ปิศาจค่อยๆ ขยับร่างใหม่ของตน มนุษย์ ซ้ำยังเป็นสตรี อ่อนแอ น่ารำคาญยิ่งนัก

มันค่อยๆ ขยับร่างกาย คืบคลานไปยังหญิงชราผู้เป็นต้นเหตุของเรื่องราวทั้งมวล

หญิงชราผู้นั้นตายไปแล้ว เหมือนว่าจะใช้พลังชีวิตเฮือกสุดท้ายของตนกักปิศาจไว้ด้วยลูกปัดพิเศษชิ้นนั้น

ปิศาจถอนหายใจ มันคืบคลานต่อไปยังเปลเด็กที่อยู่อีกมุมห้อง

เด็กน้อยนอนหลับอยู่อย่างไม่รู้เรื่องรู้ราว

ปิศาจกรีดกรงเล็บออกอย่างเคยชิน ก่อนพบเพียงนิ้วเรียวบางของมนุษย์กางออกเหนือร่างเล็กจิ๋วในเปลนั่น มันกำมือที่ไม่คุ้นเคยนั้นกลับมาอย่างหงุดหงิด

ปิศาจไม่ได้คิดกางกรงเล็บออกเพื่อทำร้ายเด็กในเปล อย่างไรเสียเด็กมนุษย์ผู้นั้นก็เป็นเด็กที่มันได้ให้สัญญาว่าจะปกป้องเลี้ยงดู

มันคำราม ก่อนจะขัดใจกับเสียงที่เปล่งออกมา จึงได้แต่กัดฟันกรอด

คนที่มันควรแค้นตายไปแล้ว มนุษย์ที่ตายไปแล้วคือสิ่งแข็งแกร่งที่สุดรองลงมาจากความหิวโหย

ปิศาจทั้งมวลล้วนเป็นบริวารของชีวิตจึงไม่อาจก้าวล้ำสู่ความตาย มันไม่อาจทำอะไรนางผู้นั้นได้อีก

ปิศาจสงบใจ

ควรรู้ไว้ว่ามันเป็นปิศาจที่มีใจสงบอย่างยิ่ง อันที่จริงปิศาจที่ตอบสนองต่อเสียงของลูกปัดที่ไหม้ไฟล้วนเป็นผู้มีใจอันสงบสงบสุขยากจะทำให้ขุ่นเคืองทั้งนั้น

มันถูกพิษ แต่มันคงให้อภัย การให้อภัยเป็นวิธีจัดการต่อมนุษย์ที่ตายไปแล้วอย่างได้ผลที่สุด

มันยืดร่างหนักอึ้งร่างใหม่ของตนขึ้น ขัดใจในความติดขัดหลาย ๆ อย่างอยู่ชั่วครู่ ก่อนจัดการลากร่างไร้วิญญาณของหญิงชราออกไปทางหลังบ้าน

มันจุดไฟ ดีใจที่ยังสามารถใช้อำนาจนั้นของตนได้ เผาร่างไร้ลมหายใจนั้นแล้วอธิษฐานให้วิญญาณของหญิงชราได้พบโลกอันสงบสุขเลียนแบบวิธีการอย่างมนุษย์ที่มันเคยพบเจอมา

ปิศาจกลับเข้าไปในกระท่อมอีกครั้ง กรีดนิ้วออกเหนือเปลเด็ก

'มนุษย์' นิ้วที่กรีดออกเหนือเปลมีความหมายเช่นนั้น ปิศาจยังคงไม่คุ้นกับเสียงที่มันได้รับมา มันจึงทำอย่างปิศาจ

'ขอให้เจ้ามีชีวิตอันสงบสุข และห่างไกลจากความหิวโหยทั้งมวล' มันอวยพรเด็กในเปลอย่างนั้น แล้วหลับตาสงบนิ่งศึกษาร่างกายใหม่ของตน

---

การเอาปิศาจมาเลี้ยงดูเด็กมนุษย์นั้นมีปัญหามากมาย

แม้โดนจำกัดร่างไว้ในรูปกายของมนุษย์อย่างไร ปิศาจก็ยังมีสำนึกเป็นของปิศาจอยู่นั่นเอง

ปิศาจพยายามเลี้ยงเด็กขึ้นมาให้ดี ซึ่งมันก็ทำได้ไม่แย่ อย่างไรเสียในชีวิตอันยืนยาวของมัน มันก็ได้เห็นอะไรมามากมาย มันยังพอใช้ประสบการณ์เหล่านั้นเป็นตัวอย่างในการเลี้ยงดูชีวิตหนึ่งให้เติบโตขึ้นมาได้

แต่ประสบการณ์การพบปะมนุษย์ของปิศาจนั้นไม่ธรรมดา มนุษย์ผู้สามารถโปรยลูกปัดเพื่อเรียกปิศาจออกมาสนองความต้องการของตนได้นั้นล้วนมิใช่คนธรรมดา

ปิศาจเลี้ยงเด็กในปกครองของมันขึ้นมาอย่างนักปราชญ์ อย่างแม่ทัพ อย่างคนที่สักวันจะขึ้นเป็นราชา

เด็กมนุษย์เล็กจิ๋วนั้นเติบโตขึ้นมาเช่นนั้น แปลกประหลาด แต่สง่างาม

วันหนึ่งเมื่อปิศาจคิดว่าเด็กชายของตนเติบโตขึ้นมาเพียงพอแล้ว มันก็ยกโถกระเบื้องลงมาจากชั้นเหนือเตาผิง

วางโถนั้นลงบนโต๊ะเบื้องหน้าเด็กชาย มันกรีดนิ้ว ก่อนจะรู้สึกตัวว่าคนตรงหน้านี้ไม่อาจเข้าใจภาษาอย่างปิศาจที่ตนกำลังใช้ มันจึงกล่าวออกมาด้วยเสียงของมนุษย์ที่มันไม่ใคร่ชอบใจนัก

"นี่คือมนุษย์ที่บัญชาให้ข้าเลี้ยงดูเจ้าขึ้นมา" ปิศาจว่า

เด็กชายยืดตัวขึ้น ตั้งใจฟัง

เด็กชายรู้มานานมากแล้วว่าหญิงสาวที่เลี้ยงดูตนขึ้นมานั้นไม่ใช่คนธรรมดา

เธอไม่เคยเปลี่ยนไปเลยตั้งแต่เขาจำความได้ เขาโตขึ้น แต่เธอไม่แก่ลง แม้แต่เขาผู้เติบโตขึ้นมาในสภาพแวดล้อมกึ่งปิดนี้ก็ยังรู้สึกได้ว่ามันไม่ใช่เรื่องธรรมดา

ปิศาจเลื่อนโถออกมาข้างหน้า แล้วเปิดฝาออก แสดงเถ้าถ่านสีดำที่ถูกเก็บรักษาไว้ในนั้นต่อเด็กชาย

"สิ่งนี้เคยเป็นหญิงชรา" ปิศาจว่า "ข้าไม่รู้ว่านางเกี่ยวข้องกับเจ้าเช่นไร แต่นางเรียกข้าออกมาเพื่อให้เลี้ยงเจ้าให้ดี" มันกล่าวด้วยเสียงราบเรียบ

"เจ้าคิดว่าเจ้าเติบโตขึ้นเป็นมนุษย์ที่ดีหรือยัง" ปิศาจถาม ขยับมือกรีดกรายอย่างเคยชิน

เด็กชายมองโถบรรจุเถ้าถ่านตรงหน้าสลับกับสตรีผู้เอ่ยเอื้อนวาจาราวกับเรื่องของเขาไม่ใช่เรื่องของตนอีกต่อไป

เขาลังเลที่จะตอบคำถามนั้น

เด็กชายรู้ว่าตนเติบโตขึ้นมาอย่างผิดแปลกอยู่บ้างจากการได้พบปะกับเหล่านักเดินทางที่บางทีก็หลงทางเข้ามา แต่เด็กชายไม่เคยคิดเสียใจที่เติบโตขึ้นมาแบบนี้เลยสักครั้ง ดังนั้นเขาจึงคิดว่าเขาน่าจะเติบโตขึ้นมาอย่างดี

แต่การถามแบบนี้กับเขาหมายความว่าอย่างไร ท่านจะไปจากข้าหรือ เขาปรารถนาจะถามเช่นนั้น แต่ไม่ได้กล่าวสิ่งใด

เด็กชายขยับมือ กรีดนิ้วออกด้วยท่าทางที่เขามั่นใจว่ามันคือการถามกลับ

‘แล้วท่านคิดว่าอย่างไร’ นิ้วของเด็กชายขยับสื่อความเช่นนั้น

ปิศาจชะงักไป มันขยับยิ้ม หลายปีมานี้มันเองก็เรียนรู้การแสดงออกอย่างมนุษย์ติดตัวไว้เช่นกัน

“เจ้าเติบโตขึ้นมาอย่างดี” มันตอบด้วยเสียงของมนุษย์

ปิศาจลุกขึ้น ถอยห่างจากโต๊ะ

มันขยับเข้าไปใกล้เตาผิงที่ลุกโชติช่วงอยู่เบื้องหลัง

เปลวสีแดงเข้มของกองเพลิงแลบเลียลงบนร่างมนุษย์ผู้หญิงที่มันได้รับมา กร่อนออกเป็นฝุ่นคลุ้ง เป็นความมืด เป็นเงาดำขมุกขมัว

ปิศาจกรีดนิ้วที่กลับสู่กรงเล็บแหลมคมจากในความดำมืดของตน

‘ขอบคุณสำหรับลูกปัดที่ไหม้ไฟ’

-----