3 ตอน ตอนที่ 1 เริ่มต้นทำความไม่รู้จัก (2/2)
โดย Pillow Mellow
มกราคม
Earth: อากาศที่สวิตเป็นยังไงบ้างครับบีน
ผ่านไป 2 เดือนแล้วหลังจากตกลงซื้อขายสร้อยข้อมือกัน และเป็นเวลา 1 เดือน 3 สัปดาห์กับอีก 5 วันที่ทั้งคู่พูดคุยกันผ่านแอปจนแทบจะเรียกได้ว่าเป็นกิจวัตร
การโกหกเริ่มลุกลามใหญ่โตตอนที่พี่เอิร์ธชวนออกมากินข้าวด้วยกัน ในตอนที่กำลังตกใจขั้นสุดจนไร้สติ บีนซึ่งถูกเข้าใจผิดว่าเป็นบรรณวิช์ก็หลุดปากบอกอีกฝ่ายไปว่าตนเองนั้นทำงานเป็นนักพัฒนาซอร์ฟแวร์ในบริษัทแห่งหนึ่งที่ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ซึ่งนั่นเป็นอาชีพที่แท้จริงของพี่ชาย
บีนส่งรูปซึ่งได้มาจากพี่ชายไปให้อีกฝ่ายดูด้วยความรู้สึกที่อธิบายไม่ถูก อันที่จริงเขาไม่คิดเลยว่าวันนึงตัวเองจะต้องโกหกเป็นเรื่องเป็นราวเพื่อรักษาความสัมพันธ์ที่พัฒนาขึ้นแบบก้าวกระโดดนับจากวันที่จู่ๆ พี่เอิร์ธก็ส่งข้อความมาขอกำลังใจจากแฟนคลับเพียงคนเดียวในวันที่คิดงานไม่ออก
พวกเขาแลกไลน์และคืนนั้นก็คอลกันจนถึงเช้า
น่าแปลกที่คนซึ่งแทบจะไม่ได้นอนเลยกลับยังสดใสและดูเหมือนว่าจะสดใสจนผิดปกติซะด้วยซ้ำ ในเช้าวันต่อมานั้นเพลงหรือพวัฒน์ซึ่งเป็นเพื่อนสนิทเพียงคนเดียวก็เอ่ยทัก อีกทั้งยังตั้งข้อสังเกตว่าเขากำลังมีความรักหรือเปล่า
ในตอนนั้นเองที่เด็กหนุ่มวัย 17 เริ่มครุ่นคิดเรื่องความรัก
Been: อากาศดี ดีจนสั่น 555
เอิร์ธจับจ้องภาพทิวทัศนซูริกซึ่งถูกปกคลุมไปด้วยหิมะขาวโพลน เมืองที่ใหญ่ที่สุดของสวิตเซอร์แลนด์ซึ่งเต็มไปด้วยสถาปัตยกรรมดั้งเดิมอย่างนึกอิจฉา ขณะกำลังคิดว่าจบงานคอลเลคชั่นนี้เขาอาจจะลองตีตั๋วไปเซอร์ไพร์สอีกฝ่ายดู
ถามว่าสนิทกันถึงขั้นทำอย่างนั้นได้เลยเหรอ เอิร์ธมั่นใจทีเดียวว่าได้ คอลไลน์กันมากกว่า 5 ชั่วโมงยังทำมาแล้วนับครั้งไม่ถ้วน นั่นไม่เท่ากับว่าพวกเขาข้ามขั้นจากคนรู้จักไปเป็นอย่างอื่นแล้วเหรอ
Earth: น่าอิจฉาจังเลยครับ
Earth: เอาไว้ถ้ามีโอกาสไปสวิต คงต้องรบกวนบีนพาพี่เอิร์ธเที่ยวนะครับ
อย่าหาทำ!! เด็กหนุ่มร้องค้านในใจ ทว่าความจริงกลับ...
Been: ครับ รอเลย
Earth: พี่ไม่รบกวนเวลาทำงานบีนดีกว่า เอาไว้ค่อยคุยกันทีหลังเนอะ
Been: ครับ
ครับคำเดียวสั้นๆ แต่กลับมีอานุภาพทำให้คู่สนทนาหุบยิ้มไม่ลง อธิษฐ์รู้สึกราวกับว่าเสียงของบีนซึ่งดังอยู่ข้างหูยามใกล้หลับวนเวียนอยู่รอบตัวเขาเสมอ
เห็นทีรักระยะไกลคงจะเริ่มต้นขึ้นแล้วจริงๆ
กุมภาพันธ์
บรรยากาศช่วงเทศกาลแห่งความรักชวนให้คนโสดรู้สึกเหงา อย่างยิ่งคนที่โสดมาเป็นเวลา 6 ปีอย่างเอิร์ธ ไม่มีปีไหนเลยที่เขาอยากจะมีคนรักเท่ากับปีนี้
ปีที่โลกเหวี่ยงบีนมาเจอกัน
และตั้งแต่ได้เริ่มบทสนทนากับคนที่อยู่อีกฟากของโลก ไม่ว่าจะหัวหมุนกับงานมากแค่ไหน เอิร์ธก็ไม่ได้จมอยู่ในหลุมความเครียดเพียงลำพังเช่นเมื่อก่อนแล้ว
Been: พี่เอิร์ธเก่งอยู่แล้วครับ ทุกอย่างจะผ่านไปด้วยดี
ทุกครั้งที่บ่นเรื่องงานให้ฟัง เอิร์ธจะได้รับกำลังใจเช่นนี้จากบีนเสมอ ไม่อยากเชื่อเลยว่าข้อความธรรมดาจะสามารถทำหน้าที่เทียบเท่าก้อนพลังงานอันใหญ่โตช่วยเติมไฟให้เขาผ่านพ้นเรื่องแย่ๆ มาได้หลายต่อหลายครั้งแล้ว
อย่างช่วงนี้เอิร์ธหัวหมุนอยู่กับสินค้าคอลเลคชั่นใหม่ที่มีกำหนดวางขายช่วงปลายเดือนกุมภาพันธ์นี้ ขณะกำลังเช็คข้อมูลเพื่อคอนเฟิร์มการแก้ไขงานครั้งสุดท้ายกับโรงงานก็อดคิดไม่ได้ว่าโชคดีเหลือเกินที่ตัดสินใจไม่ทำคอลเลคชันวาเลนไทน์ ไม่อย่างนั้นล่ะก็เป็นเรื่องแน่ๆ
อีเมลถูกส่งออกไปแล้วเอิร์ธจึงละสายตาจากหน้าจอคอมพิวเตอร์ คว้ามือถือขึ้นมาดูเผื่อคนที่เขาเรียกว่าคนคุยได้เต็มปากจะส่งข้อความมา แต่ก็พบเพียงความว่างเปล่า แต่ถึงอย่างนั้นข้อความล่าสุดก็ทำให้เขายิ้มได้อีกครั้ง
เอิร์ธเก็บของออกจากออฟฟิศมา บรรยากาศของเทศกาลแห่งความรักอบอวนรอบตัวเขาจนอดคิดไม่ได้ว่าหากมีใครอีกคนอยู่ข้างกาย คงจะเป็นวาเลนไทน์ที่พิเศษน่าดู
Earth: จะวาเลนไทน์แล้วเนอะ
แม้รู้อยู่แก่ใจว่าอีกฝ่ายคงไม่ตอบข้อความกลับมาทันที แต่เขาก็อดไม่ได้ที่จะถ่ายรูปบรรยากาศที่ร้านรวงใกล้เคียงถูกประดับตกแต่งด้วยกุหลาบสีแดง บอลลูนรูปหัวใจ รวมถึงคิวปิดที่กำลังง้างศร
Been: ถูกบรรยากาศช่วงวาเลนไทน์ทำให้เหงาเหรอครับ
เอิร์ธที่กำลังจะเก็บมือถือถึงกับหยุดเท้าที่กำลังก้าวเดินไปตามฟุตบาท จดจ้องข้อความที่อีกคนส่งมาพร้อมกับสติกเกอร์เจ้าหมีทำหน้าสงสัย
Earth: อืม เหงาครับ อยากมีแฟนแล้ว บีนล่ะ
Been: ถามเรื่องอะไรล่ะ
Earth: ทั้ง 2 เรื่อง
คนถูกถามเงียบไปเลย เงียบจนเอิร์ธใจแป้ว ถึงแม้จะอยากได้คำตอบจนตัวสั่นแต่เขาก็ไม่ได้ส่งข้อความไปรบเร้ากวนใจ ทำได้เพียงเฝ้ารอเวลาที่พวกเขาคอลกันวนเวียนมาถึง
เวลา 2 นาฬิกาของประเทศไทย ตรงกับเวลา 21 นาฬิกาของประเทศสวิตเซอร์แลนด์
เมื่อเข็มสั้นของนาฬิกาที่แขวนไว้บนผนังห้องชี้ตรงเลข 2 และเข็มยาวชี้เลข 12 เอิร์ธก็ไม่รอช้าที่จะเป็นฝ่ายกดโทรออกจากแอปพลิเคชั่นไลน์ที่พวกเขาใช้สื่อสารกันเป็นหลัก ส่วนแอปแอดเฟรนด์แม้จะยังไม่ลบทิ้งแต่ก็แทบจะไม่ได้ใช้งานเลย ราวกับว่ามันเป็นเพียงจุดนัดพบและถูกเก็บไว้เพื่อเป็นดั่งอนุสรณ์
เสียงเตือนโทรเข้าก็ทำให้บีนที่กำลังนอนหลับถึงกับสะดุ้งตื่นจากฝันหวาน
ฉิบหาย!
เจ้าตัวที่กำลังงัวเงียเผลอสบถ แอบหงุดหงิดเพราะกว่าจะสลัดอาการตื่นเต้นของคนมีความรักทิ้งและหลับลงได้ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย
คำถามที่พี่เอิร์ธทิ้งเอาไว้เมื่อตอนค่ำยังคงวนเวียนอยู่ในหัว ที่จริงบีนอยากตอบรับออกไปทันทีด้วยซ้ำว่า ใช่ เขาเหงาและอยากมีแฟนชื่อเอิร์ธ แต่เพราะเขากำลังโกหก โกหกมันทุกเรื่องเลย แล้วใครมันจะกล้าทำตามเสียงในใจกันล่ะ
แต่ถึงแม้ภายในใจจะว้าวุ่นมากแค่ไหน เมื่ออีกฝ่ายคอลมาก็ไม่มีทางทำใจตัดสายทิ้งได้หรอก เช่นนั้นจึงได้แต่กรอกเสียงงัวเงียลงไปทันทีที่รับสาย
“พี่เอิร์ธ”
“เสียงเหมือนหลับไปแล้วเลย” เอิร์ธเอนหลังพิงหัวเตียง เอาโทรศัพท์แนบหู ฟังเสียงงัวเงียเหมือนเด็กของอีกฝ่ายแล้วก็เผลอยิ้ม
อันที่จริงเขาก็ยิ้มจนหุบไม่ลงทุกครั้งที่ได้คุยกับบีนก่อนนอนนั่นแหละ
“อ่อ แค่งีบครับ พี่เอิร์ธล่ะไม่นอนเหรอ ตอนนี้ที่ไทยตีสองแล้วนะ” บีนปรับน้ำเสียงให้สดใสขึ้นพลางเหลือบมองนาฬิกาที่เจ้าตัวตั้งใจซื้อมาตั้งเวลาให้ตรงกับประเทศสวิตเซอร์แลนด์เพื่อป้องกันอาการโป๊ะแตก
“ถามเหมือนลืมที่เราคุยกันเมื่อตอนค่ำไปแล้ว พี่เสียใจจัง”
“จะเอาคำตอบตอนนี้เหรอครับ”
“อือ วันวาเลนไทน์พอดี” บีนครุ่นคิดตามคำของอีกฝ่ายด้วยสมองที่ยังเบลอหลังตื่นนอน เมื่อวานวันที่ 13 และตอนนี้ก็เป็นเวลาตี 2 แล้ว เท่ากับว่าวันวาเลนไทน์มาเยือนเรา 2 ชั่วโมงแล้ว
“บีน ที่จริงแล้วบีนก็เหงานะ”
กับคำถามที่ว่าเหงามั้ย บีนตอบได้อย่างไม่ลังเลเลยว่าเหงามาก เหงากว่าตอนที่พี่ชายบินไปทำงานต่างประเทศซะอีก ส่วนกับคำถามที่ว่าอยากมีแฟนมั้ย คำตอบของบีนคืออยากมี แต่ในขณะเดียวกันก็ลังเลว่าเขาที่โกหกเพื่อสานสัมพันธ์ผ่านโลกออนไลน์สามารถใช้สถานะนั้นกับพี่เอิร์ธได้จริงๆ เหรอ
รู้สึกผิดแต่ถ้าจะให้ปฏิเสธความรักในวันวาเลนไทน์บีนทำไม่ได้หรอก
“เหงาและอยากมีแฟนด้วย”
“ถ้างั้นพี่บอกคำนั้นกับบีนได้ใช่มั้ยครับ” เพราะห่างหายจากการบอกรักมาเนิ่นนาน แม้ในใจจะอัดแน่นไปด้วยความสุขหลังจากได้ยินคำตอบที่คล้ายกับเปิดทางอยู่กรายๆ ของอีกฝ่าย ทว่าเอิร์ธก็ยังลังเลว่าควรพูดความรู้สึกออกไปทันทีดีมั้ย
“คำนั้นคือคำไหนล่ะ”
“คำว่าชอบครับ พี่ชอบบีน”
“แค่ชอบ?” ยอมรับว่าแอบผิดหวังเล็กน้อย เพราะคิดว่าจะได้ยินคำว่ารักซะอีก
“เอาไว้เจอหน้ากันค่อยบอกคำนั้นดีมั้ยครับ” คนฟังถึงกับสะอึกเมื่อรู้ดีว่าถ้าเอาตามที่อีกฝ่ายพูด ชาตินี้คงไม่มีโอกาสได้ยินคำนั้นจากปากพี่เอิร์ธหรอก
“ทำไมล่ะ ถ้าพี่เอิร์ธบอกตอนนี้ บีนก็จะบอกด้วยเหมือนกันนะ”
“บอกว่าบีนรักพี่น่ะเหรอครับ”
“พี่เอิร์ธบอกก่อน เดี๋ยวบีนค่อยบอก”
เอิร์ธหัวเราะพลางเอ่ยสิ่งที่เขาอยากทำมากที่สุดในยามนี้ “งั้นวิดีโอคอลได้มั้ย อยากเห็นหน้า”
“บีนแต่งตัวไม่เรียบร้อย”
“ไม่เห็นเป็นไรเลยครับ พี่ไม่ถือ”
“ไม่สิ สภาพไม่ค่อยดี บีนน่ะอยากให้พี่เอิร์ธจำแต่ภาพดีๆ ของบีนนี่นา” ตอนนี้สภาพบีนไม่ดีจริงๆ หัวยุ่ง หน้ามึนๆ แบบคนเพิ่งตื่น แต่ถ้าไม่ได้กำลังใช้ตัวตนคนอื่นพูดคุยกับอีกฝ่าย บีนคงยอมเปิดกล้องโดยไม่ห่วงภาพลักษณ์ตัวเอง
“ห่วงภาพลักษณ์ตัวเองขนาดนั้นเลยนะ”
“แน่นอนสิ เจอหน้ากันครั้งแรกก็อยากให้พี่เอิร์ธประทับใจ”
“แต่เราเคยเจอกันครั้งแรกแล้วนี่ครับ”
“หืม” ประโยคนั้นของพี่เอิร์ธทำให้คนฟังกระวนกระวายใจ จากที่เอนหลังพิงหัวเตียงก็ขยับเป็นนั่งตัวตรงรอฟังประโยคต่อไปของอีกฝ่าย
“จำไม่ได้หรอ ที่ร้านพี่ไงครับ บีนเข้าไปหาสร้อยข้อมือให้น้องชาย และคนที่อยู่หน้าร้านก็คือพี่เอง”
โลกกลมสุดๆ จนบีนแทบไม่อยากจะเชื่อเลย
เอาไงดีล่ะ หากบอกว่าจำไม่ได้อีกฝ่ายคงจะเสียใจน่าดู บีนไม่อยากทำให้พี่เอิร์ธเสียใจเลย
“บีนมีหลายเรื่องให้จำ อีกอย่างวันนั้นพี่เอิร์ธสวมบทบาทพนักงานหน้าร้านได้สุดเจ๋งไง บีนก็เลยไม่รู้ว่านั่นคือพี่เอิร์ธ” โชคดีที่บีนเคยเห็นพี่เอิร์ธทำหน้าที่พนักงานหน้าร้านบ่อยครั้งจึงพอรู้ว่าอีกฝ่ายเข้าถึงบทบาทนั้นได้ดีมากแค่ไหน
มุ่งมั่นและตั้งใจกับทุกหน้าที่สมกับที่ได้รับตำแหน่งแรงบันดาลใจคนโปรด
“ไหนบอกว่าอ่านบทสัมภาษณ์พี่ในเว็บตลอดไง ทำไมจำหน้าไม่ได้ล่ะ”
“โหยพี่เอิร์ธ ก็ตอนนั้นบีนจดจ่อกับการหาสร้อยข้อมือไง อะไรเนี่ย งอนเรื่องในอดีตเหรอครับ”
“เปิดกล้องนิดเดียวหายงอนเลยครับ”
“บีน...” ไม่รู้จะหาคำไหนมาบอกปฏิเสธอีกแล้ว บีนครุ่นคิดขณะกวาดสายตามองห้องตัวเอง หามุมที่พอจะคล้ายห้องพี่ชายที่ซูริคแต่ไม่มีเลย
“พี่แค่หยอกเล่นครับ บีนไม่พร้อมพี่ก็ไม่อยากบังคับนะ กลับมาที่เรื่องของเราเนอะ เอาอย่างนี้ ในเมื่อเราต่างก็เหงาและอยากมีแฟน และพี่ก็ชอบบีนมาก พวกเราคบกันดีมั้ยครับ”
“แต่มันจะเป็นรักระยะไกลนะพี่เอิร์ธทนได้เหรอ”
“ก็มีทางเลือกเดียวครับ และพี่ก็เลือกแล้ว”
“ถ้าพี่เอิร์ธโอเค บีนก็โอเคนะ บีนก็ชอบพี่เอิร์ธเหมือนกัน ชอบมากเลย” บอกชอบเขาเองก็เขินเองจนไถลตัวลงนอนซุกหมอนพลางตีขากับเตียงดังตุบตับ
“แค่ชอบเองเหรอครับ” เสียงความเคลื่อนไหวบนเตียงทำให้คนโตกว่าพอจะจินตนาการได้ว่ากำลังเกิดอะไรขึ้นจึงแกล้งแหย่ให้อีกฝ่ายเขินอีก
“ฮั่นแน่ะ เค้ารู้ทันนะ จะหลอกให้พูดคำว่ารักใช่มั้ยล่ะ”
“เจ้าถั่วก็พูดจริงๆ นี่ครับ” เมื่อครู่บีนพูดคำว่ารักออกมาจริงๆ แม้จะเป็นเพียงประโยคคำถามก็ตาม
“เจ้าถั่ว? ใครคือเจ้าถั่ว”
“บีนไงครับ ไม่ได้แปลว่าถั่วหรอ”
“ไม่ใช่ซักหน่อย แต่ถ้าพี่เอิร์ธอยากเรียกแบบนั้น บีนก็โอเคนะ มันดูพิเศษดี” ให้พูดตรงๆ ก็คือบีนชอบชื่อนั้นเลยล่ะ มันทำให้เขาดูเป็นคนพิเศษของพี่เอิร์ธจริงๆ
“ครับเจ้าถั่ว”
“ดูตัวเล็กตัวน้อยเลยนะ”
“นั่นสิ ทั้งที่บีนอายุน้อยกว่าพี่ปีเดียวเอง” ทุกคำพูดคำจาของบีนหากไม่รู้มาก่อนว่าอายุ 25 เอิร์ธคงคิดว่าอีกคนอายุไม่น่าจะเกิน 20 แต่ถึงบางครั้งจะแอบเอ๊ะๆ ในใจแต่เขาก็ไม่ได้เก็บเอามากวนใจเพราะตระหนักดีกว่าทุกคนล้วนมีบุคลิกเป็นของตัวเอง และบีนก็มีบุคลิกที่แสนจะน่ารัก ซึ่งเขาจะห้ามใจไม่ให้รักอย่างไรไหว
“งั้นบีนเรียกพี่เอิร์ธว่าไรดี เจ้าโลกหรอ”
“ไม่น่าจะดีมั้งครับคำนั้น”
“ทำไมล่ะ เจ้าโลกไม่ดีตรงนั้น”
“มันแปลว่าอวัยวะเพศชายครับ” เอิร์ธช่วยอธิบายให้ฟัง ไม่ได้รู้สึกแปลกใจอะไรที่อีกฝ่ายไม่รู้จักคำนั้น คิดว่าคงเพราะไปอยู่ต่างประเทศนานก็คงเป็นเรื่องธรรมดาที่จะลืมคำบางคำซึ่งไม่ค่อยได้ใช้ไปบ้าง
“เจ้าโลกเนี่ยนะ” บีนถึงกับตะโกนถาม และเพียงเสี้ยววินาทีหลังจากนั้นก็ได้ยินเสียงหัวเราะของอีกฝ่ายดังขึ้นเบาๆ
“อือ”
“แล้วทำไมถึงเรียกว่าเจ้าโลกล่ะ”
“พี่คงต้องขอไปกูเกิ้ลก่อนแหละครับถึงจะตอบเจ้าถั่วได้”
“บีนขอดูด้วยดีกว่า”
“ดูอะไรครับ ดูเจ้าโลกน่ะเหรอ”
“พี่เอิร์ธลามก”
“ตรงไหนครับ พี่หมายถึงดูที่มาของคำว่าเจ้าโลกในกูเกิ้ลนะ เจ้าถั่วคิดไปถึงไหน”
“กล้าสาบานมั้ยล่ะ”
“สาบานว่าไรดี สาบานว่าถ้าโกหกขอให้ได้เจอหน้าเจ้าถั่วเร็วๆ นี้ได้มั้ย”
“พี่เอิร์ธ” บีนเรียกชื่ออีกฝ่ายเสียงอ่อนเสียงหวานออดอ้อน ใช่พี่เอิร์ธคนเดียวที่ไหนที่อยากเจอกัน บีนเองก็อยากมองหน้าพี่เอิร์ธใกล้ๆ เหมือนกันแหละ
Been: ดูนี่ไปก่อนได้ป่าว
เอิร์ธที่กำลังจ้องหน้าจอหลังจากที่จู่ๆ สายก็ถูกตัดไปถึงกับเบิกตากว้างเมื่อกดดูรูปที่บีนส่งมาให้ มันเป็นรูปที่เจ้าตัวเซลฟี่ตั้งแต่ระดับริมฝีปากลงมาถึงแผ่นอกบางที่เสื้อนอนคอยืดย้วยจนเผยความขาววับแวมให้อีกคนได้จินตนการถึงส่วนที่ซุกซ่อนอยู่ด้านใน
Earth: เล่นงี้เลยเหรอครับบีน
Been: ไม่ชอบเหรอ
Been: งั้นเดี๋ยวบีนลบทิ้งนะ
Earth: จะลบก็ได้ครับเพราะพี่เซฟแล้ว
TBC.
#รักพี่ไม่มีหลอก
Comments (0)