหน้าพยามยามชี้อย่างลนลาน เขาหันไปขอความช่วยเหลือกับพยาบาลสาวในชุดเมดแต่พบว่าสาวใช้ไม่เห็นสิ่งที่เขาพยายามชี้และไม่มีท่าทีสนใจพร้อมเดินหันหลังไปจัดเตียงเขาเสียอย่างนั้น
“อะไรเนี่ย คุยด้วยก็ไม่ตอบ หน้าตาก็ยังเด็กแท้ ๆ อายุอย่างผมก็เป็นพ่อเธอได้เลยนะ” หลี่ไป่บ่นกระปอดกระแปดใส่พยาบาลสาวในชุดเมด
“เลือกภาษา นั้นก็ ไทย ทอ ไอ .......” หลี่ไป่พยายามเลื่อนหาภาษาจากกระดานหน้าต่างตรงหน้า
“อะ! เจอแล้ว” เขาเจอภาษาที่ต้องการและกดเลือกอย่างไว
[ระบบกำลังโหลด กรุณารอสักครู่]
ผ่านไปประมาณห้านาทีหลังจากตัวเปอร์เซ็นต์หน้าจอวนจนครบ 100% เต็ม ภาษาในหน้ากระดานเปลี่ยนเป็นภาษาที่เขาอ่านออกและฟังเสียงพยาบาลที่ใส่ชุดเมดกระดิกหางไปมาเข้าใจ
“นายท่านจะแกล้งอะไรข้าเจ้าคะ พูดอะไรข้าไม่เข้าใจสักนิด” นางพูดขึ้นด้วยสีหน้าแง้งอนแต่มือยังคงจัดเตียงที่หลี่ไป่นอนให้เรียบร้อย
“จะ จะ เจ้า เป็นพยาบาลของที่นี่เหรอ” หลี่ไป่ค่อนข้างประหลาดใจกับภาษาที่เขาพูดออกไปและยังเข้าใจที่พยาบาลสาวพูดขึ้นด้วย
“พยาบาลอะไรกันท่านโอกิลวี ถ้าท่านยังแกล้งข้าอีกข้าจะโกรธจริง ๆ แล้วนะเจ้าคะ” นางเดินมาหยุดหน้าหลี่ไป่ด้วยท่าทางขึงขังหางยังคงสะบัดไปมาให้เวียนสายตา
“เจ้าเรียกข้าว่าอะไรนะ” หลี่ไป่สะดุดกับคำเรียกที่เธอเรียกเขา
“ท่านโอกิลวีไงคะ" เธอมองชายตรงหน้าด้วยสีหน้างงงวยมากกว่าเดิม เธอเริ่มจะไม่แน่ใจแล้วว่าเจ้านายเธอคิดจะแกล้งเธอหรือสมองกระทบกระเทือนกันแน่
“ที่นี่ที่ไหน” หลี่ไป่ตกใจกับคำตอบที่เขาได้รับ ไม่เพียงแค่รูปร่างหน้าตาเขาที่เปลี่ยนไปชื่อเขาก็เปลี่ยนไปอีกด้วย
“เมืองแพนโดร่าไงเจ้าคะ เป็นอะไรเจ้าคะนายท่าน พึ่งมาถึงเมืองหลวงได้ไม่นาน ความจำหายไปแล้วหรือเจ้าคะ” นางขยับตัวเข้าไปใกล้เจ้านายพยายามใช้มือกวาดผมสีทองกระเซอะกระเซิงให้เข้าที่เข้าทางจนเรียบร้อย
“เมืองแพนโดร่าอะไร แล้วเจ้าเป็นใคร” หลี่ไป่ยังคงตกใจและลนลานกับเรื่องที่เกิดขึ้นตรงหน้า
“นายท่านทำข้ากลัวแล้วนะเจ้าคะ ข้าเองมินเนสไงเจ้าคะ ข้ารับใช้ท่านโอกิลวีท่านพ่อมดผู้ยิ่งใหญ่ ผู้เป็นอัจฉริยะตั้งแต่เกิด เป้าหมายในการเดินทางมาที่เมืองแพนโดร่าเพื่อล้างแค้นให้กับพี่น้องที่โดนพวกผู้กล้าอ้างความยุติธรรมทำร้ายในป่า .....เฮอ พอใจแล้วยังเจ้าคะ ท่านให้ข้าเยินยออะไรท่านอีกหรือไม่” มินเนสพูดเสียยืดยาวด้วยเสียงประชดประชันใส่นายของเธอที่แสดงท่าทีประหลาดตั้งแต่ตื่นขึ้นมา
หลี่ไป่ครุ่นคิดครู่หนึ่งเพราะชื่อเมืองแพนโดร่านั้นคุ้นหูมาก สักพักเขานึกออกว่ามันคือเมืองหลวงของเกม URH ที่เขาให้หลานชายสอนเล่นไม่ผิดแน่ ทำไมเขาถึงมาอยู่ในเกมได้และอีกหนึ่งอย่างที่ยังคงคาใจคือชื่อโอกิลวีคุ้นหูเหมือนเคยได้ยินหลานชายพูดว่าเป็นชื่อใครแต่ไม่ว่าพยายามนึกเท่าไหร่ก็นึกไม่ออก
ระหว่างที่หลี่ไป่กำลังใช้ความคิดก็ถูกขัดขึ้นด้วยเสียงทักจากมินเนส
“นายท่านลุกขึ้นเถิดเจ้าค่ะ ข้าจะเปลี่ยนเสื้อให้”
“เปลี่ยนเสื้ออะไรกัน ไม่อาบน้ำก่อนรึไง” หลี่ไป่ตอบไปด้วยตามความจริงของหนุ่มไทยเชื้อสายจีนที่อาบน้ำเช้าเย็นเป็นประจำแต่คำพูดนั้นของหลี่ไป่ทำเอามินเนสต้องตกใจ
“นายท่านจะอาบน้ำหรือเจ้าคะหนาวขนาดนี้ เช่นนั้นรอข้าต้มน้ำสักครู่นะเจ้าคะ” มินเนสวิ่งออกจากห้องด้วยท่าทางลนลาน
“หนาวเหรอ? อากาศค่อนข้างอุ่นขนาดนี้หรือร่างกายจะ ‘ปรับอุณหภูมิ’ ได้ดี”
[ปรับอุณหภูมิร่างกาย]
“อะไรอีกละเนี่ย!” หลี่ไป่อุทานขึ้นเมื่อมีกระดานหน้าต่างเด้งขึ้นมาหน้าเขาอีกครั้งพร้อมเขียนบรรยายถึงอุณหภูมิร่างกายและหมายเหตุเล็ก ๆ ข้างล่างว่า ‘ภูมิประเทศ เอเชียตะวันออกเฉียงใต้’
หลี่ไป่เริ่มที่จะเข้าใจอะไรหลายอย่าง ตัวเขาหลุดเข้ามาในเกมที่หลานชายเขาสอนเล่นอีกทั้งเป็นตัวละครที่ชื่อโอกิลวี ถ้าหากนี่เป็นโลกในเกมจริงอย่างที่คิดมีกระดานหน้าต่างคล้ายตอนเขาเล่นเกมคงต้องลองเรียกกระดานหน้าต่างดู เพื่อให้แน่ใจ
“เปิดสถานะ”
[สถานะตัวละคร]
[ชื่อตัวละคร โอกิลวี]
[HP 100/100]
[MP 100/100]
[STR พลังการโจมตีแบบกายภาพ : 10/100]
[CON พลังป้องกันการโจมตีกายภาพ : 90/100]
[INT พลังการโจมตีเวทย์ ; MAX]
[WIS พลังป้องกันการโจมตีเวทย์ : MAX]
[AGI ความว่องไวของตัวละคร : 10/100]
[ฉายา : พ่อมดผู้แค้นเคือง , พ่อมดผู้เชื่องช้า , พ่อมดผู้เกียจคร้าน]
หลี่ไป่ตกใจกับสถานะตัวละครของตัวเอง พลังเวทเต็มขีดจำกัดขนาดนี้บอกเลยว่าขนาดตัวละครที่เขาเล่นเลเวลห้าสิบยังไม่ถึง 60% ของแต่ละค่าเลยด้วยซ้ำแต่ความแข็งแรงทางศักยภาพกับความว่องไวต่ำเตี้ยเรี่ยดินมากมันแปลว่าเขาเดินได้ไม่ไกลก็คงเหนื่อยจนจะขาดใจ ไหนจะฉายาที่โคตรขัดแย้งกัน'พ่อมดผู้แค้นเคือง' ฟังยังไงก็เป็นคนร้ายหัวรุนแรงแต่อีกฉายา'พ่อมดผู้เชื่องช้าและเกียจคร้าน'มันดูเป็นมนุษย์เงินเดือนไม่ยอมพัฒนาตัวเองของคุณลุงวัยสี่สิบ คิดไปคิดมาหลี่ไป่ก็คิดว่าพ่อมดผู้เชื่องช้าค่อนข้างสมเหตุสมผลกับตัวเขา
สามวัน ต่อมา
“โอ้ย เบื่อจะแย่แล้ว” หลี่ไป่พลิกไปมาบนเตียงไม่ได้ออกไปไหนเลยตั้งสามวัน พยายามถามข้อมูลและเรื่องราวต่าง ๆ ในโลกนี้จากมินเนส แต่ตัวมินเนสเองก็ตอบทีเล่นทีจริงเพราะคิดเพียงว่าเจ้านายต้องการจะแกล้งเธอเท่านั้น หลี่ไป่ค้นหาข้อมูลเผื่อจะพบหนทางกลับไปยังโลกเดิม เขาเคยลองหาอดีตของตัวเองแต่กระดานหน้าต่างกลับเด้งว่าไม่สามารถเข้าถึงข้อมูลได้ต้องผ่านเควสทีละด่านเพื่อปลดล็อคข้อมูลไปทีละตอนแต่เมื่อเขาพยายามเปิด เควสกลับเด้งขึ้นมาว่ายังไม่ถึงเวลา
แม้เขาจะชอบนอนขี้เกียจไปวัน ๆ แต่ไม่มีอะไรทำแบบนี้ตัวหลี่ไป่ก็คิดว่ามันน่าเบื่อเกินไป จะหาอะไรทำก็ทำอะไรไม่เป็นเลยนอกเสียจากทำ 'ปาท่องโก๋'
Comments (0)