ใบหน้าของภูนั้นมีรอยช้ำที่เกิดจากการโดนหมัดเน้น ๆ ไปเมื่อสักครู่ ภายในใจของเขาก็รู้สึกผิดกับสิ่งที่เกิดขึ้นเหมือนกัน ถ้าหากว่าเขาบอกเรื่องที่รู้สึกแปลก ๆ ตั้งแต่เมื่อคืน ก็คงจะไม่เกิดเรื่องร้าย ๆ แบบนี้ เพื่อนก็คงไม่ต้องมาตายแบบนี้

          "พอเถอะกร ใจเย็น ๆ เรื่องแบบนี้มันไม่มีใครอยากจะให้เกิดขึ้นหรอก มันเป็นอุบัติเหตุ" แพรวพูดห้ามกร แต่ก็ไม่เป็นผล กรทำการซัดไปที่ใบหน้าของภูอีกครั้งหนึ่งก่อนจะสบทออกมาอีกครั้ง

          "อุบัติเหตุหรอ? พวกเราทำตามคำแนะนำของมันแล้วเป็นไง...ตายกันไปครึ่งนึง ไม่ใช่ว่ามันแต่งเรื่องขึ้นมารึไง!!! ไม่ใช่ว่าไอเหี้ยภูมันพาเพื่อนมาตายรึไง!!!" คำพูดที่กรสบทออกมาทำเอาทุกคนนิ่งสงบกันหมด

          "เออ!!! กูผิดเองที่เสือกไปบอกพวกมึง รู้อย่างงี้กูแอบหนีมาคนเดียวแล้วปล่อยให้พวกมึงโดนช้างหรือโดนเวตาลฆ่าก็ดี!!!" ภูตวาดกลับกรไปเหมือนกัน

          "เออ! กูก็น่าจะอยู่จนตายที่นั้นเหมือนกัน!!! กูจะไม่ไปต่อกับพวกมึงแล้ว ใครอยากจะตามแม่งไปก็ไป! กูจะไม่ไปแล้วคนนึง" กรตอบกลับมาเป็นประโยคสุดท้าย หลังจากนั้นเขาก็เก็บอาวุธ และนำอาหารไปจำนวนหนึ่งก่อนจะเดินหายไปอีกฝั่ง แต่ดูเหมือนว่าจะไม่มีใครตามกรไปเลย คนอื่น ๆ ยังคงยืนยันที่จะเดินทางกันต่อไป

          พวกเขาทั้งหมดได้เดินทางกันต่อ โดยระหว่างนั้นไม่มีใครเอ่ยปากพูดกันเลย เท่าที่นับจำนวนคนในตอนนี้พวกเขาเหลือเพียงแค่ 11 คนเท่านั้น ไม่รวมกร ซึ่งได้แก่ ภู แพรว ไผ่  ชีส จูเนียร์ ป๊อป บุ๋น แตงกวา  โมจิ  ลีโอ และพั้นช์ โดยทั้งหมดได้เดินทางกันต่ออย่างรวดเร็ว จนเมื่อถึงยามเย็นพวกเขาก็ได้พบกับวิฬารลึกลับที่อยู่กลางป่า มันเป็นวิฬารหินคล้ายกับนครวัดหรือปราสาทหินพนมรุ้งเลย แต่มันมีเถาวัลย์ปกคลุมอยู่

          "เราเข้าไปสำรวจกันก่อนเถอะ น่าจะเป็นที่พักในคืนนี้ได้" ชีสได้เสนอความคิดเห็นขึ้นมา ซึ่งมันดูจะดีที่สุดแล้ว พวกเขาจึงหาไม้บริเวณนั้นมาจุดเป็นคบเพลิง และเข้าไปสำรวจข้างในวิฬารลึกลับที่มันไม่ควรจะมีอยู่ในป่าแห่งนี้