1 ตอน บทนำ การฟื้นคืนชีพของแอพลิเคชั่น @Friends
โดย Pillow Mellow
กรกฎาคม
“ท่านประธานมึงโหลดแอปเราเวอร์ชั่นใหม่รึยังวะ”
ประตูห้องทำงานเปิดออกพร้อมกับเสียงที่คล้ายจะคุ้นเคย คนถูกเรียกด้วยตำแหน่งไม่คุ้นหูหยุดมือที่กำลังจรดดินสอร่างแบบสินค้าคอลเลคชั่นใหม่
เอิร์ธ อธิษฐ์ กิจวัฒนา ปล่อยให้ดินสอไม้ที่ตนเพิ่งวางลงกลิ้งไปมาบนหน้ากระดาษ
เงยหน้ามองก็ประสานสายตากับผู้มาใหม่ ชายหนุ่มร่างผอมกับทรงผมแสนเซอร์ยาวปะบ่าในชุดเสื้อยืดสีตุ่นทับด้วยสูทสีกรมท่าและกางเกงยีนขนาดพอดีตัวนั่งลงบนเก้าอี้ตรงข้ามกันอย่างถือวิสาสะพร้อมส่งยิ้มกรุ้มกริ่มที่คนเป็นเจ้าของห้องไม่เข้าใจ
“นิติ” ไม่รู้ลมอะไรหอบมา เจ้าของชื่อโบกมือทักทายด้วยท่าทีขี้เล่นพลางเปิดเผยรอยยิ้มที่กว้างกว่าเมื่อครู่เป็นเท่าตัว ดวงตาซุกซนเหมือนเจอเรื่องสนุกจ้องมองคนตรงหน้าสลับกับโทรศัพท์มือถือรุ่นใหม่ล่าสุดในมือกระตุ้นให้ความสงสัยเพิ่มสูงขึ้นอย่างยากที่จะห้ามปราม
นานเท่าไหร่แล้วก็ไม่รู้ที่พวกเขาไม่ได้เจอหน้ากัน อาจจะตั้งแต่ 2 ปีที่แล้ว ในร้านเหล้าขณะที่ต่างฝ่ายกำลังถูกฤทธิ์แอลกอฮอล์เล่นงาน
“มึงโหลดแอปยัง” เพื่อนที่ไม่ได้เจอกันมาเป็นปีว่าพร้อมกับโบกสมาร์ทโฟนในมือเบาๆ
“แอปอะไร” อธิษฐ์ถามและจ้องมองคนที่ปรากฏตัวพร้อมปริศนาร้อยแปดพันเก้าอย่างรอคอยคำตอบ
“แอปของพวกเราไง”
“แอป?” อธิษฐ์ทวนคำ มุ่นคิ้วครุ่นคิด คลับคล้ายคลับคลาว่าจะจำได้แต่ก็ช่างเลือนลางจนไม่กล้าเอ่ยคำใด
“แอปแอดเฟรนด์ของเราไง เคยบอกท่านประธานไปแล้วนะว่าจะกลับมาพัฒนามันอีกครั้ง”
ประโยคบอกเล่าของเพื่อนทำให้หวนนึกถึงโทรศัพท์สายนั้นที่โทรเข้ามากลางดึกพร้อมกับเสียงร่ำไห้อย่างผู้พ่ายแพ้ในสนามรบบนโลกดิจิตอลของนิติ
‘เชี่ยเอิร์ธ กูซึ้งน้ำใจมึงฉิบหายเลยจริงๆ นะ มึงอุตส่าห์ไว้ใจเอาเงินมาลงทุนทั้งที่เราไม่ได้สนิทสนมกันเลยด้วยซ้ำ กูสัญญาว่าจะหาเงินมาคืนมึงให้ได้นะเอิร์ธ กูสัญญาด้วยสักสีเลย’
เจ้าตัวคร่ำครวญพลางเอ่ยปากให้สัญญาทั้งที่ไม่ได้ขอ
คำพูดของคนเมาอธิษฐ์ไม่ได้คิดใส่ใจ ทว่าวันนี้เจ้าตัวกลับเดินทางมาหาเขาถึงห้องทำงานพร้อมกับข่าวดี
“มึงกลับมาพัฒนาต่อเหรอ กูคิดว่ามึงยอมแพ้ไปแล้วซะอีก”
“ตอนแรกก็คิดว่าครั้งนี้จะเป็นการสู้ครั้งสุดท้ายแล้วว่ะ ถ้าไม่มีอะไรดีขึ้นก็ตั้งใจว่าจะเลิกแล้วไปหาเงินมาคืนมึง แต่...” นิติเว้นวรรคให้พอได้ลุ้น “จู่ๆ ก็มีคนดังในโลกโซเชียลรีวิวแอปเรา เท่านั้นแหละผู้คนแห่มาโหลดจนกูรับมือกับความเป็นผู้เขียนแอปดังแทบไม่ทันเลยว่ะ”
“คนก็ยังเล่นแอปแบบนี้กันอยู่เนอะ” จำได้ว่าแอปหาเพื่อนเคยเป็นที่นิยมมากๆ ในช่วงที่สมาร์ทโฟนสามารถเข้าถึงได้ง่ายในราคาย่อมเยาว์ เวลาผ่านไปตั้งกี่ปีแล้ว อธิษฐ์ไม่คิดเลยว่าแอปหาเพื่อนจะยังได้รับความนิยมอยู่
“แน่สิวะ มึงไม่รู้จักทินเดอร์เหรอ โคตรฮิตนะรู้ยัง”
“ฮิตจริงปะ ทำไมกูไม่รู้จัก” นอกจากเฟซบุ๊กที่นานๆ จะเข้าไปอัพเดทชีวิตบ้างกับอินสตราแกรมที่สมัครไว้ตั้งแต่สมัยเรียนและไลน์ที่แม่บังคับให้สมัครเพื่อเข้าร่วมกรุ๊ปครอบครัว อธิษฐ์ก็ไม่รู้จักโซเชียลมีเดียร์อื่นๆ เลย อย่างทินเดอร์อะไรนี่ก็เพิ่งจะเคยได้ยินจากปากเพื่อนครั้งแรก
“แอปหาเพื่อนเหมือนแอปเรานี่แหละ แต่เขาอินเตอร์กว่าแค่นั้นอะมึง เอาจริงกูก็อยากอินเตอร์อยู่นะ นี่ก็กำลังคิดว่าถ้ากำไรงามๆ ก็อยากตั้งบริษัทเลย มึงสนใจดำรงตำแหน่งประธานบริษัทมั้ยวะ” นิติบอกเล่าความฝันของตัวเองด้วยดวงตาทอประกายไม่เข้ากับเสื้อสีหม่นเลยแม้แต่น้อย แต่ถึงอย่างนั้นอธิษฐ์ก็รับรู้ได้ถึงความตั้งใจอันแน่วแน่ของเพื่อน
น่าเสียดายที่อธิษฐ์ไม่สามารถให้อะไรนิติได้มากกว่าเงินทุนตั้งต้น คำปรึกษาและกำลังใจ
“มึงดูนี่” จู่ๆ นิติก็ส่งมือถือที่เปิดภาพหญิงสาวหน้าตาไทป์ที่อีกฝ่ายชอบมาให้ดู “คิดว่าในชีวิตจริงมีโอกาสกี่เปอร์เซ็นที่จะได้เจอคนตรงสเป็คแบบนี้”
อธิษฐ์เงียบเพราะไม่สามารถให้คำตอบเพื่อนได้
ตัวเขาเองตั้งแต่เรียนจบและเริ่มธุรกิจของตัวเองก็เอาจริงเอาจังเรื่องงานและละเลยเรื่องความรักไป
“ยกตัวอย่างมึงแล้วกัน”
ห้ามไปก็คงเท่านั้น อย่างไรนิติก็คงเอาอธิษฐ์เป็นตัวอย่างให้จงได้เหมือนอย่างเช่นครั้งที่หว่านล้อมจนเขายอมเอาเงินเก็บมาลงทุนทำแอปซึ่งไม่รู้ว่าจะสร้างผลประโยชนงอกเงยไหม
“กูมั่นใจร้อยเปอร์เซ็นว่ามึงใช้เวลาในออฟฟิศนี้เป็นส่วนใหญ่และไม่ค่อยมีโอกาสได้ไปเจอผู้คน” ชีวิตอธิษฐ์ก็ไม่ได้ขาดสีสันและร้างผู้คนขนาดนั้น แต่ถามว่ามีโอกาสได้เจอคนในสเป็คและสานสัมพันธ์ไหม คำตอบคือไม่
ทุกคำที่เพื่อนพูดใกล้เคียงความจริงจนไม่กล้าเถียง ความเงียบที่ได้รับทำให้นิติเผยรอยยิ้มอย่างผู้ชนะ ชี้นิ้วมายังอธิษฐ์ที่กำลังพยายามตีสีหน้าเคร่งครึมเก็บงำความรู้สึก
“คนที่ใช้ชีวิตแบบเอางานเป็นที่ตั้งอย่างมึง โอกาสเจอคนตรงสเป็คหรือโอกาสได้คุยกับคนที่ใช่มันค่อนข้างยากใช่มั้ยล่ะ เพราะงั้นแอปหาเพื่อนพวกนี้แหละคือทางออก”
“...”
“เพราะงั้นนะเพื่อน แอดเฟรนด์เวอร์ชั่นล่าสุด โหลดเลยครับ”
“เมื่อกี้เราคุยกันเรื่องทินเดอร์ไม่ใช่เหรอวะ”
“ก็ใช่ไง แต่กูเป็นคนเขียนแอปแอดเฟรนด์และมึงก็เป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ มีเหตุผลอะไรที่ต้องโหลดแอปคู่แข่งล่ะ” อธิษฐ์ไม่รู้ว่าแอปทินเดอร์ยิ่งใหญ่แค่ไหนแต่ถ้าอยู่ในระดับที่คนทั่วโลกสามารถเข้าถึงได้ แอปเล็กๆ ที่เน้นภาษาไทยอย่างแอดเฟรนด์คงเทียบไม่ติด
แม้ไม่เห็นความสำคัญของการมีแอปหาเพื่อนติดโทรศัพท์มือถือไว้แต่เพราะเขาเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ อธิษฐ์จึงหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาในที่สุด และก็ต้องเลิกคิ้วอีกครั้งอย่างไม่อยากจะเชื่อสายตาตัวเองเมื่อเห็นจำนวนรีวิวกับยอดดาวซึ่งอยู่ในระดับที่เรียกว่าดี
“ไง อึ้งไปเลยดิ คราวนี้ไม่ใช่แค่ทุนนะที่กูจะคืนมึง เพราะโกลด์ของกูคือกำไร 100 เปอร์เซ็นเว้ย” ท่าทางของนิติยามนี้เหมือนไลฟ์โค้ชหรือไม่ก็นักขายระดับมงกุฏเพชรที่กำลังชักชวนอีกฝ่ายให้ร่วมลงทุน และยิ่งได้สบกับดวงตาวาวโรจน์ซึ่งเต็มไปด้วยความมั่นใจอันเปี่ยมล้น อธิษฐ์ก็เผลอคล้อยตาม ทั้งท้ายประโยคที่นิติพูดถึงกำไรก็ทำให้เขาหูผึ่ง
“มึงดูมั่นใจจังวะ”
“แน่นอนสิ และในฐานะที่มึงเป็นถึงท่านประธานบริษัทสมมติของกู มึงก็ควรจะเชื่อมั่นในตัวหุ้นส่วนเพียงหนึ่งเดียวอย่างกูดิวะ เหมือนครั้งก่อนโน้นอะ” ไหล่ของนิติห่อลงเล็กน้อยเมื่อนึกไปถึงช่วงเวลาอันมืดมนของแอปที่เจ้าตัวตั้งอกตั้งใจพัฒนาแต่กลับไม่ได้รับความนิยมเลย
อธิษฐ์หัวเราะให้กับท่าทีห่อเหี่ยวไร้เรี่ยวแรงของเพื่อนต่างคณะพลันนึกไปถึงช่วงเวลาเดียวกันนั้น
มันไม่ใช่เรื่องแปลกเลยแม้แต่น้อยที่นักศึกษาจากคณะศิลปกรรมศาสตร์อย่างอธิษฐ์และนิติซึ่งเรียนวิศวกรรมศาสตร์จะสนิทสนมหรือพอจะคุ้นหน้าคุ้นตากันบ้าง นั่นเพราะตึกของพวกเราตั้งอยู่เคียงกัน หลังจากเรียนจบต่างคนก็ต่างแยกย้าย ไม่มีเหตุให้แลกคอนแทค ทว่าวันหนึ่งโลกกลับเหวี่ยงพวกเรากลับมาพบกันอีกครั้ง
ในร้านเหล้ายามดึกของคืนวันศุกร์นิตินั่งกำแก้วเหล้าด้วยสีหน้ากลัดกลุ้ม เมื่ออธิษฐ์ลองถามไถ่ก็ได้ความว่ากำลังประสบปัญหาเรื่องการลงทุนผลิตแอปพลิเคชั่น สำหรับอธิษฐ์คนรู้เรื่องเทคโนโลยีเพียงงูๆ ปลาๆ ก็ได้แต่ฟังเจ้าตัวระบายความทุกข์ กระทั่งอีกฝ่ายเริ่มเล่าถึงแผนงานและเป้าหมายของแอปนี้คล้ายกับพยายามชักจูงอยู่ในที และแล้วอธิษฐ์ก็หลวมตัวตอบตกลงเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ด้วยหวังเล็กๆ ว่าแอปหาเพื่อนที่ว่านี้จะสร้างรายได้ให้กับพวกเขามหาศาล แต่ความฝันอันยิ่งใหญ่นั้นก็พังทลายลงเมื่อกระแสตอบรับไม่เป็นไปตามคาด และนั่นก็บั่นทอนคนพัฒนาแอปจนไม่สามารถดำเนินการต่อได้
แอปแอดเฟรนด์ถูกปล่อยร้างไร้การพัฒนา
เป็นเวลาราวสองปี ความทรงจำของอธิษฐ์เกี่ยวกับแอปพลิเคชั่นนั้นเลือนลางต่างจากนิติที่เอาความล้มเหลวในอดีตมาเป็นบทเรียน ใช้เวลาศึกษาเพิ่มเติมและกลับมาสานต่อ
“รอไรวะเอิร์ธ โหลดเลยดิ เนี่ยกูเพิ่มฟังก์ชั่นเขย่าหาเพื่อนด้วยนะเว้ย สมมติมึงเจอคนถูกใจมึงก็เขย่ามือถือ ถ้าเขาเล่นแอปนี้เหมือนกันก็จ๊ะเอ๋แล้วสานต่อเลย เจ๋งป่ะ”
“แอปอื่นก็มีนี่ฟังก์ชั่นนี้” แม้จะไม่ค่อยรู้เท่าทันเทคโนโลยี แต่ร้าน ‘Lolly D’ ของอธิษฐ์มีพนักงานพาร์ทไทม์วัยรุ่นสับเปลี่ยนหมุนเวียนกันอยู่เป็นประจำจึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่เรื่องเหล่านี้จะผ่านเข้ามาให้ได้เรียนรู้บ้าง
“แต่แอปกูมีระบบยืนยันตัวตน ถ้ารูปโปรไฟล์ไม่ใช่รูปตัวเองกูให้ทดลองเล่นแค่ 7 วันเพราะงั้นผู้ใช้งานมั่นใจได้เลยว่าไม่โดนหลอกแน่ๆ”
ปฏิเสธไม่ได้ว่าความคิดของนิติเข้าท่าทีเดียวแต่ถึงอย่างนั้นอธิษฐ์ก็ไม่ค่อยมั่นใจเท่าไหร่ว่าระบบยืนยันตัวตนนี้จะนำพาแอปไปในทางที่ดีหรือเปล่า ถ้ามองอีกแง่มันก็คล้ายจะเป็นความยุ่งยากที่อาจจะทำให้ผู้ใช้ไม่อยากใช้งานต่อ ถ้าเป็นอย่างนั้นไม่วายพวกเขาคงได้ประสบกับความล้มเหลวอีกหนแน่
“มึงโหลดดิ” เมื่อเพื่อนลังเล ขยับนิ้วยึกๆ ยักๆ นิติก็คะยั้นคะยอ
“ถ้ากูไม่โหลดล่ะ”
“แหมท่านประธาน ล้วงโทรศัพท์ออกมาจากกระเป๋าขนาดนี้แล้ว โหลดหน่อยเถอะคร้าบ ผมไหว้ก็ได้” และนิติก็ยกมือไหว้ท่วมหัวคล้ายกำลังหาเสียงจากประชาชนช่วงเลือกตั้ง
“อยากให้กูช่วยเพิ่มยอดดาวน์โหลดล่ะสิไอ้ตี้ กูดูออกน่า”
“ดูออกแล้วก็อย่าเล่นตัว ช่วยกูหน่อยแล้วก็บังคับ...” นิติหุบปากฉับตอนที่เอ่ยคำว่า ‘บังคับ’ ออกมา ก่อนจะยิ้มแหย “กูหมายถึงให้ท่านประธานออกนโยบายให้พนักงานร้านทุกคนโหลดมาใช้งานด้วย”
“ไม่ได้ดิ นายจ้างบังคับให้ลูกจ้างทำแบบนั้นไม่ได้หรอก”
“งั้นมึงก็ขอความร่วมมือดิวะ”
“อันนี้ก็...”
“ในฐานะที่มึงเป็นประธานน่าเอิร์ธ ช่วยกันหน่อย”
อธิษฐ์รู้สึกว่าวันนี้นิติมือไม้อ่อนเป็นพิเศษเมื่อเจ้าตัวยกมือไหว้อ้อนวอนอีกครั้ง ดูเหมือนว่ายอดโหลดที่พุ่งขึ้นเป็นบันไดลิงจะทำให้เจ้าตัวมีความหวังกับแอปนี้มากกว่าครั้งก่อนหรือครั้งไหนๆ ที่จริงอธิษฐ์ก็อยากช่วยแต่เขาในฐานะนายจ้างไม่สามารถทำอย่างที่นิติขอได้ เรื่องของแอปแอดเฟรนด์เป็นเรื่องส่วนตัว ไม่มีความเกี่ยวข้องกับร้าน การขอร้องให้พนักงานโหลดแอปจึงเป็นเรื่องที่อธิษฐ์ไม่คิดจะทำ
ดังนั้นแล้ว ในร้านนี้อธิษฐ์คงให้นิติได้เพียงดาวน์โหลดเดียวจากเขาที่อีกฝ่ายเรียกว่าท่านประธานนับครั้งไม่ถ้วน ประธานที่นอกจากลงทุนด้วยเงินก้อนนึงไปเมื่อ 2 ปีก่อนก็ไม่ได้ลงมือทำอะไรอีกเลย เพราะไม่ได้ลงแรงช่วยอะไรอธิษฐ์จึงยอมปลดล็อกมือถือด้วยนิ้วหัวแม่มือขวาแล้วโหลดแอปแอดเฟรนด์ตามที่อีกฝ่ายต้องการ พอโหลดเสร็จ ลงทะเบียนเรียบร้อยก็เขย่ามือถือเบาๆ จนรายชื่อเพื่อนที่อยู่ใกล้ๆ ในระยะ 200 เมตรปรากฏบนหน้าจอซึ่งก็มีแค่คนเป็นนักพัฒนาแอปที่นั่งอยู่ตรงข้ามกันในห้องนี้
อธิษฐ์ไม่รู้หรอกว่าอนาคตของแอดเฟรนด์จะเป็นอย่างไร อยู่ในกระแสเพียงไม่กี่วันให้กำลังใจเบ่งบานในหัวใจนักพัฒนาแอปเพียงประเดี๋ยวประด๋าวหรือยาวนานจนกำลังใจเบ่งบานไม่รู้จบ แต่ก็หวังว่ากำลังใจครั้งนี้จะหล่อเลี้ยงไฟในตัวคนมากฝีมืออย่างนิติไปอีกนานๆ
หวังว่าพวกเขาและแอปแอดเฟรนด์จะไม่ต้องพบเจอกับความผิดหวังซ้ำอีก
พฤศจิกายน
5 เดือนผ่านไป
“นี่ไง นี่ใช่น้องนักเรียนที่เดินผ่านร้านเราไปเมื่อกี้ปะแก รูปโปรไฟล์น่ารักไม่เท่าตัวจริงเลยเนอะ”
ปกติแล้วอธิษฐ์จะเข้าออฟฟิศจากประตูข้างตึก ทว่าวันนี้ตอนที่กำลังจะเดินผ่านหน้าร้านทันได้เห็นพนักงานพาร์ทไทม์กำลังสุมหัวกดโทรศัพท์มือถือพลางพูดคุยกันอย่างออกรส ขณะที่บางครั้งก็ทอดสายตามองออกไปนอกร้านจึงอดก้าวเข้ามาดูสถานการณ์ใกล้ๆ ไม่ได้
ที่แท้ก็กำลังพากันเขย่าแอปแอดเฟรนด์นี่เอง
“เขย่ากันสนุกเชียวนะ” เสียงล้อทีเล่นทีจริงของนายจ้างทำให้สองสาวรีบผละออกจากกัน ต่างคนต่างเก็บโทรศัพท์มือถือทั้งที่เก็บไปก็ไม่ได้ช่วยอะไร ในเมื่ออธิษฐ์เห็นทุกเหตุการณ์หมดแล้ว
แม้จะเป็นเวลางาน หากร้านว่างเว้นจากการมาเยือนของลูกค้า การที่พนักงานจะทำตัวสบายๆ พูดคุยหยอกล้อกันบ้างอธิษฐ์ก็ไม่เคยถือสา ตราบใดที่การกระทำนั้นไม่ส่งผลเสียต่อหน้าร้านที่เขาเพียรสร้างมาด้วยน้ำพักน้ำแรง
วันนี้อธิษฐ์ได้คำตอบแล้วว่าอนาคตของแอปแอดเฟรนด์เป็นอย่างไร มันอยู่ในกระแสยาวนานจนกำลังใจเบ่งบานในใจนิติมา 5 เดือนเต็มแล้ว นอกจากกำลังใจ ล่าสุดอธิษฐ์ได้ข่าวว่ามีบริษัทพัฒนาแอปสนใจซื้อแอดเฟรนด์เพื่อนำไปพัฒนาต่อ
ไม่รู้ว่าอนาคตต่อจากนี้จะเป็นอย่างไร แต่อธิษฐ์อยากจะปล่อยมือแล้ว เหตุผลแรกคือเขาไม่เชี่ยวชาญเรื่องเทคโนโลยีดิจิตัล เหตุผลอีกข้อที่สำคัญมากๆ คือเมื่อมีงานอื่นเข้ามาแทรกเขาไม่สามารถโฟกัสกับร้านได้เต็มที่อย่างที่ควรจะเป็น
อธิษฐ์ตั้งใจว่าจะคุยเรื่องนี้กับนิติหลังจากงานโปรโมทสินค้าคอลเลคชั่นใหม่เสร็จสิ้น
ก๊อกๆ
นาฬิกาแขวนผนังบอกเวลาใกล้จะสองทุ่ม ถ้าไม่ใช่ช่วงปั่นงาน เวลานี้แทบจะไม่มีพนักงานหลงเหลืออยู่แล้ว เว้นก็แต่พนักงานหน้าร้าน
อธิษฐ์ที่กำลังจดจ่อกับงานละสายตาจากคอมพิวเตอร์ตรงหน้าเมื่อเสียงเคาะประตูดังซ้ำอีกครั้งก่อนจะหันไปมองต้นเสียงด้วยความประหลาดใจ
“คุณเอิร์ธ แจ๋มเองค่ะ”
“เชิญครับ” อธิษฐ์ขานรับเมื่อเสียงอิดโรยของพนักงานหน้าร้านดังลอดเข้ามาให้ได้ยินเพียงแผ่วเบา
เมื่อประตูเปิดออก คนที่โผล่หน้าเข้ามาคือเด็กสาวร่างอวบตัวเล็กๆ ที่เพิ่งเริ่มงานพาร์ทไทม์ได้เพียง 1 สัปดาห์เท่านั้น ใบหน้าซีดเซียวกับเหงื่อที่ซึมตรงไรผมจนชุ่มนั่นไม่ต้องมีใครบอกก็รู้ได้จากสภาพว่าเธอคงกำลังไม่สบาย
ว่าแล้วเชียว ที่จริงอธิษฐ์สังเกตเห็นอาการของเธอตั้งแต่ช่วงที่เขาออกไปดูหน้าร้านตอน 6 โมงเย็นแล้ว ตอนนั้นยังบอกพนักงานอีกคนอยู่เลยว่ายกเลิกการลาไปก่อนได้ไหม เพราะดูท่าจ๋อมแจ๋มคงไม่สบาย แต่เด็กสาวที่เก็บความซีดเซียวของใบหน้าไม่มิดก็เอาแต่บอกว่าตัวเองไหว
และสุดท้ายก็ไม่ไหว
“ท่าทางไม่ค่อยดีเลยแจ๋ม กลับบ้านเองไหวมั้ยครับ” ท่าทีแสนสุภาพของเจ้านายหนุ่มทำเอาเด็กสาวเขินจนหน้าแดงเสมอ
“หนูโทรให้เพื่อนมารับแล้วค่ะ”
“งั้นก็พักผ่อนนะ”
“แต่คุณเอิร์ธคะ ตอนนี้ร้านยังไม่ปิดและ...”
“ไม่เป็นไร แจ๋มไม่ต้องห่วงเลยครับ นี่ก็ใกล้เวลาร้านปิดแล้วเดี๋ยวพี่ดูเอง” เพราะอีกฝ่ายดูกังวลคนเป็นนายจ้างจึงตัดบทให้เธอสบายใจ ได้ยินดังนั้นเด็กสาวจึงยิ้มออก
“ขอบคุณนะคะ หนูจะพักผ่อนเยอะๆ พรุ่งนี้ต้องหายดีจะได้มาทำงาน”
“ถ้าไม่ไหวก็โทรมาลาได้นะ ไม่ต้องฝืน”
เมื่อพนักงานหน้าร้านคนสุดท้ายเก็บกระเป๋ากลับบ้านไปอธิษฐ์จึงจำต้องอัปเปหิตัวเองออกมานั่งหลังเคาน์เตอร์ทำหน้าที่เป็นพนักงานจำเป็นประจำร้าน Lolly D อย่างเลี่ยงไม่ได้
ปกติแล้วในช่วงเวลาหลังสองทุ่มไม่ค่อยมีลูกค้าเดินเข้าร้านซักเท่าไหร่แต่น่าแปลกที่วันนี้มีชายหนุ่มร่างสูงหน้าตาหมดจดเปิดประตูเข้ามา เขาหันรีหันขวางคล้ายกับกำลังมองหาบางอย่างดังนั้นในฐานะเจ้าของร้านอธิษฐ์จึงเดินเข้าไปใกล้เพื่อให้คำแนะนำและช่วยเหลือ
“สอบถามได้นะครับ” พนักงานจำเป็นส่งยิ้มทักทายขณะก้าวเข้าไปใกล้โดยเว้นระยะห่างไว้พอประมาณ
“เมื่อวานเห็นสร้อยข้อมือโชว์อยู่ตรงนั้น” เจ้าของเสียงทุ้มชี้นิ้วไปยังตู้โชว์หน้าร้าน “ขายไปแล้วเหรอครับ”
อธิษฐ์ยิ้มรับคำถามขณะจดจ้องไปยังตู้โชว์สินค้าคอลเลคชั่นใหม่ล่าสุดและพบว่าหุ่นมือจําลองสําหรับโชว์สร้อยข้อมือรุ่นลิมิเต็ดถูกยกอออกไปแล้ว
“เป็นกำไลเส้นคู่สีดำมีแผ่นเหล็กที่สลักด้วยสัญลักษณ์ของดาวเคราะห์อยู่ตรงกลางรึเปล่าครับ”
คนเป็นลูกค้าไม่ได้ตอบคำถามทันทีแต่ก้มหน้ากดมือถือครู่หนึ่งก่อนจะยื่นมันมาตรงหน้า ภาพที่ปรากฏคือสร้อยข้อมือหนังสีดำคอลเลคชั่นดาวเคราะห์ที่ชิ้นสุดท้ายเพิ่งถูกขายออกไปเมื่อเช้านี้เอง
“ขอโทษคุณลูกค้าจริงๆ ครับ สร้อยเส้นนั้นถูกขายออกไปแล้ว”
“ไม่เหลือเลยเหรอครับ” คำพูดคล้ายจะเร้าหรือทว่าในน้ำเสียงของอีกฝ่ายไม่มีเค้ารางความเสียดายเลยซักนิด
“ขายหมดแล้วจริงๆ ครับ ไม่มีเหลือในสต็อกเลย ยังไงลองดูเส้นอื่นมั้ยครับ สร้อยที่คล้ายๆ กันแต่ตรงแผ่นเหล็กสลักเป็นลายอื่นก็น่าสนใจนะ” อธิษฐ์พยายามเสนอขายด้วยความหวังว่าสร้อยเส้นอื่นที่พวกเขาใส่ความตั้งใจไม่น้อยไปกว่าสินค้ารุ่นลิมิเต็ดจะช่วยเยียวยาจิตใจของคนที่เพิ่งพบความผิดหวัง ทว่ากลับโดนลูกค้าส่ายหน้าปฏิเสธ
“น้องชายอยากได้เส้นนั้นน่ะสิครับ เจาะจงว่าต้องเป็นเส้นนั้นเลย”
“งั้นไว้วันหลังลองชวนน้องมาเลือกเองก็ได้ครับ น้องอาจจะเจอเส้นที่ถูกใจบ้าง”
“ขอบคุณสำหรับคำแนะนำครับ เอาไว้ถ้ามีโอกาสจะกลับมาอุดหนุนนะ” สิ้นประโยคมือหนาก็ล้วงหยิบมือถือขึ้นมากดแล้วแนบหูก่อนจะเดินออกจากร้านไป
ข้อเสียของสินค้าลิมิเต็ดอิดิชั่นก็แบบนี้ อยากขายไม่ได้ขาย อยากซื้อไม่ได้ซื้อ เพราะเป็นเช่นนี้อธิษฐ์จึงไม่ค่อยอยากทำสินค้าแบบจำกัดจำนวนเท่าไหร่นักถึงแม้มันจะเพิ่มมูลค่าและราคาให้ตัวสินค้าก็เถอะ สำหรับเขาแล้วการสร้างสรรค์และผลิตสินค้าแต่ละแบบออกมานั้นก็เพื่อขายมันให้กับลูกค้าที่ต้องการ ไม่ใช่ผลิตเพื่อสร้างมูลค่าที่เกินเลยให้กับตัวสินค้า
กระแสของแอปแอดเฟรนด์ไม่ได้สิ้นสุดลงเพียง 5 เดือน
นับจากวันนั้นจนถึงวันนี้ยอดผู้ใช้แอพแอดเฟรนด์เพิ่มขึ้นจนน่าตกใจ
Nitii: ไงมึง ลองเขย่าแอปเราบ้างยัง
Earth: เขย่าก็เจอแต่คนที่ออฟฟิศเนี่ย คุยไลน์กันก็ได้มั้ง
Nitii: มึงก็หาเวลาซักครึ่งชั่วโมงไปเดินห้างแล้วเขย่าสิวะ
Nitii: เดินอยู่กลางทะเลทรายมึงคงจะได้เจอบ่อน้ำอยู่หรอก
Earth: ธุระมึงคืออยากได้ฟีตแบคแอปจากกูเหรอ
Nitii: นี่มึงยังไม่ได้เช็คยอดเงินในบัญชีสินะ
Earth: มึงโอนเงินมา?
Nitii: อือ ก็มึงบอกว่าอยากจะจบเรื่องนี้
Earth: ก็อยากจบแต่ก็ไม่ได้เร่งรัดอยากได้เงินคืนขนาดนั้น
Nitii: งั้นก็โอนคืนกูสิ
Earth: มึงคิดว่าอ้อยเข้าปากช้างแล้วมันจะคายมั้ย
Nitii: งั้นมึงก็เป็นช้างไปแล้วกันนะเอิร์ธส่วนกู จริงๆ กูเป็นประธานบริษัทว่ะ
Nitii: จริงๆ แล้วกูเป็นประธานบริษัทว่ะ
Nitii: 5555555555555555555555555
อธิษฐ์รู้สึกคล้ายกับว่าได้ยินเสียงหัวเราะของนิติลอยตามลมมา เขาไม่ได้ส่งข้อความกลับในทันทีแต่เลือกที่จะเช็กยอดเงินในบัญชีตามที่อีกคนบอก ยอดเงินซึ่งปรากฏทำให้อธิษฐ์ถึงกับเบิกตากว้าง จำได้ว่าตอนนั้นเขาลงทุนไปไม่เท่าไหร่เอง แต่ยอดเงินโอนเข้ามาล่าสุดมันมากกว่าเป็นหลายเท่าทีเดียว
Nitii: ดอกเบี้ย
กำลังจะพิมพ์ถามแต่อีกฝ่ายก็ชิงตอบซะก่อนราวกับรู้ใจกัน
Nitii: ส่วนนี่สักสีที่กูให้สัญญาไว้
นิติส่งรูปรอยสักลายสายฟ้าสีเหลืองเล็กๆ บริเวณหลังหูมาให้ดู คราแรกอธิษฐ์ก็แปลกใจ แต่ก็เพียงไม่นาน
‘เชี่ยเอิร์ธ กูซึ้งน้ำใจมึงฉิบหายเลยจริงๆ นะ มึงอุตส่าห์ไว้ใจเอาเงินมาลงทุนทั้งที่เราไม่ได้สนิทสนมกันเลยด้วยซ้ำ กูสัญญาว่าจะหาเงินมาคืนมึงให้ได้นะเอิร์ธ กูสัญญาด้วยสักสีเลย’
สักสีที่ว่าคือรอยสักสินะ อธิษฐ์ก็หลงเข้าใจผิดคิดว่าอีกฝ่ายพูดถึงศักดิ์ศรีลูกผู้ชายมาตั้งนานสองนาน
Nitii: กูกลัวเจ็บอะมึงก็เลยได้มารอยสักมาอันเท่านี้
Earth: แค่นี้ก็สวยแล้ว
Earth: ขอให้แอปมึงไปได้สวย
Nitii: มึงก็ด้วยนะ ธุรกิจของมึง ขอให้เจริญๆ
ยอดเงินเหล่านั้นไม่ได้ทำให้อธิษฐ์รู้สึกดีมากกว่าความกังวลที่ถูกวางลง เพียงเท่านี้เขาก็กลับมาโฟกัสเรื่องงานคอลเลคชั่นใหม่ได้โดยไม่ต้องพะว้าพะวงเรื่องอื่นแล้ว
อธิษฐ์คิดว่าเขากับแอปแอดเฟรนด์คงจะจบกันตรงนี้
กว่าบทสนทนาในห้องแชทกับอดีตหุ้นส่วนทางธุรกิจจะจบลงก็เป็นเวลาเกือบ 4 ทุ่ม
ช่วงเวลาเร่งด่วนผ่านพ้นไปเข้าสู่ช่วงกลางดึกอธิษฐ์มั่นใจว่ารถราบนถนนคงซาลงแล้ว เช่นนั้นเขาจึงเก็บข้าวของอย่างไม่เร่งรีบแล้วออกจากออฟฟิศ เดินลัดเลาะร้านรวงที่ทยอยกันปิดไฟจนเหลือเพียงแสงสลัวไม่กี่ร้อยเมตรก็มาถึงลานจอดรถ
“เสียดายอะ ถ้าพี่กลับมาเร็วกว่านี้อีกแค่วันเดียวก็ทันซื้อสร้อยเส้นนั้นแล้ว”
น้ำเสียงคล้ายตัดพ้อและเสียงฝีเท้าซึ่งดังกว่าปกติในยามที่ทั้งลานจอดมีรถเหลือไม่กี่คันทำให้อธิษฐ์ที่กำลังก้มตัวเก็บของเงยหน้าขึ้นมอง
ถัดจากรถเขาไปราว 3 ช่องเห็นจะได้มีรถครอบครัว 5 ประตูคันหนึ่งจอดอยู่
ปกติแล้วอธิษฐ์ไม่ค่อยสนใจเรื่องของคนอื่นนัก ทว่าคนที่เดินอ้อมไปฝั่งคนขับคือชายหนุ่มที่เพิ่งเจอในร้านเมื่อวันก่อนอธิษฐ์จึงให้ความสนใจเป็นพิเศษ ส่วนอีกคนที่กำลังบ่นอย่างกับหมีกินผึ้งเป็นเด็กมัธยมปลาย ทั้งคู่ยืนอยู่คนละฝั่งแล้วพูดคุยกันโดยไม่สนใจบุคคลที่สามเลยแม้แต่น้อย
“2 วันผ่านไปยังไม่เลิกบ่นอีก ถ้าไม่ชอบสร้อยเส้นที่พี่ซื้อให้ก็เอาไปคืนร้านเลยไป คนอุตส่าห์พิถีพิถันเลือก ทำร้ายน้ำใจกันเวอร์ๆ อะเรา”
“ชอบน่ะน้องชอบอยู่แล้วแต่ชอบน้อยกว่าสร้อยเส้นนั้นไง”
“ก็บอกให้ไปดูที่ร้านด้วยกันก็ไม่ไป”
“ก่อนที่พี่จะกลับมาน้องก็ไปส่องดู ของมันยังอยู่ในตู้โชว์อะ เพราะพี่มาช้าน้องเลยอดได้สร้อยข้อมือรุ่นลิมิเต็ดเลย” เจ้าตัวเบ้หน้าทำปากมุบมิบบ่นพี่ชายไม่หยุด แม้กระทั่งในยามที่โยนถุงชอปปิ้งในมือไว้ที่เบาะหลัง
น้องชายที่พูดถึงคงจะเป็นเด็กคนนี้ไม่ผิดแน่และยิ่งอธิษฐ์สัมผัสได้ถึงความเสียดายในน้ำเสียงของเด็กหนุ่มความคิดที่ว่าจะไม่ผลิตสินค้ารุ่นลิมิเต็ดอีกก็ยิ่งขยายใหญ่
“เลิกบ่นได้แล้วมั้ง ของลิมิเต็ดหมดก็คือหมดแหละ บ่นไปก็ไร้ประโยชน์”
“นี่ก็ใช้ปากตัวเองบ่นนะไม่ได้ยืมปากพี่บ่นซักหน่อย เอาจริงถ้าตอนนั้นแม่ยอมให้น้องยืมตังค์น้องก็ได้สร้อยเส้นนั้นแล้ว เฮอะบอกให้รอพี่ รอพี่ ดูซิรอแล้วได้อะไรเนี่ย”
“ปากบอกว่ายืม ถามจริงเลยนะยืมแล้วเคยคืนแม่หรอเงินน่ะ”
คนถูกถามเบ้ปากพลางส่ายหน้า ภาพนั้นทำให้คนที่ถูกความสลัวอำพรางไว้ถึงหลุดขำ
“ก็เราเป็นงี้ แม่ให้ยืมสิแปลก”
“ใจร้ายกับน้องกันทั้งบ้าน”
“ถ้าไม่อยากให้ใจร้ายก็ตั้งใจเรียนเซ่”
“รักน้องอย่าพูดเรื่องเรียนให้น้องได้ยินได้มั้ย และถ้ารักน้องจริงๆ ล่ะก็หาสร้อยเส้นนั้นมาให้น้องเลย”
“อะไรล่ะ ก็ซื้อของแทนให้แล้วไง อย่าโลภ จ้างให้พี่ก็ไม่ซื้อให้หรอก”
“งั้นก็ไม่ต้องมาคุยกันอีก” คนตัวเล็กว่าด้วยน้ำเสียงเกรี้ยวกราดไม่จริงจังก่อนต่างฝ่ายจะเข้าไปนั่งในรถ เพียงไม่กี่วินาทีหลังจากนั้นเสียงเครื่องยนต์ก็ดังขึ้น
วินาทีที่รถวิ่งผ่านไปไม่รู้อะไรดลใจให้อธิษฐ์หยิบมือถือขึ้นมา เปิดเข้าแอปแอดเฟรนด์แล้วเขย่า รายชื่อเพื่อนปรากฏขึ้นบนหน้าจอ ไล่ดูอยู่ครู่หนึ่งจนรถยนต์คันนั้นขับผ่านหน้าไปจึงพบกับรูปโปรไฟล์ของคนๆ หนึ่งซึ่งคล้ายกับสองพี่น้องที่เพิ่งเจอเมื่อครู่
ยูสเซอร์เนม B.
ไม่รู้ว่าอะไรดลใจให้อธิษฐ์แอดเขาอย่างไม่ต้องเสียเวลาคิด
ไม่รู้หรอกว่าเจ้าของยูสเซอร์เนม B.เป็นคนพี่หรือคนน้อง แต่จะเป็นใครก็ตาม พวกเขาคือคนที่ปลื้มและเห็นคุณค่าในงานที่อธิษฐ์และทีมตั้งใจสร้างสรรค์ขึ้นมา แค่นั้นก็เพียงพอที่จะใช้เป็นเหตุผลในการพูดคุยกันแล้ว
เพียงไม่นาน อีกฝ่ายก็กดรับเพื่อน และพิมพ์ทักมาหาเขาก่อนอย่างคาดไม่ถึง โดยหัวข้อแรกที่อีกฝ่ายหยิบยกมาพูด ก็เป็นเรื่องสร้อยข้อมือที่เขาตั้งไว้เป็นรูปโปรไฟล์
B.: สร้อยข้อมือสวยจังครับ
TBC.
สวัสดีค่ะทุกคนนนนน
ในยุคที่โซเชียลกำลังเฟื่องฟู ใครที่มีสมาร์ทโฟนอาจจะเคยได้คุยกับคนแปลกหน้าผ่านโลกออนไลน์มาแล้ว
บางคนก็อาจะพัฒนาเป็นเพื่อน แม้กระทั่งพัฒนาเป็นแฟน
คนจากโลกออนไลน์ก็ไม่ได้แย่ไปซะหมดใช่มั้ยคะ
พระนายจากเรื่องนี้ก็เจอกันผ่านแอปเหมือนกันค่ะ
มาลุ้นกันว่า ความรักที่เริ่มต้นจากแอปแชทจะพัฒนาไปถึงขั้นไหน
หวังว่าทุกคนจะมีความสุขไปกับเจ้าบีนและพี่เอิร์ธ
เจอกันตอนหน้า
แจ๊ส :)
Comments (0)